web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 187
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 173
Total: 173

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 8 : ทาสผู้ซื่อสัตย์  (อ่าน 2032 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 8 : ทาสผู้ซื่อสัตย์
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 20:18:38 »
Chapter  8  :  ทาสผู้ซื่อสัตย์

   สาวอเมริกันในชุดสูทสีดำตามอย่างบรรดาบอดี้การ์ดที่มีให้เห็นอยู่เกลื่อนกลาดไปในที่แห่งนี้  ก้าวเดินเข้ามาในตัวอาคารของคฤหาสน์อย่างไม่มีอาการผิดปกติใดๆให้ใครสังเกตได้  เธอทำตัวให้ตัวเองคล้ายกับเป็นส่วนหนึ่งกลมกลืนกับพวกเขา  แม้แต่เครื่องมือสื่อสารที่กกหูก็เป็นในลักษณะเดียวกัน  เพียงแต่มันล้ำยุคกว่าในเมื่อมันสามารถรับสัญญาณผ่านดาวเทียมได้
   “โอเคค่ะ ฉันเข้ามาด้านในแล้วนะคะแคล” แซนดร้ากระซิบเบาๆกับไมค์ลอยแบบนักร้องที่ต้องเต้นด้วยร้องด้วยที่อยู่ใกล้กับริมฝีปาก  เพื่อสื่อสารกับสาวสวยอีกคนที่อยู่ห่างไกลกัน  ได้ยินเสียงหล่อนตอบกลับมาทันที  อุ่นใจขึ้นเป็นกอง
   ‘เดินไปตามแผนผังที่คุณเห็นในแว่นของคุณตอนนี้ได้เลยค่ะแซนดร้า’
   ตำรวจสาวพยักหน้ารับอย่างเคยชินแม้รู้ว่าอีกคนจะไม่เห็นมัน  ดวงตาสีฟ้ามองจ้องอยู่กับเลนส์แว่นสีเข้มบนใบหน้าตัวเองและเธอก็เห็นตามที่หล่อนบอกจริงๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเครื่องมือของกองทัพอังกฤษจะทันสมัยมากมายถึงเพียงนี้  แคลลี่ส่งข้อมูลให้เธอผ่านมันได้ด้วย  เรียวปากสวยจึงเผยยิ้มออกมาอย่างพอใจ
   “ฉันกำลังไปค่ะแคล”
   ‘ดีค่ะ  จำไว้นะคะว่า  คุณเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดของบริษัทฉัน  ถ้าเจอใครถาม  และถ้าใครไม่เชื่อก็ต่อสายตรงให้เค้ามาคุยกับฉันเองเลยค่ะ’  ปลายสายประกาศออกมาอย่างมั่นใจ  คนที่อยู่ทางนี้จึงปราศจากความกลัว 
แต่อันที่จริง  ตำรวจหญิงที่ผ่านงานเสี่ยงๆมามากมายอย่างร้อยโทหญิงแซนดร้า คูเป้ จากหน่วยสอบสวนกลางสหรัฐก็ไม่ได้คิดว่างานแค่นี้เป็นปัญหาอะไรสำหรับเธออยู่แล้ว  ก็แค่งานท้าทายอีกชิ้นหนึ่งเท่านั้นเอง
หากแต่สาวอเมริกันก็กลับต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อเดินมาเจอกับใครบางคนเข้า  โชคดีที่เธอไวพอที่จะหลบเขาได้ทัน  รวมถึงบอดี้การ์ดของเขาด้วยใช่ไหม..
‘อยู่ตรงนั้นก่อนนะคะแซนดร้า  ฉันมองเห็นเขาในขณะที่คุณไม่เห็น  ไว้ใจฉันนะคะ’  เสียงของแคลลี่ที่เอ่ยขึ้นมาทันเวลาพาให้เหงื่อที่โคนผมของเธอน้อยลง 
แซนดร้าสูดลมหายใจเข้าลึกและพยายามยืนให้นิ่งที่สุดด้านหลังกำแพงคนละฝากกับที่เฟอร์ริสเดินมา  เธอไม่กล้าพูดโต้ตอบอะไรปลายสายกลับไปเพราะกลัวว่าใครจะได้ยิน  เผื่อว่าจะหูดี  แต่แน่นอน แคลลี่เข้าใจ  หล่อนมีเรดาห์ที่สามารถรู้ได้ว่าเธออยู่ตรงไหนและทำอะไรอยู่  ยังอยู่ดีหรือไม่..
‘แซนดร้าคะ เงียบๆไว้นะคะ แล้วฉันบอกคุณเองว่า  เมื่อไหร่ที่จะปลอดภัย  ให้คุณไปต่อ’ 
หากแต่เทคโนโลยีทันสมัยมากๆมันก็เป็นเรื่องดีต่อการทำงาน  แต่มันจะกลายเป็นเรื่องที่โหดร้ายเกินไป  หากคนทำงานทำไม่เป็น  เพราะคนสั่งการจะเห็นทุกอย่างที่พวกคุณทำ  จำไว้ให้ดี..
ตำรวจสาวหายใจเข้าและออกอย่างเบาที่สุดและเงี่ยหูฟังเสียงของคนที่อยู่คนฝั่ง  ยังเชื่ออยู่ว่า  กับเสียงของคนที่ไม่มีไมค์ใช้อย่างเธอ  เจ้านายของเธอที่อยู่อีกด้านของเมืองๆนี้จะไม่มีทางได้ยินมัน  และเธอนี่แหละที่จะเป็นผู้ฟังมันแทน
“เด็กสองคนนั่น  มันคิดว่ามันเป็นใครมาจากไหน  ถึงเอาลูกสาวฉันไปไว้ในที่แบบนั้น  คอยดูนะ ถ้าดิออนเป็นอะไรไป  ฉันจะเอาเลือดหัวมันทั้งสองคน  ให้มันตายตามลูกสาวฉัน!” เฟอร์ริสประกาศเสียงดังอย่างไม่สนใจว่าจะมีใครได้ยินมันหรือไม่  หรือเขาแน่ใจว่า  คนที่นี่เป็นพวกเดียวกับเขาทั้งหมดทุกคน 
แซนดร้าคิดระหว่างเหยียดยิ้มเยาะขณะเงี่ยหูฟังความ  เพราะใจยังคงเชื่อว่า สองคนที่เขาพูดถึงไม่ได้เป็นดังที่เขาพูดแต่อย่างใด  เธอรู้จักพวกเขาดี  โดยเฉพาะผู้พันแองเจล่า  ก็ร่วมงานกันมาหลายงานแล้ว  จะไม่รู้จักได้อย่างไร  เขาไม่มีทางให้คนที่อยู่ในความดูแลของเขาต้องเป็นอะไรไปโดยที่เขาไม่พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะปกป้องหล่อน  ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดี  เรื่องนี้ต้องมีคนเห็นด้วยกับเธอ  เห็นไหมล่ะ 
“ท่านครับ  คุณแอนกับคุณแคลไม่มีทางปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นหรอกครับ  ผมเชื่อ..”
“นายจะมารู้ดีกว่าฉันได้ยังไงคาร์ลอส  ฉันเห็นพวกมันมาตั้งแต่เด็ก  เด็กสองคนนั่นร้ายกาจแค่ไหน นายรู้หรือเปล่า  พวกมันจะต้องรุมแกล้งลูกสาวฉันแน่ๆ โธ่ดิออน..ลูกพ่อ.!”
โอ้..เห็นทีจะดราม่าเกินไปแล้วมั้ง..  สาวอเมริกันสั่นศีรษะอย่างปลงๆและแอบฟังต่อไป
“ขอโทษนะครับเจ้านาย  ผมว่าเจ้านายคิดมากไปแล้วนะครับ  คุณแคลก็โทร.มาแจ้งเจ้านายแล้วนี่ครับเรื่องที่เธอสามารถหาหมอมาจัดการเรื่องนั้นได้แล้ว  เจ้านายยังจะห่วงอะไรอีก”
“ก็เรื่องนี้แหละที่ฉันห่วงล่ะ”
“ทำไมหรือครับ”

กับนาทีนี้แซนดร้าไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้ไม่ให้ไม่ขยับตัวออกมามองหน้าคนพูด  รู้สึกหงุดหงิดเกินทนแล้วกับการแอบฟัง  ตอนนี้หวังเพียงได้เห็นหน้าชายที่ชอบกล่าวหาว่าร้ายคนอื่น  แค่เพียงเสี้ยวนาทีหนึ่งก็ยังดี และสิ่งที่เธอเห็นก็ทำให้ต้องแปลกใจ  เฟอร์ริสไม่ยอมพูดเสียงดังเหมือนที่ผ่านมา  เขาเข้าไปกระซิบที่ข้างหูลูกน้องคนสนิทที่ทำตาโตรับทันที  อยากรู้จริงๆว่าเขาพูดอะไร  ทำไมลูกน้องของเขาจึงมีปฏิกิริยาเช่นนั้น  หากแต่เธอคงไม่มีโอกาสได้รับรู้มันในตอนนี้แน่  เมื่อเขาทั้งหมดนั่นก้าวเดินอีกครั้งและกำลังจะเดินผ่านในจุดที่เธอยืนอยู่  และหูเธอได้ยินเสียงแคลลี่เอ่ยเตือน

‘แซนดร้าคะ  คุณได้ยินฉันนะ  ออกมาจากตรงนั้น  ถอยหลังไป  ไปหลบหลังเสาและจะไม่มีใครเห็นคุณ  ครึ่งนาทีแล้วค่อยออกมา  คุณเฟอร์ริสกับพวกกำลังจะไปข้างนอกแล้วล่ะค่ะ’
“รับทราบค่ะแคล”  ตำรวจสาวกระซิบเสียงเบากลับไปขณะทำตามคำสั่งอย่างดี
นับเป็นโชคดีที่ก้างชิ้นโตในการทำงานคราวนี้ของเธอกำลังจะจากไป  เธอก็จะสามารถเดินวอลซ์เข้าไปเอาของที่ได้รับคำสั่งมา  หากแต่ในใจยังนึกเสียดายอยู่ว่า  น่าจะได้ยินสิ่งที่ต้องการ  แล้วเธอจะหาคำตอบนั้นได้จากที่ไหนกัน  หรือต้องจับตัวคาร์ลอสมารีดเอาความกันล่ะ
‘เขาไปแล้วค่ะ  ทางสะดวก  คุณเข้าไปได้เลย  แต่จำไว้ว่าคุณมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นนะคะ  สายของฉันบอกว่า คุณเฟอร์ริสจะกลับมาอีกตอนนั้น’
อีกครั้งที่เสียงของแคลลี่ดึงสติที่ฟุ้งซ่านของเธอกลับมา  แซนดร้าส่ายศีรษะสะลัดสิ่งวุ่นวายในสมองทิ้งและรีบเดินไปยังทิศทางที่ควรจะไป  หวังใจว่าเธอคงสามารถเปิดประตูห้องนั้นได้ภายในเวลาที่จำกัดนี้และได้ของที่จะนำไปช่วยเหลือเด็กสาวผู้น่าสงสารนั้นกลับไปด้วยกัน  คุณแคล  ผู้พัน..ช่วยภาวนาให้ฉันด้วยนะคะ..
--The bodyguard--
แคลลี่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆมือสวยยกขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผากตัวเอง  ถึงแม้เธอจะไม่ได้เป็นคนเข้าไปทำงานที่นั่นด้วยตัวเอง  เพียงแต่นั่งบัญชาการอยู่ที่นี่  หัวใจเธอก็เต้นรัวไปกับการลุ้นการทำงานของผู้หญิงคนนั้น  ผู้หญิงแปลกหน้าที่เธอรู้สึกไว้ใจหล่อนได้อย่างน่าประหลาด อาจเพราะได้รับการการันตีมาจากสามีของเธอ  “แซนดร้า  คูเป้”  เป็นสายลับฝีมือดี
ขณะนี้เธอกำลังนั่งมองจ้องอยู่กับจอมอนิเตอร์ตรงหน้าและเงี่ยหูฟังความคืบหน้าจากหล่อน  สาวอเมริกันนั่นกำลังพยายามหาทางเข้าห้องลับที่ว่านั่นอยู่  มันนานหลายนาทีแล้วที่หล่อนยังหามันไม่เจอ  อะไรกัน..
“แซนดร้าคะ  เป็นอะไรไหม..”  พูดถามออกมาในที่สุด  สองมือเธอกุมประสานเข้าด้วยกันในท่าสวดภาวนาส่งแรงใจไปให้คนทำงาน
แซนดร้าต้องทำงานให้สำเร็จ  ความเป็นความตายของดิออนอยู่ในนั้น  ข้อมูลสำคัญที่จะช่วยชีวิตหล่อนมันอยู่ที่นั่น  ต้องเอามันออกมาให้ได้  ชิฟส์ที่ว่านี้อาจจะสามารถทำลายทิ้งได้โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัดออกจากตัวของหล่อน  เธอยังเชื่อว่า  คุณเซร่าห์  ผู้เป็นมารดาของหล่อนย่อมมีวิธีแก้ไข  ไม่มีใครอยากให้ลูกตัวเองเป็นอันตราย  โดยเฉพาะผู้เป็นแม่  หวังให้มันเป็นเรื่องจริง...
‘กำลังพยายามหาจุดที่เปิดประตูกลอยู่ค่ะ คุณแคลพอจะให้ความเห็นได้ไหมคะว่า  คุณเซร่าห์น่าจะใช้อะไร’  ปลายสายตอบกลับมาเสียงเครียดไม่แพ้กัน  เดาได้ว่าในเวลานี้แซนดร้าคงกำลังเหงื่อตกเหมือนที่เธอเป็น
“ขอคิดดูก่อนนะคะ  ใจเย็นๆนะคะผู้หมวด”  คิ้วเรียวสีน้ำผึ้งขมวดมุ่นเข้าหากันระหว่างนึกทบทวนสถานที่แห่งนี้ที่เธอเองก็ไม่ได้ไปเห็นด้วยตา  แค่ศึกษาผ่านภาพถ่ายในวิดีโอ
และแล้วดวงตาสีแดงก็เบิกโตขึ้นมากับภาพที่เธอระลึกขึ้นมาได้  มือที่ประสานกันอยู่ถูกดึงขึ้นมาจับไมค์ตรงหน้าทันที  “คุณเห็นรูปปั้นสุนัขอากิตะไหมคะ..แซนดร้า”
‘เอ่อ..สุนัขพันธุ์อะไรนะคะ  ฉันไม่รู้จัก  แต่คุณแคลคะมันมีอยู่สองตัวหน้าห้องเนี่ยค่ะ  ตัวไหน.?’
“สองตัวเหรอ..  เหมือนกันเลยเหรอคะ”
‘ค่ะ เหมือนกัน  ไม่มีความแตกต่าง’
สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นทุกทีจนผู้ร่วมงานทั้งสองคนเริ่มหนักใจ  หากแต่แคลลี่ก็เชื่อว่า  แซนดร้าคงพยายามคลำไปตามตัวของรูปปั้นสุนัขทั้งสองที่จังก้าเฝ้าหน้าห้องอยู่แน่ๆ  หล่อนต้องไม่ยืนเฉย  ส่วนเธอก็นั่งคิดจนหัวคิ้วจะติดกัน  แต่แล้วไม่นานก็เหมือนจะมีสัญญาณบอกว่าเจอข่าวดี
‘เดี๋ยวก่อนนะคะแคล  มีตัวนึงหางตกค่ะ ปกติแล้วอากิตะหางตกหรือเปล่า’
ดวงตาสีแดงกระพริบปริบๆกับคำถามนี้และหัวสมองของเธอก็วิ่งเร็วอย่างฉับพลัน  มือสวยกำไมค์ตั้งโต๊ะตรงหน้าแน่น  หัวใจเธอเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นและลุ้นสุดขีด  หวังให้สิ่งที่เธอคิดเป็นจริง  “ตัวนั้นล่ะค่ะ  ตัวที่หางตก  ลองก้มลงดูใต้ท้องมันค่ะแซนดร้า!”
‘รับทราบค่ะ..เจ้านาย!’
ปลายสายตอบหนักแน่น  และสองหูก็ได้ยินเสียงสูดหายใจเข้าลึกของหล่อน  แน่นอนแซนดร้ากำลังลุ้นเหมือนที่เธอเป็น  หัวใจของแคลลี่เต้นกระหน่ำอยู่ในอก  ประสาทสัมผัสทุกอย่างตื่นตัว  และแล้วความรู้สึกตึงเครียดต่างๆก็พลันหายไปเมื่อหูเธอได้ยินเสียงแผ่นหินเลื่อนมันเหมือนเสียงของการเคลื่อนตัวของประตูอิฐหนาของห้องใต้ดินและยังมีเสียงของนายตำรวจสาวที่ถอนหายใจยาวอย่างโล่งใจก่อนที่หล่อนจะเอ่ยรายงาน
‘เปิดได้แล้วค่ะ  ฉันจะเข้าไปแล้วนะคะคุณแคล’
แคลลี่พยักหน้ารับส่งเสียงฮัมเบาๆ เธอยิ้มได้สักที  คราวนี้ก็ลุ้นเพียงแต่ว่าแซนดร้าจะหาของที่ว่าเจอหรือไม่ในระยะเวลาที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนี่  หากแต่ในขณะสมองเธอกลับมาตึงเครียดอีกครั้งในคราวนี้เธอยังสามารถยิ้มได้เพราะหล่อนอีกเหมือนเดิม‘เอ่อ..คุณแคลคะ ระหว่างนี้ที่ฉันหาของอยู่  เราคุยด้วยกันหน่อยนะคะ ฆ่าเวลา..’
“ได้สิคะ  ว่ามาเลยค่ะ”
‘คำถามง่ายๆ แต่ฉันสงสัยค่ะ  ทำไมต้องเป็นอากิตะด้วยคะ  สุนัขสายพันธุ์ญี่ปุ่นใช่ไหม  ถ้าฉันเดาไม่ผิด’
ริมฝีปากอิ่มยิ้มพอใจกับอะไรบางอย่างที่ระลึกขึ้นมาได้เพราะคำถามนี้  เพราะบางทีสิ่งที่เธอคิดคงไม่ผิดไป  แม่ของดิออนรักหล่อนจริงๆ ไม่เช่นนั้นนางคงจะไม่ใช้สิ่งนี้ยืนยัน
“ใช่ค่ะ  มันเป็นสุนัขญี่ปุ่น  และฉันก็พอรู้ว่า  เพราะอะไรคุณเซร่าห์ถึงรักและไว้ใจมันขนาดให้อยู่เฝ้าของให้แบบนี้”
‘ทำไมเหรอคะ’

“เพราะมันคือตัวแทนแห่งความจงรักภักดีและซื่อสัตย์ค่ะ มาจากอากิตะตัวที่ชื่อ “ฮาจิโกะ” มีรูปหล่อของมันอยู่ที่ชิบูย่า  เอาไว้คุณกลับมาได้เมื่อไหร่ฉันจะเล่ารายละเอียดให้คุณฟัง  และอาจจะพาคุณไปเจอมันด้วย  แต่ตอนนี้  หาของมาให้ได้ด้วยค่ะ..ผู้หมวด!”  และเสียงที่เข้มงวดขึ้นในตอนท้ายประโยคของเธอคงทำให้คนฟังหัวใจกระตุก  ถึงได้ยินเสียงหล่อนตอบกลับมาอย่างโอดครวญ

‘ทราบแล้วค่า..เจ้านาย  ไม่ต้องดุก็ได้ค่ะ ฉันกลัว...’

แคลลี่หัวเราะเบาๆในลำคอก่อนปิดไมค์ชั่วคราว  และคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดเลขหมายและกรอกเสียงลงไปโดยไม่ต้องรอฟังเสียงคนกดรับมัน

“แอน..  อย่าเพิ่งให้หมอทำอะไรดิออนตอนนี้นะ  จนกว่าฉันจะติดต่อกลับไปใหม่  เข้าใจนะคะ”  สั่งเสร็จสรรพก็วางสายอย่างรวดเร็วและกลับมาเพ่งสมาธิไปกับงานตรงหน้าอีกครั้ง  หัวใจเธอภาวนา..

คุณเซร่าห์..  ถ้าคุณได้ยินฉัน..  ช่วยทำยังไงก็ได้ให้แซนดร้าหาของที่คุณซ่อนไว้ให้เจอด้วยนะคะ  ขอร้องล่ะ  ดิออนต้องการคุณ..

TBC.



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.