web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 146
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 111
Total: 111

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 3 : เด็กเลี้ยงแกะ  (อ่าน 1929 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 3 : เด็กเลี้ยงแกะ
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 19:51:12 »
Chapter  3  :  เด็กเลี้ยงแกะ

   ดิออนยืนกระพริบตาปริบๆ เมื่อกลับมาจากไปเดินเล่นดูพระอาทิตย์ตกแล้วเห็นว่ามีบางคนนั่งฟุบอยู่กับโต๊ะทำงาน  ใบหน้าคมส่ายน้อยๆระหว่างถอนใจ  แคลลี่ทรมานตัวเองอีกแล้วหรือนี่  ไม่ดีเลยนะ  ทำไมถึงชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย  คนอะไรไม่รู้สิ..
   ร่างบางเดินเข้ามาหาคนนั่งฟุบ  ขยับลูบศีรษะหล่อนเบาๆไม่ต้องการจะทำให้หล่อนตื่นขึ้นมา  ริมฝีปากบางเผยยิ้มเจื่อนๆน้ำตาคลอน้อยๆ รู้สึกเหมือนเธอนี่แหละที่เป็นคนทรมานหล่อนแบบนี้ 
แคล..ฉันขอโทษ..
“ผู้พันคะ  เอาเค้าไปนอนหน่อยสิ”  สาวน้อยพูดเสียงเบากับคนที่เธอเห็นเขาเดินเข้ามา แองเจล่ากระพริบตาเหมือนงงๆเล็กน้อย แต่สักพักก็พยักหน้าให้ 
ร่างสูงใหญ่เข้ามาช้อนตัวคนหลับไม่รู้เรื่องขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน  แคลลี่เหมือนกลายเป็นเด็กน้อยในอ้อมอกของเขาไปทันที  ไม่น่าเชื่อเลย..
“แคลตัวเล็กไปเลยนะคะเวลาที่โดนคุณอุ้ม”  ดิออนวิจารณ์ยิ้มๆระหว่างเดินไปพร้อมคนตัวใหญ่ที่อุ้มอีกสาวอยู่  เขาหันมามองหน้าเธอและยิ้มบางๆพูดออกมาขำๆ
“เมื่อก่อนตอนตัวเล็กกว่านี้  เคยอ้อนขี่หลังฉันด้วยนะ  เค้าแก่นแก้วมาตั้งแต่เด็กแล้ว  เห็นหน้าหวานๆดูเรียบร้อยแบบนี้”
สาวน้อยทำตาโตกับเรื่องที่เพิ่งรู้  เธอแทบไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง  แคลลี่เนี่ยนะจะเป็นเคยเป็นเด็กซนๆแบบนั้นเมื่อก่อน  ท่าทางหล่อนเหมือนนางพญาแบบนี้น่ะเหรอ.. 
แต่มันคงจะจริงนั่นแหละ เขากับแคลอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กนี่นา สิบกว่าปีแล้วที่พวกเขาผูกพันกัน  ไม่น่าแปลกใจเลยว่า  ทำไมพวกเขาถึงตัดกันไม่ขาด  ความทรงจำระหว่างกันมันมีมากมาย
“อยากเห็นพวกคุณสองคนตอนเด็กๆจังนะคะ  คงน่ารักดี”  ดิออนพูดตามจริง  แล้วเธอก็เห็นคนตัวสูงยิ้มอย่างมีความสุขออกมา  แววตาของดวงตาสีเขียวน้ำทะเลไม่เย็นชาเหมือนที่เธอเห็นมันบ่อยๆอีกต่อไป  และเธอก็รู้แล้วว่าเพราะอะไรเมื่อเขาเอ่ยเล่าความหลังให้ฟัง
“เค้าเป็นน้องรหัสของฉันที่โรงเรียนเตรียม  ฉันต้องดูแลเค้ามาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน  แล้วฉันก็เลยเห็นเค้ามาหมดทุกแบบแล้วล่ะ  ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กสาวอายุสิบห้าซนๆ มาจนถึงเป็นสาวเต็มตัวที่มีแต่คนหลงรักแบบนี้”
“โอ้..ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ ขนาดนั้นแหละ” 
สาวน้อยพยักหน้ารับรู้เรื่องเล่า  หากแต่คราวนี้เธอเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของคนที่เดินข้างๆ  แองเจล่าดูซึมๆ  เปิดปากว่าอยากจะถามว่าเขาเป็นอะไรไป  แต่ก็ไม่ทัน  เขาพูดออกมาก่อน   
“เค้าน่ะเปลี่ยนไปเรื่อยๆทุกวัน  เค้าคงไม่รู้ตัวหรอกว่า  บางทีฉันก็ตามเค้าไม่ทันเหมือนกัน”
และเพราะรู้ถึงความหมายของคำพูดนี้  ดิออนจึงอยากจะปลอบใจคนพูดสักหน่อย  แต่เธอก็ช้าเหมือนทุกครั้ง  เมื่อคนขี้เซาขยับตัวอยู่ในอ้อมแขนของคนอุ้ม  คนตัวสูงก็เลยต้องพยายามกระชับแขนของเขาเอาไว้ให้มั่น  กลัวว่าคนหลับจะตกลงพื้นก่อนจะไปถึงห้องนอน 
เพราะแทนที่จะตื่นขึ้นมาและเดินไปนอนเองในเมื่อรู้สึกตัวแล้ว  แคลลี่ก็กลับขยับแขนขึ้นมาโอบบ่าคนอุ้มและซบหน้ากับบ่าของเขา  ท่าทางแบบนี้เหมือนเจ้าสาวที่กำลังถูกเจ้าบ่าวอุ้มเข้าหอไม่มีผิด  แถมแว่วหูเธอยังได้ยินเสียงหวานกระซิบออกมาเบาๆว่า..  “แอน.. ง่วงแล้ว  พาไปนอนหน่อย”
ดิออนมองหน้าคนหลับแล้วกระพริบตาปริบๆกับอาการแบบนี้ที่เธอไม่เคยเห็น  แคลลี่อ้อนคนอื่นมันเป็นแบบนี้หรือไงนี่  เหมือนเด็กเอาแต่ใจที่กำลังอ้อนผู้ใหญ่เลย  และอะไรก็ไม่ทำให้เธอประหลาดใจมากกว่าการที่แองเจล่าหัวเราะออกมาเสียงใสกับคำอ้อนๆนี้  ก่อนที่เขาจะกระซิบกลับไปน่ารัก
“ได้เพคะ..เจ้าหญิง  แต่เจ้าหญิงต้องอยู่นิ่งๆนะเพคะ  ไม่งั้นตกด้วย” 
ดวงตาคมสีเขียวน้ำทะเลเป็นประกายเมื่อจบคำ  แล้วเขาก็หันมาหาเธอเหมือนรู้ว่าเธอกำลังมองอยู่แปลกๆแบบนี้
“แต่นี่เป็นเรื่องเดียวที่เค้าไม่เปลี่ยนเท่าไหร่น่ะ  มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเค้ายังเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิม  ฉันรักเค้าที่ตรงนี้”
“เค้าเหมือนน้องสาวเล็กๆของคุณ..?” ร่างบางเอ่ยถาม พาให้อีกคนยิ้มรับและพยักหน้าขอให้เธอเปิดประตูห้องนอนให้  เพื่อจะพาคนหลับไปนอนบนเตียง 
ดิออนช่วยจัดแจงที่นอนให้เพื่ออีกคนจะได้ไม่ลำบากกับการวางร่างที่หลับเหมือนเด็กขี้เซาลงนอน  ดวงตาสีมรกตมองคนตัวใหญ่ที่ค่อยๆวางร่างอีกสาวลงอย่างเบามือ  แองเจล่าจูบหน้าผากหล่อนเบาๆแล้วถอนตัวออกมามองหน้าเธอ  สีหน้าไม่ค่อยดีนัก
“แคลเป็นไข้นิดหน่อยน่ะ  ปล่อยให้นอนสักพัก เดี๋ยวค่อยปลุกให้ไปทานอะไรแล้วทานยา”
“มิน่าล่ะ เค้าถึงหลับไม่รู้เรื่องแบบนี้  แล้วนี่จะเป็นอะไรมากหรือเปล่า  ฉันว่าแล้วว่าแดดแรงแบบนี้  เค้าไม่ควรไปเดินแบบนั้น  พักนี้ยิ่งอ่อนแออยู่ด้วย”
พูดบ่นๆออกมาอย่างไม่ได้มองหน้าคนฟัง  และพอหันมาดูหน้าเขาที่เงียบไปก็ทำให้ใจหายแปลกๆ แองเจล่าหน้าซีดเหมือนคนไม่มีเลือดอยู่ในตัว  จนเธอทนดูไม่ได้ต้องเข้าไปดึงตัวเขามานั่งลงที่โซฟาในห้องนี้ด้วยกัน  ปล่อยให้คนหลับหลับต่อไปก่อน  เดี๋ยวค่อยช่วยเช็ดตัวก็ได้  ไข้ไม่ได้สูง
“คุณเป็นอะไรไปอีก..ผู้พัน”  ถามขึ้นมากับคนที่นั่งก้มหน้ามองพื้นห้องเหมือนมันน่าสนใจกว่าหน้าเธอ 
ไม่ชอบใจเลยที่เขาชอบเป็นคนแบบนี้  จะพูดบ้างได้ไหม  เป็นอะไรไปล่ะ  ทองจะร่วงลงมาจากปากหรือไง  เมื่อกี้ยังพูดได้ฉอดๆอยู่นี่
“ก่อนที่ฉันจะกลับมา  แคลคงจะลำบากมากนะ  เค้าไม่เคยอยู่คนเดียว”
ดิออนนั่งตาค้างกับเสียงเบาๆนี้  ที่แท้เขาก็กลับมาคิดเรื่องเก่าๆอีกแล้ว  เดาได้เลยว่าคงจะโทษตัวเองอยู่ที่ปล่อยให้ภรรยาอยู่ตามลำพังตั้งสามปี  แคลลี่ไม่เคยอยู่คนเดียวมาตั้งแต่อายุสิบห้าจนกระทั่งเขาจากไป  ไม่แปลกเลยที่เขาจะคิดห่วงหล่อนขึ้นมา  แต่มานั่งคิดตอนนี้จะได้อะไร..
มือบางขยับขึ้นจับบ่าคนตัวใหญ่กว่าให้เขาหันหน้ามามองกัน  เธอยิ้มจริงใจให้เขาไป “จะคิดมากอีกทำไมคะ  เรื่องมันผ่านไปแล้ว ตอนนี้แคลก็สบายดีนี่นา  เค้าแค่เป็นไข้นิดหน่อยไม่ใช่เหรอ”
“ก็ใช่..  แต่เค้าโกรธฉันมากนะ  เธอไม่รู้เหรอ..”
ดิออนเม้มปากน้อยๆหมั่นไส้เล็กๆกับคนความรู้สึกช้า  แองเจล่าทำเป็นไม่รู้เรื่องไปได้ว่าคนที่เขากำลังพูดถึงอยู่คิดอะไรกับเขา  แคลลี่รักเขาที่สุดแท้ๆ
“คุณรู้ไหมว่า  ฉันอิจฉาคุณแค่ไหน..ผู้พัน”  เด็กสาวพูดเสียงแผ่ว  และเพราะแบบนี้จึงทำให้คนที่เอาแต่คิดมากอะไรไม่รู้หันมามองหน้าเธอ  จากนั้นเขาก็พูดเหมือนรู้ตัวแล้วว่าผิด
“เธอเองก็คงโกรธที่ฉันกลับมาใช่ไหม..  ฉันขอโทษนะ  แต่ฉัน—“
“แต่คุณก็ทำอะไรไม่ได้  เพราะคุณรักเค้ามากใช่ไหมคะ” พูดอย่างรู้ทัน  อีกคนเลยพยักหน้ารับกลับมา  ดวงตาคมยังฉายแววความรู้สึกผิด  มันทำให้เธอไม่สบายใจ  เด็กสาวส่ายหน้าระหว่างพูดขึ้นอีก
“แต่ฉันว่า  คุณกลับมาแบบนี้ก็ดีแล้วนะคะ  แคลจะได้รู้ว่าเค้าต้องการอะไรกันแน่”  คนฟังกระพริบตาปริบๆเหมือนไม่เข้าใจที่เธอพูด  เลยต้องขยายความ
“คุณรู้ไหมว่า  แคลน่ะป่วยทางจิตใจ แต่เค้าซ่อนมันไว้จนไม่มีใครเห็น  และเค้าก็คิดว่าไม่มีใครเห็นมันจริงๆ”
“แต่เธอเห็น...” 
ดิออนพยักหน้ารับและจับมือที่ใหญ่กว่ามากมากุมไว้เหมือนจะบอกให้เขาตั้งใจฟังเธอให้ดี  “ฉันอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยามาบ้างเลยพอจะดูอาการออก  แคลเป็นผู้หญิงขี้เหงาที่ต้องการความรักมากๆเท่านั้น  เพราะงั้นเวลาที่เค้ารู้สึกว่าขาดมันไป  เค้าก็เลยต้องหาเอาจากใครๆที่พอจะให้เค้าได้  และมันก็เลยเป็นสาเหตุให้เค้าคิดว่า  เค้าต้องการฉันเมื่อก่อนนี้  ก่อนที่คุณจะกลับมา  และก็เป็นคุณนั่นแหละที่จะหยุดอาการโหยหาความรักของเค้าได้  เข้าใจไหมคะ”
แองเจล่ากระพริบตาหลายๆครั้งเหมือนไม่เชื่อหูว่าได้ยินอะไร  แต่แล้วเขาก็ทำให้เธอแปลกใจกับคำวิจารณ์ที่ออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“รู้ไหมว่า..ตอนนี้ฉันคิดว่า  เธอน่ะกลายเป็นบอดี้การ์ดของแคลไปแล้วนะ..ดิออนจัง”
“พูดอะไรคะ  ไม่รู้เรื่อง”  เด็กสาวถามโพล่งออกมาและปล่อยมือที่ตัวเองกุมไว้จนเพลินนี้ออก  แล้วก็นึกเสียดายมันขึ้นมา  ทหารบ้าอะไรมือนุ่มขนาดนี้นะ  ยิงปืนเป็นแน่หรือเปล่าเนี่ย  เธอแอบคิดในใจ  แล้วก็หัวคิ้วกระตุกกับคำตอบที่ได้
“ก็ดูเธอสิ ออกหน้าปกป้องแคลออกขนาดนี้ เธอดูแลเค้าได้ดีกว่าฉันอีกนะ..รู้หรือเปล่า”
“ไม่ใช่ซะหน่อย  ฉันก็แค่พูดตามความจริง  ก็เค้าต้องการคุณจริงๆนี่นา” 
ดิออนแย้งให้อีกคนส่ายหน้ากลับมาให้  แปลกใจในความคิดของเขาจริงๆ  แต่ที่แปลกใจกว่า  ก็คือทำไมแคลยังไม่ตื่นอีก  ทั้งที่พวกเธอคุยกันอยู่ตลอด  จะนอนไปถึงไหนนะ  หรือว่าไข้ขึ้นมากกว่าเดิม  เป็นห่วงขึ้นมาเลยลุกขึ้นเดินกลับไปหาคนนอน เอามืออังหน้าผากหล่อนแล้วก็ขมวดคิ้ว บ่นพึมพำ
“สงสัยต้องเช็ดตัวแล้วค่ะ  คุณทำได้ไหม..ผู้พัน” 
“แล้วทำไมเธอไม่ทำล่ะ  เธอก็ทำได้นี่”
โดนย้อนแบบนี้ก็หันขวับกลับมาทำตาถลึงใส่คนตัวใหญ่ที่ทำหน้าตกใจกับท่าทางของเธอทันที  เขารีบเดินเข้ามาหาเธอและก้มตัวลงตรวจดูอาการคนป่วยที่กำลังหลับไม่ได้สติ  คงเพราะพิษไข้ที่ทำให้เป็น  หากแต่ดิออนก็ต้องแปลกใจกับคำพูดที่เขาพึมพำ
“ฉันรู้ว่าเธอตื่นแล้ว..แคลลี่  ลืมตาขึ้นมา   ไม่งั้นฉันจะจับเธอแก้ผ้าต่อหน้าดิออนนะ”
ดิออนกระพริบตาอย่างไม่เข้าใจ  แต่ก็พบว่าสองตาของเธอจ้องอยู่กับใบหน้าหวานของคนที่นอนอยู่ตรงหน้าเหมือนว่าต้องการจะเห็นอะไร  และเธอก็เห็นมันจริงๆ ดวงตาสีแดงยิ้มได้เปิดขึ้นมาและหันมามองหน้าเธอเต็มๆริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มหวาน แค่นี้ก็รู้สึกแล้วว่าหน้าตัวเองร้อนแค่ไหน  หมายความว่าหล่อนได้ยินเธอพูดหมดทุกคำ..  ใช่ไหม... 
โอ้..ตายแล้ว.. ฉันโดนหลอกเหรอเนี่ย..  พวกเขารวมหัวกันต้มฉันซะเปื่อย
“ขอบใจมากจ้ะดิออนที่เป็นห่วง  ดีใจที่สุดเลยนะ” 
เสียงหวานๆนั่นพูดออกมา  แต่แทนที่เธอจะนึกดีใจกับความปลอดภัยและอารมณ์ดีของหล่อน  ดิออนกลับพบว่าตัวเองเข้าไปผลักร่างที่กำลังลุกขึ้นมาจากที่นอนให้ลงนอนไปอีกครั้งและคว้าหมอนมาตีหัวหล่อนหลายๆครั้ง
“ยัยบ้า..  โรคจิต! แกล้งฉันเหรอ  บ้าๆๆ!!”
“ดิออน..  ฉันแค่ล้อเล่น  อย่าตีฉัน  ฉันเจ็บ  แอนทำอะไรสักอย่างสิ..แอน”
“แล้วจะให้ทำอะไรล่ะแคลลี่  เริ่มก่อนนะ  สมควรแล้ว..”
“แอนน่ะ พูดแบบนี้เหรอ..พี่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไม่ใช่หรือไงเล่า ดิออนอย่า..”
“ฉันจะตีเธอให้เป็นไข้จริงๆเลย..แคลลี่”
“ดิออนใจร้าย..”
“ดิออน..  หยุดเถอะ  เดี๋ยวแคลก็ตายจริงหรอก..”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน  พวกบ้า!  บ้าที่สุด! ฉันไม่อยู่กับพวกเธอแล้ว..”ร่างบางส่งเสียงตะโกนแล้ววิ่งหนีออกมาจากห้อง  ไม่สนใจเสียงร้องโอดโอยและร้องห้ามที่ดังออกมาให้ได้ยินหรือเสียงหัวเราะคิกคักของใครบางคนที่อยู่ในเหตุการณ์
ดิออนหอบน้อยๆขณะยืนพิงเสาอยู่  รู้สึกเหนื่อยผิดปกติ  สงสัยเพราะวิ่งเร็วไปหน่อย  แต่กระนั้นสาวน้อยก็พบว่าตัวเองยิ้มออกมาได้แม้จะหงุดหงิดที่ถูกแกล้ง  โดนรุมแกล้งอีกแล้ว 
“พวกบ้า..  อย่าให้ถึงทีฉันบ้างนะ  คอยดู”  พูดพึมพำขึ้นมาเหมือนจะแค้นพวกเขาแต่ทำไมเธอถึงได้ยิ้ม  คงเพราะมันก็สนุกดี 
แคลลี่กับแองเจล่าช่างหาเรื่องมาทำให้เธอประหลาดใจได้อยู่เสมอ  ถ้าเธอไม่ได้เจอพวกเขา  ตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ  ชีวิตคงน่าเบื่อพิลึก  หากแต่เมื่อกำลังนึกเรื่องราวที่ได้เจอมาอย่างมีความสุข  ความรู้สึกหนึ่งก็ทำให้เธอต้องชะงักและยกมือขึ้นกุมศีรษะตัวเอง  ปวดหัวจนแทบจะระเบิด  เกิดมายังไม่เคยปวดอะไรเท่านี้มาก่อน  จากนั้นดิออนก็พบว่าตัวเองร้องออกมาเสียงดัง  ด้วยข้อความที่สองหูเธอแทบจะไม่ได้ยิน
“แคลลี่..  ช่วยด้วย!”


TBC.



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.