web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 196
Most Online Ever: 230
(26 เมษายน 2024 เวลา 05:53:50 )
Users Online
Members: 0
Guests: 157
Total: 157

ผู้เขียน หัวข้อ: My little sweet devil Chapter 7 : คนของความเหงา  (อ่าน 4298 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
My little sweet devil Chapter 7 : คนของความเหงา
« เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 16:28:57 »



Chapter  7  :   คนของความเหงา



เสียงหัวเราะใสๆจากคนที่นั่งเม้าท์อยู่ใกล้ๆที่โซฟารับแขกแทนที่จะทำให้รำคาญเหมือนทุกครั้ง  เธอกลับรู้สึกว่าตัวเองอมยิ้ม  มิกิกับผู้จัดการของหล่อนกำลังนั่งคุยอยู่กับฝาแฝดของเธอ  คุยอะไรกันก็ไม่รู้  แต่ดูเหมือนพวกเขาจะสนุก  ใบหน้าของสาวตาสีน้ำเงินหน้าหวานดูมีความสุขจนคนมองอดจะรู้สึกอะไรไม่ได้

น่ารักดีเหมือนกันนะผู้หญิงคนนี้..

แต่นี่เป็นตัวจริงของเธอหรือเปล่า...   

ไม่รู้หรอกว่ายิ้มอยู่นานเท่าไหร่  มารู้อีกทีก็ตอนที่โดนบางคนสะกิดให้หันไปมอง  คริสตินเลิกคิ้วให้หล่อนแปลกใจ  ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด  หรือจะทำแล้วไม่รู้ตัว..  “อะไรรีเบคก้า.?”

“หลงรักเจ้าหญิงหรือยัง.?”  สาวตัวเล็กยิ้มถูกใจเมื่ออีกฝ่ายกดหัวคิ้วลง  ไล่รอยยิ้มออกจากใบหน้าไปจนสิ้น  “ไม่เอาน่าคริส  ทำหน้าบึ้งบ่อยๆ เดี๋ยวตีนกาขึ้นจะไม่สวยนะ”

“ชิส์  ไม่ต้องมาทำห่วงฉันหรอกน่าเบคก้า..  ดาราฝรั่งยิ่งแก่ยิ่งดูดี  ไม่รู้หรือไง.?”  ดาราฝรั่งที่ว่าลอยหน้าลอยตาพูด  อีกคนส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ ท่าทางจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่  ช่างปะไร  เรื่องของเธอ..

เรื่องของหล่อนด้วยนั่นแหละ  หล่อนเป็นคนดูแลเธอนะ..

แล้วไง.?

ไม่ใช่มะม๊าฉันสักหน่อย  มะม๊ายังไม่ว่าเลย..

“นี่เบคก้า..  ถามไรหน่อยเหอะ”  ความสงสัยทำให้เธอกระซิบกระซาบถามคุณผู้จัดการที่นั่งติดกันตรงบาร์เครื่องดื่ม  รีเบคก้าชำเลืองตามามองระหว่างจิบโกโก้ร้อนที่ส่งกลิ่นหอมและควันฉุย  “ชวนยัยนั่นมาเที่ยวห้องเราทำไม  ไม่กลัวติ่งมาตามถ่ายเรอะ”

“ถ่ายสิดี  จะได้พากันดัง”

คนฟังทำท่าช็อค  กาแฟร้อนในมือแทบหกใส่เสื้อผ้าเพราะหันหน้ามามองคนพูดตาโต  “เธอยังสติดีอยู่ไหมยัยตัวเล็ก ?”  ยัยตัวเล็กที่ว่ายิ้มเจ้าเล่ห์ดวงตาเป็นประกาย  บอกได้เลยว่าคนมองเห็นไม่ค่อยจะชอบมัน 

“บอกมานะ  เธอมีแผนชั่วร้ายอะไร.?”  คริสตินขู่  อีกคนกลับยิ้มกว้างเข้าไปอีก  หล่อนไม่ได้กลัวมันสักนิดเลย  ก็รู้ว่าขู่ไม่จริง...

“เธอต้องหัดมองโลกกว้างๆบ้างนะคริส..  รู้ไหมว่าเดี๋ยวนี้  พวกแฟนคลับ  เค้ามีพาวเวอร์ในการจิ้นสูง  พวกเค้าสามารถจับเธอไปเป็นคู่เป็นแฟนกับใครๆก็ได้  แค่เค้าเห็นจุดให้คิดเพียงนิดเดียว  เดี๋ยวฉันจะยกตัวอย่างให้ดู”

นางแบบสาวกระพริบตาเริ่มสนใจเรื่องที่คุณผู้จัดการจะเล่าให้ฟัง  สาวตัวเล็กล้วงมือถือหล่อนขึ้นมา  จิ้มๆลูบๆหน้าจอและชี้ๆให้เธอดูบางอย่าง  บางอย่างที่ทำให้อึ้งไปสองวิก่อนค่อยๆพิจารณามัน 

มันเป็นภาพนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังเล่นคอนเสิร์ต  พวกหล่อนร้องเพลงกันเป็นคู่ๆ สนุกด้วยกัน  ดูสนิทสนม  มีความสุข..

แต่มันก็แค่นั้นไม่ใช่เหรอ   หรือไม่ใช่.?

“แล้วไง..  ก็แค่นักร้องเกิร์ลกรุ๊ป.?”  คริสตินส่ายหน้าเลิกสนใจสิ่งที่ดู  หันไปจิบกาแฟตัวเองต่อ  จนรูปที่สองถูกยื่นมาใส่หน้าให้หรี่ตามองอีก  คราวนี้อะไรที่เห็นเรียกความสนใจเธอไปได้ทั้งหมด  แม้จะรู้ว่า  มันก็แค่ภาพที่ถูกครอปมาแค่คนสองคนจากที่ถ่ายกันเป็นกลุ่ม  หรือเพราะสายตาของสองสาวในภาพที่มองกัน  มันทำให้เริ่มคิดเอนเอียงเชื่อคำที่คนโพสอวยมา

“ตกลงสาวๆพวกนี้เค้าเป็นอะไรกันจริงเหรอ.?” ถามราวคนไม่ประสาโลก  คนชี้ให้ดูอมยิ้มส่ายหน้ากลับมา  “เฮ้..  ไม่ใช่  หรือว่า  ไม่รู้..  ตอบดีๆหน่อย”

“ใช่มั้ง..  ไม่รู้สิ..”  รีเบคก้าตอบไม่เต็มเสียง  คนฟังหรี่ตามองงงๆ “เอ้า..  ทำไมล่ะ  ความจริงพวกเค้าอาจจะแค่สนิทกันมากก็ได้  แต่สมัยนี้นะ  แค่สาวๆเดินกันไปเป็นคู่ๆ จับมือถือแขน  มองตากัน  เค้าก็จิ้นกันได้แล้วล่ะ”

คริสตินย่นจมูกยี้ใส่คำบอกเล่าที่ได้ยิน  “พลังจิ้นสูงส่งเกินไปไหมนั่น  หรือเพราะสังคมเปลี่ยนไป  ไม่แคร์อะไร  ถ้าหญิงไม่คู่ชาย.?”

“ก็ไม่เชิงอีกนั่นแหละ  บางทีตอนจิ้นพวกเค้าอาจจะสนุก  แต่พอรู้ว่าเป็นจริงๆ ก็อาจจะรู้สึกอีกอย่าง  เคยเห็นคอมเม้นท์พวกนั้นเหมือนกัน”  สาวบลอนด์ร่างกะทัดรัดบอกยิ้มแห้งแล้ง  คนมองก็เหมือนจะเข้าใจท่าทางกัน  “ช่างเถอะ  แค่ตอนนี้พวกเค้ายังสนุกกับการจิ้น  เราก็จะให้ตามที่พวกเค้าต้องการ”

“เธอหมายความว่าไง.?” 

เสียงคำถามอยากรู้อยากเห็น  รีเบคก้าหัวเราะขำก่อนจะอึ้งไปถนัดกับภาพที่ผุดขึ้นมาในฟีดข่าวใหม่ของเฟซบุ๊ค  “ซวยแล้วสิ”  หญิงสาวพึมพำเสียงเบา  หากมันก็เข้าหูคนข้างๆที่เงี่ยฟังอยู่  คริสตินชะโงกหน้ามาดูบ้าง  แล้วทำตาโตมองหน้ากันอย่างช็อค 

“เฮ้..ใจเย็นไว้  ขอฉันอ่านก่อน”  ผู้จัดการสาวรีบบอกและกดหัวคิ้วก้มอ่านข้อความขนาดเล็กบนภาพ  มันถูกโพสขึ้นในแฟนเพจของแฟนคลับคริสติน

เธอจำเป็นต้องเข้าไปเช็คหน้าเพจพวกนั้นเป็นประจำทุกๆวันและแทบตลอดเวลาถ้าพอจะว่าง  แฝงตัวเข้าไปสืบว่า  พวกแฟนๆมีความคืบหน้ากันไปถึงไหนแล้ว  ยังชื่นชอบในตัวคริสตินหรือไม่  พวกเขาทำปฏิกิริยายังไงกับคนที่เป็นไอดอลของพวกเขา  นี่เองถึงได้เจอช็อตเด็ตประจำ  แม้แต่ข่าวของตัวเธอเองกับอิงกริด  เพียงแต่ในเรื่องที่พวกเขาลือกัน  มันคือคริสตินที่สนิทสนมกับผู้จัดการส่วนตัวมากจนสามารถจิ้นเป็นคู่รักคู่ขาได้ไปอีกคน

“ว่าไงเบคก้า.?”

“ในนี้บอกว่า เจอคอสเพลย์ตัวเธอที่งานแฟชั่นโชว์วันนี้น่ะสิ”  รีเบคก้ายื่นมือถือให้อีกคนไปดูด้วยตัวเอง  คริสตินกัดปากคิ้วขมวดท่าทางหงุดหงิดน่าดูชม

“พวกนี้เห็นอิงกริดเป็นคนที่ทำตัวเหมือนฉันงั้นเหรอ.?”  ถามเสียงดังจนเจ้าของชื่อหันมาสนใจบ้าง  อิงกริดเลิกคุยกับคนอื่น  มองมาที่เธอคนเดียว
และสายตานั้นมันทำให้เธอรู้สึกผิดจนต้องเมินหน้าหนี  เธอคนเดียวที่ลากน้องสาวมาเอี่ยวด้วยในชีวิตอันวุ่นวายนี้  เธอที่พรากความฝันของน้องจากไป  อิงกริดแค่ต้องการอยู่อย่างสงบกับงานที่เขารัก  กับกล้องตัวโปรด  กับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม  และอาจจะกับ...

คนรัก...

แฝดพี่หันกลับไปสบตาแฝดน้องที่ยังคงมองเธออยู่  แววตานั้นมันทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอต้องการน้องอยู่ใกล้ๆ  ทั้งที่เธอเองไม่อยากให้เขามีปัญหากับเธอไปด้วย  แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง  เมื่อเขารักเธอ  เหมือนที่เธอเป็น...

เพราะพวกเธอเป็นพี่น้อง..

เป็นฝาแฝด..

คริสตินถอนหายใจอีกครั้ง  กลั้นใจส่ายหน้าให้สายตาน้องสาวที่มองมาอย่างเป็นห่วง  แต่เธอแน่ใจ  อิงกริดไม่หายห่วงหรอก  ทางเดียวคือเบี่ยงเบนความสนใจเขาไปที่อื่น  ใช่แล้ว... 

“เบคก้า..  เธอไปคุยกับเค้าหน่อยล่ะกัน  ฉันไม่มีอารมณ์”  ปัดเรื่องให้ผู้จัดการส่วนตัวไปเสียนี่  รู้ว่ามันไม่ดี  แต่คิดว่าหล่อนน่าจะทำให้เรื่องเคลียร์ได้มากกว่าที่ตัวเองทำ  อย่างน้อยความเป็นแฟนกันของพวกหล่อนน่าจะช่วยได้  แต่ถึงอย่างนั้น  มันก็น่าเจ็บใจนะ 

ทำไมจะต้องขุดคุ้ยอยากรู้เรื่องฉันกันด้วย!

“โอเค..  จัดการให้..”  รีเบคก้าตอบตกลง  มือตบบ่าอีกคนเบาๆอย่างเห็นใจก่อนจะเดินไปหาแฟนตัวเอง   แฟนคนปัจจุบัน

นางแบบสาวนั่งเหม่อหลังจากที่คนข้างตัวหายไปทำตามที่ขอ  เธอคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนรู้สึกถึงบางคนที่เข้ามานั่งข้างๆ เธอได้กลิ่นหล่อน   ผู้หญิงที่หอมเหมือนวนิลา   อา..ช็อคโกแลตด้วย...

“จะมาลากลับห้องเหรอ  ไปสิ  โอเค..  ดึกแล้ว  พรุ่งนี้ต้องรีบขึ้นเครื่องนี่” 

“ใครบอกคะ  จะมาขออนุญาตอยู่ต่อต่างหาก” 

ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง คริสตินหันไปมองคนพูดตกใจ “อะไรนะ!” เธอโวย  และรอยยิ้มใสๆ ของสาวหน้าใสพาให้ใจเต้นรัว  รู้สึกร้อนที่ใบหน้าทั้งที่อากาศเย็น

“เธอจะนอนที่นี่ได้ยังไง  ห้องนอนมีแค่สองห้อง  อิงกริดกับรีเบคก้าก็ห้องหนึ่งแล้ว  เหลือแค่ห้องฉัน   พวกเธอมีกันสองคน  แล้วมันจะ----”

“ฉันจะนอนที่โซฟาข้างนอกค่ะคริสตินซัง”  คานาเดะแทรก  ยกมือโบกอยู่ที่โซฟาตัวยาวก่อนจะล้มตัวลงนอนไปทันที  ส่วนอิงกริดกับรีเบคก้าหายไปแล้ว

พวกนั้นทิ้งฉันไว้กับยัยนี่สองคน!

พระเจ้า!

“ว่าไงคะ  มีทางออกแล้วไง..”  เสียงใสๆพูดขึ้นราวสาวไร้เดียงสา  หากคนมองกลับเห็นดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายอีกอย่าง 

ยัยนี่มันเป็นปีศาจชัดๆ!

ปีศาจหน้าหวาน!

“ไม่!  ไม่ได้!”  คริสตินยื่นคำขาด  กอดอกปกป้องตัวเองเหมือนกลัวโดนจับอะไรงั้นล่ะ  กลัวหัวใจจะหลุดออกจากอกมากกว่า  สายตาขี้อ้อนจากสาวคนนี้มันยากที่จะต้านทานจริงๆ ถึงอย่างนั้น...

อดทนไว้..  อดทนไว้คริส!

“ทำไมล่ะ  ฉันเป็นผู้หญิงเหมือนกันนะ  ฉันไม่ทำอะไรคุณหรอก”  มิกิบอกหน้าตาย  เห็นสายตาไม่ไว้ใจจากอีกคนทันที  เธอยิ้ม  “เอ๋..  หรือคุณเองต่างหากที่กลัวว่า  จะห้ามใจไม่ได้  แล้วปล้ำฉัน!”

“ห๊ะ!”  นางแบบสาวหันขวับไปจ้องหน้าคนพูดตาโต  และสายตาเหมือนจะจับผิดอะไรก็ทำให้รีบส่ายหน้า   “อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยน่า..  ถ้าฉันจะชอบผู้หญิงด้วยกันจริงๆ  ฉันก็เว้นเธอไว้คนหนึ่งล่ะ”

สาวลูกครึ่งไอริชชะงัก  เจ็บใจที่ถูกหักหน้า  แต่เธอไม่ยอมแพ้  ยอมก็กลัวสิ  “ถ้างั้นก็พิสูจน์สิว่า  คุณทนไหวที่จะอยู่ใกล้ฉัน  เก็บมือไว้ให้ห่างฉันได้  เอาไหมล่ะ!”  ดวงตาสีน้ำเงินเป็นประกายวาบท้าทายคนที่จ้องหน้ากัน  คริสตินกัดฟันกรอด  สะบัดหน้าหนีไป  “ไม่กล้าล่ะสิ?”

“ไม่ต้องพูดมาก  อยากนอนมากนักก็มาเลย  จะได้เลิกพูดมากสักที!”

มิกิแทบจะกระโดดตัวลอยเมื่อได้ยินคำนี้  หากเธอแค่ยิ้มและเดินตามหลังอีกคนต้อยๆ คริสตินกำลังเดินเชิดหน้าหัวเสียพาเข้าห้องนอนที่ยังเหลือว่างอีกห้อง  ระหว่างทางเธอหันไปยิ้มให้ผู้จัดการส่วนตัวที่เปิดดวงตาข้างหนึ่งมายิ้มให้เธอ  หญิงสาวทำมือโอเคให้หล่อนก่อนจะสะดุ้งโหยงเพราะเสียงที่ดังกะทันหัน

“ชักช้าท่ามาก  เดี๋ยวก็ให้นอนโซฟาเป็นเพื่อนผู้จัดการของเธอหรอก!”

“โอ้ยดุจริงเลย..  ไปแล้วค่ะไปแล้ว..”  นางแบบสาวลูกครึ่งขานรับแล้ววิ่งไปสอดแขนคล้องสาวตัวสูงกว่า  เดินเข้าประตูห้องไปด้วยกัน  เธอยิ้มอย่างมีความสุขที่ในที่สุดก็ชนะฝีปากกับหล่อนได้  หากอยู่ๆรอยยิ้มมีชัยก็หายวับไปเมื่อเหลือบตาขึ้นมองหน้าคริสติน  แปลกแต่จริงที่เธอรู้สึกกลัวหล่อนขึ้นมา
ถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับหล่อนในห้องนอนห้องนี้จริงๆล่ะ  จะว่าไง..

................................................   

ร่างบนเตียงนอนพลิกไปพลิกมาเป็นรอบที่ห้าร้อยแล้วคงจะได้  เธอนอนไม่หลับ  อาจเพราะแปลกที่  ทำไมนะทั้งที่เธอได้ครอบครองเตียงนี้คนเดียวด้วยซ้ำ  คริสตินเสียสละลงไปนอนที่พื้นแทน  เป็นเจ้าของห้องแท้ๆเลย..

ช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ..

เอ๋..  หล่อนเป็นผู้หญิงนะ  จะเป็นสุภาพบุรุษได้ไง!

ใช่สิ..เป็นผู้หญิงเหมือนกัน  แล้วทำไมไม่ขึ้นมานอนด้วยกันล่ะ  เหงาเหมือนกันนะเนี่ย..  มิกิคิดอย่างเพลียใจ  ดวงตาสีน้ำเงินมองทอดลงไปยังคนด้านล่างที่นอนหลับอย่างสบายถึงจะมีแค่หมอนกับผ้าห่ม  น่าอิจฉาจัง.. 

ปกติเวลาไปที่ไหนไกลบ้าน  เธอมักจะนอนเตียงเดียวกับคานาเดะเสมอ  แต่ช่วงหลังนี้พอคุณผู้จัดการรู้ว่าเธอมีความคิดแปลกไปจากเดิมก็เริ่มระวังตัว  หล่อนคงกลัวว่าเธอจะทำมิดีมิร้าย  อะไรกันทั้งที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเดินไม่เป็น..

คานาเดะใจร้าย..

ถอนหายใจเป็นครั้งที่ล้านจนนึกรำคาญตัวเอง  ถ้าเธอนอนไม่หลับแล้วพรุ่งนี้จะกลับไปทำงานได้ยังไง  หน้าต้องโทรมแน่ๆ ตาเป็นหมีแพนด้า  แล้วก็จะโดนพวกช่างแต่งหน้าบ่นจนหูชา  เพราะนางจะต้องเปลืองแรงโบ๊ะหน้าปิดตาดำๆให้เธอ  ไหนจะง่วงนอนกลางกองอีกล่ะ  โดนผู้กำกับตวาดอีกแน่..

โอ้ย..อะไรกันเนี่ย!

“เสียงความคิดเธอหนวกหูชะมัด  ถ้าไม่นอนก็ออกไปข้างนอกซะที  มันรบกวนคนอื่นเค้า  รู้บ้างสิ” 

มิกิตาค้าง  มองคนที่นอนหลับตาพูดอยู่ด้านล่างอย่างตกใจ  “คุณยังไม่หลับเหรอ  ฉันนึกว่า....”

“จะหลับได้ไง  เธอพลิกตัวไปพลิกตัวมาเสียงดังอย่างนั้น  นอนไม่หลับหรือไง..เด็กน้อย..”

คนถูกเรียก ‘เด็กน้อย’ ตกใจในคราแรกแต่แปลกที่เธอยิ้มชอบมัน  ยิ้มให้คนที่ลืมตามามองกันในความมืดสลัวของห้องนี้ด้วย  ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสของคริสตินสวยมาก  มันเหมือนเรืองแสงได้ในความมืด

ฉันหลงรักดวงตาคู่นี้จริงๆ...

“ทำไมถึงนอนไม่หลับ  กลัวอะไร.?”  คริสตินถามเสียงเบา  แปลกใจกับน้ำเสียงตัวเองที่ดังออกมา  มันเหมือนเธอเป็นห่วงหล่อน

ห่วงยัย Poison Ivy  เนี่ยนะ! 

พระเจ้า! อย่าล้อเล่นกันเลยน่า....

“ฉันไม่ค่อยนอนคนเดียวเท่าไหร่”  มิกิตอบตามจริง  กลับเห็นสายตาตกใจจากผู้หญิงบนพื้น  ความกลัวว่าจะเข้าใจผิดก็รีบพูดต่อ  “ปกติอยู่บ้านฉันนอนกอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่คุณพ่อซื้อให้  แต่ถ้าค้างที่อื่น  คานาเดะจะนอนเป็นเพื่อนทุกครั้ง”

คนฟังอึ้งไปสักพัก  รู้สึกแปลกๆในอกกับเรื่องเล่าที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวของอีกคน  มันอดไม่ได้ที่จะยิ้ม  “อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย  ยังนอนกับตุ๊กตาอยู่เหรอ  ถ้าแฟนคลับเธอรู้เข้า  จะว่าไง..”  ส่งเสียงล้อเลียนอย่างห้ามตัวเองไม่ได้  อีกฝ่ายจึงมองค้อนตาแทบกลับ  แปลกแต่จริง  ท่าทางแสนงอนแบบนี้กลับทำให้เธอมีความสุขจนอยากแกล้งต่อ  “แล้วที่ให้ผู้จัดการมานอนด้วยเนี่ย  แอบทำอะไรเค้าหรือเปล่า  หรือว่า...”

“หยุดนะ!  ห้ามคิดแบบนั้น  เค้าเป็นเพื่อนฉัน  รู้จักกันตั้งแต่เกิดต่างหาก  แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงสักหน่อย!”  ตอกกลับไปแล้วก็ตกใจตัวเอง  รู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก  แต่ไม่รู้ว่าเธอรู้สึกไปเองหรือไม่  สายตาของอีกคนอ่อนโยนลง  คริสตินไม่ได้มองเธอเหมือนตัวเชื้อโรคที่น่ารำคาญแล้ว

“มีอะไรจะเล่าให้ฟังไหม..  ฉันฟังได้นะ  ยังไม่ค่อยง่วง”

เสียงนุ่มๆจากหล่อน  ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด  อาจเพราะสายตาห่วงใยที่หาแทบไม่ได้ง่ายๆที่มองเธอ  มิกิส่ายหน้ายิ้มน่ารัก  หล่อนเลิกคิ้ว  หัวเราะเบาๆ

“ไม่มีก็นอนซะ  เดี๋ยวพรุ่งนี้ตาแดง  คนอื่นจะว่าฉันรังแกเธอ”

“ฉันอยากนอนกับคุณ”

คริสตินสะดุ้งเปิดตาโพลงขึ้นมาอย่างตกใจ  หัวใจเธอสั่นรัวอย่างน่ากลัวเมื่อมองเห็นคนบนเตียงก้าวลงมา  สมองสั่งให้ลุกหนีแต่แปลกที่ร่างกายไม่ขยับ  เหมือนถูกสต๊าฟไว้ด้วยดวงตาสีน้ำเงินที่จ้องมองไม่วางตา  กระทั่งหล่อนลงมานอนข้างๆในผ้าห่มผืนเดียวกัน  เธอยังนอนแข็งเป็นหิน 

“นี่เธอ..  ฉันไม่---”

“ฉันแค่อยากรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวเท่านั้น”  มิกิพูดเอาแต่ใจ  หากน้ำเสียงน่าสงสารจนคนฟังถอนหายใจปลงอย่างเสียไม่ได้  ที่สุดก็ยอมให้นอนอยู่บนพรมข้างๆกัน   สาวลูกครึ่งนั่นเหมือนจะเข้าสู่นิทราไปทันทีหลังจากที่หยุดพูด  ทำเอาคนนอนมองแปลกใจกระพริบตาปริบๆ 

คริสตินเริ่มขยับตัวได้หลังจากนั้นคล้ายมนตร์สะกดอะไรนั่นหายไป  หากแทนที่เธอจะลุกหนีขึ้นไปนอนเตียงแทนหล่อน  เธอกลับพบตัวเองยิ้มค่อยๆดึงคนที่หลับมาใกล้ให้อาศัยไออุ่นจากตัวเธอทำให้หล่อนหลับอย่างสงบมากขึ้น   ส่วนเธอเองก็หลับอย่างสบายใจ  อย่างน่าประหลาด... 

ไม่รู้หรอกว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ทั้งที่บอกตัวเองว่าไม่ชอบหล่อนสักนิด  หรือนี่จะเป็นเพราะว่า...

ความเหงาชักพาให้เรามาเจอกันล่ะ..มิกิจัง.. 




.......................................


ได้ข่าวว่า  มีคนชอบอ่านเรื่องนี้  ยอดวิวเยอะ ฮ่าๆๆ (ถึงจะไม่ค่อยมีเม้นท์)  :07:

พักเบรคจาก Casanovy season2 มาเจอเรื่องนี้บ้าง  ก็ดีเหมือนกันเนอะ  ถูกใจไหม.?

มีอะไรอยากติเตียนกันก็บอกได้นะคะ  จะได้ปรับปรุง

ขอบคุณค่ะ  แล้วเจอกันใหม่นะ   :51:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 20:43:19 anhann »



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

ออฟไลน์ Love...

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 7
Re: My little sweet devil Chapter Chapter 7 : คนของความเหงา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 19:25:35 »
มาโพสเเล้วคะไรท์ :71: ชอบเรื่องนี้มาก มาต่อไวๆนะคะ  :14:

(ไรท์อยากอ่าน คู่ อิงกริด&รีเบคก้า)  :67:

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Re: My little sweet devil Chapter Chapter 7 : คนของความเหงา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 19:32:31 »
มาโพสเเล้วคะไรท์ :71: ชอบเรื่องนี้มาก มาต่อไวๆนะคะ  :14:

(ไรท์อยากอ่าน คู่ อิงกริด&รีเบคก้า)  :67:


 :61:  ขอบคุณมากค่า

คู่แฝดน้อง รอก่อนนะคะ ไม่นาน  :67:
เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.