web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 230
Most Online Ever: 230
(วันนี้ เวลา 05:53:50)
Users Online
Members: 0
Guests: 214
Total: 214

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 16 - เธอคือใคร ?  (อ่าน 2213 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 16 - เธอคือใคร ?
« เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:56:42 »
Chapter  16  :  เธอคือใคร ?

“รักเหรอ..?” เสียงห้าวแหบรำพึงเบาๆออกมาขณะดวงตาสีมรกตมองเหม่อขึ้นไปบนท้องฟ้า  แสงที่สว่างจ้าของดวงตะวันในตอนสายอาจจะทำร้ายดวงตาของเธอได้หากเธอยังเลือกจะมองขึ้นไปแบบนี้โดยไม่หยิบแว่นกันแดดมาใส่  มาช่วยบรรเทา  แต่ความสนใจในตัวเองก็น้อยจนเกินไป  เธอสนใจแต่คนที่ถูกทิ้งไว้ที่เกาะ..คนเดียว
ดิออนถอนหายใจอย่างหมดหวังและก้มหน้าลงมองผืนทะเลแทน  มองเกลียวคลื่นขนาดเล็กที่เกิดจากใบพัดของเรือของเธอ  “รักแล้วทำไมไม่ทำเหมือนว่ารักบ้างล่ะ  สายตาเธอเหมือนอยากแต่จะฆ่า  หรือไม่ก็กินฉัน  มันอะไรกันแน่..แคล”  เธอบ่นเหมือนคนฟังอยู่ตรงนี้ด้วย  แต่มันก็ช่วยทำให้ความอึดอัดในใจคลายลงได้บ้าง  ไม่เช่นนั้นคงจะอกแตกตายไปแล้ว 

..ไม่คิดเลยว่า..  การรักใครสักคนมันจะเป็นเรื่องยากแบบนี้  ไม่ใช่สิ..ต้องบอกว่า  การทำความเข้าใจเขามันยาก  อย่างนี้ถึงจะถูก..  เธอแก้คำให้ตัวเอง

“เฮ้..ยัยดิว  ไปยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นล่ะ  เดี๋ยวก็ไม่สบายพอดี  แดดแรงออกนะ” เสียงที่ทำให้เธอยิ้มได้ในทุกครั้งที่มีความทุกข์ดังขึ้นจากด้านหลัง  และไม่นานเจ้าของมันก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆ 
ดิออนแทบไม่จำเป็นต้องมองว่าเป็นใคร  เธอก็รู้ 
“ถ้าฉันอยากจะป่วยบ้าง..  มันจะเป็นอะไรไปล่ะ” เธอถามกวนๆ จนได้ยินเสียงจิ๊จ๊ะอย่างรำคาญใจดังตามมา  เธอสั่นศีรษะน้อยๆ “เอาน่า..แม่บอดี้การ์ดสาว  ฉันจะไม่ยอมให้เจ้านายเธอมาเล่นงานเธอได้หรอกนะ  แล้วอีกอย่าง  แดดแค่นี้..ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”  เธอบอกอย่างอารมณ์ดีพลางโอบบ่าคนข้างตัวเข้ามาใกล้ๆคล้ายต้องการความอบอุ่นจากใครสักคน
ไมเหมือนจะเข้าใจเรื่องนี้ดี  จึงยอมปล่อยให้ตัวเองอยู่แบบนั้นไปสักพักกับความเงียบที่กลายเป็นบรรยากาศระหว่างกัน  รอเวลาว่าเมื่อไหร่ที่อีกคนจะรู้สึกดีขึ้นและหล่อนก็จะพูดกับเธอ
“เจ้านายเธอ..  เขาเป็นอะไรที่ฉันเหมือนไม่รู้จักเลยสักนิด”  ดิออนพึมพำขึ้นมาน้ำเสียงเศร้า  แววตาเหงาๆของเธอมองลงไปยังผืนทะเลอีกครั้ง  และศีรษะของเธอก็ถูกสัมผัสจากมือของอีกคนดันให้ศีรษะของพวกเธอสองคนได้แนบชิดกัน  เวลานี้เองที่เธอรู้สึกว่าหยดหนึ่งของน้ำตาร่วงลง  แต่ไม่แน่ใจว่าไมจะเห็นมันหรือไม่  อาจจะเห็นแต่ไม่พูด
“คุณแคลเป็นคนลึกลับ  บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน  ทั้งๆที่อยู่กับเขามาตั้งสามปี  ไม่แปลกหรอกที่เธอจะไม่เข้าใจ  แต่อยู่ๆไป  เขาก็จะค่อยๆเปิดใจให้เธอได้รู้จักเขามากขึ้น  ไม่ต้องห่วงหรอกนะ”
เด็กสาวพยักหน้าอย่างไม่แน่ใจและถอนหายใจเบาๆ แต่ทว่าดวงตาเศร้าๆก็กลับสดใสขึ้นเมื่อนึกบางเรื่องขึ้นมาได้  เธอหันไปมองหน้าอีกคนไวจนเขาสะดุ้ง
“อะไร..ยัยดิว..”  ไมเริ่มกลัวกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปไวเกินไปของเพื่อนรัก  พอๆกับที่กลัวเจ้านายที่รักของเธอ  สองคนนี้มีส่วนคล้ายกันก็ตรงนี้แหละ  มิน่า..ทะเลาะกันตลอด
“เธอรู้ใช่มั้ยว่า..จริงๆแล้ว  แคลไม่ได้นามสกุล ‘ดารอฟสกี้’ ”  คำถามนี้ทำให้อีกคนถึงกับตาโตอย่างตกใจ  และไมก็เริ่มจะถอยออกห่างเธอ  แต่เธอไม่มีทางยอม  มือเล็กพยายามรั้งร่างเขาเอาไว้ 
“บอกมาเถอะไม..  ฉันพอรู้มาบ้างแล้ว”  ดิออนส่งสายตาไปทางผู้เป็นบิดาของเธอที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของเรือกับบรรดาลูกเรือสองสามคน  เพื่อยืนยันว่าเธอรู้เรื่องนี้มาจากใคร 
เสียงถอนหายใจยาวๆดังมาจากคนใกล้ๆ ก่อนที่ดวงตาสีม่วงจะมองเธออย่างจริงจัง  “ใช่..ฉันรู้  แต่ก็รู้ไม่มากหรอกนะ  คุณแคลรับฉันมาอยู่ในความดูแล  ตอนที่เขากลับมาอยู่และทำงานที่นี่   เรื่องของเขาที่อังกฤษ  ฉันไม่รู้  รู้แต่ว่าเขา....” 
ไมไม่กล้าพูดต่อเพราะกลัวว่ามันจะยิ่งไปทำร้ายจิตใจคนฟัง  แต่พอเห็นอีกสาวพยักหน้าให้เล่าต่อไป  เธอก็ขัดไม่ได้  “เขา..แต่งงานแล้ว  แต่ก็เลิกกันแล้วกับคนคนนั้น” 
“และยังไม่ได้หย่า”  ดิออนเสริมคำของคนเล่าที่ยังทำท่าเหมือนไม่เต็มใจอยากจะเล่าอยู่เหมือนเดิมจนกระทั่งตอนนี้  และเขาก็ทำแค่พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้กลับมา
ร่างบางวางสองแขนไว้กับราวระเบียงเรือและวางคางของตนลงกับสองมือที่ประสานกันไว้  ตามองทอดไปยังน้ำใสๆสีฟ้าครามของผืนทะเลอีกครั้ง  ถอนหายใจเบาๆ “ฉันแค่อยากรู้ว่า..  เขาเป็นใคร..ผู้หญิงคนนั้น  เธอช่วยฉันได้มั้ย..ไม” 
เมื่อเห็นกิริยาท่าทางแบบนี้ของอีกคน  ไมก็รู้ได้ทันทีเลยว่า  เธอคงจะปฏิเสธเขาได้ยากเสียแล้ว  ดิออนคงไม่ยอมหยุดหาคำตอบนี้  ถึงแม้จะไม่ใช่เธอที่บอก  แต่หล่อนก็จะหามันมาให้ได้อยู่ดี 
“ถ้าเธอคิดจริงจังกับเรื่องงานได้มากเท่าเรื่องนี้   คุณพ่อเธอก็คงจะไม่เหนื่อยเท่านี้นะ..ยัยดิว”  ไมแกล้งหยอก  เพราะต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ  และก็ได้รับสายตาพิฆาตกลับมาอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด  เธอหัวเราะร่วนไปหลายนาที  แล้วกลับมามีสีหน้าจริงจังเหมือนสั่งได้
“เธอแน่ใจนะว่า..อยากจะรู้”  บอดี้การ์ดมือดีพูดหยั่งเชิงอีกคน  และก็แน่นอนว่า  เธอได้สายตาท้าทายจากดวงตาสีมรกตกลับมา  ไมเม้มปากเล็กน้อยก่อนขยับมันใหม่  “เขาเป็นผู้พัน..”
“ชื่ออะไร..  นามสกุลด้วย”  ดิออนรัวคำถามอย่างร้อนใจ  เพราะเหมือนเพื่อนของเธอจะถ่วงเวลามากไปแล้ว 
ไมถอนหายใจยาว  และก้าวเข้ามากระซิบที่ข้างหูของดิออนซึ่งก็เบิกตาโตขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำตอบครั้งนี้ของเธอ

“เขาชื่อ..  ‘ผู้พันแองเจล่า  มิลเลอร์’ ”

“ญี่ปุ่นหรือคะ”  เสียงนุ่มถามย้อนสิ่งที่ได้ยินมาด้วยท่าทางไม่มั่นใจ  แต่สายตาของชายเบื้องหน้าที่ปรายตามาหา  ก็บอกให้เธอรู้ว่า  เธอไม่ได้ฟังอะไรผิด  ริมฝีปากสวยจึงเม้มลงอย่างเป็นกังวล 
“หากดิฉันจะขอถอนตัว  จะเป็นไปได้หรือไม่คะท่าน” สาวร่างสูงในชุดนายทหารชั้นสัญญาบัตรพยายามถามใหม่  ทั้งที่รู้ดีว่าคำสั่งที่ได้รับฟังมา  ยากเย็นเพียงใดที่จะปฏิเสธหรือเปลี่ยนแปลง  แต่เธอก็มีความจำเป็นที่จะต้องพยายาม
เสียงถอนหายใจยาวๆดังมาจากชายคนเดิมและเขาก็หันหลังให้มองไปยังหน้าต่างคล้ายไม่ต้องการมองหน้าเธออีกต่อไป “คำสั่งนี้ถือเป็นที่สุดแล้ว”
เสียงแหบห้าวแต่ฟังมีอำนาจนั่นทำให้เธอยืนตัวสั่นสะท้าน  เพราะมันออกมาพร้อมกับคำพูดประโยคนี้  ที่เธอต้องยอมก้มหน้ารับชะตากรรม  หากยังต้องการจะอยู่ในตำแหน่งหน้าที่นี้ต่อไป  และใช่..เธอต้องการมันอยู่  เพราะรู้ดีว่า  ชีวิตของเธอในโลกนี้  มีเพียงงานเท่านั้นที่จะสามารถทำให้เธอยังคงความเป็นเธออยู่ได้  ช่วยให้เธอไม่แหลกสลายไปกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทางใจอันสาหัสสากรรจ์นั้น 
ร่างสูงยืดตัวตรงขึ้นอย่างเข้มแข็งเต็มความสูง 195 เซนติเมตร  ยกมือข้างขวาขึ้นให้ปลายนิ้วแตะที่หางคิ้วเรียวของเธอเป็นท่า วันทยาหัตถ์ และเอ่ยตอบรับคำสั่งอย่างแข็งขันไม่ว่าความจริงแล้วจะกำลังรู้สึกอย่างไร
“รับทราบค่ะ..ท่านนายพล”
--The bodyguard--
กาลเวลาของที่นี่ผันเปลี่ยนไปอย่างเชื่องช้า  แตกต่างกันอย่างมากกับเมืองหลวง  แต่แม้จะล่วงเลยเวลานอนตามปกติของเธอมาแล้ว  แคลก็ยังคงหลับไม่ลง  ดวงตาสีแดงยังคงเปิดอยู่  มองจ้องอย่างว่างเปล่าไปยังเพดานของบ้านหลังน้อยของเธอ  ยังรู้สึกไม่คุ้นชินกับการอยู่เพียงลำพัง  ยิ่งกับความเงียบที่น่าใจหายแบบนี้  การอยู่คนเดียวมันยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวมากขึ้นไปอีกหลายเท่า  ทั้งหวาดระแวงและเหงามาก  ว้าเหว่จนถึงที่สุด  เพราะอะไรกัน... 
น่าแปลกเหมือนกันที่เมื่อก่อนตอนยังเด็กกว่านี้มาก เธอยังสามารถอยู่ที่นี่ได้ด้วยความสบายใจ  สนุกสนานและไร้กังวล  มีเรื่องราวอะไรใหม่ๆให้เธอได้เรียนรู้มากมายการถูกกักบริเวณมาอยู่เกาะกลายเป็นอะไรที่เธอชื่นชอบ  จนต้องพยายามทำเรื่องอะไรก็ได้ให้เธอได้มาที่นี่ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า  คงเป็นเพราะเกาะแห่งนี้เป็นที่เดียวที่เธอสามารถจะเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ในเวลานั้น  ไม่ต้องถูกกดดันด้วยตำแหน่งทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล
แต่ความรู้สึกนั้นในวันนี้  มันได้เป็นอดีตไปแล้ว...
แคลไม่ได้กลับมาที่นี่ตั้งแต่ที่เธอเดินทางไปเข้าเรียน ณ โรงเรียนเตรียมทหารในประเทศอังกฤษ  เป็นเวลาถึงสิบสองปีแล้วที่เธอไม่ได้มาเหยียบที่นี่อีกเลย  และคงไม่น่าแปลกอะไรใช่หรือไม่  หากจะไม่คุ้นชิน 
แต่ความจริงแล้ว  ไม่ใช่เลย  ทุกอย่างที่นี่ไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนไปมากนัก  สภาพของเกาะและบังกะโลอาจจะเปลี่ยนไปบ้างตามกาลเวลาที่กัดกร่อนให้มันผุพัง  ธรรมชาติอาจจะทำร้ายมันให้ดูแปลกตา  แต่โดยรวมแล้วบรรยากาศไม่ได้แตกต่างไป  หัวใจของเธอต่างหากที่เปลี่ยน  มันเลวร้ายกว่าที่อะไรในโลกนี้แปรเปลี่ยนเสียอีก
และเธอก็ไม่ได้หลงเหลือความชื่นชอบการมาอยู่เกาะอยู่เลยในวันนี้...
--The bodyguard--
หลังจากกลับมาถึงบ้าน  ดิออนก็แทบจะไม่สนใจใคร  ไม่แม้จะเก็บสัมภาระของตนเข้าที่เข้าทาง  เธอตรงดิ่งไปยังห้องอ่านหนังสือที่มีคอมพิวเตอร์ต่ออินเทอร์เนตเรียบร้อยอยู่ในนั้นและเธอก็เข้ามานั่งท่องไปในโลกออนไลน์เพื่อสิ่งๆเดียว  จะคุ้มค่าหรือนี่
 “พันตรีหญิงแองเจล่า  มิลเลอร์”  ชื่อนี้ถูกพึมพำขึ้นมา  ไล่เลี่ยมากับการใช้ปลายนิ้วของเธอกดแป้นพิมพ์  ดวงตาสีมรกตจดจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์  สแกนสายตามองหาสิ่งที่เธอต้องการจากในนั้น  สิ่งที่เธออยากรู้บางทีอินเทอร์เนตอาจจะช่วยเธอได้บ้างไม่มากก็น้อย  และสิ่งที่ได้มาไม่ว่าจะมากหรือน้อย  คงสามารถลดความวุ่นวายใจให้เธอ
แต่ทำไมเธอถึงอยากจะรู้เรื่องของใครคนนั้นมากขนาดนี้กันล่ะ  ทั้งที่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวเธอเลย  ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ  ผู้หญิงคนนั้นอาจจะอยากมาเอาของของเขากลับไปเมื่อไหร่ก็ได้ ใครจะรู้...  เธอเถียงตัวเอง
“นี่ไงๆ คนดังนี่หว่า..” เสียงห้าวราวเด็กผู้ชายร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นผลลัพธ์ของการนั่งหลังแข็งอันน่าประทับใจ  ข้อมูลของใครคนหนึ่งแสดงออกมาต่อสายตาเธอแล้ว  แม้จะไม่ทั้งหมดของตัวตนของเขาก็ตาม  แต่ข้อมูลพื้นฐานแบบนี้ก็พอจะทำให้เธอสบายใจขึ้นได้  หรือยิ่งกังวลกันแน่นะ
“สูง 6 ฟุต 5 นิ้ว โอ้โห... สูงเหมือนที่แคลบอกเปี้ยบเลย  ไหนๆขอดูหน้าหน่อยสิ  หน้าตาเหมือนผู้หญิงมั้ยเนี่ย” ดิออนพูดคนเดียวและหาสิ่งที่อยากรู้ต่อไปอย่างไม่นึกเสียดายเวลา  และต่อมาสองตาของเธอก็เบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อได้เห็นในสิ่งที่อยากจะเห็น 
“สะ...สวยมาก..  คนรึเปล่าเนี่ย  หรือภาพวาด  ว้าว..”  เธอวิจารณ์คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยไปเรื่อยๆเหมือนนักสืบที่ไม่ยอมเหนื่อยในการตามหาความจริง 
“ตาสีเขียวน้ำทะเลหายากนะนี่  แต่....”  และแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นบางอย่างที่ไม่ปกติจากรูปของผู้หญิงที่เธอชื่นชม
“ผม...  สีผมของเขา..  ทำไม...” ครางออกมาอย่างคนเพ้อและรีบคว้าเส้นผมช่อหนึ่งของตัวเองมาดู   ดิออนรู้ว่าเธอไม่ต้องดูเพื่อเปรียบอะไรก็ได้  มันเห็นเด่นชัดอยู่แล้วถึงความต่างกันอย่างสุดขั้วของเส้นผม  ในเรื่องสี
“สีเงินเหรอนั่น..   เขาอายุเท่าไหร่..  ยี่สิบแปด..  บ้าแล้ว..”  ความตกใจและประหลาดใจยังมีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเมื่อเธอพิจารณาสิ่งที่เห็นมากขึ้น 
ดิออนสั่นศีรษะเพื่อตั้งสติใหม่และพยายามจะหาข้อสนใจอื่นในข้อมูลเป็นพรืดที่อยู่เบื้องหน้า  แต่สายตาก็ต้องเวียนกลับไปหาใบหน้าสวยงามดั่งเทพีกรีกมาจุติอยู่เนืองๆ เหมือนต้องการจะเห็นอะไรมากกว่านี้  และไม่นานเธอก็เข้าใจแล้วว่าเธอต้องการอะไรจากการมองภาพนี้ 
“คุณจะต้องมีอะไรดีมากกว่า  แค่สมองดี  บ้านรวย  หน้าสวย  หุ่นดีแน่ๆ ผู้พัน” เธอกัดฟันพูดออกมา





เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.