web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 164
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 148
Total: 148

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 15 - ก่อนจากกัน (ชั่วคราว)  (อ่าน 2036 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 15 - ก่อนจากกัน (ชั่วคราว)
« เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:54:34 »
Chapter  15  :  ก่อนจากกัน (ชั่วคราว)

ดิออนรีบสาวเท้ายาวๆเดินจากเรือนใหญ่มาตั้งแต่เช้าตรู่  เธอรู้สึกผิดที่เมื่อคืนเผลอนอนหลับไป  หลังจากได้อาบน้ำ  และก็นอนยาวมาจนสะดุ้งตื่นเอาเมื่อสักครู่  เธอรู้ว่าสาเหตุมันคืออากาศที่นี่ดีมาก  และเธอก็เหนื่อยมากเกินไป  เกินกว่าจะสามารถแข็งใจไว้ไม่ให้หลับ  แต่จะเอาเหตุผลนี้มาบอกกับแคลได้หรือไม่ที่เธอผิดสัญญาที่บอกว่าจะมานอนเป็นเพื่อนหล่อนในคืนแรกของการอยู่ที่นี่   เธอจะทำอย่างไรดีถ้าหากแคลโกรธเธอและไม่ยอมพูดด้วยอีกต่อไป  ยิ่งคิดสองขาก็ยิ่งรีบเพิ่มความเร็วในการเดินให้มากขึ้น  ไม่สนใจว่าใครจะร้องทักทาย ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อหรือน้องสาว  จุดหมายของเธอมีจุดเดียวก็คือบังกะโลหลังเล็กริมทะเลหลังนั้น

และเมื่อมาถึงเธอก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวที่เห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าบ้านในความสลัวของท้องฟ้าที่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นมาเต็มที่  เธอดีใจจนไม่ได้มองเลยว่าแคลกำลังคุยอยู่กับใครในเวลาที่เธอพุ่งเข้ามาหาและโอบรอบคอเขา  โน้มตัวหล่อนลงมาจูบ  เธอไม่รู้เลยว่าทำไมถึงตัดสินใจจูบแคล  คงแค่อยากจะขอโทษ  แต่ไม่รู้จะทำยังไงดีล่ะมั้ง
แคลลี่ตกใจที่ถูกทำแบบนี้ตั้งแต่เช้ามืดจากคนที่ตนนึกไม่ถึงว่าจะทำ  และเธอก็รู้สึกดีที่เกินกว่าที่จะปฏิเสธมันไป  ความทุกข์ที่ทำให้นอนไม่หลับมาทั้งคืนเหมือนจะถูกลืมไปซะสิ้นกับจุมพิตที่ได้มาในครั้งนี้  และเธอก็ตอบสนองมันไปอย่างไม่แคร์ว่าจะมีสายตาอีกคู่มองอยู่ตรงนี้ด้วย
“โอ้ย..โอ้ย..  คุณแคลคะ..  ฉันขอตัวไปก่อนนะคะ  แล้วจะมาหาใหม่  เอาเป็นหลังอาหารเช้าก็ได้ค่ะ”  ไมเอามือปิดตาและทำท่าเหมือนไม่อยากดูคนจูบกัน  แล้วก็หันเดินจากไปเงียบๆและรีบๆ แต่ก็ยังทันได้ยินเสียงร้องครางอย่างอับอายตามหลังมา  ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของอีกคน   จนต้องยิ้มออกมาอย่างมีความสุขอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ
--The bodyguard--
“นี่ยังจะโกรธอยู่อีกเหรอ..  ก็บอกไปหมดแล้วนี่”  ดิออนเดินตามหลังคนตัวสูงกว่าที่เดินนำหน้าไปตามชายหาดอย่างไม่คิดว่าเธอจะเดินตามไม่ทัน  และเมื่อคิดว่าเธอคงเดินไม่ทันแน่ๆเพราะขาสั้นกว่ามาก  จึงออกวิ่งและในที่สุดก็มาดักหน้าหล่อนได้สำเร็จและพยายามจับตัวหล่อนไว้ด้วยแรงทั้งหมด  ทำไมจะต้องงอนกันขนาดนี้ด้วยนะ  อุตส่าห์ขอโทษแล้วนี่.. 
“แคล..?” เธอเรียกชื่ออีกคนอย่างกังกลใจ  เมื่อเห็นดวงตาสีเดียวกับดวงตะวันยามเช้าขาดความสดใส  มันคล้ายกับเวลาที่ด้านมืดดำในจิตใจของหล่อนชนะด้านสว่างและซาตานตนนั้นก็กลับมาสิงร่างของเขาอีก
 “แคล..?”  ดิออนเรียกซ้ำเพราะเห็นเขายังนิ่งอยู่เหมือนก้อนหิน  แต่สิ่งที่ได้ยินต่อมาพาให้หัวใจของเธอเต้นแรง
“เธอรักฉันมั้ย”  แคลยิงคำถามที่มันคาใจมานาน  เธอสับสนมานานแล้วกับพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้  ที่บางทีก็ทำเหมือนสนใจ  แต่บางครั้งก็แสดงออกมาว่าไม่แคร์เธอเลย  และครั้งนี้ก็เหมือนกัน  เมื่อหล่อนทำแค่ยืนตาโตอยู่ตรงนี้และหน้าซีดเผือด  เธอจึงเลือกคำตอบให้ตัวเองแทน  “โอเค..  ไม่รัก..   ไม่เป็นไร..  เดี๋ยวฉันจะไปบอกคุณพ่อเธอให้เรื่องถอนหมั้นก็แล้วกัน  ฉันจะได้ไม่ต้องนอนอยู่เกาะบ้าๆนี่ไปอีกสองอาทิตย์ฟรีๆ” 
ร่างสูงทำท่าจะเดินหนีไปอีกรอบ  แต่กลับถูกดึงกลับมาง่ายๆ คล้ายคนตัวเล็กจะมีแรงมากกว่าเธอเสียแล้ว  แต่มันไม่ใช่เมื่อทั้งเธอและหล่อนต่างเซถลาล้มลงไปบนผืนทราย  โดยมีเธอนอนหงายอยู่ด้านล่าง  เป็นโชคดีของดิออนไปที่ไม่ได้ถูกทับจนแบนติดกับชายหาด
ดวงตาสองสีมองกันอย่างบังเอิญเมื่อเปิดขึ้นมาพร้อมกัน  แต่ฝ่ายคนนอนด้านล่างเริ่มเบือนหน้าหนีไปคล้ายๆไม่อยากมองหน้าอีกคน 
“แคล..”
“ไม่ต้องพูด..  ฉันรู้หมดแล้ว”  แคลตัดบทของอีกคนทันทีและเตรียมที่จะลุกขึ้นอย่างที่ยอมจะไม่สนใจกับอาการวูบวาบในร่างกายของตัวเองที่เกิดขึ้นระหว่างที่สัดส่วนของตนถูกสัมผัสด้วยสัดส่วนของคนบนตัว  แต่ก็ทำไม่ได้อย่างใจเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอม  ดิออนยังนั่งคร่อมตัวเธอและพยายามกดบ่าทั้งสองข้างของเธอไว้ด้วยแรงที่มี
“เราจะพูดดีๆกันได้มั้ย”  ดิออนพยายามแต่อีกคนส่ายหน้ากลับมาอย่างไม่ใส่ใจ  และเธอก็เริ่มหงุดหงิดกับความดื้อรั้นของผู้หญิงคนนี้เต็มที  “โอเค..  ไม่พูดก็ไม่พูด  งั้นฉันจะทำแบบนี้ก็แล้วกัน”
แคลลี่ตั้งใจจะหันมาดูว่าดิออนจะทำอะไร  แต่ดวงตาของเธอก็เหมือนจะเปิดขึ้นไม่ไหวเมื่อร่างกายไม่ยอมทำตามคำสั่ง  สมองมันชา  สนใจเพียงแต่ว่าตอนนี้ปลายลิ้นของอีกคนทำอะไรกับตัวเธออยู่   ตรงกกหูให้ความรู้เปียกชื้นไปด้วยของเหลวจากปากของคนบนตัวเธอที่กำลังพยายามสร้างความพึงพอใจให้กับเธอตรงนั้น  เหมือนกับที่มือเล็กนั่นพยายามไล้ไปตามเนื้อตัวของเธอ 
บอดี้การ์ดสาวเริ่มรู้สึกตัวสั่นและเผลอครางออกมา  แต่พยายามจะตั้งสติเอาไว้และใช้แรงที่ยังพอมีเหลือดึงตัวดิออนออกมามองหน้ากัน  เพราะยังไงก็ยังไม่เชื่อว่าอีกคนจะพร้อมทำเรื่องแบบนี้กับเธอ

“ทำอะไร” เสียงของเธอเหมือนจะแหบเกินไปขณะพยายามถามคำถามนี้  เพราะตอนนี้ร่างกายมันอ่อนปวกเปียกไปหมดแล้ว  ตั้งแต่ถูกลุกล้ำที่จุดอ่อน  แต่แคลก็เกือบจะหัวเราะออกมาได้ในทันทีที่เห็นสีหน้าจริงจังของคนที่ยังนั่งคร่อมอยู่บนตัวเธอ  ..น่ารักจริงๆ..
“ก็ตอบคำถามเธอไงล่ะ..ถามได้ !”  ดิออนตะคอกออกมาโดยที่ลืมไปว่าในเวลาแบบนี้เธอควรจะพูดดีๆกับหล่อน  ไม่ใช่ดุ  แต่เรื่องนี้ก็รู้สึกว่าจะไม่ใช่ปัญหาของแคลอีกต่อไปแล้วเมื่อหล่อนหัวเราะออกมาต่อหน้าเธอ  และทำให้เธอต้องมองอย่างเคืองๆ “เป็นบ้าหรือไง..หัวเราะอยู่ได้  คนเขาจริงจังอยู่ตรงนี้ทั้งคน”
แคลลี่พยายามหยุดหัวเราะแต่ก็ทำไม่ได้  อารมณ์รุมร้อนเมื่อครู่มันหายไปหมดเพราะหน้าตาน่ารักแบบไร้เดียงสาของผู้หญิงคนนี้ที่ยังพยายามจะขู่เธอต่อไปด้วยดวงตาสีเขียวดุจมรกตที่ลุกวาวนั่น 
“ขอโทษ..  ขอโทษ..  มันอดไม่ได้จริงๆ”  เธอพยายามพูดออกมาและคว้าคนบนตัวไปกอดไว้จนแน่น  ไม่สนใจว่าเขาจะอึดอัดหรือไม่  แต่เมื่อดิออนเงียบไปและปล่อยให้เธอกอดอย่างพอใจ  วงแขนที่แน่นเกินไปจึงค่อยๆคลายออก  ดวงตาสีแดงปิดลงช้าๆ จากนั้นก็ขยับมือข้างหนึ่งเพื่อลูบเส้นผมสีเข้มที่นุ่มมือ  ทำเหมือนจะกล่อมให้อีกคนหลับ
“แคล..?”
“หืม..?”
“ฉันง่วง..”
แคลอึ้งไปเล็กน้อยกับคำตอบที่ได้มา  เธอเปิดตาขึ้นและมองลงไปยังคนที่นอนหนุนอกเธออยู่นิ่งๆ  เพราะคิดว่าดิออนน่าจะพูดอะไรที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกโรแมนติกกว่านี้ทั้งที่อุตส่าห์ได้มานอนเล่นบนชายหาดด้วยกันในตอนพระอาทิตย์ขึ้น  แต่พอเห็นใบหน้าขาวอันไร้เดียงสาที่เจ้าของมันนอนหลับตาพริ้มอยู่  เธอก็ยิ้มอ่อนโยนออกมาและกระซิบเบาๆ
“งั้นก็นอนสิจ๊ะ  ฉันจะอยู่กับเธอ”  ตลอดไป..
--The bodyguard--
“ดูแลงานแทนฉันด้วยนะไมจัง  แต่ถ้ามีอะไรเร่งด่วนก็ติดต่อมาได้  ฉันจะให้คนที่เรือนใหญ่เปิดระบบดาวเทียมเอาไว้ตลอดเวลา”  แคลยืนสั่งงานอย่างมืออาชีพกับผู้ที่ตนเรียกมาพบอีกครั้ง  หลังอาหารมื้อเช้าที่จะเป็นเวลาสุดท้ายที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่ 
หลังจากนี้เธอจะต้องอยู่คนเดียวต่อไปในระยะเวลาอีก 13 วัน  ที่เป็นช่วงของเวลาการถูกกักบริเวณทำโทษ  เธอจะมีสิทธิ์กลับไปสู่เมืองหลวงและใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้งเมื่อผ่านกำหนดเวลานี้ไปแล้ว  ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่เธอจำเป็นต้องเรียกลูกน้องที่ไว้ใจที่สุดมาพูดคุยเรื่องงานด้วยกันแบบนี้ 
ไมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจและรอฟังว่าเจ้านายที่รักของเธอจะพูดอะไรอีก  ซึ่งจะต้องมีแน่ๆ เมื่อแคลยังไม่ได้สั่งให้เธอจากไป  และเขาก็ยังมีสีหน้าเป็นกังวล  รออยู่นานจนอดทนต่อไปไม่ได้  จึงตัดสินใจพูดเอง 
“คุณแคลจะให้จัดคนของเราไปเฝ้าคฤหาสน์สวอนส์มั้ยคะ” และก็เป็นไปตามคาด  แคลทำหน้าเหวอออกมาเหมือนคนตกใจที่ถูกรู้ทัน  แต่เขาก็พยักหน้ายอมรับในที่สุด  และเอ่ยพูดมาจนได้ 
“เธอก็ไปอยู่เป็นเพื่อนเขาด้วยล่ะ ที่บ้านเราให้คนอื่นดูแลไปก่อน” ผู้เป็นเจ้านายออกคำสั่งเสียงเรียบแต่แววตากลับดูอ่อนโยนเมื่อมองตาคนที่ไม่ใช่เป็นแค่พนักงานธรรมดาที่พยักหน้ารับอย่างไม่โต้แย้ง 
และดวงตาสีแดงบอกอีกคนได้มากกว่าคำพูด  ตอนนี้เธอจึงถูกกอดไว้จนแน่น  และกอดตอบกลับไปอย่างไม่ฝืน  ลูบแผ่นหลังของน้องสาวบุญธรรมอย่างอ่อนโยน  “ฉันโอเค..  ไม่เป็นไรหรอก.. ไม่ต้องห่วงนะ” 
วงแขนที่รัดตัวเธอเพิ่มแรงมากขึ้นจนรู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่ปริปากบ่น  เพราะรู้ถึงความรู้สึกของอีกคนดี  หล่อนห่วงเธอมาก และพอสักพักไมก็ปล่อยเธอและทำท่าจะจากไป  แต่เธอเข้าไปหยุดไว้เสียก่อน   แคลลี่ยิ้มอ่อนโยนให้กับคนหน้าแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้  แล้วเธอก็จบบทสนทนาของตัวเองด้วยจูบเบาๆที่หน้าผากและเสียงหวานๆที่กระซิบแผ่วเบาอย่างอารมณ์ดีออกมา
“เธอก็ด้วยนะ.. ดูแลตัวเองให้ดี..  อย่าทำงานหนักจนไม่สบายไปล่ะ  ไม่งั้นฉันจะกลับไปทำโทษ  จำไว้ให้ดี”
--The bodyguard--
ยืนยิ้มอยู่ตามลำพังหลังทำการร่ำลากับน้องสาวบุญธรรมเป็นที่เรียบร้อย  แคลเพียงแต่รอคอยเวลาที่จะไปส่งทุกคนขึ้นเรือกลับไปเมืองหลวง  จากนั้นเธอก็ใช้ช่วงเวลาหลังจากนี้อยู่กับตัวเองและทบทวนความผิด  เหมือนทุกครั้งที่ต้องมาอยู่ที่นี่  เธอไม่สิทธิ์ก้าวข้ามไปถึงเรือนใหญ่ที่ตั้งอยู่เข้าไปในพื้นที่ของเกาะ  แม้มันจะอยู่ห่างจากบังกะโลหลังเล็กของเธอไม่มากนัก 
ที่นั่นเป็นสถานที่ที่เป็นที่พักตากอากาศที่แท้จริงของที่นี่  ไม่มีสิทธิ์เข้าไปใช้ความสะดวกสบายที่นั่นหรือแม้แต่จะใช้คนที่ประจำอยู่ที่นั่นได้เลย  ตามข้อกำหนดของการรับโทษของการถูกกักบริเวณเพื่อสำนึกตัว  จนกว่าจะครบกำหนดเวลา 
แต่กฎทุกกฎก็ย่อมมีข้อยกเว้น  เธอสามารถขอความช่วยเหลือจากคนดูแลเรือนใหญ่ได้ในเวลาฉุกเฉิน  หรือมีใครติดต่อเรื่องด่วนมา
“ร่ำลากันเรียบร้อยแล้วเหรอ” เสียงที่ดังแว่วมาเข้าหู  ทำให้ร่างสูงต้องหันหาที่มาของเสียง  แม้ว่าจะรู้ดีว่าเสียงนี้เป็นของใคร 
แคลยิ้มอย่างที่ไม่ยอมซ่อนความดีใจไว้เลยที่ได้เห็นอีกคนเดินเข้ามาใกล้ๆ  แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป  คล้ายกำลังรอให้อีกฝ่ายได้พูดต่อและก็ไม่ต้องรอนาน  สาวหน้าคมนั่นก็เริ่มต้นอีกครั้ง
“นี่ถ้าไม่ได้รู้จักกันมาก่อนนะ  ฉันจะต้องคิดว่า..ยัยไมเป็นหนึ่งในฮาเร็มของเธอแน่ๆ”  ดิออนเห็นอีกคนเลิกคิ้วข้างหนึ่งให้พร้อมมองด้วยสายตาขบขันกับคำที่เธอวิจารณ์  เธอฮึดฮัดเพราะท่าทางแบบนั้น  แสร้งกอดอกเมินหน้าไปทางอื่นแต่ก็ยืนอยู่ที่เดิม  เพราะเธอไม่อยากให้เขาเห็นหน้าเธอชัดๆขณะพูดประโยคนี้
“ท่าทางหวานกันจนเลี่ยน..น่าหมั่นไส้”  ดิออนโดยไม่ทันสังเกตว่า  คำพูดจาของตนได้เปลี่ยนไปแล้วแต่แคลสังเกตมัน
“หึงฉันเหรอ..  ที่พูดแบบนี้”  แคลแกล้งส่งคำหยอกกรอกลงไปในหูของคนที่เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ  และสาวน้อยผู้ว่องไวนั่นก็หันตัวออก  ดันบ่าเธอไว้เหมือนจะพยายามไม่ให้เธอเข้าใกล้มากขึ้น  เธอหัวเราะเบาๆอย่างขมขื่นในลำคอและถอยออกไปเองโดยไม่รอให้อีกคนออกปากไล่  “ฉันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ  รู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ได้คิด”
ดิออนไม่คิดเลยว่าเรื่องของเธอกับหล่อนจะเป็นเรื่องยากได้ถึงเพียงนี้  แค่จะพูดดีๆกันสักครั้งก็แทบจะหาเวลาไม่ได้แล้ว  ทั้งเธอและแคลก็ต่างมองกันแต่ในแง่ร้ายคล้ายไม่มีใครไว้ใจใครได้เลย  แล้วแบบนี้เธอทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันต่อไปได้อย่างไร
“ทำไมเธอไม่เคยมองฉันดีๆบ้างล่ะ  ทำไมถึงไม่รู้บ้างล่ะว่าฉันรู้สึกยังไง  ทั้งๆที่ฉันก็---”  ดิออนโกรธตัวเองที่พูดไม่ออกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ  และเธอก็ยอมถอดใจกับมันในที่สุด  ถอนหายใจแรงอย่างหมดท่าและหนีหน้าจากดวงตาสีแดงที่กำลังรอ
“ช่างมันเถอะ!” ร่างบางหันหลังเพื่อจะเดินจากไปอย่างไม่คิดจะบอกลา  แต่ทว่าเธอก็ถูกหยุดไว้ด้วยอ้อมแขนจากคนด้านหลังที่มาไวและเงียบจนทำให้เธอสะดุ้งตกใจ  ยิ่งรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆของแคลที่ออกมาพร้อมเสียงกระซิบ  ยิ่งทำให้เธอตัวสั่น
“ฉันรักเธอนะ  จำไว้ให้ดี” สิ้นเสียงกระซิบนี้  ริมฝีปากนั้นก็ประทับลงไปที่ลำคอของเธอ  ติดตรึงอยู่นานคล้ายจะเป็นการประทับตราสัญลักษณ์บางอย่างเอาไว้  ดิออนตกใจจนเรียกได้ว่าช็อคจึงทำเพียงนิ่งเป็นก้อนหินยินยอมถูกกระทำ  และแคลก็หายไปไวเหมือนตอนมา  ทิ้งที่เธอที่แข้งขาสั่นล้มลงนั่งกับพื้นทราย



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.