web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 230
Most Online Ever: 230
(วันนี้ เวลา 05:53:50)
Users Online
Members: 0
Guests: 156
Total: 156

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 02 - หมาป่าผู้ว้าเหว่  (อ่าน 2087 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 02 - หมาป่าผู้ว้าเหว่
« เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:04:40 »
Chapter 2 :  หมาป่าผู้ว้าเหว่

“คุณแคลคะ   คุณแคล..”  เสียงไมดังขึ้นด้านนอกประตูห้องนอนมาสเตอร์ภายในคฤหาสน์ดารอฟสกี้
“มีอะไรหรือไม   เข้ามาก่อนสิ”  เสียงเจ้าของห้องนอนเอ่ยตอบ   ก่อนจะตามด้วยเสียงเปิดประตูและเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามาด้านใน
“คุณแคลคะคือ...อุหว๊า....”   ไมอุทานทันทีที่รู้ชัดแล้วว่า  เธอเห็นอะไรที่นี่  เจ้าของชื่อที่ถูกเธอเรียกขานนั่น  ในตอนนี้มีเพียงเสื้อคลุมบางๆปกคลุมเรือนร่างที่แสนจะเพอร์เฟคอยู่เท่านั้น 
นั่นก็เท่ากับว่า เธอกำลังอยู่กับคนอะไรไม่รู้เซ็กซี่เป็นบ้าเลย..  เรื่องนี้ได้แต่คิดในใจไม่กล้าเอ่ยออกมา
ฝ่ามือทั้งสองข้างของเธอถูกยกขึ้นปิดสองตาตัวเอง  ไม่สนใจเสียงหัวเราะน้อยๆที่ดังเข้าหูมา   พนันได้เลยว่าถ้ามีกระจกอยู่ตรงหน้า  เธอคงจะเห็นใบหน้าที่แสนจะแดงก่ำของตัวเองแล้วแน่ๆ  แน่นอนสิ..ก็ร่างสูงระหงของคนนี้   ไม่มีอะไรปกปิดร่างกายนอกจากเสื้อคลุมสีม่วงอ่อนซาตินเนื้อบางๆเท่านั้น   ผ้าคาดเอวหลวมๆ  จึงอนุญาตให้เนินอกขาวอวบอูมเผยสู่สายตาผู้ที่เข้ามายืนอยู่ตรงนี้
“โอ้..ขอโทษทีจ้ะ   เมื่อคืนฉันดื่มหนักไปหน่อย  ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป   ไมช่วยให้ใครไปเอาชาร้อนให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ..” เจ้าของห้องนอนเดินบีบขมับตัวเองเพื่อหวังบรรเทาอาการปวดศีรษะ จากอาการเมาค้าง 
เหล้าสาเกญี่ปุ่นน่ะ เหล้าฝรั่งมังค่าแทบจะแตะไม่ได้เลย  ต้องหันหาชักโครกทันทีหรือไม่ก็เมาจนคุมสติไม่ได้  แย่ชะมัด  ของดีๆดันกินไม่ได้ซะนี่..
“ระหว่างที่รอฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า    มีอะไรก็พูดมาได้เลยนะ     ฉันฟังอยู่”  แคลพึมพำต่อขณะพาร่างสูงของเธอเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า   หยิบชุดทำงานของเธอออกมาแล้วค่อยเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อจัดการกับตัวเอง   
ไมเดินกลับห้องมาพร้อมเครื่องดื่มในมือ  ถือมันไปวางไว้บนโต๊ะกาแฟ  รอคนสั่งมาจัดการกับมันต่อ  เพราะคิดว่าตอนนี้อีกคนคงอยู่ในห้องน้ำ  เสียงสายน้ำจากฝักบัวบอกกับเธอมาแบบนั้น  ถอนใจเบาๆระหว่างมองเรื่อยๆไปภายในห้องนอนห้องนี้  จากนั้นก็ตัดสินใจทำตามที่ถูกบอกเมื่อครู่..มีอะไรก็พูดมา.. 
“เอ่อ...คุณแคลคะ   คือคนที่คฤหาสน์สวอนส์โทร.มาบอกว่า   ดิว..  เอ่อ..ดิออนหายไป ค่ะ  เห็นว่า..ขับมอเตอร์ไซด์ออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้”  ไมกล่าวด้วยท่าทางที่บอกได้เลยว่า  ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับรายงานเรื่องนี้ของเธอเลยแม้แต่น้อย  เพราะเธอก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า  การหายตัวไปของเพื่อนสาวไม่ได้เป็นอะไรที่ร้ายแรงเกินไปอย่างที่ใครๆเข้าใจ  หล่อนแค่ไปในที่ที่หนึ่งซึ่งไม่ต้องการให้ใครติดตามไปเกะกะเท่านั้น  แม้กระทั่งบอดี้การ์ด
“อื้ม...แล้วไมพอจะรู้ไหม   ว่าคุณหนูเธอจะไปไหนได้บ้าง”   แคลลี่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงธรรมดาเมื่อพาตัวเองในชุดเสื้อผ้าที่เกือบจะสมบูรณ์มานั่งลงจิบน้ำชาที่ไมเตรียมมาให้  ท่าทางของเธอเงียบขรึม 
บอดี้การ์ดคนสวยอยู่ในชุดการแต่งตัวที่เรียบง่ายในชุดสูทเทาเข้มเข้ารูปกับเชิ้ตสีขาวปราศจากเนคไท   กระดุมคอสองเม็ดด้านบนถูกทิ้งไว้   เผยให้ผิวขาวเนียนเหนือทรวงอกงดงาม    ขาเรียวยาวถูกปกปิดไว้ด้านในของกางเกงแสล็คสีเดียวกันกับเสื้อสูทเธอนั่งไขว้ขา  แผ่นหลังตรงอยู่บนเก้าอี้ของชุดรับแขก  แสดงให้เห็นถึงเป็นผู้มีบุคลิกสง่างามกว่าคนทั่วไป  สองมือเรียวสวยประคองถ้วยน้ำชาเพื่อจิบผ่อนคลายการตึงเครียดของสมอง  เพราะฤทธิ์เหล้าสาเกญี่ปุ่นที่เธอดื่มเมื่อคืน  ยังมีพิษอยู่ถึงเวลานี้   
โดยปกติแล้วแคลลี่จะไม่นิยมดื่มแอลกอฮอล์และไม่ได้ติดมัน  แถมยังค่อนข้างจะแพ้มันเสียด้วย  ดื่มได้ไม่มากนักก็ต้องหยุด  เพราะเธอรู้ตัวดีว่า  เธอเป็นประเภทสาวคออ่อนและจะดื่มเฉพาะเวลาอยู่ที่บ้านกับคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น  เพราะถึงจะเป็นถึงบอดี้การ์ดก็คงไม่สามารถจะทำอะไรได้  หากแอลกอฮอล์ทำให้ประสิทธิภาพของตัวเองหมดไป  ปกป้องตัวเองก็ยังไม่ได้เลย  แล้วถ้าอย่างนั้น  เมื่อคืนเธอดื่มทำไม  จะเกี่ยวกันหรือไม่กับเรื่องของนายจ้างคนใหม่ที่เพิ่งไปรับมอบงานมาเมื่อวันวาน  คนหน้าหวานนั่งยิ้มให้กับถ้วยชาในมือ  ไม่สนใจว่าอีกคนในห้องจะเห็นมันหรือไม่   
“เอ...ฉันคิดว่า..  ดิออนน่าจะไปที่ถนนนอกเมือง X นะคะ..”  ไมตอบอย่างไม่มั่นใจ  และก็ได้เห็นอีกคนเลิกคิ้วข้างหนึ่งให้กลับมา  “เอ่อ..ก็ตรงนั้นมีหน้าผาอยู่น่ะค่ะ  มันเป็นสถานที่เกิดเหตุที่คุณแม่ของเขาขับรถไปประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต  เพราะเท่าที่ฉันทราบก็คือวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของคุณแม่ของดิออนน่ะค่ะ”  เธอสรุปความ  และเห็นว่าคนตรงหน้าพยักหน้าให้  สีหน้าของเขาไม่อาจบอกได้ว่าคิดอะไรอยู่
“อา...เข้าใจแล้ว   ไมเตรียมรถให้ฉันด้วยนะ”   คนฟังเอ่ยเพียงเท่านั้น  ก็ทิ้งถ้วยชาไว้กับโต๊ะและเดินออกจากห้องไป

“แม่คะ.......”    เสียงห้าวของเด็กสาวแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ  เหมือนเธอคิดจะฝากคำพูดประโยคนี้ไปกับสายลมที่พัดผ่านมาและผ่านไป   เผื่อเสียงนี้จะสามารถที่จะไปถึงบุคคลที่เธอคิดถึงสุดหัวใจ  ณ  ที่แห่งนั้น   

ดวงตาสีเขียวงดงามดั่งมรกตค่อยๆหรี่ลงและปิดสนิทลงในที่สุด  ผมยาวสลวยสีเข้มปลิวสยายไปในทิศทางที่สายลมพัดผ่านไป ร่างเล็กในชุดซิ่งมอเตอร์ไซด์รัดสัดส่วนแบบสาวหุ่นดีอย่างนักกีฬายืนอยู่ในท่าสงบนิ่งบริเวณถนนบนหน้าผาแห่งนี้  เธอกำลังตั้งใจทำสมาธิ  หวังให้ช่อดอกไม้ที่ปล่อยลงไปยังผืนทะเลนั้น  ส่งข้อความจากเธอไปถึงผู้ที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้  แม้ไม่รู้เลยว่า  มันจะไปถึงหรือไม่  แต่เธอก็เต็มใจที่จะทำ  เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอจะทำได้เพียงคนผู้นั้น  เป็นการระลึกถึงเขาในวันที่เขาจากลา 
ดอกเตอร์เซร่าห์  สวอนส์  ประสบอุบัติเหตุขับรถตกหน้าผาขณะที่เธออายุได้เพียง  7 ปี   หลังจากที่น้องสาวของเธอเกิดได้ไม่นานนัก   เป็นการเสียชีวิตอย่างกะทันหันที่เธอคิดว่ามันเป็นเหตุไม่ปกติ  แม้ตำรวจผู้ทำคดีจะยืนยันอย่างหนักแน่นมาหลายครั้งแล้วว่า  มันเป็นแค่อุบัติเหตุก็ตาม  แต่ดิออนไม่เชื่อเรื่องนี้   เธอยังเชื่ออยู่จนกระทั่งวันนี้ว่า  นั่นเป็นการฆาตกรรม    ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเธอจึงพยายามทุกวิธีทางเพื่อสืบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของแม่ของเธออย่างลับๆ   อย่างที่ไม่เคยให้คุณพ่อของเธอหรือใครๆได้รู้   เพราะหากพวกเขารู้  มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
“โอ้...บรรยากาศดีจริงๆ เลยนะเนี่ย”   เสียงหวานๆสำเนียงไม่เหมือนใคร  แต่คุ้นหูยังไงบอกไม่ถูก  ดังขึ้นมาทำลายความเงียบสงบอันนี้   ดวงตาสีมรกตต้องเปิดตาขึ้นอย่างหงุดหงิดใจและหันมองหาเจ้าของเสียง 
“เธอ...”  ดิออนเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางหน่ายๆและถอนหายใจออกมาแรงๆ  และแกล้งหันมองไปทางอื่น  เหมือนไม่ได้สะทกสะท้านกับแรงดึงดูดของรอยยิ้มหวานกับดวงตาสีแปลกประหลาดนั่นเลยแม้แต่น้อย  เธอจะไม่มีทางปล่อยให้ใครรู้ได้ว่า  เธอคิดอะไร  แม้ในใจจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้มองจ้องร่างระหงในชุดสูทสีเข้มนั้น  ตอนนี้มันมีแค่ทะเลที่อยู่เบื้องหน้า  “มาทำไมไม่ทราบ..”   เธอถามขึ้นเมื่อรู้สึกว่าร่างสูงกว่าขยับเข้ามาอยู่ใกล้ในรัศมี   
แคลลี่คลี่ยิ้มบางเบา  แม้คิดว่าไม่น่าจะมีใครเห็นมันและพูดทีเล่นทีจริง “มาตามหาหัวใจมั้ง...”   แต่ใครจะรู้ล่ะว่ามันกลับสามารถพาความน่ารักของใครมาบางคนมาสู่สายตาได้  เมื่อแก้มขาวของฝ่ายนั้นแดงก่ำทันตาเห็น
“Idiot !  เลิกเล่นตลกได้แล้วแคลลี่   ฉันไม่มีอารมณ์”   เสียงห้าวตอบแผ่วเบา  ไม่มีเค้าความดุดันเหมือนที่เคยเป็น  จนคนที่ได้ยินมีสีหน้าประหลาดใจ 
ดวงตาสีมรกตยังคงมองไปยังทิศทางเดิมต่อไปไม่สนใจคนใกล้ตัวเลยแม้สักนิด  ดวงตาสีแดงจึงตัดสินใจมองตามในทางเดียวกันนั้นไปอย่างเงียบๆ หวังจะเจอในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังสนใจอยู่   ทุกๆอย่างดูเงียบสงบ  ไม่คำพูดใดๆออกจากริมฝีปากสวยของทั้งคู่ไปช่วงเวลาหนึ่งซึ่งเป็นเวลาก่อนที่เจ้าของร่างเล็กกว่าจะเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบนั้นด้วยตัวเอง   “ฉันจะกลับแล้วล่ะ...”
“ไปด้วยคนนะ”  แคลร้องบอกขณะเดินตามหลังคนตัวเล็กกว่า  แววตาของดวงตาสีแดงดูออดอ้อนเกินความพอดี  เพราะรู้สึกดีที่มันทำให้ได้เห็นใบหน้ารำคาญใจของอีกคน  ..ท่าจะโรคจิตซะแล้วมั้ง..  ฉันนี่...
ดิออนเลิกคิ้วเรียวเข้มของเธออย่างสงสัย  “แล้วเมื่อกี้มายังไง    ทำไมไม่กลับแบบนั้นล่ะ”   เธอไม่สนใจจะรอฟังคำตอบของคำถาม  ร่างบางเดินตรงไปยังที่รถมอเตอร์ไซด์นักซิ่งรุ่นใหญ่ของเธอ..ดูคาตี้   แต่เธอรู้ดีว่ามีคนเดินตามหลังเธอมาอย่างแน่นอน  หูของเธอบอกว่าได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาตามมาติดๆ   เธอยิ้มน้อยๆอย่างที่ไม่รู้ตัวว่ายิ้มทำไม
“ไมมาส่ง   แต่ฉันให้กลับไปแล้วล่ะ”  แคลตอบพร้อมรอยยิ้มขณะเดินมาเคียงกับร่างเล็ก   ดวงตาสีแดงแอบชำเลืองมองคนข้างๆอย่างชื่นชม ‘หุ่นดีมากเลยนะเนี่ย  ไม่คิดเลยว่า  แค่ชุด  biker suit แบบนี้   จะทำให้เด็กกะโปโลกลายเป็นสาวเซ็กซี่ได้   อา...คิดอะไรอีกแล้วเนี่ย..ยัยแคล..’
“งั้นก็...ขับให้ฉันนั่งหน่อยสิ    ฉันเหนื่อยแล้ว...”   ดิออนแกล้งพูดลองเชิง   เผยรอยยิ้มและสายตาเจ้าเล่ห์ท้าทายคนที่เดินมาด้วยกัน
แคลลี่หยุดคิดไม่ถึงนาที   ก่อนที่จะตอบกลับ  “.....โอเค    ขอกุญแจกับหมวกกันน็อคด้วยละกัน”  รอยยิ้มละไมแจกจ่ายไปอีกครั้งแล้วกับวันนี้
‘เฮ้ย...อะไรว่ะเนี่ย   นึกว่าจะไม่กล้าซะอีก   แน่จริงๆผู้หญิงคนนี้  น่าสนใจดีนะ  โอ้..ไม่..ไม่นะ  ยัยดีออน  อย่าไปหลงกลเค้า..’ 
“เอ้า...รับไป”  สาวนักซิ่งเตะความคิดเพ้อเจ้อของเธอออกไป  และส่งกุญแจกับหมวกกันน็อคสำรองที่ดึงออกมาจากท้ายเบาะมาให้อีกคน  จากนั้นศีรษะของเธอก็มีหมวกสวมอยู่หนึ่งใบเหมือนกัน  มือเล็กยื่นออกมาเป็นสัญญาณให้ร่างสูงขึ้นนั่งประจำที่คนขับ  กับนาทีนี้เองเจ้าของร่างเล็กเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่า  เธอคิดผิดที่คิดอุบายนี้ขึ้นมา  เพราะมันกลายเป็นว่า  เธอกำลังเอื้อประโยชน์ให้กับหล่อนอย่างไม่ได้ตั้งใจ  มีอย่างที่ไหน  กับคนที่เธอต้องการจะอยู่ให้ห่างไกลมากที่สุด  ในตอนนี้เธอกลับดึงหล่อนเข้ามาอยู่ใกล้ๆมากกว่าเดิม  เมื่อต้องกอดเอวผู้หญิงคนนี้จนแน่นแบบนี้ด้วยความที่กลัวจะพลัดหล่นลงจากรถ 
“เกาะแน่นๆนะ  ถ้าหล่นขึ้นมา   เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”   และโดยไม่ทันได้รอให้ตัวเองได้พูดจนจบประโยค  เจ้าของคำเตือนก็เร่งเครื่องมอเตอร์ไซด์รุ่นใหญ่คล้ายกลายเป็นสิงห์นักซิ่งตัวจริง  แคลลี่ยิ้มกว้างอยู่ในหมวกกันน็อคเมื่อรู้สึกว่าคนด้านหลังกอดรัดตัวเธอเสียจนแน่น  แม้หล่อนจะยังไม่บ่นอะไรขึ้นมาในเวลานี้  แต่คงอีกไม่นาน  เมื่อเธอเร่งความเร็วให้มากขึ้น   
“อ๊าก...ยัยบ้า..ยัยบ้า..!!!”  ดิออนไม่สนใจเลยว่า  จะมีใครได้ยินเสียงตะโกนร้องของเธอหรือไม่  เธอแค่ต้องการจะร้องออกมา  หวังว่ามันจะลดอาการหวาดเสียวได้  ถึงกระนั้นเธอก็ยังไม่ได้ลืมความอายจนหมดสิ้นไป  ดีใจที่ใส่หมวกกันน็อคเอาไว้  เพราะคนที่อาจจะมองดูเธออยู่ที่กระจกมองหลังจะได้ไม่เห็นว่า  ตอนนี้หน้าทั้งหน้าของเธอได้เปลี่ยนสีไปแล้ว 
พนันได้เลยว่า  มันจะต้องแดงจัดเหมือนมะเขือเทศสุกแล้วแน่ๆ จากความร้อนที่มากถึงเพียงนี้ของมัน  เพราะนอกจากจะกำลังกลัวว่า  ความเร็วของรถอาจจะทำให้เธอพลัดตกลงไป  เธอก็ยังใส่ใจอยู่กับสิ่งสำคัญที่ร่างกายส่วนหน้าของเธออีกด้วย  หน้าอกขนาดกำลังสวยของเธอที่เฝ้าดูแลปกป้องมันมาแสนนาน ในเวลานี้เหมือนกำลังถูกบดขยี้ไปตามแผ่นหลังของผู้ที่อยู่เบื้องหน้า  ที่แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน  แต่หล่อนไม่ได้เหมือนกันกับคนอื่นอย่างแน่นอน  เมื่อบอกออกมาเต็มปากว่า  “ไม่ชอบผู้ชาย” แบบนี้  ...ติดกับซะแล้วสิฉัน..  ไม่น่าเลย..
“กลัวเหรอจ๊ะ..ดิออนจัง.?  ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ..”  แคลลี่หัวเราะออกมาหลังพูดจาหยอกล้ออีกคนไป  เธอไม่ได้คิดเลยว่า  เสียงเธอจะดังไปจนแทรกเสียงเครื่องยนต์ไปถึงหูคนด้านหลังได้  แต่ถ้าได้  เธอก็ไม่ได้กลัว  ออกจะชอบเสียอีก..
‘อา...รู้สึกดีจัง   นึกไม่ถึงเลยว่าดิออนน่ะ   จะมีหน้าอกเหมือนกันนะนี่   ซ้อนรูปหรือเนี่ย   นิ้ม...นิ่ม   หว๊า...บ้าไปใหญ่แล้วเรา..’
“โรคจิต !  หุบปากไปเลยนะ! ”  เสียงตะโกนดังแทรกเสียงเครื่องยนต์มา  คนนั่งหน้าถึงกับสะดุ้ง  แต่ยังหัวเราะหึหึในลำคอ
“อ๊า...พูดเบาๆก็ได้จ้ะ..ดิออนจังจ๋า..   แสบหูไปหมดแล้วนะ”  แคลลี่แกล้งตัดพ้อ  เสียงหัวเราะในลำคอยังคงอยู่
“จะหยุดพูดมั้ย...นี่นี่นี่”  กับนาทีนี้  ร่างเล็กกว่าถึงขนาดยอมเสี่ยงชีวิตใช้มือข้างหนึ่งของเธอหยิกหน้าท้องแบนราบของคนด้านหน้าอย่างแรง   ขณะที่มืออีกข้างยังเกาะแน่น
โอ้ย....ดิวจัง   โอเค   โอเค  ไม่พูดไม่แกล้งแล้วจ้า...”  คนขับยอมแพ้แต่โดยดี   แต่ไม่วายที่จะแอบยิ้มหวานอยู่ภายใต้หมวกกันน็อคอย่างที่เคยทำมา   
พนันได้ว่าถ้าคนซ้อนได้เห็นใบหน้าขาวแสนขี้เล่นและดูเหมือนจะไร้เดียงสาของคนขับในตอนนี้ละก็  คงจะต้องมองแล้วกลอกตาไปมาอย่างรำคาญใจแน่ๆ และคงไม่พูดออกมาแบบนี้
“ดี...ขับไป”  ดิออนรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนตั้งแต่แม่ของเธอเสียชีวิตไป    ไม่แน่เหมือนกันว่า   แคลอาจจะเป็นใครสักคนที่เธอจะสามารถไว้ใจได้ก็ได้  แค่คิดก็ต้องส่ายหน้าไปมา  ขัดแย้งกันในสมองของตัวเอง 

แต่อย่างไรก็ตาม  ตอนนี้ได้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ที่มีคนขับให้  ก็สนุกไปอีกแบบนะ..




เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.