web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 176
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 152
Total: 152

ผู้เขียน หัวข้อ: Queen's tales Chapter 17 : Love chains (โซ่คล้องรัก)  (อ่าน 3306 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Queen's tales Chapter 17 : Love chains (โซ่คล้องรัก)
« เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:25:35 »


Chapter 17 : Love chains (โซ่คล้องรัก)

การเดินทางแสนราบเรียบหลังจากที่กำจัดไฮดร้าไปได้หนึ่งตัว หากก็เพราะพวกเธอระวังตัวกันมากขึ้น ทหารทุกนายได้รับคำสั่งให้เฝ้าระวังภัยทุกด้าน จนกระทั่งกองคาราวานสามารถกลับเข้าสู่เขตแดนอาณาจักรของคาดีทส์ได้สำเร็จโดยไม่มีเรื่องน่าหวาดเสียวให้ตกใจ และเมื่อเข้ามาถึงเขตบ้านเมืองตัวเอง ก็ไม่จำเป็นจะต้องเกรงกลัวอะไรอีกต่อไป คาดีทส์ได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างดีจากกำแพงเวทย์มนตร์ที่อยู่คู่อาณาจักรมาตั้งแต่ครั้งสมัยที่พระบิดาเธอเป็นผู้ครองนคร และกำแพงนี้จะยังคงอยู่อย่างไม่มีวันสูญสลาย หากสายเลือดที่เข้มข้นของราชวงศ์เป็นผู้ดูแลบัลลังก์ ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือไคล่า หรือแม้กระทั่งไอซิส

หากว่าไอซิสไม่ได้แต่งออกไปเสียก่อนนะ

เผื่อว่าเจ้าจะเปลี่ยนใจ ทิ้งพี่คนนี้เสียแล้ว..

“คาร่า.. ข้าสั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนแล้วนะ” ไคล่าเดินเข้ามาบอกระหว่างทางขณะพี่สาวกำลังเดินเข้าเขตพระราชฐานพร้อมน้องสาวคนเล็กที่เกาะแขนไม่ห่าง

“ดีแล้วล่ะ เช่นนั้นเจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะ แล้วเจอกันมื้อค่ำ” คาร่าบอกยิ้มแย้ม มองน้องสาวตาสีแดงที่ขอไปหอมแก้มพี่สาวอีกคนบ้าง ไอซิสบอกลาไคล่าและมาเกาะแขนเธอต่อ น้องแฝดกำลังจะเดินจากไปตอนที่เธอนึกบางอย่างได้พอดี

“อ้อไคล่า.. แล้วเจ้าส่งเบลล่าไว้ไหนล่ะ คงไม่ได้อยู่กับโรซาลีหรอกนะ”

แฝดน้องเหลียวหลังมาส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอกท่านพี่ ข้าเรียกโรซาลีไว้ในห้องข้าน่ะ” ไคล่ายิ้มเขินที่ทั้งพี่และน้องมองเหมือนรู้บางอย่าง มือขาวยกขึ้นเล่นเส้นผมสีเทาอย่างลืมตัว ไม่กล้ามองสองคนตรงหน้าตรงๆ เขินทั้งที่ไม่น่าจะเขิน

ก็มันเป็นไปเอง..

ก็พวกนี้รู้หมดแล้วว่า เธอเก็บนางในคนนี้เอาไว้ส่วนตัว เรียกหาจนติดปาก สามารถเรียกว่าเป็นคนรักเลยก็ยังได้ ก็หล่อนรู้ใจเธอที่สุดในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดในคลังฮาเร็มหลวงนี้แล้ว

“เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร เจ้าไปเถอะ เดี๋ยวนางจะรอนาน” แฝดพี่บอกอนุญาตอย่างรู้ความต้องการของน้อง เพราะเธอเองก็ต้องการเวลาเช่นนั้นถ้าทำได้ถ้ามีเวลา

“ก็ได้.. แต่เบลล่า--”

“เรื่องเบลล่า ข้ากับไอซิสจัดการเอง” คาร่าพยักหน้าย้ำคำพูด ฝาแฝดจึงยอมทำตามคำแนะนำ และทำให้เธอกับน้องเล็กอดยิ้มขำไม่ได้เมื่อทำท่าเดินจ้ำไปอย่างรวดเร็วราวกลัวบางคนที่รออยู่จะหายตัวไปอย่างนั้น

“ไคล่ารักนางในคนนั้นจริงๆหรือเพคะ.?” ไอซิสถามขึ้นอย่างสงสัย คนฟังเลิกคิ้วเหมือนแปลกใจกับคำถาม “ก็น้องเห็นเค้าสนใจนางมากกว่าคนอื่น ปกติเรียกหานางในไม่ค่อยซ้ำคนนี่เพคะ”

“เหรอคะ พี่ไม่ทันสังเกตเลย” คนโตกว่าตอบเสียงขี้เล่น อีกคนเม้มปากอย่างหมั่นไส้ก่อนหยิกแก้มให้ร้องโอย “ไอซิสหยิกพี่ทำไมคะ”

“หมั่นไส้คนทำไม่รู้เรื่อง ทั้งที่ตัวเองก็เคยเป็นแบบนั้น ไม่รู้หรือว่าเมื่อก่อนน้องต้องเจ็บช้ำน้ำใจเท่าใดเวลาที่มารู้เห็นว่า ท่านเรียกหาผู้หญิงอื่นเข้าห้องคืนละไม่ซ้ำคน บางคืนก็ไม่ใช่คนเดียว” เสียงอธิบายแฝงอารมณ์ฉุนเฉียวไว้ภายใน หากคนฟังกลับยิ้มราวยินดี “ยิ้มแบบนี้ทำไมเพคะ มีความสุขมากไหมที่รู้น้องเจ็บใจแบบนั้น”

“มีความสุขค่ะ มีความสุขเพราะพี่ได้รู้ว่า เจ้ารักพี่มากเพียงใด” คาร่าประคองตัวน้องสาวเตรียมพาเข้าห้อง พักผ่อนอย่างตั้งใจ หากไอซิสกลับเกร็งเล็กน้อยเมื่อเจอสายตาสองสาวต้นห้องที่มองมาด้วยสายตาประหลาด หรือพวกนางจะยังไม่ชินกับพฤติกรรมใหม่นี้ของพวกเธอ

จากน้องรักกลายมาเป็นคนรักเสียแล้ว...

เพราะกลัวว่าน้องจะอายลูกน้อง ดวงตาคมสีเขียวจึงปราดมองสองนางหน้าห้องด้วยสายตาที่พวกนางเห็นแล้วต้องกลัวหัวหด ทั้งสองก้มหน้าลงแทบจะพร้อมกันและเข้าไปทำหน้าที่เปิดประตูห้องบางใหญ่หนาทันที

“ไปเถอะ เราจะได้พักผ่อนกันอย่างไคล่าบ้าง” คาร่ายิ้มกับดวงตาสีแดงที่เหลือบขึ้นสบตา เจ้าของมันพยักหน้ารับด้วยสีหน้าดีขึ้น หากบางอย่างที่พวกเธอเผลอลืมไปสนิทว่ารับปากไคล่าเอาไว้ก็ปรากฏขึ้นมาในเวลาที่จะก้าวเข้าห้องพอดี

“องค์ราชินีเพคะ! องค์ราชินีเพคะ.! องค์หญิงเล็ก! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” เลมมี่วิ่งหน้าตาตื่นมาหา พาให้สองผู้ที่ถูกเรียกขานหันขวับไปมองพร้อมกัน หากเป็นไอซิสที่เดินไปกั้นทางไม่ให้มหาดเล็กคนสนิทวิ่งมาชน

“หยุดนะเลมมี่ นี่มันอะไรกัน” เจ้านายคนเล็กถามเสียงเข้ม มหาดเล็กร่างเล็กชะงักกึกราวเป็นหนูที่ถูกเหยียบหางให้วิ่งต่อไม่ได้

ไอซิสหรี่ตามองคนสนิทอย่างคาดโทษ ไม่สนใจว่าหล่อนกำลังหอบเหนื่อย เหงื่อตก “แต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไร เจ้าก็ไม่ควรวิ่งเหมือนเด็กในเขตพระราชฐานเช่นนี้”

“ตะ แต่.. แต่เรื่องนั้นคือ----”

“ก็พูดมาสิเลมมี่ เสียเวลาพักผ่อนของข้ากับพี่นะ รู้ไหม!” คนหน้าหวานแต่ดุเสียจนคนฟังหัวหดพูดไม่ออก คนที่ยืนมองอยู่จึงเข้ามาจับบ่าขอจัดการแทน

“ไอซิส..” เสียงเรียกนิ่งๆ หากก็สามารถทำให้คนคิ้วขมวดอย่างหัวเสียคลายอารมณ์ลงได้ ไอซิสหลีกไปยืนฟังเงียบอยู่ข้างๆ “เจ้าว่ามาเลมมี่ แต่พูดให้รู้เรื่องนะ ไม่เช่นนั้น...” ไม่จำเป็นต้องพูดจนจบประโยคคนฟังก็พยักหน้ารับเร็วไว

“สาวชาวป่าเพคะ นางทะเลาะกับนางในคนอื่นๆของพระองค์อยู่ที่หอทิศอุดร แล้ว.. แล้ว...” เลมมี่รายงานแต่อึกอักเสียจนคนรอฟังหงุดหงิด ยกมือขึ้นห้าม

“เรารู้แล้วเลมมี่” คาร่าตัดบท “ไอซิส.. ไปกับพี่” ร่างสูงกับผมสีเงินหันขวับเดินออกห่างจากประตูห้องที่เปิดรอรับเก้อ แน่นอนที่เธอมีคนเดินจ้ำตามไป ไม่ใช่แค่หนึ่งแต่คือสอง มหาดเล็กตัวเล็กเดินห้อยท้ายไปด้วย

องค์ราชินีถอนหายใจเหนื่อย ไม่น่าคิดหาเรื่องเพิ่มปัญหาให้ตัวเอง..

----Queen’s tales 1----

ร่างบางยืนกอดอกเมินหน้าไปทางอื่น ไม่ยอมมองคนที่นั่งหลังโต๊ะทำงานตรงหน้าหรือคนที่ยืนข้างๆสองคน หากกระนั้นก็ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศของการถูกสอบสวนอยู่ดี นี่เธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไรกันแน่...

นักโทษ.. คนใช้.. หรืออะไรกัน... หวังว่าคงไม่ใช่ตำแหน่งเดียวกับผู้หญิงพวกนั้นที่จ้องหาเรื่องจะกินหัวเธอที่ปราสาทบ้าๆหลังนั้นหรอกนะ

แต่ก่อนอื่น.. เธอมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม...

“เลมมี่.. ออกไปก่อน.. ไอซิสอยู่”

อิสซาเบลล่าลอบมองดูคนที่ถูกสั่งค่อยๆเดินออกไปจากห้อง ถัดจากนี้ก็คงจะถึงเวลาที่จะตัดสินคดีที่เธอทำแล้วใช่ไหม.. เธอควรทำอย่างไรดี จะหนีได้อย่างไร ไม่มีทางแน่ ต่อให้มุดดิน...

“เบลล่า.. มานี่”

เจ้าของชื่อกดหัวคิ้วลง ยังคงไม่เคยชินกับการถูกสั่งหรือบังคับถึงจะรู้ว่าคนสั่งคนนี้มีสิทธิ์เต็มที่ที่จะสั่งอะไรใครก็ได้ เจ้านายเหนือหัวทุกคนนี่นา...

“อิสซาเบลล่า.. เจ้าไม่ได้ยินที่องค์ราชินีเรียกหรอกหรือ.?” ไอซิสถามเสียงหงุดหงิดชัดเจน เห็นอีกฝ่ายทำท่าฮึดฮัดก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ก็แอบข่มใจไม่ให้เข้าไปอัดหล่อนสักทีสองที ยังคงไม่รู้ตัวว่าตัวเองอยู่ที่ไหนหรือไง...

คาร่าส่ายหน้าน้อยๆกับท่าทางของน้องสาวที่ยืนข้างกับร่างบางที่มายืนตรงหน้า น่ากลัวว่าจะตีกันตายตรงนี้อีกคู่เสียแล้ว แล้วเธอจะปราบม้าพยศทีเดียวสองคนตัวได้อย่างไร ไคล่าก็แอบตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปแล้วสิ

“คุกเข่าสิ ยืนค้ำหัวอยู่ทำไม!”

เสียงน้องสาวคนเล็กตวาดอีกสาวเสียงดัง คนกลางอย่างเธอก็ส่งเสียงกระแอมเป็นการปราม ได้ผล ม้าพยศตัวที่หนึ่งพอสงบลงได้บ้าง แม้จะแค่ไปยืนกอดอกขมวดคิ้วดวงตาสีแดงวาวอยู่เงียบๆ แต่แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับไอซิสแล้วล่ะ

ปกติก็คงจะพุ่งเข้าไปตบหัวและยันหัวให้เด็กสาวอีกคนก้มลงทำความเคารพเธอ.. เฮ้อ.. เหตุการณ์แบบนั้นมันเคยมีอยู่นะ พอจำได้...

“ว่าอย่างไร เหตุใดเจ้าจึงมีเรื่องกับพวกนางใน”

“แล้วเหตุใดท่านไม่ถามกับคนของท่านล่ะ!” อิสซาเบลล่าย้อนอย่างลืมตัว หากแทนที่จะก้มหัวคุกเข่าให้ กลับยังพบตัวเองอยู่ในท่ากอดอกเมินหน้าไปทางอื่น แปลกใจที่ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆมาแทนคำสั่งเรียกให้ใครมาจับเธอไปตัดหัวเสียบประจาน ลอบมองไปก็เห็นคนที่นั่งส่ายหน้า ยิ้มประหลาด

คนที่นี่ประหลาดกันทุกคนหรือไงนะ..

แต่ยิ้มแบบนี้ก็ดีกว่า โดนทำอย่างอื่นไม่ใช่หรือไง..

เหรอ.?!

ยืนมองอย่างสงสัยอยู่สักพักก็มีคนส่งเสียงขออนุญาตเข้ามา และได้รับอนุญาตอย่างไม่ต้องถามว่าเป็นใคร และผู้หญิงวัยกลางคนก็เข้ามา หล่อนถูกเรียกเข้าไปใกล้สาวตาสีแดง กระซิบกระซาบบางอย่างกัน จากนั้นสาวที่ฟังคนกระซิบก็เข้าไปป้องปากกระซิบที่ข้างหูคนนั่งข้างๆต่อ คนที่ฟังเป็นคนสุดท้ายในห้องนี้ก็ทำท่าราวว่ารู้เรื่องอะไรสักอย่าง คาบอะไรมารายงานอีกแล้วล่ะสิ

“เจ้าไปได้แล้ว” คาร่าพูดง่ายๆ คนรอฟังใจเต้นมาตั้งนานถึงกับมองตาแทบหลุดออกมา เห็นแล้วก็ยิ้มหน้าตาเฉย “ไอซิสจ๊ะ เรียกเลมมี่มาพาตัวเบลล่าไปยังที่พักของนางที กำชับด้วยว่า อย่าให้คลาดสายตา”

“เพคะ” ไอซิสรับคำอย่างไม่มีปัญหา ผิดกับคนที่กำลังจะถูกจับส่งต่อไปที่อื่นที่ยืนอ้างปากค้าง ในที่สุดก็อดทนอยู่ไม่ได้ระหว่างที่มหาดเล็กร่างเล็กจะได้พาตัวโจรสาวออกไป หล่อนก็ร้องตะโกนออกมา

“จับข้าเข้าไปขังคุกเสียดีกว่า หากยังหาที่อยู่ให้ข้าไม่ได้!”

คนฟังที่นั่งอยู่ทำท่าทางสนใจกับคำพูดนี้พอสมควร หากคนพูดกลับเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี กลัวเขาจะบ้าจี้ตามที่ตนแนะนำ

“เอ่อคือ....”

“ก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ ว่าไหมจ๊ะไอซิส.?” เจ้าของผมสีเงินหันไปถามน้องสาวตาสีแดง และไอซิสก็พยักหน้าเห็นดีเห็นงาม

“ถ้าอย่างนั้น.. เลมมี่! ทำตามที่อิสซาเบลล่าต้องการ ขังเดี่ยวในศาลทหาร บอกบิดาเจ้าให้เราที บอกว่าเราสั่ง” คาร่าประกาศเสียงดังอย่างไม่สนใจคนที่กำลังอ้าปากค้างทำท่าจะส่งเสียงปฏิเสธ

“แล้วเราจะหมั่นไปเยี่ยม..เบลล่า” ราชินีขยิบตาให้สาวที่กำลังถูกลากออกไปจากห้องด้วยมหาดเล็กตัวเล็กพร้อมด้วยสองทหารหนุ่มที่ถูกเรียกให้มาช่วย นั่งหัวเราะเหมือนมีความสุขมากจนคนที่เหลืออยู่ในห้องด้วยส่งเสียงแซว

“ท่าทางสนุกมากเลยนะเพคะ หม่อมฉันว่า ไม่ธรรมดาเสียแล้วสิ”

ดวงตาสีแดงเรืองวาวราวกับมีบางอย่างที่เจ้าของมันกำลังคิดอยู่ คนมองรู้สึกใจสั่นอย่างบอกไม่ถูกที่ได้เห็นมัน หากสมองและประสบการณ์ที่สร้างสมมาก็สั่งให้ทำนิ่งเข้าไว้ อย่าทำเป็นรู้เห็นเรื่องที่หล่อนพูดเป็นอันขาด...

อาการนี้เรียกว่า อาการพาลเพราะหึงน่ะสิ...

“ไอซิสขา.. คิดถึงจัง” คาร่าไม่พูดเปล่า คว้าเอวน้องสาวที่ยืนตาถมึงทึงเข้ามาหา ร่างที่บางกว่าหล่นลงมานั่งบนตักตัวเอง คนหล่นส่งเสียงตกใจหากก็ทำท่าจะลุกหนีตามประสาสาวแสนงอน แต่นึกหรือว่าจะรอด...

สองแขนยาวรัดรอบตัวคนรักเอาไว้จากด้านหลังไม่ยอมปล่อย วางคางไว้ที่บ่าบอบบาง เอาแก้มแนบชิดกันจนรู้สึกได้ถึงไออุ่น กระนั้นคนขี้หึงก็ยังพยายามจะต่อกรแม้จะเริ่มอ่อนปวกเปียก หากไม่เป็นแบบนี้ก็คงจะไม่ใช่ไอซิสสินะ..

“อย่าทำแบบนี้กับข้า..คาร่า!”

“ทำอะไรคะ ก็แค่อยากกอด”

“ท่านรู้อยู่แก่ใจ อยากจะหานางในเพิ่มอีกคนใช่ไหมล่ะ ที่มีอยู่ตอนนี้ใช้หมดทุกคนหรือไร.. หรือจะปล่อยให้พวกนางแห้งเหี่ยวตายอยู่ในหอแบบนั้น ระวังเถอะ พวกนางจะนอกใจท่าน อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!”

“นอกใจก็ดีสิ ข้าจะได้มีเหตุทิ้งนางทีละคน” พูดออกมาอย่างไม่แยแสจึงถูกดวงตาสีแดงเหลือบมาจ้องหน้า พาให้ถอนหายใจ อธิบายหน่อยคงจะดี...

“พี่ก็แค่สงสารพวกนาง บางครั้งพี่ก็ไม่ว่างพอที่จะยุ่งกับเรื่องนั้น ไม่มีเวลาที่จะดูแลพวกนางตามที่สมควร ยิ่งตอนนี้ไคล่าเลือกคนของเค้าแล้ว การมาช่วยดูแลให้ความสุขพวกนางได้อย่างทั่วถึงก็คงจะยากขึ้นไปอีก แต่ที่สำคัญกว่านั้น...” คาร่ายิ้มที่คนฟังดูท่าทางสนใจคำพูดของตนมากขึ้น

“อะไรเพคะที่สำคัญกว่า” อดใจไม่ได้จึงต้องถาม หากคนช่างลีลาก็ทำหมั่นเขี้ยวอีกจนได้ที่ไม่ยอมตอบคำถามในทันที คาร่ายิ้มและกระชับแขนที่กอดเธอ หันมาจูบแก้มเบาๆก่อนเอาแก้มแนบแก้ม แล้วกระซิบ

“ตอนนี้พี่มีเจ้าอยู่แบบนี้ จะมีเวลาที่ไหนไปดูแลเรื่องแบบนั้นให้ใครอีก”

ไอซิสนั่งนิ่งพูดไม่ออกไปสักครู่ แล้วจู่ๆก็รู้สึกน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาเฉยๆจนต้องยกมือปาดมันทิ้งไป ก่อนหันมาพยักหน้ารับยิ้มให้พี่สาวที่พ่วงตำแหน่งคนรักของตน “ขอบพระทัยเพคะที่ทรงเห็นหม่อมฉันสำคัญ”

“อย่าพูดเช่นนั้นไอซิส.. น้องสำคัญสำหรับพี่เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และขอให้รู้เอาไว้ พี่รักเจ้า รักมากมาย” เสียงนุ่มสั่นเครือเมื่อพูดประโยคนี้ หากยังยิ้มที่อีกคนเอาหน้าผากมาชนกัน พวกเธอหลับตาอยู่ในท่านั้นสักครู่ คนหนึ่งก็เอ่ยปากก่อน

“ไปนอนพักสักงีบดีกว่าค่ะ แล้วค่อยไปทานมื้อค่ำกับไคล่า ตอนนั้นเค้าคงหิวพอดี ต้องเติมพลังงาน”

ใบหน้าหวานพยักหน้าให้คนชวน เธอขออนุญาตลุกขึ้นจากตักอุ่น แล้วยื่นมืออุ่นของตัวเองให้เจ้าตักนั้นจับลุกขึ้นยืน พวกเธอออกจากห้องทำงานไปเงียบๆ หากริมฝีปากปรากฏรอยยิ้มพอใจ
ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราจะเดินไปพร้อมกัน..

เราทั้งสามคนที่มีโซ่ตรวนแห่งความรักมัดอยู่รวมกัน..

 :30: :30: :30: :30: :30:



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.