web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 230
Most Online Ever: 230
(วันนี้ เวลา 05:53:50)
Users Online
Members: 0
Guests: 154
Total: 154

ผู้เขียน หัวข้อ: กำแพงหัวใจ ตอนที่ 4  (อ่าน 2472 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ meAyou

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 69
กำแพงหัวใจ ตอนที่ 4
« เมื่อ: 07 มกราคม 2014 เวลา 14:29:11 »
   เช้าอีกวันของการใช้ชีวิตในไร่หทัยภัทร วันนี้เชื่อได้ว่าอาจเป็นศึกหนักยิ่งกว่าเมื่อวานเพราะคนสอนงานที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรที่สุดดันมาเกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถมาสอนงานเธอต่อได้ มัทนาเงยหน้าขึ้นมองบ้านหลังใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้าไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวายเพราะคนต่อไปที่จะมาสอนงานให้เธอคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก…
   “ยืนบื้ออยู่ได้มาถึงแล้วก็รีบเข้าไปสิ!”
   มาแล้วไง เจ้าของน้ำเสียงวีนๆเหวี่ยงๆที่ไม่ต้องหันไปมองก็พอจะรู้ว่าเป็นใคร มัทนาทำได้เพียงเดินเข้าไปตามที่อีกคนบอกเท่านั้นก็เธอเป็นแค่คนงานนี่นาจะทำอะไรได้มากไปกว่านี้
   ปาลิตาเดินกระแทกไหล่ของคนที่เธอไล่ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป ยิ่งเห็นหน้าของคนๆนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่ถูกชะตา

   หทัยภัทรมองคนที่เดินตามปาลิตาเข้ามาตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยิ้มน้อยๆออกมา เมื่อวานเกิดเรื่องซะก่อนเธอจึงไม่ทันสังเกตสารรูปของอีกฝ่ายว่ามันน่าสมเพชขนาดไหนแต่ถึงจะเห็นวันนี้ก็ไม่สายไปนี่นา
   “ดูดีนะ”
   คนถูกชมขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัยก่อนจะก้มมองตัวเองตามที่สายตาของอีกฝ่ายมองมา
   “เมื่อวานไม่ได้สังเกตเลยไม่ได้ชมเลย”
   นายหญิงของไร่หยิบหมวดขึ้นสวมก่อนจะเดินนำทั้งสองสาวไปที่ประตู
   “ชุดเก่าๆขาดๆแบบนี้ฉันว่ามันเหมาะกับเธอมากกว่าชุดแพงๆมียี่ห้อนั่นอีก”
   หทัยภัทรพูดออกมาโดยที่ไม่หันไปมองคนที่คุยด้วยแต่เธอพอจะนึกหน้าของอีกฝ่ายออกว่ามันจะบูดบึ้งและไม่พอใจมากขนาดไหนแบบนั้นแหละที่เธอต้องการ

   มัทนามองตามทางที่รถแล่นมาอย่างแปลกใจวันนี้เธอคงไม่ได้เข้าไร่เพราะเส้นทางที่มามันไม่ใช่ทางเข้า หญิงสาวมองไปรอบๆก่อนจะหันไปจ๊ะเอ๋กับคนหน้านิ่งที่กำลังจ้องเธออยู่
   “วันนี้ไม่ให้ไปตัดองุ่นหรอกฉันว่างานนั้นมันไม่เหมาะกับเธอ”
   หทัยภัทรเอ่ยขึ้นเหมือนรู้ในสิ่งที่อีกคนกำลังสงสัย นายหญิงของไร่ยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะชี้ไปยังอีกฝั่งหนึ่งของไร่
   “เราจะไปท้ายไร่”
   “ท่าทางจะไกลเหมือนกันนะคะ”
   “ไกลสิฉันถึงให้เธอติดรถมาไง เธอน่าจะขอบคุณฉันซักหน่อยนะ”
   “เอ่อ ขอบคุณค่ะ”
   มัทนาเอ่ยขอบคุณอย่างงงๆแต่เธอก็ไม่อยากขัดหากเรื่องนี้ทำให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีเธอก็ควรดีใจด้วย หทัยภัทรจะได้ไม่ต้องจ้องแต่จะกินหัวเธอ
   “ว่าแต่เราจะไปทำอะไรกันที่ท้ายไร่คะ”
   “ไปถึงก็รู้”
   คนพูดเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเลห์จนมัทนาเริ่มรู้สึกหวั่นใจท่าทางศึกครั้งนี้จะใหญ่หลวงนัก

   เมื่อมาถึงยังจุดหมายมัทนาก็พบว่ามันเป็นงานที่หนักเอาการจริงๆแต่ที่หนักไม่ใช่การใช้สมองนะแต่เป็นการใช้แรงงานต่างหากดูสิกองเป็นภูเขาไฟฟูจิเชียวทั้งภาพทั้งกลิ่นชวนให้คนที่เพิ่งเคยมาถึงกับวิ่งออกไปอาเจียนข้างนอก
   “อึก...อึก...อุก...อุ”
   มัทนาพยายามกลั้นบางสิ่งที่กำลังตีย้อนออกมาจากท้องของตัวเองขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอแต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่สายตาก้มไปเจอกับบางอย่างที่ติดอยู่ที่เท้าการอดกลั้นทุกอย่างก็จบลงทันที
   “อุ…แหวะ...”
   ทั้งเสียงและท่าทางของคนมาใหม่เรียกความสนใจจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้เป็นอย่างดีแต่ตอนนี้มัทนาคงไม่สนอะไรอีกแล้วเมื่อสิ่งที่สำคัญในตอนนี้ก็คือเธอกำลังจะเป็นลม…
   
   หทัยภัทรยืนมองคนที่อยู่ๆก็วิ่งไปอ้วกและเพียงไม่กี่อึดใจก็เป็นลมล้มพับไปกองกับพื้นอย่างสะใจ นี่ถ้าใครบางคนได้มาเห็นสภาพลูกสาวของตัวเองในเวลานี้คงจะร้อนใจน่าดูแต่ยังก่อนตอนนี้ยังเป็นแค่น้ำจิ้มเพราะของจริงยังมีอีกเยอะ นายหญิงของไรหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปของคนที่นอนอยู่ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ
   “ถ้าคุณเห็นลูกของตัวเองในสภาพแบบนี้คุณจะรู้สึกยังไงนะ”
   หญิงสาวรีบหุบยิ้มทันทีก่อนจะเก็บเจ้าเครื่องจิ๋วลงกระเป๋าเมื่อรู้สึกได้ว่ากำลังมีคนเดินเข้ามา
   “ได้แล้วครับนายหญิง”
   “ดี”
   คนพูดจ้องหน้าคนที่ยังคงหลับสบายอยู่ก่อนจะยื่นมือไปรับถังน้ำมา
   “เอามานี่”
   “ให้ผมเช็ดให้มั้ยครับ”
   “ไม่ต้อง! เอามาแล้วก็ไปได้แล้ว”
   คนถูกสั่งส่งถังน้ำให้แบบงงๆก่อนจะเดินออกไปอย่างเร็วเพราะเริ่มเห็นความเกรี้ยวกราดในดวงตาของนายสาวแล้วถ้าขืนอยู่อาจโดนหางเลขไปด้วย
   หทัยภัทรมองถังน้ำและผ้าที่แช่อยู่ก่อนจะค่อยๆหยิบผ้าขึ้นมาแล้วจัดการปาทิ้งไปที่อื่นจากนั้นไม่นานน้ำในถังก็ถูกราดลงบนใบหน้าของคนที่นอนอยู่จนเกลี้ยงพร้อมกับการร้องโวยวายออกมาของเจ้าตัว
   “อะไรกันเนี้ย!”
   มัทนาตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับกระชากมือของคนที่บังอาจเอาน้ำมาราดหน้าเธอจนเปียกไปหมด
   “ปล่อยนะเธอจะทำอะไร”
   “คุณนั่นแหละทำอะไร รู้มั้ยว่าทำแบบนี้มัทอาจจะสำลักน้ำตายได้”
   “แล้วตายมั้ยล่ะ”
   “นี่คุณ!”
   “ทำไม”
   คนเกือบตายมองคนพูดที่ดูจะไม่ใส่ใจกับชีวิตของเธอเลยสักนิดแล้วไหนจะท่าทางลอยหน้าลอยตานั่นอีกมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกโกรธเพิ่มมากขึ้น
   “แล้วก็ปล่อยฉันได้แล้วเหม็นสาป”
   หทัยภัทรพูดขึ้นพร้อมกับการมองคนตรงหน้าด้วยสายตาดูถูก
   “นั่นสินะเหม็นจริงๆด้วย”
   มัทนาก้มลงดมตัวเองช้าๆก่อนจะเงยหน้าไปมองคนที่ว่าให้ตัวเอง
   “รู้ก็ปล่อยสิ!”
   “ปล่อย”
   “ใช่ปล่อย! ภาษาคนง่ายๆไม่เข้าใจหรือไง”
   “ออ ได้ค่ะ”
   พูดจบแทนที่มัทนาจะปล่อยมือตามคำสั่งแต่เธอกลับดึงตัวหทัยภัทรเข้ามาใกล้ก่อนจะจัดการกอดรัดอีกฝ่ายเอาไว้
   “ยัยบ้า! ปล่อยฉันนะ”
   หทัยภัทรดิ้นรนอยู่ในอ้อมกอดที่แน่นหนาอยู่นานแต่ก็ไม่ได้ผลเมื่อเธอยิ่งดิ้นเจ้าของอ้อมกอดก็ยิ่งรัดตัวเธอแน่นขึ้น
   “ก็ปล่อยอยู่นี่ไงคะ”
   “แบบนี้เรียกว่าปล่อยบ้านเธอสิ”
   “ก็ใช่สิคะ มัทกำลังปล่อยกลิ่นให้กับคุณหทัยภัทรอยู่ไงคะ เอ…นี่เราคุยเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่าคะ”
   คนพูดหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนจะทำการปล่อยในแบบฉบับของตัวเองต่อ
   “ก็ได้”
   ในเมื่อพูดดีๆกันไม่รู้เรื่องหทัยภัทรก็เลือกที่จะหยุดพูดพร้อมกับหยุดดิ้นแล้วหันไปจ้องหน้าคนที่กำลังหัวเราะไม่หยุด
   มัทนาค่อยๆหยุดการหัวเราะก่อนจะมองหน้าคนที่จ้องหน้าเธออยู่ ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะอายุห่างกับเธอตั้งสิบห้าปีหากเธอไม่รู้มาก่อนคงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงพี่หญิงสาวที่แก่กว่าเธอสักสี่ห้าปี ความลืมตัวทำให้มัทนาเผลอปล่อยมือที่จับอีกคนออกเพื่อนำมาลูบไล้ที่ใบหน้างามเหมือนดังต้องมนต์สะกดจากนั้นเจ้าตัวก็ค่อยๆขยับหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นอย่าลืมตัวจนตอนนี้ใบหน้าของเธอทั้งสองอยู่ห่างกันแค่เพียงคืบและก่อนที่มัทนาจะสามารถช่วงชิงเรียวปากอวบอิ่มนั้นมาครอบครองได้ก่อนกลับกลายเป็นว่าหทัยภัทรโน้มหน้าเข้ามาพร้อมกับ…กับ…
   “โอ๊ย!”
   เสียงโหยหวนดังขึ้นเมื่อสิ่งที่เธอกำลังเคลิ้มเป็นได้แค่เพียงฝันเพราะเหตุการณ์ที่แท้จริงก็คือเธอถูกหทัยภัทรกัดจมูกอย่างแรงจนตอนนี้รู้สึกชาไปหมดและเธอก็ทำได้เพียงเอามือปิดไว้เท่านั้น
   “คุณทำบ้าอะไรของคุณเนี้ย”
   “ฉันควรจะถามเธอมากกว่านะว่าตะกี้คิดจะทำอะไร”
   “มัทแค่แหย่เล่นแต่คุณเอาจริงเลยนะ”
   “ใช่! ถ้าเธอไม่หลุดไปซะก่อน”
   ได้ยินดังนั้นมัทนาถึงกับลุกขึ้นเดินถอยหลังออกมาเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
   “จำไว้สิ! ว่าเธอเป็นแค่ลูกหนี้ไม่มีสิทธิ์จะตอบโต้อะไรฉันทั้งนั้น”
   หทัยภัทรหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดรอยเปี้อนที่เสื้อผ้าของตัวเองจากนั้นก็โยนผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยทิ้ง
   “อย่าเอาของสกปรกมาแปดเปี้อนฉันอีก เจียมตัวและท่องเอาไว้ว่าเธอกับฉันเป็นอะไรกัน”
   มัทนามองหน้าคนพูดครู่หนึ่งก่อนจะก้มหน้าลงพื้น เธอไม่มีอะไรจะแก้ตัวเพราะการเหยียดหยาบด้วยคำพูดครั้งนี้มันเป็นเรื่องจริงทุกประการดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุดคือต้องทำใจยอมรับ
   “เอาล่ะรีบไปทำงานกันเถอะเสียเวลามามากแล้ว”
   พูดจบนายหญิงของไร่ก็เดินนำหน้าไปก่อน หทัยภัทรกำมือตัวเองไว้แน่นในเวลานี้เธอกำลังเป็นต่ออย่างมากแต่ทำไมหัวใจของเธอถึงต้องไปสะดุดกับบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใบหน้าของคนที่เดินตามมาหรือเธอกำลังเห็นเงาสะท้อนของใครบางคนอยู่ในนั้นถึงทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวได้มากมายขนาดนี้
   
   ปาลิตายืนมองพี่สาวที่เอาแต่ชะเง้อมองไปหน้าบ้านอยู่ตลอดเวลาเหมือนกำลังรออะไรสักอย่างจนเธออดที่จะเดินเข้าไปถามไม่ได้
   “มองอะไรเหรอพี่นรี”
   นรีรัตน์หันไปมองคนที่จู่ๆก็เดินเข้ามาอย่างตกใจก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบหนังสือมาอ่านเหมือนกับไม่สนใจในสิ่งที่อีกคนถาม
   “เป็นอะไรคนถามก็ไม่ตอบ”
   “พี่กำลังจะอ่านหนังสือ”
   “แต่ตาเห็นว่าพี่นรีกำลังทำท่าเหมือนกับรอใคร”
   คนสงสัยเอ่ยเสียงแข็งพร้อมกับจ้องหน้าพี่สาวเหมือนกับจะคาดคั้นเอาคำตอบ
   “เปล๊า พี่จะรอใครได้”
   “นั่นนะสิ รอใครกันนะ”
   ปาลิตาพยายามมองเข้าไปให้ลึกในดวงตาของคนข้างๆเพื่อหาคำตอบแต่กลับถูกคนที่ดูเหมือนมีความลับยกนิ้วเกือบจิ้มที่ลูกตาของเธอเท่านั้นแหละเธอจึงต้องล่าถอยออกมาพร้อมกับเอามือปิดที่ตาของตัวเองเอาไว้
   “เจ็บนะ”
   “ยังไม่ได้จิ้ม”
   “ก็บอกก่อนจะได้ไม่ทำไง”
   “เพี้ยนจริงๆนะเรา”
   “พี่นั่นแหละเพี้ยน นัดใครไว้ไม่บอกน้อง”
   “บอกว่าเปล่า ว่าแต่พี่หทัยไปไหนไม่เห็นตั้งแต่เช้า”
   เมื่อได้จังหวะนรีรัตน์ก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันทีและก็ได้ผลเมื่อคนข้างๆทำหน้าหงิกทันทีเมื่อได้ยินคำถามนี้
   “ทำไมทำหน้าแบบนี้”
   “ก็พี่หทัยน่ะสิไม่รู้ทำไมต้องลงไปคุมยัยหน้าจืดด้วยตัวเองตาบอกจะดูให้ก็ไม่เอา”
   “พี่หทัยเนี้ยนะ”
   “ใช่อะดิ”
   คนพูดหันไปทำหน้างอใส่พี่สาวของตัวเองก่อนจะเมินหน้าไปทางอื่น
   “พี่นรินต้องรีบๆหายนะ พี่หทัยจะได้อยู่ห่างๆจากยัยหน้าจืดนั่น”
   “เป็นห่วงพี่หทัยเหรอ”
   “ใช่สิทั้งห่วงทั้ง…”
   ปาลิตารีบเอามือปิดปากตัวเองก่อนที่จะหลุดประโยคสำคัญออกมา
   “ทั้งอะไร”
   “เปล่า เปล่าพี่นรีพักเถอะตาไม่กวนแล้ว”
   พูดจบปาลิตาก็รีบเดินไปทันทีก่อนที่จะหลุดอะไรไปมากกว่านี้ ใช่ว่าเธออยากปิดบังแต่ยังไม่พร้อมต่างหากเอาไว้ถึงเวลาที่เหมาะสมซะก่อน วันนั้นเธอเชื่อว่าถ้าพี่หทัยของเธอได้รับรู้ต้องไม่มีวันปฏิเสธเธอแน่ๆ
   ปาลิตามองน้องสาวที่เพิ่งเดินออกไปด้วยความกังวล ทำไมเธอจะไม่รู้ถึงความรู้สึกของคนที่เพิ่งออกไปและเธอก็รู้ว่าหทัยภัทรรักเธอกับปาลิตาเหมือนน้องสาวแค่น้องสาวเท่านั้นคิดแล้วก็อดสงสารปาลิตาไม่ได้ หญิงสาวมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับความคิดที่กำลังลอยไปหาใครอีกคน…คนมาใหม่ที่เปรียบเสมือนศัตรูแต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงคำว่าเกลียดเลยแม้แต่น้อย 




สามมิตร

  • บุคคลทั่วไป
Re: กำแพงหัวใจ ตอนที่ 4
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 07 มกราคม 2014 เวลา 21:50:22 »
อยากอ่านเป็นเล่มอ่ะจ้า รวดเดียวจบ มีมั๊ยจ๊ะ :03:

ออฟไลน์ si

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 42
Re: กำแพงหัวใจ ตอนที่ 4
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 07 มกราคม 2014 เวลา 22:08:56 »
ต่อค่ะไรท์

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.