web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 183
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 153
Total: 153

ผู้เขียน หัวข้อ: สัญญาวิวาห์กำมะลอ ตอนที่ 16  (อ่าน 1752 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Admin

  • แอดมิน
  • เริ่มติด
  • *****
  • กระทู้: 251
  • I'm sociopath. I don't have feelings.
สัญญาวิวาห์กำมะลอ ตอนที่ 16
« เมื่อ: 01 มกราคม 2014 เวลา 11:01:47 »

ตอนที่ 16

    วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันดีที่คนในบ้านเอกอมรกุล กำลังเตรียมตัวจะไปทำกิจกรรมของคู่รักที่เรียกว่าฮันนีมูน
   “มันจะดีเหรอเพชร”
   เสียงของอาศิราเอ่ยถามทันทีเมื่อจู่ๆก็ได้รับคำเชิญชวนจากน้องสาวให้ร่วมทริปนี้ด้วย
   “ดีสิคะไปกันเยอะๆสนุกดี”
   อวิกาตอบก่อนจะเดินไปจัดของในรถ
   “มันจะไม่แปลกไปเหรอที่ฮันนีมูนแต่ดันไปกันมากกว่าสอง”
   “พี่ศิราก็ไปคู่กับพี่รุ้งไงคะแบบนี้ก็ครบพอดี”
   เป็นเสียงของคนที่ออกความคิดเรื่องนี้ มาธวีส่งยิ้มให้กับคนทั้งคู่พร้อมกับเดินมาสะกิดแขนคนที่เอาแต่จัดของในรถจนลืมทำอะไรอีกหนึ่งอย่าง
   “เอาของลงมาครบหรือยังคะ”
   อวิกาหยุดการจัดของทันทีก่อนจะหันไปมองหน้าคนถามแบบจับผิดจนมาธวีต้องหัวเราะออกมากลบเกลื่อน
   “มองพี่แบบนี้พี่ก็เขินแย่”
   วิธีพูดและทำท่าเหมือนหมีอ้อนขนาดนี้คาดว่าคงต้องการให้เธอทำอะไรสักอย่างและก็จริงอย่างที่อวิกาคาดไว้เพราะตอนนี้เธอต้องขึ้นไปแบกกระเป๋าของหมีอีกสองใหม่ใหญ่ที่แม่คุณแอบขึ้นไปจัดอีกรอบพอเธอจะให้เด็กไปยกก็ไม่ยอมสุดท้ายก็ต้องเป็นเธอเท่านั้นที่พี่หมียอมให้จับกระเป๋า
   อาศิรามองตามหลังน้องสาวผู้เป็นที่รักด้วยความสงสารจับใจ ตอนเด็กคงไปแกล้งเขาไว้เยอะพอโตมาถึงได้โดนหมีโขกสับแบบนี้ คิดแล้วก็อดที่จะมองไปยังน้องสะใภ้บ้าอำนาจไม่ได้แต่แค่เพียงหันไปชายหนุ่มก็พบเข้ากับสายตาของคนข้างๆที่เหมือนมีคำถามหรือจ้องจับผิดอะไรสักอย่าง
   “เดี๋ยวก่อนสิคะ”
   มาธวีเอ่ยขึ้นพร้อมกับการเดินไปดักหน้าชายหนุ่มที่กำลังหันหลังให้เธอ อันที่จริงเธอก็ไม่อยากก้าวก่ายแต่จากเรื่องราวที่อวิกาเล่าให้ฟังและจากการสังเกตท่าทีของอาศิราและแพรวรุ่งเธอว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่โดนเฉพาะฝ่ายหญิงที่ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างแต่เธออยากให้มั่นใจกว่านี้อีกหน่อยเพื่อจะได้เริ่มแผนการสานรักในทริปนี้ได้แบบไม่ต้องกังวล
   “น้องผึ้งมีอะไรหรือเปล่าครับ”
   “ผึ้งแค่จะย้ำพี่ศิราอีกครั้งน่ะค่ะว่าต้องไปให้ได้นะคะ”
   คนพูดยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะเอื้อมมือไปปัดเศษใบไม้ที่ติดอยู่บริเวณชายเสื้อออกให้คนตรงหน้า
   อาศิรามองการกระทำนั้นอย่างไม่เข้าใจดูวันนี้น้องสะใภ้จะทำตัวแปลกๆแล้วไหนจะท่าทางกับแววตาที่มองมาทำเอาเขาถึงกับขนลุก…ไม่รู้ว่าอีกคนจะมาไม้ไหนแต่ที่รู้ๆมันน่ากลัวมาก!
   “ถ้าไม่มีอะไรพี่ขอตัวก่อนนะ”
   “จะไปเก็บของเหรอคะ”
   “จ่ะ”
   “งั้นเดี๋ยวเจอกันนะคะพี่ศิรา”
   รอยยิ้มที่ดูแปลกตาทำให้อาศิราได้แต่ยืนมองนิ่งๆเขาว่าวันนี้มาธวีทำตัวแปลกแต่ก็นึกไม่ออกจริงๆว่าคนตรงหน้าต้องการอะไร ส่วนมาธวีก็ได้แต่อมยิ้มน้อยๆก่อนจะแอบชำเลืองมองไปยังด้านหลังของชายหนุ่มที่บัดนี้ไร้เงาของคนที่แอบมองคาดว่าแผนการกระตุ้นต่อม…กำลังไปได้ด้วยดีและมันจะได้ผลมากกว่านี้หากไปถึงยังสถานที่ที่พวกเธอกำลังจะไป รอยยิ้มดังนางพญาหมีค่อยๆเปิดออกมามันดูน่ากลัวจนอาศิราต้องค่อยๆแอบย่องออกมาอย่างเงียบๆ   
   ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอกเมื่อสามารถปลีกตัวออกมาได้ อาศิราเคาะประตูห้องนอนเบาๆแต่ก็ไร้การตอบรับจากคนข้างในเขาจึงเปิดประตูเข้าไปแบบถือวิสาสะ
   คนที่อยู่ในห้องถึงกับสะดุ้งเมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับใครอีกคนที่เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แพรวรุ่งมองหน้าคนที่เข้ามาครู่หนึ่งก่อนจะก้มลงเก็บเสื้อผ้าต่อโดยไม่สนใจอีกคนเลยแม้แต่น้อย
   “ที่เชียงคานท่าจะหนาวเธอเอาเสื้อกันหนาวไปเยอะๆหน่อยนะ”
   อาศิราเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้าของอีกคนมาช่วยพับ
   “ฉันพับเองได้”
   แพรวรุ่งเอ่ยเสียงแข็งก่อนจะแย่งผ้าในมือชายหนุ่มกลับมาพับเอง
   “ฉันช่วย”
   คนพูดเอื้อมมือไปจับผ้าผืนนั้นเอาไว้ก่อนจะดึงกลับมาเตรียมจะพับแต่กลับถูกหญิงสาวหน้างอแย่งกลับไปอีก
   “เธอนี่ดื้อจังนะถ้าลูกเกิดดื้ออย่างเธอฉันคงปวดหัวแย่”
   ประโยคที่อาศิราแค่กะจะพูดแหย่เล่นๆกลับทำให้คนฟังถึงกับหน้าเสียขึ้นมาจริงๆจนชายหนุ่มต้องรีบหุบยิ้มก่อนจะเปลี่ยนจากนั้นบนเตียงเป็นย่อตัวนั่งกับพื้นเพื่อที่จะมองหน้าอีกคนได้ถนัดขึ้น
   “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า”
   “เปล่า”
   “เธอดูหน้าซีดๆนะไปนอนพักก่อนมั้ย”
   “ฉันไม่เป็นอะไร”
   “ฉันว่าถ้าเธอไม่ไหวเดี๋ยวฉันไปบอกน้องผึ้งว่าเราไม่ไปดีกว่ามั้ย”
   เพียงแค่เอ่ยชื่อของใครบางคนก็ทำให้หัวใจของแพรวรุ่งเจ็บแปลบแบบไม่มีสาเหตุ เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกอะไรแบบนี้ทั้งหงุดหงิด อารมณ์เสียและที่สำคัญไม่อยากเห็นแม้แต่เสียวหน้าของผู้ชายคนนี้
   “ไม่เป็นไร สงสัยลูกจะดิ้น”
   คนพูดเชิดหน้าขึ้นก่อนจะหันมาตั้งใจเก็บของลงกระเป๋าต่อแต่คนฟังนี่สิถึงกับอึ้งอยู่นานจากนั้นก็เอาหูไปแนบที่ท้องของแพรวรุ่งอย่างลืมตัว
   “คุณจะทำอะไร”
   แพรวรุ่งเอ่ยออกมาอย่างตกใจแต่เธอก็ไม่ได้ถอนห่างหรือดันตัวอีกคนออกอย่างที่ใจคิด
   “ผมจะบอกลูกว่าอย่าแกล้งแม่”
   คนพูดยังคงเอาหูแนบไว้ที่เดิมแต่สายตาและรอยยิ้มของเขากลับถูกส่งมอบให้กับหญิงสาวที่นั่งอยู่จนแพรวรุ่งเผลอยิ้มตอบกลับแบบลืมตัว
   “แล้วเราจะพาเค้าไปเที่ยวด้วยกัน”
   พูดจบอาศิราก็จูบลูกในท้องเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองแพรวรุ่งที่กำลังยิ้มให้กับเขาและเพียงไม่นานรอยยิ้มนั้นก็ถูกเก็บคืนเมื่อเจ้าหล่อนรู้ตัวแต่แค่นี้อาศิราก็พอใจมากแล้วเขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะยอมให้ได้สัมผัสแบบนี้อย่างน้อยแพรวรุ่งก็ไม่ใจร้ายที่จะกีดกันไม่ให้เขาได้กอดกับลูกในท้อง
   “ขอบคุณนะ”
   “สำหรับอะไรคะ”
   “ที่เธอยอมให้ฉันได้เอ่อได้…”
   คำพูดตะกุกตะกักทำให้คนฟังถึงกับหน้าแดงแพรวรุ่งรีบหันหน้าไปทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง
   “คุณมีสิทธิ์ ฉันห้ามไม่ได้หรอก”
   พูดจบหญิงสาวก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีส่วนอาศิราก็ได้แต่อมยิ้มคิดทบทวนประโยคนั้นไปมา…ไม่ว่ามันจะมีความหมายอย่างไรแต่ที่รู้ๆก็คือแพรวรุ่งคงจะมองเขาในแง่ดีขึ้นมาบ้างแล้ว

   เมื่อมาถึงยังจุดหมายทั้งสี่คนต่างแยกย้ายเข้าที่พักโดยวันนี้จะมีไกด์กิตติมศักดิ์อย่างชายหนุ่มเพียงคนเดียวในทริปเป็นคนพาเที่ยว
   เมื่อเข้าห้องมาธวีก็ทิ้งตัวลงบนเตียงทันทีพร้อมกับมองไปยังประตูที่ตอนนี้กำลังมีเด็กยกกระเป๋าหน้าตาน่ารักเข้ามา
   “ทำหน้าแบบนี้พี่ไม่ให้ทิปนะคะ”
   ประโยคหยอกล้อของคนที่นอนสบายอยู่บนเตียงหาได้เรียกรอยยิ้มจากคนที่เหนื่อยแขนแทบหลุดมาได้ อวิกาเก็บกระเป๋าใบสุดท้ายเข้าที่ก่อนจะกระโดดลงไปนอนที่เตียงอย่างเร็วจนคนที่นอนอยู่ก่อนต้องกลิ้นหลบแทบไม่ทัน
   “น้ำเพชร! ”
   มาธวีเรียกชื่อคนที่ทำเธอเกือบตกเตียงแบบคาดโทษก่อนจะจัดการเอาหมอนนิ่มๆฟาดใส่คนที่กำลังหัวเราะเยาะเธอ
   “โอ๊ย! ”
   อวิการีบยกมือขึ้นมาบังหลังจากที่โดนไปแบบเต็มๆครั้งแรกแต่ก็ไร้หนทางต่อสู้เมื่อหมีกำลังจะใช้สองแขนและอีกหนึ่งตัวช่วยตะปบเธอ
   “รับผลของการกระทำซะดีๆ”
   น้ำเสียงเย็นๆเอ่ยออกมาพร้อมกับการเดินหลังชนกำแพงของอวิกาหญิงสาวทำได้เพียงส่งสายตาอ้อนวอนให้อีกฝ่ายแต่ไม้นี้คงไม่ได้ผลเมื่อหมีกำลังง้างอุ้งตีนใส่เธอแบบสุดแรงเกิด
   อวิกาใช้มือบังอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนจากการเอามือบังเป็นปัดหมอนออกไปจากนั้นก็คว้าเอวของอีกคนมาแนบกับตัวเองและนั่นเหมือนจะได้ผลเมื่อมาธวีหยุดการกระทำแทบจะทันทีก่อนจะหันมาจ้องหน้าคนที่อยู่ดีๆก็กอดเธอ
   “หยุดซะทีเพชรเจ็บไปหมดแล้วเนี้ย”
   คนพูดทำหน้างอๆแต่มือก็ยังคงกอดเอวคนตรงหน้าไว้แน่
   “หยุดแล้วก็ปล่อยพี่สิคะ”
   มาธวีก้มหน้าพูดเธอรู้สึกว่าตอนนี้อุณหภูมิร่างกายของเธอกำลังเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า
   “ปล่อย”
   อวิกาเอ่ยทวนคำสั้นๆก่อนจะเริ่มคิดได้ว่าเธอกับอีกคนกำลังอยู่ในท่าทางแบบไหน
   “ปล่อยพี่สิคะ”
   มาธวีเอ่ยออกมาอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแขนของคนตรงหน้าออกจากเอวของเธอ
   “กอดแบบนี้อุ่นดีออก”
   อวิกาเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะซบหน้าเข้าที่ไหล่ของอีกคน
   “น้ำเพชรอย่าเอาเปรียบพี่แบบนี้สิคะ”
   คนฟังเงยหน้าขึ้นมาช้าๆก่อนจะค่อยๆคลายแขนของตัวเองออกจากนั้นก็ดึงแขนของคนพูดเอามาโอบไว้ที่เอวของเธอและสุดท้ายคนเจ้าเลห์ก็กระชับอ้อมกอดของตัวเองและครั้งนี้เธออนุญาติให้แม่หมีซบหัวลงที่ไหล่ของเธอได้
   “แบบนี้ยุติธรรมพอมั้ยคะ”
   มาธวียินยอมรับการกระทำของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเธอไม่คิดปฏิเสธหรือแม้แต่เล่นตัวเพราะเธอว่าแบบนี้มันก็แฟร์ดีไม่มีใครเสียเปรียบหรือได้เปรียบดังนั้นอยู่แบบนี้สักพักก็ไม่น่าจะเป็นอะไร




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.