web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 224
Most Online Ever: 224
(วันนี้ เวลา 02:15:37)
Users Online
Members: 0
Guests: 148
Total: 148

ผู้เขียน หัวข้อ: ลวงรักฉบับร้าย ตอนที่ 5  (อ่าน 1648 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ meAyou

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 69
ลวงรักฉบับร้าย ตอนที่ 5
« เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2014 เวลา 16:56:52 »
   ภายในโต๊ะที่ตอนนี้ได้ตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงแต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมาเพราะเกรงว่าอาจถูกลูกหลงได้
   “มีใครจะพูดอะไรมั้ย”
   เป็นคำถามที่ทุกคนในโต๊ะต่างพากันก้มหน้าก้มตาและผู้โชคดีที่ได้รับความสนใจให้เป็นคนคลี่คลายคำถามก็คืนคนที่กนต์รพีคิดว่าน่าจะเป็นตัวการอันดับต้นๆที่นั่งข้างๆเธอ
   “แกจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ…ษา”
   เจ้าของชื่อถึงกับขนลุกในน้ำเสียสยิวที่ได้ยินแล้วไหนจะสายตาที่จับจ้องมองมายังตัวเธอนั่นอีกและพอเงยหน้าไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนอื่นๆกลับได้รับการเมินเฉยและไม่สนใจจนเธออยากลุกตะโกนด่าออกมาทีตอนวางแผนล่ะก็เสนอหน้ากันจริงแต่พอแผนแตกเธอกลับเป็นผู้รับเคราะห์เพียงคนเดียว
   “ก็ได้ฉันพูดเองแต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่ามันคือความคิดเห็นของคนทั้งกลุ่ม”
   พูดจบมาริษาก็กวาดสายตาไปยังเพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะทีละคน
   “นี่หมายความว่าพวกแกรู้เรื่องหมดเลยใช่มั้ย”
   “ก็อยากให้มันออกมาดี”
   “แล้วเป็นไงล่ะดีสมใจมั้ย”
   กนต์รพีพูดด้วยน้ำเสียงประชดทำให้คนในโต๊ะยิ่งหน้าเสียเข้าไปอีกโดยเฉพาะตัวการของเรื่องที่นั่งตัวลีบลงเรื่อยๆ
   “เอาเถอะฉันรู้ว่าพวกแกหวังดี”
   “ใช่ๆพวกเราหวังดีนะ”
   “ถูกทุกอย่างที่พวกเราทำก็เพื่อตัวแกเองนะ”
   พอกนต์รพีพูดว่าเข้าใจคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาก็เงยหน้าขึ้นมาประสานเสียงและฉีกยิ้มกันทั่วหน้า
   “ขอบใจแต่คราวหน้าไม่ต้องแล้วนะ”
   “เอาน่ะพวกเราทุกคนสำนึกผิดแล้วแต่ที่ทำก็เพื่อตัวแกเองนะ”
   มาริษาตัดสินใจเอ่ยความในใจออกมาเพราะเธอก็อยากให้เพื่อนรักได้รู้จุดประสงค์ของเรื่องที่ทำในวันนี้
   “แกรู้ตัวบ้างมั้ยว่านับตั้งแต่เกิดเรื่องแกก็เอาแต่หลบหน้ายัยรุ่นพี่พวกนั้นทั้งๆที่แกไม่ได้เป็นคนผิด”
   “ฉัน…เอ่อ…ไม่คิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเจอนี่นา”
   “แต่เพราะการหลบเลี่ยงแบบนั้นทำให้แกต้องพลาดที่จะได้เข้าโรงเรียนดีๆงานดีๆเลยนะ”
   “เรียนที่ไหนก็ได้ฉันไม่ได้ยึดติด”
   “กนต์รพีแกโตมากพอที่จะเผชิญหน้าได้แล้วแกดูสิยัยพวกนั้นก็มีตา หู จมูก ปากแล้วก็มือสองมือเหมือนกับเรา”
   กนต์รพีหันไปมองยังบุคคลที่มาริษาเอ่ยถึงก่อนจะดึงสายตาที่สั่นไหวกลับมาซึ่งอาการแบบนี้ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของคนข้างๆได้
   “ฉันรู้ว่าแกฝังใจแต่แกจะยอมให้ยัยนั่นอยู่เหนือแกตลอดไปเหรอ”
   “ฉันก็อยากจะทำอย่างที่แกพูดแต่…”
   ประโยคสุดท้ายที่ขาดหายทำให้มาริษากับเพื่อนคนอื่นๆต่างเดินเข้ามาแตะไหล่และบีบมือกนต์รพีเพื่อให้กำลังใจนั่นทำให้เจ้าตัวพอจะยิ้มออกได้บ้าง
   “อย่ากลัวสิตอนเด็กพวกเราสู้อะไรไม่ได้เพราะเราเป็นน้องแต่ตอนนี้พวกเราพร้อมไฝ้วกันทุกคน”
   “ใช่”
   กนต์รพีมองเพื่อนๆที่พูดให้กำลังใจด้วยความตื้นตันถึงแม้จะไม่ได้เจอกันหลายปีแต่มิตรภาพของคำว่าเพื่อนก็ยังคงอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง
   “ขอบใจขอบใจจริงๆ”
   “นี่อย่าบอกนะว่าแกกำลังจะร้องไห้”
   มาริษาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นกนต์รพียกมือขยี้ที่ตา
   “งั้นพอเถอะฉันไม่อยากเห็นน้ำตาหมู”
   “ใครหมู!”
   “แหม๋จะใครล่ะคะอย่าลืมสิหมูตัวผอมๆยาวๆก็มีออกเกลื่อน”
   “จะหาเรื่องฉันใช่มั้ย”
   “เปล๊า”
   “ไม่หาเรื่องแต่แกเรียกฉันว่าหมูนี่นะ”
   “ล้อเล่นน๊าแกจะได้ไม่ร้องไห้ไงจริงมั้ยพวกเรา”
   คนพูดเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มแต่พอหันไปหาตัวช่วยรอยยิ้มของมาริษาของค่อยๆหดหายเพราะตอนนี้ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเธอเลยสักคนอาจเพราะทุกคนได้ประจักษ์กับฤทธิ์ของหมูตกมันไปแล้วจึงไม่มีใครกล้ากระตุ้นต่อมโกรธของกนต์รพี
   ครั้งนี้เธอก็พลาดเองที่ไปพูดในสิ่งที่เพื่อนรักไม่ชอบจากนี้ไปคงต้องรับผลของคำพูดหลุดปากแล้วสินะ
   มาริษาหันไปส่งยิ้มให้กับคนข้างๆที่ตอนนี้กำลังบิดไปบิดมาเพื่อวอมร์ร่างกายจากนั้นกนต์รพีก็เดินเข้ามาพร้อมการสวมกอดคนพูดล้อจากกอดหลวมๆก็ค่อยๆแน่นขึ้น แน่นขึ้น แน่นขึ้นจนคนถูกกอดหน้าแดงเพราะเริ่มหายใจไม่ออก
   ไม่เข้าใจว่ากนต์รพีไปเอาบทลงโทษแบบนี้มาจากไหนแต่ตอนนี้ที่มาริษาคิดก็คืออยากแตะมือเปลี่ยนตัวกับใครสักคนในกลุ่มเพราะคาดว่าอีกไม่เกินหนึ่งนาทีตัวของเธอก็จะแตกสลายไปด้วยฝีมือของยัยหมูโหดกนต์รพี

   กนต์รพียึดอ่างล้างมือไว้เป็นที่พึ่งหลังจากที่พบว่าตัวเองกำลังประสบพบเจอกับคำว่าโลกหมุนแต่เหมือนขอบอ่างจะลื่นเกินไปจึงทำให้มือที่จับอยู่หลุดออกจนเจ้าตัวถึงกับเซล้มลง
   “เจ็บชะมัด”
   คนล้มบ่นให้กับความซุ่มซ่ามของตัวเองแล้วไหนจะความรู้สึกมึนๆที่ยังคงมีอยู่เพราะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เยอะเกินนี่อีก
   เธอไม่น่าหลงเชื่อมาริษาเลย…ได้เรื่องจนได้
   แต่แล้วก็เหมือนโชคจะเข้าข้างเมื่อจู่ๆก็มีคนใจดียื่นมือเข้ามาฉุดให้ลุกขึ้นและกนต์รพีก็รีบรับน้ำใจจากคนใจดีแบบไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมองว่าเป็นใครด้วยซ้ำ
   “ขอบคุณค่ะ”
   กนต์รพีเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้างแต่เพียงแค่ได้เห็นหน้าของคนที่มาช่วยเท้าของเธอก็เดินถอยออกอย่างรวดเร็ว
   “เธอนี่ยังซุ่มซ่ามเหมือนเดิมเลยนะ”
   คนพูดยิ้มออกมาน้อยๆเป็นรอยยิ้มที่กนต์รพีเชื่อว่าหากเป็นคนอื่นคงทำให้เธอรู้สึกดีมากกว่านี้แต่ถ้าเป็นผู้หญิงคนนี้เธอคิดว่ามันเหมือนกับรอยยิ้มของแม่มด!
   กนต์รพีเมินหน้าไปทางอื่นก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อออกไปจากห้องน้ำให้เร็วที่สุดแต่กลับถูกดึงแขนเอาไว้ไม่ให้ไปไหน
   “อย่าหันหลังให้ฉัน”
   เสียงตวาดลั้นห้องน้ำทำให้กนต์รพีรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้นางฟ้าจอมปลอมได้กลับคืนสู่ร่างแม่มดที่แท้จริงแล้ว
   “พี่ต้องการอะไร”
   “ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอหรอกเพราะสิ่งที่เธอมีมันไม่มีค่าเลยสำหรับฉัน”
   น้ำเสียงและประโยคเย้ยหยันทำให้คนที่ถูกว่าเริ่มจะมีอารมณ์โกรธผุดขึ้นมาจนเจ้าตัวต้องหันกลับไปเผชิญหน้ากับคนหาเรื่องอย่างสุดจะกลั้น
   “แล้วมาจับทำไม”
   กนต์รพีพูดพร้อมกับชายตามองมือที่จับแขนของตัวเองเอาไว้และนั่นคงจะทำให้ธัญวรัตน์รู้ตัวจึงรีบดึงออกพร้อมกับการวิ่งไปที่ก๊อกน้ำล้างมือเป็นการใหญ่
   “ประสาท”
   คนถูกหาเรื่องบ่นออกมาเบาๆก่อนจะหันหลังเพื่อจะเดินไปที่ประตูอีกครั้งแต่แล้วเท้าที่จะก้าวเดินก็ต้องชะงักเมื่อถูกธัญวรัตน์วิ่งเข้ามาขวางไว้
   “พูดไม่รู้เรื่องหรือไงฉันบอกว่าไม่ชอบให้ใครหันหลังให้!”
   กนต์รพีมองหน้าคนพูดครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจแสดงความเบื่อหน่ายออกมาทางสีหน้า
   “นี่เธอกล้าถอนหายใจใส่ฉันเหรอ”
   “ทำไมล่ะคะพีจะหันหลังหรือถอนหายใจมันก็เป็นสิทธิ์ของพี”
   “ฉันไม่ชอบ!”
   “พี่ไม่ชอบก็เรื่องของพี่ ไม่มีอะไรขอตัวก่อนนะคะ”
   “ไม่ได้! ฉันยังไม่อนุญาต”
   “พี่เมาแล้วไปหาที่นอนเถอะค่ะจะมาหาเรื่องกันทำไม…เสียเวลา”
   “กล้าว่าฉันเหรออย่างกับตัวเองไม่เมาถึงได้ไปนอนกองกับพื้นแบบนั้น”
   “ค่ะพีเมางั้นขอตัวไปนอนก่อนนะคะ”
   “ให้ไปก็ได้แต่เธอต้องไปขอโทษฉันต่อหน้าเพื่อนๆก่อน”   “ขอโทษ…เรื่องอะไรคะ”
   “ก็เรื่องที่พวกเธอจงใจมาหาเรื่องฉันตอนเริ่มงานไง”
   กนต์รพีนึกย้อนไปถึงตอนที่กลุ่มพวกเธอเดินเข้าที่โต๊ะของคนตรงหน้าและเหตุการณ์นั้นเธอก็รู้ว่าเป็นพวกเธอเองที่ผิดแต่…เธอจะไม่มีวันทำตามความต้องการของผู้หญิงคนนี้
   “อ๋อ…นึกออกล่ะ แต่ไม่ไปค่ะ”
   “นี่เธอ!”
   “ค่ะไม่ไปแล้วก็หลีกทางด้วยค่ะจะไปหาที่นอนเมามากแล้ว”
   เป็นคำพูดที่ธัญวรัตน์ฟังออกทันทีว่าอีกฝ่ายตั้งใจพูดกระแนะกระแหนเธอและไม่ต้องรอช้าเมื่อฝ่ามือน้อยๆจัดการสมนาคุณด้วยการฟาดลงที่แก้มของคนปากดีด้วยแรงทั้งหมด
   “มากไปแล้วนะ”
   คนถูกตบตะคอกออกมาเสียงดังด้วยความโมโหที่เจ้าตัวไม่สามารถจะระงับได้อีกต่อไป
   “น้อยไปด้วยซ้ำกับคำพูดอวดดีของเธอ”
   “พี่นี่มัน…”
   กนต์รพีไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรดีเพื่อให้คนตรงหน้าได้รู้สึกแต่แล้วความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอพร้อมกับสายตาที่จ้องมองของบางอย่างที่ธัญวรัตน์อมอยู่
   “นี่คงไปพนันกับเพื่อนอีกล่ะสิว่าจะพาพีไปขอโทษได้หรือเปล่า”
   “ไม่ต้องมาอวดรู้ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”
   คนถูกสั่งยกยิ้มที่มุมปากครู่หนึ่งก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นหัวเราะเสียงดังจนธัญวรัตน์นึกฉุนเมื่อเห็นคนตรงหน้าอารมณ์ดีแบบไร้สาเหตุ
   “เป็นบ้าหรือไงอยู่ๆก็หัวเราะ”
   “ตอนแรกก็ไม่เป็นมาเป็นตอนคุยกับพี่นี่แหละ”   
   ธัญวรัตน์ยกมือขึ้นเตรียมฟาดสั่งสอนคนปากดีอีกครั้งแต่คราวนี้เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันถึงได้คว้าแขนของเธอได้ทัน
   “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะยัยบ้า!”
   “ไม่ปล่อย”
   กนต์รพีเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนจะรีบจับมืออีกข้างของคนตรงหน้ามารวบเข้าไว้ด้วยกัน
   “เธอจะทำอะไร”
   “ก็เล่นเกมกับพี่ไงคะ”
   “เกมบ้าเกมบออะไรกันปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”
   ไร้ซึ่งเสียงตอบรับมีเพียงสายตาและการเดินเข้ามาใกล้จนธัญวรัตน์ต้องก้าวถอยหนีทีละก้าวจนในที่สุดเธอก็หมดหนทางที่จะไปได้อีกแล้วเมื่อตอนนี้หลังของเธอชนเข้ากับกำแพง
   “เกมนี้มีชื่อว่า…ลูกอมรสอะไรเอ่ย”
   ธัญวรัตน์นึกสงสัยกับสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะเล่นแต่แล้วทุกอย่างก็กระจ่างอย่างรวดเร็วเมื่อริมฝีปากของคนตรงหน้าเข้ามาประกบกับริมฝีปากของเธอและที่น่าตกใจก็คือกนต์รพีค่อยๆแทรกลิ้นเข้าไปในปากของเธอพร้อมกับการพยายามควานหาอะไรบางอย่าง
   ดวงตาของคนถูกจูบถึงกับลุกวาวเมื่อนึกขึ้นได้ว่าชื่อเกมและสิ่งที่ตัวเองกำลังอมอยู่คืออะไร
   กนต์รพีเคลื่อนหน้าออกมารวดเร็วแต่มือของเธอก็ยังล็อคตัวคนตรงหน้าเอาไว้เพราะอีกฝ่ายทั้งดิ้น ทุบ ขวนแล้วไหนจะการพยายามกัดลิ้นเธออีกดีนะที่ถอนจูบได้ทัน
   “เอ…ยังไม่คอยมั่นใจเลยอีกทีดีมั้ยนะ”
   “ก็ลองดูจะกัดให้ลิ้นขาดเลย”
   ประโยคที่พูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดบวกกับแววตาโหดที่ส่งมาทำให้กนต์รพีชักจะไม่มั่นใจในการกระทำของตัวเองจนเผลอปล่อยอีกคนให้เป็นอิสระและธัญวรัตน์ก็ไม่รอช้าที่จะดันตัวเองออกพร้อมกับการรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดของตัวเองผลักคนตรงหน้าจนล้มลง
   “ถ้าเธอกล้าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังฉันเอาเธอตายแน่!”
   คนพูดวิ่งไปล้างปากของตัวเองจากนั้นก็เช็ดแรงๆเพื่อหวังให้สัมผัสที่น่าขยะแขยงหลุดออก
   “เธอนี่มันน่ารังเกียจตั้งแต่เด็กยันโตเลยนะฉันไม่น่าเข้าใกล้เธอเลยจริงๆ”
   พูดจบธัญวรัตน์ก็รีบเดินออกไปจากห้องน้ำทันทีเพราะตอนนี้เธอรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงกนต์รพีมากซะจนไม่อาจทนให้อีกฝ่ายอยู่ในรัศมีสายตาได้
   กนต์รพียกมือแตะที่ปากของตัวเองเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำอาจเพราะอารมณ์โกรธบวกกับสติที่มีไม่มากนักทำให้เผลอทำเรื่องแบบนั้น
   แต่มีเรื่องที่น่าหนักใจกว่านั้นก็คือหากต้องเผชิญหน้ากับธัญวรัตน์อีกครั้งเธอควรจะทำหน้าอย่างไร
   แต่มาคิดๆดูแล้วธัญวรัตน์คงไม่มีอารมณ์มองหน้าเธอหรอกเพราะฝ่ายนั้นคงเตรียมทุบเธอทันทีที่พบหน้า!
   




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.