web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 78
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 53
Total: 53

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 17 - เจอตัวจริง  (อ่าน 1961 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 17 - เจอตัวจริง
« เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:57:56 »
Chapter  17  :  เจอตัวจริง

ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลมองทอดออกไปนอกหน้าต่าง  เธอต้องการมองดูทัศนียภาพของสถานที่ที่เครื่องบินลำนี้บินล่องลอยผ่านไป  ภาพของมันไม่คุ้นตา  เพราะนี่ก็เป็นเพียงครั้งที่สองของการมาเยี่ยมเยือนที่นี่ของเธอ  แต่อย่างไร  มันก็เป็นภาพที่เธอเฝ้าคิดถึงตลอดมา  มันติดตรึงอยู่ในหัวใจ

“อีกไม่กี่นาทีเครื่องก็จะแลนดิ้งแล้วนะครับ..ผู้พัน”  เสียงคุ้นหูเอ่ยเตือน  คนริมหน้าต่างทำเพียงฮัมเบาๆตอบรับไปและให้ความสนใจกับสิ่งที่มองอยู่ต่อไปเหมือนอยากใช้เวลาแห่งความสงบตรงนี้ให้มากที่สุด  ทำใจและทำสมาธิ

“แพททริค..”  เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบนี้ด้วยตัวเอง  แต่เจ้าของเสียงก็ไม่ได้หันไปมองหน้าคนที่ตนพูดด้วย  และไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องเสียมารยาทแต่อย่างใด 

“ครับท่าน”  ชายหนุ่มขานรับแข็งขัน

มือขาวผ่องถูกยกขึ้นมาใช้ปลายนิ้วจากนิ้วเรียวยาวบีบนวดขมับของตัวเองขณะหลับตาลง  เรียวปากสวยเม้มลงเหมือนพยายามเก็บกดอะไรไว้สักอย่าง 

“นายรู้ใช่มั้ยว่า..  เราจะไปที่ไหนเป็นที่แรก”  เสียงที่เริ่มแข็งขึ้นถามออกมา

คนฟังไม่ลังเลใจที่จะตอบ  “ครับ..  ผมรู้”

“ดี”  เสียงเดิมตอบรับสั้นๆ และถอนหายใจออกมา  เปิดดวงตาสีเหมือนท้องทะเลยามต้องแสงตะวันออกมารับแสงแห่งดวงตะวันใหม่อีกครั้ง  และยิ้มให้มันอย่างฝืนๆ

“เราจะได้เจอกันอีกครั้งแล้วนะ..  ดีใจรึเปล่า..เจ้าหญิงของฉัน” เธอถามไปกับเมฆก้อนหนึ่งที่เครื่องบินผ่านไปเจอ

--The bodyguard--

“ทำไมฉันจะต้องไปประชุมที่นั่นด้วยล่ะ”  เสียงบ่นอุบอิบดังขึ้นมาด้านหลังบานประตูตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ถูกเปิดไว้เพื่อใช้เป็นฉากกั้นสายตาของใครอีกคนที่อยู่ในห้องด้วยกันที่อาจจะกำลังมองหรือไม่มองเธออยู่ก็ได้ในตอนนี้  แต่ยังไงก็ต้องกันเอาไว้ก่อน  เผื่อว่าเขาจะติดนิสัยของแฟนเธอมา  ว่าไม่ได้หรอกนะ..สนิทกันขนาดนั้น..

“ก็แค่ให้ไปนั่งเป็นประธานรักษาการเท่านั้นเอง  นั่งเฉยๆน่ะ..ยัยดิว  เธอเข้าใจรึเปล่า” ไมชี้แจงอย่างอ่อนใจกลับมาขณะยืนเท้าสะเอวรอคนบ่นที่กำลังแต่งตัวอยู่  ซึ่งมันก็เป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วที่เธอมายืนคะยั้นคะยอเขาอยู่ตรงนี้  มันเป็นหน้าที่ที่น่าเบื่อที่สุดที่เธอเคยทำมาตลอดเวลาในงานของเธอ

“แล้วทำไมคุณพ่อไม่ไปแทนล่ะ  หรือเธอก็นั่งไปก็ได้นี่  ยัยเลขานั่นล่ะ  และอีกอย่างนะ ฉันก็อายุไม่ถึงที่จะเซ็นต์อะไรได้ด้วย”  อีกเสียงยังคงพยายามหาเหตุผลมาแย้ง  แต่ก็เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น  เสียงหัวเราะหึๆอย่างเบื่อหน่ายจึงตามหลังมา

“เธอก็พูดบ้าๆไปได้นะ..ยัยดิว  ฉันมีอำนาจที่ไหนจะไปนั่งที่นั่งของท่านประธานได้ล่ะ  ยัยเลขานั่นก็มีหน้าที่ของหล่อน  ส่วนคุณพ่อของเธอ  ท่านไม่ขอยุ่งเรื่องนี้  มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละ  แล้วเธอก็ไม่ได้มีหน้าที่ไปเซ็นต์อะไรด้วย  เรื่องนั้น..เดี๋ยวคุณแคลเค้าก็จัดการเองแหละ”  ไมทำเสียงดุเหมือนแม่ออกมา  ดวงตาสีม่วงจ้องมองอีกคนผ่านบานประตูตู้ราวกับจะทำให้มันลุกเป็นไฟเสียให้ได้  และถ้าร่างบางนั่นยังไม่ยอมออกมาภายในสองนาทีเธอสาบานว่าจะทำ  แต่โชคดีที่ดิออนออกมาแล้ว

“เข้าใจหรือยัง”  สาวไฮเปอร์ถามย้ำเสียงเหมือนแม่ดุลูกอีกครั้ง  ลูกที่ตัวโตและดื้อมากเสียด้วย  ร่างบางนั่นยักไหล่เหมือนไม่รู้ไม่ชี้  ดีที่ว่ายังออกมาพร้อมเครื่องแต่งกายที่พร้อมจะไปทำงานแล้ว   ไม่เช่นนั้น  ห้องนอนห้องนี้คงจะระเบิด

“ไม่เข้าใจ..”  ดิออนเอ่ยออกมาอย่างกวนๆแต่ก็เตรียมตัวจะเดินออกจากห้องโดยไม่รออีกคนที่เดินตามหลังมาติดๆ  “แต่ไปก็ได้..  อยากเจอหน้ายัยนั่นอยู่เหมือนกัน” 

ไมมองเหล่คนเดินข้างกันด้วยสายตาหวาดระแวงเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย  “ยัยนั่น..ใคร?”

ร่างบางยิ้มชั่วร้ายออกมาอย่างไม่รู้ตัวเหมือนติดนิสัยใครบางคนมาโดยบังเอิญ  เธอรีบก้าวเท้าเดินเหมือนกำลังจะรีบไปตามหาใคร  แต่ไม่ได้ลืมตอบคำถามที่ทำให้อีกคนสะดุ้ง

“นางบำเรอ”

คนฟังทำหน้าเหวอกับคำๆนี้  และก็กระพริบตาเริ่มเข้าใจในความหมายของคำพูด  เธอกระทุ้งศอกใส่สีข้างของคนเดินข้างกันเบาๆ “แรงนะยะ..  นางบำเรอเลยเหรอ..  ถ้ายัยนั่นรู้เข้า  คงจะกรี๊ดบริษัทแตกแน่ๆ”  รอยยิ้มอย่างรู้ทันกันส่งกลับมาให้จากอีกคน

“ฉันอยากเห็นอะไรแบบนั้นจริงๆ” 

“แทบอดใจไม่ไหวเลยล่ะ”

สองคนส่งคำพูดโต้ตอบกันอย่างสนุกสนานไปตลอดทางโดยที่ไม่รู้ว่า  สิ่งที่พวกเธอจะเจอจริงๆในที่ทำงาน  มันแตกต่างกันกับที่พูดเล่นหัวกันอยู่ตรงนี้โดยสิ้นเชิง

ดิออนพบว่า  เธอหาทางเข้าห้องประชุมไม่เจอ  ทั้งที่แน่ใจว่าเธอจำมันได้อย่างแม่นยำว่ามันอยู่ตรงไหนของที่นี่  แม้แต่คนของที่นี่เองอย่างเพื่อนรักของเธอก็ยังต้องยืนขมวดคิ้วอยู่ตรงนี้อย่างหงุดหงิดใจ  เพราะถ้าเธอไม่รีบหามันให้เจอแล้วล่ะก็  เธออาจจะต้องเข้าประชุมสายและมันไม่ใช่เรื่องดีเลยทีเดียว  เมื่อนึกถึงว่า  เจ้าของบริษัทตัวจริงจะต้องเสียชื่อเสียงมากขนาดไหนหากเป็นเช่นนั้น

“ฉันว่า  คนพวกนั้นเกะกะชะมัด  มามุงดูอะไรกันเนี่ย”  ไมบ่นขึ้นมาในท่ายืนเท้าสะเอว  ดวงตาสีม่วงแทบจะมองทะลุไปตามตัวของผู้คนตรงหน้า  เพื่อจะรู้ว่ามันมีอะไรน่าสนใจอยู่ข้างในนั้น
 
“ฉันว่า.. เราคงจะต้องทำอะไรสักอย่างกันแล้วล่ะ” เธอพูดขึ้นอีกขณะที่อีกคนยืนงง  แต่ต่อมาเหมือนตั้งสติได้จึงพูดขึ้นบ้าง

“ก็เอาสิ  ฉันไม่อยากยืนตรงนี้นานเท่าไหร่นักหรอก”

ไมพยักหน้ารับและสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่  “ไฟไหม้!!!!”  เสียงของเธอดังก้องไปทั้งบริษัท  ตามมาด้วยกรีดร้องอย่างตกใจของผู้คน  บรรดาคนที่มุงอยู่ตรงหน้าห้องนั้นพากันหนีตายกันอย่างอลหม่าน  และนั่นก็ทำให้ทางเปิดโล่งสำหรับพวกเธอ

สองสาวหันมายิ้มให้กันอย่างรู้ทันกัน  และชักชวนกันเข้าไปในห้องประชุมอย่างไม่แคร์ใคร  แม้จะได้ยินเสียงซุบซิบเข้าหูมาจากบรรดาคนที่เพิ่งแตกตื่นไปเมื่อครู่  และรู้ว่าพวกเขาแอบดูอยู่ตลอดเวลา

“คนพวกนี้ไม่รู้จักทำงานทำการกันนะ  แค่ท่านประธานไม่อยู่เท่านั้น  พวกเขาคิดว่าอยากจะทำอะไรก็จะทำได้งั้นเหรอ” ไมยังคงบ่นอุบอิบไปตลอดทางที่เดินเข้าประตูมา  ไม่สนใจว่าจะมีใครฟังมันหรือไม่  ขอแค่ให้ได้บ่น  แต่พอรู้สึกว่าเดินไปชนเข้ากับอะไรสักอย่างเธอก็ชะงักและหันไปมองดู

“หยุดเดินทำไมล่ะ” เธอถามอย่างอารมณ์ไม่ดี  แต่เมื่ออีกคนพยักเพยิดหน้าไปยังโต๊ะประชุม  เธอก็ได้เห็นอะไรที่ทำให้หงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีก  “โห..ยัยนั่น..  คิดว่ากำลังทำอะไรอยู่นะ”  ไมบ่นขึ้นใหม่เพราะสายตาเธอเห็นว่าเลขาที่เธอกับเพื่อนนินทาอยู่เมื่อครู่กำลังพูดคุยกับใครบางคนอยู่อย่างสนิทสนม  จนน่าหมั่นไส้  แต่ไมคงมัวสนใจแต่เซเลนมากเกินไปจึงไม่ได้เห็นใครอีกคนที่นั่งอยู่ด้วย  แม้ว่าเขาจะตัวใหญ่มากก็ตาม

“นี่ไม.. อย่าบอกนะว่า..เธอไม่เห็นอะไรจริงๆ”  ดิออนถามออกมาอย่างไม่เชื่อ  ไมส่ายหน้าไปมา  ทำให้เธอถอนหายใจแรง  จากนั้นก็ชี้มือไปด้านหน้าตรงจุดที่เซเลนนั่งอยู่
ไมได้แต่ยืนตาโต  พูดไม่ออกกับสิ่งที่เห็นคาตา  ผิดกับดิออนที่เข้าไปหาใครบางคนที่อยู่ที่นั่น  ซึ่งเขาหันมาเห็นพวกเธอพอดีจึงได้หยุดบทสนทนากับเลขา  และหันมาหาพวกเธออย่างเต็มตัว  เรียวปากสวยยิ้มทักทายอย่างไม่เป็นทางการ  ก่อนการลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่เขามี

และในตอนนี้เองที่ดิออนได้เห็นแล้วว่า คนที่ตัวสูงกว่าแคลคือใคร ...เขา...

หัวใจของเธอเต้นระทึกเมื่อนึกไปว่า  เขามาทำไมที่นี่  แต่พอคิดได้ว่า  ที่ตรงนี้หากใครจะเข้ามาได้  จะต้องมาติดต่องานเท่านั้น  และเขาก็คงจะเป็นคนคนนั้นที่จะมาเป็นลูกค้าใหม่ให้กับบริษัท  ดิออนคิดว่าเธออาจจะเป็นลมเมื่อไหร่ก็ได้ทุกเวลา  หากเขาพูดอะไรออกมาสักคำที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน  สมองของเธอฟุ้งซ่านน่าดูชม

“สวัสดีค่ะ  ดิฉัน  ดิออน  สวอนส์  ดูแลที่นี่แทนท่านประธานดารอฟสกี้ค่ะ  ตอนนี้ท่านไม่อยู่” ดิออนแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดินมาถึงตัวคนที่ลุกขึ้นให้เธออย่างมีมารยาท  เธอมองหน้าเขาด้วยความพยายามจะไม่หลุดอาการหวาดกลัวหรือตื่นเต้นตกใจให้เขารู้  แต่พอเห็นเรียวปากสวยนั่นเริ่มขยับจะพูด  เธอก็แทบอยากจะยกมือขึ้นอุดหูไม่ให้ได้ยิน  แต่ยังดีที่ไม่ได้ทำ

“เรื่องนี้ฉันรู้จากเลขาแล้วล่ะจ้ะ” เสียงนุ่มกลับพูดจาเป็นกันเองจนคนฟังชักสีหน้าประหลาดใจขึ้นมาใส่

ดิออนคิดว่าเธอแทบจะตกไปสู่ภวังค์แค่เพียงฟังเสียงเขาพูด  เสียงนุ่มละมุนหูแต่ดูมีอำนาจอยู่ในที  ต่างจากแคล  รายนั้นเสียงหวานไพเราะเหมือนเสียงดนตรีไม่มีผิด ฟังแล้วเคลิ้มตัวลอย

“และฉันก็รู้แล้วว่า..เธอเป็นใคร..  และฉันก็ขอเดาว่า..เธอรู้จักฉันแล้วเหมือนกัน”

ยิ่งฟังถ้อยคำที่เขาพูดออกมา  ยิ่งรู้สึกว่าเขาไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ มันน่าทึ่งเหมือนรอยยิ้มที่มุมปากนั่น  ที่เหมือนต้องการจะกระชากหัวใจเธอให้หลุดลอยตามไปด้วย

“ค่ะ..  คิดว่ารู้จัก” เธอตอบอย่างไม่แน่ใจและยิ้มบางๆอย่างผู้มีมารยาท  ส่วนคนตัวสูงนั่นยิ้มหวาน  ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลกำลังเต้นระริก  ..เจ้าชู้..  เธอประเมินเขาได้ทันที

“แต่ฉันอยากจะแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ..  หวังว่าเธอคงจะไม่ว่าอะไร” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นมาด้วยถ้อยคำเหมือนว่ากำลังอยากจะเล่นลิ้นกับเธอ  และเธอก็คิดว่า  ลองดูก็ได้  ไม่เสียหาย  เธออยากรู้จักเขานี่นา  ก็เอาสิ  เสียงในหัวของเธอยุส่ง

“ได้สิคะ  เชิญ”  ดิออนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม  พยายามเอาสิ่งที่เธอจำจากแคลมาได้มาใช้ให้เป็นประโยชน์  อย่างน้อยก็การสงวนท่าทีและเก็บอารมณ์ต่อหน้าคนไม่รู้จักมักคุ้น
แต่เธอกลับมาหลุดอาการตอนที่เขาขยับมือเรียวสวยและขาวผ่องนั่นขึ้นมาสัมผัสมือเธอ  สัมผัสแรกมันทำให้เธอประหลาดใจถึงที่สุด  เพราะมันเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าแล่นจากจุดที่เขาสัมผัสพุ่งตรงไปสู่หัวใจ  ทำให้เธอตาโตโดยไม่รู้ตัว

และยิ่งรู้สึกกลัวยิ่งไปกว่าเมื่อดวงตาสีเขียวอันคมกริบจ้องมองดวงตาของเธอกลับมาอย่างไม่ละวางขณะก้มหน้าลงและประทับริมฝีปากลงกับหลังมือ  ซึ่งในนาทีนี้เองที่ดิออนคิดว่าเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย  หูของเธออื้ออึง

“ฉันชื่อ ‘แองเจล่า  มิลเลอร์’ จ้ะ  ยินดีที่ได้รู้จักและดีใจที่ได้เจอตัวจริงของเธอเสียที”   

แต่อย่างไรก็ตาม   เธอรู้แล้วว่า..  ผู้หญิงตรงหน้า..มีดียังไง..

แล้วเธอล่ะ..  เธอยังเห็นว่าเขาดีอยู่หรือเปล่า..แคล...





เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.