web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 104
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 94
Total: 94

ผู้เขียน หัวข้อ: Chapter 05 - บอกได้ไหม.. เราเป็นอะไรกัน..?  (อ่าน 1676 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Chapter 05 - บอกได้ไหม.. เราเป็นอะไรกัน..?
« เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:15:49 »
Chapter 5 :  บอกได้ไหม..  เราเป็นอะไรกัน..?

“เซเลน..  ขอโทษนะ..”   แคลพึมพำเบาๆขณะขยับแขนเรียวที่เกาะเกี่ยวเอวของเธอออกอย่างเบามือ  ระมัดระวังไม่ให้ไปปลุกเจ้าของมัน 
เธอลุกขึ้นนั่งและก้มหน้ามองผู้หญิงที่ยังนอนหลับอย่างสงบอยู่ข้างๆตัว   ถอนหายใจเบาๆออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย  หลับตาและขยับมือขึ้นมาบีบขมับ  ไม่สนใจความหนาวเหน็บที่เข้ามาเยือนร่างกายที่ปราศจากเสื้อผ้าสักชิ้นติดตัว  เหตุการณ์เมื่อคืนวานมันเกิดขึ้นรวดเร็วมากเกินกว่าเธอจะหยุดยั้งมันได้  และใช่  มันเพราะส่วนหนึ่งเธอต้องการมัน  ต้องการความอบอุ่นของใครสักคนมาห่มหุ้มร่างกาย  ผ่อนคลายความเหนื่อยทางหัวใจให้เธอ  ต้องการเซ็กส์..
แม้จะเป็นทางออกที่ไม่ดีนักกับการร่วมหลับนอนกับใครบางคนที่ไม่ใช่คนรักเพื่อการณ์นั้น  แต่เธอก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าเซเลนเป็นอะไรที่เธอต้องการ  อย่างน้อยก็เมื่อคืน  เพราะหล่อนเองก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล  นอกจากเป็นคู่ขาร่วมเตียงกันมานาน  แต่สำหรับวันนี้  เธอรู้สึกไม่สบายใจเลยกับมัน  เพราะอะไรกันนะ
“ตื่นเช้าจังนะคะ..” 
เสียงกระซิบที่ข้างหูกับสัมผัสอุ่นจากมือที่หัวไหล่  พาให้เธอต้องหันไปมองหน้าเจ้าของมัน  แคลยิ้มอ่อนโยนเหมือนเคย  “อรุณสวัสดิ์จ้ะ  เซ---”  เสียงของเธอขาดหายไปเมื่อริมฝีปากถูกประกบไว้ด้วยอีกริมฝีปาก  ความรู้สึกเดิมๆเริ่มกลับมา  แต่เธอก็ต้องรีบปฏิเสธมันให้ได้เสียก่อน  ก่อนที่มันจะสาย  แคลพยายามปลดตัวเองออกจากจูบที่เร่าร้อนนี้และยกนิ้วชี้ขึ้นทาบกับริมฝีปากที่พยายามจะเข้ามาหาอีกครั้ง 
“เมื่อคืน..ฉันไม่ได้บอกเธอเหรอว่า..  ฉันเหนื่อยน่ะ..”  ถ้อยคำที่พูดจาไม่เหมือนประกายตาจากดวงตาสีแดงที่กำลังเปล่งประกายยั่วยวนอย่างไม่รู้ตัวแบบนี้   แคลลี่ได้ยินเสียงถอนหายใจดังออกมาจากริมฝีปากที่เธอละปลายนิ้วออกมาแล้ว  และต่อมามันก็เผยยิ้มออกมาให้เธออย่างเจ้าเล่ห์
“ก็บอกค่ะ..  แต่อะไรที่คุณทำนั่น  มันบอกให้รู้นี่คะว่า..คุณโกหก..” 
แคลลี่ตกใจแต่ก็หัวเราะออกมาในที่สุด  เธอส่ายหน้าและรีบลุกขึ้นจากเตียง  แม้จะมึนไปบ้างที่ลุกพรวดพราดออกมาแบบนี้  แต่ก็ยังดีกว่า  ชักช้าและถูกจับกดลงกับที่นอนอีกครั้ง  มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่  เพราะเธอคงไปสายแย่กับการทำงานในวันนี้
“ฉันมีงานต้องทำ.. ขอโทษด้วยนะ..”  พึมพำออกมาขณะดึงผ้าขนหนูขึ้นมาห่อร่างกาย  หวังปกปิดมันไม่ให้อีกมองจ้องมัน  ถึงจะค่อนข้างชื่นชอบที่ถูกมองอย่างปรารถนาแบบนี้ก็ตาม  แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนั้น  ทว่าเสียงถอนหายใจที่ดังอยู่ด้านหลังก็ทำให้เธอต้องเหลียวหน้ากลับไปมอง  แคลเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเป็นคำถาม  สาวผู้นั้นยักไหล่ให้และหันไปดึงผ้าอีกผืนมาห่มตัวบ้าง  เธอตัดสินใจจะถามขึ้นอีก  หากไม่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเสียก่อน
“รับงานเป็นบอดี้การ์ดให้เด็กสาวปัญญาอ่อนแบบนั้น  มันจะดีหรือคะ..ท่านประธาน”
ดวงตาสีแดงเบิกกว้างอย่างตกใจกับประโยคนี้  หัวใจเธอเต้นรัว  และโดยไม่รู้ตัว  เธอก็พุ่งเข้าไปบีบปลายคางคนที่หันมาพอดี  แคลหรี่ตาจ้องลึกอย่างข่มขู่ลงไปที่ดวงตาสีเทาที่กำลังหวาดกลัว  เสียงหวานถูกกดลงต่ำกับคำพูดนี้ 
“เลขาที่รัก..  ฉันจะบอกเธอเป็นครั้งสุดท้าย  กรุณาอย่าได้เรียกลูกค้าของฉันว่า..ปัญญาอ่อนอีกครั้ง..  ไม่เช่นนั้น.. จะเกิดอะไรขึ้น..  เธอคงรู้ดี..”  มือสวยลงแรงบีบปลายคางของหญิงสาวอีกครั้ง  ก่อนปล่อยมันอย่างไม่ไยดี  แคลสะบัดตัวจากไป  ทิ้งอีกคนให้ยืนทำตาโต  เธอไม่รู้เลยว่า  เสียงที่ดังตามหลังเธอมา  มันดังออกมาว่าอย่างไร
“สักวันหนึ่งคุณจะเสียใจ  กับสิ่งที่คุณเลือกมัน..ท่านประธาน..”
--The bodyguard--
ตุ้บ !

“เฮ้ย!  เดินน่ะ  หัดแหกตาดูซะมั่งนะ”  ดิออนตะคอกเสียง  หลังไหล่ข้างหนึ่งของเธอโดนกระแทกอย่างแรง   ดวงตาสีมรกตมองจ้องอย่างเอาเป็นตายกับดวงตาสีเทาของหญิงสาวที่ชนเธอ  หากแต่ฝ่ายนั้นกลับยิ้มเยาะหยันกลับมาเหมือนสายตาที่มองจ้องกัน  เธอตัดสินใจในนาทีเลยว่า  ...ฉันเกลียดยัยนี่...
“แต่ฉันรู้สึกว่า  คนที่เดินเข้ามาชนน่ะ  เป็นเธอนะ”  น้ำเสียงก็เหมือนสายตาเมื่อโต้ตอบกลับมาในท่ายืนกอดอกและมองอีกคนศีรษะจรดปลายเท้า 
เซเลนเพิ่งเห็นลูกค้าคนสำคัญของท่านประธานเป็นครั้งแรก  และเธอก็รู้สึกแย่ที่ได้เห็น  เพราะใช่..หล่อนเป็นคนสวยดีทีเดียว  สวยจนน่ากลัว..  มิน่าล่ะ..คุณถึงได้...
    “เฮ้.!  พูดอย่างนี้ไม่ถูกนี่ เธอชนฉันก่อนนะ  พูดขอโทษซะดีๆ” ดิออนเถียงกลับเสียงแข็ง  และกำลังจะก้าวเข้าไปหาเรื่องอีกฝ่าย  หากไม่ได้มีอีกคนเข้ามาขวางทางเสียก่อน “ไม..?”
“อย่านะ..  อย่ามีเรื่องกันตรงนี้”   ไมพยายามบอกเพื่อนให้สงบสติอารมณ์  เธอพยักเพยิดหน้าไปที่บานประตู  หวังให้เพื่อนรักรู้ความหมาย  เสียงถอนหายใจอย่างรำคาญดังออกมาจากหล่อนทันที  แต่ยังดีที่หล่อนหยุดแค่ตรงนี้  ไม่เหมือนอีกคน
“อ๋อ...ใช่จริงๆเสียด้วยสิ   ดิออน  สวอนส์   คุณหนูเลือดร้อน   ลูกค้ารายใหม่ของท่านประธาน  ดีใจจริงๆที่ได้เจอตัวจริงจนได้   แต่ก็ได้ข่าวว่าสร้างปัญหา  หาเรื่องปวดหัวให้ท่านได้มากทีเดียวเชียวนี่นา..  ใช่มั้ย..ไม..”
ดิออนสะบัดตัวเพื่อพยายามที่จะหลุดออกจากการจับไว้ด้วยมือกาวจากไม  เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปกับผู้หญิงคนนี้  หล่อนทำให้เธอรู้สึกงี่เง่าและน่าหัวเราะเยาะ  และหล่อนก็กำลังทำมัน  เสียงหัวเราะเหมือนมารร้ายดังไปทั้งทางเดิน
“ดิวอย่า...”

“โธ่เอ้ย..ไม    ปล่อยฉัน   ฉันจะสั่งสอนยัยนี่   เรื่องอะไรมาหัวเราะเยาะใส่หน้าคนอื่นเค้าแบบนี้   ไม...ปล่อย”  ดิออนร้องแย้งพยายามแกะมือไมออกจากตัวเอง  แต่ก็ไม่อาจจะทำได้ง่ายๆ  เมื่อไมใช้แรงทั้งหมดของเขาเพื่อจับตัวเธอเอาไว้
“โอ้.. พูดจาน่ากลัวจังนะ..  สั่งสอน.?  กลับไปสอนตัวเองให้ได้ก่อนเถอะนะคะ..คุณหนู”
คนโดนว่ายืนกัดฟันกรอดมองดูผู้หญิงคนที่สะบัดก้นจากไปตรงหน้า  เธอพยายามอย่างมากไม่ให้ผลักเพื่อนรักออกไปและไปวิ่งไล่ตามเตะก้น  ยัยผู้หญิงคนนั้น  เพราะจำได้ว่า  เธอมีเรื่องอื่นสำคัญกว่าต้องทำ  ดิออนสะกดลมหายใจ  บังคับให้มันเข้าและออกอย่างช้าๆ ผ่อนคลายอารมณ์ 
“ไม   ปล่อยได้แล้ว”   เสียงห้าวพึมพำออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน  และถอนหายใจซ้ำขณะพยักหน้าย้ำคำพูดของเธอกับเจ้าของมือ 
ไมดูลังเลเล็กน้อยก่อนค่อยๆละมือออกไปทั้งที่ดูไม่สบายใจนัก  แต่เธอเลือกไม่สนใจอาการนี้  เพราะเข้าใจ  เป็นใครก็ต้องกลัวเวลาที่เห็นเธอเลือดขึ้นหน้าแบบนั้น  มันทำให้คนถูกกระทำต้องจำไปจนตาย  “ยัยนั่น   เป็นใคร..  ทำไมถึงได้ออกมาจากห้องนอนของเจ้านายเธอ..”
ดวงตาสีม่วงอ่อนเบิกค้างกับคำถามนี้  แต่ไม่นานก็กะพริบคืนสติ  ไมยิ้มเจื่อนๆ  “นั่นน่ะ   เซเลน   เป็นเลขาของคุณแคล”   ไมเลือกตอบเฉพาะคำตอบที่พอจะพูดได้  แต่เท่านี้ก็ทำให้คนฟังมีสีหน้าตกใจเพียงพอแล้ว
“อ้าว...ฉันนึกว่าเธอเป็นเลขาเค้าซะอีก   ไม่ใช่หรอกหรือไม”   ดิออนถามอย่างสงสัย  และไมก็ส่ายหน้าไปมา  ถอนหายใจแรง
“ฉันน่ะ   เป็นแค่ผู้ช่วยคนพิเศษของคุณแคลเค้าเท่านั้น   ไม่มีตำแหน่งเฉพาะเจาะจงอะไรในบริษัทหรอก    แต่ยัยนั่นที่เธอว่าอะนะ   เค้าเป็นเลขาของเขา   แล้วก็เป็นคู่นอ--  เอ่อ...   ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก   เลิกเม้าท์เถอะ   เราเข้าไปหาคุณแคลกันเถอะนะ” พยายามไขข้อข้องใจของเพื่อนให้กระจ่างที่สุดเท่าที่จะทำได้  แต่ก็ยังฟังงงๆอยู่ดี  แม้จะพูดเองก็ตาม  ไม่น่าแปลกเลยว่าทำไม  ดิออนจึงดูไม่เข้าใจและเงียบไปแบบนี้ 
ไมพยายามที่จะไม่สนใจ  และก้าวเข้าไปเคาะประตูห้อง  แปลกใจเล็กน้อยที่เสียงคนทะเลาะ  ไม่ได้ทำให้เจ้าของห้องนี้ได้ยิน  แต่มันไม่จริง  เมื่อเขาก้าวออกมาจากประตูที่ยังไม่ถูกเคาะ   
“เสียงเอะอะอะไรแต่เช้ากันนี่”  แคลลี่บ่นพึมพำอยู่ในห้องที่เปิดประตูแล้ว  ดวงตาสีแดงเบิกกว้างเมื่อเห็นใครบางคนยืนอยู่ 
“อรุณสวัสดิ์..ไม   มีอะไรเหรอ..” สมองของเธอยังคงเบลออยู่  แม้จะผ่านการอาบน้ำมาแล้วก็ตาม  กิจกรรมบนเตียงเมื่อคืนหนักเกินไปจริงๆ  ไม่ดีเลยนะ...
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ไมทักตอบและก้มศีรษะลงน้อยๆด้วยความเคารพคนตรงหน้า  แม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้มองเธออีกต่อไปแล้ว  ดวงตาสีแดงมองเลยเธอไปที่ข้างตัว
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ..ดิออน..” 
และถ้าไม่ได้รู้จักกันมาก่อน  เธอจะต้องบอกแล้วว่า  เธอเห็นสายตาหลงใหลในดวงตาสีแดงที่กำลังมองเพื่อนรักของเธอนั่นไปแล้ว  หากสิ่งนี้ไม่ใช่เป็นสิ่งที่แคลลี่มักจะแสดงเป็นประจำเมื่อหล่อนเจอกับสิ่งสวยงาม  โดยเฉพาะผู้หญิง  ไมจึงได้แต่ยิ้มอยู่ลำพังและส่ายหน้าไปมา  รอดูว่าจะได้เห็นอะไรต่อไป  คราวนี้สิ่งที่น่าสนใจตรงนี้กลับเป็นเพื่อนรักตาสีเขียวของเธอเอง  เมื่อสองแก้มขาวของดิออนเปลี่ยนสีเป็นแดงก่ำ  อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  และหล่อนก็ดูประหม่าอย่างไรก็บอกไม่ถูก
“คือฉันจะมาชวนเธอไป...  เอ่อไป....”
“ไปฝึกไอคิโดต่อ..”
ดิออนขอบคุณเพื่อนในใจเมื่อหล่อนตอบคำถามแทนให้ขณะหันไปมองสบตาและฝ่ายนั้นยิ้มกลับมาให้อย่างรู้ทัน  ก่อนที่หล่อนจะหันไปจากเธอ
“เอ่อ..คุณแคลคะ..  ฉันขอไปทำงานก่อนนะคะ  แล้วเจอกันค่ะ”
ไมจากไปแล้ว  ทิ้งเธอไว้ให้อยู่ลำพังกับอีกคน  ดิออนนึกโกรธตัวเองที่ทำตัวแบบนี้  เธอรู้สึกไม่ดีที่ตอนนี้กำลังคิดอะไรบางอย่างกับผู้หญิงด้วยกัน  แต่อะไรบางอย่างนั่น  มันคืออะไรกันล่ะ...
ดวงตาสีมรกตกะพริบตา  เมื่อปลายตาของเธอเห็นร่างสูงกว่าผายมือไปข้างหน้า  แคลลี่ให้สัญญาณว่าให้เธอเดินนำ  ช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ.. 
ดิออนแทบจะอยากเตะก้นตัวเองกับความคิดแบบนี้ที่ผุดขึ้นมาในหัว  รู้ตัวซะบ้างสิ..คิดอะไรไป.. ยัยนี่เป็นผู้หญิงนะ  ยัยบ้า..
เดินตามกันมาจนถึงหน้าประตูบ้าน  ดิออนก็หันไปหาคนตัวสูงที่เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองและเขาก็ต้องก้มลงมองเธอ  “เอ่อ..  ฉันมามอเตอร์ไซด์..  และอยากให้---”
“ฉันขับ..”
ดิออนพยักหน้ารับอย่างอายๆ   จิตใจเธอวุ่นวายอย่างบอกไม่ถูก  แต่ก็รู้สึกดีที่เขาไม่ได้พยายามจะแกล้งอะไรเธอ  ทว่าความนิ่งแบบนี้ของบอดี้การ์ดหน้าสวยก็ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ
ดวงตาสีมรกตกะพริบอีกครั้งที่เห็นมือสวยๆยื่นมาหา  ฝ่ามือแบขออะไรบางอย่างจากเธอ  และหล่อนก็ทำให้เธออายอย่างไม่ได้ตั้งใจ  เพราะแค่เพียงเสียงหวานๆพูดประโยคนี้
“ขอกุญแจด้วยจ้ะ”
แคลลี่รับกุญแจไปพร้อมทั้งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอ  เคลื่อนไหวอย่างว่องไวไปใส่หมวกกันน็อคสำรองที่เธอส่งให้  แต่พอเธอจะใส่ของเธอบ้าง  มือสวยนั่นก็มาคว้ามันไปก่อน  ดิออนเตรียมจะร้องโวยวาย  แต่เธอก็ทำไม่ได้เมื่อหมวกกันน็อคถูกสวมลงกับศีรษะเธอด้วยสองมือของเขา  ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาพร้อมการเต้นของหัวใจที่เปลี่ยนไป  นึกดีใจที่ใส่หมวกกันน็อคอยู่แบบนี้  อีกคนจะไม่ได้ไม่เห็นการเปลี่ยนที่ใบหน้า  และเขาจะไม่มีทางรู้ว่า  เธอยิ้มกว้างมากแค่ไหน  เมื่อได้ยินสิ่งที่หล่อนพูดออกมา
“ดีใจจังเลยนะ..  ที่ได้เจอหน้าดิออนแต่เช้าแบบนี้..  รู้สึกดีจัง..”
xxxx
“โอเคจ้ะ   ดีมาก   ดิออน..   โอเค    พักได้แล้ว”   เสียงปรบมือดังขึ้นมาพร้อมเสียงของเธอที่ให้สัญญาณกับคนในสนามฝึก 
แคลลี่ยิ้มให้คนที่ทำได้ดีกับสิ่งที่เธอสอนไป  ดิออนหัวไวและจดจำสิ่งต่างๆได้โดยไม่ต้องย้ำซ้ำสอง  เขาทำตามสิ่งที่เธอบอกได้เกือบทั้งหมด  ดูแล้วท่าทางจะอนาคตไกล  หากเปลี่ยนจากคุณหนูมาเป็นพนักงานในบริษัทของเธอ 
ร่างสูงเดินเข้าไปหาคนที่กำลังนั่งหมดแรงอยู่กับพื้นโรงยิม  ดิออนหอบหนักๆ คงเพราะปราศจากการเล่นกีฬามานาน  ไม่เหมือนเธอ  ดวงตาสีมรกตกำลังมองเหม่อและเธอไม่รู้ว่าหล่อนมองไปที่ใด 
ท่านประธานสาวย่อตัวนั่งชันเข่าลงข้างๆร่างเล็กและยื่นแก้วน้ำให้  “ดื่มน้ำก่อนสิ”  ดิออนมองหน้าเธออย่างสงสัยดูลังเลใจก่อนจะยื่นมือมารับแก้วน้ำไปดื่มกิน  เธอยิ้มให้กับกิริยาแบบนั้น
“ขอบใจ” เสียงห้าวพึมพำระหว่างส่งแก้วน้ำคืนให้อีกคนที่รับมันอย่างรู้งาน  ดิออนทำท่าจะยกแขนตัวเองขึ้นเพื่อจะใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อที่ใบหน้า  แต่ทว่าเธอก็ทำไม่ได้เมื่อถูกมือหนึ่งจับมันไว้  มองดวงตาสีแดงอย่างสงสัยทันที
“เธอไม่ควรทำแบบนี้..  มันดูไม่ดี  เป็นผู้หญิงนะ   มานี่..ให้ฉันจัดการดีกว่า” ผ้าขนหนูสีขาวค่อยๆสัมผัสใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา  เขาเหมือนไม่ทันสังเกตว่าดวงตาสีมรกตของเธอมองดูอยู่ทุกความเคลื่อนไหว  ดิออนเริ่มยอมรับกับตัวเองแล้วว่า  เธอต้องการสิ่งเหล่านี้..ความเอาใจใส่...  แต่เธอก็สะลัดความคิดนี้ออกไปทันที
“พอ..พอแล้วล่ะ” เธอพูดเสียงเบาและเบือนหน้าไปอีกทาง  มองดวงตาสีแดงของคนตรงหน้าอย่างมีความหมาย  “นั่งลงใกล้ๆฉันหน่อย”  เธอพูดพลางดึงร่างสูงให้นั่งลงกับพื้นระดับเดียวกันกับเธอ   

แม้ไม่เข้าใจอะไรมากนัก  แคลก็ทำตามคำสั่งแกมขอร้องของอีกคนอย่างว่าง่าย  และเมื่อก้นได้สัมผัสผืนเบาะ  เธอก็เหยียดขาเรียวยาวทั้งสองข้างออกวางไปข้างหน้า  สองแขนยาวเหยียดไปด้านหลัง  สองมือค้ำยันน้ำหนักตัวเองไว้  แคลลี่เอียงศีรษะเล็กน้อยเพื่อมองใบหน้าของคนใกล้ตัว
“มีอะไรรึเปล่า..  เธอดู..อืมม..แปลกๆไปนะ..” เสียงหวานวิจารณ์  แต่อีกคนกลับยักไหล่กลับมา  ทำท่าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ 
คนถามถอนหายใจเบาๆและอยากทำให้บรรยากาศน่าอึดอัดแบบนี้เปลี่ยนไปเสียที  มัหนไม่ดีเลยที่จะอยู่แบบนี้สองคนกับคนที่ไม่ยอมพูดจาอะไร
“อยากรู้จังนะว่า..ตอนนี้ดิออนกำลังคิดอะไรอยู่  คิดถึงใครกันนะ..  นั่งคิดถึงใครอยู่น้า...”  แคลลี่ส่งเสียงคำถามราวกับกำลังร้องเพลงออกมาแกล้งใคร  เธอหัวเราะพอใจที่ได้เห็นอีกฝ่ายหันหน้ามาหา  แม้ว่าดวงตาสีเขียวนั่นจะกำลังทำตาดุใส่เธออยู่ก็ตามที  มันก็ยังดีกว่าไม่ได้เห็นอะไรเลย 
“Moron ! เงียบไปเลยนะ”  ดิออนออกคำสั่ง  แล้วเธอก็นึกเสียใจที่แสดงกิริยาแบบนี้  แต่อีกคนคงไม่ได้คิดอะไรกับมัน  เมื่อหล่อนยิ้มเหมือนเดิม 
เธอถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็ดึงหัวเข่าทั้งสองข้างเข้ามาแนบกับตัว  กอดมันไว้และหลับตา  และเพียงไม่นานดิออนก็รู้สึกว่าศีรษะของเธอถูกสัมผัสเบาๆ  และมันช่วยผ่อนคลายอารมณ์ได้ดี  ตอนนี้เธอจึงขยับเข้าหาเจ้าของมือข้างนั้นอย่างไม่รู้ตัว และด้วยความช่วยเหลือของหล่อน  ศีรษะของเธอจึงเข้าไปซบอยู่ที่บ่าของคนตัวใหญ่กว่าเสียแล้ว
    “แคล..?”
“หืม...อะไรจ๊ะ..?”  เจ้าของชื่อขานรับเสียงเรียกนี้อย่างว่าง่าย  เธอเองก็รู้สึกผ่อนคลายไปกับสถานการณ์นี้เช่นกัน  เพราะความใกล้ชิดแบบนี้มันทำให้เธอได้เห็นอะไรที่เธอไม่เคยมองเห็น  โดยเฉพาะเมื่อเป็นดิออน  เธอถอนหายใจอย่างโล่งใจเมื่อได้เห็นใบหน้าสงบสุขของคนที่กำลังหลับตาศีรษะพิงบ่าของเธอ  หล่อนดูเด็กมากและไร้เดียงสาเหลือเกิน  สวยและบริสุทธิ์  ความรู้สึกผิดจึงเกิดขึ้นมาในใจ  กับความคิดชั่วร้ายที่แผ่แม่เบี้ยอยู่บนศีรษะของเธอ 
ฉันจะทำร้ายของสวยงามและบริสุทธิ์แบบนี้  ถ้าฉันสัมผัสมัน..  แต่ฉัน...
“ขออยู่อย่างนี้สักพักนึงนะ”
แคลกระพริบตา  กับเสียงที่พาเธอกลับมาจากภวังค์  ความรู้สึกผิดหายไป  สีหน้าเศร้าซึมหลบหาย  เหลือเพียงรอยยิ้ม  ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองกำลังร้อนผ่าวและแม้จะไม่ได้ส่องกระจกยืนยัน  ก็รู้ได้ว่า หน้าของเธอแดง  แต่ใครจะเห็น..     
ดวงตาสีแดงปิดลงบ้างระหว่างขยับแขนข้างหนึ่งขึ้นมาโอบร่างเล็กให้เข้ามาใกล้มากขึ้น  แคลดีใจที่ไม่ได้ถูกผลักไสออกไปเหมือนครั้งก่อน  เธออนุญาตให้ตัวเองปล่อยใจไปกับความสงบสุขภายในบรรยากาศนี้..สักครั้ง.
--The bodyguard--
ดิออนเปิดเปลือกตาขึ้นมาและพบว่าศีรษะของเธอหนุนอยู่บนอะไรบางอย่าง  บางอย่างที่อ่อนนุ่มและอบอุ่น  เสียงการเต้นของหัวใจของใครบางคนดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอในหูของเธอข้างที่แนบอยู่กับสิ่งนั้น  หรือร่างกายของใครบางคน  บางคนที่วางท่อนแขนไว้ที่เอวของเธอ  ดิออนตัดสินใจคลายความสงสัยของตัวเองด้วยการขยับศีรษะออกมาอย่างช้าๆ  เธอแทบจะร้องครางออกมาด้วยความตกใจที่เห็นใบหน้าของใครคนนี้
..แคล..   
แคลลี่กำลังนอนหลับตา  เขาดูไร้เดียงสากว่าตอนตื่นมาก  ใบหน้าสวยรูปหัวใจมีแก้มใสๆน่าสัมผัสอยู่  และโดยไม่รู้ตัว  มือของเธอก็ขยับไปสัมผัสมัน  หัวใจเธอเต้นแรงกับความนุ่มมือของแก้มขาวอมชมพูของผู้ที่นอนนิ่งๆให้เธอจับ  ปลายนิ้วไล่ไล้สัมผัสไปกับปอยผมสีน้ำตาลอ่อนบนหน้าผากของเขา  ราวกับต้องการจะมองใบหน้านี้ให้ชัดขึ้น  และเธอจึงเห็นถึงความจริง  คิ้วเรียวสีน้ำตาลโก่งเหมือนคันศร  จมูกโด่งเป็นสันสวยงามตามแบบชาวตะวันตก  แก้มเนียนใสขาวอมชมพูไร้ริ้วรอยตำหนิ  ขนตายาวเป็นแพสีเดียวกับสีผมและคิ้วและคงรับกันดีกับดวงตาสีแดงเหมือนก้อนเลือดนั่น  ริมฝีปากอิ่มเอิบสีชมพูอ่อนๆตามธรรมชาติ  ดูช่างนุ่มละมุนและเชื้อเชิญ  ยั่วยวนให้หลงใหลเมื่อมันเผยอออกเล็กน้อยแบบนี้ 
ดิออนไม่รู้ตัวว่า  เธอมองจ้องไปที่ริมฝีปากสวยนั้นอยู่เป็นเวลานานแค่ไหนแล้ว  มือของเธอยังคงวางอยู่บนแก้มข้างนั้นของแคล  เหมือนกลัวว่าจะเสียดายหากจะรีบดึงมันกลับมา  แม้จะรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้าเพราะมันก็ตาม  หัวใจเธอเต้นแรงผิดปกติ  บางทีเธออาจจะหัวใจวายตายได้ในอีกไม่ช้า  ถ้ายังอยู่แบบนี้ต่อไป  ร่างกายเธอรุมร้อน  มันเหมือนต้องการการปลดปล่อย 
เด็กสาวค่อยๆก้มหน้าลงมาหาใบหน้าของอีกฝ่าย  จนสามารถเข้าใกล้มันได้และเหลือแค่เพียงอีกไม่กี่เซนติเมตรใบหน้าของทั้งสองก็จะสัมผัสกัน  ตรงริมฝีปาก  หากแต่เธอก็หยุดชะงักนิ่ง  ทิ้งให้ลมหายใจอุ่นของคนที่หลับอยู่กระทบกับใบหน้าของเธออยู่แบบนี้  คล้ายกำลังรู้สึกขัดแย้งอะไรในใจ  และเพียงไม่นานสายตาที่ว่างเปล่าของเธอก็มีสิ่งอื่นมาแทนที่  ดวงตาสีแดงเปิดขึ้นมองหน้าเธอจากจุดนั้น  พลันเสียงกระซิบจากหล่อนดังขึ้นมาให้ได้ยิน
“ดิออน..ใจร้าย...” 
เธอส่ายหน้ากลับไปและยิ้มน้อยๆ  ก่อนจะปล่อยให้ตัวเองได้พูดในสิ่งที่คิดอยู่ในใจ  “ใครบอกเธอ..”   
สองริมฝีปากสัมผัสกันแผ่วเบาในนาทีแรก  แต่นาทีต่อมา  ดิออนก็พบว่าเป็นเธอที่ลงมานอนอยู่เบื้องล่างตัวเขา  จุมพิตของแคลร้อนแรงขึ้นทุกที  จนเธอรู้สึกเสียใจที่ปล่อยตัวเองไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ  เธอกำลังเป็นฝ่ายถูกกระทำ  จากผู้หญิงด้วยกัน 
มันผิด..ความคิดนี้เกิดขึ้นในใจ  แต่มันก็หายไปในเวลาเพียงไม่นาน  เมื่อความต้องการเข้าครอบครองร่างกายของเธอ 
ดิออนได้ยินเสียงตัวเองร้องคราง  เสียงของเธอเองที่ตัวเองไม่เคยได้ยินมาก่อนสักครั้งในชีวิต  คงเพราะตอนนี้ริมฝีปากของเขากำลังมอบสัมผัสประหลาดแต่แสนมหัศจรรย์ให้ที่ลำคอของเธอ  พร้อมกันกับที่มืออุ่นๆทั้งสองข้างเริ่มซุกซน  มันกำลังจะปลดผ้าคาดเอวของเธอออก 
เด็กสาวพบตัวเองครางดังขึ้นเมื่อรู้สึกถึงการเสียดสีที่หว่างขา  และเธอเข้าใจว่ามันคืออะไร  แม้จะไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน  แต่แน่นอนว่าเธอเรียนมาเหมือนกันกับการมีเพศสัมพันธ์  ต่างกันที่ เธอรู้ดีแต่เรื่องของเวลาที่ผู้หญิงมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย  ไม่ใช่ผู้หญิงกับผู้หญิง  แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า  พวกเขาทำมันได้อย่างไร  เมื่อต้นขาของแคลแสดงมันให้เธอรู้  หล่อนใช้มันถูไถไปตามพื้นที่ของสงวนของเธอ  ที่แม้จะอยู่ภายใต้ร่มผ้าก็ยังรู้สึกได้ว่ามันร้อน... และเปียกชุ่ม   มันต้องได้รับการจัดการ...
แต่ที่นี่ไม่ได้.. เสียงในหัวบอกเธอ จำได้มั้ยว่า..  ครั้งก่อนมันเกิดอะไรขึ้นที่นี่..  ที่นี่มันเป็นโรงยิมนะ...  เธอจะต้องจบเห่แน่  ถ้ามีใครมาเห็นเข้า..  โดยเฉพาะถ้าหากมันไม่ใช่ไมเหมือนครั้งที่แล้ว..
“แคล...  อย่า...”  ดิออนรู้สึกว่า  เธอใจหายทันทีที่ได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของอีกคน  เขากำลังมองหน้าด้วยสายตาน่าสงสาร  มันทรมานหัวใจ  และเธอไม่ชอบ 
สองมือยกขึ้นประคองใบหน้าสวยที่ซีดเซียวนั่นและนำมันมาใกล้ๆ  มอบจุมพิตเบาๆให้ที่ริมฝีปาก  ดิออนยิ้มยืนยันคำพูดตัวเอง
“ไม่ใช่ที่นี่..แคล..”   

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:40:34 anhann »



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.