web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 176
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 158
Total: 158

ผู้เขียน หัวข้อ: Runaway Bride vol.3 Chapter 16 : แก็งค์ซาตานรุ่นจิ๋ว  (อ่าน 2363 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Runaway Bride vol.3 Chapter 16 : แก็งค์ซาตานรุ่นจิ๋ว
« เมื่อ: 10 มกราคม 2014 เวลา 17:53:38 »





Chapter 16 : แก็งค์ซาตานรุ่นจิ๋ว 


วันคริสมาสต์อาจจะผ่านไปแล้วแต่วันหยุดยังคงอยู่  มันยาวนานเหลือเชื่อ  และบ้านหลังน้อยของเธอก็ยังคงมีแขกอยู่เต็ม

แหม..จะเต็มเท่าไหร่กัน  ก็แค่คนจากบ้านกิลเบอร์กสามคนแล้วหนึ่งในสามนั้นก็แค่คนตัวน้อยๆที่อย่างมากก็วิ่งเกะกะอยู่ในบ้านพร้อมด้วยสองแฝดของเธอเท่านั้น  แล้วก็พ่อกับแม่ของดาเรนที่ก็ไม่ได้เดินเที่ยวไปทั่วบ้านเหมือนเด็กๆแน่นอน  ต้องบ้านคุณหมอเจสนั่นถึงจะมีคนอยู่เต็มบ้านจริงๆ

แถมยังอลวนด้วยเสียงผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเถียงกันเสียอีก  เรื่องอะไรเหรอ  ก็เรื่องของหนูน้อยเจสซี่ไงล่ะ  ปู่ย่า  กับ  ตายาย  เขาแย่งกันดูแลหลานรัก..
อา..จะว่าไปก็นึกถึงสมัยที่ฝาแฝดยังเล็กเท่าเจสซี่นะ..

“บ้านนู้นเสียงดังแต่เช้าเลย..” 

เสียงงัวเงียดังขึ้นใกล้ๆหู  หันไปมองดูก็เห็นสาวบลอนด์มาล้มตัวนอนซุกหมอนอยู่บนโซฟาที่ห้องโถงที่เธอเดินมาแอบมองดูบรรยากาศยามเช้าเอาไว้ตัดสินใจว่าจะเสิร์ฟมื้อเช้าตรงไหนดี  แต่นี่หล่อนโผล่ออกมาจากห้องทำไม  ออกมาแล้วมาทำงู่งี่เหมือนเด็กด้วยสิ

“ราเชล..  คุณมานอนตรงนี้ไม่ได้นะ  กลับไปห้องเลยถ้าอยากจะนอน”  นิโคลทำเสียงดุ  คนที่ซุกหน้านอนคว่ำอยู่กับหมอนกลับยกมือขึ้นโบกไปมาไม่ยอมเงยหน้ามาสบตากัน  อะไรกันเนี่ย.?

“ราเชล  ฉันมั่นใจว่า  ฉันจัดห้องให้คุณกับเบลล์และอิซซี่ดีแล้วนะ”

“ฉันโดนอิซซี่เตะทั้งคืนเลย.. ถีบด้วย.. เธอไม่เชื่อใช่ไหม.?” 

เจ้าของบ้านชะงักไปหนึ่งวิ  ก่อนระเบิดหัวเราะออกมาแล้วเข้ามานั่งเบียดคนนอนตรงที่ขายาวของหล่อนวางอยู่  ราเชลเหลียวหน้ามามองเธอทั้งนอนคว่ำอย่างนั้น  เห็นชัดเลยว่า  ตาแดงขอบตาช้ำไปหมดเลย

“คุณดูน่ากลัวมาเลยราเชล  เหมือนหมีแพนด้า  ถ้าอมีเลียกับแอนเดรียเห็นนะ  ได้สนุกกันล่ะ”  มะม๊าลูกแฝดพูดเสียงขำ  คนถูกขำกลอกตาเซ็ง  ดูแล้วก็น่าเห็นใจ  แต่ก็ตลกด้วย  ช่วยไม่ได้นะ..

“มันไม่ขำเลยนะนิกกี้  เอาไว้เธอโดนมั่งสิ”  แขกหัวบลอนด์พูดเสียงงอนๆกลับมาแล้วหันกลับไปซุกหน้านอนกับหมอนต่อ  พยายามไม่สนใจกับเสียงหัวเราะคิกๆของผู้หญิงที่นั่งเบียดขาอยู่  “ถีบฉันจนตกเตียงเลยเมื่อกี้น่ะ  เบลล์เลยไล่ฉันออกมา”

“โถ..  เหมือนจะน่าสงสารนะเนี่ย”

คนง่วงจนเพลียเงยหน้าขึ้นใหม่และหันมามองเจ้าของเสียงขี้เล่น  ราเชลหรี่ตามองนิโคล  รอยยิ้มใสๆกับหน้าตาสวยๆมันน่าหมั่นไส้ชะมัดสำหรับตอนนี้ที่เธอโมโหง่วงนอน  อิซซี่..ลูกทำให้ปั๊บปี๊โดนล้อนะ  ระวังเถอะ  ระวัง!

“ไม่สงสารจริงก็เงียบไปเลยนิกกี้!”

“แหม..  แค่ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้ คนเรานี่นะ  เวลาแกล้งคนอื่นยังได้เลย”  เจ้าของบ้านพูดขำๆ  หัวเราะซ้ำจนคนโดนล้อสะบัดหน้าหันกลับไปซุกหมอนต่อ  นิโคลส่ายหน้ายิ้มให้คนขี้งอน  “ฮ้า..  อย่างน้อยฉันก็ดีใจที่ดาเรนไม่ขี้งอนแบบนี้  ขี้เกียจง้อ”

“ใช่ๆ พวกเธอเหมาะสมกันดีแล้ว  เป็นคู่รักดีเด่นแห่งปี  วันไหนมีคนเรียกไปรับรางวัลก็บอกด้วยล่ะ”  แขกหัวบลอนด์ประชดคิ้วขมวด  ซุกหน้าอยู่กับหมอนบ่นอู้อี้ไม่ให้ใครได้ยิน   จนกระทั่งรู้สึกว่ามีมือมาจับหัวขยี้ก็เงยขึ้นมาจะตั้งท่าโวยใส่  ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับเธอ  แต่นี่คือนิกกี้นะ  คนอื่นหรือไง.?

“นิกกี้!  ทำไม---”

“แปลกจังนะ  ฉันรู้สึกเหมือนคุณเป็นน้องเล็กของฉันยังไงไม่รู้สิ”  นิโคลนั่งไขว่ห้างแตะคางตัวเองอย่างครุ่นคิด  หลังลงมือขยี้หัวคนตัวโตที่ตอนนี้หันมามองหน้าโกรธๆ แต่ความโกรธในดวงตาที่สีเหมือนเธอก็เกิดขึ้นแค่พักเดียวเท่านั้น  มันกลายเป็นอาการทึ่งๆมากกว่า

“เราอายุเท่ากันหรือเปล่านะ.?”

“เห..  เธอหยาบคายนะนิกกี้   เค้าไม่ให้ถามอายุผู้หญิง  ไม่รู้หรือไง.?”  ราเชลแกล้งโวย  หากความจริงก็ชอบที่จะมีคนคิดว่าตนเป็นน้องสาว  โดยเฉพาะเมื่อเป็นนิโคลคนนี้  ทำไมน่ะเหรอ..

ก็เธอชอบที่หล่อนเก่ง  ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องดูแลครอบครัว  ไม่มีขาดตกบกพร่อง  สารพัดที่จะทำได้  และทำได้ดี  ดูอย่างงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้เป็นต้น  ก่อนหน้านี้ก็เหมือนกัน  ครั้งที่เธอจ้างหล่อนกับดาเรนทำงานให้ที่โครงการปราสาทคอมเพล็กซ์  งานตกแต่งเนรมิต  โมดิฟายด์ที่นั่นใหม่  ก็ทำได้อย่างเหลือเชื่อ  หล่อนเหมือนแม่มดมากกว่าคนธรรมดา  จะว่าไปก็น่าอิจฉาดาเรนกับเจ้าแฝดชะมัดที่มีผู้หญิงคนนี้อยู่ข้างๆ  รักและทุ่มเทให้ทุกอย่าง

แต่เพราะทุกอย่างนั่นแหละ  หัวใจของแม่มดคนนี้เลยไม่มีไว้เผื่อคนอื่นอีกแล้ว   หนุ่มๆพากันแห้วหมด  ยิ่งสาวๆหรือยิ่งหมดสิทธิ์  เพราะผู้หญิงที่หล่อนสนใจมีแค่ดาเรนคนเดียว  ก็คงเหมือนเธอที่แคร์แค่แอนนาเบลล์...

“ความจริง..  เราก็เหมือนกันหลายอย่างนะ”  คุณแม่ลูกสองตั้งข้อสังเกต  คนฟังทำหน้านึก  แล้วก็ยิ้มมุมปากขึ้นมา  “คุณยิ้มแบบนั้น  หมายความว่าไง  จะบอกว่า  เราไม่เหมือนกันสินะ”  นิโคลพูดเองเออเอง  ไม่รอฟังคนที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไร  พูดแทรกหล่อนหมดคนเดียว  “แน่ล่ะ  เราต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว..  เพราะฉันเป็นมะม๊าคนสวยของสองแสบนี่ไง” 

ราเชลงงในตอนแรก  ไม่เข้าใจว่าอีกคนพูดถึงอะไร  หากพอเห็นร่างเล็กๆที่พุ่งมาโถมตัวเข้าใส่นิโคล  เห็นหล่อนอุ้มเขาขึ้นนั่งตัก  ต่อมาก็คว้าตัวเด็กอีกคนเข้ามากอดและจูบหัวเล็กๆอย่างรักใคร่  เธอก็เข้าใจทุกอย่างแต่เพราะถูกเสียงใสๆทักทายด้วยล่ะ

“อาราเชล..  ไม่มีที่นอนหรือไง.?”

คนฟังชักเริ่มไม่แน่ใจว่านี่คือการทักทายที่ว่าแล้ว  เธอเหมือนกำลังถูกดุมากกว่า  ซ้ำดวงตากลมๆสีฟ้านั่นก็ดูเอาเรื่องเสียด้วยสิ  จะเหมือนแม่ไปไหนเนี่ย..

“ที่นอนน่ะมีค่ะแอนเดรีย  แต่อิซซี่ไม่ให้อานอนน่ะสิ  ถีบอาตกเตียงเลย”  ถึงจะอึ้งที่โดนเด็กดุ  หากเธอก็พยายามผ่านความจุกนั้นมาจนได้  ถึงอย่างนั้นก็อย่าหวังเลยว่า  เด็กน้อยจะสงสารเธอ  อีกคนกลับรุมซ้ำเติมกันเสียนี่

“อาราเชลนอนขวางทางอิซซี่น่ะสิ  น้องเลยดันให้ไปไกลๆ” 

“อ้าวไหงว่าอาแบบนี้ล่ะคะอมีเลีย  ไม่เข้าข้างกันแล้วเหรอ  ไหนเคยบอกว่าเราเป็นเพื่อนกัน”  ราเชลลองเชิงหลานท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างขำๆของมะม๊าของพวกเขาที่ก็ดูเหมือนอยากจะรู้เหมือนกันว่า  ลูกจะทำอะไรต่อ

อมีเลียทำท่าคิดเหมือนจะคิดหนักเสียด้วย  ดวงตาสีเหมือนดาเรนที่ไม่รู้ตื่นหรือยังกำลังมองคุณอาสลับไปมากับแม่และน้องสาว  ในที่สุดก็ตัดสินใจได้

“อาราเชลไม่ได้เป็นเพื่อนอมีเลีย  แต่เป็นอา  และอมีเลียเป็นพี่แอนเดรีย  ต้องเข้าข้างแอนเดรียอยู่แล้ว   อิซซี่ด้วย”  เด็กน้อยหน้าสวยบอกหนักแน่น  และอยู่ๆก็ไต่ลงจากตักมารดาไปคว้ามือน้องตัวเองดึงไปเล่นกันที่อื่น   ผู้ใหญ่ที่มองอยู่ถึงกับอึ้งไปหลายวินาทีก่อนจะคิดคำพูดออก

“นิกกี้..  มันคืออะไร.?”  ถามไปงงๆ คิดว่าคงจะมีคนตอบให้เธอได้  หากนิโคลกลับยิ้มใสๆยักไหล่ให้แล้วเดินไปตามหลังลูกๆหล่อนเฉย ไม่สนใจเลยสักนิด

“แม่มด  เด็กแฝดปีศาจ!”  ราเชลบ่นพึมพำก่อนซุกหน้ากลับไปกับหมอนที่รองอยู่ตรงหน้า  ว่าจะหลับต่อและเลิกสนใจใครไปก่อน  หากยังไม่ได้หลับดี  เธอกลับยิ้มถูกใจกับเสียงที่หูยังได้ยิน

“เด็กๆไปปลุกปะป๊าให้มะม๊าหน่อยค่ะ  บอกว่าถ้าไม่รีบตื่น  มื้อเช้านี้อด”

“อมีเลียจัดการเอง!”

“แอนเดรียไปด้วยคน!”

บทสนทนาสั้นๆที่ตกลงกันระหว่างแม่กับลูกๆ  กับเสียงวิ่งตึงๆที่อึกทึกไปทั้งบ้าน   ความจริงเมื่อก่อนมันเป็นเรื่องน่ารำคาญมากสำหรับคนอย่างเธอ  ถ้าให้พูดถึงเด็กๆที่ส่งเสียงแจ้วๆเป็นนกแก้ว  บ้านที่ไม่เคยเงียบเพราะเสียงวิ่งไปวิ่งมาประสาซนของพวกเขา  แต่สำหรับตอนนี้บ้านแมคคอลลี่สอนอะไรเธอได้เยอะมากอย่างน้อยก็เรื่องที่ต้องเตรียมตัวรับสภาพเวลาที่อิซซาเบลกับเจอร์ซี่โตขึ้น..

หวังว่า..คงไม่ซนและร้ายกาจเท่านี้หรอกนะ..

โอ้ว..มันน่ากลัวจริงๆเลย..

----Runaway Bride3----

เจสสิก้าเดินหลบฉากออกมาจากบ้านอันวุ่นวายของตัวเอง  เธอเดินออกมาจากประตูหลังบ้าน  แอบหนีสายตาของพ่อแม่ตัวเองและพ่อตาแม่ยายที่ต่างเห่อหลานจนเธอไม่มีเวลาได้จับลูก  เพื่อหนีออกจากความหดหู่นั้น  เธอจึงคิดมาหาอะไรทำนอกบ้านแทน  แต่ไม่ได้จะไปไหนหรอก  ข้างๆบ้านนี่แหละ
บ้านแมคคอลลี่นี่ไง..

แต่ยังไม่ทันจะได้ไปถึง  ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดความคิดเธอ.. 

“อาเจส..  แอบใครอยู่!” 

คุณหมอสะดุ้งสุดตัวหันขวับมองหาเจ้าของเสียงใสๆที่อาจทำให้เธอโดนคนในบ้านจับได้ว่าหนีออกมา  และเธอก็เห็นเด็กตัวเล็กๆปีนต้นไม้อยู่  เขาโบกมือให้อยู่บนบันไดที่ดาเรนทำเอาไว้ให้ลูกฝาแฝดของหล่อน  เท่านั้นไม่พอบนต้นไม้ที่ว่า  ก็มีบ้านหลังเล็กๆแต่แข็งแรงอยู่ด้วย  คนเป็นสถาปนิกนี่มันเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า  เอาใจลูกได้ถูกทางจริงๆเล้ย..

สร้างบ้านต้นไม้ไว้ให้เล่นเนี่ยนะ.?  เหลือเชื่อ...

“อมีเลียอย่าเสียงดังลูก  เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” เจสสิก้าจุ๊ปาก  เด็กน้อยบนบันไดต้นไม้ทำหน้างง  ว่าจะอธิบายให้ฟัง  หากเสียงใสๆอีกเสียงก็ดังแทรก

“ใครได้ยิน..  น้าเพนนีเหรอ!”

คุณหมอถอดใจ  ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนพยักหน้ารับอย่างจำยอม  แต่ก่อนจะมีใครพูดอะไรอีก  เธอก็รีบดักหน้า  “รู้กันแล้วก็อย่าส่งเสียงดังสิคะ  เดี๋ยวอาโดนจับได้  โดนตีนะ”

ฝาแฝดที่อยู่บนบันไดคนนึงกับอยู่ที่บนผืนหญ้าอีกคนมองหน้ากันงงๆ หากเหมือนพวกเขากำลังจะตกลงอะไรกันมากกว่า  เจสสิก้าจึงขอใช้โอกาสนี้ปีนรั้วบ้านตัวเองข้ามไปหาพวกเขา 

“อยู่ตรงนั้นนะเด็กๆ  เดี๋ยวอาไปหา  แป๊บนึง”  เธอบอกหลานๆ  หากพอเข้าไปถึงก็ตกใจที่เจอเด็กอีกคนเงยหน้ามอง  ดวงตาสีฟ้ากระจ่างมองเธอเหมือนตกใจเหมือนกัน  แต่ฉันตกใจมากกว่าแน่ๆ

“อิซซี่!” 

“น้องอยู่ตรงนั้นนานแล้ว  อาเจสไม่เห็นเหรอ.?”  อมีเลียถาม  ตอนนี้ปีนขึ้นไปบนบันไดขึ้นเกือบบนสุด  คนมองดูหัวใจจะวาย  จับเด็กน้อยชาวอเมริกันขึ้นจากพื้นหญ้าก่อน   แล้วเข้าไปหาฝาแฝดที่ทำท่าจะปีนต้นไม้ไปตามกัน

“ก็อาไม่เห็น  น้องตัวเล็กกว่าพวกหนูนี่นา” เจสสิก้าอ้าง  หากมันก็เป็นความจริง  โชคดีนะที่เธอไม่กระโดดลงมาจากรั้วแล้วเหยียบโดนตัวเด็กที่คลานอยู่กับต้นหญ้าคนนี้   ไม่งั้นได้มีเรื่องกับปั๊ปปี๊และหม่ามี๊ของเขาแน่ๆ  อีกอย่างนี่ก็เด็กที่เธอช่วยพวกหล่อนสร้างมาเสียด้วยสิ  ผลงานชิ้นสำคัญเหมือนกัน
เหมือนเจ้าแฝดตัวแสบนี่นั่นแหละ!

“แล้วทำไมพวกหนูๆถึงมาเล่นที่นี่ได้  ปะป๊า  มะม๊าไปไหนอมีเลีย”  ถามเสียงตื่นๆ เด็กที่ยืนอยู่บนบันไดไม้ก็หันมาหา  คุณหมอแทบหัวใจวายที่สายตาเห็นเจ้าตัวเล็กหันมาเร็วจนเสียการทรงตัวจะหล่นจากบันได  ตัวเธอจึงรีบพุ่งเข้าไปจับตัวเขาไว้ได้ทันเวลา

“อมีเลียเห็นไหมเกือบหล่นแล้ว!”  พูดกับแฝดคนพี่ได้ไม่เท่าไหร่  หางตาก็เห็นใครบางคนตัวป้อมๆกำลังค่อยๆปีนบันไดไม้อันเดิมขึ้นไป  อารามตกใจแทบจะทิ้งเด็กสองคนที่อุ้มอยู่ลงพื้น  ดีที่สติยังมีอยู่จึงค่อยวางอมีเลียลงก่อน  ตามด้วยอิซซาเบล  แขนยาวเข้าไปคว้าตัวเด็กตุ้ยนุ้ยลงมาอย่างว่องไว

“แอนเดรียไม่ได้ค่ะลูก  เดี๋ยวหนูตก!”

“จะตกได้ไง  แอนเดรียปีนดี!”  เด็กน้อยเถียงพลางดิ้นจะให้หลุดจากการถูกจับตัว  คุณหมอส่ายหัวดิก  ไม่มีทางยอม

“ไม่ได้ค่ะ  ถ้ามะม๊ารู้เข้าจะทำยังไง”

“มะม๊าบอกให้มาเล่นนอกบ้านได้  มะม๊าจะทำข้าวกลางวัน”

เจสสิก้าหันไปตามเสียงที่เถียงขึ้นมา  อมีเลียทำหน้าขึงขังเหมือนดาเรนตอนอารมณ์ไม่ดี  เออให้มันได้แบบนี้สิ!

“ถ้างั้นปะป๊าล่ะ  แล้วอาราเชลกับอาเบลล์.?”

“พวกเราไม่รู้!”  สองแฝดประสานเสียงราววงคอรัส  คนฟังแทบอยากจะบีบขมับตัวเองถ้ามือว่างพอ  ถ้าไม่อุ้มเจ้าแฝดคนน้องอยู่แบบนี้ 

แล้วจะเอายังไงดีนะ  ไม่คิดเลยว่า  การรับมือเด็กสามคนในเวลาเดียวกัน  มันจะโหดร้ายเยี่ยงนี้   นิกกี้ช่วยด้วย!

กะว่าจะหนีความวุ่นวายในบ้านตัวเองออกมาเจอความสงบ  หากที่พบอยู่นี่มันคงจะหนักมากกว่า  ไม่รู้เวรกรรมอะไร  และยังไม่พออีกนะ  ยัง...

“อาเจส..  อิซซี่หายไปไหนไม่รู้”  อมีเลียชี้ให้ดูที่พื้นหญ้า  มันไม่มีแล้วเด็กน้อยตาสีฟ้าผมน้ำตาลตัวเล็กๆ เจสสิก้ามองซ้ายมองขวาหาตัวเด็กคนนั้น  หัวใจสั่นรัวกลัวลูกคนอื่นหายไปจริงๆ

“อิซซี่หายไปไหนลูก!  อิซซี่อยู่ไหน!” 

“เดี๋ยวพวกเราจะช่วยหาน้อง!”

“อาเจสปล่อยแอนเดรีย  จะไปหาอิซซี่ด้วย!” 

จำใจปล่อยให้เด็กแฝดออกช่วยตามหาหลานสาวอีกคน  วิ่งหากันจนทั่วก็สวนก็ยังไม่เจอ  เธอแทบจะบ้าอยู่แล้ว  คุณหมอวิ่งรอบสวนรอบที่สามมาเจอเด็กแฝดที่กลางทางพร้อมกัน  ต่างคนต่างยืนหอบ  ทั้งหมดมองหน้ากันราวจะถามว่าทำยังไงดี

“อิซซี่เข้าบ้านไปแล้วหรือเปล่า.?”  อยู่ๆก็ตั้งคำถามนี้ขึ้นมา มันสันนิษฐานแบบนี้ได้อยู่เพราะอิซซาเบลตัวเล็กวิ่งเก่งไม่แพ้ใคร  หากกระนั้นเธอก็ยังถูกเด็กสองคนมองหน้างงๆเหมือนเธอพูดอะไรประหลาด 

อ้าปากจะพูดอะไรอีกสักอย่าง  ก็ดูจะช้าเกินไป  อมีเลียนักวิ่งร้อยเมตรก็วิ่งหายไปจากสายตาทุกคน  คนมองแทบทรุดทั้งยืน  ไม่อยากวิ่งตามไปแล้ว  หากจะเป็นไปได้ยังไงเมื่อถูกลากด้วยมือเล็กๆของเด็กแฝดอีกคน

“แอนเดรีย..  เบาๆลูก  อาไม่ไหวแล้ว..” 

“ไม่ได้   อาเจสเป็นผู้ใหญ่  ต้องตามหาอิซซี่ให้เจอ!” 

“แต่ว่า....” 

“แอนเดรียขา..  ทำอะไรอาเจสคะลูก.?” 

เสียงนี้ทำให้เธอสะดุ้งอีกครั้ง  หากก็เป็นไปในทางที่ดี  เพราะทันทีที่มันดังขึ้น  มือเล็กๆก็ปล่อยมือเธอออกและร่างน้อยๆก็ถอยห่างไป  วิ่งไปเกาะขาเจ้าของเสียงแทน  เธอเองก็อยากจะทำแบบนั้นหากเธอลืมอายุไปได้  แต่ถึงยังไงก็ยังมองหล่อนอย่างดีใจเหลือแสนราวเจอพระผู้เป็นเจ้าชี้ทางไปสวรรค์ 
หรือเทวดา.?  แต่มาช้าไปนะ  เทวดาของเธอ...

เทวดาหรือปีศาจกันแน่ไม่รู้สิ!

“ว่าไงเจส  หมดสภาพเลยเหรอ.?”  ดาเรนถามขี้เล่น  พอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายเจออะไรมา  โดนเด็กรุมสะกำแน่นอน

“ไม่ต้องมาล้อเลียน  ทำไมเพิ่งมาป่านนี้  แล้วเห็นอิซซี่ไหม?”  ได้ทีก็รีบยิงคำถามใส่เป็นชุด  ทั้งเหนื่อยทั้งหงุดหงิด  และเริ่มคิดถึงลูกตัวเอง  คิดผิดที่หนีออกมา  ตอนนี้รู้สึกยิ่งกว่าหนีเสือมาปะจระเข้  ยิ่งพอดาเรนส่ายหน้าว่าไม่รู้  เหมือนถูกกระสุนพุ่งใส่หัวกบาลให้เครียดหนัก 

“เฮ้ย..  แล้วอิซซี่ไปไหนเนี่ย!”

“น้องอยู่ตรงนั้น!”  อมีเลียที่วิ่งเกาะขาปะป๊ามาตั้งแต่แรกยกชี้มือขึ้นไปบนต้นไม้  และทุกสายตาก็มองตามไป  และพบกับดวงตาสีฟ้าใสๆที่มองลงมาจากบันไดขึ้นบนสุด  อิซซาเบลตัวน้อยไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง

ลูกคนหรือลูกลิง  ไวเกินไปไหม.?

“อิซซี่!”  หลายเสียงตะโกนพร้อมกัน  หากคนที่ขยับไปถึงตัวเด็กก่อนคือคนที่เพิ่งมาถึง   ดาเรนปีนขึ้นไปอุ้มเด็กน้อยวัยขวบกว่าลงมา  เธอหัวเราะท่ามกลางเสียงเชียร์ของเด็กแฝดที่เฮลั่นเมื่อเห็นหน้าน้อง 

หากในความดีใจที่กลายเป็นฮีโร่ช่วยเด็กโดยบังเอิญ  หางตาเธอเห็นคนหนึ่งเดินคอตกกลับไป  และเธอส่งเสียงตาม 

“เธอพยายามได้ดีแล้วหมอ!  รับรองต่อไปรับมือเจสซี่ได้สบาย”     

เจสสิก้าหันกลับมาแยกเขี้ยวใส่เหมือนไม่เห็นด้วยกับคำเชียร์  เพราะงั้นจึงถูกอมีเลียกับแอนเดรียวิ่งตามไปจัดการให้ต้องวิ่งหนีให้ทัน  ไม่งั้นต้องโดนรุมอีกรอบแน่  มองกลับมาที่หลานตัวซนที่ตนอุ้มอยู่  สบสายตากับดวงตาสีฟ้าใสๆที่มองมาอย่างไร้เดียงสาราวไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นสาเหตุของความวุ่นวายที่นี่  เห็นแล้วก็ยิ้มเอ็นดูก่อนขโมยหอมแก้มไปหนึ่งที  จากนั้นก็ส่ายหน้าพึมพำเบาๆ

“เรามันก็เป็นจอมมารตัวน้อยเหมือนกันนะเนี่ย  เชื้อราเชลนี่แรงจริงๆ”

อิซซาเบลน้อยไม่รู้หรอกว่า  เธอพูดอะไร  ได้มองไปมองมาตามประสาเด็กช่างสงสัย  คนในบ้านนั่นต่างหากที่จามเสียงดังเหมือนรู้ทันว่ากำลังถูกนินทา  ราเชลท่าทางจะมีเซ็นส์ดี  ไม่เหมือนคุณหมอที่ตอนนี้ยังถูกเด็กแฝดแกล้งอยู่เลย

จะสงสารดีไหมเนี่ย.?

“อมีเลีย..  แอนเดรีย..  เข้าบ้านกันค่ะลูก  มะม๊าหนูทำมื้อกลางวันเสร็จแล้วมั้ง  ไปดูเร็ว!”  สองคนตัวเล็กไม่รอให้ต้องบอกซ้ำสอง  ทั้งสองวิ่งหายเข้าบ้านไปในทันที  เหลือแค่เจสสิก้าที่ยืนหอบอยู่ตามลำพัง  สักพักหล่อนก็ตะโกน

“ฉันยอมโดนเจสซี่ฉี่ใส่ยังจะดีกว่าโดนเจ้าแฝดแสบวิ่งไล่ล่า  ฉันจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว!”

“แล้วฉันจะคอยดูเจส!”  ดาเรนตะโกนกลับไป  หัวเราะถูกใจกับการถูกมองค้อนจากคุณหมอที่เมินหน้าหนีปีนรั้วบ้านกลับไป  หากเสียงหัวเราะของเธอก็หายไปกะทันหันเมื่อรู้สึกได้ถึงของเหลวอุ่นๆที่ไหลเปียกตัว  รู้ตัวเลยว่าโดนอะไร

โอย..  ไม่ได้ใส่แพมเพิร์สเหรอเนี่ย.! 

ลูกใครหนอ..  ทำไมปล่อยให้เป็นแบบนี้!

“อิซซี่..  จะฉี่ก็บอกกันนิดสิคะ  ใจร้ายจังนะตัวแค่นี้”  เด็กน้อยหน้าใสหัวเราะใส่เธอหน้าตาเฉย  ดาเรนถอนหายใจส่ายหน้าปลงๆ

ในที่สุดก็ไม่มีใครเลยที่ไม่โดนเล่นงาน.. โดนกันทั่วหน้าจริงๆ  ราเชลก็โดนไปแล้วทั้งเมื่อคืนและเมื่อเช้า  ตอนนี้ก็เป็นเธอกับเจสสิก้า  เหลือแค่บรรดามะม๊าที่ยังไม่โดน  มันเป็นข้อยกเว้นหรือเปล่าที่จะไม่แกล้งมะม๊ากัน  หากกระนั้นเธอก็แน่ใจ  มั่นใจที่จะพูดประโยคนี้ได้เต็มปากเต็มคำ..

“ยินดีต้อนรับหนูเข้าสู่แก๊งค์ซาตานจิ๋วค่ะอิซซี่  หนูมีคุณสมบัติครบเลย”




.....................................................


ตอนนี้เป็นตอนที่วุ่นวายมากค่ะ  เด็กเยอะไปหมด  ฮ่าๆๆ  เขียนเองก็ยังเวียนหัว  เหอๆๆ   :07:

ตอนนี้ตอนที่ 16 แล้วจ้า  เหลืออีก 4 ตอนนะคะ  ที่จะให้อ่านแก้เหงาก่อนหนังสือมา 

อ้อ..ย้ำกันอีกนิดนะคะ  ภาคสามนี้  เปิดจองถึงวันที่ 15 มกราคมนี้นะคะ  เหลืออีก 5 วันน้า..  :23:

ใครอยากได้เป็นเจ้าของเอาไว้อ่านก่อนคนที่ไม่ได้จอง  ก็ติดต่อมาได้ค่ะ  pat_2922@hotmail.com หรือ anhann5@gmail.com  หรือ  https://www.facebook.com/Crimsonmaiden ค่ะ

ราคา 350 บาท  ส่งฟรีลงทะเบียน  370 EMS 

ช่วยเป็นกำลังใจกันหน่อยนะคะ    :45:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 มกราคม 2014 เวลา 18:33:28 anhann »



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.