web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 109
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 94
Total: 94

ผู้เขียน หัวข้อ: My little sweet devil Chapter 4 : เจ้าหญิงจ้าวเสน่ห์  (อ่าน 4971 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
My little sweet devil Chapter 4 : เจ้าหญิงจ้าวเสน่ห์
« เมื่อ: 31 ธันวาคม 2013 เวลา 17:20:10 »

Chapter  4  :   เจ้าหญิงจ้าวเสน่ห์

คริสตินลอบมองสาวโต๊ะใกล้เคียงที่เวรกรรมอะไรไม่รู้พาให้มาเจอกันที่ร้านอาหารอีก  ไม่รู้จริงๆว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ได้เจอหล่อนตรงนี้  หวังว่าหล่อนคงไม่เห็นเธอหรอกนะ

“คริส..  เธอคิดออกหรือยังว่าจะกินอะไร  ไหนบอกว่าหิว”  รีเบคก้าถาม  ทำหน้าไม่เข้าใจพฤติกรรมของอีกคนที่เอาแต่เอาเมนูปิดหน้า  ก่อนหน้านี้บอกว่าหิวไส้จะขาด  แต่ทำไมพอมาถึงกลับนั่งเงียบ  แถมทำตัวประหลาดอีก

“คริส!”  เรียกพร้อมมือบางที่กระชากเมนูออกจากมือขาว  ผู้จัดการสาวหรี่ตามองไม่เข้าใจที่คริสตินยกจานเปล่าตรงหน้าขึ้นมาปิดหน้าหล่อนอีกรอบ  หากเมื่อมองตามดวงตาสีฟ้าดอกไอริสไป  เธอก็เริ่มเข้าใจและส่ายหัว

“ก็แค่มิกิ..  คนที่ทำงานกับเธอในซีรีย์นั้น  จะกลัวไปทำไม”

“ก็เพราะเป็นหล่อนนั่นแหละ  ฉันถึงไม่อยากให้เห็น”  คนเล่นเป็นเด็กกำลังซ่อนแอบบอกพร้อมยื้อจานเอาไว้จากมือที่มาแย่งดึง

“เธอพูดอะไรของเธอ  หล่อนไม่ได้น่ากลัวนะ  สวยจะตายไป  ตาสีน้ำเงินเหมือนที่เธอชอบด้วย”  ผู้จัดการสาวพูดอวยสาวคนที่ว่าเต็มที่ไม่สนใจคนที่ทำปากยี้ใส่  “เฮ้..  ทำหน้าแบบนั้นทำไม  หล่อนฉายาเป็นถึง ‘เจ้าหญิงแห่งเกียวโต’ เลยนะ  ‘บลูส์ปรินซ์เซส’  รู้จักไหม.?”

“เจ้าหญิงบ้าอะไร  ร้ายกาจขนาดนั้น  พวกรู้ไม่จริงน่ะสิ!”  คริสตินเผลอพูดเสียงดัง  สาวคนที่เธอตั้งใจจะไม่ให้เห็นก็หันมามองจนได้  หัวใจเธอสั่นเพราะยิ้มหวานๆบนใบหน้าหวานของดาราสาวลูกครึ่งที่เพิ่งจะเห็นเธอ

มิกิดูดีใจมาก  หล่อนยกมือโบกให้และเธอคงจะเสียมารยาทมากใช่ไหม  ถ้าไม่โบกกลับ..  แต่ฉันไม่อยากนี่!

“คริส..  เธอรู้นะว่าต้องทำอะไร” 

เสียงรีเบคก้าเตือนเหมือนคำสั่งให้ต้องทำตามอย่างขัดไม่ได้  เพราะยังไงอะไรที่หล่อนทำก็ทำเพื่อรักษาภาพพจน์ให้เธอ  และตอนนี้พวกเธอก็อยู่ในที่สาธารณะกัน  การทำท่าเหมือนเขม่นนักแสดงด้วยกัน  คงไม่ใช่เรื่องดี

แต่ฉันไม่ได้เขม่นหล่อนนะ  ฉันแค่ไม่พร้อมจะเจอหล่อนตอนนี้!

“ฉันรู้..  และฉันอยากบอกเธอให้รู้ด้วยว่า  ฉันอยากเปลี่ยนร้าน”  คริสตินพูดพาลๆ ร่างสูงกำลังจะลุกขึ้นหากมือไวๆของคุณผู้จัดการส่วนตัวก็คว้าเอาไว้ได้ทันเวลา  “รีเบคก้า..”

“ฉันไม่รู้นะว่าเธอเป็นบ้าอะไรขึ้นมา  แต่ฉันขอบอกเลยว่า  ถ้าเธอออกจากร้านนี้ไปตอนนี้  เรื่องนี้ต้องดังแน่”

“แต่ว่า....”

“คริสติน..  ยินดีที่ได้พบค่ะ” 

ดวงตาสีฟ้าดอกไอริสเบิกกว้างตกใจ  ก็ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าเข้ามาหาเธอเอง  ใจอยากจะเดินหนีหายไปจากตรงนี้   แต่นั่นคงเป็นสิ่งที่รีเบคก้าต้องประสาทเสียแน่  จึงจำยอมเป็นเด็กดีสักวัน  ยังจำได้ว่า  หล่อนเคยขอร้องอะไรไว้..

ถึงเราจะไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว  ถึงเธอจะไม่ได้รักฉันแล้ว  แต่เรายังเป็นเพื่อนที่ดีของกันและกันนะคริส   ฉันหวังดีกับเธอเสมอ  เรื่องนี้ไม่มีวันเปลี่ยน..

เสียงแหบเสน่ห์ในความทรงจำวันนั้นทำให้เธอหลับตาลงข่มใจ  ยังไงก็ไม่สามารถทำให้เพื่อนที่ดีคนนี้ของเธอผิดหวังได้  และมันนั่นเองที่เป็นสาเหตุให้วันนี้  เธอยังมีรีเบคก้าเป็นผู้จัดการส่วนตัว  ทั้งยังยอมให้หล่อนกัดจิก  ทุบตี  หรือกระทั่งด่า  ได้ตามแต่ใจ  เพราะเธอรู้ดี  หล่อนหวังดีกับเธอที่สุดแล้ว..

ในวงการมายา..

ใช่..แล้วเธอล่ะ  ต้องการอะไรจากฉันกันแน่..มิกิซัง.?

“สวัสดีมิกิซัง..  บังเอิญจังเลยนะ”  คริสตินสวมหน้ากากแสนสุภาพทักทายสาวที่มาใหม่  มิกิดูแปลกใจหากหล่อนยังตามน้ำได้ดี

“ไม่คิดว่า  คุณจะชอบทานอาหารญี่ปุ่นนะคะ”

“ก็ไม่เชิงนะ  แค่รีเบคก้าบอกว่า  ฉันควรจะกินให้ชิน”  ตอบสั้นๆอย่างไม่แยแส  หากมันดูมารยาทแย่เกินไป  เจ้าของชื่อที่ถูกอ้างถึงจึงเหยียบเท้าเข้าให้ 
รีเบคก้าถลึงตาใส่เมื่อเธอก้มลงมองหน้าหล่อนจะถามว่าเหยียบทำไม  และสายตาหล่อนก็บอกให้เงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนา  สาวลูกครึ่งที่พยายามจะชวนคุยยิ้มหน้าเจื่อน  เหมือนเธอพูดอะไรผิด

แล้วมันผิดอะไรล่ะ อยากรู้ก็ตอบให้แล้วไง..

“โอ้..คุณรีเบคก้า!”  มิกิทักทายตกใจคล้ายเพิ่งเห็นคุณผู้จัดการตรงนี้  นั่นเพราะสนใจอีกคนมากกว่า  หรือเพราะหล่อนตัวเล็ก  “โทษทีค่ะที่ไม่เห็น”

“ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันคงตัวเล็กเกินไป”  รีเบคก้าพูดกลั้วหัวเราะ แอบมองข่มขู่คนที่ทำท่าเบะปากอยู่ใกล้ๆ  สงสัยกลับบ้านไปต้องอบรมกันใหม่แล้ว

ไอดอลมารยาทเสื่อม!

“เอ่อคือ..  ต้องขอโทษมิกิซังด้วยนะคะ”  ผู้จัดการสาวเริ่มต้น  ไอดอลดังจากเกียวโตกระพริบตาราวไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไร  “คือความจริงฉันบังคับให้คริสมาหัดทานน่ะค่ะ  เพราะเค้าไม่ถนัดใช้ตะเกียบ”  รีเบคก้าปดอย่างจำใจแต่แนบเนียนมาก  เธอก็แค่ไม่อยากให้เด็กในสังกัดถูกมองไม่ดี 

โอเค..  ถึงคริสตินจะไม่ได้พูดหยาบคายและพูดเรื่องจริง  หากกิริยาอาการไม่เป็นมิตรแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องดีนักที่จะทำ  ยิ่งเมื่ออยู่ในที่สาธารณชน  ใครๆหลายคนกำลังมองพวกเธออยู่  และเจ้าของสายตาเหล่านั้น  ก็รู้จักพวกเธอเสียด้วยสิ  ก็ดังขนาดนี้ไม่รู้จักได้ยังไง...

“อ๋อค่ะ เข้าใจแล้ว”   มิกิขานรับ  ผงกศีรษะให้คนช่วยอธิบายอย่างคนมารยาทดีตามวัฒนธรรมของคนเมืองอาทิตย์อุทัย  ถึงจะคุยกับคนต่างชาติหัวบลอนด์ทั้งสองคน  เธอก็ยังทำ  มันคงอยู่ในสายเลือดครึ่งหนึ่งของเธอ

“รีเบคก้าซังทำงานละเอียดจริงๆเลยนะคะ  มิน่างานของคริสเลยเนี้ยบตลอด”  สาวลูกครึ่งหยอดคำหวานเสียจนคนฟังยิ้มจนหลุดอาการเก็กขรึม  ผิดกับคนตัวสูงที่ยืนกลอกตาเบื่อๆ

“พวกเธอจะคุยกันอีกนานหรือเปล่า  แล้วมิกิจะนั่งด้วยกันไหม  ถ้านั่งก็เชิญเถอะ  ก่อนที่คนทั้งร้านจะแห่กันมาขอลายเซ็น  แล้วฉันจะอดกิน”  คริสตินแทรกกลางคัน  ร่างสูงนั่งลงและกวักมือเรียกพนักงานร้านมาสั่งอาหารอย่างไม่แยแสอีกสองคนที่มองมาตาปริบๆ

“เอ่อมิกิซัง...”  สาวตัวเล็กขานชื่อแขกเมื่อเห็นหล่อนมองเหม่อไปทางเด็กของเธอ  เธองงที่เห็นหล่อนตกใจและดูประหม่า  ทำท่าเหมือนไม่อยากละสายตาจากคริสตินอย่างนั้น..  น่าสนใจ..

“เอ่อ..  เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะรีเบคก้า  ฉันแค่มาทักทาย  เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อค่ะ  ผู้จัดการรออยู่”  มิกิพูดยิ้มแย้ม  พยายามให้เป็นธรรมชาติที่สุด  หากดวงตาสีน้ำเงินยังเผลอหลุดอาการไปชำเลืองมองอีกคนอีกครั้ง   มองทั้งที่หล่อนเมินหน้าไม่มองเธอเลย  หญิงสาวลอบถอนหายใจ  ตัดใจลา  “คริสคะ  ไปก่อนนะ  แล้วพบกันที่กอง” 

คริสตินยังคงไม่มองเธออยู่  แค่พยักหน้ารับรู้เท่านั้น  เห็นแล้วก็ป่วยการจะอยู่ต่อให้หน้าแตกมากขึ้น  หล่อนคงจะโกรธเธอที่ท้าทายในห้องพักตอนนั้นและเธอควรเลือกไปตั้งหลักก่อนดีกว่า  วันหน้ายังมี...

ใช่..เรายังมีเวลากันอีกนานนะ..คริสติน  ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!

รวบรวมกำลังฮึดสู้ได้ใหม่ก็หันกลับมายิ้มอย่างเป็นมิตรให้ผู้จัดการส่วนตัวของเป้าหมาย  เข้าทางนี้แหละดี..  “รีเบคก้าซังคะ  บายค่ะ” 

“ค่ะ  บายค่ะ  แล้วเจอกันค่ะมิกิซัง”  รีเบคก้าโบกมืออัตโนมัติ  มองตามหลังสาวที่เดินจากไป  เห็นมิกิกับผู้จัดการส่วนตัวเดินออกจากร้านไปแล้วก็หดมือลงพร้อมนั่งลงอย่างรวดเร็ว  “ฉันเคยบอกเธอไหมคริส  เธอเป็นผู้หญิงที่มารยาทไม่ดีเลยสำหรับการอยู่ญี่ปุ่น   ถ้ามิกิซังเค้าเอาไปพูดล่ะก็----”

“ฉันก็จะบอกทุกๆคนว่า  หล่อนขอฉันเป็นแฟน  แล้วยังขี้ตื้อที่สุดด้วย!”

ผู้จัดการสาวสวยร่างเล็กอึ้งกิมกี่พูดไม่ออกไปหลายนาทีจนพนักงานที่มาเสิร์ฟอาหารเอาอาหารมาวางตรงหน้าให้แล้วก็เดินจากไปจึงได้กระพริบตาเรียกสติตัวเองกลับคืน 

“เธอพูดอะไรนะคริส.?”

คริสตินส่ายหน้ายังไม่พร้อมจะพูด  มือขาวจับตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารในจานใส่เข้าปากอย่างแคล่วคล่อง  เรียกได้ว่าหากมิกิอยู่ดูก็จะรู้ว่าเรื่องเมื่อกี้มันแค่เรื่องโป้ปดปิดบังความจริงเท่านั้น 

ความจริงมันก็คือสาวอังกฤษตาสีฟ้าไอริสติดอาหารญี่ปุ่นมากและสามารถใช้ตะเกียบได้เก่งเหมือนเป็นคนญี่ปุ่นเสียเองด้วยซ้ำไป  ไม่งั้นจะมาร้านอาหารญี่ปุ่นทำไมไม่ทราบ  หากไม่ชอบ  แค่เหตุผลเพราะต้องการให้คุ้นกับการทานอาหารสไตล์นี้เพื่อการถ่ายละครให้สมจริง  มันควรจะเป็นสิ่งที่ต้องเริ่มทำตั้งแต่มาทำงานที่ประเทศนี้แล้ว  เธอฝึกมันตั้งแต่แรกเริ่มเหยียบญี่ปุ่น  เพราะฉะนั้น  เรื่องที่รีเบคก้าพูดก็แค่เพื่อกลบเกลื่อนความไม่ดีของเธอ  แค่ไม่อยากให้มิกิรู้ว่า  เธอนิสัยไม่ดี.. ชอบทำตัวเป็นเด็ก  เด็กหนีปัญหาด้วย!

แต่ฉันทำตัวแบบนั้นกับหล่อนทำไมล่ะ  หรือเพราะหล่อนชัดเจนเกินไป  จนตั้งตัวไม่ทัน   ไม่ทันตั้งตัว.. 

ใช่สิ..  ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้อยู่ๆมาขอคนอื่นเป็นแฟนทั้งที่เพิ่งเห็นกันครั้งเดียว  บ้าหรือเปล่า..  หล่อนต้องการอะไรจากฉัน  ปั่นหัว.?

“หล่อนเป็นสาวมารยาทดีนะ  มิกิซังน่ะ”   

คริสตินชำเลืองตามองคนพูด รอยยิ้มรู้ทันของรีเบคก้าทำให้เธอประหม่า  หล่อนน่าจะรู้เหตุผลของพฤติกรรมของเธอ  การเป็นทั้งแฟนเก่าและเพื่อนร่วมงานที่อยู่บ้านเดียวกันตลอด  ใช้เวลาร่วมกันแทบทั้งวันทำให้ไม่มีความผิดปกติอะไรของเธอที่จะรอดหูรอดตาหล่อนไปได้ 

ใช่จริงๆนั่นแหละ  หล่อนสามารถทะลุกำแพงที่เธอสร้างมาเพื่อป้องกันตัวเองได้ทุกครั้ง..  กำแพงที่กั้นไม่ให้ความผิดหวังเข้ามาใกล้  ไม่ให้มาทำร้ายอีก  ก็หล่อนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ..  เป็นมาเสมอ..

ฉันยังเสียดายที่ระหว่างเรา  มันไม่เวิร์ค..  แต่ฉันไม่โทษเธอหรอก..

“นี่..ฟังฉันนะคริส.. ฉันไม่เคยห้ามเธอมีแฟน  แค่ขอให้มีขอบเขตเท่านั้น”  มือเล็กวางทาบลงบนมือที่ใหญ่กว่าพร้อมรอยยิ้มเข้าใจเพื่อนเหมือนที่สายตาเธอพยายามจะบอก  “เราเป็นเพื่อนกันใช่ไหม.?”  แฟนเก่าที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทยิ้มพร้อมพยักหน้ารับ  เธอเองก็ยิ้มโล่งใจ  “โอเค..  งั้นเราจบเรื่องมิกิซังตรงนี้ก่อน  เธอกลับไปค่อยๆคิดว่าจะทำยังไงต่อไป  แต่จำไว้ว่า  เธอสองคนเป็นใคร  และภาพพจน์ของพวกเธอสำคัญมาก”

“ฉันรู้แล้วน่า..  ไม่ต้องสั่งเหมือนแม่ได้ไหม.?”  คริสตินพูดเสียงรำคาญ  หากดวงตาและริมฝีปากยิ้มให้คุณผู้จัดการที่หัวเราะพลางตบหลังมือเธอเบาๆก่อนที่หล่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูดและไม่พูดถึงเรื่องนักแสดงสาวลูกครึ่งนั่นอีกเลยระหว่างมื้ออาหาร  มีแต่งานและงานเท่านั้น 

แต่นั่นแหละ  รีเบคก้าล่ะ  หล่อนบ้างานมากๆ มากจนเธอเริ่มห่วงอิงกริด  หวังว่าแฝดน้องของเธอจะชินกับผู้หญิงคนนี้แล้ว  ชินที่จะไม่น้อยใจเวลาที่หล่อนสนใจงานมากกว่า  ไม่เหมือนเธอที่ทนมันไม่ได้..

บางทีฉันอาจจะไม่เหมาะกับเธอ.. 

เราไม่เหมาะกัน..ผู้จัดการที่รัก..

“นี่กินเสร็จแล้วใช่ไหม.?  ไปเถอะเรามีงานอื่น  เดี๋ยวไปไม่ทัน”

เสียงแหบเสน่ห์แทรกเข้ามาในห้วงคำนึง  พร้อมมือเล็กที่ฉุดดึงเธอให้ลุกขึ้นตาม  และลากเธอออกไปจากร้านอาหาร  ดวงตาสีฟ้าไอริสมองตามทุกกิริยาอาการของร่างเล็กที่เข้ามานั่งเป็นพลขับให้ในรถคันงามและส่ายหน้าเมื่อหล่อนหันมามองหน้าสงสัยว่าเธอมองทำไม

คริสตินถอนหายใจแผ่วแล้วมองไปยังทางข้างหน้าที่กำลังทอดยาวรออยู่  เธอไม่มีสิทธิ์แล้วที่จะถอยหลังกลับไป  ทั้งเรื่องงานหรือเรื่องของหัวใจดวงน้อยนี้  เธอควรจะมีก้าวใหม่  ก้าวข้างหน้าให้ตัวเองเหมือนที่รีเบคก้ามี  ที่รีเบคก้าให้โอกาสตัวหล่อนและอิงกริด...

โอเคมิกิ...  Game  on!

..............................................

มันเป็นเรื่องผิดสังเกตที่เธอสังเกตเห็นมาได้สักพัก  มิกิยังดูยิ้มแย้มดี  สามารถพูดคุยทักทายกับผู้ร่วมงานได้ตามปกติ  ไม่ได้ดูมีปัญหากับนายแบบหนุ่มที่มาถ่ายนิตยสารด้วยกันในวันนี้  เจ้าของงานยังชื่นชมด้วยซ้ำว่างานออกมาได้ดี  และยังต่อท้ายด้วยว่า  ดาราในความดูแลของเธอคนนี้กับหนุ่มนายแบบคงได้เป็นคู่จิ้นคู่ฟินของบรรดาแฟนคลับของทั้งสองคน

แต่โอ้..  นั่นเป็นความคิดของเฉพาะคนที่ไม่รู้จักมิกิตัวจริงเท่านั้นล่ะ!

สำหรับเธอที่โตมาด้วยกันในบ้านหลังเดียวกันที่เกียวโต  ย่อมจะรู้ดีกว่าทุกคน  รู้จักสาวลูกครึ่งตาสีน้ำเงินนี้ดีกว่าใคร  ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนและอะไรหลายๆอย่างให้หล่อน  ความจริงเธอคือลูกสาวของหัวหน้าแม่บ้านในคฤหาสน์ของตระกูลฮานะซึกิ  นามสกุลจริงของ ‘มิกิ  บลูส์ปรินซ์เซส’ 

เจ้าหญิงดวงตาสีน้ำเงิน..

เจ้าหญิงที่ใครๆต่างหลงใหล...  และเจ้าหญิงที่พร้อมจะหักอกทุกคนที่เข้ามาหา  ไม่ว่าจะเป็นใคร...

ฉันเห็นมานักต่อนักแล้ว   จนชินตา...

นี่ก็ด้วย...

“เอาไว้ผมโทรหานะฮะ   ว่างๆให้เกียรติดินเนอร์กันสักมื้อ”

“โทรหาน่ะได้ค่ะซาคุยะซัง  แต่เรื่องจะว่างไปด้วยหรือเปล่า  ต้องเช็คกับทางคานาเดะเอาเองนะ”  มิกิตอบกลางๆ ไม่อยากทำลายน้ำใจคนชวน  ไม่ว่าเธอจะไม่นึกอยากจะทำตามคำชวนนั้นสักครั้ง  ไม่ว่าจะเป็นใครชวน 

ไม่ว่าเขาจะหล่อเท่ขั้นเทพมาจากไหน  จะโด่งดังสักเท่าไหร่ในวงการ  เธอก็แค่ทำงานด้วยเท่านั้น  ไม่เคยคิดอะไร แล้วก็เหมือนเดิมที่เธอลากตัวผู้จัดการส่วนตัวเข้าไปเอี่ยวด้วยเสมอ  และพอหนุ่มๆได้เจอกับคานาเดะแล้ว  บอกได้เลยว่ากินแห้วทุกรายไป  เพราะหล่อนยกตารางงานอันเต็มปริบของเธอให้ดู  เขาก็ถอนหายใจหดหู่  และถอยจากไปอย่างเสียดาย

“นี่เป็นรายที่เท่าไหร่แล้วคะคุณหนู.?”  คานาเดะถามอ่อนใจขณะเข้ามานั่งทำหน้าที่พลขับเหมือนเคย  คนที่นั่งเช็คเครื่องสำอางออกจากใบหน้าอยู่ที่เบาะผู้โดยสารข้างๆหันมายิ้มไร้เดียงสาให้   เธอถอนหายใจยาว  “เขาก็หล่อดีนะคะรายนี้  ซาคุยะซัง..”

“หล่อก็หล่อดีจ้ะ  ดังดีด้วย  แต่หัวใจฉันไม่ว่างแล้วน่ะสิ  มันเป็นปัญหา”  สาวตาสีน้ำเงินบอกง่ายๆ  หากคนฟังไม่ได้คิดแบบเดียวกัน  หล่อนหันมาทำตาโต

“โอ้..ครั้งสุดท้ายที่ฉันเช็ค  คุณหนูยังไม่ได้ออกเดทกับใครเลยนะคะ  หรือไปโดยที่ฉันไม่รู้”  คานาเดะถามงงๆ อยากจะมองหน้าคนพูดให้ชัดๆแต่ติดที่ต้องขับรถต่อ  ถึงอย่างนั้นหางตายังมองเห็นว่าเจ้านายสาวทำอะไรอยู่

มิกิเช็คลิปสติกสีสดออกจากปากเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการขจัดสิ่งกวนใจ  เพราะรีบจะทำงานอื่นต่อพวกเธอจึงไม่ได้อยู่ทำเรื่องนี้ในห้องแต่งตัว  แต่ไม่แน่ว่าที่รีบออกมาเพราะไม่อยากเห็นสีหน้าผิดหวังของคนที่ถูกปฏิเสธหรือเปล่า

แต่ถ้าสงสารเขา  ทำไมไม่ตอบรับไปล่ะ  ประหลาดคน..

โอ้..หรือเพราะหัวใจไม่ว่าง.?  แต่ไม่ว่างได้ไง...

“คุณหนู.?”

“คานาเดะจัง..   ฉันเป็นเกย์”  มิกิโพล่งออกมาในที่สุด  ถอนหายใจเมื่ออีกฝ่ายตบไฟเลี้ยวเข้าจอดรถที่ข้างทาง  คานาเดะหันมาจ้องหน้าอย่างตกใจ

“คุณหนูว่าอะไรนะคะ  คุณหนูไม่ใช่!  คุณหนูไม่ได้เป็นแบบนั้น  ก็ฉัน---”

“ฉันไม่รู้คานาเดะ  ฉันแค่สันนิษฐาน  โอเค๊.?” เจ้าหญิงตาสีน้ำเงินตัดบท  ยกสองมือขึ้นบีบขมับขณะที่อีกคนนั่งเหม่ออยู่ในรถ  ผู้จัดการของเธอคงช็อคน่าดู

จะแปลกอะไรล่ะ  ตัวฉันยังช็อคตัวเองเลย..

“คริสติน  โมเล่ย์.?”

ประโยคนี้ดูจะเป็นคำถาม  แต่ถามตรงตัวคนไปไหม.?

มิกิหลุดหัวเราะพยักหน้าอย่างเหลือเชื่อ  ก็ไม่คิดว่าใครจะรู้  หรือเธอทำชัดเจนเกินไป..  “เธอจับผิดฉันได้คานาเดะ   เธอทำได้ทุกที!”

คานาเดะแค่นหัวเราะอย่างเสียไม่ได้  ผู้จัดการสาวลอบถอนหายใจกับอาการยิ้มเพ้อๆของเจ้านาย   สงสัยจะเรื่องจริง..    แต่ว่า...

“เธอไม่ต้องกลัวนะคานาเดะ  ฉันไม่เคยคิดแตะต้องเธอ”  สาวลูกครึ่งพูดเหมือนรู้ว่าอีกคนระแวงอะไร  คานาเดะนิ่งไปสักพักก่อนหัวเราะพร้อมเธอ

“ฉันรู้ค่ะคุณหนู  อย่างฉันคงไม่ใช่สเป็คคุณหนู”  ผู้จัดการสาวพูดขำๆ แล้วกลับไปขับรถต่อ  ไม่ได้พูดอะไรอีก  หรือไม่อยากจะคิดถึงมัน  หรือกลัว...

เธอเองก็ไม่ได้อยากคิดสักหน่อย..  เธอไม่ได้อยากแตะต้องหล่อนสักนิด  แต่คิดถึงคนอื่นอยู่ต่างหาก  คิดถึงคนบ้าใจร้ายนั่นที่เจอที่ร้านอาหาร!

อา.. คิดแล้วมันก็เจ็บจี๊ดๆแปลกๆที่หัวใจเหมือนใครเอาเข็มมาทิ่ม!
 
มิกิถอนหายใจยาวเอนหลังพิงเบาะอย่างอ่อนใจ  ดวงตาสีน้ำเงินมองออกไปนอกหน้าต่าง  แล้วเม้มปากหงุดหงิดเหมือนเด็ก

คุณกล้าดียังไงถึงปฏิเสธฉัน..  ไม่เคยมีใครปฏิเสธฉันมาก่อน  มีแต่ถูกฉันปฏิเสธ!

กล้าดียังไง.?  แล้วเราจะได้เห็นกัน..คริสติน  โมเล่ย์.!     


..................................................................


ตอนนี้อาจจะมึนๆสักนิด  คนเขียนกำลังง่วง ฮ่าๆๆ   :52:

แต่เพราะอยากให้ได้อ่านกันเลยมานะคะ  เพราะฉะนั้น  ใจดีขนาดนี้แล้ว (เหรอ.?)  อ่านกันแล้ว  เม้นท์กันให้ชื่นใจหน่อยก็ดีน้า..   :61:

ขอบคุณมากค่ะ   :45:



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

iamagoodgirl

  • บุคคลทั่วไป
Re: My little sweet devil Chapter 4 : เจ้าหญิงจ้าวเสน่ห์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2013 เวลา 22:04:47 »
สู้เค้านะมิกิ

WinD

  • บุคคลทั่วไป
Re: My little sweet devil Chapter 4 : เจ้าหญิงจ้าวเสน่ห์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2013 เวลา 22:44:56 »
มิกิสู้เค้าาาาาาาาาา
 :30:

ออฟไลน์ ป่านิทรา

  • นักเขียน
  • หน้าใหม่
  • ****
  • กระทู้: 24
Re: My little sweet devil Chapter 4 : เจ้าหญิงจ้าวเสน่ห์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 01 มกราคม 2014 เวลา 12:22:56 »
มิกิน่ารัก  :62:

-o-sunshine-o-

  • บุคคลทั่วไป
Re: My little sweet devil Chapter 4 : เจ้าหญิงจ้าวเสน่ห์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 01 มกราคม 2014 เวลา 23:30:37 »
 :42: รักอิงกริด เชียร์มิกิ เอาใจช่วยนะคะ :55:

ออฟไลน์ si

  • หน้าใหม่
  • *
  • กระทู้: 42
Re: My little sweet devil Chapter 4 : เจ้าหญิงจ้าวเสน่ห์
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 02 มกราคม 2014 เวลา 12:24:26 »
แฝดคนน้องละ :43:

ดอกไม้โบราณ

  • บุคคลทั่วไป
Re: My little sweet devil Chapter 4 : เจ้าหญิงจ้าวเสน่ห์
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 02 มกราคม 2014 เวลา 13:46:48 »
 :60: นั่งรอชิลด์ๆๆๆๆต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 มกราคม 2014 เวลา 00:42:21 Admin »

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.