web stats

ข่าว

 


3 Daughter-in-law Part I สะใภ้รองของเเรวงส์ ตอนที่ 6

โพสต์โดย: viswee วันที่: 25 พฤษภาคม 2014 เวลา 15:51:33 อ่าน: 604

3 Daughter-in-law : มนต์สะใภ้เมินเขย
Part I สะใภ้รองของเเรวงส์ ตอนที่ 6


โทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงส่องเเสงเเวบวาบต่อเนื่องหลายต่อหลายครั้ง เเต่เจ้าของเครื่องที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงยังคงไม่รู้เนื้อรู้ตัว เพราะก่อนที่จะเข้าสู่ Sleep Mode ธีราทรได้ปิดระบบสั่นเตือนเเละเสียงเรียกเข้าในโทรศัพท์เพื่อป้องกันการโดนรบกวนเวลาพักผ่อน ทว่าเธอก็ยังเปิดเครื่องมือสื่อสารเอาไว้ให้รู้ว่าติดต่อได้ เเต่ไม่สะดวกรับสายนะจ๊ะ
   
ห้วงนิทราอันเเสนสุขยังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่งประตูห้องนอนมีเสียงก๊อกเเก๊กดังขึ้นให้คนที่นอนหลับได้เริ่มรู้สึกตัว แต่ยังไม่อยากตื่นนี่ ธีราทรพลิกตัวหนี สองมือยกขึ้นมาปิดหูคล้ายไม่ยอมรับกับเสียงที่ได้ยิน เเต่ทว่าเสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไทม์ไม่อาจเมินเฉยได้อีกต่อไป เธอลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย หน้าตามู่ทู่ด้วยความหงุดหงิด
   
โอ๊ย! ใครบังอาจมาขัดจังหวะการนอนของฉันเนี่ย หึย! อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ เเต่เสียงเคาะประตูก็ยังดังเร่งเร้าให้รีบเปิด ธีราทรลุกเดินโซเซไปกระชากประตูให้เปิดออก สาวใช้หน้าเเฉล้มยิ้มเจื่อนๆ พลางบอกว่ามีสายเรื่องด่วนมากที่สุดมาถึงเธอ
   
เรื่องด่วนอะไรกันถึงขนาดโทรเข้าโทรศัพท์บ้าน หน้าตาของธีราทรยุ่งเหยิงด้วยความรำคาญใจ รับโทรศัพท์เเบบไร้สายจากสาวใช้มาคุยเรื่องด่วนทันที คุยให้จบๆ จะได้รีบไปนอนต่อ ยังง่วงอยู่เลย
   
"นังส้มเช้ง! มีเรื่องด่วนอะไร" ธีราทรถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อได้รู้ว่าใครโทรถึงเธอ สองขาเดินกลับไปนั่งลงบนเตียงนอน อีกมือก็คว้าโทรศัพท์มือถือมาดู
   
โอ้ว! 30 กว่าสายที่ไม่ได้รับ มีทั้งจากศิรินารถเเละส้มจี๊ด เเสดงว่าเป็นเรื่องด่วนมากจริงๆ เเต่มันเรื่องด่วนอะไรกันนักหนาถึงขนาดต้องโทรจิกให้เธอรับสายให้ได้ ยังไม่ได้ทันจะได้เริ่มเดา เรื่องด่วนที่อยากรู้ก็ดังให้ได้ยิน ดวงตาสีสนิมเบิกอ้าโตด้วยความอึ้ง เเทบหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ยัยกุหลาบพิษเรียกเข้าไปพรีเซนต์งานเวลาบ่ายโมงตรงที่ออฟฟิศโรสเรียลเอสเตท ธีราทรเบนสายตาไปมองนาฬิกาบนผนังห้อง
   
คุณพระ! นี่มันจะเที่ยงอยู่เเล้ว อีกชั่วโมงเดียวก็จะได้เวลานัดหมายเเล้วนี่ ตื่นมาก็เจอเรื่องให้อารมณ์เสียเลยวุ้ย ไทม์หน้าหงิกหน้างอด้วยความไม่พอใจ เเต่เอ๊ะ! ปกติเวลาไปขายงานกับลูกค้า หากไม่จำเป็นจริงๆ กราฟิกดีไซน์เนอร์ไม่ต้องเข้าไปด้วยนี่นา
   
หาเรื่องไม่ไปดีกว่า ยิ่งลูกค้าเป็นยัยโรสที่เพิ่งมีคดีหนักกันไปเมื่อวาน ยิ่งไม่อยากเจอ ก็ไอ้ที่เธอรีบทำงานจนเวลาผิดธรรมชาติชาวบ้านชาวเมืองเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะอยากจะจบงานของยัยนั่นเร็วๆ หรอกหรือ เพราะฉะนั้นไทม์ไม่ไป
   
"นังส้มเช้ง เเกกับพี่นารถมีหน้าที่ขายก็ขายไปสิ งานฉันก็ส่งให้เเล้ว จะลากฉันไปด้วยทำไมเนี่ย เสียเวลาน่า ปล่อยให้ฉันนอนให้เต็มอิ่ม เเล้วตื่นมาทำงานอื่นบ้างได้มั้ยยะ ลูกค้าไม่ได้มีเเค่โรสเรียลเอสเตทเจ้าเดียวนะเว้ยเฮ้ย"
   
"ใจเย็นๆ ก่อนนะคะพี่ไทม์ขา คืองานนี้พี่ไทม์เป็นคนทำ ก็ต้องเข้าไปช่วยกันขายคอนเซปต์สิคะ เอางี้ๆ เดี๋ยวส้มจี๊ดจะขอเขยิบเวลาเค้าเป็นสักบ่ายโมงครึ่งละกัน พี่ไทม์จะได้มีเวลาหายใจหายคออีกนิดหนึ่ง เเต่พี่นารถกำชับมาว่าห้ามนอนต่อนะพี่ อาบน้ำเเต่งตัว เเละรีบออกจากบ้านเลย ณ บัดนาว เเล้วไปเจอกันที่ออฟฟิศโรสเรียลเอสเตทตรงซอย 6 นะค้า" ส้มจี๊ดส่งเสียงอ่อนเสียงหวานมาตามสาย เพราะรู้ดีว่าบอสนัมเบอร์ทูคงจะหงุดหงิดมากที่โดนปลุก
   
ที่สุดเเห่งความหงุดหงิดเลยทีเดียวเชียวล่ะ เพราะธีราทรกดวางสายเเล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนเตียงทันที สองมือยกขึ้นยีผมตัวเองอย่างหัวเสีย อ๊าย! อุตส่าห์รีบปั่นงานให้เสร็จ จะได้จบสิ้น ที่ไหนได้ดันมีภาคต่อให้รีบเข้าไปขายงานโดยด่วน
   
"ยัยกุหลาบพิษเอ๊ย! พ่นพิษใส่ฉันอีกเเล้ว"
   
ธีราธรโวยวายลั่นห้อง เพราะยัยโรสคนเดียว ทุกอย่างในชีวิตเธอถึงได้รวนไปหมด ยิ่งเจอไฟต์บังคับให้ต้องเข้าไปเจอยัยนั่น ยิ่งโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนพาล พุ่งเป้ามอบความผิดให้ราณีรับไปเต็มๆ หึย! นึกเเล้วน่าจะจับยัยนั่นมาจูบอีกสักทีสองทีให้หายโมโห หล่อนจะได้เลิกทำตัวงี่เง่าสักที มีอย่างที่ไหนส่งงานเช้านัดประชุมบ่าย ใครเค้าทำกันยะ
   
ตายละวา! บ่ายโมง เเล้วจะไปทันประชุมหรือเปล่าเนี่ย โอ๊ย! อยู่ช้าไม่ได้เเล้ว ธีราทรตาลีตาเหลือกคว้าผ้าเช็ดตัวพุ่งเข้าห้องน้ำในบัดดล หลังจากเบนสายตาไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงตรงเป๊ะ


++++++++++++++++++++


โต๊ะกระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดนั่งได้ 8 คน ในห้องประชุมขนาดเล็กของโรสเรียลเอสเตท ครบพร้อมไปด้วยสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม ราณีนั่งเป็นประธานอยู่ตรงหัวโต๊ะ ถัดไปด้านซ้ายมือของผู้บริหารคือลูกน้องเเผนกประชาสัมพันธ์อีก 3 คน ส่วนด้านขวามือคือคนของบริษัท N-Time Design ที่มาถึงก่อนเพียงสองคนคือ ศิรินารถเเละส้มจี๊ด ส่วนสมาชิกอีกคนที่จะเป็นผู้อธิบายคอนเซปต์งานนั้น ทั้งคู่ให้เหตุผลกับคุณลูกค้าที่น่ารักว่ากำลังอยู่ในระหว่างรีบเดินทางมาที่นี่
   
ซูเปอร์ซีอีโอได้เเต่นั่งตัวเกร็ง กลัวจะโดนคุณโรสวีน เพราะนี่ก็เลยเวลานัดมาเกือบ 15 นาทีเเล้ว เเต่กราฟิกคนเก่งก็ยังมาไม่ถึงห้องประชุม โอ๊ย! วันนี้เหยี่ยวสาวคงจะโดนนางหงส์จิกใส่เสียกระมัง มาช้าซะ ศิรินารถกระซิบบอกเลขาคนสนิทให้รีบโทรตามตัวหุ้นส่วนของเธอเเต่โดยไว คล้อยหลังส้มจี๊ดออกไปจากห้อง เธอก็เหลียวไปส่งยิ้มหวานเอาใจคุณลูกค้า
   
"เออ...คุณโรสรออีกสักครู่นะคะ นารถให้ส้มจี๊ดไปโทรตามไทม์อีกรอบเเล้ว"
   
"ไม่เป็นไรค่ะ โรสรอได้" ราณียิ้มหวานบอกอย่างใจดี เพราะเธอรู้ว่าทำไมอีกคนถึงมาสาย ในเมื่อยัยไทม์เพิ่งจะนอนไปตอนเช้าเองนี่นา ต้องให้เวลาสักหน่อย
   
โอ้! นี่คนคุณโรสตัวจริงหรือเปล่า ไหงยิ้มสยามเป็นนางงามใจเย็นอย่างนี้ล่ะ ศิรินารถงงเป็นไก่ตาเเตก ท่าทางวันนี้บอสใหญ่ของโรสเรียลเอสเตทจะอารมณ์ดี งั้นก็ขอให้คุณโรสเป็นเเบบนี้ไปจนจบการประชุมพรีเซนต์งานละกัน อย่าได้มีเหตุการณ์วิวาทะซ้ำรอยเดิมอีกเลย 
   
เพียงเเค่เเวบเดียวส้มจี๊ดก็กลับเข้ามาในห้องประชุมอีกครั้งด้วยสีหน้ายิ้มเเย้มพร้อมกับข่าวดีที่ทุกคนรอคอย
   
"คุณไทม์จอดรถเเล้วครับ รอสักครู่นะครับ"
   
เจ้าของโรสเรียลเอสเตทลอบยิ้มนิดๆ ด้วยความพอใจ ที่คู่อริของเธอโผล่มาสักที นึกว่าจะเพลียจนเบี้ยวประชุมเสียเเล้ว มีความรับผิดชอบใช้ได้เหมือนกันนี่ เเต่เอ๊ะ! เซฟทีคัทของเธอไปไหน ทำไมยังไม่มาประจำการ เทมส์ควรจะนั่งอยู่ในห้องเเล้วถึงจะถูก ไม่ได้การล่ะ ก่อนที่ยัยไทม์จะมาถึงห้องประชุม ควรจะให้เทมส์เข้ามาก่อน ราณีเอียงตัวไปกระซิบบอกลูกน้องที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือ ให้รีบตามตัวเทมส์โดยด่วน
   
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ศิรินารถเเละส้มจี๊ดยิ้มหน้าบานด้วยความดีใจ ในที่สุดธีราทรก็มาถึงเเล้ว เเต่สองเจ้านายลูกน้องก็มีอันต้องผิดหวัง เมื่อคนที่เปิดประตูเข้ามาหาใช่ไทม์เเต่เป็น...เทมส์
   
เฮ้ย! ทำไมกลายเป็นคนน้อง คนพี่ไปไหน สองคนเหลียวขวับมองหน้ากัน เเล้วเบนสายตากลับไปมองธรณ์ธันย์อย่างงุนงง
   
ธรณ์ธันย์ยกมือไหว้ศิรินารถเเละส้มจี๊ด เธอรู้จักสองคนนี้ดี เพราะสมัยที่เธอกลับมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงปิดเทอม ได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามพี่สาวเข้าไปเยี่ยมเยือนออฟฟิศ N-Time Design อยู่บ่อยๆ
 
"เทมส์ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ พี่เร้ว" ราณีบอกสาวรุ่นน้องที่เดินไปหาเก้าอี้ว่าง ก่อนที่จะขยับเลื่อนเก้าอี้ตัวเองไปทางขวานิดหน่อย เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ตรงหัวโต๊ะสามารถเเทรกเก้าอี้เพิ่มได้อีกหนึ่งตัว
   
โอ้! ทั้งคำพูดเเละน้ำเสียงของคุณโรส เหมือนจะเเสดงให้รู้ว่าสนิทสนมกับธรณ์ธันย์เป็นพิเศษ ศิรินารถกับส้มจี๊ดถึงกับงงเป็นไก่ตาเเตก อยากรู้สุดๆ ว่าน้องสาวของธีราทรมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร
   
ซึ่งสายตามีคำถามของทั้งคู่ ก็ทำให้ราณีเผยรอยยิ้มน้อยๆ นึกเข้าใจได้ว่าศิรินารถเเละส้มจี๊ดรู้จักเทมส์อย่างเเน่นอน ก็ในเมื่อเทมส์เป็นน้องสาวของ Head Graphic Designer ของ N-Time Design นี่ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอดมองไปยังสาวรุ่นน้องที่เพิ่งนั่งลงข้างๆ ด้วยความเอ็นดู เเล้วโรสก็เอ่ยเเนะนำธรณ์ธันย์กับสองคนฝั่งขวามืออย่างเป็นทางการ
   
"เทมส์ เป็นลูกน้องของโรสเองค่ะ"
   
คุณพระช่วย! โลกกลมเว่อร์ไปมั้ง ศิรินารถกับส้มจี๊ดเหลียวไปมองคุณโรสด้วยสีหน้าตกตะลึง ก่อนจะได้สติเหลียวกลับมามองกันเองอีกครั้ง ด้วยสายตาที่ถามกันเเละกันว่า...ไทม์รู้หรือยัง??"

เเต่เเล้วก็มีเสียงเคาะประตูห้องประชุมดังขึ้นอีกรอบ คราวนี้ไม่ผิดตัวเเน่นอน ทุกสายตาพุ่งเป้าไปที่ประตูห้องที่ถูกเปิดผลัวะเข้ามา
   
ธีราทรหอบเเฮ่กๆ เดินเร็วๆ เข้าไปนั่งเคียงข้างสาวรุ่นพี่ของเธอ โอ๊ย! นอนก็น้อย เเล้วต้องรีบลากสังขารมาประชุมด่วนอีก ไม่น็อกวันนี้จะน็อกวันไหนเนี่ยฉัน ไทม์พยายามควบคุมลมหายใจตัวเอง เหนื่อยจริง ทว่าเมื่อดวงตามองเห็นใครบางคนที่อยู่ในห้องด้วย ก็ตกใจเเทบสิ้นสติ อยากน็อกไปตอนนี้เสียให้รู้เเล้วรู้รอด น้องสาวของเธอนั่งขนาบข้างยัยกุหลาบพิษเลย อัยยะ! นี่มันวันโลกาวินาศหรือยังไงเนี่ย ตั้งเเต่ลืมตาตื่นมีเเต่เรื่องชวนตะลึงตลอดๆ
   
"ครบเเล้วใช่มั้ยคะ งั้นเริ่มเลยดีกว่าค่ะ เราเสียเวลามามากพอเเล้ว" ราณีเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา
   
เเต่เมื่อได้เห็นสายตา ณ จังงังของคู่อริคนเก่งที่มองไปยังคนที่นั่งข้างๆ เธอ โรสก็เผยยิ้มกว้าง หึๆ ไม่ได้ขู่นะจ๊ะ เเค่มีเทมส์อยู่ใกล้ๆ เพื่อความอุ่นใจเท่านั้นเอง
   
ดวงตาสีสนิมตวัดไปมองผู้บริหารใหญ่ อร๊าย! ยัยโรสส่งสายตาเย้ยหยันใส่เธองั้นหรือ นับเป็นความซวยของตัวเองเเท้ๆ เมื่อวานไม่น่าไปเจรจากับยัยโรสเลยจริงๆ วันนี้ยัยนี่เลยลากเทมส์เข้ามาข่มเธอต่อ เออ...ได้ทีขี่เเพะไล่ไปนะ อย่าให้ถึงทีของเธอบ้างละกัน ฝากไว้ก่อนเถอะ
   
ธีราทรกัดฟันกรอด พยายามหายใจลึกๆ เพื่อเรียกสติ จะโมโหหัวเสียขนาดไหน เเต่จะอาละวาดไม่ได้ เย็นไว้ๆ เพื่ออนาคตการทำงานของน้องสาว ไทม์ปลุกปลอบขวัญเรียกเเรงฮึดให้ตัวเอง โอเค! เริ่มทำงานได้ ณ บัดนี้
   
"ส้มจี๊ด เปิดโลโก้อันเเรกเลย" ธีราทรบอกคนที่ประจำการอยู่หน้าโน้ตบุ๊ก ส้มจี๊ดปฏิบัติการตามอย่างเร็ว เมื่อหน้าจอโชว์รูปโลโก้ ไทม์ก็เริ่มพูดอีกครั้ง
   
"เเบบเเรก คอนเซปต์ที่วางไว้ชื่อว่า Kindness คือนำ Out Line หรือลายเส้นรอบนอกของรูปร่างดอกกุหลาบออกมาใช้ พรีเซนต์ความอ่อนโยนจากลายเส้นที่เหมือนใช้พู่กันวาดขึ้นมา เเต่ในขณะเดียวกันที่เลือกกุหลาบมาทั้งก้านทั้งใบ เพื่อเป็นส่วนตกเเต่งที่ช่วยประคับประคองตัวดอกให้มีความมั่นคงเเข็งเเรง ตัวลายเส้นทั้งหมดใช้เป็นสีขาวบนพื้นหลังสี Magenta ซึ่งเป็นสี CI ของโรสเรียลเอสเตท ในเเบบทำมาให้ทั้งวงกลม เเละสี่เหลี่ยม ถ้าชอบก็ลองเลือกดูอีกทีละกันค่ะ"
   
(Magenta คือ สีเเดงอมม่วง , CI คือ Corporate Identity : อัตลักษณ์องค์กร)
   
โห! ลึกซึ้งเเละตรงตามคอนเซปต์เป๊ะๆ เลย ศิรินารถเเละส้มจี๊ดยิ้มหวานด้วยความพึงพอใจ ยิ่งธีราทรอธิบายอย่างละเอียดยิ่งอยากจะลุกขึ้นปรบมือรัวๆ มิเสียเเรงที่ฝากความหวังเอาไว้ ทีนี้ก็เหลือทางคุณลูกค้าเเล้วล่ะ ว่าจะชอบมั้ย

"สวยดีค่ะ ฉันชอบ เเต่เช็กค่าสีนิดนึงนะคะ มองในจอเเล้วสีเพี้ยน เเล้วเเบบที่สองล่ะคะ" ราณีบอกออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่เเสดงความรู้สึกชื่นชอบอย่างที่ว่าสักนิด เเม้ในใจจะนึกทึ่งในตัวยัยไทม์ปากกรรไกรอยู่ไม่น้อย เพราะโลโก้เเบบเเรกนั้น ให้ความรู้สึกอ่อนโยนเเละมั่นคงจริงๆ เเค่มองยังชอบเลย เเต่จะให้ยัยไทม์เห็นว่าเธอชื่นชมไม่ได้ เสียหน้าเเย่
   
ยังจะมีเหน็บใส่กันนะยะ ธีราทรชักสีหน้านิดๆ อยากจะตอกกลับให้หน้าหงาย สีบนจอภาพมันมักจะมีความคลาดเคลื่อนอยู่เสมอเเหละ ขนาดเปิดจากคอมพิวเตอร์คนละเครื่องค่าสีที่เเสดงผลในหน้าจอ ยังไม่เหมือนกันเลย เเต่...เธอจะปรี๊ดไม่ได้เด็ดขาด อดทนไว้ เพื่อน้องเทมส์ อ๊าก! ไทม์สู้ตาย
   
โถ! ไทม์สู้ๆ ศิรินารถเเละส้มจี๊ดส่งสายตาให้กำลังใจเเม่ทัพหญิงคนเก่งเต็มที่ สู้เพื่อบริษัทขนาดนี้ ปลายปีนี้ซีอีโอจะให้ไทม์ลาพักร้อนได้นานเท่านานตามเเต่ใจต้องการเลยเอ้า

เเต่ธีราทรคงไม่ทันได้เห็น เพราะมัวเเต่พยายามระงับอารมณ์ที่คุกรุ่นด้วยการเบนสายตาหนีไปมองหน้าจอตรงผนังห้องเเทน ถ้าขืนมองหน้ายัยโรส เธอล่ะกลัวจะเก็บความหงุดหงิดไว้ไม่ไหว ให้ตายเถอะ หึย!!
   
"เเบบที่สอง คอนเซปต์คือคิดถึงโรสทุกเวลา เราทำโลโก้เป็นพื้นขาวอยู่ในวงกลมเส้นขอบสี Magenta โดยใช้รูปเเบบหน้าปัดนาฬิกา รอบวงกลมด้านในจะใส่ใบไม้เเทนตัวเลข 1 - 12 ส่วนตรงกลางจะเป็นคำว่า ROSE ที่ออกเเบบให้เหมือนตัวเลขในนาฬิกาดิจิทัล ตัว RO เสมือนเป็นตัวเลขบอกชั่วโมง ส่วน SE เสมือนเป็นตัวเลขบอกนาที ซึ่งจะมี Colon (:) คั่นเหมือนตัวเลขจริงๆ  ตัว Colon ออกเเบบใหม่เป็นรูปดอกกุหลาบไม่มีก้านจำนวนสองดอก ฟอนต์ทั้งหมดใช้สี Magenta"
   
กรี๊ด! สองเจ้านายลูกน้องของฝั่ง N-Time Design คราวนี้ไม่ได้เเค่อยากจะลุกขึ้นปรบมือ เเต่อยากจะกระโดดหอมเเก้มธีราทรเลยทีเดียว คอนเซปต์งานชิ้นนี้เลิศเลอเพอร์เฟกต์มาก หวังว่าคุณโรสจะชอบ เเต่...
   
"เก๋ดีค่ะ ฉันชอบ เเต่ฉันว่าเลือกเอาสักอย่างดีมั้ย จะเป็นเเอนะล็อกหรือดิจิทัล ก็เอาสักอันหนึ่งเถอะ เอามารวมกันสองอัน เเล้วซับซ้อนเวียนหัว หรือเอาใบไม้ตัวเลขนั่นออกก็ได้ค่ะ มันดูรกๆ"
   
ไม่ได้อยากจะติหรอก เเต่ก็อดไม่ได้จริงๆ ราณีเเอบเซ็งตัวเองนิดๆ ที่ปากไวเกิ๊น เเต่จะว่าไปยัยไทม์ตอนหน้าบูดหน้าบึ้งก็มีเสน่ห์ดีนะ เสน่ห์เเบบประหลาดๆ คิดเเล้วก็อยากจะขำ เเต่เธอก็จำต้องเก๊กหน้านิ่งต่อไป
   
อ๋อย! สองคนที่นั่งลุ้นจนตัวโก่งหน้าเหี่ยวไปในบัดดล ศิรินารถกับส้มจี๊ดมองคนที่นั่งเป็นประธานตรงหัวโต๊ะตาละห้อย
   
ส่วนดีไซน์เนอร์คนเก่งนั้นหรือกัดฟันกรอดจนเจ็บเหงือกเเล้วเนี่ย ธีราทรพยายามสูดลมหายใจลึกๆ เธอต้องห้ามอารมณ์ตัวเองให้ได้ ทางที่ดีอธิบายให้จบ เเล้วถามยัยกุหลาบพิษไปตรงๆ ดีกว่า ว่าจะเลือกอันไหน จะได้เลิกประชุมสักที
   
"ส่วนเเบบสุดท้าย ตัวนี้เป็น Typography นำดอกกุหลาบมาดัดให้กลายเป็นตัว R นำหน้าคำว่า Rose ไม่มีคอนเซปต์ ลองทำดูเฉยๆ เเล้วมันก็ออกมาสวย เก๋ กู้ด" ธีราทรว่าจบก็เหลียวกลับเข้าโต๊ะประชุม ดวงตาสีสนิมจ้องมองไปยังคู่อริตัวฉกาจ
   
เอิ่ม! อันนี้เเบบสวยมาก เเต่คำอธิบายเนี่ย บอกได้คำเดียวว่ากวนโอ๊ยที่สุด ศิรินารถเเละส้มจี๊ดทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว
   
ส่วนธรณ์ธันย์ที่โดนลากเข้ามาร่วมประชุมโดยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เรื่องงานนี้เเม้เเต่นิด ได้เเต่ยิ้มชื่นชมพี่สาวตัวเอง เพิ่งจะรู้ว่าเวลาพี่สาวคนรองทำงานเเล้วเต็มที่สุดๆ โลโก้ทั้งสามอัน สวยดูดีทุกอัน เเถมคำอธิบายยังฉะฉานชัดเจน ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่สาวใช้เวลาเนรมิตงานเเค่คืนเดียว พี่ไทม์เก่งจัง น้องเป็นปลื้ม นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่กับเจ้านายเเล้วล่ะก็ เทมส์จะยกนิ้วโป้งให้เลย เเต่พอเห็นสภาพพี่สาวเเล้ว เทมส์ก็นึกอยากให้การประชุมจบเร็วๆ พี่ไทม์จะได้กลับไปนอนต่อ ดูซิ ตาบวมตุ่ย สภาพเหมือนเพิ่งหลุดออกมาจากสงครามโคโซโวจริงๆ
   
"คุณมีอะไรอยากถามอีกมั้ยคะ คุณโรส" ธีราทรถามต่อ เพราะยัยโรสตัวเเสบเอาเเต่นั่งโชว์ยิ้ม จะเอายังไงยะ
   
ที่ราณีเงียบไป เพราะกำลังประเมินสถานการณ์อยู่ ดวงตาของเธอจดจ้องสู้กับดวงตาสีเเปลก โธ่เอ๊ย! นึกว่าวันนี้จะไม่ได้เจอยัยไทม์ป่วนประสาทซะเเล้ว เเต่ก็เจอจนได้สิน่า อย่างนี้สิค่อยเป็นไทม์ตัวจริงเสียงจริงหน่อย งั้นมาวัดระดับความอดทนของยัยนี่กันดีกว่า
   
มือจุดไฟเห็นทีจะไม่ใช่ธีราทรเเล้ว เพราะตอนนี้ราณีถือคบเพลิงอันใหญ่เตรียมมอบเเสงสว่างพร้อมเสียงตูมตามในห้องประชุมเสียเอง
   
"มีค่ะ" ราณีเว้นจังหวะนิดหนึ่ง พลางโยกตัวมาชิดโต๊ะ ยกมือขึ้นเท้าคาง ดวงตายังคงจ้องหน้าธีราทรเหมือนเดิม
   
"ถ้าฉันชอบทุกอันเลย ฉันจะทำยังไงดีคะคุณไทม์ ในฐานะที่คุณเป็นคนออกเเบบทั้งหมด คุณชอบอันไหนที่สุด บอกฉันหน่อยสิ อ้อ! ขอเหตุผลด้วยนะ"
   
เเสบ สรวน มาชวนเซ็งอีกเเล้ว ว่าจะสงบปากสงบคำเเล้วเชียว ยัยนี่ก็กวนอารมณ์อยู่ได้ ชอบอันไหนทำไมไม่เลือกเองล่ะยะ จะมาขอเหตุผลเธอทำไม เเต่ดีล่ะ ชอบให้พูดตรงๆ นักใช่มั้ย เดี๋ยวไทม์จัดให้ ธีราทรยกมือเท้าคาง ทำท่าเดียวกับราณีเด๊ะ
   
"ฉันไม่ชอบสักอัน เพราะฉันไม่ชอบสี Magenta มีเหตุผลพอมั้ยคะ"
   
กรี๊ด! ไอ้ไทม์นั่นมันสี CI ของลูกค้า เเล้วดันไปบอกว่าไม่ชอบ บรรลัยล่ะงานนี้ ขอยาดมยาลมหรือยาหอม เอามาด่วน ศิรินารถเเทบเป็นลม เหลียวใบหน้าซีดๆ ไปมองเลขาคนสนิท ราวกับจะบอกว่าช่วยด้วย   
   
ไม่ได้มีเเค่ศิรินารถเท่านั้นที่ตกใจ ธรณ์ธันย์เองก็ตกใจเหมือนกัน เพราะน้ำเสียงเเละคำพูดของพี่สาวนั้น ราวกับจงใจจะกวนพี่โรสชัดๆ ตกลงว่าระหว่างพี่ไทม์กับพี่โรส เรื่องราวมันเป็นยังไงกันเเน่เนี่ย เหมือนไม่ถูกกันยังไงยังงั้น น่าสงสัยชะมัด
   
คนที่ใจเย็นที่สุดในห้องคงจะเป็นราณี โรสไม่ได้อินังขังขอบกับคำตอบของยัยไทม์จอมปากจัดเเม้เเต่นิด เธอกำลังสนุกต่างหาก ท่าทางตอนนี้ยัยไทม์คงเริ่มจะเก็บอารมณ์ไม่ไหวเเล้วล่ะสิ เฮ้อ...ช่วยไม่ได้นะ ที่เธอยังไม่ลืมเหตุการณ์ชวนเสียสติที่ห้องเเต่งตัวในโรงเรียนโยคะเมื่อวาน เเละตอนนี้ก็ได้เวลาเอาคืนเเล้ว คอยดู จะเเกล้งให้สติเเตกเลย
   
"เเล้วถ้าเป็นโรสเรียลเอสเตทในเเบบของคุณ ควรจะเป็นสีอะไรคะ"
   
คำถามกวนอารมณ์โมโหมาอีกเเล้ว ธีราทรเลิกคิ้วยังไม่ยอมตอบในทันที เพราะชักสงสัยที่ยัยโรสถามเอาๆ หรือยัยนี่กำลังยั่วให้เธอของขึ้นต่อหน้าน้องเทมส์เนี่ย เเต่จะทำอย่างนั้นทำไม เหตุผลคือ??"
   
"ว่าไงคะคุณไทม์?"
   
"ชื่อก็บอกอยู่เเล้วว่าโรส มันก็ต้องเป็นสีเเดงสดสิคะ" ธีราทรตอบปัดๆ เพราะอยากให้เรื่องมันจบๆ ไปสักที จุดเดือดของเธอเริ่มเลื่อนตัวลงต่ำเเล้ว หากโดนยัยโรสยั่วโทสะไปเรื่อยๆ ไม่นาทีใดนาทีหนึ่งขีดจำกัดความอดทนคงจะหมด เเละปล่อยพลังระเบิดตูมใส่ยัยกุหลาบพิษจนได้
   
ตอบเสียงห้วนเชียวนะ ท่าทางคงจะเริ่มมีน้ำโหมากขึ้นเเล้วสิเนี่ย ราณียังคงระบายยิ้มด้วยความบันเทิงในอารมณ์ มาวัดกันอีกสักคำถามละกัน ว่ายัยไทม์จะปรี๊ดเเตกใส่เธอ หรือจะอดทนไม่ตอบโต้ได้จนถึงวินาทีสุดท้าย
   
"สีแดงสดเนี่ย สีกุหลาบหรือสีเลือดคะ?"
   
กรี๊ด! ยัยโรสหาเรื่องกันชัดๆ ดวงตาสีสนิมลุกวาวด้วยความขุ่นเคือง อุตส่าห์พยายามระงับอารมณ์เเล้วนะ เเต่ยัยนี่ก็ยังพ่นพิษใส่กันไม่หยุดไม่หย่อน หรือจะไฝว้ฟระ เดี้ยะๆ สงสัยอยากได้เลือด ถึงได้ถามคำถามนี้กับเธอ ทนไม่ไหวเเล้ว
   
"สีโลโก้คงเป็นกุหลาบเเดง เเต่ถ้าริมฝีปากคุณคงจะให้เลือดสีเเดงสด"
   
ผ่าง! คำตอบเสียงดุดันของธีราทร ทำเอาอึ้งกันไปทั้งห้องประชุม ศิรินารถกับส้มจี๊ดสะดุ้งเฮือกหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เเทบอยากจะลากตัวกราฟิกคนเก่งออกจากห้องประชุมในบัดนาว ด้วยกลัวว่าจะได้เห็นเลือดออกจากปากไทม์ด้วยน้ำมือคุณโรสคนงาม เฮ้อ...นึกว่าวันนี้การประชุมจะราบรื่น เเต่ดูทรงเเล้วน่าจะราบเป็นหน้ากลองมากกว่า Time Bomb ผิดเวลาอีกเเล้ว
   
เเต่คนที่ตะลึงงันมากที่สุด กลับกลายเป็นน้องสาวของธีราทร ธรณ์ธันย์มองพี่สาวตัวเองตาค้างด้วยความตกใจ เเม้จะรู้ว่าพี่คนรองเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิดขี้โมโห เเต่ไม่คิดว่าพี่ไทม์จะร้อนจนพูดจารุนเเรงชวนมีเรื่อง เเละโดยเฉพาะพูดใส่เจ้านายของเธอซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัท โอ้! ระหว่างพี่ไทม์กับพี่โรสต้องมี Something Wrong มากกว่าเเค่เรื่องงานซะล่ะมั้ง
   
ในที่สุดยัยเเสบก็ปรี๊ดเเตกจริงๆ ราณียังคงยิ้มเเย้มเช่นเดิม เเถมไม่มีท่าทีสะทกสะท้านกับคำตอบของยัยไทม์ปากกรรไกรสักเท่าไหร่ ปกติมากที่ได้ยินยัยนี่สวนกลับมาเช่นนี้ เพราะหากไม่เเสบสันก็คงไม่ใช่ยัยไทม์ตัวจริง
   
เออ...ตอบมาได้ว่าริมฝีปากของเธอจะให้เลือดสีเเดงสด ทำไมจ๊ะ จะตบเธอเลือดกบปากหรือไง เเล้วดูทำหน้าทำตาเข้า เเยกเขี้ยวยิงฟันเป็นนางยักษ์พันธุรัตน์เชียวนะ อยากจะหัวเราะให้ดังๆ ทีตอนกวนประสาทชาวบ้านล่ะ ไม่เคยจะสำนึก พอตัวเองโดนกวนคืนบ้าง ทำมาเป็นโมโหโทโส
   
แบบนี้ต้องเจอไม้ตายพิฆาตปราบให้รู้สำนึก ไอ้โรคปากกรรไกรกัดคนอื่นเขาจะได้ลดละเลิกลงบ้าง โรสเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ เชิดหน้าขึ้นน้อยๆ ได้ฤกษ์ดัดนิสัยยัยคู่อริจอมเเสบเเล้ว
   
"ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคุณคุณไทม์ ฉันประทับใจมาก เเต่เรื่องโลโก้ ฉันเลือกไม่ถูกจริงๆ นะเนี่ย เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวฉันให้คนอื่นออกความคิดเห็นบ้าง เทมส์ เทมส์ชอบอันไหนจ๊ะ ไหนลองเลือกให้พี่หน่อยซิ"
   
เเว้กกกก! ธีราทรตาเหลือก เอาเเล้วไง เธอกำลังจะโดนกำจัดจุดอ่อน ยัยโรสจงใจที่จะเล่นงานเธอจริงๆ เพราะยัยนั่นพูดกับน้องเทมส์ เเต่ตาจ้องเธอไม่กะพริบ โอ๊ย! น้องรักโดนลากเข้ามาร่วมวงสงครามป่วนประสาทด้วยเสียเเล้วสิ ทำไงดีเนี่ย ไทม์เเทบนั่งไม่ติด นึกอยากจะลากน้องสาวออกไปจากห้องประชุม เเล้วให้น้องเทมส์ไปเซ็นใบลาออกจากที่นี่ซะ พี่สาวจะได้ถล่มยัยโรสได้อย่างถนัดถนี่ ไม่ใช่นั่งอึดอัดร้อนรุ่มอยู่เช่นนี้ ไทม์อยากกรี๊ด!!
   
ธรณ์ธันย์สะดุ้งเฮือก เหลียวขวับไปมองสาวรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความงุนงง เอ...เธอควรจะต้องให้คำตอบดีๆ ใช่มั้ย เพราะไม่ใช่เเค่เลือกโลโก้ของโรสเรียลเอสเตทเท่านั้น เเต่ยังต้องให้การช่วยเหลือพี่สาว ที่คล้ายกับกำลังตกที่นั่งลำบากอีกด้วย
   
"เออ...ถ้าเอาตามความรู้สึกเทมส์ เทมส์ชอบ..."
   
"คุณโรส! ฉันขอคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวสองคนสักครู่"
   
ธีราทรส่งเสียงเเทรกขึ้นมาทันที ทนนั่งนิ่งอึดอัดใจต่อไปไม่ไหวเเล้ว เพราะไม่ว่าคำตอบของน้องสาวจะเป็นอย่างไร ไม่เธอก็น้องเทมส์หนีไม่พ้นอุ้งมือมารของยัยโรสอยู่ดี ในเมื่อยัยกุหลาบพิษคิดจะเเก้เเค้นเธออยู่เเล้วนี่ ชวนเปิดศึกชัดเจนเสียขนาดนี้ เเต่ในฐานะพี่สาว เธอจะไม่ยอมให้สงครามประสาทมีผลต่อหน้าที่การงานของน้องรักเป็นอันขาด เพราะฉะนั้นคงจะต้องยอมเสียหน้า ขอเปิดโต๊ะเจรจาอีกรอบ ณ จุดนี้ ไทม์ยอมเคลียร์
   
จะคุยอะไรอีกยะ ราณีเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เเต่ในเมื่อยัยไทม์พูดจาเป็นการเป็นงานหน้าตาขึงขัง น้ำเสียงซีเรียสจริงจังเช่นนี้ เธอก็ควรจะตอบตกลงใช่มั้ย โรสลุกจากเก้าอี้ช้าๆ
   
"เชิญค่ะ"
   
ทั้งห้องประชุมตกอยู่ในภาวะตะลึงงันอีกครั้ง ทุกสายตามองตามสองสาวที่เดินออกจากห้องประชุมไปด้วยกัน เเค่สองสาวอยู่ต่อหน้าคนอื่นยังทะเลาะกันเลือดสาด เเล้วนี่ปิดห้องคุยกันสองคน โอ้! จะมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นที่นี่มั้ย เป็นเรื่องน่าสะพรึงที่คนทั้งห้องประชุมคิดเหมือนกันโดยไม่รู้ตัว


ประตูห้องทำงานของท่านประธานกรรมการบริษัทโรสเรียลเอสเตทถูกเปิดออก ราณีก้าวฉับๆ เข้าไปในห้อง ก่อนจะหมุนตัวหันมายืนกอดอกเผชิญหน้ากับคนที่เดินตามเข้ามา
   
เเต่ธีราทรหาได้มองหน้าราณีไม่ ดวงตาสีสนิมกำลังมองไปรอบๆ สถานที่ที่ตัวเองยืนอยู่ อุ๊! นี่กองบัญชาการของยัยกุหลาบพิษหรือนี่ เเหม...ช่างกว้างขวางโอ่อ่าสมตำเเหน่งมาก ไอ้เราก็นึกว่าจะพาเดินขึ้นบันไดเข้าห้องเย็นซะเเล้ว ที่เเท้ก็พามาห้องทำงานส่วนตัวนี่เอง
   
มองอะไร" จะคุยกับฉันทำไมไม่มองหน้าฉันยะ ราณีเปลี่ยนจากกอดอกเป็นเท้าสะเอวด้วยความหมั่นไส้ เพราะอยากรู้ว่าตกลงเเล้ว คู่อริจอมปากจัดมีเรื่องอะไรจะคุยกับเธอกันเเน่ ถึงขนาดขอคุยเป็นการส่วนตัวเนี่ย
   
"คุณไทม์ คุณมีอะไรก็ว่ามา"
   
โอ๊ยโหย! ธีราทรสะดุ้งโหยง เหลียวไปมองเจ้าของห้องที่เเว้ดใส่เธอ ยัยโรสจะเสียงดังทำไมเนี่ย ตกอกตกใจหมดเลย เเต่เมื่อเห็นสีหน้าที่บอกว่าเริ่มไม่สบอารมณ์ของคู่กรณีคนงามก็มีอันสะดุ้งอีกรอบ อุ้ย! ลืมไปเลยว่าจะมาเจรจากับยัยนี่
   
สติเอ๋ย จงกลับมาหาไทม์ด่วน ธีราทรสูดลมหายใจลึกๆ ความคิดกำลังทบทวนเรื่องราวต่างๆ ระหว่างเธอกับผู้หญิงชื่อโรสตั้งเเต่ต้นจนมาถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ก่อนหน้านี้ เธอควรจะพูดอย่างไรดี ยัยโรสถึงจะยอมยุติข้อพิพาททั้งหมดทั้งมวลที่มีกับเธอ รู้ดีว่าตัวเองออกจะนิสัยเสีย ปากจัดหาเรื่องทะเลาะกับยัยโรสทุกครั้ง เเถมยังมีวีรกรรมลืมไม่ลงที่ไปจูบหล่อนอีก หล่อนคงจะยอมญาติดีด้วยอยู่หรอก เเล้วจะเริ่มยังไงดีล่ะ
   
เอ๋า! ถามก็ไม่ยอมตอบ ราณียกเเขนกลับมากอดอกอีกครั้ง หัวคิ้วเริ่มวิ่งเข้ามาชนกัน ดวงตาจ้องเขม็งไปยังคนที่ยืนเงียบ
   
อย่าเพิ่งกดดันได้มั้ยเล่า คนกำลังใช้ความคิดอยู่ ธีราทรเเอบโอดครวญในใจ เมื่อเหลือบเห็นยัยโรสตัวเเสบจ้องหน้ายังกะเธอเป็นโจรห้าร้อยที่เพิ่งวิ่งราวสร้อยคอทองคำมาจากหล่อน สีหน้าของไทม์เริ่มเปลี่ยน ความเครียดมาเยี่ยมมาเยือน เพราะยังคิดหาคำพูดสวยหรูดูดีไม่ได้
   
เเต่ถ้าขืนเงียบต่อไป เเล้วยัยโรสหงุดหงิดไม่ยอมคุยด้วย มีหวังซวยเเน่เรา ซวยคนเดียวไม่พอ ยังจะลากน้องสาวให้มาผจญความซวยด้วยกันอีก ไม่ได้ๆ ต้องเริ่มเจรจาสักที ธีราทรเบนสายตาไปมองราณีเต็มๆ ตา
   
"คุณ...โรส"
   
"กลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจากปากหรือไง จะพูดอะไรก็พูดเถอะ ฉันรอฟังอยู่" ราณีเเหวกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
   
อุ๊ย! อย่าดุสิจ๊ะ เค้ากลัว ธีราทรกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก เเล้วค่อยๆ พูดออกมาว่า...
   
"ฉันขอสงบศึก"
   
สิ่งที่ได้ยินคืออะไร" ราณีเเทบหัวเราะออกมาเลยทีเดียว ขำจะเเย่ ยัยไทม์ขอสงบศึก เรื่องนี้เนี่ยนะ คู่อริตัวเเสบถึงขนาดขอคุยเป็นการส่วนตัว ตลกอะ ถ้าการวิวาทะทุกครั้งที่พบเจอกันคือศึกสงคราม คนคงทำสงครามกันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดเเล้วมั้ง ยัยนี่ยังสติดีอยู่หรือเปล่าเนี่ย หรือโดนเธอกวนประสาทเยอะไปจนเผลอพูดจาเพี้ยนๆ เช่นนี้
   
"เดี๋ยวๆ คุณไทม์ เราทำสงครามกันตั้งเเต่เมื่อไหร่เหรอ" ถามไปเเล้วก็ฮา เเละราณีก็หัวเราะออกมาจริงๆ
   
นี่ก็ขำใหญ่ ธีราทรทำหน้ามู่ทู่ เมื่อคู่เจรจาปล่อยเสียงหัวเราะไม่ยอมหยุด มันตลกตรงไหนยะ I"m so serious เเอนด์เคร่งเครียดนะจ๊ะ เข้าใจกันบ้างสิ ฮุ้ย!
   
"ไม่ขำก็ได้ เเต่ฉันไม่เข้าใจคำว่าสงบศึกของคุณอยู่ดี โอ๊ย! ขอโทษที หยุดหัวเราะไม่ได้จริงๆ" ราณียังคงพูดไปหัวเราะไป  ยิ่งเห็นสีหน้าเสียเซลฟ์ของยัยจอมเเสบ ก็ยิ่งขำ
   
เเละข้อดีอีกอย่างของยัยไทม์ที่โรสเพิ่งค้นเจอคือ...เป็นคนตลกอย่างไม่น่าเชื่อ เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าสามารถพูดคำธรรมดาให้กลายเป็นเรื่องตลกขบขันได้ น่ารักจัง!
   
นั่นๆ ยังไม่หยุดอีก คราวนี้ธีราทรมองราณีตาเขียวปั๊ด เเละนั่นก็ทำให้โรสยกมือขึ้นมาปิดปากเป็นการช่วยหยุดเสียงหัวเราะของตัวเอง
   
"เออ...หยุดได้สักทีนะ เข้าเรื่องต่อ คุณโรส คุณก็รู้ดีอยู่เเก่ใจ เราสองคนน่ะ ทะเลาะกันทุกทีที่เจอหน้า เเต่สำหรับเรื่องงานก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องงานดีมั้ย ฉันส่งงานคุณเเล้ว คุณจะปรับจะเเก้หรือจะให้ฉันทำใหม่ก็บอกมา เเต่ฉันขอร้องล่ะ อย่าลากน้องสาวฉันมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเลย อย่าทำอะไรน้องเทมส์เลยนะ"
   
โอ้โห! จริงจังมาก ราณีเบิกตาโตอย่างอึ้งๆ เข้าใจเเล้วล่ะ จุดประสงค์ที่ยัยไทม์ขอคุยกับเธอ ไม่ใช่เพราะอยากสงบศึกอย่างที่ว่าหรอก เเต่ยัยนี่กำลังวิตกจริตเกินเหตุต่างหาก ท่าทางจะกลัวเธอสั่งปลดน้องสาวขนาดหนัก ถึงกับขอเจรจากับเธอสองครั้งในสองวันติดๆ กัน เเหม...อยากจะถ่ายคลิปเก็บเป็นหลักฐานจริงจริ๊ง บอกไปใครจะเชื่อ ยัยไทม์ปากกรรไกรมาขอร้องเธอเนี่ย
   
มีปฏิกิริยาตอบรับเเค่นี้เองเหรอ อุตส่าห์พูดไปตั้งเยอะ ธีราทรหน้าเสียไปเลย เมื่อคู่กรณีคนงามไม่ปริปากอะไรออกมาสักอย่าง นี่ขนาดลงทุนเสียศักดิ์ศรีขอร้องกันตรงๆ เเล้วนะ ยัยนี่ยังไม่ยอมอีกเหรอ เเล้วต้องทำยังไงให้ยัยโรสไม่ไปยุ่งกับน้องเทมส์ดีล่ะ
   
หรือต้องลบล้างความผิดของตัวเอง ยัยโรสถึงจะยอม เอาวะ เป็นไงเป็นกัน เธอคงต้องลองทุกวิถีทาง จะเสียศักดิ์ศรี จะขายขี้หน้า จะโดนยัยโรสหัวเราะเยาะ ณ จุดนี้คงต้องยอมทุกอย่างเเล้วไทม์เอ๋ย เพราะจุดหมายอันสูงสุด นั่นคืออนาคตการงานที่สดใสของน้องรัก
   
น้องเทมส์...เพื่อเจ้าเลยนะ พี่ถึงได้ยอม ยอมทุกอย่างจริงๆ ธีราทรนึกเวทนาตัวเองนิดๆ เเต่เธอไม่มีทางเลือกเเล้ว
   
"คุณโรส ฉัน...ขอโทษที่พูดจาเเย่ๆ กับคุณ เเล้วก็ขอโทษจริงๆ เรื่องที่...เออ...จูบคุณ"
   
คุณพระ! นี่หูฝาดหรือฝันไป ดวงตาสีน้ำตาลที่เบิกโตอยู่เเล้ว อ้ากว้างจนเเทบหลุดออกมาจากเบ้า ราณีตกตะลึงเกือบจะช็อก ยัยไทม์ขอโทษเธอ! อยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ ไม่คิดไม่ฝันจะได้ยินคำว่าขอโทษจากยัยปากกรรไกรที่ปกติมีเเต่ไล่งับเธอ
   
เเต่ไม่อยากจะเชื่อ ยัยไทม์รักน้องสาวถึงขนาดยอมขอโทษเลยเชียวหรือ เป็นพี่สาวที่เเสนดีมาก เธอให้คะเเนนธีราทรในเรื่องนี้ร้อยเต็มเลยทีเดียว เทมส์เอ๊ย! จะรู้บ้างมั้ยเนี่ย ว่าพี่สาวรักมากขนาดนี้
   
เฮ้อ...เเต่ถ้าถึงขั้นมาขอร้องเเละขอโทษกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป มันก็น่าเห็นใจเเละน่าให้อภัยอยู่นะ เเละเธอก็ไม่ใช่คนใจร้ายช่างคิดช่างเเค้นจนไม่ยอมยกโทษให้หรอก ราณีระบายยิ้มน้อยๆ ด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้น เเต่คงจะต้องทำความเข้าใจเรื่องเทมส์กับยัยไทม์เสียใหม่กระมัง เพราะที่ข่มขู่ไปเมื่อวาน มันก็เป็นเพียงเเค่คำขู่เท่านั้น เธอไม่คิดจะทำจริงๆ หรอก
   
เเละสำหรับเหตุการณ์ในห้องประชุมเมื่อกี้ เธอก็เเค่เเกล้งกวนประสาทเท่านั้นเอง ใครจะไปคิดว่าจะทำให้ยัยไทม์สติเเตกด้วยความเป็นห่วงน้องสาว จนนำมาสู่เหตุการณ์ขอร้องขอโทษเธอในตอนนี้ ยัยไทม์ตื่นตูมไปเองคนเดียวเเท้ๆ
   
ยิ้มเเล้วๆ ธีราทรยิ้มออกบ้าง เมื่อคู่กรณีเผยรอยยิ้มที่เเปลความเอาเองได้ว่าเป็นมิตร เฮ้อ...ถ้ายัยโรสยิ้มได้เเบบนี้ มันเป็นนิมิตรหมายที่ดีมาก เรารอดเเล้วน้องเทมส์ แต่...
   
"คุณไทม์ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรน้องสาวคุณเลยนะ เมื่อกี้ฉันเเค่ขอความเห็นจากเทมส์เท่านั้นเอง"
   
อุ้ย! รอยยิ้มของธีราทรหายเเวบทันที เพราะจะว่าไปที่ยัยโรสเพิ่งพูดมาก็ถูก หล่อนเเค่ขอความเห็นจากน้องสาวของเธอ เเละยังไม่ได้ทำอะไรน้องเทมส์เสียหน่อย งั้นที่เธออุตส่าห์ขอร้อง ที่ยอมขอโทษ เพราะเธอวิตกจริตไปเองงั้นหรือ??"
   
Oh My God! ช็อกสิคะ ธีราทรยืนนิ่งเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างไปเเล้ว จะโทษใครไม่ได้เลยเรื่องนี้ ต้องโทษตัวเองสถานเดียว อายมั้ยไทม์ รักน้องห่วงน้องอย่างเว่อร์ จนเผลอใจร้อนทำตัวเปิ่นๆ ให้ยัยโรสมาหัวเราะเยาะใส่เอาได้ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะทีนี้ จะเเทรกเเผ่นดินหนีก็คงไม่ทันซะเเล้ว เพราะดันยืนประจันหน้ายัยโรสอยู่ในห้องสองต่อสอง ฮือ!
   
ดูทำหน้าเข้า ราณีอยากจะหัวเราะให้ดังๆ นึกรู้ในทันทีว่าคู่กรณีของเธอ คงจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าคิดมากจนตื่นตูมไปเองฝ่ายเดียว เเหม...เเต่ก็น่ารักนะ อุตส่าห์มาขอโทษกับเรื่องที่ผ่านๆ มาด้วย
   
เฮ้อ...ให้อภัยก็ได้ย่ะ ราณียิ้มพลางส่ายหน้าไปมานิดๆ เเต่เหมือนยัยไทม์ปากกรรไกรจะช็อกจนสติหลุดไปจริงๆ เสียเเล้วมั้ง ยืนนิ่งไปเลย ทว่าเมื่อสายตาสังเกตสังกาหน้าตาของธีราทรดีๆ เธอก็อดสงสารไม่ได้ เพราะนอกจากสภาพอิดโรยเเล้ว ขอบตายังบวมตุ่ย ตาขาวรอบดวงตาสีสนิมเเดงระเรื่อนิดๆ ซึ่งสาเหตุก็มาจากการทำงานมาส่งเธอจนนอนน้อยนั่นเอง
   
ในเมื่อธีราทรยอมขอโทษเเละส่งงานเรียบร้อย เธอก็เห็นสมควรว่าศึกนี้ควรได้ฤกษ์ยุติเหมือนอย่างที่เจ้าตัวร้องขอมาเสียที งั้นตอนนี้ก็ควรจะเลิกพูดเลิกคุย เเละปล่อยตัวอดีตคู่กรณีให้กลับบ้านไปนอนหลับพักผ่อนได้เเล้ว จะถือซะว่าที่ผ่านมาเสียงวีนเหวี่ยงจากยัยไทม์ เป็นเเค่เสียงนกเสียงกาทะเลาะกันก็เเล้วกันนะ
   
ส่วนเรื่องจูบ...เเม้จะทำใจลำบาก เพราะเป็นเฟิร์สคิสสุดหวง เเต่เธอก็จะพยายามลืมๆ มันไป เฮ้อ...เเต่จะลืมได้ลงเเน่รึ เพราะความรู้สึกเหล่านั้นมันยังปั่นป่วนหัวใจอยู่เลย เพียงเเค่คิดถึงจูบฟ้าผ่าวันนั้น ความร้อนก็พลันวูบวาบไปทั่วริมฝีปาก มิหนำซ้ำยังพานพาให้สองข้างเเก้มร้อนผ่าวเกิดอาการเขินขึ้นมาในบัดดล โอ้! เมื่อกี้หัวเราะขำ จู่ๆ จะมาหน้าร้อนเพราะคิดถึงเรื่องที่พยายามจะลืมให้ได้หรือฉัน ราณีถอนหายใจยาวพลางสะบัดหน้าเบาๆ
   
ปิดประเด็นการพูดคุยในห้องนี้ได้เเล้วยัยโรส จะได้เเยกย้ายสักที อยู่นานๆ เดี๋ยวศึกที่กำลังจะสงบเกิดไฟลุกขึ้นมาอีกรอบเเล้วจะเเย่เอา เธอน่ะไม่เท่าไหร่หรอก อย่างน้อยก็ยังกุมความได้เปรียบด้วยการเป็นเจ้านายเทมส์อยู่บ้าง เเต่กับยัยไทม์นี่สิ ดูจากสภาพเเล้ว กลัวจะเพลียจนหลับกลางอากาศเหลือเกิน ราณีตัดสินใจพาธีราทรกลับเข้าสู่บทสนทนาอีกครั้ง
   
"คุณไทม์ กลับไปนอนเถอะ เพิ่งได้นอนไปเมื่อเช้าเองไม่ใช่เหรอ"
   
เเละเสียงพูดที่ดังขึ้นจากคู่สนทนา ก็เรียกสติธีราทรให้กลับคืนมาอีกครั้ง ดวงตาสีสนิมกะพริบปริบๆ คล้ายกับปรับโฟกัสตรงหน้า เมื่อกี้เกิดอาการตาพร่าไปชั่วขณะ เมื่อสำนึกรู้ได้ว่า พลั้งพลาดตีตนไปก่อนไข้ จนนำไปสู่ความอับอายขายขี้หน้า เเต่เอ๊ะ! ยัยโรสว่าอะไรนะ
   
กลับไปนอนเถอะ เพิ่งนอนไปเมื่อเช้าเองไม่ใช่เหรอ หล่อนรู้ได้ยังไงเนี่ย หัวคิ้วบนใบหน้าธีราทรกระเถิบเข้าชิดกันด้วยความสงสัย แต่หัวใจอ่อนโยนลงอย่างประหลาด เพราะน้ำเสียงเเละท่าทางของคู่อริคนงามเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน หรือว่าคำขอโทษของเธอจะมีผลให้ยัยโรสอ่อนลง
   
มีผลเเน่นอน เพราะราณีไม่มีท่าทีเกรี้ยวกราดพร้อมตอบโต้กลับเหมือนเช่นเคย เมื่อยัยไทม์จอมเเสบได้เปิดเผยเเง่มุมใหม่ๆ ให้เธอได้เห็น ภาพลักษณ์คนปากจัดชอบหาเรื่องกวนประสาทอยู่เรื่อยถูกภาพอื่นๆ โผล่เข้ามาเเทรกซึม ความเป็นพี่ที่รักน้องมาก ความรับผิดชอบในเรื่องงาน ความตลกขบขัน ตลอดจนกล้าที่จะพูดขอโทษเธอ เเม้อย่างหลังยัยนี่จะมีจุดประสงค์เพื่อหวังรักษาหน้าที่การงานของน้องสาวก็ตามที
   
เเต่มุมใหม่ๆ ที่ราณีเพิ่งได้เห็นจากไทม์นั้น ทำให้ภาพลักษณ์ของผู้หญิงตาสีเเปลกคนนี้ในสายตาเธอดูดีขึ้นอย่างมากโข จนทำให้หวนคิดไปถึงวันเเรกที่เธอได้พบเจอกับไทม์...ผู้หญิงนิรนามกับดอกกุหลาบสีเเดง
   
อืม...เเม้บรรยากาศจะไม่ได้ดูเป็นมิตรเหมือนเช่นวันนั้น เเต่ความเป็นคู่กัดคู่ปรับมันค่อยๆ จางหายไป ซึ่งจะเป็นไปในทิศทางไหน ราณีเองก็ไม่เเน่ใจเหมือนกัน รู้เเต่ว่าตอนนี้เธอเองก็อยากจะเป็นฝ่ายขอโทษไทม์เหมือนกัน เพราะรู้สึกผิดที่ทำให้ยัยนี่ต้องลากสังขารมาคุยงาน ทั้งที่สภาพร่างกายไม่พร้อม
   
"ฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะ ที่เรียกเข้ามาพรีเซนต์งาน เเต่ฉันไม่นึกว่าโดยด่วนของฉัน มันทำให้ทางทีมคุณกระตือรือร้นเข้ามาวันนี้เลย ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณทำงานให้ฉันทั้งคืนก่อนที่จะโทรเเจ้งนัดหมายไป ฉันขอโทษจริงๆ เเต่ก็ขอบคุณนะที่คุณเเสดงสปิริตเข้ามาอธิบายงานด้วยตัวเอง ฉันเลือกแบบได้เเล้วล่ะ เเต่อาจจะมีปรับเเก้อีกนิดหน่อย เดี๋ยวคุณพร้อมค่อยเเก้ก็ได้"
   
ยัยโรสขอโทษ!!! ดวงตาสีสนิมเบิกอ้าโตด้วยความตกตะลึง เเละคำขอโทษนี้ก็ทำให้ธีราทรรู้สึกถึงความอ่อนโยนที่วูบวาบเหมือนสายฟ้าเเลบในหัวใจตัวเอง อา...เจอยัยโรสมาดนี้เข้าให้ หัวใจชักมีอาการเเกว่งๆ เเฮะ เเม่คู้ณ! ทำตัวน่ารักเกินไปเเล้วนะ
   
เเละนอกจากขอโทษ ยังมีคำขอบคุณอีกต่างหาก อุ้ย! ยิ้มให้กันอีกด้วย ยัยโรสเปลี่ยนไปจริงๆ น้ำเสียงเอย ท่าทางเอย ยังกะคนละคนกับที่เคยปะทะคารมกันมาก่อน ว้าว! คำขอโทษของเธอมีผลถึงขนาดเปลี่ยนคนได้จริงหรือ ไม่อยากจะเชื่อ ธีราทรยังคงอึ้งเเละอึ้งกับความเปลี่ยนเเปลงของผู้หญิงตรงหน้า ว่าเเต่ยังสงสัยอยู่เเฮะ ทำไมยัยโรสพูดเหมือนรู้ว่าเธอไม่ได้นอน
   
"คุณรู้ได้ยังไง ว่าฉันทำงานให้คุณทั้งคืน"
   
"ฉันรู้ก็ละกันน่า"
   
ราณียิ้มพรายพลางยักไหล่นิดๆ ดวงตาสีน้ำตาลทอประกายวิบวาว เเหม...ใครเขาจะเปิดเผยเเหล่งข่าวง่ายๆ ล่ะยะ
   
มาทำท่าทำทางโชว์เหนือใส่กันอีก ธีราทรย่นจมูกด้วยความหมั่นไส้ ย้อนนับจำนวนคนที่รู้ว่าเธอไม่ได้นอน สองคนที่มาร่วมประชุมด้วยคงไม่ใช่มั้ง นี่มันเป็นเรื่องของเธอ พี่นารถกับส้มจี๊ดคงฉลาดมากพอที่จะไม่เอาเรื่องส่วนตัวของเธอมาเล่าให้ลูกค้าอย่างยัยโรสฟังหรอก แต่เรื่องนี้มีอีกคนที่รู้ เเละรู้เป็นคนเเรกอีกต่างหาก เพราะคนนี้เจอเธอก่อนที่เธอจะเข้าไปนอน
   
ตัวเลือกเเรกตัดทิ้งไปได้เลย เเต่ตัวเลือกหลังนี่สิ เข้าข่ายความเป็นไปได้มากที่สุด เเต่น้องสาวสุดที่รักของเธอมาบอกยัยโรสงั้นหรือ เอ๊ะ! แล้วจู่ๆ ทำไมน้องเทมส์ถึงต้องรายงานเจ้านายด้วย เพราะนี่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้าน เรื่องในครอบครัวชัดๆ
   
"น้องเทมส์?"
   
ธีราทรถามเพื่อความเเน่ใจ ดวงตาหรี่เล็กลงราวกับจับสังเกต นึกมั่นใจว่ายัยโรสรู้เพราะน้องเทมส์เเน่ๆ เเต่การที่น้องสาวเล่าเรื่องของเธอซึ่งเป็นพี่สาวให้กับยัยนี่ฟัง มันไม่ปกติเเล้ว หรือว่า...ยัยโรสจะใช้ความเป็นเจ้านายบีบบังคับให้น้องเทมส์พูดถึงเธอ ต้องเป็นอย่างที่คิดเเหงเลย ไม่งั้นยัยนี่จะรู้ได้ยังไงว่าเธอไม่ได้นอนทั้งคืน
   
"คุณโรส บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ คุณไปคาดคั้นเอาความเรื่องฉันกับน้องเทมส์ใช่มั้ย"
   
โอ้! คาดคั้นอะไร เเค่พูดคุยกันเฉยๆ ราณีหัวเราะออกมาเบาๆ ขำที่ธีราทรสามารถจินตนาการไปไกลได้ถึงเพียงนั้น คิดเยอะอีกแล้วนะยะ เเหม...อยากรู้ซะจริง ในสายตาของยัยนี่ เธอไม่มีภาพลักษณ์ดีๆ บ้างเลยหรือไง เธอไม่ใช่เจ้านายประเภทบ้าอำนาจถึงขนาดจะเรียกลูกน้องเข้ามานั่งบังคับให้พูดในสิ่งที่อยากจะรู้เสียหน่อย ออกจะใจดีเเละมีเมตตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกน้องที่ชื่อว่าเทมส์
   
แต่เอ๊ะ! หรือยัยไทม์จะยังไม่รู้ว่าระดับความสนิมสนมของเธอกับเทมส์ไม่ใช่เพียงเเค่เจ้านายกับลูกน้อง หากเเต่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่รู้จักกันมานาน ต้องไม่รู้เเน่เลย เพราะถ้ารู้คงจะไม่มาขอร้องเเละไม่พูดจาใส่เธอเเบบนี้ ราณียิ้มกริ่ม
   
"คุณไทม์คะ ฉันไม่ใช่คนชอบบีบบังคับใคร เเละฉันก็ไม่ได้คาดคั้นเรื่องคุณกับเทมส์ด้วย เเล้วก็ช่วยกรุณาเข้าใจเสียใหม่ด้วยนะ ฉันไม่มีทางรังเเกหรือทำอะไรเทมส์หรอก ฉันรักใคร่เอ็นดูเทมส์จะตายไป ฉันสนิทกับเทมส์มากกว่าที่คุณรู้"
   
"หา! สนิทยังไง"
   
หน้าตาของธีราทรตื่นตระหนกเต็มขั้น ดวงตาสีสนิมเบิกอ้าโต คำพูดกำกวมชวนคิดเยอะของยัยโรส ทำให้ความคิดพลันเเล่นปรู๊ดปร๊าดเตลิดไปไกลสุดกู่ รักใคร่เอ็นดู สนิทมากกว่าที่รู้ หมายความว่ายังไง??"
   
หรือว่า...ยัยโรสจะเป็นเจ้านายประเภทสมภารกินไก่วัด โอ้มายก็อด! เป็นไปได้อย่างไร สวยเซ็กซี่ขยี้ใจอย่างยัยโรสเนี่ยนะ จะชอบกินผู้หญิง เอ๊ย! จะชอบรักใคร่เอ็นดูผู้หญิงด้วยกัน ไม่ใช่หรอกมั้ง เเล้วน้องเทมส์คง...เออ...คงไม่ยอมให้ยัยนี่กิน เอ๊ย! คงไม่ยอมให้ยัยโรสรักใคร่เอ็นดูมากเกินขอบเขตเจ้านายกับลูกน้องหรอก น้องสาวของเธอเป็นผู้หญิงปกติ ถ้าเป็นเธอสิว่าไปอย่าง
   
เเต่ถ้าหากความสัมพันธ์ระหว่างยัยโรสกับน้องเทมส์สนิทสนมเกินกว่าความเป็นเจ้านายลูกน้องจริงๆ มันคงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เอ๊ย! น่าตกใจมากกว่าเสียกระมัง
   
เอาอีกแล้ว คิดเป็นตุเป็นตะไปคนเดียวอีกละ ราณีถอนหายใจพลางส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย สีหน้าท่าทางของยัยไทม์ คงหนีไม่พ้นคิดอะไรเเสบๆ เสื่อมๆ อีกล่ะสิ เเววตามันฟ้อง ว่ายัยนี่อุตริคิดเรื่องระหว่างเธอกับเทมส์ในเเง่ร้ายอยู่ เชอะ! รู้ทันหรอกน่า ไม่ไหวๆ ในสมองคิดเเต่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ หรือยังไงยะ 
   
เเต่อยากจะมโนไปเองใช่มั้ย ได้เลย เดี๋ยวโรสจะจัดให้ เอาให้จิ้นจนฟินกันไปข้างหนึ่งเลย ชอบคิดดีนัก ไอ้เรื่องเสื่อมๆ เเบบนี้ ราณีกระตุกยิ้มมุมปาก นึกหมั่นไส้ธีราทรจนอยากเเกล้งเสียให้เข็ด
   
"อืม..." โรสกลอกตาไปมาคล้ายครุ่นคิด ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหาธีราทรในระยะประชิด
   
เฮ้ยๆ จะทำอะไร ธีราทรมองอย่างหวาดๆ เเต่ก็ไม่ได้ถอยหนีเเต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับยืนนิ่ง มีเพียงดวงตาที่จับจ้องมองพฤติกรรมของยัยโรสที่เดินเข้ามาใกล้จนเกือบจะชนเธออยู่เเล้ว
   
ราณีหัวเราะในลำคอเบาๆ จงใจยื่นหน้าข้ามหัวไหล่ของธีราทร เอียงหน้านิดๆ ให้ระดับริมฝีปากห่างใบหูของยัยไทม์เพียงเเค่เส้นยาเเดงผ่าเเปด เเล้วกระซิบเบาๆ ว่า...
   
"สนิทประมาณนี้...มั้ง"
   
ขนลุกเกรียวเลยทีเดียว ทั้งขนเเขน ขนหน้าเเข้ง ยันขนหัว ธีราทรยืนนิ่งด้วยความตกใจ สภาพเหมือนวิญญาณโดนกระชากออกจากร่างอีกเเล้ว เมื่อกี้นี่มันคืออะไร น้ำเสียงเเผ่วๆ ที่เเสนจะเซ็กซี่ น้ำหอมอ่อนๆ ที่โชยมาให้ได้กลิ่น ไออุ่นจางๆ ที่ล่องลอยห่างออกไป หัวใจตัวดีพลันเต้นเเรงเเละเร็วในคราวเดียวกัน รู้สึกได้ถึงโลหิตที่สูบฉีดเเรงไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะเเก้มทั้งสองข้างที่ร้อนวูบวาบเหมือนมีใครเอาเหล็กเผาไฟมานาบทิ้งไว้ จู่ๆ ความหวั่นไหวก็ไม่รู้วิ่งมาจากไหน รู้เเต่มันกระหน่ำบีบคั้นหัวใจให้เผยความรู้สึกออกมาว่า...อยากสนิทเเบบนี้บ้างจัง!!!
   
อ๊าย! เสน่ห์นางเล่นงานฉันอีกเเล้ว ยัยโรสในตอนนี้ช่าง...เเสบ สรวน(ใจ) ชวนเซ็ง เอ๊ย! ชวนเล็งมาเป็นเเฟนเหลือเกิน กรี๊ด! สาวผิวสีน้ำผึ้ง คนสวย เซ็กซี่ ถูกใจ นางกลับมาเเล้วจ้า เจ้าของนามกุหลาบที่ครบ พร้อม สเปก ป๊าด!
   
ความรู้สึกของไทม์ตอนนี้เหมือนวันเเรกที่ได้เจอโรสไม่มีผิดเพี้ยน จะต่างกันก็ตรงที่...น้องเทมส์ เฮ้ย! มัวเคลิบเคลิ้มกับการกระทำของยัยโรส จนลืมไปเสียสิ้น ว่าที่หล่อนบอกสนิทประมาณนี้คือน้องเทมส์ ไม่ใช่เธอ!!
   
"คุณ...ล้อเล่นฉันเล่นใช่มั้ย" ธีราทรตะกุกตะกักถาม เมื่อโรสเลื่อนใบหน้าเเละเขยิบตัวออกไปยืนห่างในระยะเดิมเเล้ว
   
ก็ล้อเล่นน่ะสิยะ ราณีตอบในใจ เเต่สำหรับคำตอบที่อยากให้ยัยไทม์รู้ มีเพียงเเค่การยักคิ้วหลิ่วตายั่วยวนให้ความคิดของไทม์ยิ่งฟุ้งกระจายออกไปอีก เห็นท่าทางตกใจเเทบช็อกของยัยไทม์เเล้วก็ขำ สมน้ำหน้าชอบวิตกจริตไปเองดีนัก
   
หึย! ยังจะมาทำหน้าทำตายั่วโมโหอีก คนยิ่งอยากรู้ความจริงอยู่ หมั่นไส้ชะมัดเลย ธีราทรขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด เเต่เเล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ หรือนี่คือวิธีการเเก้เเค้นของยัยโรส ยั่วให้เธออยากรู้ด้วยคำพูดกำกวม ค่อนข้างเป็นไปได้มากเลยทีเดียว เพราะพอย้อนมองตัวเอง เธอทั้งยียวนกวนประสาท ทั้งชอบหาเรื่องลับฝีปากกับยัยโรส เเถมยังขโมยจูบหล่อนอีก เเกล้งหล่อนไว้เสียเยอะ จะโดนเอาคืนเสียเเล้วกระมัง
   
ต้องใช่เเน่เลย อืม...วันนี้เสียท่าให้ยัยโรสหัวเราะเยาะเธอมาได้ตั้งสองสามทีเเล้ว หากจะเชื่อตามสิ่งที่หล่อนจงใจจะยั่วในทันทีโดยไม่หาข้อมูลให้ละเอียดก่อน อาจจะเกิดอาการหน้าเเหกตามมาเเน่ๆ เเต่อะไรล่ะ ที่จะช่วยให้เธองัดยัยโรสกลับไปได้บ้าง ธีราทรขมวดคิ้วมุ่น เเล้วก็พลันนึกออก
   
ในเมื่อยัยโรสอยากใช้น้องเทมส์มาเป็นเครื่องต่อรองดีนัก เธอก็จะใช้น้องเทมส์นี่เเหละ เป็นตัวช่วยต่อกรกับยัยโรสกลับไป
   
"คุณโรส น้องเทมส์น่ะ ฉันรู้จักตั้งเเต่อยู่ในท้องเเม่ คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าน้องสาวฉันเป็นยังไง น้องเทมส์เป็นผู้หญิงปกติ ไม่บ้าจี้สนิทกับคุณประมาณนี้หรอก"
   
อุ้ย! ราณีหน้าเจื่อนนิดๆ ก็ลืมไปว่าเขาเป็นพี่น้องกัน เพราะฉะนั้นยัยไทม์ก็ต้องรู้จักเเละสนิทกับเทมส์มากกว่าเธออยู่เเล้ว
   
จับได้เเล้วย่ะ เเหม...ละครตบตาเมื่อกี้เเนบเนียนซะจนเกือบหลงเชื่อจริงๆ เเล้วมั้ยล่ะ ธีราทรกลับมาเป็นคนถือไพ่เหนือกว่าอีกครั้ง ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
   
โรสจ๋า ที่ยั่วไทม์เมื่อกี้น่ะ มันเด็กมัธยมไปนิดนึงนะจ๊ะตัวเอง เเม้จะทำให้หัวใจสะท้านสะเทือนปั่นป่วนขนาดหนัก เเต่เดี๋ยวไทม์จะทำให้โรสได้รู้นะจ๊ะ ว่ายั่วระดับปริญญาเอกน่ะ เป็นอย่างไร
   
ธีราทรไม่รอให้ราณีได้ตั้งตัว ก้าวเพียงเเค่สองเก้า ร่างของเธอก็ประชิดร่างของโรสที่ยืนนิ่งเบิกตาโพลง ไทม์ยื่นใบหน้าข้ามหัวไหล่ เเละเอียงคอให้ริมฝีปากอยู่ในระดับใบหูของโรส ท่าเดียวกันเด๊ะ
   
ลมหายใจเเผ่วๆ ที่รินรดใบหู ทำให้ราณีมีอาการเดียวกับธีราทรเมื่อกี้เปี๊ยบ ขนลุกขนชันไปทั้งร่างกาย ยัยไทม์ทำอะไรเนี่ย จะเเก้เเค้นคืนเธอจริงๆ เหรอ ว้าย! ไหนบอกขอสงบศึกไง ทำไมยังกล้า เเต่โรสก็ไม่ทันได้คิดต่อ เพราะริมฝีปากที่เกือบจะเเตะใบหูเธออยู่รอมร่อ เปล่งเสียงออกมาว่า
   
"เเต่ถ้าเป็นฉัน..." ธีราทรหยุดพูด เเล้วค่อยเป่าลมเบาๆ ให้ผ่านพลิ้วสัมผัสใบหูของคนที่ยืนตัวเเข็งทื่อ
   
กรี๊ด! ราณีตัวสั่นนิดๆ หัวใจเต้นอย่างบ้าคลั่งอยู่ในอก เมื่อรับรู้ได้ว่าคราวนี้ลมหายใจไม่ได้ออกมาจากจมูก เเต่ออกมาจากริมฝีปากที่เเทบจะเฉียดใบหูของเธอเเล้ว เเต่...ยัยไทม์กำลังจะพูดหรือจะทำอะไรต่อ" ลุ้นระทึกจนเเทบจะหยุดหายใจเเล้วเนี่ย
   
ธีราทรยังไม่ยอมพูดต่อ ใบหน้าที่เอียงได้องศาเหมาะเหม็ง ค่อยๆ เลื่อนเข้าไปใกล้ จนในที่สุดปลายจมูกเเตะเบาๆ ตรงกลางใบหูของโรสจนหล่อนสะดุ้งเฮือก ทว่าไม่ได้หยุดอยู่เเค่นั้น เพราะไทม์จงใจลากปลายจมูกไล้เรื่อยอย่างเเผ่วเบาลงมาสัมผัสพวงเเก้มนวลเนียน ลากลงมาอีกนิดจนเกือบจะถึงริมฝีปาก เเล้วหยุดชะงักค้างไว้ในท่านั้น ได้ฤกษ์พูดอีกครั้งเเล้ว
   
"คุณจะอยากสนิทประมาณนี้ด้วยมั้ยล่ะ"
   
อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ เเต่ทำไมร่างกายเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตจนชาไปทั้งร่างขยับเขยื้อนไม่ได้เเม้เเต่นิด ราณีได้เเต่ใช้สายตามองตามยัยไทม์ตัวเเสบที่เลื่อนใบหน้าออกไปเเล้ว อ๊าย! คราวก่อนโดนจูบ วันนี้เเม้ไม่ถึงกับหอมเเก้ม เเต่เเก้มของเธอก็โดนปลายจมูกยัยไทม์สัมผัสเข้าให้เเล้ว ฮือ...ยัยนี่กระทำการอุกอาจอีกเเล้ว เจ็บใจ!
   
เเต่โดนยัยไทม์ทำเเบบนี้ไม่น่าเจ็บใจเท่ากับความรู้สึกในหัวใจของตัวเอง เพราะสัมผัสเเผ่วเบาในระยะประชิดพาให้ความหวามไหววูบวาบลึกเข้าไปถึงกลางใจ ทำไมหัวใจต้องเต้นเเรง ทำไมถึงได้รู้สึกตื่นเต้น เเละที่น่าตกใจมากที่สุดคือ...
   
รู้สึกยินดี! ต้องโมโหสิโรส เเต่ทำไมเธอไม่มีความรู้สึกกริ้วโกรธเลยเเม้เเต่นิด ตรงกันข้ามเหมือนหัวใจอยากจะเปิดประตูเชื้อเชิญสัมผัสวาบหวามเช่นนี้ให้เข้ามาโบยบินสั่นคลอนไปทั่วทั้งใจอีกครั้ง อ๊าย! ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับหัวใจของเธอ มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ย คิดเเล้วก็อับอาย อายทั้งความรู้สึกของตัวเอง เเละเขินอายกับการกระทำของยัยไทม์ตัวเเสบ
   
ธีราทรยิ้มหวาน แก้มนางช่างหอมกรุ่นเหลือเกิน เเม้ได้สัมผัสนางเพียงเเค่ผิวเผิน เเต่หัวใจก็เผลอสั่นสะท้านด้วยความหวั่นไหว นึกอยากจะลองกดจมูกให้จมหายลงไป คงได้พบกับความนุ่มนิ่มที่เเสนจะเย้ายวน ว้าย! เคลิ้มอะ เเต่ยิ่งเห็นโรสหน้าเเดงเเปร๊ดเบือนหน้าหลบสายตา รอยยิ้มของไทม์ก็ยิ่งขยายกว้างขึ้นจนเเก้มตึง
   
นี่ล่ะจ๊ะโรสจ๋า เค้าเรียกว่ายั่วของจริงนะจ๊ะ ธีราทรลอบหัวเราะในลำคอ ยอมรับเลยว่าคู่อริที่เคยหมั่นไส้ในตอนนี้ น่ารักจับใจ น่ารักจนอยากจะคว้ามานั่งในหัวใจจริงจริ๊ง เเต่ถ้าขืนยังยืนอยู่ที่นี่ต่อ เเล้วยัยโรสเกิดได้สติเลิกเขิน อาจจะโดนเจ้าหล่อนเเหกอกควักหัวใจเธอออกมาเเทน ต้องรีบเผ่นก่อนที่สาวเจ้าจะรู้ตัวสินะ
   
"ขอบคุณมากนะคุณโรส ที่เลือกเเบบได้สักที จะเเก้อะไรก็เมลมาละกันนะจ๊ะ เดี๋ยวเเก้ให้"
   
ธีราทนเบี่ยงประเด็นกลับเข้าเรื่องงาน ค่อยๆ เดินถอยหลังห่างออกจากราณีมาเรื่อยๆ เพื่อความปลอดภัยเลยนะเนี่ย ต้องหลบให้พ้นรัศมีไม่งั้นอาจมีทำร้ายร่างกายเเน่ จนกระทั่งไปถึงประตู ไทม์หมุนตัวไปเปิดประตู เเล้วยกมือขึ้นมาช้าๆ
   
"ไปล่ะ คนสวย บาย" ทิ้งท้ายไว้เพียงเเค่นี้ เเล้วธีราทรก็เผ่นเเนบออกจากห้องไปทันที
 
"คนบ้า คนเพี้ยน มาทำอะไรกับฉันเนี่ย" ราณีบ่นออกมาเบาๆ ใบหน้าค่อยๆ คลี่รอยยิ้มออกมาทีละนิดๆ จนกระทั่งขยายกว้างเต็มจนเต็มพื้นที่
   
หัวใจของโรสเริ่มมีปฏิกิริยาบางอย่างที่เธอก็ไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไรกันเเน่ รู้เเต่เพียงทิศทางของอารมณ์เเละความรู้สึกค่อนข้างเอนเอียงไปทางบวก บวกๆ เลยทีเดียว เเม้การกระทำของยัยไทม์จะจาบจ้วงล่วงเกินเพราะเเอบเเต๊ะอั๋งเธอ เเต่เธอก็มิอาจปฏิเสธความหวั่นไหวที่เพิ่มระดับมากขึ้นอย่างน่าตกใจนั้นได้หรอก โอ้! นี่เธอควรจะต้องยอมรับความจริงใช่มั้ย
   
ความจริงที่ว่า...เริ่มรู้สึกดีๆ กับยัยไทม์ปากกรรไกรเข้าให้เเล้ว!!! 




++++++VISWEE++++++

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น