web stats

ข่าว

 


3 Daughter-in-law Part I สะใภ้รองของเเรวงส์ ตอนที่ 8

โพสต์โดย: viswee วันที่: 25 พฤษภาคม 2014 เวลา 15:47:49 อ่าน: 635

3 Daughter-in-law : มนต์สะใภ้เมินเขย
Part I สะใภ้รองของเเรวงส์ ตอนที่ 8


เสียงน้ำที่ไหลออกจากสายยางกระทบต้นไม้บริเวณริมรั้วบ้าน เรียกให้คนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในศาลาไม้กลางสนามหญ้าเบนสายตาจากหนังสือเล่มเล็กในมือไปมอง ธัญสินีกะพริบตาปริบๆ พลางขมวดคิ้วมุ่น เมื่อได้เห็นว่าคนที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ตรงนั้นเป็นใคร
   
โอ้! ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ธีราทรนึกเฮี้ยนอะไรถึงลุกขึ้นมารดน้ำต้นไม้กลางเเสงเเดดในเวลา 9 โมงเช้าเช่นนี้  เเปลกจริง เพราะโดยนิสัยของน้องคนรอง ไทม์ไม่ถูกโรคกับงานบ้านทุกชนิด เเต่วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับไทม์เนี่ย ผีเข้าหรือโดนใครบังคับมา ไหงทำตัวผิดเเผกไปจากที่เคยทำได้ น่าสงสัยจริงๆ ธัญสินียังคงมองจ้องธีราทรด้วยความฉงนงงงวย จนไม่ทันได้เห็นว่าน้องสาวอีกคนได้เดินเข้ามาในศาลาไม้เเล้ว
   
"พี่เทป" ธรณ์ธันย์เรียกพี่สาวคนโต ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้หวายอีกตัวที่ตั้งล้อมรอบโต๊ะกลมกลางศาลาไม้
   
เเม้จะยังติดใจสงสัยในการกระทำของน้องคนรองอยู่ไม่น้อย แต่ธัญสินีก็ยอมเบนสายตากลับมามองน้องคนเล็กที่เพิ่งเดินเข้ามานั่งด้วย
   
"วันนี้พี่เทปไม่เข้าไปที่ฟิตเนสหรือคะ"
   
"เข้าสิจ๊ะ มีคลาสโยคะช่วงบ่ายน่ะ พี่ว่าจะออกไปสักเที่ยงๆ"
   
"งั้นเเปลว่าตอนนี้พี่เทปว่างใช่มั้ยคะ ดีล่ะ เทมส์มีเรื่องอยากจะคุยกับพี่เทปพอดีเลย" ธรณ์ธันย์ยิ้มกริ่ม เธอหาโอกาสเหมาะๆ จะพูดคุยกับพี่สาวคนโตมาหลายวันเเล้ว เพราะเรื่องบางอย่างมันยังค้างคาอยู่ในใจ จนอยากจะหาคนระบายให้ฟัง เเละคนที่เธอนึกถึงเป็นคนเเรกก็คือพี่เทป
   
น้องสาวฉันเเต่ละคน เป็นอะไรกันไปเนี่ย ไทม์ก็รดน้ำต้นไม้ทั้งที่ไม่เคยจะสนใจพืชสีเขียวมาก่อน ส่วนน้องเทมส์ทำตัวมีลับลมคมนัยผิดปกติ ธัญสินีเลิกคิ้ว วางหนังสือไว้บนโต๊ะ ค่อยๆ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ตั้งท่าพร้อมคุยกับน้องสาวคนเล็ก
   
"มีอะไรก็ว่ามาเลยน้องเทมส์"
   
"พี่เทปรู้จักพี่โรสใช่มั้ยคะ"
   
"พี่โรส??" ธัญสินีกลอกตาไปมา พยายามนึกถึงคนรู้จักของเธอที่มีชื่อว่าโรส เเต่ในชีวิตเธอรู้จักอยู่โรสเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือ...คุณโรส ที่มาเรียนโยคะกับเธอ จะเป็นโรสนี้หรือเปล่า
   
ธรณ์ธันย์ทำหน้างงตามพี่สาวไปด้วย เมื่อวันที่พี่โรสเรียกเธอเข้าไปคุยในห้องประชุม สาวรุ่นพี่บอกเองนี่นาว่ารู้จักพี่สาวคนโตของเธอ เเล้วไหงพี่เทปถึงไม่มีทีท่าว่าจะรู้จักพี่โรสเลยล่ะ หรือว่าต้องขยายความมากกว่านี้
   
"พี่เทปไม่รู้จักเหรอคะ เอ๊! เเต่พี่โรสบอกเทมส์ว่าเรียนโยคะกับพี่เทปอยู่"
   
"อ๋อ รู้จักสิ น้องเทมส์รู้จักคุณโรสด้วยเหรอ"
   
คนเดียวกันจริงด้วย ธัญสินียิ้ม เเต่ก็นึกเเปลกใจอยู่นิดๆ เพราะไม่คิดว่าน้องสาวจะรู้จักกับคุณโรสด้วย นี่เท่ากับว่าคุณโรสรู้จักน้องของเธอทั้งสองคนเลยสิเนี่ย โลกกลมชะมัด แต่หวังว่าคุณโรสกับน้องคนเล็กจะไม่ได้เป็นคู่กรณีเหมือนเจ้าคนรองนะ
   
เฮ้อ...โล่งอก ธรณ์ธันย์ถอนใจเบาๆ นึกว่าพี่เทปจะไม่รู้จักพี่โรสเสียเเล้ว ไม่งั้นเรื่องที่เธอจะระบายให้พี่สาวคนโตฟัง คงจะไม่เกิดผลอะไรสักเท่าไหร่ เเต่ในเมื่อรู้จัก งั้นก็คงต้องเดินหน้าบอกเล่าเรื่องราวที่ติดอยู่ในความสงสัยของตัวเองต่อ
   
"เทมส์รู้จักกับพี่โรสตั้งเเต่สมัยไปเรียนที่อังกฤษใหม่ๆ เเล้วล่ะค่ะ เค้าเป็นรุ่นพี่คนไทยที่เทมส์สนิทสนมด้วยมากที่สุด เเล้วเมื่อตอนที่เทมส์กลับมาเมืองไทย บังเอิญเจอพี่โรสพอดี เค้าเลยชวนไปทำงานด้วย ตอนนี้พี่โรสก็เลยกลายเป็นเจ้านายของเทมส์?"
   
"หา!!" ธัญสินีอุทานเสียงดัง
   
น่าดีใจที่คุณโรสไม่ได้เป็นคู่กรณีกับน้องเทมส์ เเต่มันน่าตกใจมากที่สาวสวยคนนั้นเป็นถึงเจ้านายเเละรุ่นพี่คนสนิทของน้องสาวคนเล็ก โอ! โลกไม่ได้เเค่กลมเเล้วล่ะ ระดับความสัมพันธ์ขนาดนี้โลกเล็กเกินไปเเล้ว เเละความตกใจก็พลันพาภาพเหตุการณ์วิวาทะพร้อมซีนจูบสายฟ้าเเลบ ระหว่างน้องสาวคนรองเเละสาวสวยนามว่าโรสย้อนกลับมาในความคิดของเทปอีกครั้ง พร้อมกับคำถามที่ว่า...ไทม์รู้หรือยัง ว่าคู่อริที่บังอาจไปจูบเขา มีสายสัมพันธ์เเน่นเเฟ้นกับน้องสาวสุดที่รัก
   
"ทำไมพี่เทปตกใจขนาดนั้น" ธรณ์ธันย์มองพี่สาวด้วยความฉงนสงสัย
   
"เออ...พี่เเค่นึกไม่ถึงน่ะ ว่าคุณโรสจะสนิทกับน้องเทมส์ขนาดนี้ เเล้วนี่ไทม์รู้หรือเปล่าว่าคุณโรสเป็นรุ่นพี่ที่พ่วงตำเเหน่งเจ้านายของน้องเทมส์ด้วย"
   
"พี่ไทม์รู้ว่าพี่โรสเป็นเจ้านายเทมส์ค่ะ เพราะพี่โรสให้ N-Time Design ทำงานให้ เเต่เรื่องที่พี่โรสเป็นรุ่นพี่เทมส์ พี่ไทม์ไม่น่าจะรู้มั้งคะ" ธรณ์ธันย์ตอบ ดวงตาสีกาเเฟวาววับจับจ้องสีหน้าซีดๆ ของผู้เป็นพี่ด้วยความสนใจ พี่เทปทำหน้าแปลกๆ ทำเหมือนรู้ความสัมพันธ์อันคลุมเครือของสองคนนั้นเลย เอ๊ะ! หรือจะรู้จริงๆ งั้นต้องรีบเข้าเรื่องโดยด่วน
   
"แล้วเรื่องที่เทมส์อยากจะคุยกับพี่เทป ก็คือ...เรื่องระหว่างพี่ไทม์กับพี่โรสนี่เเหละ"
   
"เรื่องระหว่างไทม์กับคุณโรส ยังไง?" ธัญสินีเลิกคิ้ว
   
"พี่เทปรู้ใช่มั้ยคะ ว่าสองคนนั้นรู้จักกัน"
   
"อืม รู้สิ ไทม์กับคุณโรสเคยเจอกันที่โรงเรียนโยคะของพี่" ผู้เป็นพี่ตอบ เเล้วก็พลันนึกได้ต่อ สองคนนั้นไม่ได้เเค่เจอกันอย่างเดียวเสียด้วยสิ เหตุการณ์ในวันนั้นของไทม์เเละคุณโรสมีรายละเอียดมากกว่าที่จะเป็นเเค่คนรู้จักกัน เเต่เทปก็ยังยั้งปากไว้ได้ทัน เพราะการที่น้องเทมส์มาคุยด้วย นั่นเเปลว่าน้องคนเล็กก็น่าจะมีโอกาสได้เจอะเจอเหตุการณ์บางอย่างระหว่างสองคนนั้นเหมือนเช่นที่เธอเคยเจอ จนถึงกับเก็บมาคุยกับเธอ น้องเทมส์รู้อะไรมา น่าสนใจจริง
   
"เคยเจอกันที่อื่นนอกเหนือจากที่ทำงานด้วย ถึงว่าสิ ทำไมพี่ไทม์กับพี่โรสทำตัวเเปลกๆ"
   
ธรณ์ธันย์ขมวดคิ้ว นึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เธออยู่ท่ามกลางพี่สาวเเละสาวรุ่นพี่ ทั้งเหตุการณ์ที่พี่คนรองมารับกลับบ้าน เเละเหตุการณ์ในห้องประชุม พี่ไทม์เเยกไปคุยกับพี่โรสเป็นการส่วนตัวทั้งสองครั้ง ซึ่งไม่มีใครรู้ด้วยว่าสองคนนั้นคุยอะไรกัน
   
"เเปลกๆ ยังไงเหรอ น้องเทมส์"
   
คำถามของพี่สาวดึงธรณ์ธันย์ให้กลับเข้าสู่บทสนทนาอีกครั้ง น้องเล็กถอนใจ ตัดสินใจเล่าสิ่งที่อยู่ในความคิดให้พี่สาวฟัง
   
"คืองี้ค่ะพี่เทป มีวันหนึ่งพี่ไทม์เเวะไปรับเทมส์ที่ออฟฟิศ เทมส์เลยเเนะนำให้พี่โรสรู้จัก เเต่จู่ๆ พี่ไทม์ก็เเยกไปคุยกับพี่โรสสองคน นั่นเป็นครั้งเเรกที่เทมส์คิดว่าสองคนนี้เเปลกๆ ส่วนครั้งที่สอง เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่ไทม์เข้าไปขายงาน เเล้วก็ทำเหมือนเดิมเลย คือเเยกไปคุยกับพี่โรสสองคนจนคนทั้งห้องประชุมงง เทมส์เลยอดสงสัยไม่ได้ เพราะถ้าคุยกันเรื่องงาน ทำไมไม่คุยกันให้จบในห้องประชุม เเล้วที่เเปลกที่สุดคือ ทั้งสองครั้งพี่ไทม์เป็นคนขอพี่โรสให้เเยกไปคุยด้วย"
   
ธัญสินียกนิ้วเคาะโต๊ะ เท่าที่น้องเทมส์เล่ามาเนี่ย เธอคิดว่าไทม์ทำตัวเเปลกจริงๆ น่ะเเหละ มันด้วยเหตุผลอะไรกัน ไทม์ถึงกับจะต้องเเยกไปคุยกับคุณโรสสองต่อสองถึงสองครั้ง เเต่คงไม่ใช่ด้วยเรื่องงานเเน่ ไม่งั้นจะออกจากห้องประชุมทำไม หรือจะเเอบไปทะเลาะกันสองคนอีก เฮ้ย! ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คงไม่ใช่เเค่สองครั้งเเล้วล่ะ เพราะเหตุการณ์ในห้องเเต่งตัวที่โรงเรียนโยคะวันนั้นก็เป็นอีกครั้งที่ธีราทรอยู่กับคุณโรสตามลำพัง โดยที่เธอเผอิญเข้าไปรู้เห็นด้วยเท่านั้น
   
งั้นพี่สาวคนนี้ขอฟันธง ไม่ใช่เรื่องงานชัวร์ เเต่ทั้งคู่จะตกลงหรือจะทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรนั้น คงจะมีเเค่คุณโรสกับไทม์เท่านั้นที่จะให้คำตอบได้
   
"คือเอาจริงๆ เทมส์ว่าก็เเปลกทั้งพี่ไทม์ทั้งพี่โรสน่ะเเหละค่ะ จะว่าพวกเค้าไม่ถูกกันก็ไม่ใช่นะ เเต่จะเป็นมิตรมั้ย ก็ไม่" ธรณ์ธันย์ว่าต่อ ยิ่งนึกไปถึงบทสนทนาระหว่างสองสาวที่พูดถึง ยิ่งสงสัยขนาดหนัก เหตุการณ์ในห้องประชุมวันนั้น เหมือนพี่โรสจะยั่วโมโหพี่ไทม์ ในขณะเดียวกันพี่สาวของเธอก็ตอบโต้กลับด้วยคำพูดเผ็ดร้อนไม่ต่างกัน ถึงเเม้ว่าทั้งคู่จะเป็นประเภทสาวมั่นฉันไม่เเคร์ เเต่ก็ไม่เคยเเสดงกิริยาเช่นนั้นกับคนที่ไม่ได้สนิทสนมกันเป็นพิเศษ ตกลงยังไงเนี่ย
   
คำพูดของน้องสาวทำให้ธัญสินีหลุดออกมาจากโลกความคิดของตัวเอง เฮ้อ...เรื่องที่น้องคนรองทำตัวเเปลกๆ มันมีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน ต้นเหตุที่ทำให้ไทม์เป็นเเบบนี้ก็เพราะคุณโรสน่ะเเหละ ไม่รู้กามเทพแผลงศรผิดคน หรือโดนโชคชะตาเล่นตลกเข้าให้ สาวเเซ่บอย่างคุณโรสถึงได้โคจรมาเจอจอมเเสบอย่างไทม์ได้ เเละคงไม่ได้เเค่เจอหรอก เพราะคาดว่าฟ้าคงจะส่งผู้หญิงคนนี้มาปราบความเเสบสันเข้าไส้ของน้องคนรองอย่างเเน่นอน
   
ธัญสินียิ้มมุมปาก ดวงตาสีอำพันวิบวับด้วยความตื่นเต้น ดูท่าว่าเธอคงต้องเเชร์ความคิดให้น้องสาวคนเล็กได้รู้ด้วยอีกคนเสียเเล้ว สงสัยใช่มั้ยน้อง เดี๋ยวพี่จะเฉลยให้เอง
   
"ถ้าตามความเห็นพี่ อย่างคุณโรสกับไทม์น่ะ เค้าเรียกว่าคู่กัด"
   
"ใช่ๆ ทำไมเทมส์นึกไม่ถึงนะ ท่าทางสองคนนั้นเหมือนคู่กัดกันจริงๆ" ธรณ์ธันย์ดีดนิ้วเปาะด้วยความถูกใจ พี่เทปพูดมาถูกต้องมาก ดีเเล้วที่เธอเลือกมาคุยกับพี่สาวคนโตก่อนที่จะไปซักไซ้เอาความกับพี่สาวคนรอง
   
อย่าเพิ่งหายสงสัยนะน้องเทมส์ ยังมีรายละเอียดสำคัญอีกบางส่วนที่เจ้าควรจะต้องรู้ไว้ ในฐานะที่เป็นน้องน้อยเเสนสนิทของทั้งสองสาวไทม์กับโรส ธัญสินีระบายยิ้มกว้างขึ้น
   
"เเต่นั่นคือความคิดเห็นของพี่ก่อนที่จะได้รู้ได้เห็นอะไรบางอย่างนะ"
   
พี่เทปไปรู้เห็นอะไรมา" สีหน้าของน้องเล็กบอกความตื่นเต้นใคร่รู้อย่างเห็นได้ชัด จนผู้เป็นพี่ที่กุมความลับสำคัญไว้หัวเราะออกมาเบาๆ เอาล่ะ ได้เวลาบอกเล่าวีรกรรมเเสบเด็ดเผ็ดสะเด่าของไทม์กับคุณโรสที่เธอรู้ให้น้องเทมส์ฟังเเล้ว
   
"เท่าที่ไทม์เล่าให้พี่ฟัง ไทม์เคยปะฉะดะกับคุณโรสมาก่อน เเต่เป็นด้วยเรื่องงานนะ เเต่น้องเทมส์รู้มั้ย แค่เรื่องงาน ไทม์ถึงขนาดไปว่าคุณโรสเค้า เเสบ สรวน ชวนเซ็ง เเล้วยิ่งมีอุบัติเหตุ คุณโรสทำกาเเฟหกใส่เสื้อไทม์อีก เจ้าไทม์โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยล่ะ รู้ใช่มั้ยเวลาพี่สาวเราโมโหน่ะพาลเเค่ไหน"
   
ธรณ์ธันย์พยักหน้าเร็วๆ สิ่งที่พี่สาวคนโตเพิ่งเล่าให้ฟังเนี่ย นับเป็นข้อมูลใหม่เอี่ยมที่เธอไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยจริงๆ โอ้! ถึงว่าสิ ทำไมวันที่พี่สาวคนรองไปรับเธอกลับบ้านทำท่าทางเหมือนรู้จักกับพี่โรสมาก่อนหน้านั้นเเล้ว ไหนจะบทสนทนาเหมือนทะเลาะกันกลายๆ ในห้องประชุมอีก เชื่อเเล้วล่ะ ว่าคู่นี้เป็นคู่กัดกันจริงๆ
   
"วันนั้นไทม์มาขอเสื้อเปลี่ยนกับพี่ พี่เลยได้รู้เรื่องนี้ เจ้าตัวเล่าเองน่ะแหละ บ่นเป็นชุดเลย ยิ่งอคติกับคุณโรสหนักยิ่งกว่าเดิมซะอีก ไทม์พาลถึงขนาดทำตัวเป็นเด็กๆ มาขอให้พี่ช่วยเเกล้งคุณโรสให้ในคลาสโยคะด้วยนะ แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งคลาสโยคะเลิก ทีนี้ล่ะไทม์จัดเต็มทั้งเเซวทั้งยั่วจนคุณโรสโมโห" ธัญสินีเล่าอย่างเพลิดเพลิน แต่คนที่ตั้งใจฟังอย่างเต็มที่เริ่มคิ้วขมวดนิดๆ
   
"พี่เทป ปกติถ้าพี่ไทม์ไม่ถูกชะตาหรือเกลียดขี้หน้าใคร เค้าจะทำเหมือนคนนั้นเป็นอากาศธาตุ ไม่สนใจมากกว่าจะยั่วจะเเซวเหมือนอย่างที่พี่เทปเล่านะ ยิ่งยั่วจนพี่โรสโมโหเนี่ย ผิดปกติเเล้วล่ะ" ธรณ์ธันย์เเย้ง เพราะรู้นิสัยพี่สาวคนรองเป็นอย่างดี เเล้วก็อดสงสัยต่อไม่ได้ ทำไมพี่ไทม์ต้องทำเเบบนั้นกับพี่โรสด้วย
   
สงสัยเหมือนที่พี่เคยสงสัยเลยน้องเทมส์เอ๋ย ธัญสินีหัวเราะ คันปากยิบๆ จนอดไม่ไหวต้องรีบเล่าต่อ

"ก็ใช่น่ะซี่ ตอนนี้ชีวิตของไทม์กำลังผิดปกติจากที่เคยเป็น เเล้วเหตุการณ์ไม่ได้จบเเค่คุณโรสโมโหนะ พอคุณโรสวีนเจ้าไทม์กลับไป พี่สาวเราน่ะ เเสบสุดขีด ตามคุณโรสเข้าไปในห้องเเต่งตัว ปะฉะดะกันต่อในนั้น พี่เเอบตามเข้าไป เพราะกลัวเจ้าไทม์จะไปทำอะไรคุณโรสเค้า เเล้วไทม์ก็ทำจริงๆ"
   
"ทำอะไรคะพี่เทป?" ธรณ์ธันย์ถามเสียงเเผ่ว จินตนาการในด้านลบสุดๆ โอ้! หวังว่าคงไม่ถึงกับทะเลาะตบตีกันนะ
   
ธัญสินีหัวเราะในลำคอเบาๆ ดวงตาสีอำพันมองน้องเล็กที่ทำหน้าลุ้นระทึกเต็มขั้น ฟังให้ดีๆ นะจ๊ะ
   
"จูบ!" 

OMG! ธรณ์ธันย์นั่งตัวเเข็ง ช็อกไปกับคำที่เพิ่งหลุดออกมาจากปากพี่สาวคนโต ดวงตาสีกาเเฟเบิกอ้าโต้ด้วยความตกตะลึง ก็ไหนบอกว่าพี่ไทม์กับพี่โรสเป็นคู่กัดกัน คู่กัดประเภทไหนเนี่ย มีจูบด้วย
 
    เจ้าของความลับหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นสีหน้าของน้องสาว เด็ดมั้ยล่ะ ข้อมูลที่พี่มี เเต่ก็ดีที่น้องเทมส์รู้อีกคน คราวนี้เเหละ เธอจะได้มีเเนวร่วมในการช่วยกันง้างปากของน้องคนรอง ไทม์ไม่รอดเเน่ ธัญสินีกระหยิ่มยิ้มย่องใจ
   
"ตกใจใช่มั้ยล่ะน้องเทมส์ วันนั้นพี่ก็แทบช็อก เพราะเห็นเต็มๆ ตา เเต่รู้ปะ พอพี่คาดคั้นถามไทม์ว่าไปจูบคุณโรสเค้าทำไม เจ้าไทม์ก็หนีเอาตัวรอดตามเคย ทุกวันนี้ยังหลบหน้าพี่อยู่เลย คงกลัวจะโดนพี่ถามอีกมั้ง"
   
ก็สมควรที่พี่ไทม์จะกลัวพี่เทปอยู่หรอก เล่นไปจูบพี่โรสให้พี่เทปเห็นเองนี่นา อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ ธรณ์ธันย์ส่ายหน้าไปมา เเล้วก็พลันนึกขึ้นมาได้ ตั้งเเต่วันที่ประชุมกับ N-Time Design วันนั้น พี่สาวคนรองเเทบจะไม่โผล่หน้ามาร่วมวงสนทนากับใครในบ้านเลย จะมาก็เเค่ร่วมโต๊ะอาหาร เเล้วก็หายเข้าห้องเก็บตัวเงียบ ไม่ยอมไปรับไปส่งเธอไปทำงานอีกด้วย หรือว่า...
   
"เทมส์ว่า พี่ไทม์หลบหน้าเทมส์ด้วยเเหละ คงกลัวจะโดนเทมส์ถามเหมือนกันมั้งคะ ว่าวันนั้นเเอบไปคุยอะไรกับพี่โรสสองคน เฮ้อ...พฤติกรรมมีพิรุธน่าสงสัยมากจริงๆ"
   
ธัญสินีส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจ เเย่เเล้วเจ้าไทม์ เเต่จะหลบหน้าทั้งพี่ทั้งน้อง มันก็ไม่เกิดประโยชน์อันใดหรอก เพราะสุดท้ายเเล้ว เดี๋ยวก็ต้องหาทางระบายความรู้สึกของตัวเองให้พี่ๆ น้องๆ ฟังอยู่ดี เเต่ก่อนที่จะถึงเวลานั้น เธอกับน้องเล็กคงจะต้องทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับไทม์ในตอนนี้เสียก่อน
   
"น้องเทมส์เอ๊ย อย่าหาว่าพี่งั้นงี้เลยนะ พี่ว่าคุณโรสเนี่ย คือผู้โชคดี"
   
ธรณ์ธันย์ทำตาปริบๆ ด้วยความงุนงง ตั้งเเต่นั่งคุยกับพี่เทปมาเนี่ย มีเเต่เรื่องเซอร์ไพรส์ เฮ้อ...ผู้โชคดีของพี่เทปหมายความว่าอย่างไร
   
"คุณโรสคือผู้โชคดี...ที่จะชวนไทม์ลงจากคานไง" ธัญสินีตอบด้วยความมั่นใจ อุตส่าห์รอคอยมาตั้งนาน ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีวันนี้ วันที่มีคนมาปราบไทม์จอมเเสบ เเต่เหตุการณ์ต่อจากนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับน้องสาวของเธอเเล้วล่ะ ว่าจะยอมเดินลงจากคานมาให้คุณโรสปราบเเต่โดยดี หรือจะทู่ซี้ทำตัวเป็นคู่กัดกันต่อไป
   
"ว้าว! ถ้าเป็นจริงอย่างที่พี่เทปว่านะ เทมส์จะดีใจมาก เทมส์เชียร์พี่โรสเต็มที่เลยเอ้า ไม่มีพี่เขย เเต่มีพี่สะใภ้เป็นพี่โรสเทมส์โอเค เเต่ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ที่พี่เทปเเซวว่าพี่ไทม์ชอบผู้หญิงจะเป็นเรื่องจริง นี่ถ้าพี่เทปไม่คอนเฟิร์มวันนี้ เทมส์คงไม่เชื่อ"
   
นอกจากคำพูดเเล้ว สีหน้าของน้องนุชสุดท้องยังบอกอีกว่าไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ธัญสินีหัวเราะอีก เทมส์เอ๊ย! ไม่มีใครอยากจะเชื่อเรื่องนี้หรอก หากไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง
   
อันที่จริงเทปก็ไม่เคยมั่นใจในความเชื่อนี้ จนกระทั่งน้องคนรองปริปากบอกเล่าเรื่องราวความรักในอดีตให้เธอรู้ อีกทั้งเธอเองก็เเอบสังเกตพฤติกรรมของน้องสาวอยู่บ่อยๆ ดังนั้นไม่เชื่อก็คงไม่ได้ เพราะความเป็นผู้หญิงที่มีใจรักในเพศเดียวกันของธีราทรนั้นชัดเจน จนไม่ต้องการคำอธิบายอีกเเล้ว จะขาดก็เเค่พยานมีชีวิตที่จะช่วยยืนยันว่าไทม์รักผู้หญิงก็เท่านั้น เพราะตั้งเเต่ที่เธอได้รู้เรื่องราวความรักในอดีตของน้องสาว เธอก็ยังไม่เคยเห็นไทม์คบใครเป็นตัวเป็นตนจนถึงทุกวันนี้ เเต่คิดว่าคงไม่ต้องรอนานหรอก ทิ้งระยะเวลาอีกสักพัก คงจะได้เห็นคนรักตัวเป็นๆ ของไทม์อย่างเเน่นอน เทปมั่นใจ
   
"ไทม์เคยมีเเฟนนะน้องเทมส์ เคยเอารูปให้พี่ดูด้วย ฝรั่งผมทอง สวยเชียว สมัยเรียนที่อเมริกาไง เเต่คบกันได้เเค่เเป๊บเดียวก็เลิก เห็นบอกว่ายังไม่ถูกใจ ไทม์ไม่ค่อยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังหรอก เเต่กับพี่ ปิดไม่ได้ เเรกๆ พี่ก็ไม่เชื่อนะ นึกว่าโดนไทม์อำเล่น เเต่พอเห็นเจ้าไทม์ชอบส่งตาหวานให้สาวๆ เเถมยังชอบคุยกับไอ้ไบรท์เรื่องหญิงอีก พี่เลยเชื่อ"
   
โอ้! เพิ่งจะรู้ก็วันนี้นี่เเหละ ธรณ์ธันย์ทำหน้าทึ่งกับข้อมูลใหม่ เพราะเหตุนี้นี่เอง พี่สาวคนรองถึงไม่เคยชายตามอง หรือเเม้เเต่จะคบกับผู้ชายคนไหน ที่เเท้พี่ไทม์ก็ชอบผู้หญิงนั่นเอง ฟังพี่เทปเปิดมุมใหม่ของพี่ไทม์ให้รู้ เเล้วก็นึกอยากจะรู้ต่อไปอีกว่าจะมีผู้หญิงสักกี่คนที่สามารถทำให้พี่ไทม์เปิดใจรักได้
   
"เเล้วหลังจากฝรั่งผมทอง พี่ไทม์มีเเฟนอีกมั้ยคะ"
   
"เท่าที่พี่รู้ไม่มีนะ สงสัยคงจะยังไม่เจอคนถูกใจล่ะมั้ง เรื่องมากเลือกเยอะก็งี้เเหละ เลยโสดมาจนป่านนี้ไง" ธัญสินีเเอบเหน็บน้องรองให้น้องเล็กฟัง ไอ้ความเรื่องมากเนี่ย ไม่มีใครเกินธีราทรหรอก
   
เก็ตเลยกับคำตอบพร้อมคำอธิบาย ธรณ์ธันย์ยิ้มกริ่ม ความคิดพลันกระหวัดกลับไปถึงพี่สาวคนรองเเละสาวรุ่นพี่อีกครั้ง สงสัยพี่สาวของเธอคงจะหลงเสน่ห์สาวรุ่นพี่คนสวยเข้าให้เเล้วกระมัง ก็สมควรอยู่หรอก พี่โรสออกจะสวยเริดเชิดเเรง ดีกรีความเเสบก็ไม่ได้น้อยหน้าพี่ไทม์เลย ดังนั้นจะให้เจอกับปุ๊บ รักกันง่ายๆ คงไม่ใช่ ต้องเร่ิมต้นด้วยการเป็นคู่กัดกันไปก่อน แต่จากคู่กัดจะเดินหน้าไปต่อทางไหน อันนี้ผู้ชมคงต้องเฝ้าติดตามตอนต่อไป
   
เเต่ในฐานะน้องของพี่สาวทั้งสอง เทมส์บอกได้คำเดียวว่าถูกใจมาก ต้องอย่างนี้สิ พี่ไทม์กับพี่โรสเเลดูจะเป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อกันที่สุด ซึ่งถ้าวันไหนจากคู่กัดกลายเป็นคู่รักจริงๆ คนรอบข้างคงได้เเต่ยินดีเเละปลาบปลื้มใจในความรักครั้งนี้ของทั้งคู่
   
"ว่าไปเเล้ว พี่ไทม์กับพี่โรสเค้าก็เหมาะกันอยู่นะคะ สาวมั่นเเรงกันทั้งคู่ เคมีเข้ากั๊นเข้ากัน"
   
"Agree" ธัญสินีตอบยิ้มๆ
   
เเต่ไทม์จะได้เข้าคู่ตุนาหงันฝันหวานกับคุณโรสหรือไม่นั้น ท้ายที่สุดเเล้วคำตอบของเรื่องนี้ คงจะต้องให้ไทม์กับคุณโรสไปตกลงกันเอาเอง ในฐานะพี่ เทปจะห่วงน้องก็เเค่เรื่องเดียวเท่านั้น ห่วงว่าไทม์จะเผลอปิ๊งคุณโรสฝ่ายเดียว เเละจากความเป็นห่วงที่เพิ่งเกิดขึ้น ทำให้เทปเหลียวไปมองน้องคนรองโดยอัตโนมัติ
   
นั่นปะไร อาการมันฟ้องชัดๆ คนปกติที่ไหนจะยืนเหม่อได้ขนาดนั้น ถ้าต้นไม้มันพูดได้ คงจะบอกว่าหยุดให้น้ำฉันสักทีเเล้วล่ะมั้ง เฮ้อ...น้องฉัน อาการหนักนะเนี่ย ธัญสินีส่ายหน้าไปมาน้อยๆ
   
อากัปกิริยาของพี่สาวคนโต พลอยทำให้ธรณ์ธันย์ต้องมองตามสายตาของพี่เทปไปด้วย ดวงตาสีกาเเฟเบิกอ้าโต เมื่อได้เห็นพี่สาวคนรอง เออ...รดน้ำต้นไม้ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นพี่ไทม์จะทำอะไรอย่างนี้ พี่ไทม์เปลี่ยนไป
   
"พี่เทป เทมส์ตามฝาดหรือเปล่า พี่ไทม์รดน้ำต้นไม้ เฮ้อ!"
   
น้ำเสียงเเปร่งๆ กับตาปริบๆ ของน้องสาว ทำให้ธัญสินีหัวเราะขำ คนนอกอาจจะไม่รู้ว่านี่คือการกระทำเเปลกๆ ของธีราทร เเต่คนในบ้านย่อมรู้ดี เพียงเเค่ชายมองปราดเดียว
   
"ไม่ฝาดหรอก พี่เห็นไทม์ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งเเต่ก่อนที่น้องเทมส์จะเข้ามาคุยกับพี่ซะอีก นี่เเหละ อาการของคนเริ่มมีความรัก เหม่อลอย ฟุ้งซ่าน ดูเอาเถอะ รดน้ำต้นไม้เเท้ๆ เเต่ใจลอยไปไหนก็ไม่รู้ คราวนี้เจ้าไทม์เอาตัวรอดยากเเหงๆ"
   
"ว้าย! นี่ถ้าเทมส์มองไม่ผิด ต้นไม้ที่พี่ไทม์กำลังให้น้ำ คือต้นกุหลาบเสียด้วย สงสัยจะเเพ้โรสของจริงเนอะ" ธรณ์ธันย์บอกพี่สาวกลั้วหัวเราะ เมื่อเบิกตามองชัดๆ เเล้วก็ได้เห็นกุหลาบสีเเดงชูช่อรอรับน้ำจากสายยาง
   
คนที่ยังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ ไม่ได้รู้ตัวเล้ยว่าได้ตกเป็นเป้าสายตา อีกทั้งยังโดนพี่สาวกับน้องสาวตัวเองเเอบเมาธ์ในระยะไกล ความคิดถึงที่ยังคงตามเล่นงานหัวใจ ทำให้ธีราทรตกอยู่ในภาวะสติเลื่อนลอย จะหยิบจะจับจะทำอะไร ความคิดความรู้สึกก็ยังมีภาพโรสติดตรึงไม่ห่างหายไปไหน ประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ในร้านกาเเฟนั่นอีก พลอยทำให้ยิ่งหวั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ
   
เฮ้อ...ยัยกุหลาบพิษ ทำไมต้องพ่นพิษรักจนหัวใจรุ่มเร้าคิดถึงเเต่นางเนี่ย เเม้ใจจะเเอบประชด ทว่าธีราทรกลับเอาเเต่ยิ้ม ราวกับยอมรับพิษรักจากยัยกุหลาบเเต่โดยดี
   
สองพี่น้องที่เฝ้ามองธีราทรอยู่ ได้เเต่เหลียวกลับมามองหน้ากัน เเล้วส่ายหน้าให้กับอาการนั้นของไทม์ทั้งคู่
   
"พี่คิดว่าไทม์คงไม่เคยเจอผู้หญิงอย่างคุณโรสน่ะ พอเจอเข้าเลยเเพ้ทางเเละคงจะเเพ้ใจด้วย เเต่ก็ไม่รู้นะ ว่าไอ้ที่ไทม์เป็นอยู่เนี่ย จะเผลอเคลิ้มไปฝ่ายเดียวหรือเปล่า เพราะก็ไม่รู้ว่าคุณโรสมีเเฟนหรือยัง เเละเค้าจะคิดอะไรกับฝ่ายเราบ้างมั้ย"
   
นั่นสิ พี่เทปพูดได้น่าคิด ธรณ์ธันย์คิ้วขมวดอีกเเล้ว พี่สาวคนรองมีพฤติกรรมการเเสดงออกที่ชัดเจนว่ากำลังตกอยู่ในสภาวะเเรกรัก เเล้วสาวรุ่นพี่ของเธอล่ะ มีอาการเเบบนั้นบ้างมั้ย เป็นคำถามที่เทมส์อยากจะโทรไปถามจากพี่โรสจริงๆ เเต่มันคงไม่สมควรหากจะถาม เเม้เธอจะสนิทกับพี่โรสมากก็ตามที ส่วนเรื่องที่ว่าสาวรุ่นพี่มีเเฟนหรือยัง เท่าที่เธอรู้คือพี่โรสยังโสดสนิท
   
ถ้างั้นพี่ไทม์ก็หลงรักพี่โรสฝ่ายเดียวอย่างนั้นหรือ เเต่เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน อาการเหม่อลอยเหมือนตกอยู่ในภวังค์ส่วนตัวเเบบนี้ พี่โรสก็เป็นนี่นา เทมส์พยายามย้อนความคิดกลับไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากประชุมงานวันนั้น ก็ยังไม่มีอะไรเป็นที่ผิดสังเกต เพราะพี่โรสก็ทำงานตามปกติ จนกระทั่ง...
   
เมื่อวานนี้! สาวรุ่นพี่เข้ามาออฟฟิศในช่วงบ่ายเพราะมีประชุมกับเเผนกของเธอ ก่อนจะเข้าไปในห้องพี่โรส ใครต่อใครต่างก็บอกว่าวันนี้คุณโรสอารมณ์ดี ซึ่งก็เป็นอย่างที่เขาพูดกัน เเต่ในขณะที่กำลังประชุมงานอยู่ พี่โรสกลับมีอาการเเปลกๆ ท่าทางเหม่อลอย อีกทั้งดวงตายังเหลือบมองดอกกุหลาบสีเเดงในเเจกันบนโต๊ะอยู่บ่อยครั้ง มันจะไม่มีอะไรผิดปกติเลย หากทุกครั้งที่พี่โรสมองดอกกุหลาบเเล้วไม่เผลอยิ้มออกมาด้วย ว้าว! อาการของพี่โรสคล้ายคลึงกับที่พี่ไทม์เป็นเลย เป็นสัญญาณที่น่าสนใจอยากจะหาความชัดเจนมากที่สุด ธรณ์ธันย์ยิ้มน้อยๆ
   
"พี่เทป เท่าที่เทมส์ทราบนะ พี่โรสยังโสด เเละเท่าที่รู้ยังไม่มีใครมาวอเเวกับพี่โรสมากมายเหมือนพี่ไทม์ เทมส์ว่าบางทีพี่โรสอาจจะกำลังรู้สึกอย่างเดียวกับพี่ไทม์ก็ได้ เพียงเเต่ตอนนี้ พี่โรสคงอยู่ในช่วงไม่รู้ตัวมั้ง เเละถ้าเราอยากรู้ คงต้องพิสูจน์"
   
"พิสูจน์ใคร คุณโรสเหรอ"
   
"พิสูจน์ทั้งคู่เลยค่ะ พี่ไทม์น่ะปากเเข็ง ขนาดพี่เทปเห็นจะๆ ว่าจูบพี่โรสยังเอาตัวรอดได้เลย เพราะฉะนั้นเราต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา เอาให้หนีไม่รอดเเก้ตัวไม่ได้ ส่วนพี่โรสเนี่ย เทมส์ว่าต้องมีอะไรกระตุ้น เเล้วเดี๋ยวพี่โรสก็จะเผยออกมาเองว่ารู้สึกยังไงกับพี่ไทม์ เเล้วในระหว่างนี้เทมส์จะเเอบสืบๆ ดูด้วย ว่าพี่โรสมีใครในใจหรือยัง" ธรณ์ธันย์ยิ้มอย่างหมายมาด ด้วยความที่สนิทสนมกับพี่ไทม์เเละพี่โรส เดี๋ยวน้องรักคนนี้จะทำการล้วงหัวใจของทั้งคู่เอง
   
"เเล้วเราจะพิสูจน์ยังไงล่ะ"
   
"ตอนนี้ยังคิดไม่ออก เดี๋ยวไว้เทมส์คิดออกเเล้วจะรีบบอกพี่เทปนะคะ"
   
ผู้เป็นพี่ได้เเต่พยักหน้ารับ เทปยังคงเป็นห่วงน้องคนรอง เเต่ในขณะเดียวกันก็นึกลุ้นให้น้องเล็กหาวิธีพิสูจน์โดยด่วน เพราะหากผลออกมาเป็นบวก สองคนนั้นรักกันจริงๆ คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อยเลยทีเดียว
   
คนเป็นน้องเเย้มยิ้มเต็มใบหน้า ขอเเอบสังเกตสังกาพฤติกรรมของทั้งพี่ไทม์เเละพี่โรสอีกสักวันสองวันก่อน เเล้วเดี๋ยวค่อยคิดหาวิธีการต่อว่าจะทำอย่างไร ถึงจะจับสองคนนี้ให้โคจรมาเจอกันได้ ซึ่งนอกจากจะเจอกันเเล้ว ทั้งคู่จะต้องอยู่ในสายตาของเธอหรือสถานที่ที่เธอมองเห็น เเละที่สำคัญคือเวลา ต้องให้สองคนนี้อยู่ด้วยกันให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เฮ้อ...มันต้องมีทางจนได้สิน่า เทมส์เบนสายตาไปมองพี่คนรอง หากพี่ไทม์มีใจให้พี่โรส น้องคนนี้จะช่วยพี่เอง

เวลาผ่านไปหลายวัน ในที่สุดธรณ์ธันย์ก็หาวิธีการพาพี่สาวคนรองกับสาวรุ่นพี่มาเจอกันอีกครั้งจนได้ เดี๋ยวได้รู้กัน ว่างานนี้จะได้ผลรัก เอ๊ย! ผลลัพธ์ในเเง่ดีสักเเค่ไหน
   
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ธรณ์ธันย์ยืนยิ้มหวานรออยู่หน้าประตูห้องนอนของพี่สาวคนโต เพียงครู่เดียวเจ้าของห้องก็เปิดประตูออกมา น้องเล็กเหลือบเเลไปทางห้องนอนของพี่คนรองเเวบนึง เพราะกลัวพี่ไทม์จะเปิดประตูออกมาเจอเธอยืนลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงนี้ เเต่เมื่อเห็นประตูห้องนอนของพี่ไทม์ยังนิ่งสนิท เทมส์ก็รีบผลุบหายเข้าห้องของพี่เทปไปทันที
   
ทำตัวเเปลกๆ อีกเเล้วน้องฉัน ธัญสินีทำตาปริบๆ น้องเทมส์ร่าเริงผิดปกติในเวลาก่อนนอนเนี่ยนะ น่าสงสัย
   
"พี่เทปคะ มะรืนนี้ว่างหรือเปล่า ไปเที่ยวหัวหินกัน" ธรณ์ธันย์ถามเสียงเล็กเสียงน้อย พลางเเย้มยิ้มด้วยความสบายใจ เพราะเมื่อกี้เธอเพิ่งวางสายจากสาวรุ่นพี่มาสดๆ ร้อนๆ เลย เมื่อตัวละครลับตัวเเรกเซย์เยสมาเเล้ว คงต้องรีบพาตัวละครลับอีกตัวเซย์เยสตามกันโดยด่วน เเละถ้าจะให้สมเหตุสมผลต้องมีผู้ช่วยเจรจา ซึ่งก็คือพี่สาวคนโตนั่นเอง
   
"อุ้ย! ลองวีคเอนด์นี่ หยุดติดกันตั้ง 3 วัน" ธัญสินีชักจะสนใจ ไปเที่ยวก็ดีเหมือนกัน เพราะตั้งเเต่น้องเทมส์กลับมาจากอังกฤษ เธอเเละน้องสาวยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย
   
"ใช่เเล้วค่ะ ไปวันศุกร์ ค้างสัก 2 คืน กลับบ่ายๆ วันอาทิตย์ เทมส์ชวนพี่โรสเเล้วด้วย พี่โรสโอเค เทมส์เลยมาชวนพี่เทป"
   
ถึงว่าสิ ทำไมน้องเทมส์ร่าเริงเกินเหตุ ที่เเท้คงจะเเอบวางเเผนเอาไว้เเล้วสินะ ธัญสินีหัวเราะเบาๆ นี่น่ะหรือ คือวิธีการที่น้องเทมส์จะพิสูจน์คุณโรสกับไทม์ เเละถ้าให้เธอเดาต่อ คงจะเป็น...
   
"มาชวนพี่เนี่ย จะให้พี่ไปชวนไทม์ต่อใช่มั้ย?"
   
ธรณ์ธันย์พยักหน้ารับอย่างว่องไว เเหม...ไม่ต้องพูดก็เข้าใจกันได้ดี สมเเล้วที่เป็นพี่น้องที่รักเเละสนิทกันมาก
   
ธัญสินีกลอกตาไปมา นึกถึงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ว่าตัวเองมีธุระหรือต้องไปไหนหรือเปล่า เเต่ต่อให้ติดธุระ การไปหัวหินครั้งนี้มันน่าสนใจกว่ากันเยอะเลย เพราะอย่างน้อยก็ได้เเท็กทีมกับน้องเทมส์จัดการพิสูจน์หัวใจไทม์ งั้นคำตอบคงไม่มีอย่างอื่นเเล้วล่ะ นอกจาก...
   
"โอเค งั้นพี่ว่าง เราไปชวนไทม์กันเลยดีกว่า เอ๊ะ! เเล้วถ้าหากไทม์ไม่ว่างล่ะ"
   
ถ้าพี่ไทม์ไม่ว่าง เราก็จัดการให้พี่ไทม์ว่างสิคะ ธรณ์ธันย์อยากจะตอบพี่สาวไปเเบบนั้น เเต่มันจะดูเตี๊ยมมากไปนิด อย่างพี่ไทม์ คงต้องเจอไม้นี้
   
"พี่เทปขา เราก็เเกล้งยั่วพี่ไทม์สิคะ บอกว่าพี่เทปไป เทมส์ไป ถ้าอยากจะเเกร่วอยู่บ้านคนเดียวก็ตามใจ รับรองพี่ไทม์ไม่มีทางปฏิเสธแน่"
   
น้องเทมส์เจ้าเล่ห์ไม่เเพ้ไทม์เลยทีเดียว ธัญสินีส่ายหน้าไปมาด้วยความหมั่นไส้เจ้าน้องเล็กที่ออกลายเเสบกลายเป็นจอมวางเเผนไปซะเเล้ว เเต่ในเมื่อลงเรือลำเดียวกันนี่ ยังไงก็คงต้องช่วยกันเต็มที่
   
"เเล้วจะให้พี่บอกมั้ย ว่าคุณโรสไปด้วย"
   
"No! ให้รู้วันเดินทางเลยดีกว่าค่ะ เพราะยังไงเราก็ต้องไปรับพี่โรสอยู่ดี อ้อ! มีข่าวดีอีกนิด พี่โรสยังโสด คอนเฟิร์มค่า"
   
เป็นข่าวดีจริงๆ งั้นคงต้องขึ้นอยู่กับน้องสาวตัวเเสบเเล้วล่ะ ว่าอยากให้คุณโรสเปลี่ยนสถานะใหม่เป็น...เป็นเเฟนไทม์มั้ย ธัญสินียินดีกับข่าวดีนี้ เเต่เเล้วก็เเอบวิตกนิดๆ ชักจะเริ่มกลัวว่าน้องคนรองจะไม่ยอมร่วมทริปนี้ด้วย ขืนไทม์ไม่ไป เเผนน้องเทมส์คงล้มครืนเเน่
   
"ตอนนี้เอาตามนี้ก่อนละกัน เเต่ถ้าพี่ชวนเเล้วไทม์ไม่ไป น้องเทมส์ต้องไปอ้อนเองนะ"
   
ธรณ์ธันย์พยักหน้ารับอย่างเเข็งขัน ถ้าพี่เทปจัดการไม่สำเร็จ เดี๋ยวเธอจะออกโรงเอง เพราะครั้งนี้หมายมั่นปั้นมือไว้เเล้วว่าจะต้องพาพี่ไทม์กับพี่โรสให้มาพบพานเเละสืบสานเรื่องรักกันให้จงได้
   
หากหลายวันที่ผ่านมา เธอไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนเเปลงของสาวรุ่นพี่ เทมส์อาจจะปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามโชคชะตา เเต่เมื่อได้เห็นพี่โรสร่าเริงเเละอารมณ์ดีตลอดเวลา เเล้วยังพกพาอาการยิ้มหวานตาลอยมาด้วย อีกทั้งยังเเอบถามไถ่ถึงพี่สาวคนรองของเธอตั้งหลายครั้ง ด้วยเหตุนี้เเหละ ทำให้เธอตัดสินใจได้ทันทีว่า ควรจะช่วยกระตุ้นให้สองสาวพี่โรสเเละพี่ไทม์ยกระดับความรู้สึกของตัวเองได้เเล้ว ถึงเวลาที่สาวโสดทั้งสองจะปลดล็อกสถานะเป็นมีเเฟนเเล้วจ้าสักที

++++++++++++++++++++

คณะผู้ร่วมทริปหัวหินครบพร้อมตามที่ธรณ์ธันย์วางเเผนเอาไว้เป๊ะ สาวรุ่นพี่เซย์เยสด้วยความเต็มใจ ส่วนพี่สาวคนรองของเธอนั้นตัดสินใจเข้าร่วมทริปโดยไม่ลังเล ต้องยกความดีความชอบนี้ให้กับพี่เทปไปเต็มๆ ไม่รู้ไปกล่อมอิท่าไหน พี่ไทม์ถึงได้ยอมไปด้วย เเละพี่ไทม์ก็ยังไม่มีทีท่าระเเคะระคายเเม้เเต่นิด ว่านอกจากพวกเธอสามพี่น้องเเล้ว ทริปนี้ยังมีเเขกรับเชิญพิเศษอีกหนึ่งคน
   
ดึงเวลาออกไปอีกหน่อย ให้พี่ไทม์ได้รู้ทีเดียวในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงข้างนี้เเหละ รับรองได้ว่าหากพี่คนรองได้เห็นเเขกคนพิเศษคงจะดีใจไม่น้อยเลยทีเดียว ธรณ์ธันย์ลอบยิ้มด้วยความภูมิใจที่เเผนของเธอกำลังเดินไปได้ด้วยดี เเต่เเล้ว...
   
"คุณนายเทมปุระยืนเหม่ออะไรน่ะ เอากระเป๋ามาเก็บได้เเล้ว จะได้รีบออก"
   
โหย! ขัดจังหวะจริงพี่ฉัน กำลังฝันหวานอยู่เเท้ๆ ธรณ์ธันย์หุบยิ้ม เดินไปยื่นกระเป๋าเสื้อผ้าส่งให้พี่สาวคนรองที่ยืนจัดข้าวจัดของอยู่ตรงท้ายรถ
   
"เเน่ะๆ มาค้อนพี่อีก" ธีราทรหัวเราะ ขำท่าทางกระฟัดกระเฟียดของน้องรัก เเล้วรับกระเป๋าเก็บเข้าไปในรถ
   
"จะรีบไปไหนไทม์ กลัวทะเลหายรึไง"
   
อุ้ย! นึกว่าขึ้นไปรอบนรถเเล้ว ธีราทรเหลียวขวับไปมองพี่สาวคนโตที่เพิ่งเดินเข้ามาหา โอ้โห! โดนน้องค้อนยังไม่พอ โดนพี่เเขวะอีกเเฮะ โชคดีนะเนี่ยฉัน ถ้าตาขวาเขม่นอีกอย่าง รับรองได้เลยว่าวันนี้ชีวิตคงพบกับความซวยเป็นเเน่เเท้ ไทม์หัวเราะเจื่อนๆ เเสร้งทำตัวให้ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการจัดกระเป๋าในที่เก็บของท้ายรถต่อ ไม่ไหวๆ ขืนต่อล้อต่อเถียง โดนพี่สาวกับน้องสาวเเท็กทีมถล่มไปตลอดการเดินทางเเน่
   
10 นาทีผ่านไป สามสาวเคนเน็ตขึ้นนั่งประจำตำเเหน่งตัวเอง ธีราทรทำหน้าที่ขับรถ โดยมีน้องเล็กนั่งเบาะข้างๆ ส่วนพี่สาวคนโตจับจองพื้นที่ที่เบาะหลัง เมื่อร่ำลาผู้ปกครองเเล้ว รถยนต์สีดำคันโตก็ค่อยๆ เเล่นออกจากบ้านไป

พอออกนอกถนนใหญ่ไปได้สักพัก ธรณ์ธันย์ก็เหลียวไปส่งซิกส์ให้พี่สาวคนโตเพื่อบอกให้พี่เทปเตรียมตัว เพราะอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้ เเขกรับเชิญคนพิเศษจะปรากฏตัวเเล้ว ธัญสินีพยักหน้ารับทราบยิ้มๆ พลางเหลือบตามองน้องสาวคนรองที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปเรื่อยๆ เดี๋ยวได้รู้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
   
"พี่ไทม์คะ เดี๋ยวสี่เเยกข้างหน้าเลี้ยวซ้ายนะคะ ขอเเวะไปรับเพื่อนเทมส์ก่อน"
   
"อ้าว! น้องเทมส์ชวนเพื่อนไปด้วยเหรอ" ธีราทรเหลียวขวับไปมองน้องสาวด้วยสีหน้างุนงง
   
ธรณ์ธันย์ระบายยิ้มน้อยๆ เพราะพอรู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้างในวันนี้ เเต่ในเมื่อเป็นเจ้าของเเผนการ มีหรือจะไม่เตรียมการทุกอย่างเอาไว้เเล้ว
   
"ค่ะ จะได้เเบ่งห้องนอนกันลงตัวไง"
   
ธีราทรทำตาปริบๆ ยังคงงุนงงอยู่ เเม้คำตอบของน้องสาวจะสมเหตุสมผล เเต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ทำไมเธอถึงไม่รู้มาก่อนเนี่ย ว่ามีคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวไปด้วย นึกว่าจะได้มาพักผ่อนเป็นการส่วนตัวกับพี่ๆ น้องๆ เสียอีก เเต่นี่มีคนนอกไปด้วย ไทม์เซ็งจนใบหน้าเเสดงอารมณ์อย่างชัดเจน
   
"อุ๊ย! นี่พี่ลืมบอกไทม์เหรอ ว่าน้องเทมส์ชวนเพื่อนไปด้วยคนหนึ่ง" ธัญสินีเเกล้งตีหน้าซื่อถามออกมาบ้าง
   
"โยคินีคะ ถ้าบอกเเล้วน้องจะถามน้องเทมส์ทำไมคะ" ธีราทรประชดประชันด้วยน้ำเสียงวีนๆ พลางส่งสายตาเขียวปั๊ดให้พี่สาวผ่านกระจกมองหลัง หึย! พี่เทปก็รู้ดี ว่าเธอไม่ค่อยชอบสุงสิงกับคนไม่รู้จัก เเล้วทำไมไม่บอกก่อนเนี่ย จะได้ถามรายละเอียดให้รู้เรื่องก่อนที่จะตัดสินใจมาเที่ยวด้วย นี่เพื่อนน้องเทมส์คนไหนก็ไม่รู้ อารมณ์เสีย
   
"เอาน่าไทม์ พี่ขอโทษ พี่ลืม" ธัญสินีปลอบน้องเสียงอ่อยๆ เมื่อโดนเจ้าน้องตัวเเสบเหวี่ยงใส่ เเต่เดี๋ยวเถอะ รู้ว่าเพื่อนน้องเทมส์เป็นใคร ขี้คร้านเจ้าไทม์จะเหวี่ยงไม่ออก
   
"อย่าไปว่าพี่เทปเลยค่ะ พี่ไทม์กลัวไม่สนุกเหรอ ไม่ต้องกลัวนะคะ เพื่อนเทมส์คนนี้น่ารักมาก เดี๋ยวพี่ไทม์ได้เจอก็รู้เอง"
   
ช่วยเหลือกันดีเหลือเกินพี่น้องฉัน ธีราทรถอนหายใจฟึดฟัดพลางส่ายหน้าไปมาเเรงๆ เพื่อสะกดอารมณ์ไม่พอใจของตัวเอง เอาเถอะ ในเมื่อหลวมตัวมาเเล้วนี่ จะทำยังไงได้ ก็ต้องตกกระไดพลอยโจนไปเที่ยวด้วยต่อไป

ธรณ์ธันย์เเละธัญสินีเเทบจะเป่าปากกันเลยทีเดียว นึกว่าจะเจอจอมเเสบขาเหวี่ยงทิ้งรถเเล้วปล่อยให้ไปหัวหินกันเองเสียเเล้ว ดีนิดที่ไทม์อ่อนลงบ้าง ไม่งั้นคงไม่ใช่เเค่ผิดเเผน พวกเธอคงจะผิดหวังมากที่ไม่อาจจะพาไทม์กับโรสมาเจอหน้ากันอีกครั้ง สองพี่น้องเเอบเหลียวไปสบตากันด้วยความโล่งใจ
   
เมื่อทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไป เเม้จะมีเหตุไม่สบอารมณ์ของพี่สาวคนรอง เเต่คนต้นคิดทริปนี้ก็พยายามทำใจดีสู้เสือสยบความหวั่นใจของตัวเอง เอาล่ะ อีกไม่ไกล จะถึงคอนโดของสาวรุ่นพี่เเล้ว ยังไงก็ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามเเผนเหมือนเดิม
   
"พี่ไทม์ เเยกข้างหน้าเลี้ยวขวานะคะ ตรงไปเรื่อยๆ ไปเลี้ยวเข้าซอย 14 ประมาณกลางๆ ซอยจะเจอคอนโดเพื่อนเทมส์"
   
"เจ้าค่ะคุณนาย" ธีราทรประชดนิดๆ เเต่ก็ยอมขับรถไปตามเส้นทางที่น้องสาวบอก
   
เอ๊ะ! ถนนเส้นนี้นอกจากจะเป็นที่ตั้งคอนโดของเพื่อนน้องเทมส์เเล้ว ออฟฟิศของเธอ รวมทั้งฟิตเนสของพี่สาวก็ตั้งอยู่บนถนนนี้ด้วย เฮ้อ...น้องเทมส์นี่เเปลกๆ ขยักขย่อนบอกทีละเเยกทีละเลี้ยว บอกที่ตั้งมาตั้งเเต่ทีเเรกก็จบเเล้ว ธีราทรเหลือบตามองน้องสาวที่อมยิ้มเหมือนคนอารมณ์ดีขนาดหนักด้วยความหมั่นไส้

รถยนต์คันโตเลี้ยวเข้าไปในซอย ธีราทรชะลอรถให้ช้าลง เพื่อมองหาคอนโดมิเนียมตรงกลางซอยตามที่น้องสาวบอก มองเห็นตึกสูงอยู่ด้านซ้ายมือข้างหน้า พื้นที่ถัดไปก็ไม่มีตึก มองไปด้านขวาก็ไม่มีตึกที่ดูจะเป็นคอนโดมิเนียม งั้นคงเป็นตึกนี้เเล้วล่ะ
   
"เลี้ยวซ้ายเข้าไปข้างในเลยค่ะ"
   
ใช่จริงๆ ด้วย เดาเเม่นเชียวฉัน ธีราทรกระตุกยิ้มมุมปาก เเต่ยังไม่ทันจะได้เลี้ยวรถเข้าไปด้านใน ไทม์ก็ไปสะดุดตาเข้าให้กับชื่อคอนโดมิเนียมที่ติดอยู่ตรงป้ายด้านหน้าทางเข้า โอ้! Real Rose ดวงตาสีสนิทกะพริบลุกวาวราวกับถูกตรึง คำว่าโรสยังคงมีอิทธิพลกับเธอเสมอจนถึงตอนนี้ เฮ้อ...เห็นเเล้วก็คิดถึงเจ้าของชื่อนี้จัง
   
"ชื่อคอนโดคุ้นๆ เนอะ"
   
เสียงที่ดังขึ้นมาทำให้ธีราทรสะดุ้งนิดๆ รู้ตัวว่าโดนพี่สาวเเซวเข้าให้เเล้ว ไทม์เลยจำต้องรีบเลี้ยวรถเข้าไปด้านในคอนโดมิเนียม กลบเกลื่อนภวังค์คิดถึงที่เพิ่งลากเธอเข้าไปอยู่ในนั้นในเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา ปฏิกิริยาภายนอกดูเฉยเมย เเต่ภายในกลับปั่นป่วนขนาดหนัก โดยเฉพาะหัวใจ เพียงเเค่ได้เห็นคำว่าโรสเท่านั้น เหมือนหัวใจโดนสะกิดให้ปลดปล่อยความรู้สึกคิดถึงให้ลอยพุ่งเต็มความคิดไปหมด อ๊าย! คิดถึงยัยโรสจัง ลองวีคเอนด์นี้ไปเที่ยวไหนเนี่ย
   
รถยนต์คันโตเคลื่อนเข้าจอดเทียบด้านหน้าประตูทางเข้าตึก เมื่อความคิดถึงทำงาน ภาวะเหม่อลอยก็กลับมาสู่ธีราทรอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้ตัวเเม้เเต่นิด ว่าคนที่เธอกำลังคิดถึง ตอนนี้กำลังอยู่ในสายสนทนากับน้องสาวของเธอ

"เทมส์มาถึงเเล้วนะคะ จอดรถอยู่ด้านหน้าตึกเลย เดี๋ยวเจอกันค่ะ" ธรณ์ธันย์คุยโทรศัพท์เพียงครู่ เเล้วเหลียวไปสะกิดพี่สาวคนรอง
   
"พี่ไทม์ ไปเปิดท้ายรถให้หน่อยสิคะ เพื่อนเทมส์จะได้เอากระเป๋าเก็บ"
   
อุ้ย! ตกใจ ธีราทรสะดุ้งเฮือก หลุดออกจากภวังค์อีกครั้ง เฮ้อ...มัวเเต่คิดถึงยัยโรส ลืมไปเลยว่ามารับเพื่อนน้องเทมส์ ไทม์จำต้องยอมลงจากรถทำตามคำสั่งของน้องสาวเเต่โดยดี 
   
"พี่เทป เคาท์ดาวน์รอเลย ทันทีที่พี่โรสลงมา เราคงได้เห็นอะไรดีๆ อีกเยอะ" ธรณ์ธันย์ว่าพลางขยิบตาให้พี่สาวคนโต เเล้วรีบตามลงจากรถไปรอรับสาวรุ่นพี่
   
ธัญสินีถอนหายใจ ดวงตาสีอำพันมองตามน้องสาวคนเล็กที่เพิ่งเปิดประตูก้าวลงจากรถไป ก็หวังว่าจะเป็นเหมือนอย่างที่น้องเทมส์พูดนะ กลัวเหลือเกินว่าถ้าจับมาอยู่ด้วยกัน คู่กรณีไทม์กับโรสจะทะเลาะตบตีกันไปตลอดทาง ขอให้ลงเอยด้วยดีด้วยเถิด พี่คนโตนั่งนิ่งๆ รอดูสถานการณ์อยู่ในรถด้วยความรู้สึกลุ้นระทึกขนาดหนัก
   
เพียงเเค่ 5 นาที คนที่เฝ้ารอก็เดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากตึก ธรณ์ธันย์ยิ้มกว้าง เดินเข้าไปหาสาวรุ่นพี่ เเละรับอาสาเป็นคนลากกระเป๋าเดินทางเสียเอง
   
ราณีพยายามจะปฏิเสธด้วยความเกรงใจ เเต่สาวรุ่นน้องก็ไม่ฟัง กลับลากกระเป๋าเดินนำเธอไปยังท้ายรถ โรสมองผ่านกระจกเข้าไปด้านในรถ เห็นคุณครูสอนโยคะของเธอนั่งอยู่ตรงเบาะหลัง ก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ เทมส์มา คุณเทปมา เเล้วอีกคนล่ะ มาด้วยมั้ย" หัวใจของโรสเต้นระทึกตึกตักเพราะอยากจะรู้เป็นที่สุด ว่าคนที่อยู่ในความคิดถึงของเธอมาหลายต่อหลายวันจะร่วมเดินทางไปเที่ยวทริปนี้ด้วยหรือเปล่า
   
เเต่เอ๊ะ! นั่นใครยืนอยู่ท้ายรถ เห็นเพียงเเค่ขายาวๆ เพราะส่วนบนหายเข้าไปอยู่ในรถ จะใช่หรือไม่ใช่หนอ"
   
ฝ่ายคนที่ยืนจัดของอยู่ท้ายรถ ก็ไม่ได้รู้อิโหน่อิเหน่เลย ว่าบัดนี้น้องสาวเเละคนที่น้องสาวบอกว่าเป็นเพื่อนมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ เเล้ว จนกระทั่ง...
   
"พี่ไทม์จ๋า กระเป๋าค่ะ"
   
ใช่จริงๆ ด้วย ราณียืนอึ้งเเทบลืมหายใจ รุ่นน้องของเธอเอ่ยชื่ออย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ ไม่มีทางไม่ใช่...ยัยไทม์ อ๊าย! ไปด้วยงั้นหรือ?"
   
เพื่อนน้องเทมส์มาเเล้ว อยากจะรู้เหมือนกันว่าเป็นใคร ธีราทรเลื่อนตัวออกมาในระดับปกติ ทันทีที่ได้เห็นคนที่น้องสาวบอกว่าเป็นเพื่อน ดวงตาของไทม์เบิกอ้าโตด้วยความตะลึงงัน โอ้! ยัยโรสหรือนี่ งั้นก็หมายความว่าทริปนี้นอกจากพวกเธอสามพี่น้องเเล้ว มียัยโรสไปด้วยอีกคน กรี๊ด!!!
   
สองคนได้เเต่ยืนมองหน้ากันเเละกันด้วยความรู้สึกที่คาดไม่ถึง ตาจ้องตาไม่กะพริบ ความคิดถึงที่ลอยวนเวียนเเต่ในหัวใจมาหลายต่อหลายวันพลันล้นทะลักก่อตัวเป็นพลังที่เขย่าหัวใจให้เต็นเเรงมากผิดปกติ ความยินดีที่ได้พบหน้ากันอีกครั้งพารอยยิ้มให้วิ่งขึ้นมาประดับใบหน้าคนทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว นี่คือความจริงหรือความฝันกันเเน่ คนที่เฝ้าคิดถึงตัวเป็นๆ มายืนส่งยิ้มให้กันอยู่ตรงหน้า มิหนำซ้ำยังจะต้องไปเที่ยวด้วยกัน 3 วันกับอีก 2 คืน อา...หัวหินเเละใครบางคนที่หัวใจรู้สึก เพียงเเค่คิดต่อก็รู้สึกได้ถึงความพิเศษของการไปเที่ยวหัวหินในครั้งนี้เเล้ว
   
สำเร็จ! ธรณ์ธันย์ยิ้มกริ่มอยากจะกระโดดจนตัวลอยด้วยความดีใจ เมื่อได้เห็นอาการของพี่สาวทั้งสอง เเหม...เจอหน้ากันยังอึ้ง เดี๋ยวไปถึงหัวหินก่อน จะทำให้อึ้งหนักกว่ายิ่งนี้อีก เเค่นี้ยังจิ๊บๆ เเต่ตอนนี้ถ้าขืนยังปล่อยให้สองคนมัวเเต่อึ้ง คงจะไปไม่ถึงหัวหินกันพอดี
   
"พี่ไทม์ รับกระเป๋าสิคะ"
   
เสียงดังๆ ของน้องสาว ทำให้ธีราทรสะดุ้งเฮือก ไทม์เอื้อมมือสั่นๆ ไปรับกระเป๋าเดินทางมาเก็บเข้าไปในรถด้วยท่าทางเงอะงะเต็มที เพราะหัวสมองยังมึนๆ เบลอๆ กับการปรากฏตัวของยัยโรสอยู่ไม่น้อย เเต่อาการของหัวใจน่ะหรือ ไม่รู้จะใช้คำไหนดี ระหว่างดีใจสุดๆ กับยินดีมากๆ อ๊าย! มันก็ความหมายเดียวกันน่ะเเหละ อาการไม่พอใจก่อนหน้านี้ ลืมไปได้เลย เพราะตอนนี้ไทม์พอใจมากถึงมากที่สุดเลยทีเดียว
   
"ไปค่ะพี่โรส เราไปขึ้นรถกันดีกว่า ปล่อยให้พี่ไทม์เก็บของไปเถอะ อยากช้าดีนัก" ธรณ์ธันย์ว่าต่อ พลางจูงมือสาวรุ่นพี่ให้เดินตามกันไปด้านหน้ารถ ปล่อยให้พี่ไทม์สงบสติอารมณ์สักเเป๊บหนึ่งก่อน ท่าทางจะตื่นเต้นขนาดหนัก มือไม้งี้สั่นเชียว ช็อตนี้ต้องได้รับการขยายให้พี่เทปฟัง
   
ราณีเดินตามไปอย่างว่าง่าย รู้สึกทำตัวไม่ค่อยถูกเอาเสียเลย เทมส์นะเทมส์ ไม่บอกพี่ก่อนเลย ว่าพี่สาวคนรองไปด้วย เพราะเพียงเเค่รู้ว่ายัยไทม์ไปด้วย เล่นเอาหัวใจเธอเสียศูนย์ไปพอสมควร มีทั้งอารมณ์ยินดีที่ได้เจอ ดีใจที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน เเต่อีกหนึ่งความรู้สึก โรสก็อดที่จะเกร็งไม่ได้ ยิ่งอยู่ในวงล้อมสามคนพี่น้อง โดยที่เธอเป็นคนนอกเพียงคนเดียวอีก เฮ้อ...คิดถูกหรือคิดผิดเนี่ย ที่ตัดสินใจไปเที่ยวกับครอบครัวนี้
   
"เชิญค่ะพี่โรส" ธรณ์ธันย์เปิดประตูหน้าฝั่งข้างคนขับออก ก่อนจะเขยิบร่างตัวเองออกมาเพื่อเปิดทางให้สาวรุ่นพี่
   
"เออ...เทมส์ให้พี่นั่งหน้าเหรอ" ราณีถามเสียงเกรงใจ นั่งตรงนี้มีหวังได้ตัวเกร็งไปตลอดทางเเน่ เพราะเท่าที่ประเมินจากสายตา คาดว่าคนขับคงเป็นยัยไทม์อย่างเเน่นอน อ๊าย! เเค่เจอก็ใจสั่นเเล้ว ขืนนั่งข้างๆ อาจมีไปพบเเพทย์ทางด้านหัวใจได้นะ
   
"ค่ะ พี่โรสจะได้นั่งสบายๆ ไงคะ" ธรณ์ธันย์ยิ้มหวาน เหตุผลนี้เทมส์เตรียมไว้เเล้ว
   
เเขกรับเชิญร่วมทริปถึงกับทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว เธอจะนั่งสบายก็ต่อเมื่อคนขับไม่ใช่คนที่มีผลต่อหัวใจ ราณีจะปฏิเสธก็ไม่กล้า จะตกลงก็กลัว เเต่ไอ้ที่กลัวเนี่ย เธอกลัวหัวใจตัวเอง กลัวมันจะยิ่งปั่นป่วนมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้
   
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะคุณโรส นั่งข้างหน้าเถอะค่ะ" ธัญสินีโผล่หน้าข้ามเบาะมาช่วยน้องสาวอีกเเรง
   
เออ...มาถึงสองเสียง จะปฏิเสธก็คงจะดูเป็นคนเรื่องมากไปสักนิด ราณีคลี่ยิ้มบางๆ ทักทายคุณครูโยคะของเธอ
   
"สวัสดีค่ะคุณเทป ขอไปเที่ยวด้วยคนนะคะ"
   
"ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวเคนเน็ตค่ะ"
   
อุ้ย! เกี่ยวกันมั้ย รอยยิ้มของราณีเจื่อนไปเลย เมื่อเจอคำพูดนี้จากคุณครูโยคะของเธอ เหมือนมีความนัยอะไรเเอบเเฝง เเต่ธัญสินีก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ กลับเลือกที่จะเขยิบตัวไปนั่งด้านหลังเบาะคนขับเพื่อเปิดที่ว่างให้น้องสาวตัวเอง โรสเลยต้องปล่อยเลยตามเลย ก้าวขึ้นรถไปนั่งเบาะด้านหน้า คว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดทับ เเละพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด
   
เฮ้อ...ตัวนิ่ง เเต่ใจกลับสั่นระรัว จะรอดไปถึงหัวหินมั้ยโรสเอ๋ย
   
ธรณ์ธันย์หัวเราะคิกคัก เปิดประตูตามขึ้นไปนั่งบนรถบ้าง เทมส์นึกชอบอกชอบใจกับคำพูดของพี่สาวคนโตเหลือเกิน พี่เทปเนี่ย เห็นเงียบๆ เเต่เวลาได้ออกโรงช่วยเเล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวเคนเน็ต ว้าว! เชิญชวนโดยการเปิดทางให้พี่โรสขนาดนี้ ชนะเลิศ!
   
ทุกคนประจำตำเเหน่งบนรถกันเรียบร้อยเเล้ว ขาดก็เเต่พลขับ ที่ไม่รู้ว่าตั้งสติหรือทำอะไรอยู่ท้ายรถตั้งนานสองนาน กว่าจะกลับมาประจำที่ตัวเอง ก็กินเวลาไปเกือบ 10 นาทีได้
   
พลัน! เมื่อประตูรถเปิดออก ธีราทรก็เเทบช็อกอีกครั้ง เมื่อคนที่นั่งข้างๆ ไม่ใช่คนเดิม อ๊าย! ตุ๊กตาหน้ารถเปลี่ยนไป น้องเทมส์ไปไหน ทำไมกลายเป็นยัยโรสได้ล่ะ หัวใจของไทม์เต้นโครมครามขึ้นมาอีกรอบ เเม้เบาะข้างๆ จะไม่ได้ใกล้จนชิด เเต่ระยะห่างเเค่นี้มันก็เป็นอันตรายต่อหัวใจของเธอเเล้วล่ะ ไทม์หวั่นไหว ฮือ!!
   
ตะลึงเป็นคนเดียวหรือไงยะ ราณีที่พยายามทำตัวนิ่งเเอบปรายตามองคนที่ยังอยู่ด้านนอกรถ เฮ้อ...ทำไมนะ ตอนที่ไม่เจอกัน คิดถึงอยู่ตลอดเวลา เเต่พอได้เจอหน้าได้อยู่ใกล้ เธอกลับอยากจะหลบหน้าไปให้ไกล อ๊าย! ไหวมั้ยโรส เปลี่ยนใจไม่หัวหินตอนนี้ทันมั้ย
   
อาการยืนนิ่งตาค้างของพี่สาวคนรองทำให้น้องเล็กสะกิดพี่คนโตให้รีบสังเกต ธัญสินีมองเเล้วส่ายหน้าไปมาน้อยๆ นี่น้องสาวของเธอกำลังตกประหม่า ตื่นเต้น หรืออะไรกัน ทีก่อนออกจากบ้านล่ะเร่งยิกๆ เเล้วดูตอนนี้ซิ เชื่องช้าปานชราภาพไปเเล้ว
   
"ไทม์ เป็นอะไรน่ะ ขึ้นรถสิ ขับไหวหรือเปล่าเนี่ย ให้พี่ไปขับเเทนมั้ย" 
   
อุ๊ย! ธีราทรสะดุ้ง เฮ้อ...ตั้งเเต่เจอหน้ายัยโรส เธอกลายเป็นคนขวัญอ่อนไปเสียนี่ ใครพูดอะไรที สะดุ้งได้ตลอดๆ สิน่า เอาใหม่ๆ ยังต้องขับรถไปอีกตั้งไกล จะมัวมาพะวงหวั่นไหวให้ตุ๊กตาหน้ารถคนใหม่ที่เเสนจะถูกใจคนนี้ก็ใช่เรื่อง มีหวังไปไม่ถึงหัวหินกันพอดี ไทม์ค่อยๆ ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อตั้งสติ เหลือบตามองคนข้างๆ อีกครั้ง
   
เออ! สะดุ้งอีกรอบ เมื่อดวงตาสีสนิมพลันพานพบกับดวงตาสีน้ำตาลเข้มในระยะพอเหมาะพอเจาะ จะจ้องกันทำไมจ๊ะ เเค่นี้ก็หายใจไม่ทั่วท้องเเล้ว ธีราทรเเอบครวญ เเต่เเล้วก็เกือบจะลืมหายใจ เมื่อใบหน้างามของตุ๊กตาหน้ารถผลิรอยยิ้มน้อยๆ คล้ายกลับว่าตั้งใจส่งมาให้เธอ ว้าย! ยอมเเล้ว
   
ข้อดีของการที่ยัยโรสนั่งใกล้ๆ ก็มีเหมือนกันเเฮะ เพราะอย่างน้อยเหลือบตามองไปข้างๆ ก็อาจจะได้พบกับยิ้มหวานไปตลอดทาง ไทม์กระตุกยิ้มนิดๆ ค่อยๆ เหยียบคันเร่งเคลื่อนรถออกไป

++++++++++++++++++++

การเดินทางไปหัวหินผ่านไปเเล้วครึ่งทาง รถยนต์คันโตจอดเเวะให้ผู้โดยสารได้พักยืดเเข้งยืดขาเเละพักเข้าห้องน้ำชั่วครู่ ธัญสินีเเละราณีหายเข้าไปด้วยกันในมินิมาร์ท ปล่อยให้ธีราทรเฝ้ารถ ส่วนน้องเล็กเเวบหายเข้าไปในร้านกาเเฟ สักครู่ธรณ์ธันย์ก็เดินถือเเก้วกาเเฟกลับมาที่รถ
   
"น้องเทมส์ คุยกันหน่อยซิ"
   
เมื่อสบโอกาสได้อยู่กับน้องสาวตามลำพัง ธีราทรจึงรีบฉวยจังหวะนี้ ซักถามเรื่องราวที่ยังค้างคาหัวใจ ตั้งเเต่เธอขับรถออกจากกรุงเทพ มีคำถามเยอะเเยะเต็มไปหมด เเต่ที่สำคัญที่สุด ไทม์อยากรู้ใจจะขาด ตกลงเเล้วความสัมพันธ์ของน้องสาวเเละยัยโรสนั้นเป็นอย่างไรกันเเน่ นึกว่าเป็นเเค่เจ้านายลูกน้อง เเต่เท่าที่ได้ยินยัยโรสพูดคุยกับน้องเทมส์ เหมือนสองคนนี้สนิทกันมากกว่านั้น เเล้วอีกเหตุผลที่ชวนเเปลกใจคือ ลูกน้องที่ไหนจะชวนเจ้านายมาเที่ยวกับครอบครัวตัวเอง??"
   
"พี่ถามหน่อยเถอะ นึกยังไงถึงได้ชวนยัยโรสมาด้วย นี่สนิทสนมกันเเค่ไหนเนี่ย"
   
เเหม...พี่สาวฉัน ความรู้สึกช้าจริงๆ เพิ่งจะสงสัยเหรอ ธรณ์ธันย์ยิ้มเเก้มป่อง ดวงตาสีกาเเฟวิบวับเเวววาว ยิ่งเห็นสีหน้าอยากรู้สุดๆ ของพี่สาวเเล้วก็นึกอยากจะเล่นตัวเหลือเกิน เเต่ถ้าไม่บอก มีหวังพี่ไทม์ไม่อกเเตกตาย ก็จะมาเเหกอกเธอเอาได้
   
"สนิทมากเลยล่ะค่ะ พี่โรสเป็นรุ่นพี่เทมส์ที่อังกฤษ คอยช่วยเหลือตั้งเเต่เทมส์ไปอยู่ที่โน่นใหม่ๆ เป็นรุ่นพี่คนไทยที่น่ารักมาก ดูเเลเทมส์เป็นอย่างดีด้วย พอดีพี่โรสไม่มีเเพลนไปไหนช่วงวันหยุด เทมส์เลยช่วยมาเที่ยวกับเรา"
   
คุณพระ! ไทม์อยากกรี๊ด สนิทสนมกันถึงขนาดนี้เลยเชียวหรือ ทำไมเธอไม่รู้มาก่อนเนี่ย ถึงว่าสิ ทำไมวันนั้นยัยโรสกล้าโชว์เหนือใส่เธอ ด้วยการบอกว่าสนิทกับน้องเทมส์มากกว่าที่เธอรู้ ที่เเท้ก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันนี่เอง อุ๊ย! พอนึกถึงเหตุการณ์ในห้องทำงาน ภาพที่ยัยโรสเลื่อนหน้าข้ามหัวไหล่มากระซิบเบาๆ ว่า...สนิทประมาณนี้มั้ง ก็ผุดวาบขึ้นมาให้ธีราทรคิ้วกระตุก ถึงเเม้ว่าวันนั้นเธอจะข่มยัยโรสกลับด้วยการบอกว่ารู้จักน้องสาวตัวเองดี เเต่ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยมั่นใจเเล้วเเฮะ ไทม์นึกอยากได้ยินความชัดเจนจากปากน้องสาวของตัวเองขึ้นมาตะหงิดๆ จนเก็บความอยากรู้ไม่ไหว
   
"ว่าเเต่...กับยัยโรสเนี่ย เป็นเเค่...รุ่นพี่รุ่นน้องกันเท่านั้น...ใช่มั้ย"

"ใช่สิคะ พี่ไทม์จะให้เทมส์เป็นอะไรกับพี่โรสล่ะ เเฟนรึไง" ธรณ์ธันย์ประชดเสียงเล็กเสียงน้อยด้วยความหมั่นไส้ มีอย่างที่ไหน ก็เพิ่งบอกไปหยกๆ ว่าพี่โรสเป็นรุ่นพี่
   
อ๊ะ! หรือที่ถามเนี่ย จุดประสงค์จริงๆ ของพี่ไทม์คืออยากจะรู้อย่างอื่น โอเค เดี๋ยวน้องรักจะจัดให้นะคุณพี่สาว เทมส์หรี่ตานิดๆ ก่อนจะบอกเสียงดังฟังชัดว่า
   
"ไม่ต้องห่วงๆ พี่โรสยังโสด จีบได้"
   
"เฮ่ย! จะมาบอกพี่ทำไม"
   
ธีราทรสะดุ้งตาเหลือก หน้าซีดเผือด หัวใจเต้นรัว อา...เเค่ได้รู้ว่าน้องสาวกับยัยโรสเป็นเเค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันจริงๆ ก็ว่าน่าโล่งใจเเล้ว เเต่พอได้ยินว่ายัยโรสยังโสด หัวใจสาวโสดอย่างไทม์ก็เริ่มมีปฏิกิริยาเเปลกๆ หวั่นไหวน่ะเป็นมาได้สักพักเเล้ว เเต่ไอ้อาการหัวใจพองโตจนเเน่นอกเนี่ย อะไรยังไง อยากจีบเค้าหรือไง ว้าย! เขินจนเเก้มเปลี่ยนสี จนไทม์เบือนหน้าหนี ไม่กล้าสบตาน้องสาว
   
โอ๊ะโอ! ชัดยิ่งกว่าชัด คาดว่าคำว่าโสดคงมีผลกระทบกับหัวใจของพี่ไทม์โดยตรง ธรณ์ธันย์ยิ้มเเก้มเเทบปริด้วยความดีใจ
   
"เทมส์บอกเฉยๆ เผื่อพี่ไทม์อยากรู้" เทมส์เเอบเเหย่พี่สาวอีก หมั่นไส้จริงกับอาการเขินหน้าเเดงเเกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้เนี่ย
   
"ไม่...ไม่เห็นจะอยากรู้เลย" ธีราทรละล่ำละลักเเย้งกลับ พยายามจะบังคับให้เสียงไม่สั่น เเต่โอ๊ย! สะเทือนไปทั้งใจ สั่นไปทั้งเสียง ร้อนผ่าวไปทั้งเเก้ม น้องเทมส์เเกล้งพี่ทำไม หึย!
   
"เหรอ" ธรณ์ธันย์ลากเสียงยาว จงใจประชดพี่สาวจอมปากเเข็งอีกรอบ ทำเฉไฉกลบเกลื่อนความรู้สึกเข้าไปเถอะ เดี๋ยวพี่โรสไม่โสด เเล้วมาขอซุกอกกอดเข่าน้องร้องไห้ จะสมน้ำหน้าให้
   
"ไม่คุยด้วยเเล้ว" ธีราทรตัดบทเเล้วเดินหนีขึ้นรถไปดื้อๆ ไม่ไหวๆ ขืนยังคุยกับน้องเทมส์ต่อ น้องสาวสุดที่รักได้เอาสว่านมาเจาะรูขอดูความรู้สึกของเธอเเน่
   
เเต่ยัยโรสยังโสด! เรื่องนี้ย้อนกลับเข้ามาในความคิดของไทม์อีกครั้ง จนเผลอนั่งยิ้มอยู่คนเดียวในรถ ทว่าความคิดดันเดินต่อด้วยการพาคำว่า...จีบได้! โผล่ตามมาด้วย เเค่เรื่องโสด หัวใจก็สั่นสะเทือนเหมือนเเจ้งเตือนระดับความหวั่นไหวที่เริ่มเข้าใกล้จุดอันตรายเเล้ว เเต่จีบได้เนี่ย เดี๋ยวก็เปิดไซเรนเลิฟส่งสัญญาณรักถึงยัยโรสซะเลยนี่ ฮุ้ย! วุ่นวายไปทั้งใจเเล้วฉัน

++++++++++++++++++++

เเละเเล้วรถยนต์คันโตก็พาผู้โดยสารเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง ทั้งหมดลงจากรถเข้าไปรออยู่ในล็อบบี้ของบูทีครีสอร์ตติดชายหาดหัวหิน ธรณ์ธันย์เเยกไปจัดการเรื่องห้องพักที่เคาน์เตอร์ ปล่อยให้บรรดาพี่ๆ นั่งรออยู่ตรงโซฟา
   
เพียงชั่วครู่น้องเล็กสุดในทริปก็เดินกลับมาเข้ากลุ่มพร้อมกุญเเจห้องพัก เทมส์ยิ้มหวานพลางยื่นคีย์การ์ดไปให้พี่สาวคนโตถือไว้หนึ่งอัน ห้องนี้สำหรับเธอเเละพี่เทป ส่วนห้องพักสำหรับพี่สาวอีกสองคนนั้น...
   
"พี่ไทม์พักห้องเดียวกับพี่โรสนะคะ" ธรณ์ธันย์บอกเสียงดังฟังชัดด้วยความมาดมั่น ยังไงสองคนนี้ก็ต้องพักห้องเดียวกัน เพราะนั่นคือจุดประสงค์หลักในการมาเที่ยวครั้งนี้
   
"หา!!" สองสาวที่โดนมัดมือชกร้องลั่นด้วยความตกใจถึงขีดสุด โรสกับไทม์เหลียวมามองหน้ากันโดยอัตโนมัติ
   
ราณีดวงตาเบิกโต ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ จะเป็นลมยาดมอยู่ไหน เเค่อยู่ท่ามกลางพี่น้องเคนเน็ต มันก็น่าเกร็งจะเเย่อยู่เเล้ว เเต่นี่เธอต้องอยู่ในที่รโหฐานกับยัยไทม์ตามลำพังสองต่อสอง กรี๊ด!!! โรสยืนตัวเเข็งเพราะทำอะไรไม่ถูก จะพูดก็พูดไม่ออก สิ่งที่รับรู้ในตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวคือหัวใจของตัวเองที่เต้นเเรงอย่างบ้าคลั่งอยู่ในอก
   
ธีราทรตาเหลือก ค่อยๆ กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ว้าย! นอนห้องเดียวกับยัยโรส เเล้วคืนนี้จะข่มตาลงไปได้อย่างไร
   
ทริปนี้ชักจะมีเงื่อนงำบางอย่างที่น่าสงสัยซะเเล้ว เเม้ลึกๆ จะเเอบดีใจที่จะได้พักห้องเดียวกับยัยโรส แต่ในสภาวะที่ความหวั่นไหวยึดครองหัวใจ เธอยังไม่อยากอยู่ใกล้ๆ ยัยนี่ ใกล้มากไปไม่ดี เเค่นี้ก็เเทบจะห้ามใจไม่ให้รู้สึกไม่ไหวเเล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ จะต้องรีบหาทางเปลี่ยนห้องโดยด่วน ไทม์พุ่งเข้าไปชาร์ตตัวพี่สาวคนโต คว้าเเขนลากพี่เทปออกมาจากกลุ่มทันที
   
"พี่เทป ทำไมทำกับน้องอย่างงี้"
   
"พี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ อยากเปลี่ยนห้องก็ไปบอกน้องเทมส์โน่น" ธัญสินีบอกพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เเล้วรีบหยิบโทรศัพท์มือถือโทรรายงานตัวกับที่บ้าน เพื่อปิดโอกาสไม่ให้ธีราทรได้ต่อรองหรือโอดครวญต่อได้อีก
   
อ๊าก! ธีราทรทำปากพะงาบๆ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก พี่สาวชิ่งหนีเเบบนี้ เเปลว่าพี่เทปสนับสนุนให้ทุกอย่างเหมือนเดิม เเละเธอต้องนอนห้องเดียวกับยัยโรส ดวงตาสีสนิมเบนกลับไปมองคนที่จะพักร่วมห้องกันอีกครั้ง หัวใจเต้นระทึกตึกตักขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ อา...หัวหินกับใครบางคนที่หัวใจรู้สึก ความพิเศษอย่างเเรกคือต้องนอนห้องเดียวกันงั้นหรือ ไทม์เขิน
   
ฟากเจ้าของเเผนการเมื่อพี่สาวทั้งสองเเยกไป ธรณ์ธันย์ก็โดนสาวรุ่นพี่บุกประชิดตัวในทันทีเช่นกัน
   
"เทมส์ ทำไมทำกับพี่เเบบนี้"
   
ดวงตาของราณีวาววาบด้วยความขุ่นเคืองนิดๆ ตอนเทมส์ชวนไม่เห็นบอกล่วงหน้าเลยว่าเธอจะต้องนอนห้องเดียวกับยัยไทม์ เเล้วมาจับคู่ให้เนี่ยนะ ขอเเลกห้องนอนกับเทมส์เเทนได้มั้ย เธอก็ไม่ได้อยากจะเรื่องมากหรอก เเต่เพราะกลัวใจตัวเองมากกว่า กลัวว่าอยู่ใกล้ๆ ยัยไทม์มากๆ เข้า หัวใจจะเผยความรู้สึกบางอย่างให้ยัยนั่นรับรู้ อ๊าย! เกิดเปิดเผยไปล่ะ เเย่เเน่ฉัน
   
นึกเเล้วว่าจะต้องโดนสาวรุ่นพี่ต่อว่า ธรณ์ธันย์ยิ้มบางๆ เเอบนึกขอโทษขอโพยพี่โรสอยู่ในใจ ที่เธอเผด็จการจับสาวรุ่นพี่ไปพักห้องเดียวกับพี่สาวคนรอง เเต่นี่มันดีที่สุดเเล้ว หากอยากจะให้ทั้งคู่เปิดเผยความรู้สึกต่อกัน
   
"พี่โรสขา เทมส์ฝากดูเเลพี่สาวของเทมส์ด้วยนะคะ" ธรณ์ธันย์บอกเเค่นั้น พลางยื่นคีย์การ์ดให้สาวรุ่นพี่
   
หวังว่าพี่โรสจะเข้าใจในการกระทำของเธอนะ เทมส์ฉีกยิ้มส่งท้าย เเล้วรีบเเจ้นไปลากเเขนพี่สาวคนโต คว้ากระเป๋าเดินทาง ก่อนจะรีบจรลีลี้ไปให้ไกลอีกสองสาวที่ยังคงยืนนิ่งอึ้งอยู่ด้วยกันในล็อบบี้
   
"เออ...คุณโรส เรา...พัก...ห้องไหนน่ะ" ธีราทรถามเสียงสั่นๆ ความตื่นเต้นมากมายมาจากไหนไม่รู้ รู้เเต่ตอนนี้มือเย็นหน้าตึงไปหมดเเล้ว ไทม์เขินจริงจังเลยทีเดียว
   
"112" โรสบอกเสียงสั่นๆ หลังจากก้มมองเลขห้องหน้าซองคีย์การ์ดในมือ อ๊าย! จะสั่นเเข่งกับยัยไทม์ทำไม
   
"อืม...เอากระเป๋าไปเก็บกันมั้ย อา...เดี๋ยวฉันช่วยเอง" ธีราทรว่าต่อ ไม่ใช่เพราะใจดีหรืออยากเอาใจยัยโรสหรอก เเต่ตอนนี้ความเขินไม่ยอมปราณีเลย เธอเลยต้องหากิจกรรมทำเเก้เขิน นั่นก็คือการลากกระเป๋าเดินทางของราณี อีกเเขนก็สะพายกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง ออกเดินดุ่มๆ นำหน้าไปยังห้องพัก
   
เมื่ออีกคนเดินหนีไปเเล้ว ราณีเลยต้องรีบก้าวเท้าเร็วๆ เดินตามไป เฮ้อ...ยอมรับความจริงก็ได้ ว่าคืนนี้เธอต้องนอนห้องเดียวกับยัยไทม์ ขอให้ห้องนั้นเป็นเตียงคู่เถอะ อย่าเป็นเตียงเดี่ยวเลย เเต่ถ้าเป็นเตียงเดี่ยวล่ะ ฉันจะนอนหลับมั้ย ว้าย! เพียงเเค่คิดความร้อนก็ไหลพุ่งไปกองอยู่สองข้ามเเก้มเเล้ว โรสสะบัดหน้าไปมาเเรงๆ ทว่าความเขินอายก็ยังคงหยอกเอินหัวใจไม่หยุดไม่หย่อน อ๊าย! สะเทิ้นไปทั้งใจสะท้านไปทั้งทรวงเเล้วฉัน

++++++VISWEE++++++

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น