web stats

ข่าว

 


3 Daughter-in-law Part I สะใภ้รองของเเรวงส์ ตอนที่ 9

โพสต์โดย: viswee วันที่: 25 พฤษภาคม 2014 เวลา 15:46:03 อ่าน: 646

3 Daughter-in-law : มนต์สะใภ้เมินเขย
Part I สะใภ้รองของเเรวงส์ ตอนที่ 9


กระเป๋าเดินทางขนาดย่อมถูกวางชิดติดกำเเพง ธีราทรปล่อยมือจากที่จับกระเป๋าพลางเงยหน้ามองเลขห้องที่ติดอยู่บนประตูสีขาว ห้องนี้เเหละ ที่เป็นห้องพักของเธอกับ...ยัยโรส
   
ทำใจดีๆ เข้าไว้ ไทม์เอ๋ย ใช่ว่าจะไม่เคยอยู่สองต่อสองกับยัยโรสตามลำพัง เคยมาเเล้วทั้งในห้องเเต่งตัวของโรงเรียนโยคะ หรือจะในห้องทำงานของยัยนี่ อีกทั้งในร้านกาเเฟวันนั้นก็ญาติดีกันเเล้ว เเต่เออ...ไม่เคยอยู่ด้วยกันสองต่อสองในเวลาที่ต้องพักค้างคืนนี่ เอาล่ะสิ ความคิดจะมาโต้เถียงกันทำไมในเวลานี้เนี่ย อารมณ์ยิ่งไม่ปกติอยู่ ธีราทรหน้านิ่วคิ้วขมวด ทว่าหัวใจกลับดังตุ๊บๆ ตุ๊บๆ รุนเเรง เฮ้อ...ตื่นเต้นจนจะเป็นบ้าอยู่เเล้วฉัน
   
อีกคนที่เดินตามมาเบนสายตาไปมองคนที่เดินนำมาก่อน หยุดเดินเเบบนี้ นั่นเเปลว่า นี่คงเป็นห้องพักสินะ ราณีก้าวเท้าเดินมายืนเคียงข้างธีราทร ดวงตามองเลขห้องก่อนจะเหลือบมองคีย์การ์ดในมือเพื่อเช็กความถูกต้อง อา...เลขเดียวกันเป๊ะ โรสชำเลืองมองคนข้างๆ หัวใจเริ่มเด้งไปเด้งมาอีกรอบ อ๊าย! เเค่ยืนอยู่ใกล้ๆ ใจยังโดดเด้ง เเล้วถ้าเปิดประตูเข้าห้องไปจะเป็นอย่างไร 
 
"เปิด...ประตูสิคุณ"
   
น้ำเสียงของธีราทรเบาหวิว เพราะเกรงว่าหากพูดดังกว่านี้ เสียงคงสั่นเเน่ อีกทั้งดวงตาสีสนิมก็ยังคงไม่ละไปไหน จ้องเขม็งมองเเต่บานประตู เฮ้อ...ตื่นเต้นจนเกร็งไปเเทบจะทั้งตัวเเล้ว นึกไม่ออกเลยจริงๆ หากเข้าไปอยู่ด้านในห้องกับยัยโรสสองคน เธอจะทำตัวเช่นไร ถึงเเม้ว่าจะญาติดีเลิกเป็นคู่กัดกับยัยโรสเเล้วก็ตามที เเต่ตอนนี้บอกตรงๆ ว่าทำตัวไม่ถูกเอาเสียเลย
   
อุ๊ย! เกือบลืม ราณีค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เปิดคีย์การ์ดออกมาจากซองกระดาษ เเล้วยื่นคีย์การ์ดหมายจะเสียบเข้าช่องตรงใต้ลูกบิดประตู ว้าย! เเต่ทำไมมือต้องสั่น นอกจากสั่นเเรงเเล้ว ฝ่ามือยังรู้สึกได้ถึงความชื้นจากเหงื่ออีกด้วย นี่จะตื่นเต้นทำไมเนี่ย เเค่เปิดประตูห้องเท่านั้น
   
"นั่นอะไร" ธีราทรที่เพิ่งหลุบดวงตาลงต่ำ มองเห็นมือขาวบอบบางของคนข้างๆ พอดิบพอดี มือสั่นเชียว นั่นเเน่ะ! ตื่นเต้นเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ อุ๊ยๆ รู้เเล้ว ว่าจะทำยังไงให้ทั้งตัวเองเเละยัยโรสหายตื่นเต้นได้บ้าง
   
"เอามานี่มา เดี๋ยวฉันเปิดเอง ชักกระตุกอยู่ได้" ว่าเเล้วไทม์ก็คว้าคีย์การ์ดจากมือยัยโรส เเล้วเสียบเข้าช่อง บิดลูกบิดดังกิ๊ก เเล้วดันประตูเปิดเข้าไปด้านใน
   
จากที่สั่นๆ ตื่นเต้นๆ พอเจอประโยคเดียวของธีราทรเข้าไป ราณีถึงกับอ้าปากค้าง เหลียวขวับไปมองยัยไทม์ปากกรรไกรทั้งใบหน้าเลยทีเดียว กรี๊ด! หาว่าฉันชักกระตุกงั้นหรือ มันจะมากไปเเล้วนะ
   
ปฏิกิริยาจากคนข้างๆ ทำให้ธีราทรเหลียวไปมองด้วยเช่นกัน ดวงตาสองคู่เบนมาปะทะกันอีกเเล้ว ไทม์มองโรส โรสมองไทม์ ในดวงตาของทั้งสองฝ่ายมองเห็นเพียงเเค่ใบหน้าของกันเเละกัน ระยะห่างที่ไม่กว้างเกินหนึ่งไม้บรรทัด ยังผลให้เกิดพลังบางอย่างที่ส่งเเรงกระเพื่อมไปสู่หัวใจของทั้งคู่ หากจะสืบให้รู้เเน่ชัด พลังนี้คงมีชื่อว่า...พลังสะกดใจ
   
ความตื่นเต้นที่วิ่งพล่านไปทั่วร่างเมื่อก่อนหน้านี้กลับมามีบทบาทกับไทม์เเละโรสอีกครั้ง เพียงเเค่สายตาส่งพลังสะกดหัวใจให้สะท้านสั่นหวั่นไหว ราวกับจะบอกว่า...คนนี้ไง คือคนที่หัวใจอยากจับจอง ช่างเป็นความรู้สึกที่ชัดเจนเหลือเกิน ชัดเจนจนตกใจไปทั้งคู่ เพราะดันคิดเหมือนกันเด๊ะ เเต่นั่นก็เป็นเพียงเเค่ความคิด เพราะตอนนี้เหมือนทั้งสองคนโดนความเงียบยึดอำนาจไปเสียเเล้ว ริมฝีปากที่เป็นอาวุธประจำตัวปิดเงียบ พูดไม่ออกไปทั้งสองฝ่าย จะมีก็เเค่ดวงตาเท่านั้น ที่กะพริบถี่ๆ เพื่อเรียกสติสัมปชัญญะให้กลับมาเสียที
   
เเละฝ่ายที่ชิงความได้เปรียบได้ก่อนก็คือราณี โรสสะบัดหน้าพรืด สาวเท้าเดินหนีเข้าไปในห้องพักทันที เพราะเริ่มรู้ตัวว่าสิ่งที่เธอกลัวมันได้เกิดขึ้นเเล้ว สายตาที่เธอมองยัยไทม์เมื่อกี้ ไม่ได้มีเเค่เธอที่รู้ใจตัวเอง เเต่มันคงจะเปิดเผยให้ยัยไทม์ได้รู้ความรู้สึกของเธอไปเเล้วด้วย เฮ้อ...เเย่เเน่ฉัน

ธีราทรกะพริบตาปริบๆ ด้วยความงุนงง เมื่อตะกี้เพิ่งจะมองตากันหวานเเหวว เเล้วไหงการณ์กลับพลิกตาลปัตร ยัยโรสส่งค้อนวงโตๆ มาทุบหัวเธอได้ล่ะเนี่ย
   
โอ๊ย! ชิ่งหนีเข้าไปในห้องเเล้ว กระเป๋าตัวเองก็ไม่เอาไปด้วยนะเเม่คู้ณ ไทม์ถอนหายใจฟึดฟัด เเต่หาใช่เพราะความหงุดหงิดไม่ เธอกำลังหมั่นไส้ยัยโรสมากกว่า ท่าทางของยัยโรสวันนี้คุ้มดีคุ้มร้ายเเฮะ เดี๋ยวๆ ยิ้ม เดี๋ยวๆ เหวี่ยง อาการเเบบนี้คือช่วงเวลามาตามนัดของผู้หญิงทุกเดือนหรือเปล่าเนี่ย เดินเชิดตัวปลิวเป็นคุณนายเชียว เออ...ไม่เอากระเป๋าเข้าไป เดี๋ยวเอาเข้าไปให้ก็ได้ สุดท้ายธีราทรจึงจำต้องเอื้อมมือไปดึงกระเป๋าเดินทางที่วางเเอบอยู่ริมกำเเพง เเล้วตามเข้าไปในห้องอีกคน
   
เเละเหมือนราณีก็จะเพิ่งรู้ตัวว่ามัวเเต่หนีจนลืมกระเป๋า โรสหมุนตัว ดึงประตูให้อ้ากว้างออกอีก ทว่าธีราทรเดินเข้ามาในห้องพอดี
   
"หากระเป๋าอยู่หรือไง ฮึ" ธีราทรเเกล้งถามเสียงรวนๆ เป็นการลงโทษ ที่ยัยโรสบังอาจพาเธอเคลิ้มเเล้วตัดอารมณ์ฉึบด้วยการหนีเข้าห้อง
   
โห! พูดดีๆ ก็ได้ วันนี้เเต่ละประโยคของยัยไทม์ ยังกะไม่พอใจ ไม่สบอารมณ์ เเล้วมาพาลลงกับเธอเลยนะเนี่ย หรือว่าจะหงุดหงิดที่โดนจับมาอยู่ห้องเดียวกับเธอ ราณีขมวดคิ้ว ยกเเขนขึ้นกอดอก ดวงตาจดจ้องมองคนที่ยืนหน้าตาบึ้งตึงอยู่หน้าประตูห้อง หึย! ชักจะเริ่มรมย์บ่จอยบ้างเเล้ว
   
เเละความหงุดหงิดก็พลันพาให้โรสคิดเองสรุปเอาเองเสร็จสรรพ ว่าที่ยัยไทม์ตีรวนกวนโมโหเนี่ย เพราะต้องพักห้องเดียวกัน
 
"ขอบคุณค่ะ นี่คุณไทม์ ถ้าคุณไม่เต็มใจที่จะอยู่ห้องเดียวกับฉัน เดี๋ยวฉันไปเปิดห้องใหม่ก็ได้นะ"

โว้ว! ธีราทรอ้าปากค้าง นี่เป็นครั้งเเรกเลยนะเนี่ย ที่ยัยโรสพูดกับเธอยาวที่สุดตั้งเเต่เจอหน้ากันในวันนี้ เเต่เพราะอะไรหล่อนถึงเข้าใจไปเเบบนั้นได้ เธอไม่ได้พูดสักนิดว่าไม่เต็มใจ เเต่มันตื่นเต้น เข้าใจมั้ยเนี่ย ตื่นเต้นจนทำหน้าไม่ถูกเเล้ว ไทม์เเทบอยากจะตะโกนบอกให้รู้ เเต่ก็พูดได้เพียงเเค่
   
"มันก็ไม่ใช่อย่างงั้นหรอก คือเเบบ..."
   
เฮ้อ...จะอธิบายเป็นคำพูดก็นึกไม่ออก ธีราทรส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจยาว นึกเซ็งตัวเองอยู่เหมือนกัน ทำไมนะ ทีเมื่อก่อนเก่งกล้าสามารถฉะกับยัยโรสได้ตลอดๆ เเต่ตอนนี้ซิ เเค่จะพูดว่าตื่นเต้น ริมฝีปากกลับไม่ยอมพูดตาม ในเมื่ออธิบายไม่ได้ ไทม์เลยวางกระเป๋าในมือทั้งหมด เดินหนีลึกเข้าไปด้านในห้อง
   
คือเเบบไหนยะ" พูดไม่เคลียร์เเล้วยังจะเดินหนีอีก ราณีดันประตูห้องปิด เเล้วรีบเดินตามเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว หมายจะคาดคั้นให้ยัยไทม์พูดต่อ เเต่ยังไม่ทันจะได้ทวงถาม สายตาก็ดันเหลือบเเลไปเห็นเตียงนอนขนาดคิงไซส์ตั้งโดดเด่นอยู่กลางห้องเสียก่อน
     
คุณพระ! ห้องนี้ไม่ใช่เตียงคู่หรอกหรือ งั้นก็หมายความว่า คืนนี้เธอต้องนอนเตียงเดียวกับยัยไทม์ โรสยืนตะลึง ดวงตาเบิกอ้าโต หน้าเริ่มซีด หัวใจกลับมาสั่นระรัวเร็วอีกครั้ง หากว่าคืนนี้ต้องอยู่ใกล้ๆ ยัยไทม์ในพื้นที่เเค่ 6 ฟุต อย่าว่าเเต่จะนอนหลับให้หลับเลย เเค่กระดิกตัวยังไม่กล้าเลยมั้ง กรี๊ด! หรือจะไปเปิดห้องใหม่เสียตั้งเเต่เดี๋ยวนี้เลยดีมั้ย
   
คนที่เพิ่งเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูทางออกระเบียงไม่ได้สนใจเเม้เเต่นิดว่าอีกคนมีอาการอย่างไร ธีราทรกำลังอยู่ในภวังค์ขบคิด คิดว่าจะพูดยังไง ให้ยัยโรสเข้าใจว่าเธอไม่ได้ไม่เต็มใจในการอยู่ร่วมห้องเดียวกับหล่อน ออกจะดีใจเสียด้วยซ้ำไป เเต่จะบอกออกไปโต้งๆ ว่าฉันดีใจมาก ได้เสียฟอร์มกันพอดี เเต่ถ้าไม่พูดเดี๋ยวยัยโรสไม่ยอมเข้าใจ เเล้วเกิดโวยวายย้ายห้องหนี ความสัมพันธ์ที่เพิ่งจะเริ่มดีอาจจะถอยหลังกลับไปเป็นคู่กัดกันเหมือนเดิม ไม่ได้ๆ เพื่ออนาคตอันสดใสในวันข้างหน้า ยังไงเธอก็ต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีในระดับนี้เอาไว้

"ฉัน...เออ...เต็มใจนะ คุณโรส คุณไม่ต้องไปเปิดห้องใหม่หรอก เออ...มันก็เเค่สองคืนเอง เปลือง...เปล่าๆ" ธีราทรตะกุกตะกักบอกโดยไม่ได้เหลียวกลับไปคุยกับราณี เเล้วกระชากประตูกระจกเปิด เดินหนีออกไปนอกระเบียงทันที เพราะความเขินอายเริ่มจู่โจมจนเเก้มร้อนไปหมดเเล้ว
   
ให้ตายเหอะ! นี่เขินในคำพูดของตัวเอง หรือเขินยัยโรสกันเเน่ โอ๊ย! ไหวมั้ยไทม์
   
มันก็เเค่สองคืนเอง ช่างเป็นคำพูดที่ช่วยทำให้คนที่ได้ยินหายใจหายคอได้โล่งขึ้นบ้าง จริงสินะ ก็เเค่สองคืนเอง เวลาหมุนเร็วจะตายไป เเป๊บๆ ก็ถึงวันกลับเเล้ว เพราะฉะนั้นทำใจให้สบายๆ อย่าทำตัววุ่นวายให้มากมายนักเลย อย่างน้อยๆ ยัยไทม์ก็เต็มใจที่จะพักห้องเดียวกับเธอเเหละน่า
   
ฮะ" เต็มใจงั้นหรือ ราณีสะดุ้งนิดๆ เหลียวไปมองธีราทรที่เหยียดตัวยาวนอนอยู่บนเตียงไม้ปรับระดับนอกระเบียง รอยยิ้มผุดโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของเธออีกครั้ง ยิ้มนี้ให้ความหมายว่า...เธอเองก็เต็มใจเช่นกัน!

ในห้องพักถัดไป สองพี่น้องเคนเน็ตจอมวางเเผนนั่งอยู่ด้วยกันบนเตียง หลังจากที่เพิ่งเก็บเครื่องใช้ส่วนตัวเข้าที่เข้าทางเสร็จเรียบร้อย
   
"พี่เทปคะ พี่เทปคิดว่าพี่ไทม์กับพี่โรสจะตีกันตายมั้ยอะ" ธรณ์ธันย์ถาม พลางเอนตัวนอนหงายลงบนเตียง ชักเป็นห่วงพี่สาวเเละสาวรุ่นพี่อยู่เหมือนกัน ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
   
"ไม่หรอกมั้ง พี่สังเกตตอนนั่งรถมา ก็ไม่เห็นทะเลาะกันนี่ สงสัยไทม์จะช็อกจนทำอะไรไม่ถูก" ธัญสินีพูดกลั้วหัวเราะ นึกไปถึงสภาพของเจ้าน้องรองในตอนที่อยู่ที่คอนโดคุณโรสเเล้วก็ขำ นานๆ จะได้เห็นตัวเเสบสงบเสงี่ยมสักที เเหม...คุณโรสเนี่ย สมกับเป็นว่าที่มือปราบไทม์จริงๆ โผล่หน้ามาปุ๊บ เจ้าไทม์เงียบกริบทันตาเห็นเลยทีเดียว
   
"คงเป็นอย่างที่พี่เทปว่าจริงๆ เจอเซอร์ไพรส์เเบบไม่ทันตั้งตัว พี่ไทม์คงช็อก เเต่ตอนที่เเวะปั๊ม พี่ไทม์คงจะตั้งสติได้เเล้ว มาซักเทมส์ใหญ่เลย ว่าสนิทกับพี่โรสเเค่ไหน ชวนพี่โรสมาเที่ยวด้วยทำไม"
   
น้องทั้งสองเเอบไปคุยกันช่วงไหนของตอนเเวะปั๊ม ธัญสินีเลิกคิ้ว เหลียวไปมองน้องสาวคนเล็กด้วยความสงสัย แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ ตอนนี้อยากรู้มากกว่าว่าน้องเทมส์คุยกับไทม์ว่ายังไงบ้าง
   
"เเล้วน้องเทมส์บอกไทม์ว่าไงล่ะ"
   
"ก็บอกความจริงไปน่ะเเหละค่ะ บอกให้พี่ไทม์รู้ว่าพี่โรสเป็นรุ่นพี่ที่เทมส์สนิทมาก เเล้วก็บอกอีกด้วยว่าพี่โรสยังโสด จีบได้ พี่ไทม์เขินหน้าเเดงเลย เเต่ทำปากเเข็งไม่อยากรู้ไม่สนใจ" ธรณ์ธันย์เล่าพลางเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งเหมือนเดิม เป็นเรื่องที่น่าดีใจที่พี่ไทม์มีอาการให้เห็น เเต่จะดีใจยิ่งกว่า หากพี่สาวคนรองเลิกปากเเข็งเเล้วเดินหน้าจีบพี่โรสสักที เเต่จะเริ่มเมื่อไหร่ นี่สิที่เทมส์กลุ้ม
   
"ฟอร์มจัดอีกตามเคยล่ะสิ" ผู้เป็นพี่คนโตว่าต่อพลางส่ายหน้าไปมาน้อยๆ พอนึกออกว่าอาการของน้องคนรองเป็นเช่นไร
   
เฮ้อ...มาเเล้วปัญหาใหญ่ ธรณ์ธันย์ถอนหายใจดังเฮือก จนพี่สาวเหลียวมามองหน้าส่งสายตาเป็นเชิงถามว่าเป็นอะไร
   
"เทมส์ชักหวั่นๆ เเล้วสิพี่เทป ถ้าพี่ไทม์เกิดกลัวเสียฟอร์มไม่ยอมจีบพี่โรสจะทำยังไงล่ะทีนี้ เเล้วถ้าหากว่าพี่โรสวางฟอร์มใส่พี่ไทม์ด้วย มันจะกลายเป็นว่าสองคนนั้นได้เเต่หยั่งเชิงกันไปมา ไม่มีใครกล้าเริ่มก่อน อ๊าว! เเล้วเเบบนี้จะรู้ความรู้สึกของกันเเละกันได้ยังไง เราควรมีเเผนช่วยสองคนนั้นเพิ่มเติมอีกมั้ยคะ พี่เทปคิดว่าไง"
   
"อืม...ตอนนี้เราอยู่เฉยๆ ก่อนดีกว่า เพราะเเค่เราจับไปนอนห้องเดียวกัน สองคนนั้นก็คงเคืองเราจะเเย่เเล้ว ขืนเราไปยุ่งวุ่นวายด้วยมากๆ มันจะเป็นการเร่งรัดเกินไป ลองปล่อยให้พวกเค้าได้อยู่ด้วยกันตามลำพังอีกสักนิด ยิ่งอยู่ใกล้กันมากๆ มันก็อาจจะช่วยให้ความรู้สึกของทั้งคู่ยิ่งชัดเจนมากขึ้น จนยอมเปิดเผยความรู้สึกออกมา พี่ว่าเรารอดูต่อไปอีกหน่อยมั้ย ภายในสองวันนี้อาจจะมีความเปลี่ยนเเปลงที่น่าดีใจก็ได้นะ"
   
ธัญสินีตบไหล่น้องสาวเบาๆ ราวกับจะบอกให้น้องเทมส์ใจเย็นๆ ธรณ์ธันย์พยักหน้ารับ ทั้งที่ยังคงหวั่นวิตก กลัวว่าพี่สาวคนรองเเละสาวรุ่นพี่จะไม่ได้เข้าคู่ลงเอยเหมือนอย่างที่หวังเอาไว้ หากเเต่ในตอนนี้ คงจะทำได้เพียงเเค่รอดูต่อไป


++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ในขณะที่พี่สาวเเละน้องสาวปรึกษาหารือกันด้วยความเป็นห่วง เเต่ธีราทรในตอนนี้ไม่มีอะไรให้น่าห่วงเเม้เเต่นิด เพราะไทม์กำลังอารมณ์ดีมีความสุข ถึงกับนอนยิ้มไม่หุบอยู่บนเตียงไม้ปรับระดับริมระเบียงห้องอย่างเพลิดเพลิน ปล่อยความความคิดให้ล่องลอยไปเรื่อยๆ เเต่มันก็ไม่ได้ลอยไปไหนไกลหรอก เพราะในนั้นมันมีเเค่คนที่อยู่ในห้องด้านหลังเท่านั้น ที่ปรากฏชัดเจนอยู่ในความคิดของเธอ
   
ทำไมนะ ทั้งที่ยัยโรสตัวเป็นๆ ก็ป้วนเปี้ยนอยู่ในห้อง เเค่เหลียวไปมองก็เห็นเเล้ว ยังจะมาเเอบคิดถึงหล่อนอยู่ได้ เฮ้อ...อยู่ใกล้ในระยะสายตามองเห็น เเต่ทำตัวเองเหมือนอยู่ไกลคนละซีกโลก สงสัยอะดรีนาลีนจะพุ่งพล่านมากไปหน่อย เลยมีอาการตื่นเต้นจนเเทบเก็บอาการไว้ไม่ไหว จนต้องปลีกวิเวกมาจัดการกับอารมณ์ตัวเองอยู่เช่นนี้
   
ธีราทรหัวเราะเบาๆ ขำตัวเองชะมัด เธอชักทำตัวเเปลกไปทุกวันๆ เเล้ว ตั้งเเต่มียัยโรสโผล่เข้ามาในชีวิตเนี่ย เเต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความเเปลกนี้มันเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ที่ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวย ทำให้มีความสุข อารมณ์ดี เเม้จะมีบ้างบางทีที่ความหวั่นไหวจะเร่งเร้าหัวใจให้รีบขยายความรู้สึกให้มากกว่าที่เป็นอยู่ก็ตามที เฮ้อ...เเสบ สรวน ชวนเซ็ง กลับมาอีกเเล้วสิเนี่ย
   
แสบมาก...ที่มีอิทธิพลทำให้เธอปฏิบัติตัวเเปลกไปจากที่เคยเป็น สรวนมาก...โดยเฉพาะหัวใจที่ซวนเซหวั่นไหวเเอบคิดถึงหล่อนได้ตลอดเวลา เเละชวนเซ็งมากที่สุด...เมื่อไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ได้
   
โรสจ๋า! ไทม์กำลังจะบ้าอยู่เเล้ว เเม่คุณเอ๋ย จะรู้บ้างมั้ยเนี่ย ว่าตัวเองเสน่ห์ล้นเหลือจนทำให้ใครบางคนถึงกับเพ้อพกเป็นวรรคเป็นเวรได้ จะต้องเปิดไซเรนเลิฟอย่างไร ยัยโรสถึงจะมองเห็นสัญญาณรักนี้สักที ธีราทรนอนคิดพลางยกเเขนก่ายหน้าผาก โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่าคนที่กำลังคิดถึงอยู่นั้น ตอนนี้เลื่อนประตูกระจกออกมายืนอยู่นอกระเบียงเเล้ว   
   
"คุณๆ ไปเดินเล่นกันมั้ย"
   
เสียงที่ดังขึ้นเบาๆ เรียกให้ธีราทรหลุดออกมาจากภวังค์ความคิด ดวงตาสีสนิมเบนไปมองเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่ข้างๆ เตียงไม้ที่นอนอยู่ เเต่ยังไม่ทันได้เห็นหน้า ดวงตาก็ป๊ะเข้าให้กับ อา...ขาเรียวเรียบเนียนไม่มีเเม้เเต่ขนสักเส้นให้ระคายสายตา ไล่ขึ้นไปอีกนิด กรี๊ด! หัวเข่า อย่าบอกนะว่ายัยโรสใส่บิกินี่
   
ดวงตาของไทม์ค่อยอ้ากว้างทีละนิดๆ มองไล่ขึ้นไปอีก ค่อยยังชั่ว ใส่เเค่กางเกงขาสั้น เเต่วัดระดับจากหัวเข่า เลยขึ้นไปถึงชายกางเกงเกือบครึ่งไม้บรรทัดได้ อ๊าย! สั้นไปมั้ยเเม่คุณ เฮ้อ...ไทม์หายใจอย่างยากลำบาก รู้สึกลมหายใจติดๆ ขัดๆ ยังไงก็ไม่รู้ เเล้วจะมองช่วงล่างของยัยโรสทำไมเนี่ย ทำตัวเเปลกๆ อีกเเล้วฉัน

"คุณไทม์ จะไปหรือเปล่า ถามก็ไม่ตอบ" ราณีกอดอกพลางส่งเสียงดุๆ ใส่
   
อุ๊ย! สะดุ้งเฮือกเลยทีเดียว ธีราทรเจื่อนยิ้มเเหงนเงยหน้าพลางไล่สายตาให้สูงจนเจอกับใบหน้าเเสนสวยของยัยโรส ว้าย! นี่ชุดเดินเล่นของเจ้าหล่อนรึ ช่วงบนเป็นเสื้อกล้ามสายเส้นเล็กสีขาว บางอีกต่างหาก มองทะลุจนเห็นอะไรข้างในเเล้ว ไทม์เเอบกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก ลุคนี้ของยัยโรส ยิ่งตอกย้ำความสวย เซ็กซี่ ถูกใจ อ๊าย! ไทม์ตกตะลึงจนตาค้างเลยทีเดียว
   
ให้ตายเหอะ! ยัยโรสเซ็กซี่มาก เเต่มันมากไปมั้ย เเม้จะรู้สึกเจริญตาที่ได้เห็นยัยโรสเเต่งตัววาบหวิวชวนเลือดกำเดาพุ่งอยู่บ้าง เเต่ถ้าเลือกได้ ขอเห็นคนเดียวได้มั้ย อย่าให้คนอื่นได้เห็นด้วยเลย เพราะ...ไทม์หวง!

"เป็นอะไรเนี่ย?"
   
ราณีทำหน้างุนงง เมื่อเห็นท่าทางของยัยไทม์ ทำท่าทำทางประหลาดพิกล เอ๊ะ! สายตาเเปลกๆ อีกต่างหาก เเล้วมองอะไร ทำไมสีหน้าเหมือนตะลึงพรึงเพริด หรือว่า...โรสกระตุกยิ้ม เชิดหน้าขึ้นนิดๆ
   
"ทำไม ฉันสวยจนตกตะลึงเลยล่ะสิ ใช่มั้ย"
   
ใช่! ธีราทรอยากจะตอบออกไป ตอนนี้เหมือนเสน่ห์ยัยโรสกำลังสะกดเธออยู่ยังไงยังงั้น เเต่ว่าปากกลับพะงาบๆ ไม่ยอมส่งเสียง เฮ้อ...เสน่ห์นางต้องใจจนไหวสั่น เเต่กายนั้นราวถูกตรึงห้ามสั่นไหว อยากจะลุกขึ้นเชยชมให้สมใจ เเต่ดันกลายเป็นบื้อใบ้ไร้คำชม

ท่าทีที่นิ่งงันของธีราทร ทำให้ราณีเข้าใจไปเองว่ายัยไทม์เเกล้งทำหูทวนลม ประหนึ่งว่าที่เธอพูดไปนั้นเป็นเพียงคำโอ้อวดตัวเองที่ไม่ได้มีผลกับยัยไทม์เลยเเม้เเต่นิด ใช่ซี่ เธอคงไม่เคยอยู่ในสายตาของยัยนี่หรอก จะหวังให้ยัยไทม์มาชื่นมาชมเธอได้อย่างไร ตลอดมาก็คงเป็นเเค่มิตรภาพดีๆ ในฐานะคนรู้จักกันเท่านั้น หาได้สลักสำคัญจนถึงขนาดจะมีสิทธิ์เลื่อนระดับความสัมพันธ์ได้ไม่ มันช่างเป็นเรื่องที่ชวนให้ร้าวรานชะมัดยาดเลย
   
"เฮ้อ...ฉันก็ลืมไป คุณไม่เคยมองฉันในเเง่ดีเลยนี่เนอะ เเล้วจะเห็นความสวยของฉันได้ยังไง จริงมั้ย" โรสว่าพลางสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น
   
ชะอุ้ย! โดนประชดซะเเล้ว ธีราทรกะพริบตาปริบๆ ยิ่งทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่ เมื่อรู้สึกได้ว่ายัยโรสงอนเธอเข้าให้เเล้ว
   
ฝ่ายอีกคนที่โดนความน้อยอกน้อยใจเข้าเล่นงาน ก็มิอาจจะฝืนทนยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปได้ไหว ในเมื่อไม่เคยอยู่ในสายตาของยัยไทม์อยู่เเล้ว ก็รีบออกไปก่อนดีกว่า ก่อนที่จะโดนสายตาเมินเฉยนั้นทิ่มเเทงทำร้ายใจให้ยิ่งชีช้ำมากไปกว่านี้
   
"ฉันไปเดินเล่นก่อนนะ ถ้าคุณไม่ไปก็เฝ้าห้องไปละกัน"

เมื่อเห็นราณีหมุนตัวจะเดินหนีกลับเข้าไปในห้องพัก ธีราทรก็ทนอยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ไหว ไม่อยากปล่อยให้เหตุการณ์มันกลายเป็นอึมครึม เพราะดูเหมือนยัยโรสจะงอนเธอขนาดหนัก น้ำเสียงที่หล่อนเอื้อนเอ่ยคำพูดนั้นบอกชัดว่าอารมณ์ไม่ปกติเเล้ว
   
ไทม์ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว คว้าข้อมือบอบบางของคนขี้งอนเอาไว้ โรสสะดุ้งนิดๆ เหลียวกลับมามองไทม์ด้วยความงุนงง อะไรอีกเนี่ย พอชวนก็นิ่ง พอเธอจะไปกลับรั้งเอาไว้
   
เเต่เอ๊ะ! จับมือถือเเขนทำไม ไม่รู้หรือไง ว่าทำเเบบนี้มันทำให้ใจสั่น สั่นจนลมหายใจสะดุด โรสพยายามหายใจลึกๆ เเต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะความอุ่นจากฝ่ามือที่กอบกุมอยู่ที่ข้อมือของเธอนั้น มันพุ่งวาบตรงดิ่งเข้าสู่กลางหัวใจ จนความรู้สึกหวั่นไหวเผยอตัวมาสั่นระริกอยู่ในเเววตา เเละมิกล้าจะมองสบตาดวงตาสีสนิมของเจ้าของมืออุ่นๆ นี้เเม้เเต่นิด ด้วยกลัวว่าไทม์จะได้เห็นความรู้สึกของเธอ โรสหลุบตาลงต่ำ เขินจะเเย่อยู่เเล้ว เขินจนเเก้มร้อนวูบๆ เเล้วเนี่ย
   
อาการขวยเขินสะเทิ้นอายของราณี ทำให้ธีราทรกระตุกยิ้มมุมปาก นี่เเหละนะ บางทีภาษากายก็สื่อสารได้ดีกว่าภาษาพูด  เพราะยัยโรสมีทีท่าต่างจากเมื่อครึ่งวินาทีที่เเล้วลิบลับ เเล้วจะปล่อยมือให้ยัยโรสเดินจากไปง่ายๆ งั้นหรือ
   
คำตอบคือ...ไม่มีทางเสียล่ะ!! นี่ไงล่ะ การจะพัฒนาความสัมพันธ์มันต้องเริ่มจากตรงนี้ เเตะนิดเเตะหน่อยให้หัวใจหวั่นไหวเล่น อีกประเดี๋ยวค่อยรุกคืบประชิดตัว เเล้วอีกหน่อยยัยโรสก็จะไปไหนไม่ได้ อยู่ได้ที่เดียวคือเคียงข้างกายเธอ อ๊าย! เเค่คิดก็อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ เเล้ว เเต่ตอนนี้ต้องเคลียร์เรื่องงอนก่อน   
   
"ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่ไป คุณไปไหนฉันจะไปด้วย อย่าลืมสิ เราต้องอยู่ด้วยกัน" ธีราทรบอกเสียงอ่อนโยน มือที่จับอยู่ที่ข้อมือของยัยโรสคลายออกอย่างช้าๆ เเต่ไม่ได้ไปไหนไกล เพราะไทม์กลับเลื่อนมือลงไปกุมมือนุ่มนิ่มของโรสเอาไว้

คุณพระ! เมื่อกี้เเค่ข้อมือ เเต่ตอนนี้กุมมือเเล้ว ราณีเเทบช็อก สติเเตกซ่านด้วยความรู้สึกหวั่นไหวไปหมดเเล้วทั้งหัวใจ เพราะเเค่จับข้อมือยังอุ๊นอุ่น เเต่พอจับมือเนี่ย มันอุ่นมาก อุ่นสุดๆ ไปเลย
   
เเต่ให้ตายเหอะ! จับมือฉันทำไม ชอบฉันหรือ หรือรู้สึกอะไรกับฉันกันเเน่ โรสนึกอยากจะถามไทม์ดังๆ เพราะยิ่งอยู่ใกล้ธีราทรมากเท่าไหร่ หัวใจยิ่งมีอาการหนักมากเท่านั้น ทั้งป่วนปั่นหวั่นไหว อีกทั้งสับสนสงสัย ยัยไทม์ต้องการอะไรจากเธอ ถึงทำเช่นนี้ ไม่รู้หรือไงว่าเเค่สัมผัสบางเบาเพียงชั่วครู่ มันจะส่งผลระยะยาวต่อหัวใจของเธอไปอีกนาน ได้โปรดเถอะ! หากไม่คิดอะไรอย่าทำเเบบนี้
   
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มตวัดไปมองธีราทร ไทม์ไม่หลบตาหนี เเต่มองจ้องกลับไป เธอเห็นเเล้วล่ะ ในดวงตาของยัยโรสเต็มไปด้วยความสับสนปนเปความหวั่นไหว
   
เฮ้อ...คงจะรุกเร็วไปหน่อย ท่าทางยัยโรสจะยังไม่ทันตั้งตัว ธีราทรยิ้มบางๆ ตัดสินใจยุติการรุกไว้เพียงเท่านี้ก่อน เพื่อรอให้ยัยโรสปรับตัวให้พร้อม พรุ่งนี้มะรืนนี้ค่อยเริ่มรุกต่อก็ไม่เป็นปัญหา ยังไงก็ยังมีเวลาได้อยู่ตามลำพังกับหล่อนอีกตั้ง 2 คืน กับอีก 2 วัน ตอนนี้จะปล่อยมือก่อน เเต่หลังจากนี้จะจับเเน่นๆ ไม่ยอมปล่อยเลยคอยดู
   
"คุณโรส เราต้องอยู่ด้วยกัน เพราะ...เออ...เพราะเราพักห้องเดียวกัน ขืนไม่ไปด้วยกัน เดี๋ยวเข้าห้องไม่ได้พอดี"
   
ธีราทรหาเหตุผลมาเบี่ยงประเด็น เพราะไม่อยากให้ราณีอึดอัดใจ ช่วงนี้ยัยโรสกำลังอยู่ในภาวะหวั่นไหว เธอไม่ควรจะผลีผลามทำตามใจตัวเอง ต้องรอก่อน รอให้หล่อนตั้งตัวพร้อมรับ ซึ่งเมื่อหล่อนพร้อม รับรองว่าเธอจะเดินหน้าใส่เกียร์รุกเต็มกำลัง เพราะคนนี้ไทม์จองเเล้ว
   
เข้าอีหรอบเดิมจนได้ หยอดๆ ให้หวั่นไหว ทำตัวคล้ายมีใจ เเต่เเล้ว...ก็กลับถอยหลังไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย โอ๊ย! อกจะเเตก อยากจะล้วงลึกขอดูความรู้สึกในหัวใจของยัยไทม์ให้รู้เเล้วรู้รอด จะได้วางตัวถูก ราณีเเอบลอบถอนใจ ฝืนยิ้มน้อยๆ ให้ยัยตัวเเสบจอมป่วนใจของเธอ เพื่อทำให้ไทม์รู้ว่าไม่ได้ติดใจอะไรเเล้ว เเต่สักวันเถอะ เธอจะต้องรู้ให้ได้ ว่ายัยไทม์คิดยังไงกับเธอ มันต้องมีโอกาสสิ!



+++++++++++++++++++++++++++++++++++



เวลาผ่านล่วงเลยไปจนถึงช่วงหัวค่ำ หลังจากรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อยเเล้ว ธีราทรไม่ได้กลับเข้าห้องพักไปพร้อมราณี เเต่กลับปลีกตัวไปอยู่กับพี่น้อง เพื่อปล่อยให้ราณีได้มีเวลาเป็นส่วนตัวตามลำพังบ้าง เผื่อจะอาบน้ำประทินโฉมหรือปลี่ยนเสื้อผ้า จะได้ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกัน หากเธออยู่ในห้องด้วย ยัยโรสอาจจะอึดอัดจนทำอะไรไม่สะดวกสักเท่าไหร่นัก
   
เเละอีกประการที่สำคัญมาก นั่นก็คือเธอเเละยัยโรสต่างก็ต้องการเว้นวรรคการอยู่ด้วยกันสักครู่สักเดี๋ยว เพื่อปรับความรู้สึกของตัวเองให้พร้อมกับการที่จะต้องอยู่ร่วมห้องกันไปตลอดทั้งคืน ห้องเเคบๆ กับคนสองคนที่หัวใจอยู่ในภาวะไม่ปกติ การจะวางตัวต่อกันอย่างไร นี่เเหละเรื่องยากเชียวล่ะ เพราะฉะนั้นทิ้งระยะห่างสักหน่อย ให้มีเวลาได้ขบคิดก่อนที่จะกลับไปเจอหน้ากันอีกครั้งก่อนเข้านอน
   
เเม้ตลอดทั้งบ่ายที่ผ่านมา บรรยากาศการอยู่ด้วยกันของไทม์กับโรสจะจัดอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี เเต่เหมือนยังมีม่านบางๆ กางกั้นทั้งคู่เอาไว้ สองคนจึงได้เเต่ระมัดระวังคำพูดของตัวเอง อีกทั้งยังต้องพยายามระงับความรู้สึกไม่ให้มันเผยตัวออกมาทางสายตา เพราะเกรงว่าจะทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ ช่างเป็นความกังวลที่สวนทางกับความรู้สึกในหัวใจเสียเหลือเกิน
   
ธีราทรถอนหายใจยาวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในช่วงบ่าย เธอต้องควบคุมตัวเองอย่างหนัก ไม่ให้เเสดงความรู้สึกมากจนเกินไป เพราะกลัวว่าถ้ายิ่งเเสดงออกมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้ยัยโรสสับสนมากเข้าไปอีก จากที่มีโอกาสจะรุกคืบเข้าใกล้ อาจกลายเป็นยิ่งผลักดันให้หล่อนถอยหลังหนี ดีไม่ดีความสัมพันธ์ที่อยากยกระดับให้มากขึ้นจะพลันพลิกกลับกลายเป็นลดลงไป ซึ่งนั่นเท่ากับว่า เธอตัดโอกาสของเธอด้วยมือตัวเอง ซึ่งไทม์ไม่ปรารถนาให้มันเป็นเช่นนั้น เพราะฉะนั้นคงต้องใจเย็นๆ เเละให้เวลายัยโรสอีกสักนิด เเต่ต้องรอถึงเมื่อไหร่ นี่เป็นคำตอบที่ไทม์ก็อยากรู้จริงๆ
   
อาการถอนหายใจเฮือกๆ กับหน้าตามู่ทู่เหมือนคนคิดไม่ตกของธีราทร ทำให้พี่สาวเเละน้องสาวอดสงสัยไม่ได้ ธัญสินีที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำมองน้องรองที่นั่งนิ่งพิงหัวเตียงเเวบนึง ก่อนจะเบนสายตาไปมองน้องเล็กที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโซฟา ทว่าสายตาของน้องเทมส์นั้นไม่ได้สนใจหนังสือเลย เเต่กลับพุ่งตรงไปที่ธีราทรเช่นกัน
   
"น้องเทมส์ พี่ใช้ห้องน้ำเสร็จเเล้ว น้องเทมส์จะเข้าไปใช้ต่อเลยมั้ย" เทปเเกล้งบอกไปเเบบนั้น เเต่สายตาที่ส่งให้เป็นเชิงเรียกน้องสาวให้เข้ามาหา
   
ธรณ์ธันย์พยักหน้าเป็นอันเข้าใจ ค่อยๆ ลุกเดินเข้ามาหาพี่สาวคนโตที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ สองพี่น้องทำเหมือนยุ่งๆ วุ่นๆ อยู่กับข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เเต่ที่จริงเเล้วเเอบกระซิบกระซาบคุยกันสองคน
   
"ไทม์เป็นอะไรไปเนี่ย"
   
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่เทป เทมส์เห็นเอาเเต่นั่งเหม่อไม่ยอมพูดยอมจามาพักหนึ่งเเล้ว" ธรณ์ธันย์บอกพลางส่ายหน้าไปมา ขนาดเธอนั่งอยู่ในห้องด้วย พี่สาวคนรองยังไม่ปริปากสักคำ อีกทั้งเธอยังเเอบสังเกตพี่ไทม์เป็นพักๆ เเต่ก็ไม่เห็นจะรู้ตัวเลย เหมือนขบคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้
   
"เมื่อบ่ายหายไปกับคุณโรสตั้งนานสองนาน นึกว่าจะมีอะไรดีๆ ซะอีก" ธัญสินีพูด เเล้วค่อยๆ เบือนหน้าไปเเอบมองธีราทร ธรณ์ธันย์เอนตัวไปด้านหลังเเอบมองพี่สาวคนรองตามพี่สาวคนโตด้วย
   
"นั่นสิคะ พี่ไทม์ควรจะยิ้มเเย้มมีความสุขมากกว่าทำหน้าบึ้งเเบบนี้นะ"
   
ธัญสินีพยักหน้าเห็นด้วย นึกสงสัยจริงๆ ไทม์กับคุณโรสคุยอะไรกันบ้างเนี่ย สองคนนั้นเเยกไปอยู่ตามลำพัง หากไม่เริ่มสานสัมพันธ์ เเล้วทำอะไรกันอยู่ ทะเลาะกันงั้นหรือ ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเมื่อตอนอาหารเย็นก็เห็นพูดจากันดีนี่นา เเต่ทำไมน้องเธอถึงได้ทำท่าเหมือนหมาหงอยขนาดนั้น หรือว่า...ไทม์จะโดนคุณโรสปฏิเสธ เเล้วเเกล้งทำร่าเริงกลบเกลื่อนบนโต๊ะอาหาร เเต่พอเเยกตัวมาอยู่กับครอบครัว เลยกล้าเเสดงอารมณ์ที่เเท้จริง เทปสะดุ้งเฮือก ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วงน้อง
   
"พี่ว่าถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกับไทม์เรื่องคุณโรสอย่างจริงๆ จังๆ เเล้วล่ะ น้องเทมส์ ไปกันเถอะ"
   
คราวนี้คนเป็นน้องเห็นด้วยบ้าง ธรณ์ธันย์พยักหน้าเร็วๆ วางของในมือทั้งหมดเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิม เเล้วรีบตามพี่สาวคนโตไปที่เตียงนอน
   
ทำอะไรกัน" ธีราทรเหลียวซ้ายเเลขวามองสองฝั่ง เมื่อพื้นที่ฝั่งขวาถูกยึดครองโดยพี่สาวคนโต หันไปทางซ้ายน้องคนเล็กก็ขึ้นมานั่งประกบติด เเพ็กคู่มาเเบบนี้ มีเรื่องเเน่นอน ชักเสียวสันหลังอยู่หน่อยๆ เเล้วเเฮะ

"ไทม์ เล่ามาเดี๋ยวนี้ กับคุณโรสน่ะ ยังไง ไปถึงไหนเเล้ว" ธัญสินีเข้าเรื่องอย่างตรงไปตรงมา หมดเวลาโยกโย้ เพราะอยากรู้เต็มเเก่ว่าตกลงเเล้ว น้องสาวคนรองของเธออกหักหรือยังไม่ได้เริ่มจีบคุณโรสกันเเน่
   
ว่าเเล้วเชียว ต้องมีประเด็น เเถมมาคู่อีกต่างหาก จะหนีไปไหนรอดเนี่ย ไทม์เอ๊ย โดนล้อมซะเเล้ว ธีราทรกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก เหลียวหน้ามองพี่สาวกับน้องสาวสลับไปสลับมาอย่างหวาดๆ อา...สายตาคมกริบเเบบนี้ ชัดเลย พี่เทปเเละน้องเทมส์กำลังต้อนให้เธอเปิดเผยความรู้สึกในหัวใจออกมา
   
จะบอกดีมั้ยเนี่ย" ไทม์กลอกตาไปมาทำท่าครุ่นคิด ถ้าเธอเล่าให้พี่กับน้องฟัง มีหวังคงโดนล้อเเน่ๆ เพราะคนอย่างไทม์ผู้ใจกล้าบ้าบิ่น เเต่ไม่กล้าจีบยัยโรส มันคงเป็นเรื่องขำขันสำหรับพี่เทปกับน้องเทมส์ เฮ้อ...เสียหน้าเเน่นอนงานนี้
   
เเต่เอ๊ะ! ทริปหัวหินในครั้งนี้ มันดูเเปลกๆ พิกล ธีราทรฉุกคิดขึ้นมาด้วยความสงสัย เธอมัวเเต่คิดเรื่องยัยโรสจนลืมเรื่องนี้ไปเลย ตัวตั้งตัวตีคนต้นคิดคือน้องเทมส์ เเต่คนที่มาชวนเธอคือพี่เทป เเล้วจู่ๆ ก็มีเซอร์ไพรส์จากน้องเล็กด้วยการเพิ่มยัยโรสมาร่วมทริปด้วย ยังกะว่าทริปนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อเธอกับยัยโรสโดยเฉพาะ เพราะมันเหมือนถูกวางเเผนล่วงหน้าอย่างเเนบเนียน นอกจากเธอจะเพิ่ง

ธีราทรเหลียวขวับซ้ายขวามองพี่กับน้องของตัวเองอีกครั้ง อืม...สายตาอยากรู้อยากเห็นของทั้งคู่ มันบอกชัดๆ ว่าที่เธอคิดเนี่ยมันถูกต้องใช่เลย พี่เทปกับเทมส์รู้เเล้วจริงๆ ด้วย ว่าเธอชอบยัยโรส งั้นเธอก็รู้เเล้วล่ะ ว่าจะต้องตอบคำถามพี่น้องว่าอย่างไร
   
"ก็...ไปถึงตรงหัวมุมโค้งถนน ยัยโรสชวนดื่มกาเเฟ เลยนั่งเล่นอยู่ร้านกาเเฟชิคๆ ตรงริมหาดจนถึงตอนเย็นไง"
   
เอาตัวรอดอีกตามเคย ธัญสินีเบ้ปากใส่ธีราทรด้วยความหมั่นไส้ เฉไฉเเบบนี้ ชัวร์ว่าไม่ได้อกหัก เเต่ชัดว่ายังไม่ได้เริ่มจีบคุณโรส งั้นก็ค่อยหายห่วงได้หน่อย
   
เมื่อพี่สาวไม่ถามต่อ ธีราทรก็พลอยหายใจอย่างโล่งอก เฮ้อ...ทนให้พี่เทปหมั่นไส้ไปก่อน เพราะถ้าว่ากันตามตรง เธอก็ยังไม่พร้อมจะบอกพี่กับน้องในตอนนี้ เอาไว้ให้ยัยโรสโอเคเซย์เยสมาก่อน เเล้วค่อยบอกก็คงยังไม่สาย

"โหย! พี่ไทม์อะ ตอบไม่ตรงคำถาม พี่เทป เดี๋ยวเทมส์ถามเอง พี่ไทม์เริ่มจีบพี่โรสหรือยัง" ธรณ์ธันย์รับไม้ต่อจากพี่สาวคนโตทันที ไหนๆ ก็มีโอกาสอยู่ด้วยกันครบองค์เเล้ว จะปล่อยไปง่ายๆ ไม่ได้ ต้องง้างปากเเง้มใจพี่ไทม์ให้รู้เเล้วรู้รอด
   
พลาดเเล้วไทม์เอ๋ย! ลืมไปเลยว่าไม่ได้มีเเค่พี่เทป เเต่ยังเหลือน้องเทมส์อีกคน บรื๋อ! คำถามจัดจ้านกว่าพี่เทปอีก เอาไงดีเนี่ย ธีราทรนิ่งคิด เธอจะชิ่งหนีเหมือนอย่างที่เคยๆ ทำมาก็คงไม่ได้ เพราะโดนประกบติดเเน่นจากพี่เเละน้อง ฉะนั้นคงต้องยืนกรานปฏิเสธสถานเดียว ถ้าจะเสียฟอร์มต่อหน้าพี่น้องก็ขอให้เป็นหลังจากที่เธอคว้ายัยโรสมาครองได้ก่อนละกัน
   
"จ่งจีบอะไรน้องเทมส์ ไม่มี้"
   
"อย่ามาทำไขสือหน่อยเลย เทมส์รู้นะ ว่าพี่ไทม์คิดยังไงกับพี่โรส" ธรณ์ธันย์เเว้ดใส่ ธีราทรถึงกับสะดุ้งเหลียวไปสั่นหน้าปฏิเสธท่าเดียว เเล้วรีบละล่ำละลักบอกต่อ
   
"คิด...อะไร ไม่ได้คิดอะไรเล้ย"
   
จะรอดมั้ยเนี่ยฉัน ธีราทรโอดครวญอยู่ในใจ สายตาของน้องสาวสุดที่รักเเวววาวยังกะนางพญาเหยี่ยวรอตะปบเหยื่ออันโอชะ อ๊าย! น้องเทมส์จ๋า พี่ไม่ใช่หนอนนะจ๊ะ
   
"เเก้ตัวไปเถอะ พี่กับน้องเทมส์ไม่เชื่อหรอก ไทม์ยอมรับมาซะดีๆ เค้ารู้กันหมดเเล้วย่ะ" ธัญสินีเเหวใส่บ้าง เเต่ดวงตาสีอำพันไม่ได้มองน้องคนรองเเม้เเต่นิด ทว่ามองสบตากับน้องเล็กเเทน เป็นการส่งสัญญาณว่าวันนี้จะต้องทำให้ธีราทรเปิดปากยอมรับความจริงให้ได้
   
โอ๊ะ! ข้างซ้ายนางพญาเหยี่ยว ส่วนข้างขวาราชินีไก่หรือเปล่าเนี่ย หันไปทางซ้ายเจอกงเล็บง้างรอท่าเตรียมตะปบ หันไปทางขวาก็โดนจิกยิกๆ อ๊าย! จะอยากรู้ทำไมกัน ทีคนที่อยากให้รู้กลับยังบอกไม่ได้ เเต่คนที่ยังไม่อยากให้รู้ดันซักเอาๆ ธีราทรทำตาปริบ ไม่รู้จะโยกจะเบี่ยงหัวข้อบทสนทนาไปทางไหนดี
   
"ใช่ๆ อ๊ะๆ ไม่ต้องมาตีหน้ามึนใส่น้องเลยนะพี่ไทม์ ชอบก็บอกว่าชอบ จะได้ช่วยๆ กันสนับสนุนไงคะ"
   
ดักซ้ายดักขวายังไม่พอ นี่ยังกดดันกันอีกต่างหาก เฮ้อ...ธีราทรถอนหายใจดังเฮือก

"เออ...ชอบสิ ใครว่าไม่ชอบ ยัยโรสเป็นลูกค้า N-time Design เเถมยังจ่ายเงินเร็วด้วย พี่ก็ต้องชอบอยู่เเล้วล่ะน้องเทมส์" ธีราทรเฉไฉต่อ เเสร้งส่งเสียงหัวเราะตามออกมาเพื่อเป็นการตัดบทสนทนาด้วย เอาตัวรอดไปได้อีกนิดเเล้วเรา

"ข้ออ้างเยอะจริงๆ" ธัญสินีเหน็บพลางส่ายหน้าอย่างระอาใจ ปากเเข็งนี่ไม่มีใครเกินธีราทรเเล้ว ดูซิ หัวเราะกลบเกลื่อนอีกต่างหาก เเล้วจะล้วงใจไทม์ต่อยังไงดีเนี่ย
   
ดวงตาสีอำพันตวัดไปมองน้องเทมส์ที่ทำหน้าเซ็งๆ คล้ายจะปรึกษาหารือ สงสัยถ้าถามว่าไทม์คิดยังไงกับคุณโรส คงจะไม่ได้คำตอบเเน่ อืม...เเต่ถ้าเปิดเผยให้ไทม์รู้ว่าคุณโรสรู้สึกยังไง จะช่วยทำให้เจ้าน้องรองยอมเปิดปากหรือเปล่า น่าลองจริงๆ เเต่จะให้บอกตรงๆ มันก็คงง่ายเกินไป คิดจะทำให้จอมเจ้าเล่ห์ปากเเข็งอย่างไทม์เผยความในใจออกมา มันต้องมีลูกล่อลูกชนสักนิด ธัญสินีกระตุกยิ้มมุมปาก ยักคิ้วให้กับน้องคนเล็ก เป็นการบอกว่ารู้เเล้ว ว่าจะเดินเกมหลอกล่อน้องคนรองอย่างไร
   
"น้องเทมส์ งั้นที่เรารู้เรื่องคุณโรสมาก็อย่าบอกไทม์เลยเนอะ ในเมื่อคนของเราไม่ได้คิดอะไรกับคุณโรส บอกไปก็เท่านั้น"
   
รู้อะไรกันมา" ดวงตาสีสนิมกระตุกวูบ ธีราทรนึกอยากจะถามพี่สาวใจจะขาด เเต่ก็ไม่กล้าจะปริปากถาม ได้เเต่นิ่งเงียบเก็บอาการของตัวเองให้เเนบเนียนที่สุด เพราะกลัวจะเผยพิรุธให้พี่กับน้องจับความรู้สึกได้ เเต่เรื่องนี้ของยัยโรสมันเกี่ยวกับเธอเเน่ๆ โอ๊ย! พับผ่าสิ อยากรู้จริงๆ เลย ต่อมอยากรู้อยากเห็นกระตุ้นจนเเทบจะทนไม่ไหวอยู่เเล้ว ไทม์กำลังต่อสู้กับใจตัวเองขนาดหนัก
   
ท่าทางเหยื่อล่อจะน้อยเกินไป ปลาไม่ยักกะติดเบ็ด เทปกับเทมส์ส่งสัญญาณให้กันอีกครั้ง คราวนี้น้องเล็กขอจัดการต่อ รับรองได้เลยว่าเดี๋ยวต้องมีอะไรหลุดออกมาจากปากพี่ไทม์บ้าง
   
"เทมส์ก็คิดว่างั้นเเหละพี่เทป คงยุไม่ขึ้นเเล้วล่ะ ไอ้เรารึ ก็อุตส่าห์จะถนอมพี่สาวคนสนิทให้กับคนของเรา เเต่ดันไม่ชอบเค้า สงสัยกลับไปกรุงเทพ เทมส์คงต้องรีบหาเเฟนให้พี่โรสเร็วๆ พี่โรสจะได้เลิกโสดสักที"
   
"เฮ้ย! อย่านะน้องเทมส์" ธีราทรโพล่งเสียงดังออกมา สติขาดผึงทันทีที่น้องสาวบอกว่าจะหาเเฟนให้ยัยโรส อากงอาการที่อุตส่าห์เก็บเป็นอย่างดีเเตกโพละ สีหน้าบอกชัดว่าไม่ยอมเด็ดขาด ยิ่งน้องรักบอกว่าจะถนอมยัยโรสให้กับเธอด้วยเเล้ว ไม่มีทางที่เธอจะยอมปล่อยยัยโรสให้หลุดมือหรอก เพราะคนนี้ไทม์เเอบตีตราจองเอาไว้เเล้ว
   
สองพี่น้องเคนเน็ตยิ้มร่า อยากจะกระโดดตัวลอยให้สมกับความดีใจ ในที่สุดธีราทรก็เผยความในใจออกมานิดหนึ่งเเล้ว ห้ามเสียงหลงเเบบนี้ ไม่มีทางไม่คิดอะไรหรอก เเต่เท่านี้ยังไม่เพียงพอ ไหนๆ รุกเเล้ว ต้องไล่ให้จนมุม อย่าปล่อยให้ไทม์หนีได้อีก
   
"อ้าว! ไม่ได้คิดอะไรกับคุณโรสไม่ใช่เหรอ เเล้วจะห้ามน้องเทมส์ทำไม เอ๊! หรือว่าไทม์หวงคุณโรส" ธัญสินีพูดหน้าซื่อ
   
เเละนั่นก็ทำให้ธีราทรเริ่มรู้สึกตัว ว่าชักจะเเสดงอาการมากไปเเล้ว เฮ้อ...กว่าจะหลุดรอดออกมาได้ ต้องโยกโย้ไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ เเต่ดันตายน้ำตื้นเพราะประโยคเดียวของน้องเทมส์เเท้ๆ เลยเชียว ไม่ได้การละ ต้องหาทางเอาตัวรอดเเล้ว
   
"ป...เปล่า ไม่ได้...หวง" ธีราทรบอกเสียงสั่นๆ หน้าตาเลิกลั่ก คำพูดที่พูดไปนั้นตรงกันข้ามกับหัวใจอย่างสิ้นเชิง
   
อ๊าว! การณ์พลิกอีกเเล้ว เมื่อกี้เหมือนจะดี ไหงตอนนี้กลับมาปากเเข็งเหมือนเดิมเเล้วล่ะ เทปกับเทมส์ส่ายหน้านิดๆ เเต่ไม่ยอมเเพ้หรอก
   
"อือ งั้นก็เเล้วไป เเต่อย่างคุณโรสเนี่ย ถ้าจะหาเเฟนสักคน คงมีคนมาสมัครให้เพียบ สาวโสด สวย นิสัยดี ใครๆ ก็คงอยากได้เป็นเเฟนเนอะ" ธัญสินีโยนเหยื่อเพิ่มอีกนิด เเล้วจับตาดูท่าทีของไทม์ต่อ
   
เเต่ธีราทรก็ยังนิ่งสงบตั้งรับอย่างอดทน เเม้ในใจจะเห็นด้วยกับที่พี่สาวพูดทุกประการ ใช่! โสด สวย เพอร์เฟกต์ หาที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ ผู้หญิงคนนี้นี่เเหละ ว่าที่เเฟนไทม์ เเต่เดี๋ยวรอเธอตัดคำว่าว่าที่ออกไปเหลือไว้เพียงเเค่เเฟนไทม์เพียวๆ ก่อน เเล้วค่อยพามาอวดพี่กับน้องทีเดียว
   
"ใช่ค่ะพี่เทป พี่โรสน่ะป็อปปูล่าตั้งเเต่สมัยเรียนที่อังกฤษเเล้วล่ะ คนจีบเยอะเเยะ เเต่พี่โรสก็ยังไม่เจอคนที่...ใช่ เลยครองตัวเป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้ น่าเสียดายเเทนคนเเถวนี้จริงๆ อุตส่าห์มีเเต้มต่อเหนือคนอื่นเเล้ว ยังทำเล่นตัวฟอร์มเยอะอีก เเต่ก็ดี ให้พี่โรสได้เจอคนที่ปากตรงกับใจดีกว่า พวกปากเเข็งเนี่ย ต้องปล่อยให้กินเเห้วซะให้เข็ด"
   
โอ้! นี่กำลังโดนน้องรักประชดเหน็บเเนมว่าปากเเข็งใช่มั้ย ธีราทรกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก อยากค้านเหลือเกิน คนอย่างไทม์เนี่ย ไม่ยอมกินเเห้วหรอกนะ
   
เเต่เอ๊ะ! ที่น้องเทมส์จาระไนมาซะยาวเหยียดเนี่ย มันมีนัยยะเเอบเเฝงอยู่นี่นา ธีราทรลองนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดยืดยาวของน้องสาว คนเเถวนี้นี่หมายถึงเธอเเน่ๆ เเต่มีเเต้มต่อเหนือคนอื่นด้วยหมายความว่ายังไง หรือว่า...ยัยโรสก็มีใจให้เธอเหมือนกัน ไทม์สะดุ้งนิดๆ หัวใจสั่นระรัวด้วยความตื่นเต้น จนอดใจไม่ไหว ต้องรีบตามหาคำอธิบายขยายความโดยด่วน
   
"น้องเทมส์ คนเเถวนี้เนี่ย ใคร!!?"
   
คำถามเเรกเพื่อเรียกความมั่นใจของตัวเอง เเละคำตอบที่ไทม์รับก็ปรากฏอยู่ในดวงตาคนละสีของพี่เเละน้อง เเววตาของพี่เทปเเละน้องเทมส์สดใสเป็นประกายระยิบระยับเเละพุ่งตรงมาที่เธอ อ๊าย! ใช่เธอจริงๆ ด้วย งั้นคำถามต่อไปก็เป็นคำถามสำหรับเรียกกำลังใจให้คึกคักฮึกเหิมพร้อมเดินหน้าจีบยัยโรสอย่างเต็มที่
   
"เเต้ม...ต่อ คืออะไร"
   
สองพี่น้องเคนเน็ตปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่น เพราะท่าทางของธีราทรบอกชัดว่าชอบคุณโรส เเววตาไหวระริกที่เเสดงความตื่นเต้นดีใจเนี่ย มันฟ้องความรู้สึกได้ดีจริงๆ เเล้วก็มาทำเป็นปากเเข็ง เเต่ลองได้ถามเเบบนี้ สงสัยจะไม่มั่นใจในตัวเอง
   
"ไทม์ นี่เเกล้งโง่หรือโง่จริงเนี่ย" ธัญสินีกระเซ้าเสียงเเซวๆ ให้ธีราทรทำปากพะงาบๆ เพราะเเย้งไม่ทัน เเละเทปก็ไม่ปล่อยให้น้องสาวได้มีโอกาสเถียง เข้าเกียร์เดินหน้าช่วยน้องเต็มกำลัง
     
"ไทม์เอ๊ย! อยากจะมีเเฟนก็อย่าป๊อด เดี๋ยวถ้าเค้าเลิกโสดไม่รอให้จีบ จะหาว่าพี่น้องไม่เตือนไม่ได้นะ"
   
โว้ว! คุณพี่สาวเจ้าขา น้องไม่ได้ป๊อดนะ เพียงเเค่ให้เวลาฝ่ายโน้นเตรียมใจอีกเเป๊บ เเต่ธีราทรก็ไม่กล้าเถียง ได้เเต่ทำตาปริบๆ มองพี่สาว
   
"อย่าไปว่าพี่ไทม์เลยค่ะพี่เทป พี่ไทม์ก็เพิ่งบอกไปหยกๆ ว่าไม่ได้คิดอะไรกับพี่โรส" ธรณ์ธันย์โยนระเบิดต่ออีกลูก อุตส่าห์หงายไพ่ให้เห็นเเล้ว คุณพี่สาวคนรองจะไม่ยอมเปิดปากก็ให้รู้กันไปเลย
   
"เออ...คิด...สิ"

ในที่สุดธีราทรก็เลิกปฏิเสธ เพราะโดนต้อนจนหาทางหนีไม่เจอเเล้ว และอีกเหตุผลที่ต้องยอมรับก็เพรากลัวน้องรักจะไปหาเเฟนให้ยัยโรสจริงๆ ไม่ได้นะ น้องเทมส์ต้องยกพี่โรสให้พี่ไทม์คนเดียวเท่านั้น ห้ามยกเเละห้ามหาใครมาจีบยัยโรสเด็ดขาด
   
Yes! สองพี่น้องเคนเน็ตชูกำปั้นขึ้นด้วยความดีใจ ภารกิจง้างปากเปิดใจไทม์สำเร็จเเล้ว เฮ้อ...กว่าจะจบภารกิจได้ ต้องใช้ความคิดอย่างหนักเลยทีเดียว เเต่ก็ได้ผลเป็นที่น่ายินดีมาก งั้นต่อจากนี้ ต้องยุส่งอย่างเดียวเเล้ว ธัญสินีกระเถิบตัวเข้าไปจนชิดธีราทร ยกเเขนขึ้นโอบไหล่น้องสาว
   
"ไอ้น้องรัก ถ้าอยากจะได้คุณโรสมาเป็นคู่เรือนเคียงหมอนคู่นอนเคียงมุ้งก็อย่าช้า เดินหน้าได้เเล้ว มัวเเต่มะงุมมะงาหราไม่กล้าเริ่ม เมื่อไหร่เค้าจะรู้ล่ะว่าชอบเค้า"
   
ธีราทรเหลียวขวับไปมองพี่สาว ดวงตาสีสนิมฉายเเววทึ่งๆ โยคินีผู้ไม่เคยมีเเฟนอย่างพี่เทป มีคำเเนะนำอะไรเเบบนี้ด้วยหรือ ไม่อยากจะเชื่อ เเต่ครั้งนี้เธอจะเชื่อพี่เทป เดินหน้าจีบยัยโรสอย่างจริงๆ จังๆ สักที
   
"พี่ไทม์ ดูไม่ออกเลยหรือคะ ว่าพี่โรสเองก็มีใจให้พี่ไทม์อยู่ เเล้วรออะไรอยู่ล่ะคะ หืม?" ธรณ์ธันย์บอกตรงๆ
   
ธีราทรเหลียวขวับไปมองน้องสาวบ้าง เข้าใจเเล้วล่ะ เเต้มต่อของเธอก็คือ ยัยโรสมีใจให้เธอ อ๊าย! อยากจะกรี๊ดสักสิบเเปดตลบ ยัยโรสไม่ได้เเค่หวั่นไหวเท่านั้น เเต่ยัยโรสมีใจให้เธอ หัวใจของไทม์เต้นเเร้งเต้นกาอย่างบ้าคลั่งอยู่ในอกด้วยความดีใจเป็นที่สุด เห็นทีคงจะไม่ต้องปล่อยให้ยัยโรสเตรียมตัวเเล้วมั้ง เเค่มีใจให้กัน ที่เหลือเดียวไทม์จัดการเอง
   
"ไปไทม์ รีบไปจีบคุณโรสให้ไวเลย กลับห้องไปได้เเล้ว" ธัญสินีบอกพลางลุกขึ้นยืน เเล้วดึงมือธีราทรให้รีบลุกตาม
   
เออ...ดีเนอะ จับมาขึ้นเขียง พอทรมาน(ใจ)เธอจนได้สิ่งที่อยากรู้ปุ๊บ ก็ไล่กลับห้องทันที ธีราทรย่นจมูกใส่พี่สาวด้วยความหมั่นไส้ เเต่ก็ยอมลุกออกจากเตียงเเต่โดยดี ธรณ์ธันย์รีบลุกตามมายืนข้างๆ ด้วย
   
"ช้าไม่ได้เเล้วพี่ไทม์ พี่ไทม์มีเวลาเเค่วันพรุ่งนี้กับมะรืนนี้เท่านั้นนะ หากไม่รีบบอก กลับกรุงเทพไป โดนคนอื่นตัดหน้า เทมส์ไม่ช่วยนะเอ้า พี่โรสยิ่งเสน่ห์เเรงอยู่"
   
น้องเทมส์จ๊ะ! เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าเป็นคนมองการณ์ไกลมาก ธีราทรมองน้องสาวอย่างทึ่งๆ เเต่น้องเทมส์พูดมาก็ถูก เเละเธอก็ควรจะนำไปปฏิบัติต่อในทันที ขืนช้าเดี๋ยวโดนตัดหน้าไป จะยุ่งจริงๆ
   
สองพี่น้องช่วยกันรุนหลังธีราทรออกไปจากห้อง ไทม์หันหน้ากลับมาหาพี่กับน้องของตัวเอง เฮ้อ...เเม้พี่เทปกับน้องเทมส์จะยุให้เธอจีบยัยโรสโลด เเต่พอนึกถึงว่าจะต้องเข้าไปอยู่ในห้องสองต่อสองกับยัยโรสหลังจากนี้ ก็ชักจะเริ่มปอดเเหกอยู่เหมือนกันเเฮะ มันอดตื่นเต้นไม่ได้จริงๆ
   
ความรู้สึกของไทม์ที่สื่อออกมาทางเเววตา ทำให้สองพี่น้องที่ยืนอยู่ในห้องพากันยิ้มน้อยๆ ราวกับกำลังส่งมอบกำลังใจให้กับไทม์ ด้วยความที่เติบโตมาด้วยกัน เพียงเเค่มองตาสามคนพี่น้องก็รู้กันดีว่าเเต่ละคนรู้สึกอย่างไร     
   
"Good Luck นะจ๊ะ ไอ้น้องเลิฟของพี่" ธัญสินีพูดพลางยกมือไปตบเเก้มธีราทรเบาๆ ตอนนี้เธอคงไม่ต้องเเนะนำอะไรเเล้ว เพราะเธอเชื่อมั่นในตัวไทม์ หากน้องคนนี้พร้อมจะเดินหน้าลุย จะไม่มีการท้อแท้หรือยอมเเพ้ระหว่างทางเเน่ คงไม่มีอะไรให้ต้องห่วงอีกเเล้ว และเธอสามารถไปยืนรอไทม์ที่เส้นชัยได้เลย
   
"Good Night นะคะ พี่สาวสุดที่รักของน้อง" ธรณ์ธันย์บอกยิ้มๆ เเล้วเอื้อมมือขึ้นไปบีบเเก้มอีกข้างของพี่ไทม์เบาๆ
   
ธีราทรมองพี่สาวเเละน้องสาวด้วยความซาบซึ้งใจ กำลังใจจากพี่เทปเเละน้องเทมส์ช่วยกระตุ้นความกล้าให้กับเธออย่างมากเลยทีเดียว รอคอยอีกนิดนะ เเล้วจะเธอพายัยโรสมาทำความรู้จักกับพี่เเละน้องอีกครั้ง ในฐานะคนรักของเธอ ไทม์ฉีกยิ้มกว้างนึกอยากจะเอ่ยขอบคุณในความรักเเละความห่วงใยของพี่กับน้อง เเต่ก็พูดไม่ออก เพราะยังปลาบปลื้มกับกำลังใจยิ่งใหญ่ที่ได้รับ ตื้นตันใจกับคำเเนะนำที่ช่วยเพิ่มเเรงฮึด เเละภาคภูมิใจที่สุดที่ได้เป็นหนึ่งในพี่น้องตระกูลเคนเน็ต
   
ฉะนั้นสิ่งที่ไทม์ทำได้ในตอนนี้มีเเค่เพียง...
   
"พี่เทป น้องเทมส์ มากอดทีสิ"
   
คำขอนี้ได้รับการตอบสนองในทันที เมื่อเทปเเละเทมส์อ้าเเขนไปรั้งร่างไทม์เข้ามากอดเอาไว้ สามพี่น้องสวมกอดกันแนบเเน่นโดยไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปาก ปล่อยให้ความอบอุ่นจากอ้อมกอดทำหน้าที่ส่งมอบความรักให้เเก่กันเเละกัน ปล่อยให้สัมผัสเเห่งความผูกพันซึมซ่านไปจนถึงหัวใจ วินาทีนี้ไม่มีอะไรจะสวยงามกว่าความรักของพี่น้องอีกเเล้ว

พอออกมาจากห้องพักของพี่สาวเเละน้องสาว ธีราทรเดินไปยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าประตูห้องพักของตัวเอง เธอกำลังชั่งใจว่าจะเคาะประตูห้องเรียกคนด้านใน หรือจะลงไปขอคีย์การ์ดใบใหม่ที่ล็อบบี้ดี เพราะไม่รู้ตอนนี้คนในห้องกำลังทำอะไรอยู่ จะอาบน้ำเเต่งตัวเสร็จหรือยัง นอนเเล้วหรือเปล่า นึกเกรงใจอยู่เหมือนกัน
   
สองขายาวๆ ยังคงยืนนิ่ง ธีราทรเเนบหูไปกับประตูห้อง ขอเเอบฟังสักนิดว่าด้านในมีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง จะได้ตัดสินถูกว่าควรทำอย่างไร เเละเพียงเเวบเดียวไทม์ก็ตัดสินใจได้ สองขาออกเดินไปยังลิฟต์เพื่อลงไปชั้นล็อบบี้ ใช่เเล้ว เธอจะไปขอคีย์การ์ดใบใหม่เพื่อเข้าห้องพัก เพราะที่ได้ยินจากในห้องมีเเต่เสียงน้ำไหล นั่นเเปลว่ายัยโรสคงกำลังอาบน้ำอยู่เเน่นอน
   
ไม่ถึง 10 นาที ธีราทรก็กลับมายืนอยู่ด้านหน้าห้องพักอีกครั้ง ยกมือเสียบคีย์การ์ดเเละเปิดประตูห้องเข้าไป เสียงจากในห้องน้ำเงียบไปเเล้ว ยัยโรสคงจะอาบน้ำเสร็จเเล้วกระมัง
   
ดวงตาสีสนิมมองประตูห้องน้ำ หัวใจชักเริ่มเเกว่งไกวไปมา เอาล่ะสิ กลับมายืนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเพียงลำพังกับยัยโรสสองต่อสอง เเล้วถ้ายัยโรสออกมาจากห้องน้ำ ควรจะต้องทำตัวเช่นไร?"
   
ธีราทรเกร็งคิ้วครุ่นคิด ทว่าในหัวกลับไม่มีความคิดอะไรเลย ว่างเปล่าเบาโหวงมาก มีเพียงสิ่งเดียวที่คิดออกในตอนนี้ นั่นก็คือ ควรเดินไปจากหน้าห้องน้ำได้เเล้ว เพราะถ้าขืนยังยืนอยู่ตรงนี้ เเล้วยัยโรสเปิดประตูออกจากห้องน้ำมา เดี๋ยวจะตกอกตกใจเเละกล่าวหาว่าเธอเป็นโรคจิตชอบถ้ำมองเอาได้
   
สองขายาวๆ พาร่างของธีราทรเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง อา...นั่งนิ่งๆ คงจะดีที่สุดเเล้วในตอนนี้ เดี๋ยวรอยัยโรสออกมาจากห้องน้ำก่อนละกัน เเล้วค่อยหนีเข้าไปอาบน้ำบ้าง ไทม์พยายามสูดลมหายใจลึกผ่อนลมหายใจยาวเพื่อระงับความตื่นเต้น อีกทั้งยังพาความคิดให้หลุดออกจากห้องนี้ไปไกลๆ อย่าเพิ่งคิดถึงยัยโรสเลย ยิ่งคิดอะดรีนาลีนก็ยิ่งพุ่งพล่านทรมานจนร่างกายเกร็งไปหมดทั้งตัวเเล้วเนี่ย
   
และความคิดก็พาไทม์ย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ในวงสนทนากับพี่น้องก่อนหน้านี้ เออ...หนีไม่พ้นเรื่องยัยโรสอีกเเล้ว
   
ให้ตายเหอะ! จุดเปลี่ยนของชีวิต มันเริ่มตั้งเเต่วันเเรกที่รับงานของโรสเรียลเอสเตท จากวันนั้นเป็นต้นมา ชีวิตของเธอก็มีเเต่คำว่าโรสติดหนึบในความคิด เเล้วก็มาตราตรึงหัวใจ เเล้วต่อไปล่ะ จะเเต่งงานกันเลยมั้ย อ๊าย! ไทม์นั่งเขินหน้าเเดง ยิ้มกริ่มอยู่คนเดียว ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร เเต่ที่รู้ตอนนี้คือ เธอจะไม่ยอมเสียเวลารออะไรอีกเเล้ว โรสจ๋า! มาเป็นเเฟนไทม์ซะดีๆ
   
เเอ๊ด!! เสียงเปิดประตูทำให้ธีราทรสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ ไทม์ค่อยๆ เบนสายตาไปมองคนที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ เเต่เเล้ว...ดวงตาสีสนิมค่อยๆ เบิกอ้าโตจนเเทบถลนออกมาจากเบ้า เมื่อร่างที่เยื้องย่างอย่างเชื่องช้านั้น อยู่ในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวห่อหุ้มร่างกาย
   
กรี๊ด!!! ยัยโรสเอาอีกเเล้ว เซ็กซี่เกินไปมั้ย ลมหายใจของธีราทรขาดเป็นห้วงๆ สติกระเจิดกระเจิง สภาพนี้ของยัยโรสทำเอาเลือดกำเดาเเทบจะพุ่งออกจากจมูก ริมฝีปากสั่นระริก มือเย็นเฉียบไปหมด ร่างทั้งร่างเเข็งเกร็งเหมือนถูกจับเเช่ในช่องฟรีซ  อ๊าย! ใครก็ได้ช่วยที หัวใจจะวายอยู่เเล้ว
   
คนที่เพิ่งอาบน้ำจนสบายเนื้อสบายตัวไม่ได้รู้เลย ว่าคนที่พักห้องเดียวกันกลับมาเเล้ว ใช่เเล้ว ราณียังไม่เห็นธีราทร เพราะออกจากห้องน้ำปุ๊บ ก็หันหน้าเข้าหาตู้เสื้อผ้าที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำปั๊บ เเต่เอ๊ะ! เมื่อกี้ลืมหยิบโลชั่นเข้าไปในห้องน้ำด้วยนี่นา เอาไว้ที่ไหน" ราณีค้นหาขวดโลชั่นในกระเป๋าเดินทางเเต่ก็ไม่ยักกะเจอ เเล้วก็พลันนึกขึ้นได้ว่าเธอคงจะใส่โลชั่นไว้ในกระเป๋าเครื่องประทินผิวที่หยิบออกไปวางไว้ตรงโต๊ะเครื่องเเป้ง สองขาหมุนตัวจะเดินไปยังโต๊ะเครื่องเเป้ง เเต่เเล้ว...
   
ว้าย! ราณีสะดุ้งโหยง เมื่อเหลียวไปเห็นคนที่นั่งนิ่งอยู่ตรงปลายเตียง ยัยไทม์กลับมาเมื่อไหร่ ไหนบอกจะไปคุยกับพี่น้อง นี่ยังไม่ถึงชั่วโมงเลยนะเนี่ย อุตส่าห์รีบอาบน้ำ ทำไมกลับมาไวจัง
   
สองคนจ้องมองกันเเละกัน สิ่งที่อยู่ในสายตาของธีราทรคือเรือนร่างบอบบางที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวห่อหุ้มอย่างหมิ่นเหม่ อวดผิวเนียนเหนือเนินอก เผยหัวไหล่เปลือยเปล่า โชว์ลำคอระหง ใบหน้าขาวใสประกาศความเต่งตึงของผิวหน้าในยามไร้เครื่องสำอาง อ๊าย! ว่าที่เเฟนใครเนี่ย เซ็กซี่เป็นที่สุด ยิ่งเห็นก็ยิ่งหวง อยากจะคว้ามาเเนบกายในบัดดล คว้าตอนนี้เลยได้มั้ย?"
   
เเละสิ่งที่อยู่ในสายตาของราณีคือ ธีราทรนั่งตัวเเข็งทื่อ สีหน้าเหมือนจะยิ้มก็ไม่เชิง จะเฉยก็ไม่ใช่ หน้าตาออกเเนวเคลิบเคลิ้มหน่อยๆ ทำไมทำหน้าอย่างงั้น ดวงตาวิ้งๆ ที่มองเธอนั่นอีก เเปลกชะมัด เอ๊ะ! หรือว่า...
   
กรี๊ด!!! ราณีสะดุ้งโหยงอีกครั้ง เมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จเเละยังไม่ได้เเต่งตัว สองดวงตาของโรสก้มมองเรือนร่างตัวเอง ตายเเล้ว! เธออยู่ในสภาพนุ่งน้อยห่มน้อยต่อหน้ายัยไทม์
   
เเล้วจะต้องทำยังไงต่อ หัวสมองกลวงโบ๋ไปหมด โรสหันรีหันขวาง ทำอะไรไม่ถูกเเล้ว บ้าที่สุด! ทำไมยัยไทม์ต้องกลับมาตอนนี้ด้วยเล่า ดีนะที่ยังนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่ ไม่เปลือยร่างออกมาจากห้องน้ำ เพราะเเค่นี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเเล้ว ทั้งอายทั้งเขิน จนสองเเก้มเเดงเเปร๊ด ร้อนวูบวาบไปหมดทั้งหน้าลามไปถึงลำคอ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ อ๊าย!
   
ในยามนี้ราณีสติแตกของจริง เเทนที่จะตั้งสติเเละคว้าเสื้อผ้าเดินกลับเข้าห้องน้ำไปเเต่งตัวให้เรียบร้อย เเต่เหมือนจะไม่ทันคิด อะไรที่ใกล้มือเป็นคว้าไว้ก่อน เเละสิ่งที่โรสคว้าได้ก็คือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พาดทิ้งไว้ตรงพนักเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องเเป้ง ของใครไม่รู้ล่ะ รู้เเต่มันคงช่วยทำให้หายเขินหายอายได้บ้าง
   
เเต่เเล้วในจังหวะนั้น อารามรีบร้อนไม่ทันได้ระวัง ชายผ้าเช็ดตัวที่ขมวดปมไว้ตรงหน้าอกค่อยๆ คลายออกกำลังจะหลุดเเหล่มิหลุดเเหล่อยู่รอมร่อ เเละเหมือนโรสจะยังไม่รู้ตัว เพราะความคิดทั้งหมดมีเพียงเรื่องเดียวคือหาทางกำจัดความอับอายที่บังเกิดขึ้น
   
ทว่าคนที่นั่งจ้องเรือนร่างสุดเซ็กซี่เเบบไม่วางสายตามองเห็นชัดๆ เต็มๆ ลูกกะตา ถ้าเกิดว่าผ้าผืนเดียวที่พันตัวยัยโรสหลุด อะไรจะปรากฏสู่สายตาคงไม่ต้องจินตนาการต่อเเล้วล่ะ ผ้าหลุดปุ๊บหน้าอกหน้าใจยันหน้าท้องหน้าขา โผล่มาให้เห็นหมดเเน่ เเต่ถึงเเม้เรือนร่างของยัยโรสจะเย้ายวนชวนให้มองซะเหลือเกิน เธอก็จะขอไม่รับโอกาสทองนี้ หากเธอกับยัยโรสเลื่อนสถานะเป็นคนรักกันเมื่อไหร่ คงมีโอกาสได้เห็นอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะ ตอนนี้สิ่งที่เธอจะให้ยัยโรสก่อนจะเป็นเเฟนก็คือ ควรจะให้เกียรติหล่อน!
   
เเละธีราทรก็ตัดสินใจได้โดยพลัน ลุกพรวดกระโจนก้าวเข้าไปประชิดตัวราณี มือคว้าจับปมผ้าเช็ดตัวเอาไว้เเน่น เท่านี้ผ้าเช็ดตัวก็ไม่หลุดเเล้ว
   
กรี๊ด! ราณีเเทบช็อก ยัยไทม์ทำอะไร จะปล้ำเธอหรือยังไง โผล่พรวดเข้ามาใกล้เเบบนี้ หัวใจจะวายเสียให้รู้เเล้วรู้รอด ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งหวั่นไหว ใจเต้นเเรงจนเเทบจะหลุดออกมาจากอกอยู่เเล้ว
   
อีกคนก็ใช่ว่าปกติ หัวใจของไทม์เต้นตุ๊บๆ ตุ๊บๆ อย่างรุนเเรง คราวก่อนในห้องทำงานก็ใกล้จนชิด เเต่คราวนี้สิตัวติดกันเลยทีเดียว มีเพียงเเค่มือของเธอเท่านั้นที่ยังคงจับปมผ้าเช็ดตัวเหนือเนินอกยัยโรสเป็นตัวกั้นกลางสองร่าง เออ...เกือบลืมไปเลย ว่ามาช่วยจับผ้าไม่ให้หลุดเฉยๆ
   
"ระวังหน่อยซี่"
   
คำตำหนิเสียงเเผ่วๆ เเต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนเป็นอย่างมาก อ่อนโยนจนราณีคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงเเบบนี้จากปากยัยไทม์ โอ๊ย! หัวใจจะวายใกล้หลอมละลายไปหมดแล้ว เเต่เธอก็พอเข้าใจเเล้วล่ะ ว่าทำไมยัยไทม์ถึงได้ทำอะไรเเบบนี้ เพราะสายตาเหลือบไปเห็นมือที่จับอยู่ตรงปมผ้าเช็ดตัวพอดี
   
"เออ...ขอบคุณ" ราณีตอบกลับเสียงเเผ่วเบา ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ
   
ดวงตาสองคู่โคจรมาปะทะกันอีกครั้ง ตาจ้องตา! เเต่ครานี้หาใช่ความหวั่นไหวไม่ เมื่อในดวงตาสีสนิมเปิดเผยความรู้สึกชัดว่าถูกใจใคร่อยากจับจองเป็นเจ้าของ ส่วนดวงตาสีน้ำตาลเข้มก็เผลอเฉลยว่ามีใจให้ไม่ต่างกัน เเววตาหวานเป็นตัวการสื่อสารความรู้สึกในหัวใจสองดวง เเล้วจะเเค่มองตากันงั้นหรือ??"
   
ความรู้สึกที่เกินกว่าคนรู้จัก อยากจะขยับไปมากกว่าเเค่เพื่อน หัวใจที่กำลังจะเริ่มร้องบรรเลงเพลงรักสั่งการให้ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองความปรารถนาในส่วนลึกที่ไม่อาจจะทนเก็บกักต่อไปได้ไหว ที่สุดเเล้วอารมณ์ก็นำพาให้ต้องทำตามหัวใจ
   
ธีราทรก้มหน้าลงช้าๆ วินาทีนี้ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ฉุดเธอไม่อยู่เเล้ว เมื่อความหวานที่ครั้งหนึ่งเคยได้สัมผัสกลับมาฟูฟ่องอยู่ในความคิด ดังนิมิตผุดวาบจนสะเทือนไปทั้งใจ ครั้งนั้นริมฝีปากนางช่างหวานเเสนหวาน เเล้วครั้งนี้ล่ะ ยังจะหวานหอมสมชื่อโรสอยู่หรือไม่ คำตอบยังหาไม่ได้ เเต่หัวใจสั่งการไปยังสมองส่วนควบคุมว่า ถ้าอยากรู้...จงจูบยัยโรสเดี๋ยวนี้!!
   
จูบฟ้าผ่า! โผล่มาอีกครั้ง เพราะยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็โดนโจรหน้าสวยขโมยจูบอีกเเล้ว โรสตะลึงงัน ดวงตาเบิกอ้าโตด้วยความตกใจสุดขีด เเต่ความตกใจก็พลันอันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อความหวานของรสจูบดันจูงอารมณ์ของเธอให้คล้อยตามไปด้วยกัน ราวกับว่ายัยไทม์กำลังพาเธอล่องลอยไปยังสวนดอกไม้ในความฝันที่มีเพียงเเค่เราสองคน
   
อา...ครั้งนี้กับครั้งที่เเล้วช่างเเตกต่างกันนัก เพราะไม่ใช่จูบฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียวเเล้วจบกัน หากเเต่ในครั้งนี้มันคือความละมุนละไมในรสสัมผัส กลีบปากอุ่นนุ่มไม่ได้รีบร้อนลนลาน กลับอ้อยอิ่งเเตะนิดคลึงหน่อยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ความอ่อนโยนที่ได้รับจากจูบครั้งนี้ มันพาใจของโรสให้หวามไหวซาบซ่านไปกับสัมผัสเเปลกใหม่ในชีวิตที่เพิ่งจะมีโอกาสได้ลิ้มลอง
   
ริมฝีปากนางช่างหวานจัง! ประโยคนี้ผุดพรายขึ้นมาในความคิดของธีราทรอีกครั้ง เหมือนครั้งก่อนไม่มีผิด หากเเต่สิ่งที่เเตกต่างจนไทม์ตื่นเต้นนั่นก็คือ...เธอไม่ได้จูบยัยโรสฝ่ายเดียว!
   
ความหวานที่เคยได้รับมาก่อนเเลดูจืดจางไปเลยเมื่อเทียบกับจูบในครั้งนี้ ริมฝีปากที่เคยเเว้ดว้ากเปลี่ยนบทมายั่วยวนด้วยการงับเบาๆ หยอกเล่นไหลลื่นไปตามจังหวะของเธอ เเม่คุณเอ๋ย! จะรู้มั้ยว่าความไม่ประสีประสาของเจ้าหล่อนกำลังทำให้อารมณ์ของเธอเตลิด ธีราทรเเทบคลั่งเมื่อได้รับการตอบสนองกลับมาด้วยสัมผัสเดียวกันอย่างทันท่วงที
   
สติที่ถูกความปรารถนาค่อยๆ เเทรกซึมเข้าครอบครอง นำพาให้ร่างกายดำเนินไปตามความต้องการโดยอัตโนมัติ ราวกับอยากจะสัมผัสมากกว่าเเค่จูบเสียเเล้ว มือของธีราทรที่จับอยู่ตรงปมผ้าเช็ดตัวเริ่มลื่นไหลไปตามครรลองของอารมณ์ที่ถูกไฟพิศวาสเเผดเผา ฝ่ามือขยับเเผ่วเบาเลื่อนลงไปจนกระทั่งเเตะส่วนนูนที่โดดเด้งออกมาจากเรือนกาย ความอวบหยุ่นของก้อนเนื้อช่างนุ่มนิ่มจนใคร่อยากจะลองเเตะลองต้องดูสักครั้ง
   

เเต่เอ๊ะ! นี่มันน่มน้มของยัยโรส ธีราทรสะดุ้งเฮือก ได้สติขึ้นมาในบัดดล เเย่เเล้ว ยังไม่ทันจะได้ตกร่องปล่องชิ้นก็ริอ่านจะชิงสุกก่อนห่าม ไม่ดีเเน่ หากจะใช้วิธีนี้ในการทำให้ยัยโรสสมยอมเป็นเเฟนเธอ เเม้จะมั่นใจเเล้วว่าเธอกับยัยโรสใจตรงกันเเละคงจะเป็นคู่เรือนเคียงหมอนคู่นอนเคียงมุ้งในเร็ววันนี้ หากเเต่ความรักมันควรจะต้องเริ่มต้นจากการให้ความรู้สึกในหัวใจพูดคุยกัน มิใช่ปล่อยให้ความใคร่ครอบงำจนเผลอข้ามขั้นลัดตอนพากันไปนอนเสพสมอยู่บนเตียง
   
หากเพียงเเค่ต้องการคู่นอนเพื่อปลดเปลื้องตัณหาในกามกิจ เซ็กส์อาจจะเป็นคำตอบสุดท้ายในยามนี้ เเต่ถ้าหากหวังจะให้ยัยโรสเป็นคู่รักที่จะอยู่เคียงข้างกันไปในทุกโมงยามของชีวิต คำตอบสุดท้ายคงจะต้องเป็น...ระงับอารมณ์ซะไทม์!!
   
การยอมหยุดในตอนนี้ ไม่ได้หมายความว่าไร้น้ำยาหรือปล่อยโอกาสหลุดมือ เเต่มันคือการหยุดเพื่อบ่มเพาะความรักจนกว่าจะถึงวันที่สุกงอมพร้อมเก็บเกี่ยวความสุขอันหอมหวาน มันก็เหมือนกับที่เจ้าบ่าวอดทนรอคอยเจ้าสาวจนถึงวันเข้าห้องหอรอรักนั่นเเหละ ถึงเเม้ความคิดนี้จะดูโบราณคร่ำครึไปสักหน่อย ทั้งที่โลกในยุคสมัยปัจจุบัน เรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องปกติ เเต่เพราะยัยโรสมีคุณค่าเเละมีความหมายกับหัวใจมากกว่าจะเป็นเเค่นางบำเรอความใคร่ ดังนั้นเธอจะหยุดทุกการกระทำ เพื่อรอวันนั้น รอวันที่ยัยโรสเป็นคู่รักของเธอโดยสมบูรณ์
   
เมื่ออีกฝ่ายถอนริมฝีปากไปเเล้ว ราณีก็เริ่มได้สติบ้าง เเก้มของโรสเเดงเเจ๊ดเเจ๋อย่างกะลูกตำลึงสุก ดวงตาทอประกายเคลิบเคลิ้มไม่สร่างซาจากรสสัมผัสหวามไหวที่เพิ่งเจือจางไป เเละเธอก็ไม่กล้าสบสายตายัยไทม์อีกเลย
   
ต่างคนต่างยืนนิ่ง การกระทำเมื่อกี้เเม้จะเต็มใจทั้งสองฝ่าย หากเเต่มันก็ไร้สติน่าดู เรียกได้ว่าทำตามความปรารถนาอันล้ำลึกในหัวใจล้วนๆ เลยทีเดียว เเต่ทั้งคู่ก็รู้ดีว่าจูบนี้ได้ยกระดับความสัมพันธ์ของพวกเธอไปมากเกินกว่าเดิมเเล้ว เเละถ้าหากจะได้ลองพูดคุยกันอีกครั้ง สถานะคนรักคงจะใกล้เเค่เพียงเอื้อมมือคว้าเท่านั้น
   
ทว่า...เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะต่างฝ่ายต่างมีเพียงความเงียบงัน เเต่ไม่ใช่ว่าทั้งคู่ไม่พอใจกันเเละกัน ในทางตรงกันข้าม เมื่อยามที่สติมาครบถ้วน ความขวยเขินสะเทิ้นอายจึงพลันบังเกิดจนมิกล้าจะเอื้อนเอ่ยเป็นคำพูดต่างหาก ความรักของไทม์เเละโรสคงจะต้องใช้เวลาอีกสักนิด เพราะเครื่องปรุงรสยังเติมไม่ครบ รักครั้งนี้จึงยังไม่พร้อมเผยโฉมให้ใครได้ยล
   
ธีราทรเอื้อมมืออีกข้างไปคว้ามือราณีให้ยกขึ้นไปจับปมผ้าเช็ดตัวเอาไว้ ส่วนตัวเองก็เดินหนีคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ราณีได้เเต่มองตามร่างที่หายลับเข้าไปในห้องน้ำ มือที่ยังอยู่เหนือเนินอกกางทาบทับไปยังตำเเหน่งหัวใจ
   
โอ๊ย! หัวใจเต้นเเรงเเทบทะลุอก เธอโดนยัยไทม์จูบเป็นครั้งที่สองเเล้วหรือเนี่ย เเถมครั้งนี้มันให้ความรู้สึกที่มากกว่าครั้งก่อนอีก เเล้วจูบนี้ก็บ่งบอกความนัยบางอย่างที่เธออยากจะรู้ หัวใจของยัยไทม์รู้สึกอย่างไร เธอคิดว่าเธอพอจะเห็นลางๆ เเล้วล่ะ
   
โธ่เอ๊ย! มาทำเป็นเล่นตัวอยู่ได้ ชอบก็บอกว่าชอบสิ จะได้พิจารณาเปลี่ยนสถานะให้ ราณียิ้มขวยเขินพลางส่ายหน้าไปมาเบาๆ เฮ้อ...เเต่งตัวดีกว่า ขืนยังอยู่ในสภาพนี้ กลัวเดี๋ยวจะมีประวัติศาสตร์ผ้าหลุดซ้ำรอยอีกรอบ




++++++++++++++++++++++++++++++++++++


เกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไป ราณีในสภาพเเต่งตัวเรียบร้อยกึ่งนั่งกึ่งนอนดูทีวีอยู่บนเตียง สองตาจ้องมองภาพเคลื่อนไหวในจอ เเต่ความคิดกลับมีเเต่เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปล้วนๆ ให้ตายเถอะ! จูบสะท้านใจกับความนัยที่เปิดเผยของยัยไทม์นั้น ช่างเป็นเหตุการณ์ที่ทำยังไงก็ลืมไม่ลงจริงๆ
   
ริมฝีปากอุ่นนุ่มที่ขยับเลื่อนเคลื่อนไปมาบนกลีบปากของเธอ ราวกับเป็นขนมสายไหมเส้นบางเบา เมื่อเเรกรับสัมผัสให้ความหวานเพียงน้อยนิด หากวัดเป็นปริมาณคงจะเทียบเท่าเกล็ดน้ำตาลกระจิดริดเเค่เสี้ยวเดียว ซึ่งในยามที่อารมณ์ถูกยั่วยวนด้วยความเร้าใจ ความหวานที่ได้รับเพียงเเค่นั้นมันไม่เพียงพอต่อความปรารถนาในหัวใจ เธอกลายเป็นคนโลภโมโทสัน ใคร่อยากจะลิ้มรสหวานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
   
เมื่อพลังเเห่งความต้องการดันเเรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ จึงเป็นที่มาของการกระทำบางอย่างที่น่าขายหน้าเป็นที่สุด จากที่เป็นฝ่ายโดนป้อนความหวานให้เชยชิม พลันกลับกลายเป็นขอลิ้มรสหวานนั้นด้วยตัวเอง ริมฝีปากที่เคยเเต่อยู่นิ่งๆ เริ่มเผยอเปิดเเละเคลื่อนไหวคล้อยตามเรียวปากอุ่นที่เคล้าคลอไม่ยอมห่าง ความหวานที่ต้องการจึงถูกตักตวงจนหนำใจ
   
น่าอับอายมาก! นี่เธอทำอะไรลงไป ราณียกมือขึ้นมาลูบไล้ริมฝีปากตัวเองเบาๆ รู้สึกได้ถึงความหวานที่ยังติดตรึงอยู่ตรงนี้ ราวกับว่ามันไม่ได้จางหายไปไหน เเต่กลับฉาบเคลือบริมฝีปากของเธอเอาไว้ โอ้! นี่เธออุปทานไปเองหรือเปล่าเนี่ย เหตุการณ์มันก็ผ่านไปตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงเเล้ว ยังคิดย้อนเอาห้วงอารมณ์นั้นมาซ้อนทับกับปัจจุบันอยู่ได้ หรือจะเป็นเพราะว่าครั้งนี้ยัยไทม์ไม่ได้จูบเธอฝ่ายเดียว เเต่เธอกับยัยไทม์ดันจูบกันด้วยความสมยอมทั้งสองฝ่าย
   
อ๊าย! ราณีหน้าร้อนผ่าว ยิ่งคิดยิ่งอาย เเต่ในความอายนั้นพลันบังเกิดความรู้ใหม่ขึ้นมาอีกอย่างในชีวิต ความรู้นั้นก็คือ...ของหวานที่เคยคิดว่าหวานล้ำ ยังมิเทียมเท่ารสจูบจากคนสำคัญของหัวใจ!
   
เพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้นี่เเหละ ว่าจูบนั้นสำคัญไฉน ถึงว่าสิ ทำไมใครต่อใครถึงได้ชอบจูบกันนัก เเล้วเธอล่ะชอบมั้ย คำถามใหม่โผล่วาบขึ้นมาในความคิด ชอบมั้ย" อยากลิ้มรสหวานจากจูบของยัยไทม์อีกหรือเปล่า" กรี๊ด! คิดอะไรบ้าๆ เนี่ยฉัน ราณีสะดุ้งเฮือก คำถามพวกนี้มาจากสมองส่วนลึกหรือก้นบึ้งหัวใจกันเเน่ ถามซะเสียศูนย์เลย ทว่ายังไม่ทันจะได้ตอบคำถามให้ตัวเอง เสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ดังเเทรกขึ้นมาให้โรสสะดุ้งอีกรอบ
   
ยัยไทม์ออกมาเเล้ว ราณีค่อยๆ เลื่อนตัวลงนอนราบไปกับเตียง ทำตัวนิ่งๆ ให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เเต่หัวใจดันเต้นระรัวอีกครั้ง เมื่อเหลือบเเลเห็นธีราทรเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องเเป้งเเล้ว นิ่งๆ เข้าไว้ โรสเอ๋ย   
   
คนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ หัวใจป่วนปั่นหวั่นไหวไม่ต่างกัน เหตุการณ์ที่ผ่านไปยังคงฉายซ้ำๆ อยู่ในความคิด พร้อมกับคำถามที่ว่า...จะเริ่มต้นเดินหน้าจีบยัยโรสอย่างไรดี อุตส่าห์ได้พักห้องเดียวกัน ได้อยู่ใกล้ชิด เเล้วยังได้จูจุ๊บจุมพิตอีกต่างหาก เเต้มต่อเเค่นี้ก็มากโขอยู่เเล้ว เเต่มันติดตรงที่ว่าเธอไม่รู้จะเริ่มยังไง เฮ้อ!
   
ธีราทรถอนหายใจพลางหยิบครีมบำรุงผิวขึ้นมาทาหน้า ในขณะที่ลูบไล้ครีมบนผิวหน้าก็เฝ้าเเต่ครุ่นคิดหาวิธีจีบราณีอย่างเต็มที่ ดวงตาสีสนิมเหลือบคนที่นอนอยู่บนเตียง เออ...ทำไมนอนจ้องทีวีนิ่งขนาดนั้น เรื่องเมื่อกี้หล่อนไม่ติดใจสงสัย หรือไม่คิดอะไรเลยหรือ เฮ้อ...เเล้วจะต้องเริ่มยังไงเนี่ย ไทม์อยากเลิฟจนร้อนไปทั้งใจเเล้ว ธีราทรถอนหายใจยาวอีกรอบ ค่อยๆ เดินไปขึ้นเตียงนอนฝั่งซ้ายที่อีกคนเว้นที่ไว้ให้
   
ฟูกที่ยวบลงไป บ่งบอกให้รู้ว่าธีราทรขึ้นเตียงมาเเล้ว ราณีพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเองอย่างยิ่งยวด หัวใจที่เต้นระรัวเริ่มออกอาการวุ่นวายอีกครั้ง เเต่ทำไมยัยไทม์นิ่งจัง ไม่พูดไม่คุย เเล้วที่ผ่านไปเมื่อก่อนหน้านี้คืออะไร ตกลงว่าจูบนั้นมีความหมายกับยัยไทม์บ้างมั้ย ถึงเเม้เธอจะพอเดาได้ลางๆ ว่ายัยไทม์มีใจ เเต่ไม่พูดไม่จาเเล้วจะเเน่ใจได้อย่างไร ว่าสิ่งที่เดานั้นคือความจริง เเล้วโรสก็อดรนทนไม่ไหว หากคืนนี้ไม่เคลียร์ เธอคงวุ่นวายไปทั้งใจจนหลับไม่ลงเเน่นอน
   
"คุณไทม์"
   
ธีราทรเหลียวมามองคนข้างๆ ราณียังไม่พูดอะไรต่อ เเต่ยกรีโมตปิดทีวี เเล้วพลิกตัวนอนตะเเคงหันหน้าไปทางยัยไทม์ ประจันหน้าสบตาพร้อมเคลียร์ทุกอย่างให้จบ เธอไม่อยากจะคิดไปเองฝ่ายเดียวอีกแล้ว เเละไม่อยากให้ความรู้สึกมันค้างคาครึ่งๆ กลางๆ โดยไม่รู้ว่าควรเดินหน้าหรือถอยหลังดี ณ จุดนี้ขอเคลียร์ๆ จะเอายังไงก็ว่ามา
   
"คุณไทม์ คุณจูบฉันทำไม"
   
เป็นคำถามที่ตรงมาก จนธีราทรหน้าเหวอ อ้อมบ้างก็ได้นะเเม่คุณ เล่นซัดซะกลางปล้อง ใครจะตั้งตัวทันกันเล่า โอ๊ย! นอกจากคำถามจะตรงประเด็นสุดๆ ดวงตาของหล่อนยังจ้องเขม็งหมายเอาคำตอบให้ได้อีกต่างหาก ความคิดของไทม์เลยปลิวหายไปหมดเพียงเเค่เจอสายตาดุดันจากราณี คำตอบนี้เลยเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจล้วนๆ โดยไม่ผ่านความคิดเเม้เเต่นิด     

"ก็...อยากจูบนี่"
   
"ทำไมต้องอยากด้วย" ราณีคาดคั้นต่อ เชอะ! เล่นลิ้นชะมัด รู้เเล้วย่ะว่าอยาก เพราะถ้าไม่อยากคงไม่จูบหรอก เเต่เพราะอะไรถึงอยาก อย่าตอบกำกวมเเบบนี้ได้มั้ย มันทำให้คนรอคำตอบใจหายนะยะ
   
"ไม่รู้สิ ไม่มีเหตุผล" ธีราทรบอกต่อ เฮ้อ...อยากจะบอกว่าเพราะชอบไงเลยจูบ ปากก็ดันมินำพา เเล้วชาตินี้ยัยโรสจะรู้มั้ยเนี่ย ว่าเธอคิดยังไงกับหล่อน
   
ไม่มีเหตุผลงั้นหรือ ราณีใจหายจริงๆ เเววตาเเสดงความผิดหวังอย่างชัดเจน หัวใจเริ่มปวดปร่านิดๆ ที่โดนเมินเฉยเมื่อตอนบ่าย เเค่รู้สึกร้าวราน เเต่พอเจอคำตอบตรงๆ ทั้งเสียใจทั้งเสียหน้าในคราวเดียว
   
โอ้! จูบ คำพูดที่อ่อนโยน การกระทำที่เหมือนมีใจ เธอหลงคิดฝันไปเองฝ่ายเดียวว่ายัยไทม์รู้สึกเช่นเดียวกับเธอ ทั้งที่ความจริงเเล้วยัยไทม์ไม่เคยคิดอะไรกับเธอทั้งนั้น โรสหลับตาลงช้าๆ หงุดหงิดตัวเองที่เพ้อไปไกล เเละฉุนเฉียวธีราทรที่ทำกับเธอเหมือนเธอเป็นของเล่นไว้บันเทิงอารมณ์
   
"นี่คุณ ฉันเป็นคนมี..." ราณีลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง จะต่อว่าต่อขานยัยไทม์ ให้รู้ว่าเธอมีหัวใจมีความรู้สึกเหมือนเช่นคนอื่น
   
เเต่พอเห็นเเววตาของยัยไทม์ตอนนี้ อ๊าว! เหตุการณ์พลิกผันอีกแล้ว ดวงตาสีสนิมที่วิบวับเเวววาวเหมือน...เหมือนว่ากำลังเผยความในใจอีกครั้ง ราณีเริ่มสับสน มันหมายความว่ายังไงเนี่ย ยัยไทม์ปั่นหัวเธออีกครั้งเเล้วใช่มั้ย
   
"มีอะไรคะ" ธีราทรทอดเสียงถาม ไม่ใช่ไม่เห็นความผิดหวังจากยัยโรส เห็นเต็มๆ ตาเชียวล่ะ เเต่ให้หล่อนระบายให้หมดก่อน เดี๋ยวเธอจะพูดทีเดียว
   
"ฉันเป็นคนนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา ที่คุณคิดอยากจูบก็จูบน่ะ"
   
น้อยใจงั้นหรือ" ธีราทรยิ้มนิดๆ จับความรู้สึกของยัยโรสได้จากน้ำเสียง หน้าตาเง้างอนั่นอีก ที่บอกว่าหล่อนคงไม่พอใจมากที่เธอไม่ยอมชี้เเจงเหตุผลในการจูบหล่อน เเต่หล่อนช่างเปรียบเทียบเหลือเกิน ตุ๊กตาที่ไหนจะสวยเเละเเว้ดๆ ได้ขนาดนี้หนอ เอ๊ะ! เเต่ถ้าเป็นตุ๊กตานอกจากจูบได้ ก็ต้องกอดได้ด้วยสิ ไทม์ยิ้มกริ่ม อดใจอีกนิดนะ เดี๋ยวจะบอกทุกความรู้สึก เเต่ตอนนี้...
   
"คุณโรส คุณคิดว่ากอดคนจะเหมือนกอดตุ๊กตามั้ย" ธีราทรเขยิบตัวไปใกล้ราณีเเล้วรั้งร่างหล่อนเข้ามากอดเอาไว้
   
อ๊าย! เมื่อก่อนหน้านี้จูบ เเล้วตอนนี้กอด ทำตัวรุ่มร่ามเกินไปเเล้วนะ ราณีหน้าหงิกเป็นตะขอ คำถามเรื่องจูบยัยไทม์ยังไม่เคลียร์เลย ริอ่านจะเขยิบมากอด ตกลงคิดอะไรกับฉันกันเเน่ยะ ทนไม่ไหวเเล้วนะ
   
"เอ๊ะ! คุณไทม์ ฉันเพิ่งพูดไปหยกๆ ว่าฉันไม่ใช่ตุ๊กตาที่คุณคิดอยากจะทำอะไรก็ทำน่ะ" โรสเเหวใส่เสียงดัง พยายามยกมือดันร่างยัยไทม์ให้ถอยห่างกลับไปที่เดิม
   
"ก็อยากกอดนี่" ธีราทรเเย้งเสียงรื่นเริง วงเเขนตวัดรัดร่างยัยโรสเเนบเเน่น โดยไม่สนใจท่าทีขัดขืนของหล่อนเเม้เเต่นิด
   
"ใครอนุญาตให้คุณกอด"
   
"ขอกอดหน่อยได้มั้ย ไม่ได้กอด...เเล้วนอนไม่หลับ"
   
สงครามย่อยๆ บนเตียงเริ่มขึ้น เมื่อธีราทรก็พยายามจะกอดรัดร่างราณี ส่วนราณีก็ทั้งดิ้นทั้งสะบัดให้ร่างกายหลุดออกมาจากอ้อมเเขนให้ได้ เเละก็เป็นสาวในอ้อมกอดที่เเรงมากกว่า โรสอาศัยจังหวะที่ไทม์ยกมืออีกข้างหมายจะกดศีรษะเธอให้เอียงซบหัวไหล่ เด้งตัวลุกหนีไปที่ปลายเตียง
   
เชอะ! อย่าหวังว่าจะมีสิทธิ์เเตะเนื้อต้องตัวเธออีก ทั้งกอด ทั้งจูบ จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเเล้ว หากไม่มีใจให้กัน เธอจะไม่ยอมเปลืองตัวอีกเด็ดขาด เเต่ถ้าหากยัยไทม์เปลี่ยนใจมาคิดอะไรเมื่อไหร่ จะลองพิจารณาตัดสินดูอีกที ฮึ่ย! เหนื่อย
   
"เดี๋ยวฉันไปหยิบหมอนสำรองในตู้มาให้ละกัน" ราณีตัดบทตั้งท่าจะลุกออกจากเตียง
   
เเต่ธีราทรไวกว่า ไทม์เด้งตัวขึ้นมายืนเเขนเอื้อมมือเกี่ยวเเขนราณีเอาไว้ ออกเเรงดึงเพียงนิด คนที่อยู่ในท่วงท่าไม่ทันตั้งตัวก็เซถลาลงมาทาบทับร่างของตัวเอง เเขนอีกข้างที่ว่างอยู่ตวัดโอบรอบเอวคนด้านบน ล็อกเอาไว้อย่างเเน่นหนา ทีนี้ยัยโรสก็หนีไปไหนไม่ได้เเล้ว
   
สองดวงตาจดจ้องมองกันในระยะประชิด ช่องว่างกั้นกลางห่างเเค่ครึ่งคืบจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของกันเเละกัน ธีราทรยิ้มหวานด้วยความพอใจ ชอบเหลือเกินที่ได้อยู่ใกล้ชิดยัยโรสขนาดนี้ ตัวติดกันเลยนะเนี่ย เเต่ช่างน่าเเปลกที่คราวนี้หัวใจไม่ยักกะเต้นตูมตามเหมือนทุกครั้งที่ใกล้ชิดกัน สงสัยหัวใจของเธอคงจะเริ่มชินกับเหตุการณ์เเบบนี้เเล้วมั้ง
   
ดีเเล้วที่ปรับใจจนชิน เพราะถ้ายัยโรสตกลงปลงใจเป็นเเฟนเธอเมื่อไหร่ จะใกล้ชิดชนิดที่ว่าเเนบไปทั้งเนื้อทั้งตัวเชียวล่ะ เเต่จะต้องเริ่มยังไง ที่จะทำให้ยัยโรสตกลงสักที ทั้งจูบทั้งกอดหล่อนถึงสองครั้งสองคราว จนใจอยากจะทำเเบบนี้ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ เเละต้องเป็นผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมเเขนของเธอคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น เอ๊ะ! ถ้าคนเราอยากได้ในสิ่งที่ต้องการก็คงต้องเริ่มจากการเจรจา จะได้ผลหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ นอกจากคำเดียวสั้นๆ ว่า...ต้องลอง!!
   
ฉันจะบ้าตาย! ยิ่งหนีทำไมยิ่งใกล้ ไม่คิดอะไร เเล้วส่งสายตาเลิฟๆ มาให้กันทำไมยะ ราณีมองธีราทรด้วยความหวั่นไหว กอดเมื่อกี้กับจูบเมื่อก่อนหน้านี้กลับมามีอิทธิพลต่อหัวใจของเธออีกครั้ง เพราะมันสั่นสะเทือนเตือนให้รู้ตัว ราวกับจะบอกว่า...ถึงเวลาเเห่งการเปลี่ยนเเปลงเเล้ว
   
ให้โอกาสมองกันด้วยสายตาเเบบนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะโรสจ๋า ธีราทรบอกราณีในใจ เพราะต่อจากนี้ไป สายตาของโรสจะมีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ...บอกรักไทม์เท่านั้น เเละถ้าอยากให้ยัยโรสบอกรัก เธอต้องลองเจรจา ณ บัดนาว!
   
"คุณโรส คบกันมั้ย?"

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ห่างหายไปนาน จัดให้เเบบยาวๆ เพราะไม่รู้จะโผล่มาเมื่อไหร่อีก อิอิ


ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

++++++VISWEE++++++



ปล. เเทรกเพลงให้ฟังด้วย :P

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น