web stats

ข่าว

 


เงาซ่อนใจ yuri ตอนที่ 5

โพสต์โดย: meAyou วันที่: 25 ธันวาคม 2014 เวลา 16:26:24 อ่าน: 502

   อาหารเช้าของทางโรงแรมที่มาพักดูน่าทานทุกอย่างหากแต่นิชาภัทรกลับรู้สึกกินไม่ค่อยลงสักเท่าไหร่เมื่อถูกสายตาของคนที่นั่งอยู่เบื้องหน้าเพ่งเล็งมองมาเหมือนกับจะจับผิด
   "ทำไมคะ หน้าภัทรมีอะไรติดอยู่หรือเปล่า"
   ในที่สุดนิชาภัทรก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมาเพราะไม่ใช่แค่สายตาของพี่สาวของเธอเท่านั้นที่จ้องมาแต่สายตาของคนข้างๆอรจิราก็คอยแต่จะมองมาเช่นกัน
   "เปล่า"
   "แล้วมองกันทำไมคะ"
   "พี่แค่สงสัยน่ะ"
   อรจิราเริ่มเปิดประเด็นถึงบางอย่างที่ข้องใจเมื่อภาพที่เห็นเมื่อคืนคอยมาฉายซ้ำทำเอานอนแทบไม่หลับ
   "เมื่อคืนภัทรไปทำอะไรมา"
   "ทำ ทำอะไรคะ"
   "ภัทรไม่ได้มาหาพี่ตามนัด"
   นิชาภัทรยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเบี้ยวอาหารค่ำพี่สาวทั้งๆที่อีกฝ่ายเอ่ยปากว่าจะรอ
   "เรื่องนี้เองเหรอคะ ภัทรขอโทษจริงๆพอดีติดธุระน่ะค่ะ"
   "ท่าทางจะธุระสำคัญด้วยล่ะสิท่า ถึงได้ไม่โผล่มาให้พี่เห็นหน้าเลย"
   "โถ่ พี่อรคะภัทรขอโทษจริงๆไว้แก้ตัวคืนนี้นะคะ"
   "พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกเพราะพี่ไม่ได้ติดใจเรื่องนั้น"
   คนพูดเอ่ยด้วยถ้อยคำเน้นย้ำก่อนที่หางตาจะเหลือบไปเห็นคนที่เมื่อคืนเดินออกมาจากห้องของน้องสาวกำลังเดินมุ่งตรงมาทางโต๊ะที่ตัวเองนั่ง
   "แล้วเรื่องอะไรคะ"
   "ก็เรื่องของผู้หญิงที่กำลังเดินมาทางเรานั่นไงล่ะ"
   นิชาภัทรหันไปมองตามสายตาของคนพูดที่จับจ้องเลยผ่านตัวเองไปและทันทีที่ได้เห็นว่าคนที่พี่สาวหมายถึงคือใครนิชาภัทรก็ต้องพบกับความหนักใจครั้งใหญ่เพราะไม่ว่าอรจิราจะเอ่ยถึงผู้หญิงคนนี้ด้วยสาเหตุอันใดเธอก็คิดว่ามันคงไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องดีแน่
   
   พันธิตราเดินยิ้มมาแต่ไกลและเมื่อเข้ามาใกล้รอยยิ้มนั้นก็ยิ่งกว้างมากขึ้นเมื่อพบว่าตัวเองกำลังถูกจับจ้องโดยคนที่กำลังจะไปหา
   "สวัสดีค่ะ"
   หญิงสาวตัวเล็กเอ่ยทักทายทุกคนที่มองมาอย่างเป็นมิตร
   วันนี้พันธิตรามาในชุดสบายๆแต่ยังคงเผยให้เห็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจนนั่นจึงทำให้ตัวเธอเองเป็นจุดเด่นได้ไม่ยากและคงต้องเหมารวบเอาคนโต๊ะนี้ไปด้วยที่ยังคงมองมาที่เธอแบบไม่กระพริบตา
   "จะมองอีกนานมั้ย"
   พันธิตราเอ่ยเสียงเย็นๆหากแต่ยังคงรอยยิ้มไว้บนใบหน้าจากนั้นสายตาที่มองไปยังชายหนุ่มเพียงคนเดียวในโต๊ะก็เลื่อนมาที่อรจิราแทน
   "สวัสดีค่ะคุณอรจิรา"
   คนถูกทักไม่ได้เอ่ยตอบอะไรมีเพียงการสื่อสารทางแววตาที่ส่งไปยังคนข้างๆและน้องสาวของตัวเองเท่านั้น      "จริงสิ ฉันควรจะแนะนำตัวเองก่อน"
   พันธิตราเอ่ยขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่ตัวเองเอ่ยทักไม่ได้รู้จักเธอเป็นการส่วนตัวเลยสักนิด
   "ฉันพันธิตราเรียกสิตาก็ได้นะคะ ง่ายดี"
   "ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนั่งด้วยกันมั้ยคะ"
   อรจิราเอ่ยตามมารยาทส่วนคนถูกเชิญก็ต้องการอย่างนั้นอยู่แล้วแต่ยังไม่ทันได้นั่งก็ถูกคว้าแขนโดยคนที่เธอทำให้หัวแตกไปเมื่อคืน
   "เค้าคงนั่งกับเราไม่ได้หรอกค่ะพี่อร"
   "ทำไมล่ะ"
   "เอ่อ พอดี พอดีว่าเรานัดกันจะไปหาอะไรกินข้างนอกน่ะค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ"
   "นี่คุณฉันยัง?"
   พันธิตราเริ่มส่งเสียงโวยวายแต่พูดยังไม่ถึงครึ่งประโยคก็ถูกคนที่อ้างว่าจะไปกินข้าวข้างนอกกับตัวเองใช้มือปิดปากเอาไว้พร้อมกับการฉุดกระชากลากถูราวกับเธอเป็นคนร้าย
   "ฉันเจ็บนะ!"
   ในที่สุดการดิ้นรนก็เป็นผลเมื่อพันธิตราสามารถหลุดออกมาจากการถูกล็อคตัวได้สำเร็จแต่พอจะเดินกลับเข้าไปข้างในกลับถูกคนที่พามาดึงเอาไว้
   "อะไรอีกฉันจะไปกินข้าว!"
   "กินข้าวหรือว่าจะทำอะไรกันแน่"
   "จะทำอะไรก็เรื่องของฉันส่วนคุณปล่อยมือเดี๋ยวนี้"
   "คงไม่ได้หรอกนะเพราะคุณมันตัวอันตราย"
   นิชาภัทรเอ่ยสีหน้าจริงจังก่อนจะลากคนตัวเล็กให้เดินมาอีกทาง
   "ไม่นะจะพาฉันไปไหนฉันจะไปกินข้าว ปล่อย ปล่อย ปล่อย?"
   การแหกปากของพันธิตราต้องหยุดลงเมื่อตอนนี้ร่างกายของเธอถูกแรงของคนที่จับอยู่ดึงเข้าหาตัวก่อนจะปิดปากที่กำลังจะด่าทอด้วยริมฝีปากคู่บาง
   พันธิตราเงียบสงบลงทันทีเมื่อถูกกระทำการฉวยโอกาสแม้อีกฝ่ายจะทำแค่การแตะเพียงแค่เรียวปากแต่มันก็มากพอที่จะหยุดการกระทำของเธอได้
   "เงียบแบบนี้ค่อยน่ารักขึ้นหน่อย"
   นิชาภัทรตีหน้าครึมทั้งๆที่ตอนนี้เธอแทบจะกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่หากรู้ว่าวิธีนี้จะทำให้ฤทธิ์ของผู้หญิงคนนี้ลดน้อยลงได้เธอคงจะทำไปนานแล้ว
   หญิงสาวตัวเล็กเดินตามคนที่เดินจูงมือเธอแบบเงียบๆแต่ความสงสัยก็ผลักให้คำพูดออกมาได้ในที่สุด
   "คุณจะพาฉันไปไหน"
   "หิวไม่ใช่เหรอฉันก็จะพาไปหาอะไรกินไง"
   "ไม่เห็นต้องออกมาเลยกลับไปกินในโรงแรมก็ได้"
   พันธิตราเอ่ยอย่างลืมตัวก่อนจะเห็นสายตาที่มองมาของคนตรงหน้าแล้วทำให้นึกอะไรขึ้นได้เธอจึงรีบใช้มือข้างที่เหลือมาปิดที่ปากของตัวเองอย่างแน่นหนา
   นิชาภัทรหันกลับมาจ้องทางเดินอีกครั้งรอยยิ้มน้อยๆปรากฎขึ้นอย่างพอใจเมื่อคนที่เดินตามไม่เอ่ยอะไรออกมาอีกแต่สุดท้ายรอยยิ้มของนิชาภัทรก็ค่อยๆจางหายไปเมื่อนึกถึงรสสัมผัสที่ตัวเองได้ลิ้มลอง
   ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะทำแบบนั้นลงไปได้!
   เธอไม่ควรปล่อยให้มันเกิดขึ้น!
   พันธิตราไม่ได้อยู่ในหัวใจของเธอนับตั้งแต่วันที่เธอหันหลังให้อีกฝ่ายในวันนั้น
   นั่นคือความจริงที่นิชาภัทรต้องเริ่มทำความเข้าใจกับมันอีกครั้งและต้องทำให้ได้ด้วยแม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยทำได้สักครั้งเลยก็ตาม

   พันธิตรารู้สึกหงุดหงิดตลอดเวลาเมื่อรับรู้ได้ถึงการถูกใครบ้างคนเดินตามทุกฝีก้าวแต่พอเธอหันไปหมายจะส่งสายตาไปต่อว่าใครคนนั้นก็หันหน้าไปทางอื่นราวกับไม่สนใจว่าจะทำให้เธอโมโหมากเพียงไหน
   และเมื่อความอดทนสิ้นสุดลงการก้าวเท้าไปข้างหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นการเดินถอยหลังเพื่อที่จะจัดการคนน่ารำคาญให้เด็ดขาด
   "เมื่อไหร่จะเลิกตามเสียที รู้มั้ยว่าฉันรำคาญ!"
   หญิงสาวตัวเล็กยืนเท้าสะเอวจ้องหน้าคนเดินตามอย่างเอาเรื่องหากแต่อีกฝ่ายกลับมองตอบเธอด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้
   "ไม่หลงตัวเองไปหน่อยเหรอใครเค้าตามคุณกัน"
   "กล้าพูดนะจะใครเสียอีกล่ะ ก็คุณนั่นแหละ"
   "อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น"
   "ฉันมีตาแล้วก็ไม่ได้โง่"
   "ก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ"
   "ฉันไม่อยากเสียเวลากับคุณอย่าตามมาอีก!"
   พูดจบพันธิตราก็เดินไปทันทีแต่เพียงไม่กี่ก้าวเธอก็ต้องหันกลับมาจ้องคนพูดไม่รู้เรื่องที่คราวนี้ดูจงใจเดินตามติดเธอแบบเปิดเผย
   "ฉันคิดว่าฉันพูดเข้าใจง่ายแล้วนะ คุณยังมีปัญหาอะไรอีกมิทราบ"
   "ไม่มีค่ะ"
   "งั้นก็ทางใครทางมัน"
   พันธิตราเอ่ยด้วยความโมโหแต่เหมือนคนที่เธอพยายามย้ำบอกความต้องการจะไม่ได้ใส่ใจในคำพูดเธอเลยสักนิดเพราะอีกฝ่ายยังคงเดินตามติดแถมยังทำหน้าซื่อแบบที่พันธิตราคิดว่ามันเป็นสีหน้าที่กวนอารมณ์ของเธอมากจริงๆเวลาหันไปเห็น
   "จะเอายังไง!"
   "ไม่เอาไง"
   "แล้วจะตามฉันทำไมมีอะไรก็พูดมาสิจะได้ต่างคนต่างไป"
   "อันที่จริงฉันตั้งใจมาอยู่เป็นเพื่อนคุณน่ะเห็นมาคนเดียวเป็นห่วงกลัวจะเหงา"
   นิชาภัทรคัดสรรคำพูดที่น่าจะฟังดูเข้าทีที่สุดเพราะอย่างไรเสียเธอก็ปล่อยให้คนตรงหน้าคลาดสายตาไปไม่ได้เป็นเด็ดขาด
   "เป็นห่วงหรืออยากจะกันท่ากันแน่"
   "ฉันเรียกว่าความเป็นห่วงแต่คุณจะเรียกมันว่าอะไรก็แล้วแต่คุณ"
   แม้จะถูกรู้ทันในความคิดแต่นิชาภัทรก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจเลยสักนิดในเมื่อทุกอย่างที่คนตัวเล็กพูดคือความจริง
   ยิ่งจ้องเข้าไปในดวงตาของพันธิตราที่มีแววเจ้าเล่ห์ผสมกับความร้ายกาจมันก็ยิ่งทำให้นิชาภัทรต้องตัดสินใจทำอะไรแบบนี้เพราะหากปล่อยให้อีกฝ่ายคลาดสายตาไปเชื่อว่าคงได้เกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่
   "แล้วถ้าฉันจะปฏิเสธล่ะ"
   "คุณก็น่าจะรู้คำตอบดี"
   "กลัวพี่สาวเป็นม่ายขนาดนั้นเชียว"
   เมื่อพูดดีๆไม่รู้เรื่องพันธิตราก็หันมาใช้คำพูดยั่วโมโหเพื่อทำให้อีกฝ่ายโกรธจะได้โมโหแล้วไม่อยากเห็นหน้าตัวเองอีกแต่ทุกอย่างกลับผิดคาดเมื่อคนตัวสูงไม่เพียงแต่ไม่โกรธแต่กลับเผยรอยยิ้มออกมาให้เธอได้ประหลาดใจเสียอีก
   "ยิ้มอะไร?"
   "ก็ยิ้มให้คุณไง"
   "ฉันว่าให้พี่สาวของคุณอยู่นะยังจะยิ้มได้อีกเหรอ"
   "ทำไมล่ะก็คุณพูดในเรื่องที่มันไม่มีวันเป็นไปได้นี่นาตื่นเถอะแต่ถ้าลืมตาขึ้นมาเองไม่ได้เดี๋ยวฉันช่วยถ่างตาให้ก็ได้"
   "หยาบคายที่สุด"
   พันธิตราเปลี่ยนเส้นทางเดินเป็นการกลับห้องพักทันทีเมื่อหมดอารมณ์ที่จะทำอะไรแล้วหากแต่ดูเหมือนคนก่อกวนจะยังคงตามมาให้ได้อารมณ์เสียไม่เลิก
   "ฉันจะกลับห้อง"
   "ค่ะ"
   "ค่ะนี่คืออะไร ฉันกลับห้องก็หมายถึงไม่ออกไปไหนอีกดังนั้นวันนี้คุณคงสบายใจได้แล้ว"
   "อืม ก็ดีค่ะไปนั่งเล่นห้องคุณก็ดีเหมือนกัน"
   คนพูดเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนจะดึงมือคนหน้างอที่กำลังจะอ้างปากว่าให้ตัวเองให้เดินตามมา
   และแม้การเดินทางกลับห้องจะมีทั้งเสียบ่น ต่อว่าและแม้กระทั่งการใช้กำลังนิชาภัทรก็ไม่คิดจะหยุดเดินเลยสักก้าวเธอว่าก็ดีเหมือนกันที่จะพาคนอันตรายไปเก็บไว้ในห้องเธอจะได้ไม่ต้องเดินตามให้เมื่อยขา
   ส่วนพันธิตราก็ได้แต่นึกเสียใจที่ได้เสนอความคิดอะไรแบบนี้ออกมาเพราะแทนที่จะสามารถกำจัดคนที่ตัวเองรำคาญให้ออกห่างได้แต่กลายเป็นว่าเธอกลับจะต้องทนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่มองไปทางไหนก็ต้องเห็นแต่หน้าของคนๆนี้
   แล้วแบบนี้แผนของเธอจะคืบหน้าไปได้อย่างไรกันหากมีคนน่ารำคาญตามติดอยู่แบบนี้
   

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น