โพสต์โดย:
Nekoyu
วันที่: 23 ธันวาคม 2014 เวลา 03:48:21
อ่าน: 749
|
...
กุลธิดามายืนหน้ามุ้ยอยู่หน้ากำแพงอิฐสีซีด......
สุดท้ายแล้วคนที่ออกปากกับป้าเธอว่าจะรับผิดชอบให้เป็นอย่างดีก็หายหัวไปตั้งแต่เช้ามืด แถมยังให้ผู้ชายผิวสีที่ชอบยิ้มโชว์ฟันขาวมารับตอนออกจากโรงพยาบาลอีก แทนที่ได้ออกจากโรงพยาบาลจะรู้สึกดีขึ้นกับต้องมาปวดหัวใช้ภาษาอังกฤษอันแสนอ่อนแอสื่อสารเพื่อบอกทางกลับบ้านอีก สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็พามาส่งถึงที่อย่างทุลักทุเล
หลังจากเก็บของเข้าที่เสร็จเรียบร้อยสาวหน้าหวานก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆ แล้วถือถุงยาเจ้าปัญหามายืนอ่านอยู่ในห้องครัว มือเล็กยกขึ้นแตะหน้าผากเบาๆ "ปะ..ปวดเอาเรื่องเหมือนกันนี่" ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้ากันเมื่อเรื่องปวดแผลที่เคยโกหกเมื่อวานดันมาเป็นจริงในวันนี้ซะงั้น ปกติก็ไม่ใช่คนที่ทานยาได้ง่ายๆซะด้วย แค่อย่างเดียวยังต้องแทบกลั้นใจกินแต่นี่ได้มาแบบยกถุง! เลยจับถุงยาเทซองบรรจุยาให้เกลื่อนเต็มโต๊ะ
ฟาขมวดคิ้วใส่กองซองยาที่มีคำแนะนำการใช้กับลายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ "โอ้ย! มีแต่ภาษาอังกฤษจะรู้เรื่องไหมแล้วจะกินไงถูกล่ะ" พอมองโลโก้ชื่อของโรงพยาบาลก็ยิ่งหนักใจ โดมินิคเดรย์ โมเมเรียล โรงพยาบาลเอกชนสุดหรูระดับอินเตอร์ที่มีคนไข้ระดับนักธุรกิจพันล้านและชาวต่างชาติกระเป๋าหนักไปใช้บริการ เพียงแค่นี้ก็ความคิดคนอ่อนด้อยภาษาก็เลยยิ่งมืดแปดด้านข้าไปอีก
เสียงหมาเห่ากรรโชกดังขึ้นมาเกือบทำให้คนตัวเล็กทำซองยาหลุดจากมือ หมาบ้านี่จะเห่าอะไรหนักหนา ตกใจหมด... ฟาคิดพลางก้มลงเก็บซองยาบนพื้น แล้วลากเก้าอี้มานั่งดูยาซองอื่น แต่เสียงเห่าคำรามก็ยังดังไม่ขาดสายจนเธอต้องแอบแง้มม่านมองไปที่ถนนผ่านหน้าต่างเล็กๆในครัว นัยน์ตาสีน้ำตาลจับจ้องไปยังรถยนต์คันสีดำที่จอดอยู่หน้ารั้วบ้านตัวเอง
สงสัยจะมาบ้านข้างๆแล้วทำไมไม่เอาไปจอดที่อื่นล่ะเนี่ย เกะกะน่ารำคาญจริง! นึกบ่นในใจแต่ก็กลับมานั่งปวดหัวกับคำอธิบายการใช้เป็นภาษาอังกฤษบนซองยาต่อ
สาวหน้าหวานขมวดคิ้วเพราะเสียงเห่ายังดังรบกวนไม่เลิกเลยต้องไปแอบดูอยู่หลังผ้าม่านอีกครั้ง ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นรถคันนั้นยังจอดอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน! สองมือรีบปิดก่อนจะพาตัวเองไปนั่งขดตัวอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกที่เปิดไฟสลัวๆ ข่าวที่เห็นในอินเตอร์เนตเมื่อวันก่อนผุดขึ้นมาในความคิด ข่าวนักศึกษาหญิงถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดคาหอพัก มีพยานเห็นรถยนต์สีดำมาจอดดูลาดเลาอยู่ริมรั้วไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นหนึ่งวันก็มีคนพบว่าเธอเสียชีวิตเป็นศพอยู่ในห้องพัก ใบหน้าใสส่ายไปมา ไม่เอาน่ามันก็แค่ข่าวเอง รถนั่นไม่ใช่รถแบบในข่าวซักหน่อย ฟายกมือขึ้นปิดหูเพื่อปิดกลั้นตัวเองจากเสียงหมาเก่ากรรโชกที่ได้ดังมาจากหน้ารั้วบ้าน ถึงหงุดหงิดให้ตายแค่ไหนสาวเจ้าก็ไม่กล้าเดินออกไปเปิดประตูบ้านด่าหมาให้รู้แล้วรู้รอดไปหรอก เพราะเนื้อความในข่าวมันตามหลอนให้เธอเริ่มกลัวขึ้นมา....จนไม่กล้าอยู่คนเดียว
มือถือเครื่องจิ๋วถูกหยิบขึ้นมากำแน่น แต่...จะโทรหาใครล่ะ!"
ลมหายใจระบายจากจมูกเล็กๆ วันนี้ที่เธอหายตัวไปอยู่โรงพยาบาลตั้งหลายชั่วคงจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาไปทั่วคณะแล้วละมั้ง.....ขืนโทรให้ยัยคนขี้อิจฉาตัวแม่อย่างทิพยาดากับตัวกระจายข่าวชั้นเยี่ยมอย่างมินตรามา ได้ถูกซักเรื่องแผลที่หัวแน่
เพราะยัยนั่น! เพราะแฟนเก่ายัยนั่นอ่ะแหละ!! คิดแล้วก็ย่นจมูกแอบเซ็ง ถ้าหัวไม่แตกก็คงไม่ต้องมาอยู่คนเดียวแล้วเจออะไรแบบนี้หรอก ยิ่งคิดก็ยิ่งนึกโมโหตัวต้นเหตุอย่างมิ้นท์ขึ้นมา
ไวเท่าความคิดปลายนิ้วก็กดโทรออกไปยังปลายทางขึ้นมาทันที
....เสียงเรียกเข้าเฉพาะเจาะจงที่ตั้งให้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของเบอร์ดังขึ้น ทำให้คนที่เพิ่งจอดเปอร์เช่สีแดงสดเสร็จยังไม่ทันได้ลงจากรถ ต้องหยิบมันขึ้นมารับสาย
"มีอะไร..."
"อยู่ไหนอ่ะ"
มิ้นท์เลิกคิ้วที่ถูกจี้ถาม "จะรู้ไปทำไม"
อะไรเนี่ย กวนประสาทชะมัด.....เรารึอุส่าถามดีๆ "มาหาฟาหน่อยสิคะ" ถึงในใจจะคิดหมั่นไส้แต่ก็ต้องแอ๊บเสียงใสออดอ้อนเข้าไว้
"ธุระไม่ใช่" แน่นอนว่าโดนปฏิเสธทันทีทันใด
"ฟะ...ฟา กลัว หน้าบ้านมีรถที่ไหนไม่รู้มาจอด มันมาจอดเฝ้าฟาแน่เลยตั้งนานแล้วยังไม่ไปไหนเลย!" กลัวไหมก็กลัวจริงๆอยู่เหมือนกัน ไม่งั้นถึงไม่โทรหาคนที่ไม่ชอบหน้ากันได้หรอก
"หือ หัวกระแทกจนเห็นภาพหลอนไปแล้วรึไง งั้นพาไปเช็คที่โรงบาลอีกทีดีไหม" สาวสวยหัวเราะในลำคอ
"ภาพหลอนที่ไหนเล่า ไม่ได้ยินเสียงหมาเห่ารึไง"
"จะอะไรมากมาย เดี๋ยวเค้าก็ไปเองแหละ" มิ้นท์ขมวดคิ้วจะว่าไปก็มีเสียงสุนัขเห่าดังน่ารำคาญลอดมาให้ได้ยินบ้างอยู่เหมือนกัน
ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันกับประโยคกวนโอ้ยที่ทำเหมือนไม่รับไม่รู้อะไรบ้างเลย
"มาหาฟาเดี๋ยวนี้เลยนะ!" เสียงใสวีนใส่
"มีสิทธิอะไรมาสั่งชั้น" สาวสวยเหวี่ยงกลับมาทันควัน
หน็อย! สิทธิ์อะไรงั้นเหรอ "ก็สิทธิที่เธอต้องดูแลชั้นไง" ไพ่ตายใบเด็ดถูกนำมาใช้
"ชั้นก็ให้คนพาเธอไปส่งถึงบ้านแล้วนี่" ปลายสายยียวนกลับ
"อ่อ...พูดต่อหน้าอธิการซะดิบดีว่าดูแลรับผิดชอบให้ พอลับหลังก็ก็ใช้คนอื่นมาทำแทน คนอย่างเธอมันก็แค่พวกดีแต่ปากไม่มีปัญญาทำได้จริงหรอก หน้าไหว้หลังหลอกผู้ใหญ่ชัดๆ" เสียงใสเย้ยยั่นเชิงดูหมิ่นทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
จริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวหามาซักนิด ค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากนั้นรึก็รับผิดชอบให้หมด เพียงแค่คิดว่าไม่ใช่คนสำคัญอะไรมากมายแค่ส่งคนไปรับไปส่งก็พอแล้ว
ริมฝีปากบางเหยียดยิ้ม ถึงจะไม่ชอบอยู่ใกล้พวกโลกสวยแอ๊บแหลแต่ในกรณีที่อีกฝ่ายทำตัวน่าหมั่นไส้ขึ้นมามันก็พาลให้อยากสนองให้แบบเป็นพิเศษซักหน่อย
"หึ คิดงั้นเหรอ งั้นอีก10นาทีเปิดบ้านได้รอเลย!" พูดจบก็ตัดสายไปดื้อๆให้ปลายทางได้ย่นจมูกใส่ นิสัยเสียอ่ะ นึกจะวางก็วาง... ฟาหรี่ตา
ม.อยู่ห่างจากตัวเมืองตั้งเยอะ อย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาซัก30นาทีล่ะนะ บอกว่าจะมาใน10นาทีเนี่ยนะ ยัยนั่นบินมารึไง! ใบหน้าหวานส่ายไปมา....
...
แสงไฟสาดส่องมาตามถนนสะท้อนเข้ากับรถยนต์สีดำทำให้รถคันดังกล่าวต้องติดเครื่องและรีบแล่นออกไปจากรั้วอิฐ โดยมีเสียงสุนัขเห่ากรรโชกไล่หลังจนเงียบเสียงลง
นัยน์ตาสีเทาหรี่ลง...แม้จะได้เห็นเงารถคันนั้นใต้แสงสลัวๆแต่ก็พอจะเก็บลายละเอียดมาได้บ้าง มีจริงๆด้วยรถที่ยัยนั่นบอก
สาวสวยเอนหลังพิงเบาะเอื้อมมือไปหยิบมือถือเครื่องจิ๋วมากดต่อสาย "ชั้นเองนะ อยากให้ช่วยหาข้อมูลรถให้หน่อย sedan สีดำ โซนยุโรป" แม้จะได้เห็นเงารถคันนั้นใต้แสงสลัวๆแต่ก็พอจะเก็บลายละเอียดมาได้บ้าง
"อืม อาจจะยากไปหน่อยแต่ชั้นอยากรู้ว่าใครเป็นเจ้าของมันน่ะ" ริมฝีปากบางเยียดยิ้ม รถนำเข้าจากยุโรปราคาไม่ใช่เล่นๆแบบนั้นสามารถบ่งบอกฐานเป็นใบเบิกทางไปสู่ผู้ครอบครองได้แน่นอน
ที่เหลือก็.... มิ้นท์มองไปที่บ้านหลังใหญ่ที่มีแสงไฟสว่างจ้าอยู่หลังประตูรั้วโลหะ
.....เสียงหมาเห่าเงียบลงทำให้สาวหน้าหวานค่อยๆยืดขานั่งในท่าผ่อนคลาย แต่กลับมีเสียงเรียกเข้าจากมือถือให้เธอสะดุ้งสุดตัวขึ้นมา
"ฮะ..ฮาโหล" เสียงใสสะล่ำสะลักไปตามสาย
"หัดมองมาหน้าบ้านมั่ง...." กลับมีเพียงถ้อยคำกวนประสาทตอบกลับมาแล้วก็ตัดสายไปดื้อๆ
พอรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูบ้านก็เห็นสาวสวยยืนกอดอกพิงรถคันหรูด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อยู่นอกประตูรั้ว ... ฟานั่งมองแขกที่มายามวิกาลในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มขายาว ใบหน้าสวยไร้การแต่งแต้มรับกับริมฝีปากบางสีแดงระเรื่อ ผมสีแดงที่ถูกรวบเป็นหางม้าทิ้งตัวลู่ไปตามหลัง และนัยน์ตาสีเทาที่โดดเด่นสะดุดตา ถึงจะอยู่ในชุดลำลองที่สุดแสนธรรมดาแต่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังสวย...ดึงสายตาให้ชวนมองได้อยู่ดี คนบ้าอะไรเนี่ย....ขนาดใส่เสื้อยืดเกงวอร์มยังดูดีได้อีก
ดวงตากลมโตจับจ้องไม่วางตาแต่กลับทำให้เจ้าตัวหงุดหงิดขึ้นมา "เรียกอยากให้มาหาก็ไม่เห็นจะพูดอะไร....ถ้าไม่มีธุระอะไรชั้นกลับนะ" พูดพลางลุกขึ้นทำท่าจะไปจริงๆ
"ดะ...เดี๋ยว" มือเล็กคว้าชายเสื้อยืดไว้ได้ทัน "คิดว่าชั้นเรียกร้องอยากเจอมากนักรึไง"
มิ้นท์หรี่ตามองแล้วสะบัดตัวออก "งั้นก็รีบๆหายซักทีสิ จะได้ไม่ต้องมาเจอกันบ่อยๆ"
คนตัวเล็กไม่ตอบโต้แต่ลุกไปหยิบซองยาที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วขว้างไปหาสาวผมแดง
"อะไร...เอายาให้ชั้นดูทำไม"" คนรับเลิกคิ้วแล้วมองของในมือ
"ก็ดูวิธีใช้ในยาสิมีแต่ภาษาอังกฤษใครมันจะไปอ่านออก ชั้นไม่ได้เป็นลูกครึ่งอย่างเธอนะ"
นัยน์ตาสีเทามองซองแล้วมองใบหน้าหวานที่ส่งสายหมั่นไส้ให้ อ่อ งี้นี่เอง...... ริมฝีปากบางเผยยิ้มที่แตกต่างไปจากทุกทีพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ ตรึงสายอีกคนเอาไว้
....เสียงแค่เสี้ยววินาทีที่ได้เห็น.....รอยยิ้มที่แต่งแต้มใบหน้าสวยให้มองจนไม่อาจละสายตาไปได้
"มาใกล้ๆจะบอกว่ากินยังไง"
ฟาจำใจเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน แล้วฟังอีกฝ่ายอธิบายวิธีรับประทานยา
....เป็นครั้งแรกจริงๆที่ยัยคนปากร้ายพูดดีด้วย แถมยังบอกอย่างละเอียดเอาใจใส่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ต้องแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ที่คนตัวเล็กขยับเข้าไปใกล้จนไหล่บางเบียดเข้ากับต้นแขนเรียว แรงที่ถูกถ่ายมาโดนตัวทำให้นัยน์ตาสีเทาเหลือบมองใบหน้าหวานที่พริ้มตานั่งฟังอย่างตั้งใจ
ตอนที่พบกันครั้งแรกเธอเคยคิดว่าคนข้างๆน่ารัก แต่ดันนิสัยแย่ถึงขั้นไม่น่าคบเป็นเพื่อนเอาซะเลย ถึงจะไม่ชอบนิสัยก็เถอะ....ก็ต้องยอมรับว่ายัยนี่น่ารักมากจริงๆ ยิ่งมาคลอเคลียกันแบบนี้ยิ่งทำให้อยากอยู่ด้วยนานๆ
ใบหน้าสวยค่อยๆก้มลงมาหาคนข้างๆจนลมหายใจอุ่นๆรินรดใบหน้าหวาน ทำให้คนที่เผลอตัวเข้ามาใกล้ต้องรีบขยับถอย
"อะ..เอ่อ พอจะรู้แล้วว่าต้องกินยังไง ขอบใจนะ มิ้นท์อยากกลับก็กลับไปได้เลย" ฟารีบหันหน้าหนีไปทางอื่น ...โอ้ยนี่เราเผลอตัวไปใกล้ยัยนี่ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย!
แต่คำพูดเหมือนไล่กันทำให้สาวสวยขมวดคิ้ว "อะไร...พอหมดประโยชน์ก็ไล่กันเลยรึไง" ริมฝีปากบางส่งเสียงไม่พอใจ
"ก็บอกว่าไม่อยากอยู่ไม่ใช่เหรอ ก็รีบกลับไปสิ" คนตัวเล็กขยับถอยห่างกว่าเดิมแถมยังกอดอกราวกับป้องกันตัวเอง
มิ้นท์หรี่ตา หมดประโยชน์แล้วถีบหัวส่งเลยเรอะ! ริมฝีปากบางเยียดยิ้ม......คิดแล้วก็น่าหมั่นไส้
"กลับน่ะกลับแน่....แต่ขอของตอบแทนก่อน!"
ประโยคอันตรายทำให้คนถูกทวงถามสะดุ้ง "ของตอบแทนอะ..อะไรอีกล่ะ" ก่อนจะแกล้งทำเป็นลืมมัน
คิ้วเรียวเลิกสูง "อ่อต้องให้ทบทวนความจำ"
สาวสวยแสยะยิ้มขยับเข้าประชิดตัวอีกคนให้อยู่ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ สองแขนยกขึ้นท้าวขอบโซฟาเพื่อกันไม่ให้หนี นัยน์ตาสีน้ำตาลสบเข้ากับดวงตาคู่สวยเป็นประกายพราว
....จะหนีก็คงไม่รอดแน่ๆ เพราะงั้น......
ริมฝีปากอิ่มสัมผัสเรียวปากบางแผ่วเบาเพียงชั่วพริบตา ก่อนจะถอยห่าง
"ได้แล้วก็รีบกลับไปสิ!" ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความอับอายที่ต้องเป็นฝ่ายเข้าไปจูบผู้หญิงด้วยกันก่อน
สาวสวยกระตุกยิ้ม แค่นี้มันจะไปพออะไรล่ะ.....
สองมือดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแนบชิด เรียวปากบางทาบลงบนริมฝีปากอิ่ม ขบเม้มดูดดุลด้วยสัมผัสรุนแรงต่างไปจากเดิม ฟาตาโตดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนที่กระชับแน่นขึ้นไปอีก มือน้อยๆพยายามดันไหล่บางออกห่าง...แต่ไม่เป็นผล นัยน์ตาสีเทาหรี่มองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่อ ริมฝีปากที่จาบจ้วงค่อยๆเปลี่ยนมาคลอเคลียละมุนละไม ขบเม้มเบาๆให้คนที่ดิ้นไปมาค่อยๆหยุดนิ่ง ลิ้นร้อนแทรกผ่านเข้าไปไล้ลิ้นอุ่น ริมฝีปากอิ่มตอบรับสัมผัสไม่เป็นจังหวะจนใบหน้าสวยต้องขยับเปลี่ยนองศา
...จูบตอบไม่ได้เรื่องเลย สงสัยแฟนเก่ายัยนี่คงจูบห่วย... ก็ดี....ชั้นจะสอนให้เอง มิ้นท์คิดในใจก่อนจะจาบจ้วงลิ้มความหอมหวานจากริมฝีปากอิ่มอย่างเอาแต่ใจจนคนตัวเล็กเริ่มหายใจติดขัดจนดึงรั้งเสื้อยืดสีสดราวกับท้วงติง สาวสวยจึงถอนริมฝีปากก่อนจะกดลงบนริมฝีปากอิ่มอีกครั้งให้ใบหน้าหวานเอียงรับสัมผัสหนักหน่วงอีกครั้ง.... สองมือที่เคยผลักไสกลับดึงรั้งยึดราวกับยึดเหนี่ยวเอาไว้
สัมผัสแสนหวานที่ไม่เคยได้รับจากมาก่อน..... ทั้งรุนแรง เร่าร้อนและละมุนละไม
มิ้นท์ไล้มือไปตามไหล่เล็กจนเลื่อนผ่านเข้ามาในเสื้อนอนสีหวาน .....ความร้อนที่ถ่ายจากนิ้วเรียวไปสู่ผิวกายช่วยดึงสติที่ล่องลอยไปไกลให้กลับมา ฟาลืมตาขึ้นมามองใบหน้าสวยที่อยู่แนบชิด
ตะ..ตั้งเมื่อไรเนี่ยไม่รู้ตัวเลย มะ...มือไว..เกินไปแล้ว!! คนตัวเล็กขยับตัวหนีทันที สองมือดันไหล่บางให้ถอยออกห่าง
"พะ..พอใจแล้วก็กลับไปสิ!" เสียงใสระล่ำระลัก จมูกน้อยๆระบายลมหายใจติดขัด ยัยนี่เป็นตัวอันตรายชัด...เผลอๆอาจจะอันตรายกว่าไอ้รถน่าสงสัยคันนั้นซะอีก
นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องภาพตรงหน้าไม่วางตา ริมฝีปากบางยกยิ้มพึงพอใจ "อื้อ" บอกแล้วยักไหล่ด้วยท่าทีกวนประสาท
"รีบๆไปซักที ง่วงจะนอนแล้ว" คนตัวเล็กรีบกอดอกนั่งเอนหลังพิงโซฟาราวกับป้องกันตัว
"อ่อ....เพิ่งรู้นะว่าหลานอธิการเป็นเด็กอนามัยกับเค้าด้วย งั้นก็ฝันดีละกัน" มิ้นท์ลุกขึ้นแต่ยังไม่วายส่งคำพูดยียวนใส่ก่อนจะเดินไปที่ประตูไม้บานใหญ่ พอเห็นแขกที่จำใจเชิญมากำลังจะกลับเจ้าของบ้านก็รีบลุกจากโซฟาวิ่งไปปิดประตูใส่ราวกับขับไล่ไสส่ง สาวสวยเลยแค่นหัวเราะแล้วเดินออกไปทางรถคันหรูที่จอดอยู่นอกรั้ว หึ...เธอนี่มันน่าหมั่นไส้จนอยากจะแกล้งให้หนักจริงๆเลย...ฟา
...
ทันทีที่คนหัวแดงเดินออกไปพ้นหน้า ขาก็พาลอ่อนแรงให้ทรุดลงนั่งอยู่หน้าประตู มือเล็กๆยกขึ้นทาบแก้มที่ร้อนผ่าว ทั้งอาย ทั้งโกรธ ไหนจะเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาอีก ฟาซุกหน้าลงบนฝ่ามือ ถึงจะโกรธอีกฝ่ายมากแค่ไหน แต่กลับโกรธตัวเองมากกว่าที่ไม่นึกรังเกียจสัมผัสจากริมฝีปากบางนั่น.....
นิ้วเรียวยกขึ้นไล้ริมฝีปากอ้อยอิ่ง จูบกับผู้หญิง....มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ใบหน้าหวานส่ายไปมากับความคิดของตัวเอง เธอเลยตัดสินใจเข้านอนก่อนที่จะเผลอคิดอะไรฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|