web stats

ข่าว

 


kiss me kill me 14

โพสต์โดย: Nekoyu วันที่: 23 ธันวาคม 2014 เวลา 03:48:21 อ่าน: 749


...


กุลธิดามายืนหน้ามุ้ยอยู่หน้ากำแพงอิฐสีซีด......

สุดท้ายแล้วคนที่ออกปากกับป้าเธอว่าจะรับผิดชอบให้เป็นอย่างดีก็หายหัวไปตั้งแต่เช้ามืด   แถมยังให้ผู้ชายผิวสีที่ชอบยิ้มโชว์ฟันขาวมารับตอนออกจากโรงพยาบาลอีก  แทนที่ได้ออกจากโรงพยาบาลจะรู้สึกดีขึ้นกับต้องมาปวดหัวใช้ภาษาอังกฤษอันแสนอ่อนแอสื่อสารเพื่อบอกทางกลับบ้านอีก    สุดท้ายผู้ชายคนนั้นก็พามาส่งถึงที่อย่างทุลักทุเล

หลังจากเก็บของเข้าที่เสร็จเรียบร้อยสาวหน้าหวานก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆ   แล้วถือถุงยาเจ้าปัญหามายืนอ่านอยู่ในห้องครัว   มือเล็กยกขึ้นแตะหน้าผากเบาๆ 
"ปะ..ปวดเอาเรื่องเหมือนกันนี่"
ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้ากันเมื่อเรื่องปวดแผลที่เคยโกหกเมื่อวานดันมาเป็นจริงในวันนี้ซะงั้น   ปกติก็ไม่ใช่คนที่ทานยาได้ง่ายๆซะด้วย  แค่อย่างเดียวยังต้องแทบกลั้นใจกินแต่นี่ได้มาแบบยกถุง!   เลยจับถุงยาเทซองบรรจุยาให้เกลื่อนเต็มโต๊ะ

ฟาขมวดคิ้วใส่กองซองยาที่มีคำแนะนำการใช้กับลายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ 
"โอ้ย!  มีแต่ภาษาอังกฤษจะรู้เรื่องไหมแล้วจะกินไงถูกล่ะ"
พอมองโลโก้ชื่อของโรงพยาบาลก็ยิ่งหนักใจ
โดมินิคเดรย์ โมเมเรียล   โรงพยาบาลเอกชนสุดหรูระดับอินเตอร์ที่มีคนไข้ระดับนักธุรกิจพันล้านและชาวต่างชาติกระเป๋าหนักไปใช้บริการ    เพียงแค่นี้ก็ความคิดคนอ่อนด้อยภาษาก็เลยยิ่งมืดแปดด้านข้าไปอีก

เสียงหมาเห่ากรรโชกดังขึ้นมาเกือบทำให้คนตัวเล็กทำซองยาหลุดจากมือ
หมาบ้านี่จะเห่าอะไรหนักหนา   ตกใจหมด...
ฟาคิดพลางก้มลงเก็บซองยาบนพื้น  แล้วลากเก้าอี้มานั่งดูยาซองอื่น   แต่เสียงเห่าคำรามก็ยังดังไม่ขาดสายจนเธอต้องแอบแง้มม่านมองไปที่ถนนผ่านหน้าต่างเล็กๆในครัว   นัยน์ตาสีน้ำตาลจับจ้องไปยังรถยนต์คันสีดำที่จอดอยู่หน้ารั้วบ้านตัวเอง

สงสัยจะมาบ้านข้างๆแล้วทำไมไม่เอาไปจอดที่อื่นล่ะเนี่ย   เกะกะน่ารำคาญจริง!
นึกบ่นในใจแต่ก็กลับมานั่งปวดหัวกับคำอธิบายการใช้เป็นภาษาอังกฤษบนซองยาต่อ

สาวหน้าหวานขมวดคิ้วเพราะเสียงเห่ายังดังรบกวนไม่เลิกเลยต้องไปแอบดูอยู่หลังผ้าม่านอีกครั้ง   ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นรถคันนั้นยังจอดอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน!
   สองมือรีบปิดก่อนจะพาตัวเองไปนั่งขดตัวอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกที่เปิดไฟสลัวๆ   ข่าวที่เห็นในอินเตอร์เนตเมื่อวันก่อนผุดขึ้นมาในความคิด   
   ข่าวนักศึกษาหญิงถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดคาหอพัก  มีพยานเห็นรถยนต์สีดำมาจอดดูลาดเลาอยู่ริมรั้วไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นหนึ่งวันก็มีคนพบว่าเธอเสียชีวิตเป็นศพอยู่ในห้องพัก
   
   ใบหน้าใสส่ายไปมา
   ไม่เอาน่ามันก็แค่ข่าวเอง  รถนั่นไม่ใช่รถแบบในข่าวซักหน่อย
   ฟายกมือขึ้นปิดหูเพื่อปิดกลั้นตัวเองจากเสียงหมาเก่ากรรโชกที่ได้ดังมาจากหน้ารั้วบ้าน   ถึงหงุดหงิดให้ตายแค่ไหนสาวเจ้าก็ไม่กล้าเดินออกไปเปิดประตูบ้านด่าหมาให้รู้แล้วรู้รอดไปหรอก   เพราะเนื้อความในข่าวมันตามหลอนให้เธอเริ่มกลัวขึ้นมา....จนไม่กล้าอยู่คนเดียว

   มือถือเครื่องจิ๋วถูกหยิบขึ้นมากำแน่น
   แต่...จะโทรหาใครล่ะ!"

   ลมหายใจระบายจากจมูกเล็กๆ 
   วันนี้ที่เธอหายตัวไปอยู่โรงพยาบาลตั้งหลายชั่วคงจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาไปทั่วคณะแล้วละมั้ง.....ขืนโทรให้ยัยคนขี้อิจฉาตัวแม่อย่างทิพยาดากับตัวกระจายข่าวชั้นเยี่ยมอย่างมินตรามา   ได้ถูกซักเรื่องแผลที่หัวแน่

    เพราะยัยนั่น!  เพราะแฟนเก่ายัยนั่นอ่ะแหละ!!
   คิดแล้วก็ย่นจมูกแอบเซ็ง  ถ้าหัวไม่แตกก็คงไม่ต้องมาอยู่คนเดียวแล้วเจออะไรแบบนี้หรอก   ยิ่งคิดก็ยิ่งนึกโมโหตัวต้นเหตุอย่างมิ้นท์ขึ้นมา

   ไวเท่าความคิดปลายนิ้วก็กดโทรออกไปยังปลายทางขึ้นมาทันที

   ....เสียงเรียกเข้าเฉพาะเจาะจงที่ตั้งให้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของเบอร์ดังขึ้น  ทำให้คนที่เพิ่งจอดเปอร์เช่สีแดงสดเสร็จยังไม่ทันได้ลงจากรถ   ต้องหยิบมันขึ้นมารับสาย

"มีอะไร..."

"อยู่ไหนอ่ะ"

มิ้นท์เลิกคิ้วที่ถูกจี้ถาม
"จะรู้ไปทำไม"

อะไรเนี่ย  กวนประสาทชะมัด.....เรารึอุส่าถามดีๆ
"มาหาฟาหน่อยสิคะ"
ถึงในใจจะคิดหมั่นไส้แต่ก็ต้องแอ๊บเสียงใสออดอ้อนเข้าไว้

"ธุระไม่ใช่"
แน่นอนว่าโดนปฏิเสธทันทีทันใด

"ฟะ...ฟา   กลัว  หน้าบ้านมีรถที่ไหนไม่รู้มาจอด  มันมาจอดเฝ้าฟาแน่เลยตั้งนานแล้วยังไม่ไปไหนเลย!"
กลัวไหมก็กลัวจริงๆอยู่เหมือนกัน  ไม่งั้นถึงไม่โทรหาคนที่ไม่ชอบหน้ากันได้หรอก

"หือ  หัวกระแทกจนเห็นภาพหลอนไปแล้วรึไง  งั้นพาไปเช็คที่โรงบาลอีกทีดีไหม"
สาวสวยหัวเราะในลำคอ

"ภาพหลอนที่ไหนเล่า  ไม่ได้ยินเสียงหมาเห่ารึไง"

"จะอะไรมากมาย เดี๋ยวเค้าก็ไปเองแหละ"
มิ้นท์ขมวดคิ้วจะว่าไปก็มีเสียงสุนัขเห่าดังน่ารำคาญลอดมาให้ได้ยินบ้างอยู่เหมือนกัน

ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันกับประโยคกวนโอ้ยที่ทำเหมือนไม่รับไม่รู้อะไรบ้างเลย

"มาหาฟาเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
เสียงใสวีนใส่

"มีสิทธิอะไรมาสั่งชั้น"
สาวสวยเหวี่ยงกลับมาทันควัน

หน็อย!  สิทธิ์อะไรงั้นเหรอ 
"ก็สิทธิที่เธอต้องดูแลชั้นไง"
ไพ่ตายใบเด็ดถูกนำมาใช้

"ชั้นก็ให้คนพาเธอไปส่งถึงบ้านแล้วนี่"
ปลายสายยียวนกลับ

"อ่อ...พูดต่อหน้าอธิการซะดิบดีว่าดูแลรับผิดชอบให้    พอลับหลังก็ก็ใช้คนอื่นมาทำแทน    คนอย่างเธอมันก็แค่พวกดีแต่ปากไม่มีปัญญาทำได้จริงหรอก  หน้าไหว้หลังหลอกผู้ใหญ่ชัดๆ"
เสียงใสเย้ยยั่นเชิงดูหมิ่นทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน   

จริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวหามาซักนิด   ค่ารักษาพยาบาลจำนวนมากนั้นรึก็รับผิดชอบให้หมด  เพียงแค่คิดว่าไม่ใช่คนสำคัญอะไรมากมายแค่ส่งคนไปรับไปส่งก็พอแล้ว   

ริมฝีปากบางเหยียดยิ้ม   ถึงจะไม่ชอบอยู่ใกล้พวกโลกสวยแอ๊บแหลแต่ในกรณีที่อีกฝ่ายทำตัวน่าหมั่นไส้ขึ้นมามันก็พาลให้อยากสนองให้แบบเป็นพิเศษซักหน่อย

"หึ  คิดงั้นเหรอ  งั้นอีก10นาทีเปิดบ้านได้รอเลย!"
พูดจบก็ตัดสายไปดื้อๆให้ปลายทางได้ย่นจมูกใส่
นิสัยเสียอ่ะ นึกจะวางก็วาง...     ฟาหรี่ตา

ม.อยู่ห่างจากตัวเมืองตั้งเยอะ อย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาซัก30นาทีล่ะนะ  บอกว่าจะมาใน10นาทีเนี่ยนะ    ยัยนั่นบินมารึไง!
ใบหน้าหวานส่ายไปมา....

...

แสงไฟสาดส่องมาตามถนนสะท้อนเข้ากับรถยนต์สีดำทำให้รถคันดังกล่าวต้องติดเครื่องและรีบแล่นออกไปจากรั้วอิฐ   โดยมีเสียงสุนัขเห่ากรรโชกไล่หลังจนเงียบเสียงลง

นัยน์ตาสีเทาหรี่ลง...แม้จะได้เห็นเงารถคันนั้นใต้แสงสลัวๆแต่ก็พอจะเก็บลายละเอียดมาได้บ้าง
มีจริงๆด้วยรถที่ยัยนั่นบอก     

สาวสวยเอนหลังพิงเบาะเอื้อมมือไปหยิบมือถือเครื่องจิ๋วมากดต่อสาย
"ชั้นเองนะ   อยากให้ช่วยหาข้อมูลรถให้หน่อย  sedan สีดำ โซนยุโรป"
แม้จะได้เห็นเงารถคันนั้นใต้แสงสลัวๆแต่ก็พอจะเก็บลายละเอียดมาได้บ้าง

"อืม  อาจจะยากไปหน่อยแต่ชั้นอยากรู้ว่าใครเป็นเจ้าของมันน่ะ"
ริมฝีปากบางเยียดยิ้ม   รถนำเข้าจากยุโรปราคาไม่ใช่เล่นๆแบบนั้นสามารถบ่งบอกฐานเป็นใบเบิกทางไปสู่ผู้ครอบครองได้แน่นอน

ที่เหลือก็....
มิ้นท์มองไปที่บ้านหลังใหญ่ที่มีแสงไฟสว่างจ้าอยู่หลังประตูรั้วโลหะ


.....เสียงหมาเห่าเงียบลงทำให้สาวหน้าหวานค่อยๆยืดขานั่งในท่าผ่อนคลาย   แต่กลับมีเสียงเรียกเข้าจากมือถือให้เธอสะดุ้งสุดตัวขึ้นมา

"ฮะ..ฮาโหล"
เสียงใสสะล่ำสะลักไปตามสาย

"หัดมองมาหน้าบ้านมั่ง...."
กลับมีเพียงถ้อยคำกวนประสาทตอบกลับมาแล้วก็ตัดสายไปดื้อๆ

พอรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูบ้านก็เห็นสาวสวยยืนกอดอกพิงรถคันหรูด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อยู่นอกประตูรั้ว
...
ฟานั่งมองแขกที่มายามวิกาลในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มขายาว    ใบหน้าสวยไร้การแต่งแต้มรับกับริมฝีปากบางสีแดงระเรื่อ   ผมสีแดงที่ถูกรวบเป็นหางม้าทิ้งตัวลู่ไปตามหลัง    และนัยน์ตาสีเทาที่โดดเด่นสะดุดตา   ถึงจะอยู่ในชุดลำลองที่สุดแสนธรรมดาแต่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังสวย...ดึงสายตาให้ชวนมองได้อยู่ดี
คนบ้าอะไรเนี่ย....ขนาดใส่เสื้อยืดเกงวอร์มยังดูดีได้อีก

ดวงตากลมโตจับจ้องไม่วางตาแต่กลับทำให้เจ้าตัวหงุดหงิดขึ้นมา
"เรียกอยากให้มาหาก็ไม่เห็นจะพูดอะไร....ถ้าไม่มีธุระอะไรชั้นกลับนะ"
พูดพลางลุกขึ้นทำท่าจะไปจริงๆ

"ดะ...เดี๋ยว" 
 มือเล็กคว้าชายเสื้อยืดไว้ได้ทัน 
 "คิดว่าชั้นเรียกร้องอยากเจอมากนักรึไง"

มิ้นท์หรี่ตามองแล้วสะบัดตัวออก
"งั้นก็รีบๆหายซักทีสิ  จะได้ไม่ต้องมาเจอกันบ่อยๆ"

คนตัวเล็กไม่ตอบโต้แต่ลุกไปหยิบซองยาที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วขว้างไปหาสาวผมแดง

"อะไร...เอายาให้ชั้นดูทำไม""
คนรับเลิกคิ้วแล้วมองของในมือ

"ก็ดูวิธีใช้ในยาสิมีแต่ภาษาอังกฤษใครมันจะไปอ่านออก   ชั้นไม่ได้เป็นลูกครึ่งอย่างเธอนะ"


นัยน์ตาสีเทามองซองแล้วมองใบหน้าหวานที่ส่งสายหมั่นไส้ให้
อ่อ  งี้นี่เอง......
ริมฝีปากบางเผยยิ้มที่แตกต่างไปจากทุกทีพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ  ตรึงสายอีกคนเอาไว้

....เสียงแค่เสี้ยววินาทีที่ได้เห็น.....รอยยิ้มที่แต่งแต้มใบหน้าสวยให้มองจนไม่อาจละสายตาไปได้

"มาใกล้ๆจะบอกว่ากินยังไง"

ฟาจำใจเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน    แล้วฟังอีกฝ่ายอธิบายวิธีรับประทานยา

....เป็นครั้งแรกจริงๆที่ยัยคนปากร้ายพูดดีด้วย  แถมยังบอกอย่างละเอียดเอาใจใส่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน    ต้องแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ที่คนตัวเล็กขยับเข้าไปใกล้จนไหล่บางเบียดเข้ากับต้นแขนเรียว     แรงที่ถูกถ่ายมาโดนตัวทำให้นัยน์ตาสีเทาเหลือบมองใบหน้าหวานที่พริ้มตานั่งฟังอย่างตั้งใจ     

ตอนที่พบกันครั้งแรกเธอเคยคิดว่าคนข้างๆน่ารัก  แต่ดันนิสัยแย่ถึงขั้นไม่น่าคบเป็นเพื่อนเอาซะเลย   
ถึงจะไม่ชอบนิสัยก็เถอะ....ก็ต้องยอมรับว่ายัยนี่น่ารักมากจริงๆ  ยิ่งมาคลอเคลียกันแบบนี้ยิ่งทำให้อยากอยู่ด้วยนานๆ

ใบหน้าสวยค่อยๆก้มลงมาหาคนข้างๆจนลมหายใจอุ่นๆรินรดใบหน้าหวาน   ทำให้คนที่เผลอตัวเข้ามาใกล้ต้องรีบขยับถอย

"อะ..เอ่อ  พอจะรู้แล้วว่าต้องกินยังไง   ขอบใจนะ  มิ้นท์อยากกลับก็กลับไปได้เลย"
ฟารีบหันหน้าหนีไปทางอื่น 
...โอ้ยนี่เราเผลอตัวไปใกล้ยัยนี่ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย!

แต่คำพูดเหมือนไล่กันทำให้สาวสวยขมวดคิ้ว
"อะไร...พอหมดประโยชน์ก็ไล่กันเลยรึไง"
ริมฝีปากบางส่งเสียงไม่พอใจ

"ก็บอกว่าไม่อยากอยู่ไม่ใช่เหรอ ก็รีบกลับไปสิ"
คนตัวเล็กขยับถอยห่างกว่าเดิมแถมยังกอดอกราวกับป้องกันตัวเอง


มิ้นท์หรี่ตา   
หมดประโยชน์แล้วถีบหัวส่งเลยเรอะ! 
ริมฝีปากบางเยียดยิ้ม......คิดแล้วก็น่าหมั่นไส้ 

"กลับน่ะกลับแน่....แต่ขอของตอบแทนก่อน!"

ประโยคอันตรายทำให้คนถูกทวงถามสะดุ้ง   
"ของตอบแทนอะ..อะไรอีกล่ะ"
ก่อนจะแกล้งทำเป็นลืมมัน


คิ้วเรียวเลิกสูง
"อ่อต้องให้ทบทวนความจำ"

สาวสวยแสยะยิ้มขยับเข้าประชิดตัวอีกคนให้อยู่ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ     สองแขนยกขึ้นท้าวขอบโซฟาเพื่อกันไม่ให้หนี     นัยน์ตาสีน้ำตาลสบเข้ากับดวงตาคู่สวยเป็นประกายพราว

....จะหนีก็คงไม่รอดแน่ๆ   เพราะงั้น......

ริมฝีปากอิ่มสัมผัสเรียวปากบางแผ่วเบาเพียงชั่วพริบตา ก่อนจะถอยห่าง   

"ได้แล้วก็รีบกลับไปสิ!"
ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความอับอายที่ต้องเป็นฝ่ายเข้าไปจูบผู้หญิงด้วยกันก่อน

สาวสวยกระตุกยิ้ม    แค่นี้มันจะไปพออะไรล่ะ.....

สองมือดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแนบชิด    เรียวปากบางทาบลงบนริมฝีปากอิ่ม   ขบเม้มดูดดุลด้วยสัมผัสรุนแรงต่างไปจากเดิม    ฟาตาโตดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนที่กระชับแน่นขึ้นไปอีก   มือน้อยๆพยายามดันไหล่บางออกห่าง...แต่ไม่เป็นผล
นัยน์ตาสีเทาหรี่มองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่อ    ริมฝีปากที่จาบจ้วงค่อยๆเปลี่ยนมาคลอเคลียละมุนละไม  ขบเม้มเบาๆให้คนที่ดิ้นไปมาค่อยๆหยุดนิ่ง     ลิ้นร้อนแทรกผ่านเข้าไปไล้ลิ้นอุ่น    ริมฝีปากอิ่มตอบรับสัมผัสไม่เป็นจังหวะจนใบหน้าสวยต้องขยับเปลี่ยนองศา

...จูบตอบไม่ได้เรื่องเลย  สงสัยแฟนเก่ายัยนี่คงจูบห่วย...  ก็ดี....ชั้นจะสอนให้เอง
มิ้นท์คิดในใจก่อนจะจาบจ้วงลิ้มความหอมหวานจากริมฝีปากอิ่มอย่างเอาแต่ใจจนคนตัวเล็กเริ่มหายใจติดขัดจนดึงรั้งเสื้อยืดสีสดราวกับท้วงติง     สาวสวยจึงถอนริมฝีปากก่อนจะกดลงบนริมฝีปากอิ่มอีกครั้งให้ใบหน้าหวานเอียงรับสัมผัสหนักหน่วงอีกครั้ง....  สองมือที่เคยผลักไสกลับดึงรั้งยึดราวกับยึดเหนี่ยวเอาไว้

สัมผัสแสนหวานที่ไม่เคยได้รับจากมาก่อน.....  ทั้งรุนแรง  เร่าร้อนและละมุนละไม   

มิ้นท์ไล้มือไปตามไหล่เล็กจนเลื่อนผ่านเข้ามาในเสื้อนอนสีหวาน   .....ความร้อนที่ถ่ายจากนิ้วเรียวไปสู่ผิวกายช่วยดึงสติที่ล่องลอยไปไกลให้กลับมา   ฟาลืมตาขึ้นมามองใบหน้าสวยที่อยู่แนบชิด

ตะ..ตั้งเมื่อไรเนี่ยไม่รู้ตัวเลย มะ...มือไว..เกินไปแล้ว!!
คนตัวเล็กขยับตัวหนีทันที สองมือดันไหล่บางให้ถอยออกห่าง

"พะ..พอใจแล้วก็กลับไปสิ!"
เสียงใสระล่ำระลัก  จมูกน้อยๆระบายลมหายใจติดขัด   ยัยนี่เป็นตัวอันตรายชัด...เผลอๆอาจจะอันตรายกว่าไอ้รถน่าสงสัยคันนั้นซะอีก

นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องภาพตรงหน้าไม่วางตา   ริมฝีปากบางยกยิ้มพึงพอใจ
"อื้อ"
บอกแล้วยักไหล่ด้วยท่าทีกวนประสาท   

"รีบๆไปซักที ง่วงจะนอนแล้ว"
คนตัวเล็กรีบกอดอกนั่งเอนหลังพิงโซฟาราวกับป้องกันตัว

"อ่อ....เพิ่งรู้นะว่าหลานอธิการเป็นเด็กอนามัยกับเค้าด้วย  งั้นก็ฝันดีละกัน"
มิ้นท์ลุกขึ้นแต่ยังไม่วายส่งคำพูดยียวนใส่ก่อนจะเดินไปที่ประตูไม้บานใหญ่    พอเห็นแขกที่จำใจเชิญมากำลังจะกลับเจ้าของบ้านก็รีบลุกจากโซฟาวิ่งไปปิดประตูใส่ราวกับขับไล่ไสส่ง   สาวสวยเลยแค่นหัวเราะแล้วเดินออกไปทางรถคันหรูที่จอดอยู่นอกรั้ว
หึ...เธอนี่มันน่าหมั่นไส้จนอยากจะแกล้งให้หนักจริงๆเลย...ฟา

...

   ทันทีที่คนหัวแดงเดินออกไปพ้นหน้า   ขาก็พาลอ่อนแรงให้ทรุดลงนั่งอยู่หน้าประตู     มือเล็กๆยกขึ้นทาบแก้มที่ร้อนผ่าว    ทั้งอาย    ทั้งโกรธ   ไหนจะเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมาอีก     
   ฟาซุกหน้าลงบนฝ่ามือ   
   ถึงจะโกรธอีกฝ่ายมากแค่ไหน   แต่กลับโกรธตัวเองมากกว่าที่ไม่นึกรังเกียจสัมผัสจากริมฝีปากบางนั่น.....

   นิ้วเรียวยกขึ้นไล้ริมฝีปากอ้อยอิ่ง 
   จูบกับผู้หญิง....มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
   ใบหน้าหวานส่ายไปมากับความคิดของตัวเอง   เธอเลยตัดสินใจเข้านอนก่อนที่จะเผลอคิดอะไรฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้

   

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น