Beauty And The Boss-Chapter 6 : Too Cold To Handle
โพสต์โดย:
anhann
วันที่: 05 ธันวาคม 2014 เวลา 21:45:04
อ่าน: 671
|
Chapter 6 : Too Cold To Handle
เจย์ละสายตาจากจอโน้ตบุ๊คเมื่อรู้สึกล้า ร่างบางบิดตัวเหมือนแมวให้คลายความเมื่อยขบจากการนั่งท่าเดียวมาเป็นเวลานาน ตอนนี้เองที่สายตาเธอบังเอิญมองไปเจอใคร ใครบางคนที่น็อตคาที่ทั้งกอดสมุดสเก็ตภาพเอาไว้แนบอกอยู่บนโซฟาข้างกัน หญิงสาวสั่นหัว ไหนบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อน ดันหลับไปเสียแล้ว
อืม.. แต่ยิ่งดึกก็ยิ่งหนาวนะ..
ดวงตาสีน้ำตาลมองไปที่เตาผิงที่ปกติไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่เพราะความขี้เกียจก่อไฟเติมฟืนของเธอ เวลาเทย์เลอร์อยู่นั่นแหละ มันถึงจะได้ใช้ น้องเทย์จะต้องถูกใช้งานให้ก่อไฟและยามหน้าบ้านก็ต้องเป็นคนหาฟืนมายื่นให้เค้า ส่วนเธอหรือก็มีหน้าที่นั่งชื่นชมความงามของแสงสีส้มอมเหลืองที่เกิดจากฝีมือน้อง สองมือบางขาวจัดประคองแก้วช็อคโกแลตร้อนควันลอยฟุ้ง
แต่ตอนนี้ใครจะทำแบบนั้นให้ เทย์ยังไม่มา...
สาวลูกครึ่งทำหน้าเศร้าอยู่ชั่ววิแล้วสั่นหัว เธอยืดตัวขึ้นยืนและเดินไปหาฟืนในกล่องที่น้องเตรียมเอาไว้สำหรับหน้าหนาวนี้มาใส่ในเตา มันไม่ได้ยากนักหรอกแค่ก่อไฟในนี้ ตอนเด็กกว่านี้เธอก็เป็นคนทำจนกระทั่งน้องโตพอที่จะทำได้ เค้าก็รับอาสาทำให้ แต่สงสัยเธอจะไม่ได้ทำนานไปหน่อย จุดเท่าไหร่มันถึงไม่ติดสักที บางทีคงถึงเวลาต้องเปลี่ยนเป็นแบบเตาผิงไฟฟ้าแล้ว
"มาค่ะ ฉันช่วย"
บอสคนสวยมองมือผอมๆ ที่แบมาขอไฟแช็คในมือเธอแล้วมองหน้าเจ้าของมือทั้งยังไม่ให้ของที่เค้าขอไป "อยากทำเสียทุกอย่าง" เจย์ว่าเข้าให้แต่ก็กระแทกไฟแช็คใส่มือเค้า จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน "ฟืนอยู่ในกล่องนั่น ทำให้สำเร็จล่ะ" สั่งเสร็จก็เดินหนีเข้าครัวไปเฉย แล้วเธอก็ได้ยินเสียงดังตามหลัง
"ถ้าไม่รบกวนเกินไป ขอกาแฟสักแก้วเป็นค่าก่อไฟด้วยนะคะ"
มือบางชะงักระหว่างกำลังจะหยิบแก้ว นิ่งคิดสักนิดและยิ้มบางๆ ตัดสินใจนำแก้วลงมาสองใบ บางทีการชงกาแฟให้ลูกน้องสักแก้วคงไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรหรอกมั้ง
.............................................
"เฮ้.. ฉันว่า.. เธอควรจะกลับบ้านได้แล้วนะ"
เสียงกระซิบที่เข้าหูไม่ใช่อย่างเดียวที่ทำให้เธอขมวดคิ้วยุ่งขนาดนี้ มันเพราะมือที่เหมือนจะฉีกหลังเธอให้ได้นี่ต่างหาก "โอ้แซม.. เธอควรตะไบเล็บบ้างนะ" บ่นและพ่นลมออกปากหวังให้มันช่วยบรรเทาความเจ็บให้
แต่จะเป็นไปได้ไหมเมื่ออีกฝ่ายยังข่วนหลังเธออยู่แบบนี้..
"แซม.. เจ็บหรือไง" ถามอย่างอดไม่ได้เพราะเห็นหล่อนดูทรมานมาก หากสาวบลอนด์กลับส่ายหัว ขยับตัวเปิดทางเพิ่มให้
"ไม่.. มันก็แค่..." แซมนึกคำพูดไม่ออก เห็นสายตาเป็นกังวลที่มองมา แล้วก็ยิ้ม "แค่ไม่ค่อยได้ใช้งานน่ะ" เทย์เลอร์ทำหน้าตกใจเหมือนคาดไม่ถึง มันทำให้เธอขำและลืมเจ็บจุกนั้นไป "เฮ้.. รับผิดชอบต่อด้วยสิ เธอจะปล่อยให้ผู้หญิงลอยค้างอยู่ระหว่างทางไปสวรรค์ไม่ได้นะ"
"ก็เธอ..."
"จูบฉันสิ บางทีมันอาจจะดีขึ้น"
ดวงตาสองสีมองจ้องกันไม่ถึงนาที จากนั้นสองริมฝีปากก็มาพบ และเจ้าของบ้านก็ได้ตระหนักว่า อย่าได้คิดชวนคนหน้าตาแบบนี้ขึ้นมาดื่มกาแฟบนห้องอีก เพราะเค้าอาจไม่ได้ขอแค่ครีมเทียมเพิ่มจากเธอ
............................................
"ฉันว่า คืนนี้เทย์คงไม่กลับแล้วล่ะ"
แดเนียลเงยหน้าจากภาพสเก็ตแบบที่ร่างเองกับมือขึ้นมองหน้าคนที่นั่งพูดเบาๆ เหมือนพูดอยู่คนเดียว ก็อาจใช่ หล่อนยังไม่ละสายตาออกจากจอโน้ตบุ๊คเครื่องบางนั้นเลย
"เธอง่วงหรือยัง" คนฟังทำท่าจะบอกปฏิเสธก็ดันหาวออกมาเสียก่อน ปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน คนถามจึงส่ายหัวให้ หันสายตาไปมองนาฬิกาที่โบราณที่เข็มวินาทีกระดิกไม่หยุด
"จะตีหนึ่งแล้ว" เจย์พึมพำ หันมาอีกทีก็เห็นอีกคนนั่งกดมือถือยิกๆ มองเค้านิ่งๆ สักพักแดเนียลก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มแฉ่ง "จะกลับแล้วสินะ"
"เปล่าค่ะ แค่ส่งข้อความบอกพี่สาวว่าคืนนี้ค้างออฟฟิศ"
เจย์มุ่นคิ้วมองหน้าคนโกหกอย่างไม่ชอบนัก "แดเนียล.." ทำเสียงเข้มเตือนว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง หากเจ้าเด็กนั่นกลับมาทำตาอ้อนใส่ให้ทำใจลำบาก คนอายุมากกว่าส่ายหน้าเอือมๆ "ช่างเถอะ ไหนๆ เธอก็อุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนฉัน"
แดเนียลฟังคำนี้แล้วดีใจ เธอเกือบจะเอ่ยขอบคุณเจ้านายแล้วถ้าไม่ได้ยินประโยคนี้เสียก่อน
"ห้องน้ำชั้นล่างใช้ได้นะ โซฟานั่นด้วย"
พูดจบเจ้านายคนสวยก็รวบสัมภาระส่วนตัวและเดินขึ้นบันไดบ้านไปหน้าตาเฉยทิ้งให้เธออยู่กับเตาผิง แก้วกาแฟ และสมุดสเก็ตภาพของตัวเอง
...............................................
"เทย์.."
เจ้าของชื่อหันขวับไปทางเสียงเรียกแต่แทนที่จะได้เห็นหน้าคนเรียก กลับเป็นผ้าพันคอที่เธอต้องรีบยกมือรับก่อนที่มันจะโดนหน้า "โหเจย์..."
"ไม่ต้องมาเรียกชื่อฉัน ส่องกระจกดูบ้าง แดงไปหมดทั้งคอ ตาเป็นหมีแพนด้าขนาดนี้ ยังจะมีหน้าออกไปไหนอีกรึไง.." พี่สาวบ่นอย่างหัวเสีย กระดิกนิ้วเรียกน้องมานั่งใกล้ๆ น้องเทย์มันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตาม ปล่อยให้พี่จับแต่งหน้าทาปากใหม่เป็นตุ๊กตาบาร์บี้
"ฉันไม่ต้องถามเลยว่าเมื่อคืนเธอไปทำอะไรมา" เจย์พูดอย่างเป็นต่อ อีกฝ่ายหัวเราะเจื่อนก่อนกลับมานั่งนิ่งๆ ให้พี่ที่ทำตาดุใส่จัดการพรางร่องรอยการผ่านสงครามมาให้โดยไม่เถียงสักคำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่พยายามมองสำรวจหาความผิดปกติจากลำคอขาวๆ ของพี่สาวหรอกนะ
ไม่มีสักรอยเลยเว้ย.. ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ รึไง...
"ฉันกับแดเนียล ต่างคนต่างนั่งทำงาน"
เทย์เลอร์มองหน้าพี่สาว รู้เลยว่าประโยคนี้หมายความว่ายังไง เจย์รู้ความคิดเธอจนหมดโดยไม่ต้องบอก "ฉันก็ไม่ได้คิดแบบนั้น.."
"งั้นก็ดี.." คนเป็นพี่ยิ้มเยือกเย็นให้เหงื่อเย็นๆ ไหลลงมาจากไรผมน้องที่ชอบเฉไฉ เจย์กดพัฟลงไปตามรอยช้ำที่คอเค้าแล้วส่ายหัวระอา "บอกคู่ขาเธอด้วย อย่าทำอะไรแบบนี้ในที่ที่เห็นชัดนัก คนอื่นเห็นมันจะไม่ดี เธอต้องเจอคนเยอะ เข้าใจรึเปล่า"
"ค่ะพี่สาวที่รัก" น้องเทย์ขานรับ ยื่นหน้าเข้ามาหวังจะจูบขอบคุณพี่แต่ที่ได้คือเธอจูบพัฟไปเต็มๆ แป้งเลอะปาก ต้องยกมือขึ้นปาดมันทิ้ง
"เจย์อ่ะ!"
"ทะลึ่งนัก เมื่อไหร่จะมีใครเป็นตัวเป็นตนสักที" บ่นเสียงหงุดหงิด แต่ก็จับคางอีกคนมาเติมสีบนปากให้ ถึงจะไม่ชอบใจที่น้องชอบทำตัวแบบนี้ เธอก็ได้แค่บ่นและแนะนำ ไม่อยากบังคับเค้าเหมือนที่พ่อแม่เค้าทำ และน้องก็คงรู้ว่าเธอคิดยังไง เค้าถึงได้ทำหน้าตารู้สึกผิดให้เธอต้องคลายความตึงเครียดระหว่างกันลง "ช่างเถอะ ยังไงก็ดูให้ดีก็แล้วกัน"
เทย์เลอร์มองพี่อย่างเข้าใจ เธอรู้ว่าเจย์ห่วงเธอเสมอ และที่อยากให้เธอกลับบ้านทุกวัน ไม่ใช่เพราะเหงา แต่เพราะอยากจะเห็นกับตาว่าเธอสบายดี เจย์น่ะแสนดีกว่าพี่ชายหรือน้องสาวแท้ๆ ของเธอเสียอีก ไม่ได้อยากจะเปรียบเทียบหรอกนะ แต่มันเห็นอยู่ชัดๆ
"เจย์.. ถ้าสมมติว่า ฉันมีแฟนแบบว่า จริงจัง.. เจย์จะว่าไง.." ถามลองเชิงพี่สาว พี่เค้าเงยหน้าจากคอเสื้อเธอที่กำลังช่วยจัดให้มาสบตากัน ท่าทางเหมือนอยากจะถามว่าคำถามของเธอคืออะไรกันแน่ "คือแบบว่า.. เจย์จะเปลี่ยนกฏของบ้านได้ไหม.. คือฉันไม่อยากให้เจย์เป็นห่วง ถ้ามีแฟนจริงๆ ฉันก็ต้องอยู่กับเค้าใช่ไหมล่ะ แล้วเจย์จะอยู่กับใคร"
"ฉันก็อยู่คนเดียวไงล่ะ" เจย์ตอบง่ายๆ ราวไม่ได้ใส่ใจ เธอก้มลงปัดเสื้อน้องและสำรวจมันอีกทีแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้คนหน้ามุ่ย "เอาแฟนเธอมาดูหน้าก่อน แล้วฉันจะพิจารณา โอเค๊.?" พูดจบก็ลุกขึ้นยืน จัดเสื้อผ้าตัวเองบ้าง เอากระเป๋าขึ้นมาสะพายตามด้วยอีกมือที่ถือกระเป๋าเอกสาร แต่ก่อนจะออกไปทำงานยังหันมาส่ายหัวให้คนที่ยังนั่งยิ้มหน้าบานอยู่
"ไม่ต้องมามัวยิ้ม นู่นผ้าพันคอ พันซะด้วย อ้อ.. ร่องรอยพวกนี้เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ฉันจะพิจารณานะ จำไว้"
ผู้คุมกฏของบ้านเดินจากไปแล้ว เหลือแค่คนที่ต้องทำตามกฏที่นั่งตาโตอยู่ลำพัง เทย์เลอร์ตั้งสติได้ก็รีบลุกพรวดเก็บของของตัวเองบ้าง เธอจะไปทำงานสายถ้ามัวแต่นั่งเอ๋ออยู่ แต่วิ่งออกไปแล้วก็ต้องวิ่งกลับเข้าบ้านมาใหม่อีกครั้ง บังอาจลืมผ้าพันคอที่พี่สาวที่รักให้ใช้ได้ยังไง
.............................................
แดเนียลวางกระเป๋าสะพายและเอกสารลงกับโต๊ะทำงาน วางถาดกาแฟลงด้วย เธอยกแก้วหนึ่งในสามใบขึ้นจิบหนึ่งอึกเหมือนจะใช้มันช่วยกระตุ้นให้ตื่นเต็มตา พระเจ้า.. โซฟานั่นมันทำให้หลับสบายเกินไป สงสัยเป็นของดีที่ไม่ทำให้ปวดหลังแถมยังเตาผิงนั่นอีก บรรยากาศโรแมนติกน่าดู วงเล็บว่า ถ้าไม่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวนะ
เฮ้อ.. ครีเอทีฟสาวถอนใจ จำได้ว่า เธอตื่นนอนเมื่อเช้าเพราะอะไร เสียงเครื่องดูดฝุ่นของแม่บ้านไปกลับของบ้านหลังนั้นนั่นแหละที่ทำให้เธอสะดุ้ง งัวเงียลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา บอกขอโทษแม่บ้านด้วยโทษฐานที่ทำให้หล่อนตกใจนึกว่าใครมานอนตายคลุมโปงอยู่บนโซฟา เธอไม่ได้เห็นหน้าเจ้าของบ้านด้วยซ้ำตอนที่ออกมาจากบ้าน แต่ก็ทิ้งโน้ตบอกเอาไว้แล้วก่อนจะรีบแจ้นกลับมาจัดการตัวเองที่บ้านแล้วพุ่งตรงมาร้านกาแฟ จัดคาเฟอีนให้ตัวเอง และพวกหล่อน...
ตอนนี้คงยังไม่มา...
เธอมาเช้ากว่าใครทุกวันอยู่แล้ว ไม่ถึงแปดโมงครึ่ง ยามด้านล่างก็ได้ทักทายเธอแล้ว แต่พวกเขาก็ชินแล้วที่เห็นครีเอทีฟอย่างเธอมาเช้ากว่าคนอื่นๆ ในจำนวนพนักงานระดับเดียวกัน ใช่แล้วล่ะ ความจริงแล้วครีเอทีฟอย่างเธอ แมนดี้ แจ๊กกี้หรือพวกตากล้องอย่างแซม ไม่จำเป็นต้องตอกบัตรเข้าทำงาน แค่มีงานมาส่งเจ้านายและมาประชุมได้ทุกครั้งที่ถูกเรียกตัวก็พอ แต่ส่วนใหญ่พวกเธอก็มักจะเตร็ดเตร่กันอยู่ในออฟฟิศนี่แหละ มันเป็นที่สบายที่สุดแล้วเวลาที่ไม่รู้ว่าจะโดนเรียกประชุมด่วนเมื่อไหร่
แต่ตอนนี้ที่นี่คงมีแค่เธอ.. มั้ง..
แดเนียลดื่มกาแฟอย่างพอใจแล้วก็จัดการเอาอีกใบในสองใบในถาดขึ้นมา มองซ้ายมองขวาไม่มีใครก็เดินเข้าไปเปิดประตูห้องคุณเจ้านาย จัดหนังสือนิตยสารต่างๆ บนโต๊ะให้เป็นระเบียบ และเว้นพื้นที่ไว้วางแก้วกาแฟ เรียบร้อยแล้วก็เดินยิ้มออกมา แต่พอคิดได้ว่ายังเหลือกาแฟอีกแก้วก็คิ้วขมวด ท่าทางเธอจะต้องดื่มมันรวดเดียวสองแก้ว แซมยังไม่มา
เอ๊ะ.. แต่ถ้าไม่มีแล้วทำไมไฟในห้องแผนกนั้นสว่างล่ะ
คิดไปคิดมาก็ตัดสินใจว่าควรไปหาทางพิสูจน์ดูให้รู้ว่ามีใครอยู่จริงหรือไม่ กาแฟแก้วที่เหลือถูกยกขึ้นมา ร่างโปร่งเดินมาผลักประตูห้องและก้าวเข้าไป และเธอก็เห็น...
"เฮ้.. ทำไมมาเช้ากว่าฉัน" ทักทายอย่างแปลกใจ อีกฝ่ายก็เงยหน้าจากภาพที่เข้าเช็คอยู่ขึ้นมายิ้มให้ เธอยื่นแก้วกาแฟที่ตั้งใจจะเอามาให้อยู่แล้วให้ไปเสียเลย "หน้าตาเหมือนไม่ได้นอน.." พูดอย่างนั้นเพราะเห็นสาวบลอนด์หน้าซีดยิ่งกว่าผีดิบ หรือวันนี้ลืมแต่งหน้ามา
"ก็ไม่เชิง.. นอนไม่ค่อยหลับน่ะ" แซมยิ้มล้าๆ รับแก้วกาแฟมาอย่างไม่จำเป็นต้องถาม "ขอบใจนะ กำลังว่าจะไปซื้อพอดี"
"ก็รู้ไงว่าต้องลืม เลยซื้อมาเผื่อ" แดเนียลบอกเพื่อน พลางมองอย่างห่วงใย "ฉันว่า เธองีบหน่อยดีกว่าไหม ยังไม่มีใครมา"
"เฮ้ย.. ไม่เป็นไรแดน ฉันแค่ลืมเขียนตามา มันเลยซีดๆ เดี๋ยวเติมหน่อยก็ได้ กลัวล่ะสิ"
"เออสิ.. เหมือนซอมบี้เลย ถ้าสองคนนั่นมาเห็น ได้เม้าท์กันอีกล่ะ"
บลอนดี้จิบกาแฟไปนิดแล้วยิ้มให้คนช่างห่วง "กลัวพวกนั้นเม้าท์ว่าฉันไปหิ้วใครมานอนด้วยเมื่อคืนล่ะสิ"
"ใช่.. ฉันไม่ชอบเท่าไหร่ แต่ขี้เกียจจะเถียง เดี๋ยวจะหาว่าร้อนตัว เพราะก็ทำเหมือนกัน" พูดแล้วก็ทำหน้าเซ็ง เพื่อนรักที่คบมาตั้งแต่เด็กก็ยิ้มอย่างเข้าใจ แต่เธอนั่นแหละที่ไม่เข้าใจเพื่อน "แล้วตกลงเมื่อคืนนี้.. เป็นไง.."
"ก็..." แซมยังไม่ทันจะตอบจนจบ บางคนก็เปิดประตูผางเข้ามาให้ชะงัก เธอหันขวับไปมองและก็ต้องตกใจอีกรอบที่ถูกปิดปากไว้ด้วยปากเค้า กว่าจะได้สติว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงอีกคนในห้องก็พึมพำ
"ฉันเข้าใจแล้วล่ะว่ามันเป็นไง ตามสบายนะ"
ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างมองร่างโปร่งกำลังจะเดินออกไป และมือเธอก็ผลักคนบ้าไม่รู้กาละเทศที่อยู่ๆ ก็เข้ามาลากเธอไปจูบให้ห่างตัว เธอยังห่วงความรู้สึกเพื่อนอยู่ "เดี๋ยวแดน อย่าเพิ่งไป!"
"ไม่เป็นไร เอาไว้คุยกันทีหลัง" แดเนียลว่าอย่างนั้นแล้วหายไปหลังบานประตู ปล่อยให้เธออยู่ตามลำพังกับยัยบ้าที่ยืนอึ้งเหมือนถูกเมดูซ่าสาบให้กลายเป็นหินไปแล้ว
"ไงล่ะ ชอบเล่นพิเรนทร์ ถ้านี่ไม่ใช่แดนจะว่าไง" พูดไม่พอใจและเดินกระแทกไหล่อีกฝ่ายอย่างแรง ร่างเพรียวนั่นเซไปนิดแต่สติก็กลับมาด้วย
"แซม.. ไม่เอาน่า.. จะโกรธกันไปถึงไหน"
"ไม่ได้โกรธ แค่หงุดหงิด" บลอนดี้ตอบอย่างไม่มองหน้า แสร้งทำตัวให้ยุ่งด้วยการยืนดูภาพนิ่งที่เตรียมไว้สำหรับใส่ไปในหนังสือ หากปากกาเมจิกในมือก็แทบหล่นเมื่อพบว่าตัวเองถูกกอดจากด้านหลัง คนบ้านี่ช่างเอาแต่ใจชะมัด ไม่น่าหลวมตัวไปเลย ให้ตายเถอะ
"เทย์เลอร์.. เราตกลงกันแล้วนะ"
"รู้จ้ะ ฉันก็แค่อยากจะขอโทษที่เมื่อเช้าต้องรีบออกมา เห็นเธอหลับสบายอยู่ ก็เลยไม่อยากกวน" บอกอย่างพยายามพลางกระชับแขนกับร่างตรงหน้าเอาไว้กลัวจะดิ้นหนีไปอีก
"แล้วกระดาษกับปากกาไม่มีหรือไง โทรศัพท์ไม่มีใช่ไหม ถึงไม่บอก"
เสียงพูดงอนๆ พาให้คนฟังยิ้มออกมาได้ เทย์เลอร์ขยับไปหอมแก้มขอโทษคนที่หดคอหนีกัน "สัญญา.. คราวหน้าจะไม่ทำให้ตกใจ" บอกพร้อมยิ้มหวานแต่ก็ต้องรีบผละออกจากกันเพราะเสียงคุยกันที่ดังแว่วเข้ามาในห้อง
"ไปทำงานเถอะ แล้วค่อยคุยกัน" แซมเตือน อีกฝ่ายก็ทำท่าเหมือนจะงอแงไม่อยากไป "เทย์.. ไม่เอาสิ แล้วฉันจะโทรหา"
คนตรงหน้ามันยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง บลอนดี้อยากจะเอาอะไรมาโขกหัวเค้าสักทีให้หายทะเล้น แต่ที่ทำก็แค่มองเทย์เลอร์เดินออกไป มองดูเค้าทักทายคนอื่นที่เดินสวนเข้าห้องมา ตากล้องสาวส่ายหน้าแล้วหวนกลับมาทำงานตัวเองต่อ แต่เธอก็ต้องหยุดมือไปอีกและหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูว่าใครส่งข้อความมา แล้วใบหน้าของเธอก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเมื่ออ่านมันในใจ
เมื่อคืน.. มันวิเศษมากสำหรับฉัน ขอบคุณร่างกายอุ่นๆ และหัวใจอ่อนโยนของเธอ---. เทย์เลอร์.
............................................
"โอเค.. ผ่าน"
ท็อดอยากจะกู่ร้องให้ลั่นห้องด้วยความดีใจ หากเขาก็หยุดความคิดนั้นไว้เพราะหน้าตานิ่งๆ สายตาเย็นๆ ของคนที่มีคนแอบตั้งฉายาให้ว่า 'ราชินีน้ำแข็ง' และสิ่งที่เขาทำได้ก็คงแค่เอ่ยขอบคุณ แล้วก้มหน้างุดๆ เดินออกไป
แต่คงไม่ใช่แค่นั้น...
"เดี๋ยว.."
น้ำเสียงเย็นยะเยียบที่เรียกรั้งพาให้ชายหนุ่มเสียวสันหลังวาบ เขาหันกลับมาหาเจ้านายสาวทั้งใจหวั่น หล่อนจะเสกน้ำแข็งมาใส่เขาไหม หล่อนทำได้เหมือนเอลซ่าหรือเปล่า ให้ตาย หล่อนจะรู้ว่าไหมว่าทำไมหน้าหนาวนี้ หนาวขึ้นกว่าทุกปีสำหรับเขา
"คะ ครับบอส"
"ลืมอะไรรึเปล่า"
ท็อดชะงัก เขานึกไม่ทันว่าเจ้านายสาวพูดถึงอะไรแต่โชคดีที่ยังไม่ได้โง่ถึงขนาดมองไม่ออก ดวงตาสีเข้มนั่นมองที่กระดาษปึกหนาบนโต๊ะ
"โอ้.. ผมลืมต้นฉบับ!" อุทานอย่างตกใจ รีบเอื้อมมือมาคว้ากระดาษที่ว่านั่นทันทีและทันทีเหมือนกันที่มันโดนไม้บรรทัดเหล็กฟาดลงมาให้เขาสะดุ้งสุดตัวแทบกรี๊ดแต๋วแตก ถึงจะเป็นผู้ชายทั้งแท่งก็เถอะ
ให้ตายเถอะ ให้ตาย.. ผู้หญิงอะไรน่ากลัวได้ขนาดนี้ หล่อนมีแฟนหรือยัง ถ้ามีแล้วก็สงสารแฟนหล่อนเลยนะเนี่ย ต้องเสี่ยงชีวิตทุกวัน
"ต้นฉบับเป็นของสำคัญ เพราะฉะนั้น.. อย่าลืมอีก" เจย์พูดนิ่งๆ อย่างไม่ได้จงใจจะทำให้ใครกลัว เธอยกไม้บรรทัดเหล็กขึ้นมาและส่งสายตาอนุญาตให้ชายหนุ่มเอากระดาษตรงหน้าออกไป
บอสสาวกลั้นขำไว้แทบไม่ไหวเมื่อเห็นอีกฝ่ายรีบกุลีกุจอคว้าต้นฉบับและแทบจะพุ่งออกไปจากห้อง เธอมองตามเขาไปด้วยรอยยิ้มผ่านมู่ลี่ที่หมุนเปิดไว้นิดหน่อย หากยิ้มของเธอก็หายวับที่เห็นตานั่นเข้าไปจับหญิงสาวที่ยืนคุยกับบางอย่างกับเพื่อนอยู่เข้ามากอดอย่างดีใจ เจย์หันสายตาหนีอย่างหงุดหงิด จากนั้นก็หยิบปากกาเมจิกสีแดงขึ้นมาและลากกากบาทลงไปในรูปบานหนึ่ง แล้วจับมันโยนลงถังขยะไปอย่างไม่เหลียวแล
..............................................
"เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ ที่นี่มีแม่บ้าน"
น้ำเสียงไร้อารมณ์พาให้คนฟังเดาไม่ออกว่าคนพูดกำลังรู้สึกอะไรอยู่ถึงได้พูดออกมา หล่อนเคยชอบอาหารที่เธอเลือกมาให้ ชอบโทรไปสั่งว่ามื้อกลางวันจะกินนู่นนะจะกินนั่นนะ แล้วทำไมวันนี้ถึงได้...
"ฉันทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่า" ครีเอทีฟสาวถามตรงๆ ขณะมือยังคงหยิบกล่องอาหารที่เพิ่งซื้อมาออกมาจากถุงกระดาษ ดวงตาสีน้ำตาลมองหน้าคนที่ทำเป็นยุ่งกับงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แล้วถอนใจ
"ถ้าคุณไม่อยากพูดก็ได้ค่ะ แต่อย่าลืมทานให้หมดนะ" แดเนียลยอมถอดใจไม่ถามต่อ เธอจัดของเสร็จก็เตรียมจะเดินออกไป หากสายตาก็บังเอิญมองไปเจออะไรที่ถังขยะของเจ้านาย และเพราะมันคุ้นจึงเข้าไปหยิบขึ้นมาดู
เห็นมันแล้วก็นึกฉุนในทันทีแต่พยายามจะทำใจเย็น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนักหรอก หากผู้หญิงคนนี้จะหยิบปากกาเมจิกสีแดงขึ้นมาขีดหน้าใครที่คิดว่ามันห่วย แต่ถ้าหล่อนจะรู้จักถนอมน้ำใจคนอื่นบ้าง อย่างน้อยก็ในฐานะที่เราเกือบจะเป็นเพื่อนกันแล้ว ก็คงดีกว่านี้
"อันนี้ทิ้งใช่ไหมคะ งั้นฉันขอนะ"
เจย์มองหน้าอีกฝ่ายอย่างอดไม่ได้ แล้วเธอก็ตกใจกับอะไรที่เค้าถืออยู่ในมือ มันเป็นรูปที่เธอกากบาททิ้งด้วยอารมณ์ชั่ววูบ มารู้อีกทีก็ทำไปแล้ว ทิ้งลงขยะไปแล้วด้วย
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นตั้งใจจะเก็บไว้เพราะมันสวยดีแท้ๆ..
มันเป็นรูปตอนแดเนียลยอมทิ้งตำแหน่งครีเอทีฟชั่วคราวมาเป็นตุ๊กตาให้เธอเล่นแต่งตัว มันเป็นรูปที่ดี แต่เธอกลับ....
"เอ่อ.. แดเนียล---"
"ขอบคุณค่ะ มีลายเซ็นคุณด้วย แปลกไม่เหมือนใคร" ครีเอทีฟสาวบอกหน้าซื่อ และถือโอกาสที่อีกฝ่ายยังตะลึงอยู่เดินออกไปจากห้อง
เจย์มองตามหลังร่างโปร่งนั้นไปแล้วถอนหายใจ ยกมือขึ้นกุมขมับอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี แต่ถามจริงเถอะ เธอต้องแคร์ผู้หญิงคนนั้นด้วยหรือไง
ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยนะ..
.............................................
มาเจอกันอีกแล้ว ตอนดึกเหมือนเคย
จริงๆ วันนี้ไม่แน่ใจว่าจะมาได้ไหม แต่โชคดีที่มาได้ทัน
ขอบคุณนะคะ สำหรับการแวะมาเยี่ยมเยียนกัน
ขอกำลังใจให้บอสเจย์ด้วยนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
สุขสันต์วันพ่อด้วย
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|