Black Butterfly- Chapter 1 : Miss Hospital
โพสต์โดย:
anhann
วันที่: 20 กันยายน 2014 เวลา 17:11:51
อ่าน: 760
|
Chapter 1 : Miss Hospital
โรงพยาบาลในช่วงกลางคืนค่อนข้างเงียบ คืนนี้ยังไม่มีเคสฉุกเฉินมา เธอจึงได้แต่นั่งๆนอนๆรองานที่จะมีมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ อยู่เวรดึกก็ดีไปอย่าง เวลาพักผ่อนมีเยอะ แต่บางทีก็เยอะเกินไป คนที่ไม่ชอบอยู่เฉยๆ ไม่ชอบนอนอย่างเธอเลยเบื่อ หนังสือวิชาการอ่านมากก็เซ็ง จะโทรไปหาน้องหรือจะแชทคุยกัน น้องเกว็นที่รักก็บอกว่าจะอ่านหนังสือสอบ บอกดักหน้าเอาไว้แล้ว ส่วนยัยเด็กข้างบ้าน ป่านนี้คงหลับอุตุไปนานแล้วล่ะ
"เฮ้อ.. เบื่อ.." สเตลล่าถอนหายใจ เอนหลังกับพนักเก้าอี้ ทิ้งหนังสือเล่มโตในมือลงกับโต๊ะตรงหน้า มือสวยพลิกมันเล่นอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี ความจริงทายาทเจ้าของโรงพยาบาลอย่างเธอถ้าจะขอใช้สิทธิพิเศษไม่มาอยู่เวรบ้าง ก็คงจะไม่มีกล้าว่าอะไร แต่เธอก็มีจรรยาบรรณอยู่นะ ไม่อย่างนั้นจะลำบากลำบนทนเรียนมาทำไมตั้งหลายปี ไปเรียนบริหาร แล้วมานั่งบริหารงานอย่างเดียวจะดีกว่า หรือบางทีเธออาจจะคิดเรื่องที่คุณปู่บอก
"แต่เป็นหมอกับเป็นแบบนั้นมันจะคนละขั้วเกินไปไหมล่ะ" พึมพำพลางทำหน้าปลงชีวิต นึกถึงเหตุการณ์เมื่อเร็วๆนี้ที่ถูกผู้มีอำนาจที่สุดในตระกูลเรียกไปพบให้ต้องพบกับเรื่องไม่คาดฝัน แต่อันที่จริงเธอก็น่าจะเดาได้อยู่แล้วว่า ใครคนนั้นจะมีเรื่องอะไรพูดกับเธอนอกจากเรื่องแบบนั้น และเธอจะหนีมันพ้นได้ยังไง จะโยนหน้าที่ให้เกว็นหรือก็สงสารน้อง น้องยังเด็ก แถมยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสาขนาดนั้นด้วย เป็นพี่เค้านี่มันแย่จริงๆแต่เป็นพี่ที่รักน้องมากน่ะแย่กว่าเห็นๆ..
นั่งคิดอะไรไปเรื่อย เพลินใจบ้างไม่เพลินใจบ้าง ถอนหายใจบ้างยิ้มเหมือนคนบ้าบ้าง หากดวงตาสีนิลก็กระตุกเพราะความรู้สึกสั่นที่เอว
โอ้.. เจ้าเครื่องมือเรียกทาสมันเริ่มทำงานแล้ว..
"ER stat ?" ข้อความในเครื่องมือเรียกทาสบอกอย่างนั้น มองมันแล้วก็กระตุกยิ้มที่มุมปาก มีงานทำสักที
ไม่รีรอหรือลีลา คุณหมอหน้าคมก็ออกจากห้องพักอันจืดชืดทันที เดินเร็วๆไม่กี่ก้าวก็เจอความชุลมุนที่คาดหวังไว้ เสียงคนเจ็บร้องระงม เสียงสั่งงานของพยาบาล บุรุษพยาบาล เจ้าหน้าที่ รวมถึงหมอคนอื่นๆ มันวุ่นวาย แต่แปลกที่เธอยืนยิ้ม นี่เธอต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
"ด็อกเตอร์เคคะ.?"
สเตลล่ากระพริบตา รู้สึกว่าเธอจะถูกเรียกแล้วแต่เพราะยังไม่คุ้นกับวิธีการเรียกแบบนี้แม้จะมาประจำอยู่ที่นี่ร่วมปีเศษ หัวคิ้วเธอจึงกดมาชนกันเมื่อหันไปมองคนเรียก แม่พยาบาลหน้ายักษ์นั่นเอง หน้าหงิกอย่างนี้จะกินหัวเธอแล้วใช่ไหม.?
"คะ.?"
"คนไข้ถูกยิงมาค่ะ"
"โอ้.?" คุณหมอแสร้งอุทาน กลั้นยิ้มที่เห็นคุณพยาบาลหน้ายักษ์กลอกตาเหนื่อยหน่ายใส่ มันเป็นสีสันอย่างหนึ่งในชีวิตที่เป็นสีเทาของเธอ
เพราะนามสกุลที่เธอใช้ จึงน้อยคนนักที่จะไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใคร คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาหาเธอก็มักจะใส่หน้ากากตีหน้ายิ้มแย้ม ขยันเอาอกเอาใจ เยินยอกันสารพัดจนไม่รู้แล้วว่าอะไรจริงไม่จริง จะมีก็แค่หล่อนที่อยู่ที่นี่มานานจนแทบจะเป็นบ้านหลังที่สองเท่านั้นที่กล้าแสดงอาการแบบนี้ และนั่นคือสิ่งที่เธอต้องการล่ะ
"โดนลูกหลงหรือคะ.?" ถามก่อนจะก้าวไปเช็คคนไข้ด้วยตัวเอง คุณพยาบาลเก่าแก่ยักไหล่ กระซิบกลับมาว่า อยากรู้ก็ถามเองสิ คุณหมอชะงักมองตามหลังหล่อนไปอย่างทึ่ง อื้ม.. กล้าจังนะ..
"หมออยู่ไหน จะรอให้ฉันเลือดหมดตัวตายใช่ไหม!"
สเตลล่ากระพริบตา หันมองหาเจ้าของเสียงที่ไม่รู้อยู่ไหนในหมู่คนไข้ที่ร้องกันระงม แต่ละคนเท่าที่มองดูก็เป็นเด็กวัยรุ่นทั้งนั้น บางทีนี่อาจจะเป็นของแถมของการไปเที่ยวผับบาร์ของพวกเขา แต่นั่นก็เป็นเรื่องของตำรวจที่จะตรวจสอบมัน ไม่ใช่เธอ เธอกับเพื่อนร่วมอาชีพมีหน้าที่แค่ดูแลรักษาพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นผู้บริสุทธิ์หรือคนร้าย หมออย่างเธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินว่าใครควรอยู่หรือตาย โดยจรรยาบรรณ พวกเธอเหมือนนักบุญ ต้องช่วยเหลือทุกคน
แต่เสียงมาจากไหนกันล่ะ..
มองหาต้นตออยู่สักพักก็ฉุกใจเปิดม่านบังตาออก เด็กสาวผมบลอนด์นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง และเพราะมัวแต่ช็อคกับใบหน้าที่ได้เห็น หมอที่ปกติทำงานไม่เคยติดขัดก็กลับตะกุกตะกักเสียจนโดนคนไข้แขวะเข้าอีกรอบ
"ถ้ารู้ว่ามาหาหมอแล้วเป็นแบบนี้ ฉันตายข้างทางยังดีกว่า"
ว้าว.. ตัวเล็กปากจัดด้วย พันธุ์อะไรเนี่ย น่าเอาไปเลี้ยงที่บ้านสักตัว
"โอ้.. แล้วใครลากหนูมาล่ะคะ ทำไมไม่นอนตายอยู่ตรงนั้นเสียเลย" ต่อมปากเสียเธอเริ่มทำงานเมื่อถูกสะกิด รีบยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเด็กสาวที่หน้าเหมือนเด็กไฮสกูลขู่ไม่ให้หล่อนเอ่ยปากเถียง แปลกที่หล่อนเชื่อเสียด้วย
แหม.. น่ารักนะ..
"โอเค.. ไหนขอดูหน่อยค่ะ" ฉีกยิ้มใจดีเปลี่ยนจากเมื่อกี้หลังมือเป็นหน้ามือ สาวน้อยหัวทองมองหน้าเธอเหมือนเห็นตัวประหลาด หากก็ยอมพยักพเยิดหน้าไปที่ร่างกายส่วนล่างที่ถูกผ้าคลุมเอาไว้ พอเดาได้จากการมองของหล่อนว่าแผลที่ว่านั่นมันอยู่ที่ไหน แต่อารามอยากแกล้งคนไข้ปากดีก็เลยหยอกกันสักนิด อีกอย่างหล่อนคงไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ไม่งั้นคงจะร้องไห้มากกว่าจะมานั่งเถียงกัน
"ตรงไหน ตรงนั้นของเธอเหรอ.?" ถามไปพลางเลิกผ้าขึ้น ทำท่าจะสำรวจพื้นที่ใต้เข็มขัดของเจ้าหล่อน เด็กสาวร้องเสียงหลง ใช้ขาข้างที่ไม่เจ็บยันโครมเข้าให้ โชคร้ายของคนขี้แกล้งแต่ไม่ระวังตัวเพราะไม่คิดว่าใครจะกล้า เธอจึงถลาถอยหลังลงไปนั่งกับพื้นห้อง นอกเขตผ้าม่านที่กั้นไว้ ใครๆพากันตกตะลึง มองเธอที่นั่งอยู่กับพื้นตาค้าง
"เอ่อ พื้นเย็นดีนะคะ" สเตลล่าพูดพลางหัวเราะเจื่อนก่อนรีบลุกพรวดขึ้นเดินกลับเข้าเขตผ้าม่านอย่างไม่ขอรอดูปฏิกิริยาจากใครๆ ที่อาจจะหายช็อคและคิดได้ว่าเธอไปนั่งทำอะไรที่พื้นแบบนั้น มาดูหน้าคนทำกันดีกว่า นั่งกลั้นหัวเราะได้แบบนี้แสดงว่า ไอ้แผลนั่นไม่ได้หนักหนาอะไรเลยสิท่า!
"เธอ.. เตรียมตัวเป็นยัยด้วนได้เลยนะ" บอกเสียงไม่ดังแต่เน้นชัดทุกถ้อยคำ เด็กสาวนั่งอ้าปากค้างไปชั่ววิและรีบลุกพรึ่บ แล้วเธอก็ดึงแขนหล่อนหวืดกลับมา ร่างบางๆปลิวลงเตียงราวกระดาษ ดวงตาสีฟ้ามองเธอด้วยสายตาหวาดกลัว
"กลัวเหรอ.. เมื่อกี้ยังถีบฉันอยู่เลยนะ" เรียวปากอิ่มกระตุกยิ้มชอบใจที่อีกฝ่ายส่ายหัวดิกแต่ตัวนี่ขยับหนีกันเห็นๆ สเตลล่ากลั้นขำแทบตายกับใบหน้าใสซีดที่ซีดหนักกว่าเก่า เธอกดเข่าหล่อนข้างที่ไม่มีรอยเลือดที่ขากางเกงไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง อีกมือกดที่แผลที่เห็นชัดเพราะกางเกงโดนพยาบาลจัดการตัดมันขาดไปแล้ว เจ้าของแผลขบฟันแน่น คงอยากร้องเต็มแก่แต่ไม่อยากเสียฟอร์ม มันทำให้เธอนึกชอบหล่อนขึ้นมาเสียแล้วสิ
เด็กผู้หญิงพยศ มันน่ารักดีจะตาย ว่าไหม.?
"ถ้าไม่อยากด้วน ทำตัวให้น่ารักเหมือนหน้าตาเธอสิ บางทีฉันจะเอ็นดูเธอ" เข้าไปกระซิบใกล้ใบหน้าใสแล้วก็ต้องร้องโอยเพราะโดนกระแทกหน้าผากอย่างแรง
เด็กสาวตัวแสบที่เธอประเมินหล่อนผิดไปมากใช้มือที่เป็นอิสระผลักเธอออกช่วงที่เธอมัวแต่กุมหน้าผากร้องอย่างเจ็บปวด หล่อนเตะเธออีกทีที่สีข้างก่อนจะวิ่งออกไปให้เธอร้องตาม เรียกเจ้าหน้าที่คนอื่นให้จับหล่อนกลับมาให้ได้ ทั้งบุรุษพยาบาลและยามต่างพากันหาตัวหล่อนจ้าละหวั่นจนโรงพยาบาลที่เคยมีแต่เสียงคนร้องไห้ ร้องเจ็บนู่นนี่เปลี่ยนไปเป็นมีเสียงคนวิ่งไล่จับกันอย่างกับเล่นตำรวจจับผู้ร้าย คล้ายเป็นสีสันใหม่ที่ไม่เคยมีที่นี่ได้ปรากฏขึ้นมา
สเตลล่ายืนเอาน้ำแข็งห่อผ้าประคบหน้าผากตัวเองยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใจเย็น ดวงตาสีนิลเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังเป็นระยะ ไม่สนใจสายตาใครๆที่มองเธอราวคิดว่า คุณหมอคนนี้ไม่บ้าก็เพี้ยนไปแล้ว เพียงไม่นานเรียวปากสวยก็กระตุกยิ้มสะใจ แม่คนไข้หน้าใสกลับมาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว แน่นอนหล่อนถูกลากมาตามเวลาที่เธอคำนวณไว้เป๊ะ ความเป็นหมอทำให้เธอพอประเมินได้ว่า ฤทธิ์เดชของคนเจ็บถูกยิงขาในลักษณะนี้จะมีสักเท่าไหร่ โชคดีที่มันไม่ผิดเหมือนครั้งที่แล้ว
"ฉันจัดการต่อเองค่ะ" บอกนุ่มนวลกับหนุ่มๆที่เต็มใจจะสร้างผลงาน พวกเขาหน้าม้านไปหน่อยที่เธอบอกปัดความช่วยเหลือที่เขาเอื้อต่อมาว่าจะเป็นคนพาคนไข้กลับห้องไปให้ เธอจัดการจับหล่อนยัดใส่รถเข็นนั่งแทนที่จะเดินหิ้วปีกกันไป และแน่นอน เธอไม่พลาดที่จะบอกข้อความสำคัญที่จะรั้งหล่อนไว้แทนกุญแจมือ
"ถ้าเธอดื้อกับฉันอีก ฉันจะพาเธอไปห้องดับจิตแทนห้องผ่าตัด และจำไว้ คนอย่าง 'สเตลล่า คิซากิ' ไม่ชอบคนลองดี หรือจะลอง.?"
...............................................
"โห..สเตล.. พี่ทำกับคนไข้ขนาดนั้นเลยเหรอ.?" เงยหน้าขึ้นจากหนังสือพร้อมคำถามและดวงตาเบิกโต พี่สาวที่เดินเอาแก้วนมมาส่งให้ก็ยักคิ้ว
"ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอคะ.?" เกว็นถามย้ำก่อนยกแก้วนมอุ่นขึ้นจิบ กินมันระหว่างรอมื้อเช้าที่แม่บ้านยังไม่พร้อมเสิร์ฟเพราะพวกเธอตื่นกันเร็วไป ไม่ใช่หรอก พี่หมอเพิ่งกลับมาจากเข้าเวรเมื่อตะกี้ต่างหาก ดวงตาสีน้ำตาลมองคนที่เข้ามานั่งใกล้บนโซฟาตัวเดียวกัน พี่สาวสั่นหัวเหมือนไม่ใส่ใจเรื่องที่เธอพูด แต่ไอ้ที่ยิ้มแบบนั้นมันหมายความว่ายังไงนะ
"แล้วสรุปได้ผ่าป่ะคะ.?"
"ก็ผ่าแหละ แต่น่าจะให้ฝังอยู่แบบนั้นให้นานกว่านี้หน่อย" พูดออกไปอย่างไม่สนใจว่าคนนั่งฟังจะสำลักนมที่กำลังดื่ม น้องสาวทุบอกตัวเองอึกๆ ราวว่านมมันติดคอได้ เลยเอื้อมมือไปลูบหลังให้สักหน่อย ดึงแก้วนมที่หมดแล้วมาวางให้ห่างมือ เผื่อซุ่มซ่ามจะทำมันแตกได้ "เธอไม่รู้อะไรเกว็น ยัยเด็กนั่นหนีออกไปจากโรงพยาบาลหลังจากที่ผ่าตัดเสร็จได้ไม่ถึงชม."
คนฟังตาโตมองหน้าคนเล่าอย่างไม่เชื่อ "ขาเจ็บไม่ใช่เหรอคะ ต้นขาไม่ใช่เหรอที่กระสุนฝังอยู่"
"ใช่.. เด็กอะไรไม่รู้แบบนั้น เห็นพยาบาลเล่าว่า มีพลเมืองดีพามาส่งน่ะ เก็บมาจากที่เกิดเหตุชุลมุน เขายังตกใจตอนที่เราโทรไปแจ้งว่าคนไข้หนีไปแล้ว"
"งั้นเหรอคะ.?" คนเป็นน้องพึมพำ สมองคิดตามเรื่องเล่าของญาติผู้พี่ที่คิดอย่างไรก็แปลก "สเตล.. พี่บอกว่ามีตำรวจมาสอบปากคำคนเจ็บเมื่อคืนด้วยใช่หรือเปล่า"
"ใช่.. ก็มีอาวุธ มีคนเจ็บนี่นา.." สเตลล่าตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก ถึงจะเสียดายที่หมดโอกาสได้เจอแม่สาวแสบคนนั้นอีกเพราะหล่อนหนีไปก่อนที่เธอจะได้เข้าไปเช็คแผลอีกรอบก่อนออกเวร แต่ตอนนี้สมองเธอสนใจเรื่องอื่นอยู่ เวลาที่คุณปู่ให้เธอไว้คิดเรื่องสำคัญนั่นใกล้จะหมดเต็มทีแล้ว ไม่แน่อีกวันสองวันนี้ เธออาจต้องเข้าบ้านใหญ่ หากอะไรที่น้องพูดขึ้นมาก็น่าคิดไม่แพ้กัน
"เป็นไปได้ไหมคะว่า เค้าไม่อยากเจอตำรวจ.?"
ดวงตาสีคล้ายกันจ้องกันนานกว่าห้าวินาทีก่อนที่คนเป็นพี่จะดีดนิ้วเปาะเพราะนึกอะไรขึ้นมาได้ "ยัยเด็กนั่นต้องอายุไม่ถึงเกณฑ์แน่ๆ เลยกลัวโดนจับเข้ากรง"
"อ้าว.. แล้วทางโรงพยาบาลไม่รู้ประวัติคนไข้หรือคะ.?"
สเตลล่าชะงัก หุบยิ้มทันที หัวคิ้วเธอชนกันเมื่อนึกทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน เด็กดื้อหัวบลอนด์ที่เธอต้องจับมัดมือมัดเท้าเพื่อจะได้ผ่าหัวกระสุนออกจากต้นขาขาวซีด พระเจ้า.. เด็กนั่นผิวดีเป็นบ้าเลย..
โอ้ไม่สิ เธอต้องไม่คิดเรื่องนี้ คิดสิว่า หล่อนเป็นใครกัน.?
นั่นสินะ..
"แป๊บนะ" คว้าโทรศัพท์มือถือมาถือไว้พลางบอกน้องที่พยักหน้าหงึก นิ้วมือจิ้มเลขหมายโทรด่วนที่บันทึกเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน ไม่นานเกินรอปลายสายก็รับและเธอก็จัดการถามเรื่องที่อยากรู้ และผลลัพธ์ที่ได้ก็ทำให้ขมวดคิ้วฉับ
"อะไรนะ พวกคุณทำงานกันยังไงถึงไม่รู้ชื่อคนไข้!"
เกว็นจ้องหน้าพี่สาวที่ตวาดใส่โทรศัพท์อย่างหมดลุคคุณหมอผู้แสนดี แต่อันที่จริงเธอก็รู้นิสัยที่แท้จริงของพี่นั่นแหละ ปกติก็ดีอยู่หรอกแต่อย่าให้โกรธก็แล้วกัน เหมือนคนละคนเลย
"อ๋อนี่คุณย้อนฉันเหรอ.. อยากโดนไล่ออกนักหรือไง!"
คุณน้องหน้าใสเริ่มเห็นท่าไม่ดี รีบคว้าโทรศัพท์จากมือพี่มาพูดเอง พลางปัดป้องไม่ให้พี่สาวแย่งมันกลับคืนไปได้ "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องกลัวค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง แค่นี้นะคะ ไปทำงานต่อเถอะค่ะ" เกว็นรัวใส่โดยไม่ให้ปลายสายได้มีโอกาสแย้งแล้วรีบวางหูทันที แต่ยังไงก็ยังไม่คืนมันให้ไปพี่ไป
"เอามาเกว็น" สเตลล่าแบมือบอกเสียงเข้มกับน้องที่ส่ายหัวดิก เอามือถือไปซ่อนไว้ด้านหลัง พี่สาวถอนหายใจ "พี่ไม่โทรไปด่าใครหรอกน่า"
"เชื่อได้เหรอคะ.?"
โดนน้องย้อนแบบนี้ คนเป็นพี่ก็ได้แต่กลอกตาถอนใจหนัก "ไม่โกหกหรอกน่า เชื่อเถอะ" เกว็นมองหน้าเธออย่างชั่งใจสองนาทีก่อนที่เค้าจะจำใจส่งของของเธอกลับคืนมา สเตลล่ากระตุกยิ้มน่ากลัวจนคนที่มองอยู่เริ่มสยอง และแม่น้องสาวคนดีก็ต้องแหยเมื่อได้ยินเธอกลอกเสียงตามสายไปอีกที
"วัตสัน.. ถ้าภายในวันพรุ่งนี้ฉันไม่รู้ว่า ยัยเด็กหัวทองนั่นเป็นใคร ฉันจะส่งแกไปแผ่นดินใหญ่ เข้าใจนะ"
...........................................
เสียงเปิดปิดประตูห้องทำให้คนหูไวมุ่นคิ้วหงุดหงิด เธออยากนอน อยากนอนไม่ต้องตื่นเลย คนขยันตามวิสัยอย่างเธอไม่เป็นแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ เธอก็ไม่ได้อยากจะขี้เกียจสักหน่อย เพราะยานั่นแท้ๆ ยัยหมอบ้านั่นคงอยากให้เธอสลบข้ามวันข้ามคืนแน่เลย
เคยไปแย่งขนมมันกินตอนเด็กหรือไงนะ ถึงได้โดนแก้แค้น หึ๋ย!
"เฮ้.. Sleeping beauty ลุกขึ้นมากินอะไรบ้าง" คนที่มาใหม่เดินถือถาดอาหารพร้อมน้ำมาวางไว้ที่โต๊ะใกล้เตียง เชื่อว่าเพื่อนได้ยินเสียงเธอแต่มันทำเป็นมึนไม่ยอมลืมตา
"จีน่า.. ถ้าเธอไม่อยากขาด้วนก็ลุกขึ้นมากินแซนวิชนี่แล้วกินยาซะ ฉันไม่มีเวลามานั่งป้อนเธอหรอกนะ"
"แล้วมานั่งบ่นทำไม ไปซะสิ" หลับหูหลับตาเถียงเพื่อน แต่ลืมไปว่ามันไม่เหมือนคนอื่นที่จะกลัวหรือเกลียดปากร้ายๆของเธอ เลยเจอมันลากขึ้นมานั่งและตบหัวไปหนึ่งทีให้ร้องโอย
"โอ้ยยัยบ้า ฉันป่วยอยู่ไม่ใช่หรือไง!"
"แค่ซุ่มซ่ามเดินไม่ดูตาม้าตาเรือไปให้ใครเขาเจาะยางมา อย่างเธอน่ะไม่ตายหรอกยัยโรบอท!" พยาบาลจำเป็นตอกเข้าให้ มือหนึ่งบีบแก้มคนเจ็บให้อ้าปากออกและจับแซนวิชที่ทำเป็นชิ้นพอดีคำยัดเข้าไป ยัยหัวทองร้องอู้อี้แต่เธอหาได้แคร์ เพราะถ้าไม่ใช้ไม้นี้จีน่าก็ไม่มีทางจะยอมกินอะไร กระเพาะมันทำด้วยเหล็กหรือยังไงไม่รู้ หิวไม่เป็น มันจะเป็นกระดูกเดินได้อยู่แล้วเนี่ย! เธอไม่อยากมีเพื่อนเป็นผีดิบนะ บอกเลย..
"ฟรานเชสก้า เธอจะฆ่าฉันใช่ไหม!" พอปากว่างก็โวยวายออกมา แต่ก็ใช่จะทำอะไรยัยเพื่อนเลิฟได้ ฟรานเชสก้าอาศัยตอนที่เธออ้าปากจะด่ามันอีกทีโยนเม็ดยาแก้อักเสบแก้ปวดมารวดเดียว เล่นเสียเธอแทบติดคอตาย ยังดีที่มันยื่นน้ำมาให้กันอย่างไว เธอจึงยังมีชีวิตรอดมาด่ามันได้ต่อ
"ถ้าพยาบาลจริงๆเป็นแบบนี้ ฉันยินดีตาย"
"โทษที.. ฉันเป็นนักฆ่านี่เพื่อนรัก" ตอบพร้อมรอยยิ้มกวนใจ และได้รางวัลเป็นคนเจ็บมองตาเขียวปั๊ดกลับมา ฟรานเชสก้าหัวเราะ เวลาเจ็บตัวทีไรไอ้เพื่อนเธอมันก็เป็นแบบนี้เสมอล่ะ
ว่าแล้วก็จับให้มันนอนต่อ ห่มผ้าให้ด้วย "นอนต่อเถอะ มีอะไรก็เรียกยัยเอมิลี่นะ"
"จะไปไหน.?" ถามเสียงหงอยเหมือนกลัวโดนเพื่อนปล่อยทิ้งให้อยู่ลำพังทั้งที่เมื่อกี้อยากจะไล่มันออกไปจะเป็นจะตาย แต่จะแปลกอะไร คนเราเวลาเจ็บป่วยส่วนใหญ่ก็ย่อมจะงอแงเป็นธรรมดา แม้กระทั่งคนที่ใครๆหาว่าเป็นมนุษย์หุ่นยนต์ไร้วิญญาณอย่างเธอ
"เก็บกวาดเรื่องเมื่อคืนไง.." ฟรานเชสก้ายิ้มเหมือนอะไรที่พูดไม่ใช่เรื่องใหญ่สักนิด หากคนฟังรู้ดีว่า มันก็ประมาณหนึ่งล่ะ
"ขอโทษนะ ฉันไม่น่าพลาดเลย" บอกเสียงซึม สาวที่ยืนอยู่ก็ส่ายหัว เดินกลับมาลูบหัวเธอเหมือนเด็กทั้งที่เธอแก่เดือนกว่าหล่อนด้วยซ้ำ
"มันเป็นเหตุสุดวิสัยน่ะจีน่า ใครจะไปรู้ล่ะว่า ไอ้พวกเด็กนั่นมันจะพกปืนด้วย และฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ ถ้าไปเร็วกว่านั้นหน่อยเธอคงไม่--"
"ไม่เป็นไรฟราน โรงพยาบาลนั่นก็ไม่ได้แย่นักหรอก"
ดวงตาสีน้ำข้าวมองหน้าเพื่อนสาวอย่างแปลกใจ เพราะร้อยวันพันปีเธอไม่เคยเห็นจีน่าพูดประมาณว่าชื่นชอบอะไรเป็นพิเศษ ยิ่งกับโรงพยาบาลด้วยแล้ว มันเหมือนเป็นเรื่องประหลาดในสามโลกเลยล่ะ
เนื่องจากโดยปกติแล้วหากพวกเราบาดเจ็บจากการทำงานมา เราจะมีศูนย์รักษาพยาบาลเพื่อจัดการให้ น้อยครั้งนักจะเห็นเราไปเตร็ดเตร่ที่โรงพยาบาล ไม่ว่าจะเอกชนหรือรัฐบาล เพราะเราไม่ต้องการความวุ่นวาย การทำงานของเราเป็นความลับ และตำรวจก็เหมือนเป็นตัวป่วนเกะกะที่คอยมาขัดแข้งขัดขาเรา จะเป่าพวกเขาไปเสียก็เกรงว่าจะเดือดร้อนกันใหญ่โต ถึงคนที่หนุนหลังเราอยู่จะใหญ่โตกว่าก็ตาม เพราะเราพยายามจะเป็นพวกไม่มีตัวตนกันอยู่ อย่างไรล่ะ
"พูดแบบนี้แสดงว่า ไปเจออะไรดีๆมาล่ะสิ" ฟรานเชสก้าลองเชิง แต่แน่นอน เธอไม่ได้อะไรกลับมานอกจากมือบางๆที่โบกไล่ให้ออกไป แล้วมันก็ดึงผ้าห่มมาคลุมโปงเฉยเลย "เออ.. ทำเป็นงุบงิบไม่บอกนะ ทีหลังจะไม่เล่าอะไรให้ฟังแล้ว"
"ไม่เห็นจะอยากฟัง แล้วไม่ต้องลากใครกลับมาด้วยนะ ไม่ชอบดูหนังสด"
"ฉันงดคืนนึงก็ได้ เพื่อเธอเลยนะ" แกล้งเข้าไปดึงผ้าห่มออกแล้วฟัดแก้มเพื่อนไปหนึ่งทีก่อนจะโดนมันตีหัวกลับมา ฟรานเชสก้าหัวเราะรีบหนีออกมาให้ไกลเตียงก่อนจะถูกคนเจ็บเอาอะไรปาใส่ "หายเร็วๆนะยัยแม่มด ตื่นมากินยาด้วยล่ะ"
"รู้แล้ว เป็นแม่ฉันหรือไง ยัยบ้า!" จีน่าตะโกนไล่หลังคนที่ปิดประตูดังปังไปแล้ว ได้อยู่คนเดียวแล้วก็ถอนหายใจเปิดผ้าห่ม ถกชายกางเกงขาสั้น ดูแผลที่แปะผ้าก็อธไว้อย่างดีแล้วอยู่ๆก็ยิ้มออกมา อาจเพราะใบหน้าของคุณหมอหน้าคมที่ลอยมาซ้อนมัน ไม่น่ารีบหนีออกจากโรงพยาบาลมาก่อนเลย..
.......................................
มาแล้วตอนที่ 1 ฮ่าๆๆ หายไปนานเลยเนอะ ก็ทำงานอื่นอยู่นี่นา มีข้ออ้างตลอด อิอิ
Black Butterfly นิยายเรื่องนี้เป็นแนว Side Story ของเรื่อง Beautiful Stranger (อ่านได้ที่นี่ค่ะ http://www.yuri-read.net/beautiful-stranger-13800.page เผื่อไม่รู้จัก)
ตัวเอกในเรื่องนี้จะไม่ใช่ คุณเกว็นกับฟรานเชสก้านะคะ ดูเอาแล้วกันว่าเป็นใคร เดาไม่ยากเนอะ อิอิ
อย่างไรก็ตาม ขอความรักให้กับนิยายเรื่องนี้เหมือนเรื่องอื่นๆด้วยนะคะ
วันนี้ขอตัวก่อน ขอบคุณมากค่ะ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น |
|
20 กันยายน 2014 เวลา 23:18:32 เปิดมาก็หากระสุนฝังขาซะแล้ว อยู่รอดมาได้ยังไงน๊า บลอนดี้ตัวน้อย หรือจะเป็นโรบอทจริงๆ ... มันสั้นเนอะ |
แสดงความคิดเห็น |
|