The bodyguard Vol.3- Chapter 13 : I'm with You
โพสต์โดย:
anhann
วันที่: 18 กันยายน 2014 เวลา 00:30:05
อ่าน: 339
|
Chapter 13 : I'm with You
แคลลี่กระพริบตาปริบ มองดวงตาสีเดียวกันอย่างแปลกใจ ความจริงเราแม่ลูกก็แปลกใจกันทั้งคู่ เพราะอยู่ๆก็มีคนวิ่งเข้ามากอดระหว่างที่เรากำลังเดินฝ่าความมืดพร้อมไฟฉายเข้าไปหาต้นตอของเสียงคนร้องในป่าใกล้กับสนามบิน ถึงอย่างนั้นเราก็ดีใจที่หล่อนเข้ามากอดเรามากกว่าไปกอดคนอื่นที่ออกตามหาหล่อนอยู่เหมือนกัน
อา.. ก็เวลาสาวๆตกใจน่ะ น่ารักจะตายไปไม่ใช่เหรอ..
เอ๊ะ! เธอยังคิดแบบนี้ได้อยู่อีกเหรอแคล เธออุ้มลูกอยู่ด้วยนะ นิสัยเจ้าชู้มันฝังอยู่ในกระดูกเธอหรือยังไง แล้วไปว่าคุณสามีคนเดียวได้เหรอ..
"เอ่อ.. เจออะไรมาเหรอดิออน.?" ถามขึ้นในที่สุด คนที่ซุกอยู่กับอกเธอทั้งที่มีลูกลิงเกาะเอวอยู่ก็เหมือนจะเพิ่งนึกอะไรได้จึงเงยหน้าขึ้นมองพร้อมน้ำตาคลอเบ้า เด็กสาวเกือบจะร้องกรี๊ดลั่นป่าอีกรอบเพราะไฟฉายที่ลูกสาวเธอถืออยู่ใต้คาง ไม่น่าปล่อยเด็กไว้กับของแบบนี้เลยเชียว..
"โจอ่ะ น้าเกือบหัวใจวายตายแล้วนะ!" ดิออนครวญ เผลอตัวซบอกคนตัวสูงกว่าไปอีกที อาจเพราะออร่าของผู้พิทักษ์ที่แผ่รัศมีเต็มร่างของแคลลี่เป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดเธอเข้าไป รู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ใกล้คนคนนี้ มันต่างตอนที่เธออยู่กับแองเจล่าถึงเค้าจะตัวโตและแข็งแรงกว่า ไม่เหมือนตอนที่อยู่กับหมวดแซนดร้าด้วย ไม่รู้ทำไม หรือเธอยังตัดใจจากผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สักที
ไม่เอาน่าดิออน..
คนถูกกอดยิ้มขำ ความกังวลใจทั้งหลายแหล่คลี่คลายลงไปแค่เพราะเจอตัวเจ้าหล่อน ลูบหัวหล่อนไปพลางก็มองหน้าลูกสาวตัวเองไปพลาง น้องโจยิ้มเหมือนเค้าสะใจ แต่ไม่ทันไรก็อ้าปากหาวหวอด แบตเริ่มอ่อนแล้วลูกฉัน..
"โอเคๆ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนะ กลับไปรวมตัวกับคนอื่นดีกว่า" สายตาของความห่วงใยถูกส่งไปให้อีกฝ่ายอย่างไม่ปิดบัง คนที่คิดว่าจะงอนจะไม่พอใจต่อไปอีกสักหน่อยก็ต้องพยักหน้ารับอย่างโต้แย้งไม่ได้
แคลลี่แวะระหว่างทางที่เดินกลับมายังที่พักเพื่อสั่งงานลูกน้องให้จัดเวรยามดูแลความปลอดภัยโดยรอบที่พักและขอบคุณพวกเขาบางคนที่ช่วยเธอตามหาคนหายให้ เราไม่ได้พูดอะไรกันมากเนื่องจากเจ้าตัวเล็กหลับซบบ่าเธอไปแล้ว แต่เธอก็รู้ว่าเธอควรจะพูดถ้ามีเวลา
"เดี๋ยวฉันพาโจไปนอนก่อน ถ้าเธอยังไม่ง่วง คุยกันนะ" มือสวยขยี้หัวหญิงสาวที่อย่างไรก็เป็นแค่เด็กสาวสำหรับเธออย่างเอ็นดู แปลกใจที่ดิออนไม่ปัดมือเธอออกเหมือนที่ชอบทำ หล่อนแค่พยักหน้ารับ และเธอกลับไม่ชอบมันเลย เพราะสีหน้าเชื่องซึมนั่นหรือเปล่า หล่อนต้องมีบางอย่างที่ค้างอยู่ในใจแน่นอน อยากรู้จัง..
"ฝากด้วยนะคะ" โจเซฟินถูกส่งให้ปะป๊าของเค้าที่เข้ามารับช่วงต่อจากเธอไป แคลลี่ลูบหลังลูกที่ขยับตัวอยู่ในอ้อมอกของคู่ชีวิตและยิ้มให้เค้า "เรื่องเฟรยาห์เรียบร้อยนะคะ.?"
"แซนดร้าจับใส่กุญแจมือไว้กับเค้าแล้วล่ะ"
"โอ้.. ต้องทำขนาดนั้นเลย.?" ถามตกใจ อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ เท่านี้ก็พอรู้แล้วว่าเค้าหมายความว่ายังไง "ท่าทางจะแสบน่าดูเลยสิคะนั่น"
"แน่ล่ะ ไม่งั้นคงไม่แอบขึ้นเครื่องมาได้หรอก" แองเจล่ากลอกตาเซ็งเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หากไม่กี่วินาทีก็เปลี่ยนเรื่องถาม "แล้วเด็กอีกคนล่ะ"
แคลลี่ยิ้มแห้งแล้ง เหลียวหลังไปมองคนตัวเล็กที่ยืนหันหลังเกาะขอบหน้าต่างอยู่ที่ในส่วนท้ายสุดของห้องโถงซึ่งตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ของพวกเรา
"ไปคุยกับเค้าก่อนก็ได้ พี่ดูแลลูกเอง"
มองหน้าคนเสนอแนะอย่างแปลกใจ และสายตาไว้วางใจของเค้าก็ทำให้เธอคลี่ยิ้ม อดไม่ได้ต้องเข้าไปให้รางวัลสักที อื้ม..ปากนุ่มเหมือนเคย..
"อย่าแกล้งลูกตอนหลับนะคะ" บอกเสียงขี้เล่นพร้อมหยิกแก้มเค้าไปหนึ่งที ตบหลังเจ้าตัวใหญ่เปาะแปะตอนที่เค้าหันหลังจะพาลูกไปนอน เธอมองพวกเขาเดินจากไปจนถึงที่ที่เค้าจัดไว้สำหรับเราสามคนแล้วก็พ่นลมหายใจแผ่ว
"โอเค.. มาดูกันสิว่า ฉันจะทำอะไรได้บ้าง.." มือสวยสางเส้นผมยาวถึงกลางหลังของตัวเองบรรเทาอาการกังวลใจที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นมาทำไมเหมือนกัน ใช่ว่าเธอไม่เคยอยู่ตามลำพังกับผู้หญิงคนนั้นเสียเมื่อไหร่ แต่นั่นมันก็นานมาก..
ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้กอดเธอในฐานะคู่หมั้น มันเกือบจะห้าปีแล้วสินะ
ในส่วนลึกของใจฉัน ฉันคิดถึงเวลาแบบนั้นของเรานะ แต่เธอไม่ควรรู้..
ไม่มีใครควรรู้...
"เฮ้.." มันเป็นคำทักทายที่ดูงี่เง่ามากที่เธอเคยใช้มัน หากก็ทำให้คนที่กำลังเหม่อหันมาสนใจได้ แคลลี่พยายามยิ้มให้ดีที่สุดถึงเธอจะค่อนข้างกลัว กลัวใจหล่อน กลัวไปเรื่อยเปื่อย "มีอะไรจะพูดกับฉันไหม.?"
ดวงตาสีมรกตสั่นไหวระหว่างที่เราสบตากัน มันทำให้เธอใจหายอย่างบอกไม่ถูก มือยกขึ้นแตะแก้มเจ้าของมันอย่างอัตโนมัติพร้อมเสียงกระซิบ "เฮ้.. ไม่ต้องกลัวไปหรอก เราอยู่ด้วยกันที่นี่ ฉันอยู่กับเธอ" แม้จะพยักหน้ารับคำเธอราวเด็กดี หากผู้หญิงตัวเล็กก็ยังคงดูไม่สบายใจ อดไม่ได้จึงลากหล่อนเข้ามาสู่อ้อมกอด ลูบแผ่นหลังปลอบ
"ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่า ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปแน่"
"ฉันรู้.. ฉันแค่กลัว ป่านั่นมันมืดมาก แล้วก็..."
"แล้วก็.. อะไรเหรอ.?" ดันตัวคนตัวเล็กกว่าให้ออกห่างพอที่จะมองตากันได้ คาดคั้นเอาคำตอบด้วยสายตา หากหล่อนกลับพยายามเบนหน้าหนีให้เธอต้องจับหน้ากลับมามองกัน "ดิออน.. เธอรู้ว่า เธอบอกฉันได้ทุกอย่าง ทำไม---"
"ฉันคิดว่า ฉันเห็นสัตว์ประหลาด"
ดวงตาสีประหลาดเบิกกว้างตกใจขณะเดียวกันกับที่อีกฝ่ายเอียงใบหน้าหลุดออกจากมือเธอได้สำเร็จ โชคดีที่หล่อนไม่ได้วิ่งหนีไปแต่รำพึงเบาๆ
"เธออาจจะคิดว่า ฉันกลัวจนหลอนนะแคล แต่ฉันเห็นจริงๆ ฉันเห็นดวงตาที่เปล่งแสงได้ในความมืด มันเป็นสีทอง พอมันเดินเข้ามาใกล้ ตัวมันก็ใหญ่กว่าหมีขั้วโลก มันหน้าตาเหมือนสฟิงซ์" ดิออนพูดจริงจัง คนที่อ้าปากค้างอยู่ก็ค่อยๆหุบมันลงแต่ยังคงมองเธอด้วยสายตาไม่เชื่อ "โอเค.. ไม่ต้องเชื่อก็ได้ ฉันมันไร้สาระเองแหละ เธอไปนอนเถอะไป อย่าลืมกินยาด้วยล่ะ"
ร่างเล็กหมุนตัวจะเดินจากไป หากแขนก็ถูกรั้งไว้ก่อนด้วยมือคนที่เพิ่งได้สติเต็มที่ "เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่ได้พูดว่าไม่เชื่อเลยนะ"
"แล้วเชื่อหรือไง.?" หันกลับมาถาม และท่าทางลังเลที่จะตอบก็ทำให้สะบัดแขนออกจากการถูกจับ "ไปนอนไป ฉันง่วงแล้ว ไม่ต้องเรียกแล้วนะ ไม่งั้นฉันจะโกรธและหนีไปอีก"
แคลลี่อยากจะคว้าตัวคนอารมณ์ร้อนกลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนที่หล่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไป หากก็ยังกลัวใจหล่อนจะทำอย่างที่ขู่จริง ดิออนเป็นเด็กดื้อ หัวรั้น ถึงจะกลัวแทบตายแค่ไหน เธอก็รู้ว่าหล่อนจะหายไปอีกแน่ ถ้าเธอคิดลองดี บางทีเธอก็อยากจะจับหล่อนใส่กุญแจมือให้เหมือนที่แซนดร้าทำกับเฟรยาห์ แต่เธอคงจะโดนโกรธไปสิบชาติก็ไม่หายแน่นอน
"เฮ้อ.. วันนี้มันเป็นวันอะไรนะ" ยีหัวตัวเองหวังระบายอารมณ์ที่ขุ่นมัวและความวุ่นวายใจระหว่างมองร่างเล็กเดินกลับไปทิ้งตัวลงนอนในถุงนอนข้างคุณหมวดแซนดร้าที่หันมาพาดแขนข้างที่ไม่ได้ใส่กุญแจมือไว้กับเด็กอีกคนลงกับตัวหล่อนทันทีเหมือนรู้ว่าหล่อนกลับมาแล้ว เห็นแล้วต้องหลุดยิ้มกับความน่ารักนั้น แต่ถึงอย่างนั้น...
ร่างระหงเดินกลับไปยังหน้าต่างเดียวกันกับที่คนขี้งอนยืนเกาะมันอยู่เมื่อครู่ มือสวยทัดเส้นผมยาวไปกับใบหูตัวเองระหว่างที่ดวงตามองทอดออกไปนอกตัวอาคาร คำถามมากมายอยู่ในใจของเธอ แต่หนึ่งเดียวที่เธออยากรู้ที่สุดตอนนี้ก็คือ...
เราอยู่ที่ไหน และปีค.ศ.เท่าไหร่กันแน่...
.............................................
ความอึดอัดและหนักอึ้งบนร่างกายท่อนบนดึงเปลือกตาที่เกียจคร้านของเธอให้ต้องพยายามเปิดขึ้นมา และเธอก็พบสาเหตุของมันที่อันจริงก็น่าจะเดาได้อยู่แล้วเชียว
"โจ.. เราไม่ได้ตัวเล็กเลยนะคะลูก" พูดไปอย่างนั้น เพราะวาดแขนไปโอบตัวเจ้าตัวเล็กที่นั่งยิ้มแป้นอยู่กับพุงแบนๆของตัวเองลงมาหาเป็นที่เรียบร้อย เค้าหัวเราะคิกๆที่ถูกเธอหอมแก้มแถมยังทำคอย่นเวลาโดนจมูกโด่งๆของเธอพยายามชอนไชเข้าไปสูดดมกลิ่นเด็กน้อยของเค้า
อื้มม.. มันต่างจากกลิ่นสาวๆมากเลยนะ หอมไร้เดียงสากับหอมเซ็กซี่ หรือหอมปนดิบเถื่อนเหมือนคุณสามีตัวยักษ์ของเธอ เออ.. ว่าแล้วเจ้ายักษ์นั่นไปไหนนะ
"ปะป๊าไปไหนคะลูก" ตัดใจลุกขึ้นจากเบาะนอน เก็บมันให้เรียบร้อยและจูงมือลูกสาวลงมาจากตึก ทุกคนที่นอนอยู่ที่ห้องโถงนั้นเมื่อคืนนี้ต่างพากันลุกขึ้นไปหมดแล้วเหลือแค่เธอที่ตื่นสายโด่งอยู่คนเดียว นั่นเพราะกว่าจะหลับได้มันก็แทบจะเป็นวันใหม่อยู่แล้ว จำได้ว่าแม้แต่ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของเค้าก็ยังไม่สามารถทำให้จิตใจเธอสงบพอจะหลับลง ยาเท่านั้นที่ช่วยเธอ
เฮ้อ.. ฉันคงกลายเป็นคนติดยาไปแล้วล่ะ ยาบำรุงหัวใจ ยานอนหลับ และอื่นๆอีกมากมาย แต่ช่างมันเถอะ แค่ฉันได้ยืดเวลาที่จะจับมือน้อยๆนี้ให้นานกว่าที่คาดไว้ก็พอ
"ปะป๊าบอกว่าจะไปดูอะไรแถวๆนี้ ให้โจมาปลุกมะม๊า"
สบตากับเด็กน้อยที่เงยหน้าขึ้นบอกความแจ้วๆ ดวงตาสีแดงก็มองหน้าเค้าอย่างเอ็นดู ลูบหัวเบาๆ "แล้วคนอื่นๆละคะ" ถามขึ้นอีกครั้งระหว่างจัดการตัวเองและลูกสาวอยู่ในห้องน้ำ โชคดีที่ใครๆก็ใช้มันไปหมดแล้วและมันไม่ได้มีแค่ห้องเดียว เราจึงไม่ต้องรีบร้อนกันมากนัก แต่เธอก็ไม่ได้ทำตัวสบายเหมือนอยู่บ้านหรอก มันไม่มีจากุชชี่สักหน่อยนี่นา
"อาแซนดร้าพาคนนั้นไปช่วยทำอาหาร แต่น้าดิออน โจไม่เห็น"
แคลลี่เบนสายตากลับมาจากกระดุมเสื้อของลูกที่ช่วยเค้าติดอยู่หลังที่เราอาบน้ำกันเสร็จแล้ว "ไม่ได้ไปกับปะป๊าหรือคะ.?" ถามลูกอย่างพยายามเก็บความกังวลใจเอาไว้ภายใต้ท่าทางสวมเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อนของตัวเอง หางตาเห็นลูกสาวสั่นหัวดิก หัวคิ้วของเธอก็กดลงทันที
ไม่ใช่ว่าไปตามหาสฟิงซ์ที่ว่านั่นนะ.. คิดในใจและคลายความคิดลงเมื่อถูกมือเล็กๆดึงชายเสื้อแจ็คเก็ตที่สวมทับเสื้อกล้าม ก้มมองคนดึงอย่างตั้งคำถามเพราะเห็นหน้าตาเด็กน้อยเป็นกังวล
"เราไปตามน้าดิออนกันไหมมะม๊า.?"
อาจจะเป็นเพราะเค้าจำได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนถึงได้พูดแบบนี้ออกมา หรือบางทีโจเซฟินอาจอยากจะหาเพื่อนเล่นนอกจากเธอ คงไม่ใช่ลางสังหรณ์อะไรหรอกนะ หวังว่าคงไม่ใช่ ต้องไม่ใช่สิ..
"ไปนะมะม๊า.."
"โอเคค่ะลูก ไปกัน แต่เพื่อความเร็ว โจต้องไปแบบนี้ค่ะ" ไม่ทันที่ลูกจะได้ถามอะไร ตัวเค้าก็ลอยขึ้นมาอยู่บนท่อนแขนของเธอที่ไม่ต้องเล่นเวทก็กล้ามขึ้นเพราะอุ้มเค้านี่ล่ะ
"ตัวหนักเหมือนกันนะเนี่ย อีกหน่อยมะม๊าต้องอุ้มโจไม่ไหวแน่เลย"
"เอาไว้โจจะอุ้มมะม๊าแทนล่ะกัน"
มองหน้าลูกสาวอย่างแปลกใจในคำพูดของเค้า แต่ก็หอมแก้มเค้าให้ไปเป็นรางวัล "โจน่ารักมากค่ะ แล้วมะม๊าจะรอวันนั้นนะ แต่ตอนนี้มะม๊าว่าเราคงต้องรีบกันแล้ว น้าดิออนไปไหนไกลหรือเปล่าไม่รู้สิ"
"เพราะมะม๊ามัวแต่เล่นไง.."
"โจว่าอะไรนะ!?"
โจเซฟินไม่ตอบแต่หัวเราะคิกคัก โอบสองแขนเล็กไว้รอบคอเธอหลบไม่ให้ถูกจั้กจี้ แคลลี่ได้แต่สั่นหัวถอนหายใจ ขยี้หัวเค้าไปด้วยเอ็นดูและเราก็เดินมาถึงที่ที่หลายๆคนอยู่ในที่สุด เท่าที่ดูพวกเขาดูไม่น่าห่วงกันเท่าไหร่ คาดว่าคุณผู้การคงจัดการตรวจเช็คพวกเขาไปตั้งแต่ก่อนที่เธอจะตื่นแล้ว แองเจล่าทำงานของเค้าได้ไม่มีบกพร่องอยู่แล้วล่ะ เหลือแค่เธอที่ร่างกายมีลิมิตและยังต้องเลี้ยงเจ้าตัวดีคนนี้ด้วย คนสวยเฮิร์ทเหมือนกันนะเรื่องนี้.. เฮ้อ..
"คุณแคลครับ"
เจ้าของชื่อหันขวับไปหาคนเรียกเพราะเสียงของเขาคุ้นหูเธอ "อิไลด์.?"
"คุณหนูสวอนส์ฝากผมให้บอกคุณว่า เธอจะไปเดินเล่นใกล้ๆนี้ ไม่ต้องเป็นห่วง"
ดวงตาสีแดงมองหนุ่มอาหรับอย่างไม่เชื่อนัก และเขาจับอาการเธอได้เหมือนที่เคย อาจเพราะสายตาเธอมันบอก "แต่ผมจะบอกว่า คุณไม่ควรจะเชื่อเธอ คุณควรไปตามเธอกลับมาก่อนอาหารเช้า"
"งั้นหรือคะ แต่ฉันว่าคุณควรจะห้ามเธอไม่ให้ไปตั้งแต่แรกแล้วนะ" แย้งเสียงไม่พอใจจนลูกสาวที่กระเตงอยู่มองหน้า และพ่อแขกขาวก็เริ่มเหงื่อตก หากเขายังคงฟอร์มดีซ้ำใจเย็นเหมือนเดิม กระทั่งเธอเอื้อมมือไปกระชากคอเสื้อเขาแล้ว ไม่สนใจแล้วว่าเขาเป็นผู้ว่าจ้างเธอมาที่เธอต้องดูแล ไม่ใช่ทำร้าย
ก็เขาทำร้ายคนที่ฉันรักทางอ้อม!
"ถ้าดิออนเป็นอะไรไป ฉันจะฆ่าคุณคนแรก.." แคลลี่พูดอย่างสติแตก ลืมสนใจว่าไม่ควรทำมันต่อหน้าลูกสาวตัวเองที่ลงไปยืนกับพื้นแล้วเมื่อเธอไม่สามารถจะอุ้มเค้าไปพร้อมกับทะเลาะกับใครไปด้วย ถ้าเค้าหล่นพื้นไประหว่างที่เธอจะอัดผู้ชายคนนี้ได้มันคงไม่ดี
"ผมรู้ครับ ผมถึงให้คนตามเธอไปด้วย"
มือสวยหยุดกระชากคอชายหนุ่ม แต่ยังจ้องหน้าเขาตาวาวอย่างโมโหอยู่ดี มันไม่จบง่ายๆหากเธอยังไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจ "ใคร.? แล้วจะติดต่อพวกเขาได้ยังไงในเมื่อเราใช้เครื่องมือสื่อสารที่นี่ไม่ได้"
"เฟรยาห์เป็นพรานที่เก่งพอตัวครับ"
"เฟรยาห์.? คุณหมายถึง..." ดวงตาสีแดงมองหาเด็กลุคทอมบอยที่ฝากให้คุณหมวดสาวดูแลเมื่อคืนและคิดว่าพวกเขาคงอยู่ด้วยกันอยู่ แต่ไม่มี แซนดร้าเดินอยู่ลำพังกับแอร์โฮสเตสสาวที่กำลังช่วยกันจัดแจงอาหาร
"หลานผมจะทำสัญลักษณ์เอาไว้อย่างที่ทหารอย่างคุณจะต้องหามันเจอได้อย่างแน่นอน"
"แต่เฟรยาห์อายุแค่สิบสาม"
"เด็กคนนั้นไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คุณคิดหรอกครับแคลลี่"
เขายิ้มอย่างมั่นใจ เธอกำลังจะอ้าปากพูดอะไรแต่บางคนก็โผล่มาก่อน เอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก "เกิดอะไรขึ้นคะคุณแคล!"
"โอ้แซนดร้า.. ฉันฝากโจหน่อยนะคะ" พูดอย่างรีบร้อนและก้มลงทำความตกลงกับลูกสาวคนดี "โจอยู่ที่นี่นะคะลูก อย่าดื้อกับคุณอา แล้วมะม๊าจะรีบกลับ" เธอหอมหัวลูกสาวที่พยักหน้ารับทั้งหน้าซึม ยืดตัวขึ้นมองอีกคนที่พูดออกมาอย่างรู้งาน
"ฉันจะบอกแอนเองค่ะ คุณระวังตัวด้วยนะแคล"
"แน่นอนค่ะ ฉันต้องพาเค้ากลับมาให้ได้อยู่แล้วล่ะ" แคลลี่ขยิบตาให้คุณหมวดและชักชวนหนุ่มอาหรับให้ไปด้วยกันถึงไม่อยากจะร่วมทางไปกับเขาแต่จะทำยังไงได้ ถึงอย่างนั้น เธอยังมีอีกคนอยู่นี่นา..
"แพททริค.. ไปกับฉันค่ะ ถ้าแอนว่าอะไร ฉันจัดการเอง"
"ค.. ครับคุณแคล"
ทหารคนสนิทของคุณสามีลากเพื่อนร่วมทีมของเขามาด้วยอีกสามคนโดยความเห็นชอบจากเธอ พวกเรามีอาวุธกันครบมือเพื่อป้องกันตัว แต่...
"คุณมีปืนใช่ไหมอิไลด์.?" ถามขึ้นระหว่างประคองปืนคู่ใจของตัวเองขึ้นมาเช็ค หนุ่มอาหรับพยักหน้ารับตามคาด "ฉันว่าแล้วว่าอย่างคุณต้องมี" หญิงสาวยิ้มเยือกเย็นต่างจากตอนอยู่ต่อหน้าลูกสาวลิบลับ คนมองพยายามไม่เหงื่อตกให้อายคนเช่นเดิม
"เราจะเริ่มเช็คกันตรงที่ฉันเจอเค้าเมื่อคืนเลยนะคะ" เธอเสนอแต่ย่อมมีบางคนที่เห็นต่างไป
"ผมว่าเราควรจะแยกกันหาจะเร็วกว่าไหมครับ"
"ก็ดีเหมือนค่ะแพททริค งั้นคุณกับพวกก็---"
"ผมจะอยู่กับคุณครับ พวกเขาไปกันเองได้" ทหารหนุ่มยืนยัน เธอก็จำใจต้องพยักหน้ารับไป เข้าใจดีว่าแพททริคคงไม่ไว้ใจให้เธอไปกับอิไลด์ตามลำพัง เขาก็เหมือนเจ้านายของเขา เป็นห่วงเธอมากเกินไป
"โอเคค่ะ งั้นก็ตามนั้น"
ทีมของเราแยกกันเป็นสองกลุ่มในที่สุด และเธอเดินเข้าป่าไปโดยมีชายหนุ่มสองคนเดินขนาบคนละข้าง หากเป็นผู้หญิงที่ปลื้มผู้ชายอยู่แล้วตามปกติก็คงจะดีใจที่ถูกปฏิบัติราวเป็นเจ้าหญิงกับองครักษ์ แต่สำหรับเธอที่สนใจผู้ชายน้อยมากนอกจากชอบทำงานกับด้วย เธอรู้สึกอึดอัด ที่จริงเพราะไม่อยากถูกมองว่าเปราะบางมากกว่าเดิม ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองขี้โรคนั่นแหละ
"เฟรยาห์มักจะทำสัญลักษณ์แบบไหนคะ.?"
"เอ่อ.. เหมือนพวกพรานน่ะครับ" เพราะคำตอบที่ดูไม่มั่นใจ สองคนที่ฟังอยู่จึงมองหน้ากัน และบางคนก็คิดบางอย่างได้
"ผมจำได้ว่าผู้การเคยสอนวิธีเดินป่าไม่ให้หลงกับคุณหนูสวอนส์ คิดว่าเธอคงจะ---"
"ใช่ค่ะแพททริค ฉันว่าฉันก็เคยสอนเค้าเหมือนกันค่ะ!"
"ถ้างั้นเราเริ่มกันเลยดีกว่าครับ เผื่อเธอจะเข้าไปลึกกว่านี้"
แคลลี่พยักหน้า มือกระชับอาวุธคู่กายเอาไว้อย่างมั่นคง สองขายาวก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระวัง ดวงตาสีแดงกวาดมองทุกอย่างที่เดินผ่านอย่างไม่ไว้ใจ รวมถึงคนใกล้ตัวคนหนึ่งข้างๆนี้ด้วย มีบางอย่างในตัวเธอมันเตือนว่า เธอไม่ควรไว้ใจผู้ชายคนนี้มากเกินไป และเธอเชื่อมัน
จงเชื่อในสัญชาตญาณของตน เสียงใครบางคนดังก้องอยู่ในรูหูเธอ..
.......................................
มาซะดึก ไม่รู้จะมีใครอยู่อ่านไหม แต่เอาไว้อ่านตอนว่างก็ได้ค่ะ เผอิญของมันร้อนน่ะ เลยรีบมา ฮ่าๆๆ
อ้อ.. แล้วก็เหลืออีกประมาณ 7 ตอนนะคะ ที่จะลงให้อ่านกัน ที่เหลือก็อ่านในเล่มเอาเนอะ
ไปก่อนค่ะ นอนดีกว่า ราตรีสวัสดิ์ ฝันดี และขอบคุณด้วยค่ะ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|