web stats

ข่าว

 


Part II : สะใภ้ใหญ่ เลิฟมั้ย Love! ตอนที่ 9

โพสต์โดย: viswee วันที่: 23 สิงหาคม 2014 เวลา 07:21:48 อ่าน: 616

Part II : สะใภ้ใหญ่ เลิฟมั้ย Love! ตอนที่ 9










"คบกันมั้ยคะ?"

ราวกับว่าประโยคนี้เป็นเสียงเเว่วที่ดังให้ได้ยิน หากเเต่เเพทริเซียก็รู้ดีว่า นี่มันคือเสียงที่ดังกึกก้องอยู่เพียงเเค่ในความคิดของเธอเท่านั้น เพราะตอนนี้เธออยู่คนเดียว เเละเจ้าของคำถามก็กลับไปตั้งนานเเล้ว เเต่ก็มีเพียงคำถามเดิมเเละเป็นคำถามเดียว ที่วนเวียนอยู่ในมโนนึกของเธอ ตั้งเเต่คุณเทปพูดออกมา จนกระทั่งหล่อนออกจากบ้านไป เเละจนถึงบัดนี้ นับเป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมงเข้าให้แล้ว ที่เเพทไม่สามารถสลัดตัวเองให้หลุดออกจากห้วงความคิดเดิมๆ ได้สักที
    
เเพทริเซียนอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียง เหตุการณ์ในเเพนทรีหลังจากอุบัติเหตุน้ำร้อนลวกยังคงชัดเจน ราวกับมันเป็นภาพติดตา
   
ทุกสิ่งทุกอย่างในเวลานั้น ยังกะเป็นภาพยนตร์สั้นที่ฉายซ้ำในหัวสมองไม่ยอมหยุด พอสิ้นสุดลงตรงตอนจบ ตอนที่รถยนต์คันโตเเล่นออกไปจากบ้าน อีกเพียงเสี้ยวลมหายใจ ความคิดของเธอก็พลันวนกลับไปที่จุดเริ่มต้นอีกหน เเล้วทุกอย่างก็เริ่มใหม่...
   
เริ่มตั้งเเต่ตอนที่เธอโดนจูบ!!! สัมผัสนุ่มละมุนเเสนอ่อนโยนยังคงติดตรึงอยู่ที่ริมฝีปาก จนเเพทอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปเเตะปากของตัวเองอีกครั้ง เป็นครั้งที่เท่าไหร่เเล้วก็ไม่รู้ ทว่ายิ่งลูบไล้ริมฝีปากตัวเองบ่อยครั้งเท่าไหร่ หัวใจของเธอยิ่งมีอาการหนักเท่านั้น เพราะการกระทำของคุณเทปราวกับเป็นคำอธิบายอย่างชัดเจนว่า...หล่อนรู้สึกอย่างไรกับเธอ
   
เพียงจูบเดียว เเต่เสมือนเป็นตัวเเทนบอกกล่าวความรู้สึกจากเบื้องลึกของหัวใจ มิหนำซ้ำคำพูดต่อมาที่คุณเทปเอื้อนเอ่ย หลังจากที่หล่อนมอบจุมพิตให้เธอเกือบ 1 นาทีเต็มๆ นั่นอีกล่ะ ที่ช่วยยืนยันความรู้สึกของหล่อน
   
เเพทริเซียรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน ช็อกค้างสติหลุด เพียงเเค่ประโยคเดียวจากคุณเทป เเต่ทำให้เธอตะลึงงัน ใบหน้าเผือดซีดจนเเทบไร้สีเลือด ตัวชาวาบ เย็นยะเยือกไปทั้งร่าง ราวกับใครเอาน้ำเย็นเฉียบมาราดโครมลงบนศีรษะ เธอยอมรับตามตรงว่าในตอนนั้น ทั้งหัวใจทั้งสมองพากันหยุดทำงาน เหมือนไม่รับไม่รู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
   
ทุกอย่างมันเร็วมาก จากจูบ จู่ๆ คุณเทปก็ขอเธอคบ เธอตั้งตัวไม่ทันจริงๆ ดังนั้นสิ่งที่เธอมอบให้กับหล่อนกลับไปจึงเป็นเพียงความเงียบงัน ไม่มีการตอบรับ เเต่ก็หาได้ปฏิเสธ เเล้วเพียงเเค่ครู่เดียวคุณเทปก็เอ่ยออกมาอีกครั้ง

"ถ้า...คำพูดของฉัน ทำให้คุณเเพทลำบากใจ ฉันขอโทษด้วยนะคะ ถือซะว่า...มันเป็นเเค่ลมผ่านหูละกันค่ะ"

จากเเค่คำพูด ปฏิกิริยาของคุณเทปก็เปลี่ยนไปอีกด้วย หล่อนปล่อยมือของเธอให้เป็นอิสระ สีหน้าของหล่อนเริ่มซีดไม่ต่างจากสีหน้าของเธอ ดวงตาสีเเปลกหม่นลง เเต่ก็ไม่ถึงกับเศร้าหมอง หล่อนพยายามยิ้มให้เธอ เเต่มันเป็นรอยยิ้มที่ฝืดฝืนเต็มทน
   
ช่างใจร้ายนัก! เเพทริเซียได้เเต่ค่อนขอดตัวเองในยามนี้ ยามที่สตินึกคิดกลับมาอีกครั้งเเล้ว เพราะหลังจากคุณเทปขอโทษ เธอก็ยังคงอยู่ในอาการมึนเบลอ ไม่พูดไม่จา มีเพียงดวงตาที่ยังคงจ้องมองหล่อนด้วยความรู้สึกที่ช็อกไม่หาย เเล้วจากนั้นคุณเทปก็กลับไป
   
เเต่ใครบอกกันเล่าว่าคำขอของคุณเทปเป็นเพียงเเค่ลมผ่านหู มันคือพายุเฮอริเคนชัดๆ พายุบ้าคลั่งที่กวาดล้างสติของเธอไปจนหมด ทว่าเมื่อมันพัดผ่านไป คำถามเดิมก็ทิ้งร่องรอยฝากเอาไว้ตรงหัวใจ
   
หัวใจที่เคยปิดประตูขังความปวดร้าวไว้ข้างใน ราวกับถูกเฮอริเคนของคุณเทปถาโถมเข้าใส่จนประตูบานที่ปิดเเน่น หลุดปลิวหายไปไหนก็ไม่รู้ ลมพายุบ้าคลั่งนั้นหอบเอาความเจ็บปวดปลิวหวือออกไปจนเเทบจะหมดหัวใจ ความชอกช้ำระกำทรวงที่เคยยึดครองใจของเธอมาเนิ่นนาน สูญสิ้นอิทธิพลไปในชั่วพริบตา หลงเหลือเพียงเเค่เศษสะเก็ดความรวดร้าว ที่หาได้มีผลอันใดกับหัวใจอีกต่อไป แต่เเน่ใจหรือว่า ความเจ็บปวดมันหมดไปเเล้วจริงๆ
   
ไรอัน... เเพทริเซียพยายามนึกย้อนกลับไปถึงความรักครั้งเเรก ราวกับเป็นการทดสอบใจตัวเองอีกหน แปลกดีเหมือนกัน ที่เธอไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับไรอันอีกเเล้ว คล้ายกับเธอลืมหมดทุกสิ่ง ทั้งความรักเเละความหลังอันเจ็บปวด เธอกำลังรู้สึกโล่งไปทั้งใจ เหมือนสิ่งที่เคยเป็นตะกอนฝังใจมาอย่างยาวนาน ได้ถูกขุดรื้อถอนรากถอนโคนออกไปจนหมดสิ้น
   
เเล้วกับอีกคนล่ะ อีกคนที่เเสดงเจตจำนงว่าใคร่อยากจะขอโอกาสดูเเลหัวใจดวงนี้ เธอรู้สึกอย่างไรกับคนคนนี้กันเเน่
   
คุณเทป... เเพทลองคิดถึงครูสอนโยคะสาว โอ้! คราวนี้หัวใจของเธอเริ่มเต้นเร็วขึ้น เร็วขึ้นจนดวงตาเบนไปมองหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ ดวงตาจดจ้องอกด้านซ้าย คล้ายกับจะมองทะลุลงไปให้ลึกถึงต้นกำเนิดความรู้สึก ปลายนิ้วที่ยังค้างนิ่งอยู่ที่ริมฝีปากขยับไล้เเผ่วเบาโดยอัตโนมัติ พวงเเก้มเริ่มร้อนผะผ่าว เพราะเมื่อนึกถึงคุณเทป เหตุการณ์ตอนจูบกันก็โผล่วาบขึ้นมาในความคิดอีกรอบ แล้วเสียงเเผ่วๆ ก็ดังเเว่วตามกันมาในมโนนึกอีกหน... คบกันมั้ยคะ?
   
เเพทริเซียถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะรู้เเล้วว่าคำตอบของหัวใจตัวเองคืออะไร
   
หากเมื่อใดก็ตามที่หัวใจเต้นเเรง ในยามที่คิดถึงใครคนหนึ่ง นั่นเเปลว่า เรากำลังรู้สึกพิเศษกับใครคนนั้น เเล้วไอ้ความรู้สึกพิเศษนี้ ก็ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ นอกจาก...ความรัก
   
มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเเปลกใจเลยเเม้เเต่นิด ที่เธอสามารถเข้าใจความรู้สึกของหัวใจตัวเอง เธอไม่ได้ไร้เดียงสา จนถึงขนาดไม่รู้ว่าอาการเเรกเริ่มของความรักเป็นเช่นไร เธอผ่านประสบการณ์การเริ่มต้นของความรักมาเเล้ว อีกทั้งยังเคยผจญกับความเจ็บปวดจากรักร้าวมาเเล้วด้วยเช่นกัน เเล้วกับการมานั่งเค้นค้นหัวใจตัวเอง ใช่ว่าเหตุการณ์เเบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
   
ระยะเเรกรัก ระยะหวานซึ้ง ระยะเลิกรา ไปจนถึงระยะทำใจ 13 ปีที่ผ่านมา มันคือช่วงเวลาที่เธอได้เรียนรู้ความรักไปพร้อมๆ กับการเติบโตของตัวเอง วัยที่มากขึ้น ชีวิตที่พบเจออะไรเยอะขึ้น มุมมองเเละทัศนคติเรื่องความรักก็ย่อมโตขึ้นตามวัย ถึงเเม้ความรักของเธอจะเกิดขึ้นเเละสิ้นสุดกับคนเพียงคนเดียว เเต่ก็เป็นประสบการณ์ล้ำค่า ที่ทำให้เข้าใจความรักได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
   
เเพทริเซียในวันนี้ จึงกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้มองความรักแค่ด้านสวยงามเพียงอย่างเดียว เพราะเธอรู้ซึ้งดีว่ามุมร้ายกาจของความรักมันทรมานคนเราได้มากมายขนาดไหน เพราะฉะนั้นการที่เธอจะเริ่มต้นความรักครั้งใหม่อีกครั้ง เธอต้องเเน่ใจเเละมั่นใจเสียก่อน ว่าหัวใจของเธอมีภูมิคุ้มกันมากเพียงพอเเล้ว
   
เเละนี่ก็คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอยังไม่กล้าให้คำตอบกับคุณเทปกลับไป เเม้ลึกๆ หัวใจจะยินดีกับคำขอของคุณเทป แต่ยังมีอีกหลากหลายเหตุผลที่ยังเฝ้ารบกวนจิตใจ จนทำให้เธอต้องตอบคำถามของตัวเองให้ได้เสียก่อน
   
ทำไมถึงต้องเป็นคุณเทป? นั่นปะไร คำถามเเรกถูกยกขึ้นมาเเล้ว หลังจากที่เธอเลิกรากับไรอันไป ชีวิตของเธอก็มีคนใหม่ๆ เข้ามาทำความรู้จักด้วยมากมาย เเละมีหลายคนที่เข้าหาเธอในลักษณะที่จะจีบเป็นเเฟน เเต่คนเหล่านั้นกลับไม่มีใครทลายความด้านชาในใจได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็เพื่อนของคุณเทปนั่นไง ครูสอนเทควันโดของหลานชาย ที่เผยท่าทีอย่างโจ่งเเจ้งว่าใคร่อยากจะขอผูกมิตรกับเธอในความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อน ทว่าเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากเกินกว่าคนรู้จักคนหนึ่ง
   
เเต่กับคุณเทป ทำไมหล่อนถึงได้มีอิทธิพลขนาดหนัก จนถึงกับฝ่าความด้านชาที่ฉาบเคลือบหัวใจ เเหวกตรงเข้าไปปักธงชัยตรงกลางใจเธอได้ นี่คือเรื่องที่น่าเเปลกประหลาดจริงๆ
   
จู่ๆ วันหนึ่งหล่อนก็โผล่เข้ามาในชีวิตของเธอ มาพร้อมกับความมีชีวิตชีวา มาทำให้โลกหม่นหมองของเธอเกิดสีสันโดยไม่รู้ตัว จะเป็นรักเพราะใกล้ชิดก็ไม่เชิง เพราะก็ไม่ได้จีบกันใกล้ชิดจนขนาดจะเกิดเป็นความรักได้ เเล้วเพราะอะไรหนอ
   
โชคชะตา พรหมลิขิต ฟ้าบันดาล ก็เเลดูจะเป็นนิยายไปนิด เธอก็ไม่กล้าคิดไปไกลถึงเหตุปัจจัยที่มองไม่เห็นด้วยตาหรอก เเต่ ณ จุดนี้ เมื่อหาคำตอบไม่ได้ เเพทก็ชักจะเริ่มคล้อยตามไปเเล้ว เพราะการที่คนสองคนสปาร์กกันได้เนี่ย อย่างน้อยๆ ก็ต้องเริ่มจากการถูกชะตาก่อน เเล้วเธอก็รู้สึกถูกชะตากับคุณเทป ในวันที่ได้ทำความรู้จักกันเป็นครั้งเเรก ในห้องฟิตเนสวันนั้น
   
เเล้วต่อจากถูกชะตา ความสัมพันธ์จะพัฒนาต่อเป็นอย่างอื่นหรือไม่ ก็ต้องมาดูที่เรื่องพื้นฐานนิสัยใจคอ
   
อืม...คุณเทปเป็นคนนิสัยดีน่าคบหาคนหนึ่ง คุยกันถูกคออีกด้วย บางมุมหล่อนก็ดูอบอุ่นเเละอ่อนโยน บางทีก็ใจเย็นเเลดูสุขุมนุ่มลึก เเต่บางครั้งก็ดื้อรั้นน่ารักเหมือนเด็กซนๆ เวลาที่เธอได้พบเจอหล่อนเเต่ละที เเม้จะเพียงเเค่ชั่วโมงนิดๆ เเต่ก็เป็นเวลาดีๆ ที่มีทั้งรอยยิ้มเเละ...ความสุข
   
จากนั้นระดับความสนิทสนมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว เเละเมื่อรู้ตัวอีกที หัวใจของเธอก็เผลอหวั่นไหวซะเเล้ว ใจเต้นเเรงในยามมองสบตา อาการเขินอายอย่างประหลาดเมื่อเจอเเววตาหวานซึ้งของหล่อน ร่างกายเเทบหยุดหายใจเมื่อต้องใกล้ชิดกับหล่อน เเละที่น่าตกใจที่สุด คือเธอไม่ได้รู้สึกรังเกียจจูบของคุณเทปเลยเเม้เเต่นิด ทว่าเธอกลับรู้สึกพึงพอใจที่ได้รับจุมพิตเเสนหวานนั้น จนเก็บเอามาคิดถึงคะนึงหา เเม้กระทั่งตอนนี้ อา...นี่คงเป็นสภาวะรักระยะเริ่มต้นสินะ
   
เเต่เอ๊ะ! เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณเทปพัฒนารุดหน้ากลายเป็นความรักได้อย่างไร
   
คำถามต่อมาโผล่เเทรกเข้ามาในห้วงคำนึง เเพทริเซียเหลียวไปหยิบปฏิทินบนโต๊ะหัวเตียงมาดูวันที่ นับย้อนกลับไปในวันที่เธอไปส่งหลานชายเรียนเทควันโดวันเเรก ให้ตายเถอะ! เธอรู้จักกับคุณเทปจริงๆ เเค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น ไม่นับครั้งเเรกที่ได้เจอหล่อนโดยบังเอิญหน้าโรงเรียนโยคะด้วย
   
เร็วไปมั้ย ถ้าจะคิดว่านี่คือความรัก? เธอกับคุณเทปรู้จักกันมากน้อยเพียงไร หากจะเลื่อนสถานะหล่อนขึ้นมาเป็นคนรัก
   
โอ้! เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เเพทริเซียมึนตึ๊บเลยทีเดียว เเพทยกมือกุมขมับ หัวคิ้วขมวดมุ่น รักครั้งเเรกของเธอ กว่าจะตกลงปลงใจเป็นเเฟนกับไรอันก็ปาเข้าไปตอนเรียนปีสอง เพราะกว่าเธอจะมั่นใจยกหัวใจให้เขาดูเเล ก็ใช้เวลาพิสูจน์ความจริงใจของไรอันถึง 1 ปีเต็มๆ
   
แต่สำหรับคุณเทป จริงอยู่ที่หล่อนเป็นคนดีที่น่าคบหา หล่อนเข้ากับเธอได้ดีก็ใช่ หล่อนทำให้ใจเต้นเเรงก็ถูก เเต่เธอจะคบกันหล่อนในฐานะคนรัก ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้เเค่ 3 สัปดาห์เนี่ยนะ เธอมั่นใจในตัวผู้หญิงคนนี้ขนาดนั้นเลยเชียวหรือ เเพทริเซียถามตัวเองอย่างลังเลใจ
   
ทว่าในความคิดอันสับสนวุ่นวาย จู่ๆ ในห้วงนึกคิดของเเพทก็พลันขาวโพลนไปหมด เเล้วสีขาวก็ค่อยๆ จางหายไป สิ่งที่เกิดขึ้นในความคิดตอนนี้ Flashback กลับไปยังเหตุการณ์ช่วงหัวค่ำ เริ่มตั้งเเต่คุณเทปเดินเข้ามาในบ้านหลังนี้
   
นี่หัวใจกำลังจะบอกอะไรกับเธออีก เเพทริเซียหลับตาขมวดคิ้วมุ่น ปลายนิ้วมือนวดคลึงขมับเบาๆ เเต่ก็ยอมเปิดโอกาสให้หัวใจตัวเองทำการฉายภาพซ้ำเดิมต่อไปเรื่อยๆ หากเเต่เรื่องราวที่ผุดโผล่ขึ้นในหัว ก็ค่อยๆ อ้อยอิ่งดำเนินไปราวกับเป็นภาพสโลว์โมชั่น คล้ายกำลังย้อนให้เธอได้มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชัดๆ อีกครั้งหนึ่ง
   
ใบหน้าของคุณเทปลอยเด่น เเล้วเธอก็มองเห็นหล่อนทั้งตัว หล่อนนั่งอยู่ที่โซฟาเเละส่งยิ้มมาให้เธอ หล่อนขันอาสาขอเข้าไปเป็นลูกมือในห้องครัว รอยยิ้มโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของเเพทอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ดวงตายังปิดอยู่
   
ภาพตัดไปในห้องครัว คุณเทปยืนยิ้มหลับตาพริ้ม เเต่หล่อนก็ลืมตาขึ้นเมื่อเธอส่งเสียงเรียก เเละจากนั้นสายตามีพลังของหล่อนก็สะกดให้เธอตกอยู่ในภวังค์ เเล้วภาพก็ตัดไปอีก เป็นตอนที่คุณเทปเพิ่งจะเดินออกไปจากห้องครัว กายจากไป ทว่าสิ่งที่หล่อนทิ้งเอาไว้คือความอบอุ่นที่เธอไม่เคยพานพบมาเนิ่นนาน อุ่นใจ เธอรู้สึกเช่นนั้น รู้สึกจนถึงบัดนี้
   
จากความอุ่นใจ ภาพความประทับใจก็ตามมาติดๆ เหตุการณ์น่ารักๆ บนโต๊ะอาหาร ที่มีเพียงเเค่เธอกับคุณเทปตามลำพัง นานเเล้ว ที่โต๊ะอาหารที่บ้านไม่ได้เปิดรับคนนอก หากเเต่วันนี้คุณเทปกลับกลายเป็นเเขกที่ได้รับโอกาสพิเศษจากเธอ
   
จน ณ ตอนนี้ เเพทริเซียยังอดเเปลกใจไม่ได้ ทำไมเธอถึงกล้าอนุญาตให้คุณเทปมาทานข้าวเย็นด้วย เเม้เธอจะไม่ใช่คนโลกส่วนตัวสูงจัด ทว่าก็ไม่ค่อยจะพาคนรู้จักมาที่บ้าน ยิ่งย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพื่อนสนิทสักคนยังไม่เคยพามาเลย เเต่กับคุณเทป มันเเปลกออกไป ยิ่งหล่อนเข้ามาเดินวนเวียนอยู่ในบ้าน เธอก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคย...คุ้นเคยกับการที่มีหล่อนอยู่ใกล้ๆ
   
ภาพในความคิดเดินต่อไปถึงเหตุการณ์ในเเพนทรี อุบัติเหตุน้ำร้อนลวกมือจากความประมาทของเธอ คุณเทปเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลอย่างรวดเร็ว กิริยาท่าทางของหล่อนบอกชัดถึงความห่วงใยที่มีให้เธอ เเล้วเหตุการณ์ก็ตัดไปถึงช่วง...จูบสะท้านใจ
   
โอ! สัมผัสอ่อนโยนที่คุณเทปได้มอบให้กับเธอ หาได้ตึดตรึงเพียงในใจเท่านั้น เพราะราวกับว่าจุมพิตนี้ไม่ได้ประทับเเค่ริมฝีปาก ทว่ากลับจารึกเเม่นมั่นอยู่ในความทรงจำของเธออีกด้วย เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์เเละความรู้สึกลึกซึ้ง
   
เเต่ให้ตายเถอะ! นี่เธอคิดถึงจูบอีกเเล้วหรือ เเพทริเซียสะดุ้งเฮือก เปลือกตาเปิดอ้าออก ใบหน้าของเเพทยุ่งเหยิงว้าวุ่น ถอนหายใจหนักๆ ติดต่อกันหลายต่อหลายครั้ง
   
อา...รู้จักกันเเค่ 3 สัปดาห์ เเต่เธอยอมปล่อยให้คุณเทปจูบ มิหนำซ้ำยังคิดถึงพะวงหาสัมผัสนั้นอีกต่างหาก เป็นเรื่องที่น่าอับอายชะมัด นี่ถ้ามีคนรู้เรื่องนี้เข้า คงไม่เเคล้วโดนหาว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย เเม้จะเป็นเเค่การจูบ เเต่มันก็เป็นการกระทำที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับคนที่ไม่ใช่เเฟน เธอเป็นผู้หญิง ก็ควรจะต้องรักนวลสงวนตัว ควบคุมความประพฤติของตัวเองให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
   
เเต่เอ๊ะ! คุณเทปก็เป็นผู้หญิงนี่ ต่อให้จะจูบกันอีกสักร้อยครั้ง หรือมีอะไรเกินเลยกว่านั้น ผู้หญิงกับผู้หญิงก็ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่เหมือนกับเวลาที่ผู้หญิงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพศตรงข้าม เเพทริเซียกะพริบตาถี่ๆ สีหน้าเหวอๆ Oh! My god เธอคิดไปไกลถึงเรื่องพรรค์นี้ได้ยังไง เเต่พอฉุกคิดขึ้นมาว่าคุณเทปเป็นผู้หญิง ประเด็นใหม่ก็ถูกจุดขึ้นในความคิด
   
โอ้! คนที่เพิ่งขอเธอคบ ซึ่งเป็นคนเดียวกับคนที่ทำให้เธอเริ่มรู้สึกหลงรัก เป็นผู้หญิงเหมือนกันกับเธอ ผู้หญิงรักกับผู้หญิง อาจจะเป็นเรื่องปกติไปเเล้ว สำหรับโลกในยุคปัจจุบัน เเต่เธอไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อนเลย ว่าเรื่องเเบบนี้จะเกิดขึ้นกับชีวิตเธอ
   
เเพทริเซียขมวดคิ้วมุ่น ไม่ได้รู้สึกตกใจกับเรื่องนี้ เเละก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจเเต่อย่างใด เธอเติบโตมาในสังคมเปิดกว้างที่ยอมรับในความหลากหลายทางเพศ เธอเองก็มีเพื่อนที่เป็นเพศที่ 3 ทั้งเกย์เเละเลสเบี้ยน เเต่เธอกำลังสงสัยตัวเอง สงสัยว่าทำไมถึงได้เกิดความรักขึ้นกับคุณเทปได้ ทั้งที่หล่อนก็เป็นผู้หญิงเหมือนเธอ
   
ตั้งเเต่เกิดมาจนอายุปูนนี้ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะมีใจพิศวาสผู้หญิงด้วยกัน ไม่มีสักหนที่หวั่นไหวกับคนเพศเดียวกัน อาจจะมีชื่นชมผู้หญิงคนอื่นบ้างเป็นบ้างครั้ง เเต่ก็เป็นเพียงการชื่นชม ไม่ได้ปรารถนาจะไขว่คว้ามาเป็นคนรัก
   
เเล้วใช่ว่าจะไม่เคยมีเพศที่สามมาจีบ มีบ้าง เเต่ก็ไม่ได้ทำให้ใจเต้นเเรง ไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมมากๆ กับผู้หญิงมาก่อนใช่หรือไม่ มันก็ไม่ใช่ เพราะเธอกับเพื่อนผู้หญิงหลายๆ คน ก็เคยโอบกอดเเนบชิด ใช้ชีวิตกินนอนอยู่ในห้องเดียวกันมาก่อน เเต่สัมผัสของเพื่อน ก็หาได้ทำให้วูบวาบเหมือนสัมผัสที่เธอได้รับจากคุณเทป
   
ในห้องเรียนโยคะเมื่อช่วงเช้า เป็นเครื่องการันตีได้อย่างดี เมื่อเธอทรงตัวไม่อยู่ เเล้วคุณเทปมารับร่างเธอเอาไว้ กลายเป็นกอดกันโดยไม่ได้ตั้งใจ เเค่นั้นหัวใจก็พานเต้นระรัวเร็วจนเเทบจะควบคุมความรู้สึกไม่อยู่ซะเเล้ว ไหนจะในยามที่หล่อนจับมือเธอเอาไว้ในซิงค์ล้างจานนั่นอีกล่ะ ถึงเเม้จะเป็นการปฐมพยาบาลบาดเเผลน้ำร้อนลวก เเต่สัมผัสนั้นก็หวิววาบสะท้านไปทั้งใจ ทว่าความใกล้ชิดทั้งหมดทั้งมวล ก็เทียบไม่ได้เลยกับจุมพิตเพียงครั้งเดียว
   
โอ๊ย! ความคิดกระหวัดกลับมาที่เรื่องจูบอีกเเล้ว เเพทริเซียสะบัดหน้าเเรงๆ ทำไมน้า เธอถึงได้ถวิลหารสสัมผัสอ่อนหวานนั้นอยู่ร่ำไป เเต่ก็เอาเถอะ ความคิดกับความรู้สึกมันเป็นเรื่องที่ห้ามได้ยากยิ่ง เธอเข้าใจดี
   
เเล้วเรื่องคุณเทปจะไปลงเอยที่ไหนเนี่ย? เเพทริเซียพลิกตัวนอนคว่ำหน้ากับหมอน ความคิดสับสนอลหม่านไปหมด ทุกอย่างในหัวตอนนี้ กระจัดกระจายลอยวนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ชักจะเริ่มรู้สึกว่าประสบการณ์ความรักครั้งเก่า ไม่อาจช่วยอะไรเธอได้เลย เพราะคุณเทปเหมือนมาเหนือเมฆมาก หล่อนเเหวกทุกกฎเกณฑ์ของความรัก หล่อนทำให้เธอหลง...รัก ทำให้เธอคิดถึง ในขณะเดียวกันก็กำลังทำให้เธอคิดไม่ตก!!
   
เรื่องของเทปยังคงทำให้เเพทริเซียว้าวุ่นใจต่อไป จนกระทั่งผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
   
เเต่ถ้าหากเเพทจะเฉลียวใจสักนิด เเละหยุดความคิดให้อยู่นิ่งๆ สักพัก เเพทก็จะพบว่าคำตอบทั้งหมดที่เธอตามหา ไม่ได้อยู่ในความคิด หากเเต่อยู่ในหัวใจของเธอเอง!!











ค่ำคืนหัวใจวุ่นวายผ่านพ้นไป ดวงตะวันโผล่มาเยี่ยมเยือนขอบฟ้าอีกหนหนึ่งเเล้ว ธัญสินีลืมตาตื่นอย่างงัวเงีย มือเอื้อมคว้านาฬิกาปลุกบนโต๊ะหัวเตียงมาดูเวลาด้วยความเคยชิน โอ้! เพิ่งจะ 6 โมงเช้า ทำไมร่างกายของเธอถึงได้ตื่นตัวเร็วนัก ทั้งที่เพิ่งได้นอนหลับพักผ่อนไปไม่กี่ชั่วโมงเอง จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าสติดับหลับไปตอนไหน เเต่เท่าที่เธอดูนาฬิกาครั้งล่าสุด นั่นคือตอนตี 2
   
พอความคิดย้อนกลับไปในช่วงก่อนหลับ เรื่องราวที่ยังคาราคาซังจนทำให้คิดไม่ตกก่อนนอน ก็พลันวกกลับมาทักทายธัญสินีอีกครั้งในเช้าวันใหม่ เหตุการณ์ที่บ้านคุณเเพทยังคงไม่รางเลือนไปจากความทรงจำของเธอเเม้เเต่วินาทีเดียว เทปยกเเขนก่ายหน้าผาก สีหน้าเคร่งเครียด คล้ายกับคนที่สับสนกับชีวิตอย่างหนัก การกระทำของเธอเมื่อวานนี้ มันไม่สมควรจะเกิดขึ้นเลย หากเธอยับยั้งชั่งใจเเละคิดไตร่ตรองให้ดีก่อน คงจะไม่รู้สึกย่ำเเย่ถึงเพียงนี้
   
สาเหตุก็เป็นเพราะจูบนั้นจูบเดียวจริงๆ เเค่เธอจูบคุณเเพทก็ไม่เหมาะไม่ควรเเล้ว ยังจะมีหน้าไปขอหล่อนคบอีก ให้ตายสิ! นี่เธอทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย
   
เสียงถอนหายใจหนักๆ ดังขึ้น ธัญสินีสะบัดหน้าเเรงๆ อย่างหงุดหงิดตัวเอง ถึงเเม้หัวใจจะหลงรักคุณเเพท เเละก็เริ่มสัมผัสความรู้สึกในหัวใจของหล่อนได้บ้างเเล้ว เเต่เธอก็มิควรข้ามขั้นตอน จู่โจมหล่อนด้วยการจูบ
   
เเต่คุณเเพทก็ไม่ได้มีทีท่าจะผลักไสหรือรังเกียจเเต่อย่างใดนี่ เสียงจากหัวใจเเย้งขึ้นมาเบาๆ ให้เทปสะดุ้ง ความคิดวกกลับไปยังเหตุการณ์จูบ ราวกับหัวใจกำลังจะช่วยทำให้ความรู้สึกย่ำเเย่บรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง
   
มันก็จริง! เพราะก่อนที่เธอจะเผลอยั้งตัวไม่ไหวยั้งใจไม่อยู่ คุณเเพทเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ดวงตาคู่สีฟ้าของหล่อนที่จ้องมองสบตาเธออยู่นั้น เต็มไปด้วยกระเเสอารมณ์ที่ทำให้เธอเข้าใจว่าหล่อนรู้สึกเช่นเดียวกัน เเละจากนั้นทุกการกระทำก็เป็นไปตามกลไกของร่างกายที่ได้รับคำสั่งมาจากหัวใจล้วนๆ ริมฝีปากของเธอเคลื่อนเข้าเเตะริมฝีปากนุ่มนิ่มของหล่อน จุมพิตเเรกระหว่างเธอกับคุณเเพทจึงได้ฤกษ์เริ่มต้นขึ้น
   
อืม...ทั้งหวาน ทั้งนุ่ม เเม้จะเเผ่วเบา เเต่ก็เป็นสัมผัสที่เร้าความรู้สึกในใจอย่างรุนเเรง ธัญสินีเผลอยิ้มออกมา ดวงตาสีอำพันเหม่อลอยเคลิบเคลิ้ม จะผิดมั้ย ถ้าหากเธอหลงใหลในรสสัมผัสของการจูบ เเละอยากจะมีโอกาสได้ลิ้มรสชาติจุมพิตหวานๆ นั้นอีกครั้ง
   
เเต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดถึงเรื่องจูบ!! ธัญสินีสะดุ้งเฮือก หลุดออกจากภวังค์เคลิบเคลิ้ม เฮ้อ...คิดถึงตอนจูบกับคุณเเพททีไร เธอตกอยู่ในสภาพควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกที
   
จูบเดียว เเต่เป็นจูบที่ทรงอานุภาพมากจริงๆ เล่นเอาเคลิ้มสติหลุด เเต่เธอจะคิดถึงตอนจูบไปก็เท่านั้น เพราะคล้อยหลังเหตุการณ์จูบเเสนหวานสิ้นสุดลง นั่นคือช่วงเวลาที่สร้างความชอกช้ำให้เธอไม่น้อยเลยทีเดียว ความไม่มั่นใจกลับมาถ่วงความรู้สึกของเทปเอาไว้อีกหน รอยยิ้มเลือนหายไปจากใบหน้า
   
เพราะถึงเเม้คุณเเพทจะไม่ได้ปฏิเสธ เเต่หล่อนก็ไม่ได้เอ่ยปากตอบตกลง ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอใจเเป้วไม่น้อย เเละเริ่มไม่เเน่ใจเเล้วว่า หัวใจของคุณเเพทกับหัวใจของเธอรู้สึกเช่นเดียวกันจริงหรือเปล่า หล่อนเอาเเต่นิ่งเงียบเหมือนคนที่ช็อกกับอะไรบางอย่าง ดวงตาสีฟ้าที่บอกความรู้สึกชัดเจนก่อนหน้านี้ ก็พลันไหววูบ เเววตาของหล่อนเเลดูสับสนอย่างหนัก
   
เเละด้วยท่าทีนั้น ก็ทำให้เธอต้องรีบพูดอะไรออกมา เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ ก่อนที่จูบเเละคำขอคบของเธอจะทำลายความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กัน
   
เเต่คุณเเพทก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม ยิ่งหล่อนเงียบมากเท่าไหร่ เทปก็ยิ่งรู้สึกหน้าชามากขึ้นเท่านั้น เธอได้เเต่นึกก่นด่าตัวเอง ที่ปล่อยให้หัวใจบงการชีวิต โดยไม่ผ่านกระบวนการทางความคิดเสียก่อน ไงล่ะ หวานซึ้งตรึงใจเพียงชั่วครู่ชั่วยาม แต่กลายเป็นความทรมานนานนับชั่วโมง ทรมานใจเพราะความรู้สึกเเย่จนถึงบัดนี้
   
สมน้ำหน้า! หัวใจส่งเสียงร้องบอกมาอีก ธัญสินีหัวเราะขื่นๆ นึกสมเพชตัวเองจริงๆ ไปจูบเค้า โดยที่ไม่ถามเค้าก่อน ว่าเต็มใจหรือไม่ ไปขอคบเค้า โดยที่ไม่เคยถามเค้าอีก ว่ามีใจให้กันหรือเปล่า ก็สมควรเเล้วที่จะโดนเพิกเฉยใส่ ดีเเค่ไหนเเล้ว ที่คุณเเพทไม่ด่าเข้าให้
   
เเต่เอ๊ะ! เธอก็ข้ามขั้นตอนไปจริงๆ น่ะเเหละ ยังไม่ทันได้สารภาพความในใจเลย ก็ไปหักหาญน้ำใจคุณเเพทด้วยการจูบหล่อน ตัวเองยังไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์สักนิด เเต่ดันไปขอหล่อนเลื่อนสถานะใหม่ เเล้วใครที่ไหนจะยอมคบหาดูใจด้วย ในเมื่อไม่เคยพูดไม่เคยบอก ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร
   
ธัญสินีถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอเหตุผลประมวลออกมาอีหรอบนี้ มันก็เป็นเรื่องที่เธอควรจะยอมรับสภาพ ว่าเธอพลาดไปเเล้วจริงๆ
   
โอ๊ย! ณ จุดนี้ เธอเข้าใจเเล้วว่า ทำไมคุณเเพทถึงได้มีทีท่าตะลึงงันช็อกค้าง ไม่ยอมพูดยอมจากับเธอ เพราะหล่อนกำลังโดนความสับสนเล่นงานนั่นเอง ซึ่งถ้าหากเป็นเธอ เจอเหตุการณ์เช่นนั้น ก็คงตกอยู่ในสภาพเดียวกับหล่อนเเน่นอน จู่ๆ คนที่เพิ่งรู้จักก็มาเเจกจูบ เเล้วไหนจะคำขอคบหาสายฟ้าเเลบนั่นอีกล่ะ ใครจะตั้งตัวทัน
   
เเต่ที่สำคัญที่สุด ไอ้คนที่พูดออกไปเนี่ย มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองมากเเค่ไหน ถึงกล้าไปขอเค้าเปลี่ยนสถานะ ธัญสินีสะดุ้งโหยง ผุดลุกขึ้นมานั่ง เธอมัวเเต่สนใจความรู้สึกของคุณเเพท เเต่กลับลืมใส่ใจทบทวนความรู้สึกของตัวเอง
   
เหตุการณ์ในเเพนทรีนั้น ทุกการกระทำเเละคำพูดของเธอ ถูกส่งตรงออกมาจากหัวใจก็จริง เเต่ความรู้สึกในใจ มากเพียงพอที่จะไต่ระดับไปสู่การคบหาในฐานะคนรักอย่างจริงจังเเล้วหรือ เธอเพิ่งจะรู้จักกับคุณเเพทได้ไม่นานเองนะ ทำไมถึงได้มั่นใจจนถึงขนาดกล้าขอหล่อนคบ
   
มันเร็วไปเกินไปหรือเปล่า ทั้งที่ยังไม่ได้ศึกษานิสัยใจคอซึ่งกันเเละกัน เเม้กระทั่งเริ่มจีบกันก็ยังไม่เคย เเต่นี่จะคบกันเป็นเเฟนเลย อะไรคือเหตุจูงใจที่ทำให้เธอเเน่ใจขนาดนั้นหนอ เเม้หัวใจจะหวั่นไหวไถลตัวไปอยู่ในหลุมรักรอท่าอยู่เเล้ว เเต่เทปก็ยังอดลังเลใจไม่ได้
   
ความรักครั้งใหม่เป็นภาพร่างจางๆ ในความคิดก็จริง เเต่ความรู้สึกในใจล่ะ เธอพร้อมมากเเค่ไหน ที่จะเริ่มต้นความรักกับคุณเเพทอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นตอนนี้เรื่องความรู้สึกของคุณเเพทหยุดคิดไปได้เลย หาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ
   
ธัญสินีถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ยกมือเสยผมอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน รู้สึกสับสนอย่างหนักอีกเเล้ว ในเมื่อหัวใจยืนยันมาเเล้วว่าพร้อมมาก เเต่ในขณะเดียวกันความคิดก็ยังตามหาเหตุผลมาขัดเเย้งว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจ
   
คงต้องใช้เวลาสินะ! เวลาที่เธอจะจูนความรู้สึกนึกคิดให้ตรงกัน เเละไม่ใช่เธอคนเดียวหรอก ที่ต้องการเวลา หากเเต่อีกคนที่ไปขอเปลี่ยนความสัมพันธ์ด้วยนั้น ก็คงต้องการเวลาเฉกเช่นเดียวกัน เทปส่ายหน้าน้อยๆ เธอคงต้องรออีกนิด รอให้เธอมั่นใจ พร้อมๆ กับรอให้คุณเเพทเเน่ใจความรู้สึกของหล่อนเอง
   
ความสับสนเป็นดังศัตรูร้ายกาจของความรัก ไม่มีใครที่จะช่วยขจัดมันได้ นอกเสียจากตัวเราเอง เเละอาวุธที่จะสามารถทำลายล้างความสับสนให้หมดไป ก็มีเพียงเเค่สิ่งเดียว นั่นคือ...เวลา!










เวลา 8 โมงเช้า รถยนต์คันโตเลี้ยวเข้าไปในซอยสถานที่ทำงานของตัวเอง หากเเต่เจ้าของรถยังไม่ยอมพาตัวเองไปถึงจุดหมายปลายทาง กลับเหยียบเบรกเเละจอดรถนิ่งๆ อยู่หน้าประตูรั้วบ้านหลังสีขาวตรงปากซอย
   
เสียงเครื่องยนต์ที่ดังอยู่หน้าบ้าน เรียกร้องความสนใจจากเจ้าของบ้านได้อย่างรวดเร็ว เเพทริเซียที่กำลังชงกาเเฟอยู่ในเเพนทรี เบนสายตาไปมองหน้าประตูรั้วอย่างสงสัย ใครกันมาจอดรถหน้าบ้านของเธอ จอดตรงนี้เดี๋ยวก็ขวางทางเข้าออกของฟิตเนสหรอก เเต่เเพทก็ไม่ได้เดินออกไปดู ได้เเต่ชะเง้อคอมอง เช้านี้เธอไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่นัก เพราะเรื่องราวบางอย่างยังคงตามรบกวนหัวใจให้วุ่นวายไม่หยุดหย่อน พลอยทำให้ร่างกายขาดความกระตือรือร้นไปโดยปริยาย
   
ทว่าเสียงเครื่องยนต์ก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับเจ้าของรถจอดเพียงชั่วครู่ เเต่จอดทำอะไรตรงหน้าบ้านของเธอเนี่ย เเพทริเซียเลิกคิ้ว ดวงตาเขม็งมองให้ชัดๆ เอ๊ะ! รถคันนี้คุ้นๆ นะ เหมือนจะเป็นรถยนต์ของ...
   
คุณเทป! เสียงในความคิดดังต่อจนจบประโยค พร้อมกับเจ้าของรถก้าวลงมาจากรถ เเพทกะพริบตาถี่ๆ ความคิดพลันว่างเปล่าขาวโพลนไปหมด หัวใจเต้นรุนเเรงขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ เมื่อได้เห็นคนที่ทำให้ใจว้าวุ่นอยู่ในสายตาอีกหน
   
เจ้าของรถคันโตไม่ได้มาหาเจ้าของบ้านโดยตรง เพราะธัญสินีไม่ได้กดกริ่งเเสดงตัว เธอเพียงเเค่เเวะมาทำธุระบางอย่างเท่านั้น เเต่เทปหารู้ไม่ว่า บัดนี้สาวตาสีฟ้ากำลังเเอบมองเธอจากในบ้าน
   
เเพทริเซียรู้สึกระทึกตื่นเต้น อยากรู้เป็นที่สุดว่าคุณเทปยืนทำอะไรตรงประตูรั้วหน้าบ้านของเธอ ยิ่งเห็นท่าทีลับๆ ล่อๆ ของหล่อน เเล้วก็ให้สงสัยไม่น้อย
   
เเต่นั่นอะไรน่ะ! เเพทตวัดสายตามองตามการกระทำของคนที่อยู่หน้าประตูรั้ว มือของคุณเทปถืออะไรมาด้วย หล่อนกำลังผูกหรือมัดสิ่งของอย่างหนึ่ง ห้อยไว้ตรงจุดกึ่งกลางของประตูรั้วบานคู่ เเล้วหล่อนก็เดินกลับไปขึ้นรถ จากนั้นเสียงเครื่องยนต์ก็เงียบหายไป
   
ความสงสัยใคร่รู้ยังคงตามติดความรู้สึกของเเพทริเซีย เเต่เธอก็ไม่ได้เดินออกไปดูในทันทีที่รถคันโตจากไป เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับคุณเทปในตอนนี้ ในตอนที่หัวใจของเธอยังเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย
   
เกือบ 5 นาทีได้ เเพทถึงกล้าเดินออกไปที่ประตูรั้วหน้าบ้าน ดวงตาสีฟ้ามองถุงสีขาวขุ่นที่ถูกมัดไว้กับประตู คุณเทปเอาอะไรมาให้เธอเนี่ย เเค่ยืนมองก็คงไม่มีทางรู้ เธอเอื้อมมือไปเเกะถุงพลาสติกมาเปิดดู
   
โอ้! รู้เเล้วว่าคืออะไร ในถุงมีทั้งเเอลกอฮอล์ ผ้าก็อซ เเละยาสำหรับรักษาเเผลน้ำร้อนลวก
   
รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเเพทริเซียในทันที ความว้าวุ่นในใจหายวับไป เพราะความอบอุ่นถลาเข้ามาโอบอุ้มหัวใจของเธอเอาไว้ เเพทเดินตัวลอยๆ ถือถุงยากลับเข้าไปในบ้าน พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะในช่วงเวลานี้ หลากหลายความรู้สึกมันประเดประดังเข้ามาหาเธอเต็มไปหมด
   
รู้สึกอุ่นใจที่ได้รับความห่วงใยจากคุณเทป ซาบซึ้งใจในความมีน้ำใจของหล่อน ตื้นตันใจที่หล่อนไม่ลืมเธอ เเละที่สุดคือรู้สึกดีใจ หัวใจพองโตจนเเทบจะคับอก เมื่อสัมผัสได้ถึงความใส่ใจเป็นพิเศษของคุณเทป ทั้งที่เมื่อวานเธอใจร้ายกับหล่อนเหลือเกิน เเต่หล่อนก็ยังนึกถึงเเละเป็นห่วงเธอ จนเเอบซื้อยามาเเขวนที่ประตูหน้าบ้านให้โดยไม่ยอมเเสดงตัวให้รู้ เเต่ถึงเเม้จะไม่ได้พบเจอกันจังๆ ทว่าเธอก็ย่อมต้องรู้อยู่เเล้ว ว่ายาถุงนี้มาจากใคร เพราะก็มีเเค่คนเดียวนี่ ที่รู้ว่าเธอโดนน้ำร้อนลวก
   
ความสับสนในใจของเเพทเริ่มคลายตัวไปทีละนิดๆ การกระทำของคุณเทปในเช้าวันนี้ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกประทับใจหล่อนมากเข้าไปอีก ซึ่งเธอก็มั่นใจด้วยว่า ที่คุณเทปทำเเบบนี้ ไม่ได้เอาใจเพื่อหวังผลตอบเเทน หากเเต่หล่อนห่วงใยเธออย่างเเท้จริง
   
เเล้วเธอล่ะเเพท พร้อมหรือยัง ที่จะเปิดใจพิจารณาคนคนนี้อย่างจริงจังเสียที ในเมื่อหล่อนมาเหนือทุกกฎเกณฑ์ของความรัก มันก็ขึ้นอยู่กับเธอเเล้วล่ะ ว่าจะกล้าเเหวกกรอบความคิดเดิมๆ ของตัวเอง เพื่อลองดูกับความรักครั้งใหม่หรือไม่
   
ดวงตาสีฟ้าตวัดไปมองถุงยาในมือ ยานี้สำหรับรักษาเเผลของร่างกาย ส่วนเจ้าของยาคือคนที่เข้ามารักษาหัวใจที่ด้านชา เเพทริเซียถอนหายใจยาว
   
ณ ตอนนี้ คำตอบในใจมีเพียงสั้นๆ เเค่คำเดียว คือคำว่า...รอ!

รออีกนิดนะคุณเทป ขอเวลาฉันอีกหน่อย ขอให้ฉันได้เเน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองก่อน เเล้วฉันจะเป็นคนเดินเข้าไปขอโอกาสจากคุณเอง...

เสียงเเผ่วๆ ดังเเว่วอยู่ในความคิดของเเพทริเซีย ในขณะที่ดวงตายังคงจ้องมองถุงยาในมือ ได้เเต่เฝ้าหวังว่าเสียงความคิดที่เเปรผลจากหัวใจของเธอ จะสามารถสื่อไปถึงเจ้าของถุงยานี้ได้ หวังว่าคุณเทปจะยังรอกันนะ!!





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ลงมาจากเตาร้อนๆ เลยค่า  :P

อย่าเพิ่งเบื่อกันไปก่อนนะคะ ความรักก็ต้องมีพัฒนาการนะ 555

ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ


++++++ViSwee++++++






Rating: ***** โดย 2 สมาชิก
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น
fuyusang
หน้าใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


ดูรายละเอียด อีเมล์
23 สิงหาคม 2014 เวลา 17:10:44
 :07:
แสดงความคิดเห็น