web stats

ข่าว

 


The Detective's File - Special Case 1

โพสต์โดย: nuffy วันที่: 16 สิงหาคม 2014 เวลา 10:50:32 อ่าน: 302

ศรัณยาเดินหิ้วกระเป๋าผ้าที่ใส่หนังสือและเอกสารเดินไปตามทางเท้าตรงไปที่สถานีรถประจำทาง เธอเพิ่งจะคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาและคืนหนังสือที่ห้องสมุด ศาสตราจารย์เมนเซลรู้สึกเป็นห่วงเธอหลังจากที่ทราบข่าวว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอถูกฆาตกรรมและเธอถูกกันเป็นพยาน อีกทั้งเธอยังตกเป็นเป้าหมายของคนร้าย แต่ในท้ายที่สุดเมื่อคนร้ายถูกจับได้ เขาก็ยังเป็นห่วงเธอ โดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ

"ขอบคุณค่ะ ฉันยังสบายดี คงเป็นเพราะตำรวจช่วยเหลือฉันมาตลอด" สาวไทยตอบอาจารย์ที่ปรึกษา ชายวัยกลางคนร่างสูงที่มีหนวดคล้ายกับอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

"ถ้าคุณยืนยันแบบนั้น ผมก็สบายใจ" ศาสตราจารย์เมนเซลพูด "เอาเป็นว่าผมจะขยายเวลาส่งรายงานให้คุณก็แล้วกัน ผมเข้าใจว่าเรื่องกระบวนการกับตำรวจค่อนข้างใช้เวลา คุณจะได้มีเวลาในการจัดการงานมากขึ้น"

"ขอบคุณค่ะ"

ศรัณยายืนรอรถประจำทางพลางคิดถึงงานที่ตัวเองจะต้องจัดการ ขณะที่คิดมือของเธอที่ซุกอยู่ในกระเป๋าถือก็สัมผัสกับพวงกุญแจพวงหนึ่ง สาวไทยยิ้มเพราะพวงกุญแจพวงนั้นเป็นกุญแจบ้านของนักสืบแองเจล่า โคล ตำรวจสาวที่ดูแลคดีของลูกพี่ลูกน้องของเธอ

'ฉันอยากพบคุณอีก' คำพูดของนักสืบหญิงดังขึ้นมาในห้วงความคิด

ขาของศรัณยาก้าวขึ้นรถประจำทางที่ไม่ได้ตรงไปที่บ้านพักของเธอแต่เป็นบ้านของคนที่เธอนึกถึง สาวไทยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เธอรู้แต่เพียงว่าเธอคิดถึงตำรวจสาวเท่านั้นเอง

เมื่อไขกุญแจเข้าไปในบ้านของโคล ศรัณยาหัวเราะออกมาเบาๆ

"เละเหมือนเดิมเลยแฮะ"

จากสภาพบ้านที่เคยดูดีขึ้นหลังจากที่เธอจัดการให้เมื่อสัปดาห์ก่อนกลับมาเละเทะอีกครั้ง ทั้งกองเอกสาร เสื้อผ้า ของใช้ในครัว และเมื่อเธอเดินเข้าไปที่ห้องนอนเธอก็ส่ายหน้า เมื่อเห็นเสื้อผ้าและชุดชั้นในกองอยู่ที่พื้น

"ให้ตายสิ คุณไม่มีเวลาแม้แต่จัดการกับเรื่องแบบนี้เลยเหรอเนี่ย"

สาวไทยวางกระเป๋าของเธอลงบนโซฟาแล้วเริ่มเก็บกวาดห้องนอนของตำรวจสาวเป็นที่แรก เธอเอาเสื้อผ้าใส่ตู้ซัก เปลี่ยนผ้าปูที่นอน

"ดีที่ห้องน้ำยังโอเคอยู่" ศรัณยาพูดเบาๆ เมื่อเดินเข้าไปในห้องน้ำที่ยังดูสะอาด ดูเหมือนว่าเจ้าของบ้านจะใช้เวลาในห้องนี้มากกว่าห้องอื่นๆ เลยทำให้มีเวลาดูแลมากกว่าส่วนอื่นๆ ในบ้าน

เมื่อจัดการห้องนอนเสร็จเธอก็กลับมาจัดการกับห้องครัวที่น่าจะทำความสะอาดง่ายกว่าห้องนั่งเล่นที่อีกฝ่ายใช้เป็นห้องทำงานด้วย ในห้องนั่งเล่น สาวไทยลงมือเก็บเอกสารที่ตกเรี่ยราดอยู่บนพื้น ส่วนใหญ่เป็นเอกสารทางคดีที่อีกฝ่ายรับผิดชอบ มีนิตยสารและหนังสือพิมพ์กองอยู่บนพื้นประปราย เธอเก็บเอกสารไปเรื่อยๆ จนถึงโต๊ะหนังสือ เธอเห็นสมุดเล่มหนึ่งที่เปิดค้างเอาไว้ เป็นสมุดรายชื่อของพยานในแต่ละคดีที่เธอทำ ในนั้นมีชื่อ นามสกุล รูปถ่าย จุดสังเกต ลักษณะนิสัย ความเกี่ยวข้องกับคดีที่ค่อนข้างละเอียด บ่งบอกถึงความใส่ใจของคนเขียน และแต่ในแต่ละหน้าจะส่วนที่ตัวของโคลเองเขียนบรรยายความรู้สึกของตัวเองกับพยานแต่ละคน

'หมอนี่หน้าม่อชะมัด ขยะแขยงสุดๆ ฉันผมบลอนด์แต่ไม่โง่นะเว้ย!'

'ยายแกอยู่คนเดียวกับแมวอีก 12 ตัว! ฉันคิดไม่ออกเลยว่าฉันจะทำยังไงถ้าต้องดูแลเจ้าเหมียวพวกนั้น ฉันตายก่อนแน่นอน'

'ลุงนี่ทำให้ฉันนึกถึงพ่อ... หน้านิ่ง ปากร้าย เย็นชา ไม่อยากเจอเขาอีกเลยจริงๆ ถ้าขอให้พอลไปคุยกับเขาแทนจะดีมั้ยน้า?'

'เด็กนี่แสบชะมัด แต่ฉันว่าฉันรับมือได้นะ เฮ้! ไอ้หนู มาดวลสตรีทไฟเตอร์กันหน่อยเป็นไง'

'เขาหล่อโคตรๆ แต่เสียดายที่เขาไม่ใช่สเป็คฉัน แค่หล่อก็อย่าเพิ่งคิดว่าจะอ่อยสาวได้นะพ่อหนุ่ม ฉันไม่ได้เป็นตำรวจขี้เหงาหลงผู้ชายอย่างที่นายคิดนะ'

ศรัณยาหัวเราะกับข้อความที่นักสืบหญิงเขียน เธอมองไปที่ชั้นหนังสือที่อยู่ด้านข้างก็เห็นสมุดบันทึกขนาดเดียวกับที่วางอยู่บนโต๊ะเรียงกันอยู่หลายเล่ม ตำรวจสาวคงเขียนตั้งแต่เริ่มทำงาน

'คุณใส่ใจคนอื่นมากขนาดนี้เลยเหรอ... แล้วฉันล่ะ?'

และด้วยความสงสัยสาวไทยจึงลองพลิกหน้ากระดาษไปแถวๆ วันที่โคลเริ่มทำคดีของเธอ

'เธอเป็นคนที่กล้าหาญมาก ดูบอบบางแต่ไม่อ่อนแอ ฉันไม่เคยเจอใครแบบนี้มาก่อน ฉันชอบเธอ ชอบจริงๆ นะ... คนไทยชอบให้เรียกชื่อเล่นงั้นเหรอ? เธอจะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะเรียกเธอว่า 'เล็ก' เหมือนคนอื่นๆ... อยากให้เธอเรียกชื่อเล่นฉันเหมือนกัน แล้วก็... ฉันอยากรู้จักเธอมากขึ้น'

รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าของศรัณยาทันทีเมื่ออ่านข้อความนั้น และยิ้มมากขึ้นเมื่อเห็นรอยลิปติกเป็นรูปริมฝีปากของอีกฝ่ายอยู่บนรูปของเธอเอง นอกจากนี้ยังมีข้อความที่เขียนลงในกระดาษโพสอิทอยู่ด้านข้างว่า

'ความปรารถนาของฉันไม่ใช่เป็นผู้ที่มีความหมายต่อคนทุกคน แต่ฉันอยากจะเพียงแค่มีความหมายสำหรับใครบางคน'

สาวไทยปิดสมุดด้วยรอยยิ้มแล้วเดินลงไปนั่งที่โซฟา เธอหลับตาลงเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยจากการทำความสะอาด และนึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นและอ่อนโยนของโคลในคืนที่เธอมาที่นี่เป็นครั้งแรก...

เธอประทับใจนักสืบหญิงตั้งแต่แรกเห็น ตำรวจสาวเหมือนหลุดออกมาจากซี่รี่ย์สืบสวนในโทรทัศน์ คนแบบนี้อาจจะมีจริงๆ แต่คงได้เห็นไม่บ่อยเท่าตำรวจหญิงคนอื่นๆ ที่เธอเคยเห็นในเมือง โคลอ่อนโยนและดีกับเธอมาก ทั้งปลอบใจเธอหลังจากดูศพแนนในห้องเก็บศพและยืนอยู่ใกล้ๆ เธอตอนโทรศัพท์บอกข่าวกับครอบครัวที่สถานกงสุล คอยถามไถ่และพูดคุยด้วยความห่วงใยทุกครั้งที่เธอนำของๆ คนร้ายมาให้ สิ่งที่เธอชอบที่สุดในตัวอีกฝ่ายคือดวงตา... ดวงตาสีน้ำเงินของนักสืบหญิงสวยมาก ทุกครั้งที่มองเข้าไปในนั้นทำให้เธอรู้สึกตกอยู่ในภวังค์ เธอรู้สึกดีมากขึ้นเมื่อโคลเรียกชื่อเล่นของเธอ และบอกให้เธอเรียกชื่อเล่นของตนเองเช่นเดียวกัน

'อย่าเรียกฉันว่านักสืบโคลเลย เรียกฉันว่าแองจี้เถอะ... ฉันขอเรียกคุณว่าเล็กนะ... นี่ฉันออกเสียงถูกมั้ย? ฉันรู้มาว่าภาษาไทยออกเสียงยาก' ตำรวจสาวพูดในวันที่เธอเอาของที่คนร้ายมาวางทิ้งไว้หน้าบ้านพักของเธอ

ศรัณยาแปลกใจตัวเองที่รู้สึกอยากช่วยโคลทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการทำความสะอาดบ้านในวันที่เธอมาค้างที่นี่วันแรก อาจเป็นเพราะเธอรับไม่ได้กับสภาพบ้านที่รกและเละเทะ บ่งบอกได้ว่าเจ้าของบ้านไม่มีเวลาแม้แต่จะดูแลอะไรเลย ยิ่งตอนที่อีกฝ่ายบอกเธอว่าต้องทำงานเข้ากะละ 48 ชั่วโมง ฟังดูน่าเห็นใจขึ้นไปใหญ่ เพราะเธอเห็นว่าถึงแม้เจ้าตัวจะพูดว่าเข้างานเป็นกะ แต่ดูเหมือนแทบไม่ได้อยู่ติดบ้านเนื่องจากต้องทำงานดูแลผู้คนในเมืองตลอด เรียกได้ว่าหายใจเข้า-ออกเป็นงาน เธอจึงลงมือเก็บกวาดบ้านนิดหน่อยในช่วงระหว่างที่เจ้าของบ้านอาบน้ำแล้วนอนพักบนเตียงด้วยความเหนื่อยและความเครียดตลอดทั้งวัน

สาวไทยหน้าแดงเมื่อคิดถึงจูบแรกของเธอกับนักสืบหญิง เพราะดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้นทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้... โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ต่อจากจูบหวานๆ มันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง

"พอๆๆๆ คิดอะไรฟุ้งซ่านนะเรา" เธอพูดกับตัวเองแล้วเดินไปหยิบหนังสือกับสมุดโน้ตขึ้นมาทำงาน

...

"เฮ้อ... กลับมาถึงบ้านซะที" โคลบ่นกับตัวเองเบาๆ ขณะที่เปิดประตูบ้าน เธอเดินเข้ามาด้วยความเซ็งจากงานในวันนี้ เธอรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีนัก แถมยังปะทะคารมกับผู้บังคับบัญชาเรื่องรายละเอียดของคดีอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายถูก แต่หมวดคูเปอร์ก็เอาชื่อเธอเข้าลิสต์คนที่เขาเกลียดขี้หน้าเรียบร้อยแล้ว

เธอเดินตรงไปที่ห้องครัวแล้วเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำแร่ขึ้นมาดื่ม พอหันไปที่ซิงค์ที่สะอาดและว่างเปล่าก็ตกใจเพราะเธอจำสภาพทุเรศๆ ของมันก่อนออกไปได้ดี

"อะไรวะ!"

นักสืบหญิงรีบตรงไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วยิ้มกว้างเมื่อเห็นร่างของใครคนหนึ่งที่โซฟายาว เธอเดินตรงไปที่ตรงนั้นแล้วนั่งคุกเข่าลงด้านหน้า

ศรัณยานอนหลับอยู่โดยมีหนังสือและสมุดโน๊ตวางอยู่ที่ตัก มือขวาของเธอถือดินสอกดเอาไว้หลวมๆ ตำรวจสาวนั่งมองพร้อมกับรอยยิ้มระบายในใบหน้า รู้สึกว่าอาการเหน็ดเหนื่อยของเธอหายไปอย่างปลิดทิ้ง

"คุณช่วยฉันทำความสะอาดอีกแล้วเหรอ ขอบคุณนะ" โคลพูดเบาๆ พลางมองไปรอบๆ ห้องที่ดูสะอาดและเป็นระเบียบ เธอหันกลับมาที่สาวไทยอีกครั้งแล้วเอื้อมมือไปหยิบดินสอกดออกมาจากมืออย่างเบามือและระวังเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตื่น รวมทั้งค่อยๆ หยิบหนังสือและสมุดโน๊ตออกจากตักด้วยเช่นกัน

"เฮ้..." เสียงงัวเงียของศรัณยาทักขึ้นมาเบาๆ ขณะที่เธอกำลังวางของลงบนโต๊ะ

"หวัดดี"

"คุณกลับมานานหรือยัง?"

"เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง... คุณมานานแล้วเหรอ?" นักสืบหญิงพูดพลางลงไปนั่งข้างๆ

"ตั้งแต่บ่ายแล้ว... ฉันอยากหาที่เงียบๆ อ่านหนังสือก็เลยมาที่นี่ คุณไม่ว่าอะไรนะ"

"ไม่หรอก... แต่คุณแน่ใจเหรอว่าได้อ่านหนังสือที่นี่น่ะ"

"ได้อ่านสิ จดโน๊ตไปได้ตั้งสองบท" สาวไทยพูดขำๆ พลางมองหน้าอีกฝ่ายที่ขมวดคิ้วล้อเลียนเธอ "คุณไม่เชื่อเหรอ?"

"เห็นชัดว่าฉันไม่เชื่อ กว่าฉันจะเก็บกวาดได้ขนาดนี้ก็ใช้เวลาเป็นอาทิตย์นะ"

"ไม่นานหรอกน่า แค่รู้หลักว่าต้องทำอะไรก่อนหลังเท่านั้นเอง"

ตำรวจสาวหัวเราะ "วิชาการเรือนฉันเกือบตกตลอดแหละ" เธอทิ้งตัวซบลงบนไหล่ของอีกฝ่าย "ตัวคุณหอมจัง... ฉันชอบกลิ่นนี้นะ"

"ขอบคุณค่ะ... วันนี้งานหนักมั้ย?"

"เหมือนทุกวัน"

"แล้ว... จับคนไม่ดีได้เยอะหรือเปล่า?"

"ออกหมายจับไปสองคน ตามงานค้างอีกห้า แล้วก็ทะเลาะกับเจ้านายไปครึ่งวัน ฉันไม่ได้บ่นนะแต่เขางี่เง่าชะมัด" โคลพูดแล้วโอบเอวคนนั่งข้างๆ พลางสูดกลิ่นหอมๆ ของแชมพูที่ผมของอีกฝ่าย

"คุณทำดีแล้วล่ะ คนทำงานยังไงก็ต้องมีทะเลาะกันบ้างไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย"

"ก็ใช่... อื้อ ถามอะไรหน่อยสิ?"

"คะ?"

"ชื่อเล่นคุณน่ะ เล็ก... มันแปลว่าอะไรเหรอ?"

ศรัณยาหัวเราะ "เล็กมันหมายถึงขนาดเล็ก หรือไม่ก็สุดท้อง คนไทยจะเรียกลูกคนสุดท้องว่าลูกคนเล็ก สำหรับบ้านฉันเล็กหมายถึงขนาดตัว แม่บอกว่าตอนฉันเกิดมาฉันตัวเล็กกว่าเด็กคนอื่นๆ เสียงร้องไห้ก็เป็นเสียงเบาๆ เล็กๆ พวกเขาเลยตั้งชื่อฉันว่า... เล็ก"

ตำรวจสาวส่งเสียงรับในลำคอ "แต่โตมาตัวคุณก็ไม่เล็กสักหน่อย แถมยังเป็นนักกีฬาด้วยใช่มั้ย"

"ค่ะ พ่อกลัวว่าฉันจะขี้โรค กลัวเด็กคนอื่นรังแกด้วยก็เลยให้เรียนเทควันโด โตขึ้นมาหน่อยก็ให้เรียนยูโด ตัวก็เลยโตขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นก็ตลกดีนะเพราะมีแต่คนกลัวถูกฉันเตะ โดยเฉพาะพวกเด็กผู้ชาย" สาวไทยอธิบายพร้อมกับเสียงหัวเราะแล้วเลื่อนมือไปกุมมือของอีกฝ่ายที่โอบเอวเธอไว้

"พ่อคุณคิดถูกแล้วล่ะ คุณเข้มแข็งมากเลย"

ศรัณยายิ้มแล้วหันไปมองอีกฝ่าย ใบหน้าของเธอร้อนขึ้นเมื่อสบตาสีน้ำเงินสวยของโคล รอยยิ้มบางๆ ของคนที่มองเธออยู่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้น เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้าลงไปจูบเจ้าของบ้าน

สาวไทยรู้ตัวอีกทีตอนที่เธอยืนอยู่ใต้ฝักบัวด้วยร่างกายเปลือยเปล่า นักสืบหญิงเดินเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง จูบเธอที่ไหล่และต้นคอ มือทั้งสองของอีกฝ่ายลูบไล้ตามร่างกายที่เต็มไปด้วยฟองสบู่ เธอหันกลับไปกอดอีกฝ่ายและได้รับจูบที่ทำให้เธอแทบจะยืนไม่อยู่ เธอไม่รู้ว่าเธอออกจากห้องน้ำได้ยังไง สิ่งที่เธอรู้คือเธอชอบสัมผัสที่ได้จากตำรวจสาวและการตื่นนอนในอ้อมกอดของโคล

กลางดึกคืนนั้น เมื่อศรัณยาลืมตาขึ้นมาเธอพบกับใบหน้าของโคลที่กำลังหลับสนิท เธอไล่สายตามองตั้งแต่เส้นผมสีบลอนด์ทองสลวย ดวงตากลมโต จมูกโด่งสวย ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อน ลำคอระหงที่ปรากฎรอยแดงบางๆ ที่เธอทำ หน้าอกที่กลมกลึง เธอชอบกล้ามหน้าท้องของอีกฝ่ายและชอบที่จะสัมผัสมันเล่น ทุกครั้งที่เธอไล้มือไปที่ซิกส์แพ็คของนับสืบหญิง อีกฝ่ายจะหัวเราะด้วยความจั๊กจี้และจะแกล้งเธอกลับด้วยการดึงตัวเธอเข้ามากอดและหอมแก้มทุกครั้ง สาวไทยยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงภาพนั้นแล้วเลื่อนมือไปลูบที่ท้องของคนที่กำลังหลับอยู่

ตำรวจสาวขยับตัวเล็กน้อยและส่งเสียงงึมงำออกมาหลังจากที่ถูกสัมผัส ศรัณยาหัวเราะออกมาเบาๆ เธอขยับตัวเข้าใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นพร้อมๆ กับที่โคลลืมมาขึ้นมามองแบบงัวเงีย

"จูบฉันหน่อยสิคะ" นักสืบหญิงพูด และสาวไทยก็ทำตามทันที

และหลังจากที่จูบหวานๆ จบลงตำรวจสาวก็พูดต่ออีกว่า "อยู่กับฉันนานๆ นะ"

"ค่ะ" ศรัณยาพูดแล้วซุกใบหน้าลงที่หน้าอกของอีกฝ่าย

ในเช้าวันต่อมา สาวไทยจูบลานักสืบหญิงที่ยังไม่ตื่นดีเพราะเธอต้องรีบไปเข้าเรียน เจ้าของบ้านกอดเธอแน่นด้วยร่างกายที่ไร้เสื้อผ้าติดตัวและจูบเธอด้วยริมฝีปากที่ยากจะปฏิเสธ แต่ศรัณยากัดฟันบอกลาพร้อมกับบอกว่าจะกลับมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้

"ฉันจะอยู่ตรงนี้..." โคลพูดแล้วดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามาจูบอีกครั้ง

"ค่ะ" สาวไทยตอบ เธอหายใจแรงขึ้นจากเพราะจูบของเจ้าของบ้านที่ดูเหมือนไม่อยากให้เธอออกไปข้างนอก

"ฉันพูดจริงนะ ฉันจะอยู่ตรงนี้ ในสภาพแบบนี้ตอนคุณกลับมา"

ศรัณยาหัวเราะ "จริงนะ"

"จริง"

"แล้วฉันจะรีบมา"

นักสืบหญิงหัวเราะกับตัวเองหลังจากที่อีกฝ่ายเดินออกจากบ้านไปแล้ว เธอลุกขึ้นแต่งตัวแล้วเดินไปที่ห้องครัวเพื่อชงกาแฟ ขณะที่รอน้ำเดือดเธอเดินไปที่ห้องนั่งเล่น บนโต๊ะมีกระดาษที่อีกฝ่ายเขียนเมื่อคืน

'แองจี้... คุณช่างอ่อนโยนและดีกับฉันมาก ฉันดีใจที่ได้พบคุณและรู้จักคุณ ฉันรู้สึกดีเมื่อมีคุณอยู่ข้างๆ'

ตำรวจสาวเก็บกระดาษแผ่นนั้นไว้ที่โต๊ะข้างเตียงและหยิบมันขึ้นมาอ่านทุกครั้งที่คิดถึงศรัณยา

Special Case 1 End

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น