web stats

ข่าว

 


My little sweet Devil vol.2 - Chapter 4 : My name is Coward

โพสต์โดย: anhann วันที่: 23 กรกฎาคม 2014 เวลา 18:21:55 อ่าน: 413





Chapter 4 : My name is Coward



"เอ่อ..  คุณถอดหมวกได้นะ  แถวนี้ปลอดภัย"  ตัดใจเอ่ยขึ้นในที่สุดเมื่อเห็นท่าทีอึดอัดของคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยกัน  แต่มันกลับทำให้เธอกลายเป็นฝ่ายอึดอัดเองหรือเปล่าที่พอเค้าดึงหมวกออกและมองเธอด้วยดวงตาคมกริบคู่นี้  มันสวยนะ  แต่น่ากลัวชะมัดเลย..

เฮ้อ... ยูกิถอนหายใจแผ่ว  แล้วมองออกไปนอกสวนหย่อมข้างบ้าน  มองดูต้นไม้เขียวๆแทนที่จะสนใจคนหน้าบึ้งตรงโซฟา  เธอนั่งกับพื้นกอดเข่าหลวมๆเอนหลังพิงกรอบประตูบานเลื่อนกระจกตรงทางลงไปสวน  ดวงตาเรียวหวานสีอัลมอนด์ไหม้ทอดมองไปเรื่อยเปื่อยราวไม่ยี่หระกับอะไรในโลก  หากกระนั้นสองหูยังได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาใกล้ๆ  ไม่นานที่ปลายตาเธอก็ปรากฏร่างสูงหุ่นนางแบบยืนกอดอกพิงกรอบประตูด้านตรงกันข้าม  ดวงตาสีฟ้าหม่นนั่นก็ไม่ได้มองเธอ  ดูเหมือนจะเหม่อไปทางเดียวกัน

"ฉันชอบสวนบ้านนี้.." คริสตินพึมพำขึ้นมาท่ามกลางความเงียบระหว่างเรา  ดวงตาสองสีไม่ได้มองกัน  แค่ต่างคนต่างมองไปตามทางตัวเอง

"แต่ฉันรักเจ้าของบ้าน"

คราวนี้เราก็มองตากันจนได้  หากไม่มีความประหลาดใจในแววตาของคนฟังเลยคล้ายเค้ารู้มันอยู่แล้ว

ยูกิหัวเราะเบาๆ มือเล็กเสยผมยาวสีน้ำตาลเข้มเล่น  หันกลับไปมองที่สวนอีกครั้ง "แต่เราสนิทกันเกินไปและเราซับซ้อนมาก ถ้าคุณจะเข้าใจได้นะ"

"Friend with benefit ?" 

คนฟังนิ่งไปนิดก่อนส่ายหน้า  "No, It's just complicated."  เราสบตากันอีกหนคราวนี้คนตัวสูงก็ลดตัวลงมานั่งใกล้ๆ  นั่งกอดเข่าในท่าที่คล้ายกัน  หันมองหน้าด้วยแววตาที่พร้อมจะตั้งใจฟัง  สาวลูกครึ่งเลิกคิ้วยิ้มแปลกใจหน่อยๆ และคนใจร้อนก็เริ่มมีอาการ

"ฉันฟังคุณอยู่.."

ยูกิเม้มปากพยักหน้ารับเข้าใจแต่ดูลำบากใจที่จะพูด  "คุณรู้ไหม..  ฉันอธิบายมันไม่ได้  แต่ก็อยากให้คุณรู้นะว่า  เราไม่ใช่คนรักกัน  เราแค่รักกัน"

"คุณทำให้ฉันงง"  คริสตินมุ่นคิ้วหน้ายุ่งคางเกยอยู่บนเข่าตัวเอง  ไม่แน่ใจจริงๆว่าถ่อสังขารมาที่นี่เพื่ออะไรทั้งที่ควรจะใช้เวลาว่างที่มีอยู่น้อยนิดนี้นอนพักผ่อนมากกว่า  แต่ส่วนหนึ่งในใจเธอคิดว่า  เธอก็ตัดสินใจถูกนะ

ยูกิ  เฮลลิงตัน  ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร  คิดว่า....

สาวร่างเล็กอมยิ้มเงยหน้ามองต้นซากุระข้างบ้านที่มีแต่ใบสีแดงๆ ถึงเวลาผลัดใบอีกแล้วสินะ เวลานี้เมื่อปีที่แล้วเธอทำอะไรอยู่ อีกหลายๆปีนั่นด้วย 

อืมใช่แล้วล่ะ.. เธอเดินแบกกล้องติดตามผู้หญิงดังคนหนึ่งอยู่  เฝ้าดูหล่อนเสมอมา  ไม่ว่างก็ไหว้วานหรือจ้างให้ใครไปแทน  ไม่เคยพลาดสักงานของหล่อนเลย  บ้าหรือเปล่า.. ไม่หรอก  เธอแค่รัก...

"ตอนเกรด10 ฉันป่วยหนัก มันเป็นช่วงเดียวกับที่มีคนมาทาบทามเราไปแคสติ้ง  และจังหวะเดียวกับที่เค้าเริ่มหลงรักคุณ"  ยูกิยิ้มน้อยๆราวจะปลอบใจคนที่ทำท่าตะลึงงัน  เธอถอนหายใจแผ่ว 

"ตาคุณสวยมาก  มันทำให้เด็กสาวคนหนึ่งคลั่งไคล้  และมันก็เป็นตัวจุดประกายไฟในตัวของบลูอายส์ปริ๊นเซสขึ้นมา  แล้วคุณคิดว่า  ฉันสมควรจะเป็นน้ำไปดับไฟแห่งความหวังนั้นหรือคะ  ให้ฉันตายไปยังจะดีกว่า"

"และคุณก็เลือกตายไปจริงๆ"  คริสตินต่อข้อความนั้นด้วยความทึ่ง  และนาทีที่อีกสาวพยักหน้ารับ  เธอรู้สึกเหมือนตัวเองตัวเล็กกว่าหล่อนไปถนัด  หัวใจของผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ยิ่งใหญ่เกินตัวเสียเหลือเกิน  ความรักของหล่อนยิ่งใหญ่  มันเต็มไปด้วยความเสียสละ  ขณะที่ตัวเธอมีแต่ความเห็นแก่ตัว

และไม่แน่ใจว่ามีสมองใหญ่กว่าเม็ดถั่วเท่าไหร่...

"คุณเป็นผู้หญิงบ้าบิ่น.."

ผู้หญิงตัวเล็กละสายตาจากปลาคาร์ฟที่กระโดดไปมาในบ่อน้ำราวว่าตัวมันเป็นโลมากลับชาติมาเกิดกลับมาหาเจ้าของเสียงพึมพำ  เธอมองเค้าขำๆ แต่ไม่ได้ส่งเสียงหัวเราะ  "ฉันไม่ได้ไปสมัครเป็นทหารที่ต้องไปประจำการอยู่อิรักสักหน่อย"

"แต่เรื่องที่คุณทำ  มันให้ผลลัพธ์ต่างกันนิดเดียว"  สาวอังกฤษเถียงเสียงเครียด  คนฟังดูท่าจะตกใจหน่อยๆ เธอถอนหายใจเฮือก  เลือกมองไปที่บ่อปลาที่อยู่ห่างเราไปไม่ถึงเมตรบ้าง  อยากรู้จังว่าใครเป็นคนออกแบบสวนนี้

"คุณทำเหมือนไม่รู้จักเพื่อนของคุณเลย"

"คุณคงจะหมายถึง  ฉันได้ประกาศสงครามกับเค้าไปแล้วตั้งแต่ที่ฉันตัดสินใจสร้างป้ายปลอมๆที่สลักชื่อของฉันไว้หน้าหลุมศพปลอมๆ" ยูกิเลิกคิ้ว  อีกฝ่ายพยักหน้ารับเคร่งขรึม  "ฉันจำเป็นต้องทำ  และฉันก็เสียใจมากที่ฉันทำ"

"คุณคิดว่าตัวเองจะตายจริงๆ.?" 

"ไม่..  ฉันไม่แน่ใจหรอกค่ะ  แค่ไม่อยากดึงใครมาเสี่ยงด้วยเท่านั้น"

"แต่คุณทำให้เค้าเสียใจ"

"เค้าจะเสียใจกว่านี้   ถ้าเค้าไม่ได้เจอคุณ"  สาวลูกครึ่งสรุปหนักแน่น  เธอยิ้มอ่อนโยนขณะที่อีกคนยังคงอึ้ง  "ฉันรู้ว่าคุณฉลาด  คุณคงจัดการมันได้นะคะ"  มือเล็กยื่นมาให้คนตัวโตกว่าที่ลังเลอยู่สักพักก่อนจะยื่นมาสัมผัสกัน 

วินาทีนี้เองคริสตินรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่คล้ายกันกับที่บางคนทำให้เธอรู้สึกเสมอมา  หล่อนเหมือนกันมากกับแฟนเก่าของเธอ  ในแง่ของความยิ่งใหญ่ของหัวใจด้วยร่างกายที่เปราะบางราวเครื่องแก้วที่อาจจะแตกสลายได้ในทุกนาทีถ้าเผลอไปแตะแรงๆ

"คุณเหมือนใครคนหนึ่งที่ฉันรู้จัก"  อดีตนางแบบวิคตอเรียซีเคร็ตเปรยเบาๆ อีกสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยและผละมือออกจากกัน 

"อย่าบอกนะว่า คุณรีเบคก้า.?"  ยูกิพูดเหมือนระอาใจแต่มันกลับมาจากท่าทางขำขันเสียมากกว่าคนที่มองหน้ากันอยู่เลยไม่ได้มีอาการเครียดอะไรให้เห็นเป็นจังหวะให้เธอพูดเสียงทะเล้นต่อ  "ฉันเบื่อเรื่องนี้มากเลย.."

"ฉันก็เบื่อ  แต่ฉันอยากจะบอกว่า  ตอนแรกฉันคิดว่ายัยนั่นพยายามจะเหมือนคุณเพราะเจ้าเด็กฮารุมันชอบมองคุณ"  คริสตินหยุดชะงักกับตาโตๆที่มองจ้องมาเหมือนว่าได้ฟังเธอเล่าเรื่องว่ามียูเอฟโอมาโผล่อยู่ในโตเกียว  หรืออุลตร้าแมนกับก๊อตซิลล่ามีอยู่จริง  แต่เธอก็ยิ้มขำๆในที่สุด

"ยัยนั่นมันเป็นติ่งผู้คลั่งไคล้เด็กป็อบพังก์ผิวเหลืองเข้าขั้นรุนแรงถึงขนาดไปแอบฟังเจ้าฮารุนั่งสัมภาษณ์นิตยสารแล้วกลับย้อมสีผมเป็นสีน้ำตาล  ยอมให้แดดเผาจนผิวเป็นสีน้ำผึ้งด้วย  ฟังดูคุ้นๆไหมล่ะ"

"เอ่อก็..."  คนฟังทำท่าลังเล  ยังไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองจนกระทั่งถูกตอกย้ำอย่างตรงเป็นไม้บรรทัด

"อย่าบอกว่าคุณไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นมันชอบคุณนะยูกิ.."

เจ้าของชื่อถอนหายใจ  แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นอะไรถ้าหัวข้อเรื่องมันจะเปลี่ยนมาเป็นเรื่องนี้แทนเรื่องที่น่าอึดอัดกว่าเมื่อครู่  เพราะงั้นจึงพยักหน้า

"ฉันเห็นเค้าเป็นน้องที่น่ารักคนหนึ่งค่ะ  เค้าเป็นเด็กร่าเริงผู้ช่างเอาใจ"

"อันนั้นฉันรู้ดีทีเดียว.."  คริสตินรำพึงนึกไปถึงเรื่องที่กองถ่ายเมื่อวาน  หงุดหงิดหน่อยๆที่ไม่ได้เป็นคนนวดยาที่ข้อเท้าให้สาวสวยตาสีน้ำเงินคนนั้นด้วยตัวเอง  แต่เจ้าของยาเป็นเธอนะ  รู้ใช่ไหม...

ยูกิอมยิ้มกับท่าทีกลอกตาเบื่อหน่ายของคนใกล้ๆ เธออดไม่ได้ที่จะวิจารณ์มัน  "คุณกับฝาแฝดเวลาหึงเป็นเหมือนกันเลยนะคะ  น่าแปลกที่เป็นคนๆเดียวกันซะด้วยสิ"

คนถูกวิจารณ์มุ่นคิ้วไม่ค่อยพอใจที่ถูกรู้ทัน  ไม่อยากเป็นหนังสือที่อ่านออกง่ายจนเกินไป  แต่กับผู้หญิงคนนี้ยากไปหรือเปล่า  หล่อนดูฉลาด  ดูที่นัยน์ตาแสนลึกลับสีอัลมอนด์ไหม้นี่สิ

"อย่าเนียนเปลี่ยนเรื่องสิ  เรากำลังคุยเรื่องคุณอยู่"

"เรื่องฉันเหรอคะ  กับใครล่ะ  ถ้ากับฮารุล่ะก็  ฉันต้องบอกว่า  เอ็นดูน้องเค้ามากเหมือนกันค่ะ แต่จะพัฒนาหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้นะต้องดูกันต่อไป"

"คุณตอบเหมือนพวกไอดอล"

"หมายถึงคุณหรือเปล่า.?"

คริสตินกลอกตาหนึ่งทีให้น้ำเสียงหยอกเย้าของสาวผมน้ำตาล  หากที่สุดก็นั่งอมยิ้มนึกตลกกับสถานการณ์ระหว่างเรา  และเราคงคิดเหมือนกัน

"ฉันเดาว่า  คุณคิดว่าฉันเหมือนนางร้ายในละครน้ำเน่า"สาวอังกฤษเลิกคิ้วมองหน้าคนพูดแปลกใจ เธอหัวเราะ "หน้าตาฉันบอกขนาดนั้นเลย.?"

คนถูกถามนิ่งคิดคำที่จะเอามาบรรยายความรู้สึกตัวเองให้ตรง  "คุณเหมือน..  สาวลึกลับในหนังทริลเลอร์.."

"แบบที่จู่ๆก็โผล่มาตอนที่นางเอกกับพระเอกกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มกันหรือเปล่าคะ.?" 

คริสตินเหนี่ยวคิ้วสั่นหัวระอา  โบกไม้โบกมือทำนองว่าไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกแล้ว  แล้วก็ได้ยินแต่เสียงหัวเราะคิกให้ต้องหันกลับไปมองเจ้าของมัน

"ฉันกำลังคิดว่า  คุณเป็นแบบนั้นจริงแล้วนะ"

"ฉันก็อาจเป็นอย่างนั้นจริงๆก็ได้" ยูกิแกล้งตีหน้านิ่งให้ผู้หญิงอีกคนหรี่ตามอง  มือเล็กเอื้อมไปตบบ่าเค้าเปาะแปะ "รู้ไหม..  ถึงฉันจะเป็นยัยขี้โรค  แต่ฉันฆ่าคุณได้นะ  ถ้าเค้าต้องร้องไห้เพราะคุณ" พูดจบก็รีบลุกขึ้นโดยไม่รอให้คนฟังได้คิดตามได้ทันเพราะเค้าอาจลุกตามมาฆ่าเธอก่อนก็ได้ 

ร่างแบบบางเดินกลับเข้ามาตัวบ้าน  เธอเจอใครคนหนึ่งกำลังจะเดินสวนลงบันไดมา  เราสบตากันและต่างกันต่างนิ่งแต่เป็นเธอที่ตั้งสติได้ก่อน

"ฉันทำส่วนของฉันเรียบร้อยแล้วนะ"  เธอบอกหล่อนแล้วเดินจากไปเงียบๆ  เงียบแต่รีบร้อนเพื่อจะเข้าห้องไปให้เร็วที่สุด 

พอเถอะ เลิกมองฉันด้วยสายตาสงสารแบบนั้นสักที

.........................................

"คุณมาที่นี่ทำไม.?"  มิกิพูดออกไปแล้วก็สบถในใจอย่างหงุดหงิด  เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำสุ่มเสียงใจร้ายใจดำขนาดนั้น  ยิ่งกับคนที่ยอมแลกเวลาพักผ่อนอันมีค่ายิ่งกว่าทองเพื่อมานั่งอยู่ที่นี่ด้วย  เธอยิ่งรู้สึกไม่ดี  แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อจิตใจเธอมันไม่มั่นคง  มันลืมไม่ได้ว่าเธอเป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นอยู่

ยูกิ..  ฉันจะทำยังไงกับเธอดี...

"ฉันแค่อยากมาขอโทษ" 

ดวงตาสีน้ำเงินกระพริบ  หัวคิ้วเธอยังชนกันอยู่ขณะมองใบหน้าสวยๆเจื่อนๆของเค้าที่นั่งงอเข่าอยู่ที่พื้นที่ขอบประตูทางออกไปยังสวนเล็กๆข้างบ้าน  สาบาน  เธอทำตัวไม่ถูกเท่าไหร่  แต่จะทำอะไรได้นอกจากลดตัวลงมานั่งด้วย

"คุณทำผิดอะไรถึงต้องมาขอโทษ"  เลือกคำพูดที่ดูเป็นกลางเข้าไว้  เมื่อในใจเธอยังสับสนอยู่แบบนี้  มันก็เสี่ยงเกินไปที่จะลากใครมาวุ่นวายด้วย  เธอต้องรู้ให้ได้ก่อนว่า  เค้าเป็นคนที่เธอรักจริงหรือไม่  หรือเธอยังติดอยู่กับอดีต  หรือที่จริงแล้ว  เค้าก็แค่คนในฝันที่เธอทึกทักเอาเองว่า  เธอรักเค้า..

อีกอย่าง..เราเป็นดารา...

คริสตินยังคงไม่พูดอะไร  เค้าเหมือนนึกไม่ออก  เธอนั่งมองมาสักพักก็ส่ายหัว  เริ่มคิดนิดๆว่าเราคงเข้ากันได้ยาก  มันยากกว่าเมื่อก่อนอีกนะเนี่ย

"ถ้าเรื่องยูกิล่ะก็   ไม่จำเป็นหรอกค่ะ  ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษแทนเค้าด้วยที่สร้างความวุ่นวายให้คุณกับคุณรีเบคก้า  เชื่อว่าข่าวพวกนั้นคงทำให้เธอปวดหัวน่าดูทีเดียว"

"ไม่เห็นเป็นไร  ยัยนั่นชอบเรื่องปวดหัวจะตาย" สาวอังกฤษพูดหน้าตาเฉย  อึ้งไปนิดกับสายตาตำหนิจากคนใกล้ๆ จำได้ว่าหล่อนชอบว่าเธอเรื่องนี้ประจำ 

'คุณใช้งานผู้จัดการหนักไปนะคะ  เธอตัวเล็กนิดเดียว'  ประโยคนี้ผุดขึ้นมาในหัวทันทีก่อนที่คนที่เคยพูดมันครั้งหนึ่งจะดึงมันขึ้นมาพูดใหม่  และใช่  เธอยกมือขึ้นห้ามหล่อน

"ฉันรู้ว่าเธอจะว่าฉันใจร้าย  แต่เบคก้าไม่ได้ใจเล็กเหมือนตัวหรอกนะ"

"ฉันรู้..  เธอไม่ป๊อดเหมือนคุณด้วยล่ะ"  มิกิแกล้งแหย่แล้วก็ต้องกลั้นขำเอาไว้กับสายตาอาฆาตที่ไม่ได้น่ากลัวอะไรสักนิดในความคิดเธอ  แน่นอนมันตลกสุดๆเลยล่ะ  แต่ยังไม่พอหรอก

"ถ้าคุณไม่ได้ป๊อดจริง  อัดรายการเย็นนี้ต้องไม่ร้องให้ฉันช่วยนะ"  ผู้หญิงตรงหน้านิ่งไปสักพักคล้ายเค้านึกไม่ออกว่าเธอต้องการจะพูดอะไร  แต่ไม่นานหรอก  เค้าก็ตาโตชี้หน้าเธอแล้วโวยวายขึ้น

"เธอเองใช่ไหมที่แนะนำรายการนั้นมา!" 

เธอไม่ตอบแต่พยายามกลั้นขำอย่างสุดความสามารถแล้วลุกขึ้นยืนเตรียมจะหนีไป  แล้วก็ไม่ได้ลืมจะที่จะทิ้งอะไรไว้ให้เค้าหรอกนะ

"ฉันหวังว่า  บ้านหลังนั้นจะไม่มีผีอยู่จริงๆนะคะ  โชคดีค่ะ"

.............................................

"ฉันอยากฆ่าเธอมาก"  คริสตินพึมพำอยู่ในความมืดของทางเดินที่มีเพียงแสงของไฟฉายดวงเล็กๆในมือตัวเองส่องทางร่วมกับอีกดวงที่อยู่ในมือของอีกคนแต่ไม่ใช่คนที่เธอแอบต่อว่าอยู่นี่หรอกนะ  ก็หวังว่ามันจะใช่อยู่แหละ

"ฉันรู้นะว่า  คุณไม่ได้ว่าฉันหรอก  เพราะงั้นฉันจะไม่โกรธ" 

นั่นไงล่ะ  ไอ้เด็กนั่นมันพูดสวนออกมาแล้ว  น่าหมั่นไส้จริงๆ แน่ใจนะว่ามันน้องสาวเพื่อนรักของเธอ 

ฮึ่ม.. ฉันจะฟ้องยัยฮิคารุให้กระทืบแก  ไอ้เด็กเตี้ย!

"แล้วฉันก็จะไม่ว่าคุณด้วยนะ  ถ้าคุณจะเกาะฉันไปตลอดทาง"  ฮารุพูดนิ่มๆไม่ได้ใส่ใจคนที่ตั้งท่าจะกินหัวเธออยู่ด้านหลังสักนิด  เธอสนใจแค่ทางข้างหน้ามากกว่า  มันมืดและค่อนข้างจะหลอนอยู่เหมือนกัน  ใช่สิ  ไม่งั้นมันจะเรียกว่า 'บ้านผีสิง' ได้ยังไงเล่าเนอะ

"ฉันไม่เข้าใจ  เธอเป็นน้องยัยฮิกกี้ได้ยังไง  แต่ไม่ต้องตอบแบบกวนประสาทนะว่า  เพราะเกิดมาจากท้องแม่เดียวกัน  ฉันได้ยินมันมาจนเบื่อแล้ว"

"ฉันก็ไม่ได้จะพูดแบบนั้นสักหน่อย  คุณนี่มองโลกในแง่ร้ายจริง"

คริสตินเบ้หน้า  ยังไงเธอก็ไม่เชื่อไอ้เด็กนี่หรอก  มันร้ายจะได้ไป  ปากก็จัดกัดเก่งยิ่งกว่าอเมริกันเชฟเพิร์ดซะอีก  ทำไมกับคนอื่นมันปากหวานนักนะ  หรือว่า  เพราะตอนมันเด็กๆ เธอไปแกล้งมันไว้เยอะ 

"ฉันจำได้ว่าเธอเป็นเด็กน่ารัก"

"และฉันก็จำได้ว่า  คุณแกล้งขังฉันไว้ในคอกม้าทั้งที่รู้ว่าฉันกลัว"

คนตัวสูงเริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นอันตรายเมื่อได้ฟังประโยคนี้  เธอไม่กล้าคิดจะชะโงกหน้าไปมองเจ้าของบ่าที่มือเธอเกาะอยู่ระหว่างเดินไปด้วยกันนี่เลย 

เพราะเราสนิทกันตั้งแต่เด็ก  บ้านฮิคารุที่ลอนดอนกับบ้านเธอรั้วติดกัน  มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอกับแฝดน้องจะมีเพื่อนเล่นเป็นชาวญี่ปุ่นแต่อยู่อาศัยที่นั่นอย่างหล่อน  และแน่นอนเจ้าตัวเล็กที่อายุน้อยกว่าพวกเธอสี่ปีคนนี้ด้วย  ฮารุตัวน้อยมักจะติดสอยห้อยตามพี่สาวมาเล่นกับฝาแฝดด้วยตลอด  ไม่งอแงแม้จะโดนพี่ๆแกล้งทุกที  แถมเจ้าเด็กนี่ยังมีสกิลในการแบ่งแยกได้ด้วยว่าคนไหนคือเธอคนไหนคืออิงกริดขณะที่ผู้ใหญ่บางคนยังเรียกผิดเป็นประจำ  แต่มันคงจะจำได้จากสีตานั่นแหละ  แต่เรื่องที่เธอขังน้องไว้ในคอกม้าตอนไปโปโลคลับนั่น  ไม่ได้ตั้งใจจริงๆเลยนะ  สาบาน..

"ฉันไม่ได้ตั้งใจ  เธอก็รู้นี่  ฉันแค่ปิดมันเพราะครูฝึกสั่ง  แล้วฉันก็ไม่รู้ว่ามีคนยังอยู่ในนั้น"

"ก็ใช่  แต่ถ้าจะขอโทษกันบ้าง  มันจะเสียศักดิ์ศรีมากนักหรือไง.?"

คนอายุมากกว่าสะอึก  ไม่นึกว่าน้องมันจะเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่  อะไรล่ะก็มันแค่เด็กเจ็ดขวบเท่านั้น  ให้เธอขอโทษเหรอ  เธอแก่กว่าตั้งสี่ปีนะ!

"ฉันอายุมากกว่า---"

"อายุมากกว่าก็จะต้องปกป้องคนอายุน้อยกว่าไม่ใช่เหรอคะ.?"   

ร่างสูงกว่าสะดุ้งกับคนที่อยู่ๆหันขวับมาหากัน  และจะบอกอะไรให้ไหมว่า  ตอนนี้ไอ้เด็กนี่น่ากลัวมากๆมันใส่คอนแทคเลนส์สีฟ้าแบบสว่างจ้าด้วย  มารร้ายตัวไหนเข้าสิงมันก็ไม่รู้  วันอื่นไม่เคยจะใส่ล่ะ  มาใส่เอาวันที่ต้องมาอัดรายการทัวร์บ้านผีด้วยกันแบบนี้ด้วย  แล้วคิดดูสิว่า  ลูกกะตามันจะน่ากลัวขนาดไหน  เธอตาสีฟ้านะ  แต่ไม่ได้ฟ้าแบบนี้นี่หว่า...

เหมือนเซลีนแวมไพร์ในเรื่องอันเดอร์เวิร์ลเลยอ่ะ!

"ฮะ  ฮารุ.."

"เรียกทำไม  กลัวจำชื่อไม่ได้เหรอ.?" 

เด็กตัวแสบแกล้งพูดเสียงยานคาง  รู้ดีว่าเพื่อนพี่สาวเธอคนนี้กลัวผีจนขึ้นสมอง  อันที่ว่าฝาแฝดมีส่วนแตกต่างกันนั้น  คู่แฝดไอดอลคู่นี้ก็มีอยู่มากทีเดียว  รวมถึงเรื่องนี้ด้วย  เชื่อได้เลยว่า  ตอนนี้คู่ของอิงกริดกับพี่มิกิจะต้องทำภารกิจที่ทางทีมงานให้มาเสร็จไปหลายฐานแล้วแน่ๆขณะที่คู่ของเธอยังไม่ไปถึงไหนเลย  เพราะตัวถ่วงน้ำหนักมากคนนี้แหละ

"พี่เป็นอะไรไป  กลัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ.?"  ฮารุแกล้งถามน้ำเสียงที่ใช้ยังหลอนเหมือนเดิมไม่มีผิด  ก็ยังอยากแกล้งคนต่ออีกสักหน่อย  ทำไม.?  แกล้งนิดแกล้งหน่อยไม่ได้หรือไง  ทีพี่เค้าทำกับเธอล่ะ  หึ!

ต้องขอบคุณที่ทางสังกัดเคยให้เธอไปจัดรายการวิทยุที่เกี่ยวกับเรื่องผีๆมาก่อน  ประสบการณ์จากงานนั้นกับจากที่ผู้ฟังนำมาเล่าในรายการก็ทำให้เธอค่อนข้างชินกับบรรยากาศชวนสยองพองขนแบบนี้  และส่วนตัวเธอก็ชอบเรื่องลี้ลับทำนองนี้อยู่แล้ว  ตอนที่รู้ข่าวว่าต้องมารายการล่าท้าผีคืนนี้จึงเต็มใจมากที่จะรับมัน  ยิ่งพอรู้ว่าได้จับคู่กับใครก็ยิ่งพอใจมากกว่าอีก  แต่ก็ไม่ใช่เพราะอยากจะแกล้งพี่เค้าอย่างเดียวหรอกนะ

แค่อยากจะกระชับสัมพันธไมตรีด้วยเท่านั้นล่ะ..

น่าเชื่อมากเลยเนอะ..

"ธะ เธอเรียกฉันว่าไง.. นะ.."  คริสตินย้อนถามเสียงกระท่อนกระแท่น  เธออยากเอาอะไรมาฟาดหัวตัวเองเสียเหลือเกิน  อะไรจะหลอน  อะไรจะกลัวขนาดนี้  ไม่รู้สิ  รู้แต่ว่าเหงื่อเย็นๆเริ่มไหลซึมออกมาตามโคนผมแล้วล่ะ

พระเจ้า  แล้วดูไอ้เด็กนี่มันทาตาดำมาเพื่ออะไร!

"ฉันเรียกพี่ว่า 'พี่' ไงคะ.." 

ร่างสูงหุ่นนางแบบสะดุ้งเฮือก  ไม่ใช่เพราะแค่เสียงหวานๆเย็นๆที่ตอบกลับมา  แต่มันเพราะรอยยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์กับดวงตาสีฟ้าสว่างเป็นประกายวับวาวนี่ด้วย  เธอเคยคิดว่าการแต่งหน้าแบบพังก์หรือพังก์โกธิคเป็นอะไรที่เท่เชียวล่ะ  แต่มันใช่เวลาไหมเนี่ย!

ใครเขาแต่งหน้าเหมือนผีมารายการทัวร์บ้านร้างที่เค้าลือกันว่ามีผีแบบนี้กันบ้าง จะบ้าเหรอ !

"ฮารุ..  อย่าเล่นแบบนี้ได้ไหม.."  คริสตินหลับตาปี๋ทันทีที่น้องมันเอาไฟฉายส่องหน้าตัวเอง  ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักตอนที่เธอเอามือยันหน้ามันเอาไว้  อย่าให้ออกไปจากที่นี่ได้นะ จะยำมันให้เละเลย  แต่ตอนนี้จะทำยังไงดี

"เธอ..  เธออยากจะได้อะไร  ฉันจะให้  ให้หมดทุกอย่าง.."

"แค่ขอโทษฉัน"

ลืมตามองน้องมันอย่างแปลกใจสุดๆ คิดไม่ถึงเลยจริงๆกับคำขอนี้  คริสตินกดหัวคิ้วมองตอนที่คนตัวเล็กกว่าหันกลับไปเดินนำหน้าอีกครั้ง  เพราะพิธีกรรายการส่งเสียงมากระตุ้นให้เราออกเดินได้แล้ว  อยู่กับที่นานเกินไป แล้วบรรยากาศที่เงียบไปอย่างปราศจากการเซ้าซี้คำขอนั้นซ้ำก็ทำให้เธอหงุดหงิดแปลกๆ  หรือเพราะมันเงียบจนทำให้ได้ยินเสียงประหลาดๆระหว่างทาง

"เฮ้..  คุยกันบ้างสิ"  ในที่สุดเธอก็ต้องพูดมันขึ้นมาก่อน  ยอมลดอีโก้อันใหญ่โตของตัวเองลง  และแปลกใจกับคำตอบโต้ที่ได้มา

"พี่เคยน่ารักกว่านี้เยอะนะคริส"

เจ้าของชื่อชะงักกึก  เหลือบตามองดูที่มือน้องมันอัตโนมัติ  ตามเคยที่ฮารุเอามือปิดไมค์ที่เสียบไว้ที่คอเสื้อเอาไว้  ถึงจะแกล้งเธอขนาดไหนเค้าก็ยังคงช่วยรักษาหน้าให้เสมอ  ไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวออกสู่สาธารณะหรอก

น้องมันปกป้องเธอสินะ

'คนอายุมากกว่าสมควรจะปกป้องคนอายุน้อยกว่า' 

ประโยคนี้ตีตื้นขึ้นมาในมโนสำนึก  มันทำให้เธอนึกไปถึงเรื่องที่คุยกันกับสาวลูกครึ่งคนหนึ่งเมื่อตอนกลางวัน  คนตัวเล็กที่มีหัวใจอันยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ  จะว่าไปเธอก็เจอคนที่มีขนาดตัวสวนทางกับขนาดหัวใจมาหลายคนแล้วนะ  เด็กคนนี้ด้วยงั้นสิ.?

"จับมือฉันไว้ค่ะ  ฉันจะพาพี่ออกไปเอง"

อีกครั้งที่เด็กคนนี้ทำให้เธอประหลาดใจ  ฮารุไม่รอให้เธอตัดสินใจหรือเล่นตัวสักนิด  มือเล็กแต่อบอุ่นเข้ามาคว้ามือเธอกึ่งดึงกึ่งลากให้เดินตามกันไป  เค้ากระชับมือเธอแน่นขึ้นเมื่อเธอเริ่มสั่นจากเสียงหวีดหวิวของลมที่พัดเข้ามาทางหน้าต่างหรือประตูที่ถูกเปิดไว้  หรือมีเสียงแปลกๆอย่างของหล่นกะทันหัน  พูดปลอบใจเวลาเธอเดินซุ่มซ่ามไปชนตู้หรืออะไรที่ความมืดซ่อนไว้  ซ้ำอาสาทำภารกิจแทนในบางครั้งที่พิธีกรรายการอนุญาตด้วย  และเพราะเค้า  เราจึงผ่านทุกฐานตามที่รายการวางเอาไว้มาได้แม้จะทุลักทุเลไปสักหน่อย  แต่ตอนนี้เด็กน้อยนั่นไปไหนเสียแล้ว  ยังไม่ได้พูดอะไรกันเลยหลังถ่ายเสร็จ  เธออยากจะขอบใจน้องมัน  และก็...

ขอโทษสำหรับทุกๆอย่าง..

ทุกอย่างที่คนนิสัยไม่ดีอย่างเธอทำ..

"ตามหาฮารุเหรอคะ  ไปนู่นแล้ว"  มิกิที่ยืนมองมาสักพักเข้ามาชี้ทางสว่างให้ว่าคนที่เค้าตามหาอยู่กำลังไปทำคะแนนอยู่กับเพื่อนของเธอเองตรงข้างรถตู้ประจำตำแหน่งที่พาเธอไปนู่นมานี่เสมอนั่น  แต่แน่นอนคนขี้เก็กทำท่าไม่ใส่ใจมัน  คริสตินหันมาทำหน้านิ่งใส่เธอทั้งหน้าซีดๆอย่างนั้นแหละ 

แหม..  น่าจะยืดรายการไปอีกสักหน่อยนะเนี่ย..

"ฉันไม่ได้ตามหาเด็กนั่นสักหน่อย"  คนฟอร์มจัดบอกหน้าตาย  แต่มันคงทำให้ใครเชื่อไม่ได้แน่เพราะแม่คนตาสีน้ำเงินตรงนี้อมยิ้มอยู่นั่น 

ให้ตายเถอะ  วันนี้ทำไมมีแต่คนกวนใจนะ  แต่ก็...

น่ารักทั้งนั้นเลย..

น่าหมั่นไส้มากกว่ามั้ง  เชอะ!

"แต่เพื่อนเธอน่ะ  เนื้อหอมไปนะ  แล้วท่าทางจะว่างมากซะด้วย  มาด้วยทุกงาน"

"คนเค้ารักกันก็ต้องมาด้วยกันสิคะจะแปลกอะไร"  บลูอายส์ปริ๊นเซสยักไหล่อย่างกวนใจอีกคนสุดๆ เธอชอบดูเวลาที่เค้าทำท่าหงุดหงิดฟึดฟัดแล้วสะบัดหน้าหนี  หึงก็บอกมาสิคะ  จะยากอะไร  เอ๊ะ หรือเธอเข้าใจผิด!

"ในฐานะที่เธอเป็นรุ่นพี่  แล้วเด็กนั่นสนิทกับเธอ  ถ้าจะช่วยเตือนๆเค้าหน่อย คงได้นะ"

มิกิกระพริบตาที่อยู่ๆก็ได้ยินอะไรเกินคาด  แต่พอมองตามสายตาของเค้าไปก็พยักหน้ารับอย่างจำยอม  และมันก็ทำให้เธอเจ็บแปลกๆแฮะ

ใช่.. ฉันหน้าแตกเพล้งเลยล่ะ  เจ็บชะมัด กอบหน้ากลับมาใหม่แป๊บ!

"ฉันจะพยายามไม่ให้มันซ้ำรอยเราหรอกค่ะ"  ว่าจะพูดแบบธรรมดา  แต่น้ำเสียงกับแววตาของเธอคงบอกอารมณ์ที่แท้จริงไปจนหมด  ใบหน้าของคนฟังจึงเปลี่ยนอารมณ์ไปอีกครั้ง  แววตาเค้าดูอ่อนลงจากเมื่อครู่มาก  แต่เธอกลับไม่ชอบเลย  เพราะมันทำให้เธอดูน่าสมเพช

"ไม่ต้องห่วงนะคะ เรายังเป็นเพื่อนกันได้" เอื้อมมือไปตบบ่าเค้าแปะๆเหมือนเมื่อตอนกลางวันแล้วรีบหันกลับมาเดินไปหาเพื่อนรักกับน้องรักที่คุยกันอยู่ตรงที่เดิม  และเธอคงรีบเดินเกินไปหน่อยนะ  ถึงไม่เห็นแววตาเสียใจของคนที่มองตามหลังมา

ช่วยไม่ได้  อยากขี้เก็กแถมตาขาวเองทำไม..




.................................................................................



เป็นไงๆ  คราวนี้เจอคริสตินเยอะเลยเนอะ  เห็นถามถึงกัน  มาเต็มที่  ส่วนจะยังซึนหรือหายแล้ว  ก็ลองเช็คดูเอาล่ะกันนะคะ  ฮ่าๆๆ  :27:

แต่ภาคนี้ตัวละครเยอะค่ะ  ต้องแบ่งบทกันบ้างนะ  สไตล์เราเขียนไม่ชอบให้มีแค่คนสองคนมุ้งมิ้งกันอย่างเดียวหรอกค่ะ  มันจะน่าเบื่อนะ  หรือคุณว่าไง..  :21:

เอานี่ไปดีกว่า  หน้าตาฮารุสำหรับตอนนี้ค่ะ  'คริสตัล จอง'  นี่แหละ  ฮ่าๆๆๆ  ช่วยสนุบสนุน  Red light ของ f(x) ด้วยนะคะ  ฮ่าๆๆ  (ติ่งโซชิไม่พอ ขอเป็นติ่งน้องของด้วยล่ะ อิอิ)   :57:



แล้วเจอกันใหม่นะคะ ตอนหน้า  ขอบคุณสำหรับการแวะเข้ามาเยี่ยมชมค่ะ  (เม้นท์หน่อยก็ดี อิอิ)  :44:

ป.ล. ใครยังไม่เคยอ่านภาคหนึ่ง ไปที่นี่เลย แต่มันไม่จบนะคะ http://www.yuri-read.net/my-little-sweet-devil-11844.page

ถ้าจะให้จบต้องอันนี้  http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NToiNTE0NjgiO3M6NzoiYm9va19pZCI7czo1OiIxMjY5NyI7fQ  เป็นอีบุ๊คค่ะ

แต่ถ้าอยากได้เป็นเล่ม  ก็มีอยู่ ตอนนี้เหลือในสต็อกแค่สองเล่ม  ยังไม่รู้จะพิมพ์เพิ่มเมื่อไหร่เหมือนกัน  ใครอยากได้ติดต่อมาค่ะ เล่มล่ะ 350 บาท  บวกค่าส่งแบบลงทะเบียน 50 เป็น 400 EMS 70 เป็น 420  แต่ถ้าอยากได้ส่งฟรี  ต้องส่งธรรมดานะคะ 






Rating: ***** โดย 1 สมาชิก
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น
fuyusang
หน้าใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


ดูรายละเอียด อีเมล์
23 สิงหาคม 2014 เวลา 17:00:46
 :f6eb47d3:
แสดงความคิดเห็น