Vampire Hunter season3- Chapter 2 : Inhuman
โพสต์โดย:
anhann
วันที่: 17 กรกฎาคม 2014 เวลา 18:39:17
อ่าน: 805
|
Chapter 2 : Inhuman
เธอเชิดคอขึ้น สองมือเหนี่ยวหัวเตียงเอาไว้ช่วยในการเคลื่อนไหวให้ร่างกายเสียดสีกับอีกคนถนัดขึ้น เสียงครางอืมๆค่อนข้างพอใจจากคนด้านล่างพาให้มุมปากเธอยกยิ้มทั้งหอบเหนื่อย ไม่คิดหรอกว่า จะมีอารมณ์มาทำเรื่องนี้ด้วยกันในเวลาแบบนี้แต่แอชลีย์แนะนำว่า มันเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งให้ช่วยคลายหนาวได้ แล้วเธอก็เชื่อ แต่ที่เชื่อก็เพราะอยากทำแบบนี้เหมือนกันหรอกนะ ไม่ได้ถูกยัยบ้านี่หลอกเอา
อา.. อยู่ๆก็นึกอยากผสมพันธุ์ขึ้นมาเสียอย่างนั้นล่ะ..
"เม.. เมแกน.. เร็วอีกได้ไหม.?"
เจ้าของชื่อปรือตาขึ้นมองหน้าคนขอ สองแก้มขาวที่แดงฉ่ำเต็มไปด้วยเลือดฝาดที่สูบฉีดขึ้นมาเพราะอารมณ์รักชวนให้หัวใจวูบไหว แล้วจะไม่ทำตามที่ขอได้อย่างไรกันเล่า..
หมาป่าสาวครางเสียงหลงเมื่อเธอบดเบียดร่างกายหนักหน่วง หล่อนหอบกระชั้น กรงเล็บคมครูดหลังเธอจนหลุดปากร้องซี้ด
"แอช.. แสบ!" แหกปากร้องอย่างอดไม่ได้ ก็ใครใช้ให้ยัยหมาบ้ากางเล็บยาวออกมาซะขนาดนี้ ผิวเธอบางนะ ไม่ได้หนังหนาเหมือนช้างแอฟริกา
"เลิกบ่นและยัดนิ้วยาวๆของเธอเข้ามาในตัวฉันซะทีเถอะ!"
และแน่นอน หล่อนหรือจะสนใจอะไร ยังมีหน้ามาออกคำสั่งซ้ำตบเนื้อเปล่าๆที่ก้นเธอดังเพี๊ยะเล่นเอาเนื้อเต้นเจ็บจี๊ดแสบหนักขึ้น แสบทั้งหลังแสบทั้งแก้มก้น แต่คงสมใจหล่อนล่ะ แอชลีย์ส่งเสียงครางอื้ออ้าพออกพอใจแค่ส่วนร้อนๆของผู้หญิงอย่างเราเบียดเสียดกัน มือซนๆของหล่อนบีบก้นเธอเสียแรง แรงไม่พอยังดันไปข้างหน้าอีก เราเลยยิ่งใกล้ชิดแนบแน่น สายน้ำชุ่มฉ่ำปะปนผสมผสานไม่รู้ของใครเป็นใคร เธอแอ่นอกให้หล่อนได้ขยำเล่น มันเป็นไปเองทุกที อยู่ด้านบนแบบนี้บางทีก็เสียเปรียบนะ แล้วใครว่าไม่ชอบ..
แค่ยัยหมาป่านี่ดูจะใจร้อนไปนิด ไม่ได้จะทำสถิติโลกกันสักหน่อย..
"เบาๆแอช.. เธอจะถึงก่อนที่ฉันจะทำตามคำสั่งเธอแล้วนะ" เมแกนเตือนเมื่อเห็นคนรักเริ่มทุรนทุรายหนักขึ้น แต่หล่อนก็ดึงเธอลงไปกระซิบที่ข้างหู
"ฉันไม่มีปัญหาหรอก ถ้าจะถึงจุดสุดยอดหลายๆครั้งเพราะเธอ.."
เอิ่ม....
เมแกนพูดไม่ออก เธอทำได้แค่พยักหน้ารับเบาๆ แล้วทำให้หล่อนสมตามใจอยาก หมดยกแรกไปได้ไม่ถึงนาที หล่อนลุกขึ้นมานั่งบนตักวาดขาคร่อมตัวเธอไว้ ดึงมือเธอไปบริการตัวเองอย่างรีบร้อน ร่อนสะโพกรับสองนิ้วที่แทรกเข้าไปในกายอย่างดุเดือด หล่อนเป็นหมาป่าสาวเลือดร้อนที่ชื่นชอบเซ็กส์เผ็ดมันส์ เขี้ยวคมฝังลงกับฐานคอเธอจนต้องกัดปากข่มความเจ็บ แอชลีย์ชอบดูดเลือดเธอเวลาเราร่วมรักกัน บางครั้งเธอแอบคิดว่าหล่อนมีเชื้อสายแวมไพร์หรือไม่ แต่หล่อนเคยบอกไว้กับครั้งแรกที่ทำว่า หมาป่าพันธุ์หล่อนก็เป็นแบบนี้ คล้ายความดิบเถื่อนดุร้ายตามสายพันธุ์มันตื่นขึ้นมาเวลาสูญเสียการควบคุม และเชื่อเถอะ หลังเธอเป็นรอยเล็บมากกว่าร้อย โชคดีหน่อยที่เธอก็ไม่ใช่คน ใครจะทนเล็บคมๆพวกนี้ได้กันเล่า หล่อนดุแรงเยอะและเซ็กซี่เป็นบ้า..
อา.. ดูเหมือนหล่อนจะถึงสวรรค์รอบสองแล้วล่ะ ขย่มตัวหนักๆ จิกเล็บ ฝังเขี้ยวแรงซะขนาดนี้ ผนังอ่อนๆในตัวก็ตอดรัดนิ้วเธอซะจนหลุดปากคราง รู้สึกไปกับหล่อนด้วย ริมฝีปากสวยปรนเปรอจูบให้กับปากเธอ ลามไปถึงนิ้วที่เพิ่งดึงออกมา ดวงตาเธอเลื่อนลอยมองดูหล่อนดูดเล็มเลียน้ำหวานหยาดเยิ้มที่นิ้วเธอที่เข้าไปร่าเริงในตัวหล่อนเมื่อกี้ แอชลีย์ยิ้มที่เธอเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แม้จะหน้าแดงแค่ไหนก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าต้องการเหมือนกัน เธอไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ไหน จะว่าไปสัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวเธอก็ไม่ใช่ว่าจะน้อยกว่าหล่อนนัก และปากกับลิ้นหล่อนก็ทำหน้าที่ได้ดีเสมอ เธอทุรนทุรายจนต้องร้องขอเพิ่มอย่างลืมความอายใดๆ ค่อนข้างจะพอใจกับกลิ่นคาวเลือดที่ปะปนกับกลิ่นเซ็กส์นี่ด้วยซ้ำ และจะบอกอะไรให้ไหม...
หมาป่าเพศเมียกลิ่นฟีโรโมนหอมมากมาย..
พระเจ้า.. เธอรู้แล้วว่าเพราะอะไรแอชลีย์ถึงเนื้อหอมกับผู้ชายนักหนา แม้ว่าหล่อนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับพวกเขาเลย บางทีหล่อนอาจจะชอบกลิ่นผู้หญิงเหมือนๆกันมากกว่ากลิ่นสาบสางของหมาตัวผู้ เนื้อไม่ลื่นมือ..
"I?m not done yet."
แอชลีย์กระซิบเบาๆข้างหูตอนที่เธอกระตุกตัวสั่นเพราะจุดสุดยอดที่หล่อนพามาจนถึง หูเธออื้ออึงแต่ยังได้ยินมันชัด แต่ยังไม่ทันจะได้เตรียมตัวเตรียมใจ หล่อนก็ทำให้เธอห้ามใจตัวเองไม่ได้ไม่ให้กระแทกเอวสวนทางกับมือที่ขยับเข้ามาเร็วๆแรงๆ เสียงร้องของเธอดังแข่งกับเสียงเตียงที่อีกไม่กี่นาทีคงพัง หากเธอยังไม่หยุดขย่มมันหนักๆแบบนี้
"แอชลีย์!"
เมแกนร้องเสียงดัง เธอปลดปล่อยหนักหน่วงกว่าครั้งไหน หอบหายใจเหนื่อยกว่าไปวิ่งตามไล่ล่าปีศาจกับฟลอเรนเสียอีก แต่พระเจ้า แอชลีย์ยังไม่จบ พลังงานหล่อนเหลือเฟือเหมือนโด๊ฟไวอากร่าของผู้หญิงมาอย่างนั้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องฝืนใจหรืออะไรหรอกนะ ถ้าเธอจะยอมสนุกกับหล่อนต่ออีกสักหน่อย ก็หล่อนขยันอ่อยและเธอก็ขยันคล้อยตามไปซะทุกที กว่าหมาป่าสาวจะสิ้นฤทธิ์นอนหอบซุกอกเธอนิ่งๆได้ แสงอาทิตย์ก็เริ่มส่องผ่านผ้าม่านที่ปลิวไปตามสายลมอ่อนๆแต่เย็นชะมัดเสียแล้ว
"พระเจ้า.. เธอทำให้ฉันไม่ได้นอนเลยเหรอเนี่ย.." ดอพเพลแกงเกอร์ขยี้ตาหงุดหงิดเล็กๆ หงุดหงิดตัวเองหรอกนะที่ตามใจอีกคนมากเกินไปทั้งที่ตั้งใจว่าจะรีบเดินทางต่อ อยากไปให้ถึงที่หมายสักที
ใช่.. เธออยากกลับบ้าน..
เธอเป็นห่วงใครบางคนที่นั่น...
ฟลอเรน...
"เลิกบ่น แล้วนอนเถอะน่า.. บ้านฉันไม่หายไปไหนหรอก.."
"เธอก็แบบนี้แหละแอช ช่วยจริงจังสักนาทีได้ไหม.?"
"ได้สิ"
แอชลีย์ตอบอย่างไม่หยุดคิด แต่คนที่คิดกลับอึ้งเพราะถูกจู่โจมด้วยปากแดงๆ และก็เหมือนทุกทีที่ริมฝีปากของแอชลีย์ทำให้เธอเลิกบ่นได้ สายตาหล่อนก็เหมือนกัน มันทำให้หัวใจด้านชาของเธอมีความรู้สึก...
แต่รักหรือยัง.?
"ขอโทษนะ ฉันแค่อยากจะกอดเธอให้แน่นที่สุดเท่านั้น เท่าที่เราจะมีเวลาอยู่ด้วยกันได้"
น้ำเสียงเศร้าๆ ประโยคพูด กับสายตาเว้าวอนทำให้ใจอ่อนระทวยเหมือนทุกที ต่อให้คำพูดหรือท่าทางหล่อนเป็นจริงหรือแค่แกล้งทำเพื่อจะได้อย่างที่หล่อนต้องการ เธอก็ปฏิเสธไม่ลงหรอก รักหรือเปล่า ไม่รู้สิ รู้แค่มันมีความสุขดีที่ได้เห็นหล่อนยิ้ม..
"อย่าทำเหมือนนาทีต่อไปเราจะตายจากกันสิ" ปลายนิ้วโป้งไล่ไปตามรูปปากชมพูจัดจนเป็นสีแดงอ่อนๆก่อนจะไล่งับมันเบาๆด้วยปากตัวเอง แอชลีย์ถอนหายใจเบาๆแล้วจูบกลับอย่างไม่เกี่ยงงอน หล่อนเป็นหมาป่าสาวที่ทั้งน่ารักและเฮี้ยวในเวลาเดียวกัน
"ฉันแค่รักเธอ..เมแกน.. และบางทีความรักก็ทำให้ฉันขี้ขลาด"
คนฟังกระพริบตาปริบๆ เมแกนยิ้มแล้วยกมืออีกฝ่ายขึ้นมาจูบไปตามเรียวนิ้ว แอบได้ยินเสียงหัวใจเจ้าของมือเต้นกระหน่ำอยู่ในอกข้างซ้าย
พระเจ้า.. หูดีมันดีแบบนี้เลยหรือไง ให้ตาย เธอตื่นเต้นไปด้วยซะแล้ว..
"กลับกัน.. ความรักทำให้ฉันเข้มแข็ง.. มันทำให้ฉันมีความกล้า"
หมาป่าสาวนิ่งไปหน่อยก่อนหัวเราะเบาๆ "ฉันจะดีใจมากเลยนะ ถ้าเป็นฉันที่ทำให้เธอรู้สึกแบบนั้นได้.."
น้ำเสียงน้อยใจมันเป็นไม่มิดเหมือนแววตาหล่อนที่เปลี่ยนไป แอชลีย์มักจะเข้าใจเสมอว่า เธอไม่เคยสนใจหล่อนเท่ากับที่หล่อนสนใจเธอ ไม่เคยรัก ที่อยู่ด้วยทุกวันนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน แต่หล่อนลืมอะไรไปไหม..
เฮ้อ.. ผู้หญิงที่ไหนจะยอมนอนกับใครคนหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าไม่มีใจให้เลย อาจจะมีคนแบบนั้นอยู่นะ แต่ไม่ใช่เธอแน่ๆ แค่นี้ก็ไม่รู้ โง่ชะมัด..
"พูดแบบนี้อยากให้ฉันบอกรักหรือไง.?" แกล้งถามหน้านิ่งๆ ผู้หญิงตรงหน้าไม่ตอบแต่เข้ามาซุกหน้ากับซอกคอเธอแทน เบียดร่างกายเปล่าๆอุ่นๆเข้ามาหา จริงอย่างที่หล่อนว่า เวลาแก้ผ้านอนกอดกัน มันอุ่นกว่าผ้าห่มหนาๆที่ทำมาจากสารพัดขนสัตว์ซะอีก
อุ่นใดไหนจะเท่าได้กอดแฟน แบบโป๊ๆ..
โอ้..เธอชักจะเพี้ยนตามหล่อนไปเสียแล้ว...
"แอช.? หลับหรือยัง.?" ถามพลางลูบแผ่นหลังเปลือยเบาๆ อีกสาวครางฮื่อเหมือนเด็กกำลังง่วงจัด บอกเลยว่าตอนนี้ต่อให้หิวหรือปวดฉี่ก็ยอมทนให้หล่อนซุกซบต่อไป
หมาป่าบ้าอะไรไม่รู้ ยิ่งดูยิ่งน่ารัก แต่สำหรับหล่อนต้องบอกว่าเฉพาะตอนที่ไม่ได้แปลงเป็นเจ้ายักษ์เขี้ยวยาวขนฟูหูแหลมตาเหลืองทองหางยาวเป็นพวงนะ อันนั้นน่ากลัวไปหน่อย ไม่หน่อยล่ะ แค่เห็นก็ขาสั่นแล้ว...
แอชลีย์ถือเป็นแวร์วูฟที่ตัวใหญ่มากๆ อาจเพราะหล่อนมาจากเชื้อสายของตระกูลที่สืบต่อมายาวนานหลายพันปี สายเลือดของหล่อนเข้มข้นแตกต่างจากพวกเกิดใหม่ ไม่ใช่แค่ขนาดตัวตอนกลายร่าง แต่หมายถึงความสามารถต่างๆด้วย และแน่นอน เธอเทียบไม่ติดฝุ่น หมาป่าที่ไม่สามารถกลายร่างได้อย่างเธอ ไม่น่าจะสามารถนับรวมอยู่ในเคสเดียวกันกับแวร์วูฟอย่างหล่อนหรือกระทั่งไลเคนด้วยซ้ำ
เธอมีแค่เขี้ยวหมากับตาสีเหลืองทองและพละกำลังเกินมนุษย์..
เธอแค่ผู้ที่ถูกสาปเท่านั้น..
แฝดเวทย์มนต์ที่เอาทุกอย่างมาจากตัวต้นฉบับ แม้กระทั่งคำสาปของตระกูล แต่ถ้าเฮเลนน่าไม่ตัดสินใจสร้างเธอขึ้นมาวันนั้น วันนี้ฟลอเรนที่เดินเล่นอยู่ในวินเชสเตอร์ก็คงจะเป็นคนรับมันไปแทนแล้ว
อื้ม.. น่าภูมิใจมากสินะ..
"เมแกน.. อย่าทิ้งฉันไปนะ"
ดวงตาสีม่วงครามกระพริบสองสามที มองลงตรงคนที่นอนทับตนอยู่อย่างสงสัย เมแกนส่ายหัวยิ้ม ที่แท้หล่อนก็ละเมอ แต่ถึงอย่างนั้น....
เธอพบตัวเองก้มลงจูบศีรษะหล่อนอย่างรักใคร่ ถอนหายใจแผ่วเบา พลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
ไม่ใช่แค่เธอที่รู้สึกกลัวหรอกแอชลีย์ ฉันก็กลัว แต่....
ถ้าฉันยอมอ่อนแอ จะดูแลคนที่ฉันรักได้ยังไงกันล่ะ ใช่ไหม.?
......................................................
ดวงตาสีม่วงครามมองภาพในจอแบนอย่างพิจารณา มันเป็นภาพที่ถูกส่งมาจากทางไกลถึงป่าในเขตหนาวจัด ทัศนียภาพที่นั่นดูสวยดี มีหิมะปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ผืนดินเป็นสีขาวโพลนไปหมดเหมือนใครเอาพรมหนังแกะไปปูไว้ตลอดทาง แต่เธอก็รู้นะว่าในความสวยงามเหล่านั้นมันซ่อนความตายเอาไว้ ไม่งั้นต้นไม้มากมายจะยืนต้นตายจนกิ่งก้านเป็นสีดำอย่างนั้นหรือ..
ฟลอเรนครางอืมเบาๆหลังตอบรับจูบจากใครบางคนที่ก้มลงมาหาก่อนที่เค้าจะเข้ามานั่งข้างๆบนเตียงด้วยกันพร้อมอาหารของเธอ
ใช่.. อาหารของเธอคนเดียวสิ ก็เค้าไม่จำเป็นต้องกินนี่นา..
คนที่ไหนกัน..
อ้าปากรับไส้กรอกร้อนๆที่ต้องค่อยๆกัดกินทีละหน่อยจากมือที่ส่งมันมาให้ สายตาก็ยังมองแท็บเล็ตไม่เลิก แต่เธอก็คุยกับคนป้อนด้วยนะ ไม่ได้ทิ้งให้เค้านั่งเหงาคนเดียว
"ตอนกลางวันมันก็สวยอยู่นะ แต่ถ้ากลางคืน ฉันไม่อยากคิดจริงๆ"
"ป่าแบบนั้น ไม่รู้ว่าพวกหากินตอนกลางคืนเยอะหรือเปล่า.." อัลร์พึมพำบ้างพลางยกแก้วน้ำสีแดงเข้มของตัวเองขึ้นจิบ กลิ่นคาวจากมันดูเหมือนจะไม่ทำให้คนที่นั่งกินไส้กรอกกับเบค่อนรู้สึกอะไร ฟลอเรนยังคว้าแก้วนมจากถาดที่เธอเอามันมาให้ไปดื่มได้อย่างหน้าตาเฉย แต่อันที่จริง เราก็คุ้นเคยกับการทานมื้อเช้ากันแบบนี้นานแล้วนะ ตั้งแต่อยู่ด้วยกัน
ใช่.. บ้านมาแชลถูกปิดเอาไว้ มันจะถูกเปิดก็ต่อเมื่อพวกเธอไปช่วยกันทำความสะอาดเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย เราจึงต้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด ห้องนอนหกห้องในบ้านเรฟแลนด์ถูกจับจองจนเต็ม
ห้องมาสเตอร์ของเธอกับห้องเล็กลงมาหน่อยของแอล คงไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าใครใช้ สองห้องที่อยู่ปีกซ้ายและขวาเป็นของเจ็นนี่ห้องหนึ่ง อีกห้องของคาริน่า สองคนถึงจะสนิทกันมากแต่ก็ไม่สามารถจะอยู่ร่วมกันได้ เนื่องจากความแตกต่างที่ยังไม่อาจไว้ใจได้สนิทนัก ส่วนอีกสองเป็นของแคทเทอรีนหนึ่งซึ่งมีแขกประจำเป็นผู้ตรวจการสาว อีกห้องที่เคยว่างไว้เมื่อก่อนตอนนี้ก็กลายถูกแม่เสือดำหัวทองจับจองไปแล้ว
และแน่นอนเมื่อจำนวนสมาชิกในบ้านเยอะขึ้น เรื่องมันก็ต้องเยอะตาม หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องอาหารการกิน เรากินอาหารร่วมกันบนโต๊ะตัวเดียวกันน้อยมาก เพราะเจ็นนี่ยังคงผะอืดผะอมกับกลิ่นเนื้อสดๆที่คาริน่าเฉือนและจิ้มเข้าปากอย่างสบายใจนั้นอยู่ และนั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เค้ามักจะเบี่ยงหน้าหนีเวลาที่หลานเธอพยายามจะหอมแก้มด้วยความรัก (แบบไหนไม่รู้นะ) หรือบางทีเค้าก็ยังคงกรี๊ดลั่นเวลาที่เห็นแอลห้อยหัวอยู่ตรงหน้าต่าง หรือบางครั้งที่น้องเธอนึกสนุกอุ้มเค้าตัวลอยตอนเดินง่วงอยู่ในห้องโถง ตกใจที่เจอแคทเทอรีนนั่งห้อยขาลับเล็บอยู่บนหลังตู้โชว์ ล่าสุดก็แทบตกบันไดกับเงาดำๆที่วิ่งผ่านหน้าตรงบันไดขั้นบนสุด ถ้าเจ้าของเงาดำนามทัสมินนั่นไม่ลุกขึ้นมากลายเป็นคนแล้วฉุดแขนเค้าเอาไว้ก่อนนะ โดยสรุปแล้ว คนที่มีปัญหากับการอยู่ที่นี่มากที่สุดก็คือมนุษย์ตัวน้อยเจ็นนี่นั่นเอง และฟลอเรนผู้รักน้องยิ่งชีพก็ต้องคอยดุคอยบ่นพวกนั้นเป็นประจำ แต่ด้วยคำพูดง่ายๆว่า...
"มันจะยากตรงไหนคะ แค่พวกคุณทำตัวให้เหมือนคนธรรมดาเค้าน่ะ"
ใช่.. มันไม่ยากหรอกค่ะ ถ้าพวกบ้านั่นจะรู้จักว่าคนธรรมดาๆเค้าเป็นยังไงกันนะ ก็พวกมันเป็นคนที่ไหนกันเล่า...
"เท่าที่เมแกนบอก เค้ายังไม่เจออะไรน่ากลัวไปกว่าพวกพื้นๆที่เห็นผู้หญิงสาวๆแล้วก็นึกอยากลองดีนะ"
"โอ้.. ก็สองคนนั้นยังกับดาราฮอลลีวูดนี่เนอะ"
"อื้มค่ะ ขอบคุณที่ชมนะ"
อัลร์อึ้งไปหน่อยเพราะคิดตามไม่ทัน แต่ก็หัวเราะพอนึกได้ว่าหนึ่งในสองคนที่ตนชมไปก็หน้าเหมือนคนตรงนี้นั่นแหละ แค่สำเนียงพูดต่างกันนิดนึง
ฟลอเรนจะใช้ภาษาทันสมัยและสำเนียงการพูดแบบคนยุคใหม่ขณะที่เมแกนจะออกมาแบบยุคที่เรายังใช้ม้าและรถม้าเป็นพาหนะหลักในการเดินทาง และอีกอย่างที่ต่างกันชัดเจนคือ ฟลอเรนพูดเก่งง่ายๆสบายๆขี้เล่นดูใจดีซุกซนเหมือนเด็ก ส่วนเมแกนพูดน้อยเคร่งขรึมเคร่งครัดมากพิธีเป็นผู้ใหญ่ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า..
ฟลอเรนเป็นฮันเตอร์ และเมแกนเป็นมนุษย์หมาป่าพันธุ์พิเศษ!
"ค่ะ สวยมากเลย" เธอชมจริงจังแต่คนฟังกลับหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลก และคงไม่เป็นไรหากหล่อนจะขยับเข้ามาแตะปากกันเบาๆ แล้วยันอกเธอออกห่างเวลาที่จะเริ่มทำมากกว่านั้น
"บางที..ฉันว่าเรามีเซ็กส์กันบ่อยไปไหม.?" ฟลอเรนพูดเสียงติดจะขำ เลิกคิ้วยิ้มๆให้คนที่เริ่มจะหน้าแดง แต่คนขี้แกล้งอย่างเธอก็สะลัดผ้าผืนเดียวที่ห่อตัวอยู่ออกเสียดื้อๆ ลุกขึ้นเดินตัวโล่งโจ่งไปเปิดตู้เสื้อผ้าหาเครื่องแต่งตัวมาใส่ ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจกับเสียงกลืนน้ำลายดังเอื้อกจากคนด้านหลังที่ไม่กล้าแตะต้องเธอแน่ ถ้ายังไม่ได้รับอนุญาต
"ทัสมินไว้ใจได้แค่ไหนคะ.?" ถามขึ้นระหว่างมือดึงเสื้อกล้ามลงให้ปิดพุงแบนๆ ถึงเธอจะขี้แกล้งแต่ก็ยังปราณีบางคนที่ความอดทนต่ำอยู่จึงเลือกแต่งตัวให้ไวเข้าไว้ อีกอย่างเธอก็ไม่อยากให้น้องสาวมาเคาะห้องตอนที่มือตัวเองติดอยู่ในกางเกงของอีกคนหรือพวกเธอกำลังครางเสียงสูงเสียงต่ำกันอยู่
เจ็นนี่ถึงจะสิบแปดแล้ว แต่น้องก็ยังไร้เดียงสาในสายตาเธออยู่ดี..
"หล่อนก็ไม่มีอะไรนะ แค่กวนประสาทเป็นบางครั้ง" อัลร์ตอบเสียงเบา จังหวะหัวใจยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก ต้องโทษคนรักของเธอที่ขยันทำให้มันสั่นระรัวซะเรื่อย ทั้งที่ค่อนข้างจะแน่ใจว่าทางเทคนิคหรือวิทยาศาสตร์ตัดสินว่าเธอตายไปแล้ว แล้วทำไมถึง....
โอ้..เดี๋ยวนะ!
"ถ้างั้นก็......."
"เดี๋ยวนะฟลอเรน.!"
ฟลอเรนชะงักขณะกำลังใส่เสื้อแจ็คเก็ตมาได้ครึ่งแขน หันไปมองคนที่อยู่ๆก็ลุกพรวดมายืนตรงหน้าไวจนตามองแทบไม่ทัน เล่นมาสปีดแวมพ์เลยนะ
"เอ่อ.. อะไรคะที่รัก.?" ถามระหว่างมองหน้าคนที่มาจัดการจับเธอใส่เสื้อให้เสร็จสักทีด้วยมือเค้า ไม่ได้สงสัยว่าทำไมเค้าต้องช่วยเพราะเค้าช่วยเธอแต่งตัวออกจะบ่อยไม่ใช่แค่ถนัดแต่ถอดอย่างเดียว แต่เพราะสีหน้าที่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่นี่ต่างหาก
"ฉันกำลังสงสัยว่า วิทยาศาสตร์จะทำอะไรกับไฮบริด แล้วคนพวกนั้นแน่ใจได้ยังไงว่า มันมีอยู่จริง.?"
"อืมม.. ฉันคิดว่า บางคนน่าจะมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ได้นะ" กระซิบตอบเพียงเบาๆจนได้ยินเสียงลมพัดประตูห้องให้เปิดออกดังปึ่งชัดเจน ฟลอเรนยกยิ้มน้อยๆ ต้อนรับคนที่มาปรากฏตัวตรงหน้า เธอมองหล่อนด้วยดวงตาเป็นประกายพอใจเพราะคาดการณ์ไว้ไม่ผิด
"สวัสดีค่ะคุณผู้ตรวจการ.. แม้แต่คุณก็มาแบบคนธรรมดาไม่ได้เหมือนกันสินะ"
..............................................
อาระ, (= well ในภาษาญี่ปุ่นแบบเกียวโต) มาถึงก็ติดเรทกันเลย สนองตัณหาคนเขียน อิอิ ว๊าย..พูดจาน่าเกลียดมากอ่ะ ฮ่าๆๆ ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ นิยายเรื่องนี้มันก็ต้องมีบ้างอ่ะนะ แฟนตาซีนะ เกี่ยว.?
สำหรับตอนนี้คงยังไม่คืบหน้าไปมากนักนะคะ เนื้อเรื่อง ก็มันเพิ่งตอนสองเองนี่นา ตอนนี้เนื้อเรื่องอื่นไม่เน้น เน้นเซ็กซี่ คริคริ
ดีใจด้วยสำหรับคนที่รอเรื่องนี้อยู่นะคะ มาแล้วล่ะ แต่ไม่รู้จะหายไปนานอีกไหม มาลุุ้นกันนะ
สำหรับคนที่ไม่มีภาคอื่นๆ แนะนำให้ไปหาอ่านค่ะ มิฉะนั้นคุณจะอ่านกับใครไม่รู้เรื่องนะ ตัวละครทั้งสามภาคที่แล้วสัมพันธ์กันหมดค่ะ ตั้งแต่ Vampire Hunter The beginning , Vampire Hunter season1 , Vampire Hunter season2 (doppelganger) เรามีตัวอย่างให้โหลดอยู่ในตอนที่แล้วๆมานะคะ ไปหาเอานะ หรือไม่ก็ซื้อได้ค่ะ มีขาย อิอิ
แต่ตอนนี้ต้องลาไปก่อนแล้ว แล้วเจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ ฮ่าๆๆ
ขอบคุณมากค่ะ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|