web stats

ข่าว

 


Queen's tales Season 1 Chapter 5 : Princess of Thieves

โพสต์โดย: anhann วันที่: 26 มิถุนายน 2014 เวลา 22:45:18 อ่าน: 478

Chapter 5 : Princess of Thieves(เจ้าหญิงแห่งฝูงโจร)

"มีขบวนคาราวานอะไรไม่รู้ผ่านมาทางนั้นน่ะ"  เสียงใสร้องบอกใครอีกคนที่ยืนซุ่มอยู่ตรงหลังพุ่มไม้ด้วยกันเมื่อได้รับรายงานมาจากคนที่เพิ่งขึ้นไปดูลาดเลาบนต้นไม้สูง  สาวที่แบกคันธนูอยู่บนหลังหันมามองเธออย่างสนใจ  แล้วย้อนถาม

"แล้วเจ้าไม่รู้หรือว่ามันขบวนอะไรสหายอันวา"  คนรักธนูถามคิ้วขมวด  และเลือกไม่สนใจคนทำหน้าเสียให้  ร่างบอบบางแต่แข็งแรงปีนไต่ต้นไม้ขึ้นไป  หวังส่องสำรวจเอง  แล้วสายตาดุจเหยี่ยวของเธอก็หรี่มองไปรอบด้านผ่านกล้องส่องทางไกลในมือที่ดึงมาจากข้างเอว จากนั้นริมฝีปากบางเฉียบก็คลี่ยิ้มพอใจ 

"ในที่สุดข้าก็มีงานทำเสียที"  ว่าแล้วก็รูดตัวลงมาจากต้นไม้ให้คนยืนมองอยู่ตกใจสะดุ้งสุดตัว  หล่อนอุทาน


"อิสซาเบลล่า!"

"หุบปากสหาย  จะเสียงดังไปไย!" เจ้าของชื่อปรามเสียงดังไม่แพ้กัน  แล้วก่อนที่คนโดนปรามจะได้แย้ง  เธอก็ชิงพูดก่อน  "ข้าเห็นแล้วล่ะว่ากองคาราวานอะไร  มันน่าสนใจมาก"  ประโยคสุดท้าย  สายตาคมกริบของเธอก็กวาดมองไปยังผู้คนที่กรูกันเข้ามาด้านหน้าเธอ  ท่าทางของพวกเขาดูตื่นเต้น  เห็นแบบนี้แล้วเธอควรจะรีบพูดต่อจะดีกว่าอมพะนำ

"แต่ว่า...."

"แต่ว่าอะไรเบลล่า.?"  อันวาเผลอเรียกชื่อเพื่อนรักสั้นๆด้วยความเคยชิน  แล้วรีบหลบสายตาของดวงตาคมกริบนั่นทันใดที่หล่อนหันขวับมามอง  รอจนหล่อนส่งเสียงกระแอมแล้วเธอจึงค่อยๆเหลือบตาขึ้นอีกครั้ง  ฟังหล่อนพูดโดยไม่แย้งอีก

"แต่ว่า  ข้ารู้สึกว่าตอนนี้กองคาราวานนั่นจะโดนผู้ใดไม่รู้ซุ่มโจมตีอยู่น่ะสิ" พูดแล้วก็ทำท่าหนักใจ  แต่แววตาเจ้าเล่ห์ซ่อนอยู่บนใบหน้าอ่อนวัยของเด็กสาว  แล้วเธอก็ยิ่งยิ้มเมื่อมีบางคนในกลุ่มตรงหน้าพูดขึ้น

"จะปล่อยให้ใครมาตัดหน้าเราไม่ได้!"

จากนั้นเสียงฮือฮาจากหลายคนก็สนับสนุนคำพูดนั้น  อิสซาเบลล่ายิ้มถูกใจแต่มันหายไปเมื่อรู้สึกว่าใครกระตุกชายเสื้อ  เด็กสาวคิดจะหันไปตีปัดมือนั้น  พลันเห็นแววตาใสๆของเด็กน้อยวัยไม่เกินห้าปีสีหน้าเธอก็อ่อนโยนลง  และรู้ว่าควรทำอะไร

"เจ้าหิวใช่ไหม.."  เธอถามคนตัวเล็ก  เด็กน้อยพยักหน้ารับ  เธอก็ล้วงหาของในกระเป๋าสะพายที่ห้อยติดตัวเสมอขึ้นมาแล้วส่งให้เขาไป  "ข้ามีแอปเปิ้ลอยู่ลูกนึง  เจ้าเอาไปกินซะสิ"  เขายิ้มและก้มหัวให้เธอก่อนจะรับของไป  อิสซาเบลล่ามองตามหลังร่างเล็กนั่นไปด้วยรอยยิ้ม  แต่มันก็เลือนไปทันทีที่เห็นว่าแอปเปิ้ลลูกนั้นที่เธอให้ต้องถูกเอาไปแบ่งให้เด็กอีกสามคน 

ลูกเล็กแค่นั้น  กินสี่คนจะอิ่มอะไรกัน..  เธอคิดในใจและถอนหายใจหนัก  หันกลับมาคิดจะมาคุยเรื่องงานต่อ  พอดีกันกับที่ได้ยินใครบางคนพูดใกล้ๆ

"เสบียงของเราเหลือน้อยเต็มทีแล้วล่ะเบลล่า"  อันวามองหน้าหัวหน้าของเธออย่างหนักใจ  ความจริงก็ไม่อยากจะพูดแต่มันจำเป็น  ก็ไม่อยากเห็นเพื่อนกลุ้มใจ  การเป็นผู้นำคนมากมายตั้งแต่อายุเท่านี้  มันเป็นภาระหนักพอควร 

"ท่านหัวหน้าใหญ่ไม่น่ามาด่วนจากไปเลยนะ  เบลล่า--"

"พ่อข้าไปสงบแล้ว  อย่าพูดถึงเขาอีก!"  อิสซาเบลล่าตวาดลืมตัว  ไม่สบอารมณ์ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงบิดาที่ลาลับไป  นั่นเพราะครั้งใดที่นึกถึง  เธอรู้สึกอ่อนแอ  น้ำตาพาลจะไหลที่ภาพครั้งบิดากำลังจะสิ้นใจหวนกลับมา  เธอไม่เคยลืม..

ข้าจะแก้แค้นเจ้า..  พวกขุนนางขี้ฉ้อ!

"ข้าไม่ได้ตั้งใจ.."  อันวาพยายามจะพูดแก้ตัวแต่คนอารมณ์ไม่ดียกมือขึ้นห้าม  หล่อนหันไปประกาศเสียงดังแทรกเสียงฮือฮาของผู้คน

"เราจะไปปล้นกองคาราวานนั้น  เตรียมตัวให้พร้อม!  และรอคำสั่งจากข้า!"  สั่งเสร็จอิสซาเบลล่าก็หันกลับมาจ้องหน้าคนสนิท

"เจ้าอยู่ที่นี่ก่อน  รอข้ากลับมา  หรือสัญญาณของข้า  จำไว้นะ" 

อันวาทำอะไรไม่ได้  ได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำใจ  มองดูร่างของเพื่อนรักเดินห่างออกไปทุกที  จากนั้นก็เห็นเพียงแผ่นหลังของเด็กสาวที่มีคันธนูและลูกธนูวิ่งแทรกป่ารกๆออกไป  เธอยิ้มแม้จะกลุ้มใจด้วยความเป็นห่วง

ดูแลตัวเองให้ดีนะ  พวกเราต้องการเจ้าเสมอ..เจ้าหญิงแห่งฝูงโจร..

----Queen?s tales 1----

   "แถวนี้มันชุมทางโจรคาร่า"  ไคล่ากระซิบเมื่อแฝดพี่เดินเข้ามาหา  คาร่ามาเจอเธอระหว่างทางที่เธอออกจากขบวนมาสำรวจด้านนอก  แต่ข่าวของเธอก็ไม่ได้ทำให้พี่สาวดูตกใจอะไร  องค์ราชินีมีสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนที่เคยเป็น

   ก็สโนว์ควีนนี่นา..

   คาร่ามักจะทำสีหน้าเช่นนี้เสมอเวลาพูดคุยถึงเรื่องงาน  ต่างจากเวลาคุยกับสาวๆในคลังมาก  และยิ่งต่างเมื่อสนทนากับน้องเล็ก   กับไอซิสสุดน่ารัก.. 

พระพี่นางก็แทบจะโอบอุ้มทุกนาทีอยู่แล้ว  หลงใหลเอาใจจนแทบไม่กล้าขัดใจอะไร  ตอนนี้มาเป็นอะไรกันมากกว่าพี่น้อง  ยิ่งเห็นถึงความหลงในแววตาสีเขียวน้ำทะเลเวลามองจ้องน้องคนนั้น  ไม่เหมือนกับเธอ  ถึงจะเล่นชู้กันมาตั้งแต่สมัยยังเยาว์ก็ไม่เคยจะเป็นอะไรมากกว่าเครื่องมือช่วยคลายเครียดให้กันและกัน

   ข้าแตกต่างจากนางในพวกนั้นแค่เพียงท่านยอมให้ข้ารู้จักส่วนลึกของท่านมากกว่าเท่านั้นแหละ  และข้าก็เป็นน้องคลานตามท่านมาติดๆ เท่านั้นเอง..

   คิดแล้วก็น้อยใจเหมือนกัน  แต่ช่างเถอะ..

   "ข้าเข้าใจ  แล้วพวกที่เจ้าเจอก่อนหน้านี้ล่ะ  พวกโจรด้วยหรือไม่" 

   เจ้าหญิงรัชทายาทกระพริบตาเลิกเหม่อ  สะลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป  ตั้งใจตอบคำถามที่ได้รับมา "โจรเหมือนกัน  แค่โจรกระจอก  เราจัดการได้  แต่ข้ายังรู้มาจากพวกนายกองที่เคยมาแถวนี้  เขาว่า มีที่มีฝีมือกว่านั้น"

   "เจ้าหมายถึง "เจ้าหญิงแห่งฝูงโจร" งั้นหรือ.?" คาร่าถาม  อีกคนพยักหน้ารับรวดเร็ว  "ถ้าเช่นนั้น  เจ้ากลับไป  ไปดูแลน้อง"  บอกพร้อมหันหลังให้ฝาแฝดและจะเดินกลับไปขึ้นพาหนะของตน  แต่เขาเรียกตามหลัง

   "เหตุใดท่านไม่กลับกับข้า"

   ร่างสูงของผู้ที่ถูกถามเหลียวหลังกลับไปยิ้มอ่อนโยน  องค์ราชินีเดินกลับไปแล้วมอบจุมพิตเบาๆที่ปากคนถาม  "แล้วข้าจะกลับ  ขอไปจับโจรก่อน"  ตอบเสร็จก็ถอนตัวออกมาอย่างรวดเร็ว  และเปกาซัสมารับตัวเธอออกไปจากหน้าคนยืนมองอย่างไม่ต้องสั่ง  คาร่าไม่ได้หันไปหันมองด้านหลังอีก  หากแต่ฝีเท้าของม้าอีกตัวก็ทำให้เรียวปากสวยคลี่ยิ้มพึงใจ

   ข้าไว้ใจเจ้าได้เสมอ..ฝาแฝด.. และข้าไม่เคยคิดจะทิ้งเจ้าไป...

----Queen?s tales 1----

   ไอซิสหงุดหงิดที่ต้องปลอมตัวตามคำสั่งประกาศิตของเสด็จพี่องค์รองของเธอ  ไคล่าอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยจึงให้เธอทำตัวเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา  เดินตามหลังรถม้าที่บรรทุกสิ่งของสัมภาระของขบวน  แต่พี่สาวลืมไปหรือไม่ว่า  ไม่ว่าจะทำอย่างไร  เธอก็แตกต่างจากเด็กสาวชาวบ้านแม้แต่บุตรีขุนนาง

   รูปร่างสูงโปร่งผิดผู้หญิงปกติ  เธอสูงเหมือนพี่สาวสองคน  ถึงจะสูงไม่เท่าพวกเขาสองฝาแฝด  แต่ก็สูงราวชายหนุ่มรุ่นราวเดียวกัน  ผิวพรรณหรือก็ขาวอมชมพูซ้ำเปล่งปลั่งขนาดนี้  ไม่สะดุดตาคนก็เห็นจะแปลก  สีตาหรือก็แดงดังก้อนโลหิตแข็ง  ใครที่ไหนที่จะมีตาสีนี้ได้นอกจากพระมารดาของเธอที่ใครๆก็ต่างว่า  เธอหน้าละม้ายคล้ายท่านราวคนเดียวกัน  แต่ก็เพราะความโดดเด่นเช่นนี้ใช่หรือไม่ที่เธอต้องถูกจับแต่งตัวรุ่มร่ามน่ารำคาญ

   อยากจะสะบัดผ้าคลุมศีรษะราวสาวจากดินแดนตะวันออกไกลออก  ถอดชุดยาวเกะกะนี้ออกจากตัวจะแย่  หากไม่เห็นแก่พี่สาวทั้งสองคนแล้วล่ะก็   เธอคงจะทำ  และที่สำคัญ..

   เธอกลัวองค์ราชินีจะทรงกริ้ว..

   รักเค้ามากนี่นา..  เคยดื้อแค่ไหนก็จะยอมสยบแทบเท้าแล้ว..

   โอ้..ใครกันแน่ที่รู้สึกไม่เป็นตัวเองเพคะ..เสด็จพี่.?

   "เลมมี่..  ข้าเบื่อ"  ในที่สุดคนเคยซนก็อึดอัดจนทนไม่ได้  หันไปกระซิบกับเพื่อนในวัยเด็ก  เลมมี่ที่มีผ้าคลุมศีรษะเหมือนกันก็มองหน้าเธอด้วยสายตาระแวง

   "ได้โปรดทรงอย่าคิดทำอะไรแผลงๆเลยเพคะ  หม่อมฉัน---"

   "โธ่เลมมี่..  มันก็แค่โจรกระจอก  เจ้าคิดว่าอย่างข้าจะแพ้โจรป่าบ้าพวกนั้น งั้นหรือ.?"  เจ้าหญิงน้อยเถียงอย่างถือดี  เห็นมหาดเล็กคนสนิททำท่าจะไม่เอาด้วย  เธอก็เม้มปากไม่พอใจ  "เจ้าไม่ไป  ข้าไปคนเดียวก็ได้ แล้วไม่ต้องตามมานะ  ข้าจะฟันคอเจ้าให้ขาด!"  ประกาศออกไปแล้วก็พาตัวเองหลบออกจากขบวนทันที 

ไอซิสอาศัยความเร็วของร่างกายที่ฝึกมาดีแทรกตัวออกมาจากกองคาราวานอย่างที่ไม่มีใครสังเกตเห็น  แค่เพียงมหาดเล็กคนสนิทเท่านั้นที่เธอบอกว่าจะออกมา  หล่อนจึงวิ่งตามหลังมาอย่างทุลักทุเล  เลมมี่ไม่กลัวคำขู่ที่ว่าเธอจะหั่นคอหล่อนหากตามมา  นั่นเพราะมันแค่คำขู่...

อยู่กันมานานจนรู้ใจกันแล้ว...

และมันโชคดีจริงๆที่ไคล่ายังไม่กลับมาจากไปลาดตระเวน  ไม่เช่นนั้น  เธอคงไม่รอดเหมือนกัน  รายนั้นหูไวตาไวราวสัตว์ป่า  แต่ก็อย่างว่า พี่สาวเธอมีวิชาดี..

อยากไปเรียนด้วยเหลือเกิน  หากไม่โดนดักคอเสียก่อนว่า  เธอเรียนมาเพื่อแกล้งคน  ไม่ได้เรียนเพื่อช่วยคน  มันก็จบกัน..

แต่ตอนนี้เธอจะไปไหนดีล่ะ  หรือจับโจรจริงๆ.?     

"เจ้าหญิง..  เจ้าหญิงเพคะ!"

"หยุดนะ  อย่าเรียกข้าแบบนี้  เจ้าจำไม่ได้หรือไงที่พี่ข้าสั่ง!"  เจ้าหญิงน้อยหันไปตวาดคนสนิท  แล้วหันหน้ากลับมาเดินต่อ  ขายาวจ้ำอย่างไม่รอใคร  ไม่สนใจคนขาสั้นกว่าสักนิดเลย

"เจ้าหญิงทรงรอหม่อมฉันด้วย!"  เลมมี่ตะโกน  คนตรงหน้าหยุดกึก  เธอนึกได้ทันทีเลยว่าเพราะอะไร  ไม่ต้องรอให้ดวงตาสีแดงหันมาจ้องกันแบบนี้ด้วย

"เรียกข้าเช่นนี้อีกที  ลิ้นเจ้าขาด!" ไอซิสขู่พร้อมกริชที่ชักขึ้นมาชี้หน้ามหาดเล็ก  เลมมี่กลัวจนตัวสั่นเหมือนพวกปอดแหก  แต่หล่อนก็ยังไม่วิ่งหนีไปกลับพยักหน้ารับเป็นอย่างดี  "ดีมาก  อย่าให้ข้าต้องพูดซ้ำ  ไม่งั้นข้าจะตัดหูเจ้าด้วย!"

เจ้าหญิงน้อยคนสวยสะบัดหน้ากลับไป  แล้วไปเดินยิ้มอยู่ตามลำพัง  พอใจที่ได้แกล้งคน  อย่างน้อยก็สักนิดก็ยังดี  เธอต้องการสิ่งที่จะช่วยระงับอารมณ์ความคิดถึงใครคนนั้นให้น้อยลง  แต่มือที่จับกริชก็เปลี่ยนมาจับสร้อยที่ห้อยคอ 

สร้อยของพระองค์..  แล้วพระองค์ล่ะ  ทรงอยู่ที่ใด  เมื่อใดจะทรงกลับมา  ทรงรู้ไหมว่า..หม่อมฉันคิดถึง..

แปลกนักแค่เพียงไม่กี่เพลาเท่านั้นเอง..  หรือหม่อมฉันหลงใหลในพระองค์มากเกินพอดี..  หม่อมฉันไม่ดีใช่ไหมเพคะ..?

  "เราจะไปไหนกันสหาย"

ไอซิสกระพริบตา หลุดออกจากอาการฟุ้งซ่านเมื่อได้ยินถ้อยคำที่เปลี่ยนไป  ดวงตาสีโลหิตชำเลืองไปด้านข้าง  เห็นมหาดเล็กร่างบางมาเดินคู่  แล้วอยู่ๆความเศร้าซึมก็ถอยห่างไป  อารมณ์ใหม่เข้ามาแทน

"เราจะไปจับโจรกัน  แล้วมารับรางวัลกับองค์ราชินี"  บอกเสร็จก็ยิ้มกว้างกับคนที่ส่งยิ้มมา  มืองามจับอัญมณีห้อยคอเอาไว้แน่นแนบหัวใจ  แล้วเดินหายไปในป่าที่ตนไม่รู้จักกับคนสนิทเพียงสองคน 

----Queen?s tales 1----

จอมเวทย์อย่างนั้นหรือ.?  อิสซาเบลล่าพึมพำเมื่อความรู้สึกถึงบอกได้ถึงบางอย่างที่ไม่ปกติในป่าที่เธออยู่อาศัยมาช้านาน  เรียกได้ว่านับตั้งแต่จำความได้ก็เห็นมันแล้ว  เธออยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้  หลับตาเดินยังไม่หลง 

แต่กับตอนนี้มันไม่ใช่..  ป่ามีบางอย่างผิดปกติ  มันไม่เหมือนเดิม..

และที่สำคัญ..  เธอหากองคาราวานนั้นไม่เจอ..

"เป็นไปไม่ได้..  ม่านลวงตา!"  เด็กสาวสบถขณะร่างบางเดินลัดเลาะพงไม้ไปเรื่อยๆ  เธอเดินมาไกลแล้วจากที่หมู่บ้านชุมทางโจร  มาตามทางที่หวังจะมาเจอเป้าหมายที่จะลงมือทำงาน  แต่กลับพบว่า  ตัวเองหลงป่าที่อยู่มาตั้งแต่เกิด

มันเป็นไปได้อย่างไร.?

"เชอะ  เวทย์มนตร์กระจอก!"  เธอบอกไปกับอากาศแล้วมองหาบางอย่างที่คิดว่าจะใช้งานได้  และกิ่งไม้ขนาดเหมาะมือก็ถูกหยิบขึ้นมา  ย่อตัวลงใช้มันวาดเป็นดาวห้าแฉกบนผืนดิน  จากนั้นก็ปักมันไว้ตรงกลาง  หลับตาทำปากขมุบขมิบบ่นคำไม่เป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วไป  เพียงไม่กี่เพลาเปลือกตาของเธอก็เปิดขึ้นใหม่

ปรากฏดวงตาสีเขียวมรกตสดใส  ราวอัญมณี..

รอยยิ้มพึงพอใจถูกคลี่ออก  เมื่อทุกสิ่งรอบกายกลับคืนมาตามหนทางของมัน   เสียงของสัตว์น้อยใหญ่เริ่มเข้ามาสู่การรับรู้ของโสตประสาท   ทั้งสามารถมองเห็นบรรดาสัตว์ต่างๆจำพวกแมลงวิ่งผ่านหน้า  หรือสัตว์ป่าขนาดเล็กบางชนิดสร้างเสียงการเคลื่อนไหวของมันไปพื้นที่ของป่า  ถูกต้องแล้ว  ผนึกของมนต์พรางตาได้ถูกคลี่คลายด้วยฝีมือเธอ

"ก็เท่านี้..  นึกว่าจะแน่"  ผู้ใช้คาถายิ้ม  หากแต่รอยยิ้มที่มีกับผลงานชิ้นเอกกลับต้องเลือนหายไป  เมื่อในสายตาได้เห็นอะไรบางอย่างผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว  การเคลื่อนไหวที่ไวกว่าสายลมพัดพาเกินกว่าที่ดวงตาคมของเธอจะสามารถจับมันได้ทัน     มันคืออะไร.?

"อะไรกันนั่น!"  เจ้าหญิงแห่งฝูงโจรอุทานตกใจ  แล้วรีบสะลัดหัวแรงๆพร้อมขยี้ตาให้หายเบลอพร่า  พอรู้สึกว่าได้สติกลับมา  ก็รีบกระชับอาวุธคู่กายแล้วออกวิ่งตามสิ่งนั้นที่มองเห็นไม่ชัด แต่เรียกร้องความสนใจน่าดู  อยากรู้เหลือเกิน..

"เอาสิ  มีอะไรดีอีกก็เอาออกมา  อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะสักแค่ไหน..จอมเวทย์จากต่างแดน"  เด็กสาวท้าไปกับสายลม  แต่หัวคิ้วเธอยังขมวดด้วยความไม่เข้าใจ  สิ่งนั้นคืออะไร..  เหตุใดจึงเป็นลำแสงสีเงิน..

ท่านเจ้าป่า  เจ้าเขา..มากลั่นแกล้งข้าหรือไร.?  ไม่รู้หรือไรว่าข้ากำลังจะทำความดีเหมือนที่ท่านพ่อข้าเคยทำ..

ปล้นคนรวย  อภิบาลคนจน..

   ปราบคนพาล  รักษาไว้ซึ่งคนดี.. 

ก็ข้านี่ไง..ลูกสาวจอมโจรโรบินฮู้ดผู้เลื่องลือ..  ไม่รู้จักหรือไร.?


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น