Vampire Hunter season3- Chapter 1 : เด็กเลือดสองสี 50% (ครึ่งหลัง)
โพสต์โดย:
anhann
วันที่: 18 มิถุนายน 2014 เวลา 17:27:01
อ่าน: 375
|
Chapter 1 : เด็กเลือดสองสี 50% (ครึ่งแรก) http://www.yuriread.com/index.php?action=articles;sa=view;article=113
Chapter 1 : เด็กเลือดสองสี 50% (ครึ่งหลัง)
ร่างบางเดินออกมาจากช่องระหว่างชั้นหนังสือไม้ที่ตั้งตระหง่านทั่วห้องแต่เป็นระเบียบตามมาตรฐานหอหนังสือของมหาวิทยาลัย ดวงตาสีม่วงไม่คิดสนใจจะมองทางหรืออะไรที่เดินผ่านมาเพราะถึงหลับตาก็ไม่มีทางหลงหรือเดินชนอะไรอยู่แล้ว จิตใจยังจดจ่อกับหนังสือเล่มหนาในมืออย่างมีสมาธิ กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าหลายเสียงหลังเสียงประตูถูกเปิดและปิด แต่ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่สนใจเจ้าของเสียงฝีเท้าเหล่านั้น คนแทบทั้งหมดที่นี่ก็แทบจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกันเลยล่ะ เพราะพวกเขาป๊อปปูล่าสุดๆ..
"เธอรู้ไหม.. ถ้าสองฝาแฝดเป็นผู้ชายแล้วไม่ได้หน้าเหมือนกัน ฉันคงคิดว่า ฉันเจอเบลล่า สวอน..." ทักยิ้มๆ พลางส่งสายตาขี้เล่นให้สาวที่ตัวเล็กที่สุดในสามคนแต่สูงกว่าเธอ หล่อนยิ้มแบบเดียวกันกลับมา
"ฉันจะเป็นเบลล่าได้ ถ้าอีกคนที่ตามมาด้วยไม่ใช่แฟนคุณ และต้องมีคนหนึ่งที่หอนได้ด้วย" กระซิบยิ้มขี้เล่นกลับไปให้โดนหยิกแก้มอย่างมันเขี้ยวมาเป็นรางวัลก่อนจะถูกดึงให้เข้าไปด้านในในส่วนของห้องทำงานส่วนตัวของคนดึง
ถึงจะมีคนมองตามมาบ้างด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น เด็กพวกนั้นก็ไม่มีใครกล้าปริปากถาม มากหน่อยก็แค่จับกลุ่มเม้าท์กัน แต่ก็หุบปากฉับกันทันทีที่ถูกดวงตาคมของสองแฝดหันไปปรายมอง พวกเขายังคงน่ากลัวได้เสมอต้นเสมอปลาย
"คุณได้ข่าวอะไรบ้างไหมคะมาทา.?" ผู้มาเยือนถามทันทีหลังจากที่หย่อนก้นลงเก้าอี้ได้ไม่นาน เจ้าของห้องมองหน้าเธอนิดนึงก่อนดีดนิ้วหนึ่งเป๊าะ ไม่ทันจะได้เอ่ยถามใหม่กับบรรยากาศแปลกในห้อง ร่างหนึ่งก็ปรากฏข้างตัว ดวงตาสีม่วงครามเบิกค้างจ้องหน้าสาวบลอนด์ร่างบางอย่างตกใจ
"ฉันได้รับอนุญาตไหม ถ้าจะถามว่า คุณคือใคร.?"
ผู้มาใหม่ล่าสุดหัวเราะ มองคนถามอย่างสนใจก่อนยักคิ้วให้เจ้าของสถานที่และสองแฝด "เจอกันอีกแล้วนะ แม่มด แวมไพร์.."
แม่มดที่ว่าพยักหน้ายิ้มมุมปากส่วนสองแวมไพร์ด้านหลังมองหน้ากัน และแฝดน้องก็ดูจะมีพิรุธกว่าใครเพื่อน จะไม่ให้มีพิรุธกว่าใครได้ยังไง ยัยนี่มันกิ๊กเก่าเธอ อยู่ๆโผล่มาได้ไงเนี่ย!
"อายุยืนขนาดนี้เลยเหรอ เสืออย่างเธอ.?"
เสือที่ว่าไม่ตอบคำถามแวมไพร์แฝดน้อง สาวบลอนด์ผิวแทนยักไหล่และก้มตัวลงหาคนตาใสที่มองอยู่ ยื่นหน้ามาใกล้จะจมูกแทบจะชนกัน แต่ก็ไม่มีใครยอมถอยให้ใคร
"เธอคือฟลอเรนสินะ ถ้าฉันไม่ได้ความจำเสื่อม"
เจ้าของชื่อกระพริบตาหนึ่งทีแล้วพยักหน้ารับ "โอ้.. ถ้าอย่างนั้น ฉันเดาว่า คุณคงรู้จักคุณหนูมาแชลเป็นอย่างดี"
บลอนดี้หัวเราะเบาๆ ยืดตัวขึ้นหาแม่มด "ขอบใจนะมาทาที่เชิญ ที่นี่น่าสนใจกว่าที่คิด"
"ฉันบอกเธอแล้วทัสมิน มันเวิร์ค" มาทาขยิบตาให้คนพูด แล้วเบนสายตากลับไปมองดูคนที่นั่งงงไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว "ฟลอเรน.. นี่ทัสมินเป็น.. เอิ่ม.. จะบอกว่าไงดีนะ"
"เป็นเสือดำ" ทัสมินแย่งพูด พลางยื่นมือให้สาวน้อยที่ลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือขาวจัดมาสัมผัสด้วย เด็กมันจะรีบชักมือกลับถ้าเธอไม่จับไว้จนแน่น คิ้วที่ขมวดเข้าหากันทำให้เข้าใจได้ว่า สงสัยจะรู้สึกไม่ดี
"มีจิตสัมผัสเหมือนกันสินะ"
"ใช่..มีทุกอย่างเหมือนเดิมนั่นแหละ" มาทาชี้แจงพลางปรามเสือขี้เล่นทางสายตา ทัสมินยอมปล่อยมือเด็กสาวแล้วแต่ประกายตาวิบวับยังคงอยู่ และหนึ่งในผู้ที่อยู่ที่นี่ก็ดูจะไม่ชอบมันนัก ไม่ใช่สิ แฝดทั้งคู่นั่นแหละ
พวกมีอดีตเยอะก็แบบนี้...
"เสือแปลงเป็นคน หรือคนแปลงเป็นเสือคะ.?" คนงงยังอุตส่าห์ถามอย่างสุภาพ คนถูกถามทำหน้าทึ่งแล้วตอบอย่างไม่สนใจคนอื่นที่มองไม่พอใจ
"ฉันเป็นอย่างหลัง.. ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็เหมือนไลเคน แค่ฉันเป็นเสือ ไม่ได้เป็นหมาเท่านั้นแหละ"
ฟลอเรนพยักหน้าเข้าใจ ดวงตาใสๆยังสนใจบลอนดี้อยู่ เธอไม่คิดว่าสิ่งมีชีวิตแบบนี้จะมีอยู่จริงไม่ได้มีแค่ในนิยาย แต่ถ้าแม่มด แวมไพร์ ไลเคน แวร์วูฟมีอยู่จริง คนแปลงเป็นเสือได้ ทำไมจะไม่มีล่ะ
"ต้องขอโทษด้วยที่ฉันจำคุณไม่ได้สักนิดเลย.." เด็กสาวชาวอังกฤษพูดอย่างสุภาพเมื่อลุกขึ้นยืนแล้ว สาวแปลกหน้าดูแปลกใจแต่สักพักก็คลี่ยิ้ม
"เรื่องมันยาวกว่านิทานกาลครั้งหนึ่งเสียอีก เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักกันใหม่ดีไหม.?" ทัสมินเสนอ ยื่นมือไปหวังจะสัมผัสตัวเด็กสาวอีกครั้ง หากคราวนี้กลับได้สัมผัสถึงความเย็นเฉียบแทนความอุ่นของร่างกายมนุษย์
เพราะมันไม่ใช่มือมนุษย์น่ะสิ..
"ฉันเองก็จำเธอไม่ค่อยได้เหมือนกัน ลำบากไหมถ้าจะแนะนำตัวใหม่" อัลร์หรี่ตาให้แม่เสือสาวราวจะข่มขู่หล่อนไปในตัว หากก็ไม่เห็นความหวาดกลัวใดๆเกิดขึ้นในดวงตาสีฟ้านั่นแม้แต่น้อย ออกจะท้าทายด้วยซ้ำ หล่อนดึงมือกลับไปอย่างง่ายดายแล้วโผล่ไปปรากฏตัวข้างแม่มดคนงามแทน ยังไวเหมือนเดิม หรือไวมากกว่าเดิม...
"ฉันว่า มาทาคงทำหน้าที่นั้นได้ดีกว่า โทษทีที่ไม่ค่อยถนัดสาธยายเรื่องตัวเอง" บลอนดี้ยิ้มมุมปาก ท่าทางตั้งใจกวนประสาทคนฟังเต็มที่ ถ้าไม่มีคนกลางโผล่ขึ้นมาแทรก ห้องทำงานนี้อาจกลายเป็นสมรภูมิย่อมๆ
"หยุดกวนกันไปกวนกันมาทีเถอะ ขอร้องล่ะ"
"นั่นสิคะพวกคุณ" ฟลอเรนเสริม มองตาดุไปที่คุณแฟนที่รักที่หุบปากสนิททันที ต้องแบบนี้สิ อยู่ในโอวาทดีมาก
"แล้วตกลงว่า เรียกพวกเรามาทำไมคะมาทา"
เจ้าของชื่อนิ่งไปนิดก่อนหันไปสบตาบลอนดี้ที่ใบหน้าไม่มีรอยขี้เล่นหลงเหลืออยู่ ทัสมินไหวไหล่พยักหน้าให้เธอเป็นคนพูดมัน "ทัสมิน.. เธอพูดสิ พูดอย่างที่เล่าให้ฉันฟังไง.."
แม่เสือสาวเม้มปากก่อนพูดไม่เต็มใจ "มนุษย์บางพวกต้องการตัวไฮบริดของพวกเธอ"
ประโยคเดียวเท่านั้นสามารถเรียกความสนใจของคนทั้งห้องได้ ไม่เว้นกระทั่งฝาแฝดที่ตั้งแง่ไม่อยากเจอแม่เสือตัวนี้ ก็มันเกี่ยวกับพวกเขาเต็มๆ
"เดี๋ยวนะ เธอจะบอกว่ารู้เรื่องคาริน่าด้วยงั้นหรือ.?" แฝดพี่ถามร้อนใจ แฝดน้องก็รอฟังหน้าเครียด ส่วนฮันเตอร์แตะคางพยายามทบทวนเรื่องราว
"คุณจำเรื่องนั้นได้หรือเปล่าคะอัลร์.?"
ไม่ใช่แค่อัลร์ที่นิ่งคิดแอลเองก็ด้วย สองแฝดมองหน้ากันแล้วแย่งกันพูด พูดประโยคเดียวกันนั่นแหละ "ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์เพี้ยนแน่ๆ!"
"น่าจะใช่นะคะ จำได้ว่า คาริน่าเคยพูดถึงอยู่เหมือนกัน"
"มันเป็นห้องแล็ปลึกลับในป่าทึบ ยากที่ใครจะเข้าไปเจอ"
"ยกเว้นเธอที่ชอบไปเดินเล่นในนั้นล่ะสิ"
ทัสมินยิ้ม เดาะลิ้นเปาะ "เธอรู้จักฉันดีนี่แอล.." แฝดน้องกลอกตาก่อนหันไปยิ้มแห้งๆให้มาทาที่มองมาด้วยสายตาน่ากลัว คุณแม่มดอาจไม่ใช่ประเภทหวงแฟนพร่ำเพรื่อ แต่เชื่อไหม คุณคงไม่อยากให้หล่อนโกรธหรอก..
"โอเค.. ถ้าอย่างนั้นก็สรุปได้ว่า เรามีเรื่องที่ต้องระวังเพิ่มอีก" ฟลอเรนรีบดึงงานมาปะหน้า เปลี่ยนบรรยากาศที่เริ่มมาคุให้กลับมาผ่อนคลายลง และทุกคนก็หวนมาโฟกัสเรื่องงานมากกว่าเรื่องส่วนตัวเสียที
ให้มันได้แบบนี้สิ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองเด็กสุดที่นี่..
"อืมม.." เด็กสาวเกริ่น ทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียว เดี๋ยวนะ สรุปแล้ว เธอเป็นหัวหน้าทีมงั้นหรือ อือฮึ.. เอาเถอะ!
ฟลอเรนถอนหายใจเฮ้อเบาๆ หันหน้าไปหาฝาแฝด "ถ้างั้นเราก็มีพี่ชายคุณ พี่สะใภ้ คุณตาไลเคน กับมนุษย์สติเฟื่องที่ต้องรอต้อนรับ.?"
"ใช่.. แต่ถ้าแอชลี่กับเมแกนทำสำเร็จ เราอาจจะเหลือแค่พวกเดียวที่น่าห่วง"
"ค่ะ ฉันก็รอพวกเค้าติดต่อมาอยู่" อยู่ๆก็นึกห่วงคนหน้าเหมือนตัวเองขึ้นมา เธอก้มหน้าครุ่นคิดก่อนจะมีบางมือมาแตะไหล่ให้หันไปมอง ดวงตาที่มองทอดมาอย่างห่วงใยพาให้ยิ้มรับ "ฉันเชื่อฝีมือพวกเค้า แต่ก็อดห่วงไม่ได้"
"ไม่แปลก ฉันเองก็เหมือนกัน" อัลร์ยิ้มใจดี บีบไหล่คนรักเบาๆให้กำลังใจ ได้ยินเสียงกระแอมขัดจังหวะ เราสองคนผละสายตาออกจากกัน
ใครกันหนอช่างไม่สั่งสอนแฝดน้องของเธอเลย จงใจจะแกล้งกันสินะ..
"อืม.. โอเค.. งั้นฉันขอตัวก่อนค่ะ ได้เวลาคลาสแล้ว" ฟลอเรนตัดบท พยายามยิ้มให้เป็นปกติทั้งที่ความจริงวุ่นวายใจ เธอห่วงดอพเพลแกงเกอร์
เด็กสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของคุณบรรณารักษ์เพียงลำพัง เธอขอให้อัลร์อยู่คุยกับคนอื่นๆแทน แต่แทนที่จะเดินไปเข้าคลาสประวัติศาสตร์อย่างที่คิด สองขามันกลับพาเธอมาอยู่หน้าตึกเรียนของเด็กมิดเดิลสกูล ร่างระหงยืนอยู่แบบนั้นอย่างสงสัยตัวเองว่ามาทำไม แต่ไม่นานเธอก็รู้เหตุผล มีคนแปลกๆชายหญิงที่เชื่อว่าเธอไม่เคยเห็นมาก่อนมาเมียงมองอยู่บริเวณตึกหลังนี้
ฟลอเรนรีบหาที่ซ่อนตัวหลังเสาโรมันขนาดสองคนโอบไม่มิด สมองครุ่นคิดว่าจะจัดการยังไงหากคนพวกนี้เป็นอันตรายต่อเด็กไฮบริดที่ว่า แต่ไม่ทันจะคิดออกคนพวกนั้นก็ชักชวนกันออกไปทิ้งความฉงนใจเอาไว้ให้
บางทีพวกเขาอาจแค่มาดูลาดเลาก่อน.. เธอคิดก่อนจะเดินจ้ำเข้าไปในตึก ไม่กี่นาทีก็เดินไปถึงห้องที่คาริน่ากำลังตั้งใจนั่งฟังอาจารย์ ฮันเตอร์สาวส่ายหัว เริ่มคิดว่าคงจะวิตกกังวลโอเว่อร์ไปหน่อย บางทีชายหญิงพวกนั้นอาจจะแค่มาดูสถานที่หาที่เรียนให้ลูก แต่ถ้าแบบนั้น ทำไมเธอยังรู้สึกไม่ดี
จงเชื่อสัญชาตญาณของเธอ..
ประโยคนี้ทำให้เม้มปากแน่น เธอจำมันได้ ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนั้น ตัวเธอในอดีตปรากฏตัวขึ้น
คุณหนูมาแชล..
มาแชล ฟลอเรนซ์ ลูกสาวคนเดียวของลอร์ดมาแชล..
ถูกแล้ว.. ตัวตายตัวแทนที่ปรากฏขึ้นระหว่างเธอและเมแกนจากพิธีกรรมขั้นสูงของแม่มดมาเซีย มอนทาร์นาร์ในคราวนั้น จะเป็นใครไปได้ นอกจากเธอผู้นั้น ผู้แข็งแกร่งกว่าใครในเธอสามคน เธอเพิ่งมารู้ว่าเป็นหล่อนก็เมื่อไม่นานมานี้ มีเพียงเธอ เมแกน มาเซียและมาทาเท่านั้นที่กุมความลับนี้ไว้ สองฝาแฝดแวมไพร์ถูกจัดให้เป็นพวกต้องห้าม พวกเขาจะรู้ไม่ได้เพื่อกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น และนั่นคือคำขอร้องของฟลอเรนคนนั้น และเฮเลนน่า
พูดถึงเฮเลนน่า เธอยังทึ่งในความสามารถของแม่มดผู้นี้ไม่หาย นึกแล้วก็น่าเสียดายที่หล่อนอยู่อีกมิติไปเสียแล้ว แต่ก็นั่นแหละ ทุกอย่างมันเป็นชะตากรรม เหมือนที่ฟลอเรนคนนั้นต้องเจอ เธอและเมแกนด้วย
ถ้าอัลร์รู้ว่าเธอไม่ใช่คนเดียวกันกับฟลอเรนคนเก่าจะเป็นยังไง เค้าจะรู้สึกยังไง ถ้ารู้ว่าเธอก็แค่ตัวตนในอีกมิติหนึ่งที่แตกต่างจากฟลอเรนคนนั้น ไม่ใช่หล่อนที่กลับชาติมาเกิดแต่อย่างใด เราทุกคนเข้าใจผิดกันหมด
แต่ใช่.. เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้ เรื่องบางเรื่องก็ควรเป็นแค่ความลับ เรื่องบางเรื่องก็ควรจะตายไปกับคนบางคน เพราะฉะนั้น..
เธอทำถูกแล้ว...
"ฟลอเรน.?" เสียงเรียกชื่อพาเธอกลับมาสู่ปัจจุบัน เด็กสาวหันไปมาพยายามมองหาตัวคนพูดที่เสียงคล้ายกันกับตัวเอง แต่ก็หยุดกึกเมื่อนึกได้ว่ามือถือในกางเกงสั่นและเสียงเพลง One More Night ของ Maroon 5 ดังเข้าสู่โสตประสาท มือขาวดึงเจ้าจอแบนแบรนด์ผลไม้ขึ้นมาจิ้มรับ
"เฮ้.. ทำไมต้องโทรมาล่ะ ไหนๆก็คุยผ่านทางเมื่อกี้ได้" ทักทายกับปลายสายอย่างไม่ต้องดูว่าใครโทรมา ก็คนเดียวกับที่ส่งกระแสจิตมาเรียกแหละ
'เปลืองพลังงาน รู้ไหม.. ฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว'
ฟลอเรนหัวเราะในลำคอ ดวงตามองเด็กเลือดผสมที่ตอนนี้หันมามองเธอบ้าง ขยิบตาให้เด็กมันไปบอกว่าไม่มีอะไร คาริน่าหันกลับไปตั้งใจเรียนพร้อมกับที่เธอที่เดินถอยหลังมาห่างจากห้องเรียนห้องนั้น แต่ก็แค่มายืนพิงหลังกับรั้วระเบียงเท่านั้น ยังไม่ไว้ใจจะจากไปตอนนี้
"โอเคว่าไงที่รัก.?" ยังมีแก่ใจถามเสียงขี้เล่น แต่มันก็พอทำให้คนโทรมาอารมณ์ดีขึ้นบ้างดูจากน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป
'ยังไม่เข้าใกล้บ้านยัยแอชเลยล่ะ แต่ฉันคิดว่าต้องโทรหาเธอก่อน เผื่อไปไกลกว่านี้จะไม่มีสัญญาณ'
"กลัวฉันห่วงหรือไง น่ารักมาก" ริมฝีปากอิ่มยิ้มกว้างกับเสียงหัวเราะที่ดังตามมา "โอเค.. แล้วเจออะไรบ้างเมแกน.?"
'ของพื้นๆน่ะ ไม่ต้องห่วง แอชแข็งแรงกว่าขนาดตัว'
"ฉันก็ว่างั้น.." ฟลอเรนพึมพำ ปลายสายเงียบไปเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร ก็ใช่ ดอพเพลแกงเกอร์ไม่ได้พูดเก่งเหมือนเธอนี่นา "ถึงอย่างนั้นก็อย่าลืมนะ เราเป็นคนเดียวกัน"
'ไม่มีทาง' ปลายสายว่าอย่างนั้นกลับมา เสียงเมแกนอาจจะเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยินเพราะเสียงเด็กๆที่เริ่มเม้าท์มอยกันหลังจากอาจารย์สั่งงานแล้วเดินออกไป แต่ยังไงเธอก็ได้ยินมันชัด โดยเฉพาะคำสุดท้ายก่อนลา
'ฉันจะไม่ทิ้งเธอไป ตัวฉัน..'
ฮันเตอร์ยิ้มรับฮัมกลับไป ชอบใจที่ถูกเรียกว่า 'ตัวฉัน' จากอีกคน คงเพราะเธอก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน มือขาวจัดเก็บเจ้าจอบางลงเข้าที่ในกระเป๋ากางเกง กางวงแขนโอบบ่าเด็กตัวสูงไม่ถึงไหล่ที่จ้ำเข้ามาหาอย่างรู้งาน ก้มลงหอมหัวเค้าไปหนึ่งทีอย่างที่ชอบทำ แค่ได้เห็นรอยยิ้มเขินๆปนดีใจก็รู้สึกดีแล้ว ไม่รู้สิ อาจเพราะอยากจะทดแทนที่ไล่แม่ที่แท้จริงของเค้าไปก็ได้
"ไปหาเจ็นกันเถอะ" เธอชวน เด็กมันยิ้มแป้นเหมือนถูกใจสุดๆ เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไรคาริน่าถึงได้ชอบอยู่กับเจ็นนี่นัก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมยิ่งโตขึ้นพวกเขายิ่งหน้าตาคล้ายกันไปทุกที ส่วนหนึ่งในใจเธออยากรู้ แต่อีกส่วนกลับไม่อยากเสียอย่างนั้น
เรื่องบางเรื่องรีบรู้ไปก็ใช่ว่าจะดี..
อืม.. หรือบางทีไม่รู้เลยอาจจะดีกว่าหรือเปล่า..
............................................................
หายไปนานมากกว่าจะมาลงครึ่งที่สอง ฮ่าๆๆ แก้ตัวไม่ได้เลยค่ะ เพราะสมองมันไม่ไปเลยมาไม่ได้ ขออภัยจริงๆ
มาถึงครึ่งหลังนี้คงจะทำให้ใครๆ พอจะเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคที่แล้วๆมาได้บ้างแล้วนะคะ แต่ถ้าอยากรู้เรื่องให้มากกว่านี้ อ่านต่อไปค่ะ มันจะค่อยๆเฉลยออกมาเรื่อยๆเอง
หรือถ้าใครอยากได้สามภาคก่อนหน้านี้ (ภาคอดีตด้วย) ก็ดูตามนี้ค่ะ
หรือจะโหลดตัวอย่างไปอ่านก่อนก็นี่เลย
ตัวอย่างนิยายค่ะ
Season1
www.yuriread.com/Downloads/Vampire%20Hunter%20Season%201%20exam.pdf
Season2
www.yuriread.com/Downloads/VampireHunterSeaso2Exam.pdf
Vampire Hunter the beginning
www.yuriread.com/Downloads/VampireHunterTheBeginingExam.pdf
ไปล่ะค่ะ แต่ก่อนไป ฝากนิยายที่กำลังเปิดจองอยู่ด้วยนะคะ
Beautiful Stranger สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงก์นี้ค่ะ http://www.yuriread.com/index.php?topic=1320.msg1875#msg1875
แล้วเจอกันค่ะ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|