web stats

ข่าว

 


Vampire Hunter season3- Chapter 1 : เด็กเลือดสองสี 50% (ครึ่งหลัง)

โพสต์โดย: anhann วันที่: 18 มิถุนายน 2014 เวลา 17:27:01 อ่าน: 375



Chapter 1 :   เด็กเลือดสองสี 50% (ครึ่งแรก) http://www.yuriread.com/index.php?action=articles;sa=view;article=113


Chapter 1 :   เด็กเลือดสองสี 50% (ครึ่งหลัง)



ร่างบางเดินออกมาจากช่องระหว่างชั้นหนังสือไม้ที่ตั้งตระหง่านทั่วห้องแต่เป็นระเบียบตามมาตรฐานหอหนังสือของมหาวิทยาลัย   ดวงตาสีม่วงไม่คิดสนใจจะมองทางหรืออะไรที่เดินผ่านมาเพราะถึงหลับตาก็ไม่มีทางหลงหรือเดินชนอะไรอยู่แล้ว   จิตใจยังจดจ่อกับหนังสือเล่มหนาในมืออย่างมีสมาธิ  กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าหลายเสียงหลังเสียงประตูถูกเปิดและปิด  แต่ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่สนใจเจ้าของเสียงฝีเท้าเหล่านั้น  คนแทบทั้งหมดที่นี่ก็แทบจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกันเลยล่ะ  เพราะพวกเขาป๊อปปูล่าสุดๆ..

"เธอรู้ไหม..  ถ้าสองฝาแฝดเป็นผู้ชายแล้วไม่ได้หน้าเหมือนกัน   ฉันคงคิดว่า  ฉันเจอเบลล่า  สวอน..."  ทักยิ้มๆ พลางส่งสายตาขี้เล่นให้สาวที่ตัวเล็กที่สุดในสามคนแต่สูงกว่าเธอ  หล่อนยิ้มแบบเดียวกันกลับมา

"ฉันจะเป็นเบลล่าได้  ถ้าอีกคนที่ตามมาด้วยไม่ใช่แฟนคุณ  และต้องมีคนหนึ่งที่หอนได้ด้วย"  กระซิบยิ้มขี้เล่นกลับไปให้โดนหยิกแก้มอย่างมันเขี้ยวมาเป็นรางวัลก่อนจะถูกดึงให้เข้าไปด้านในในส่วนของห้องทำงานส่วนตัวของคนดึง 

ถึงจะมีคนมองตามมาบ้างด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น  เด็กพวกนั้นก็ไม่มีใครกล้าปริปากถาม  มากหน่อยก็แค่จับกลุ่มเม้าท์กัน  แต่ก็หุบปากฉับกันทันทีที่ถูกดวงตาคมของสองแฝดหันไปปรายมอง  พวกเขายังคงน่ากลัวได้เสมอต้นเสมอปลาย 

"คุณได้ข่าวอะไรบ้างไหมคะมาทา.?"  ผู้มาเยือนถามทันทีหลังจากที่หย่อนก้นลงเก้าอี้ได้ไม่นาน  เจ้าของห้องมองหน้าเธอนิดนึงก่อนดีดนิ้วหนึ่งเป๊าะ  ไม่ทันจะได้เอ่ยถามใหม่กับบรรยากาศแปลกในห้อง  ร่างหนึ่งก็ปรากฏข้างตัว  ดวงตาสีม่วงครามเบิกค้างจ้องหน้าสาวบลอนด์ร่างบางอย่างตกใจ

"ฉันได้รับอนุญาตไหม  ถ้าจะถามว่า  คุณคือใคร.?" 

ผู้มาใหม่ล่าสุดหัวเราะ  มองคนถามอย่างสนใจก่อนยักคิ้วให้เจ้าของสถานที่และสองแฝด  "เจอกันอีกแล้วนะ  แม่มด  แวมไพร์.."

แม่มดที่ว่าพยักหน้ายิ้มมุมปากส่วนสองแวมไพร์ด้านหลังมองหน้ากัน  และแฝดน้องก็ดูจะมีพิรุธกว่าใครเพื่อน  จะไม่ให้มีพิรุธกว่าใครได้ยังไง  ยัยนี่มันกิ๊กเก่าเธอ   อยู่ๆโผล่มาได้ไงเนี่ย!

"อายุยืนขนาดนี้เลยเหรอ  เสืออย่างเธอ.?" 

เสือที่ว่าไม่ตอบคำถามแวมไพร์แฝดน้อง  สาวบลอนด์ผิวแทนยักไหล่และก้มตัวลงหาคนตาใสที่มองอยู่  ยื่นหน้ามาใกล้จะจมูกแทบจะชนกัน  แต่ก็ไม่มีใครยอมถอยให้ใคร

"เธอคือฟลอเรนสินะ  ถ้าฉันไม่ได้ความจำเสื่อม" 

เจ้าของชื่อกระพริบตาหนึ่งทีแล้วพยักหน้ารับ  "โอ้..  ถ้าอย่างนั้น  ฉันเดาว่า  คุณคงรู้จักคุณหนูมาแชลเป็นอย่างดี"

บลอนดี้หัวเราะเบาๆ ยืดตัวขึ้นหาแม่มด  "ขอบใจนะมาทาที่เชิญ  ที่นี่น่าสนใจกว่าที่คิด"

"ฉันบอกเธอแล้วทัสมิน  มันเวิร์ค"  มาทาขยิบตาให้คนพูด  แล้วเบนสายตากลับไปมองดูคนที่นั่งงงไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว  "ฟลอเรน..  นี่ทัสมินเป็น..  เอิ่ม..  จะบอกว่าไงดีนะ"

"เป็นเสือดำ"  ทัสมินแย่งพูด  พลางยื่นมือให้สาวน้อยที่ลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือขาวจัดมาสัมผัสด้วย  เด็กมันจะรีบชักมือกลับถ้าเธอไม่จับไว้จนแน่น  คิ้วที่ขมวดเข้าหากันทำให้เข้าใจได้ว่า  สงสัยจะรู้สึกไม่ดี

"มีจิตสัมผัสเหมือนกันสินะ"

"ใช่..มีทุกอย่างเหมือนเดิมนั่นแหละ"  มาทาชี้แจงพลางปรามเสือขี้เล่นทางสายตา  ทัสมินยอมปล่อยมือเด็กสาวแล้วแต่ประกายตาวิบวับยังคงอยู่  และหนึ่งในผู้ที่อยู่ที่นี่ก็ดูจะไม่ชอบมันนัก  ไม่ใช่สิ  แฝดทั้งคู่นั่นแหละ

พวกมีอดีตเยอะก็แบบนี้...

"เสือแปลงเป็นคน  หรือคนแปลงเป็นเสือคะ.?"  คนงงยังอุตส่าห์ถามอย่างสุภาพ  คนถูกถามทำหน้าทึ่งแล้วตอบอย่างไม่สนใจคนอื่นที่มองไม่พอใจ

"ฉันเป็นอย่างหลัง..  ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็เหมือนไลเคน  แค่ฉันเป็นเสือ  ไม่ได้เป็นหมาเท่านั้นแหละ" 

ฟลอเรนพยักหน้าเข้าใจ  ดวงตาใสๆยังสนใจบลอนดี้อยู่  เธอไม่คิดว่าสิ่งมีชีวิตแบบนี้จะมีอยู่จริงไม่ได้มีแค่ในนิยาย  แต่ถ้าแม่มด  แวมไพร์  ไลเคน  แวร์วูฟมีอยู่จริง  คนแปลงเป็นเสือได้  ทำไมจะไม่มีล่ะ

"ต้องขอโทษด้วยที่ฉันจำคุณไม่ได้สักนิดเลย.."  เด็กสาวชาวอังกฤษพูดอย่างสุภาพเมื่อลุกขึ้นยืนแล้ว  สาวแปลกหน้าดูแปลกใจแต่สักพักก็คลี่ยิ้ม

"เรื่องมันยาวกว่านิทานกาลครั้งหนึ่งเสียอีก  เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักกันใหม่ดีไหม.?"  ทัสมินเสนอ  ยื่นมือไปหวังจะสัมผัสตัวเด็กสาวอีกครั้ง  หากคราวนี้กลับได้สัมผัสถึงความเย็นเฉียบแทนความอุ่นของร่างกายมนุษย์ 

เพราะมันไม่ใช่มือมนุษย์น่ะสิ..

"ฉันเองก็จำเธอไม่ค่อยได้เหมือนกัน  ลำบากไหมถ้าจะแนะนำตัวใหม่"  อัลร์หรี่ตาให้แม่เสือสาวราวจะข่มขู่หล่อนไปในตัว  หากก็ไม่เห็นความหวาดกลัวใดๆเกิดขึ้นในดวงตาสีฟ้านั่นแม้แต่น้อย  ออกจะท้าทายด้วยซ้ำ  หล่อนดึงมือกลับไปอย่างง่ายดายแล้วโผล่ไปปรากฏตัวข้างแม่มดคนงามแทน  ยังไวเหมือนเดิม  หรือไวมากกว่าเดิม...

"ฉันว่า  มาทาคงทำหน้าที่นั้นได้ดีกว่า  โทษทีที่ไม่ค่อยถนัดสาธยายเรื่องตัวเอง"  บลอนดี้ยิ้มมุมปาก  ท่าทางตั้งใจกวนประสาทคนฟังเต็มที่  ถ้าไม่มีคนกลางโผล่ขึ้นมาแทรก  ห้องทำงานนี้อาจกลายเป็นสมรภูมิย่อมๆ

"หยุดกวนกันไปกวนกันมาทีเถอะ  ขอร้องล่ะ"       

"นั่นสิคะพวกคุณ"  ฟลอเรนเสริม  มองตาดุไปที่คุณแฟนที่รักที่หุบปากสนิททันที  ต้องแบบนี้สิ  อยู่ในโอวาทดีมาก 

"แล้วตกลงว่า  เรียกพวกเรามาทำไมคะมาทา" 

เจ้าของชื่อนิ่งไปนิดก่อนหันไปสบตาบลอนดี้ที่ใบหน้าไม่มีรอยขี้เล่นหลงเหลืออยู่  ทัสมินไหวไหล่พยักหน้าให้เธอเป็นคนพูดมัน  "ทัสมิน..  เธอพูดสิ  พูดอย่างที่เล่าให้ฉันฟังไง.."

แม่เสือสาวเม้มปากก่อนพูดไม่เต็มใจ  "มนุษย์บางพวกต้องการตัวไฮบริดของพวกเธอ" 

ประโยคเดียวเท่านั้นสามารถเรียกความสนใจของคนทั้งห้องได้  ไม่เว้นกระทั่งฝาแฝดที่ตั้งแง่ไม่อยากเจอแม่เสือตัวนี้   ก็มันเกี่ยวกับพวกเขาเต็มๆ

"เดี๋ยวนะ  เธอจะบอกว่ารู้เรื่องคาริน่าด้วยงั้นหรือ.?"  แฝดพี่ถามร้อนใจ  แฝดน้องก็รอฟังหน้าเครียด  ส่วนฮันเตอร์แตะคางพยายามทบทวนเรื่องราว

"คุณจำเรื่องนั้นได้หรือเปล่าคะอัลร์.?" 

ไม่ใช่แค่อัลร์ที่นิ่งคิดแอลเองก็ด้วย สองแฝดมองหน้ากันแล้วแย่งกันพูด  พูดประโยคเดียวกันนั่นแหละ  "ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์เพี้ยนแน่ๆ!"

"น่าจะใช่นะคะ  จำได้ว่า  คาริน่าเคยพูดถึงอยู่เหมือนกัน" 

"มันเป็นห้องแล็ปลึกลับในป่าทึบ  ยากที่ใครจะเข้าไปเจอ"

"ยกเว้นเธอที่ชอบไปเดินเล่นในนั้นล่ะสิ" 

ทัสมินยิ้ม  เดาะลิ้นเปาะ "เธอรู้จักฉันดีนี่แอล.."  แฝดน้องกลอกตาก่อนหันไปยิ้มแห้งๆให้มาทาที่มองมาด้วยสายตาน่ากลัว  คุณแม่มดอาจไม่ใช่ประเภทหวงแฟนพร่ำเพรื่อ  แต่เชื่อไหม  คุณคงไม่อยากให้หล่อนโกรธหรอก..

"โอเค.. ถ้าอย่างนั้นก็สรุปได้ว่า  เรามีเรื่องที่ต้องระวังเพิ่มอีก"  ฟลอเรนรีบดึงงานมาปะหน้า  เปลี่ยนบรรยากาศที่เริ่มมาคุให้กลับมาผ่อนคลายลง  และทุกคนก็หวนมาโฟกัสเรื่องงานมากกว่าเรื่องส่วนตัวเสียที

ให้มันได้แบบนี้สิ  เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองเด็กสุดที่นี่..

"อืมม.."  เด็กสาวเกริ่น  ทุกคนหันมามองเธอเป็นตาเดียว  เดี๋ยวนะ  สรุปแล้ว  เธอเป็นหัวหน้าทีมงั้นหรือ  อือฮึ..  เอาเถอะ!

ฟลอเรนถอนหายใจเฮ้อเบาๆ หันหน้าไปหาฝาแฝด   "ถ้างั้นเราก็มีพี่ชายคุณ  พี่สะใภ้   คุณตาไลเคน  กับมนุษย์สติเฟื่องที่ต้องรอต้อนรับ.?"

"ใช่..  แต่ถ้าแอชลี่กับเมแกนทำสำเร็จ  เราอาจจะเหลือแค่พวกเดียวที่น่าห่วง" 

"ค่ะ  ฉันก็รอพวกเค้าติดต่อมาอยู่"  อยู่ๆก็นึกห่วงคนหน้าเหมือนตัวเองขึ้นมา  เธอก้มหน้าครุ่นคิดก่อนจะมีบางมือมาแตะไหล่ให้หันไปมอง  ดวงตาที่มองทอดมาอย่างห่วงใยพาให้ยิ้มรับ  "ฉันเชื่อฝีมือพวกเค้า  แต่ก็อดห่วงไม่ได้"

"ไม่แปลก   ฉันเองก็เหมือนกัน"  อัลร์ยิ้มใจดี  บีบไหล่คนรักเบาๆให้กำลังใจ  ได้ยินเสียงกระแอมขัดจังหวะ  เราสองคนผละสายตาออกจากกัน 

ใครกันหนอช่างไม่สั่งสอนแฝดน้องของเธอเลย  จงใจจะแกล้งกันสินะ..

"อืม..  โอเค..  งั้นฉันขอตัวก่อนค่ะ  ได้เวลาคลาสแล้ว"  ฟลอเรนตัดบท  พยายามยิ้มให้เป็นปกติทั้งที่ความจริงวุ่นวายใจ  เธอห่วงดอพเพลแกงเกอร์

เด็กสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของคุณบรรณารักษ์เพียงลำพัง  เธอขอให้อัลร์อยู่คุยกับคนอื่นๆแทน   แต่แทนที่จะเดินไปเข้าคลาสประวัติศาสตร์อย่างที่คิด  สองขามันกลับพาเธอมาอยู่หน้าตึกเรียนของเด็กมิดเดิลสกูล  ร่างระหงยืนอยู่แบบนั้นอย่างสงสัยตัวเองว่ามาทำไม  แต่ไม่นานเธอก็รู้เหตุผล  มีคนแปลกๆชายหญิงที่เชื่อว่าเธอไม่เคยเห็นมาก่อนมาเมียงมองอยู่บริเวณตึกหลังนี้ 

ฟลอเรนรีบหาที่ซ่อนตัวหลังเสาโรมันขนาดสองคนโอบไม่มิด  สมองครุ่นคิดว่าจะจัดการยังไงหากคนพวกนี้เป็นอันตรายต่อเด็กไฮบริดที่ว่า  แต่ไม่ทันจะคิดออกคนพวกนั้นก็ชักชวนกันออกไปทิ้งความฉงนใจเอาไว้ให้

บางทีพวกเขาอาจแค่มาดูลาดเลาก่อน..  เธอคิดก่อนจะเดินจ้ำเข้าไปในตึก  ไม่กี่นาทีก็เดินไปถึงห้องที่คาริน่ากำลังตั้งใจนั่งฟังอาจารย์  ฮันเตอร์สาวส่ายหัว  เริ่มคิดว่าคงจะวิตกกังวลโอเว่อร์ไปหน่อย  บางทีชายหญิงพวกนั้นอาจจะแค่มาดูสถานที่หาที่เรียนให้ลูก  แต่ถ้าแบบนั้น  ทำไมเธอยังรู้สึกไม่ดี

จงเชื่อสัญชาตญาณของเธอ..

ประโยคนี้ทำให้เม้มปากแน่น  เธอจำมันได้  ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนั้น  ตัวเธอในอดีตปรากฏตัวขึ้น 

คุณหนูมาแชล..

มาแชล  ฟลอเรนซ์  ลูกสาวคนเดียวของลอร์ดมาแชล..

ถูกแล้ว..  ตัวตายตัวแทนที่ปรากฏขึ้นระหว่างเธอและเมแกนจากพิธีกรรมขั้นสูงของแม่มดมาเซีย  มอนทาร์นาร์ในคราวนั้น  จะเป็นใครไปได้  นอกจากเธอผู้นั้น  ผู้แข็งแกร่งกว่าใครในเธอสามคน  เธอเพิ่งมารู้ว่าเป็นหล่อนก็เมื่อไม่นานมานี้   มีเพียงเธอ  เมแกน  มาเซียและมาทาเท่านั้นที่กุมความลับนี้ไว้  สองฝาแฝดแวมไพร์ถูกจัดให้เป็นพวกต้องห้าม  พวกเขาจะรู้ไม่ได้เพื่อกันความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น  และนั่นคือคำขอร้องของฟลอเรนคนนั้น  และเฮเลนน่า

พูดถึงเฮเลนน่า  เธอยังทึ่งในความสามารถของแม่มดผู้นี้ไม่หาย  นึกแล้วก็น่าเสียดายที่หล่อนอยู่อีกมิติไปเสียแล้ว  แต่ก็นั่นแหละ  ทุกอย่างมันเป็นชะตากรรม  เหมือนที่ฟลอเรนคนนั้นต้องเจอ  เธอและเมแกนด้วย

ถ้าอัลร์รู้ว่าเธอไม่ใช่คนเดียวกันกับฟลอเรนคนเก่าจะเป็นยังไง  เค้าจะรู้สึกยังไง  ถ้ารู้ว่าเธอก็แค่ตัวตนในอีกมิติหนึ่งที่แตกต่างจากฟลอเรนคนนั้น  ไม่ใช่หล่อนที่กลับชาติมาเกิดแต่อย่างใด  เราทุกคนเข้าใจผิดกันหมด

แต่ใช่..  เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้  เรื่องบางเรื่องก็ควรเป็นแค่ความลับ  เรื่องบางเรื่องก็ควรจะตายไปกับคนบางคน  เพราะฉะนั้น.. 

เธอทำถูกแล้ว...

"ฟลอเรน.?"  เสียงเรียกชื่อพาเธอกลับมาสู่ปัจจุบัน  เด็กสาวหันไปมาพยายามมองหาตัวคนพูดที่เสียงคล้ายกันกับตัวเอง  แต่ก็หยุดกึกเมื่อนึกได้ว่ามือถือในกางเกงสั่นและเสียงเพลง One More Night  ของ Maroon 5 ดังเข้าสู่โสตประสาท  มือขาวดึงเจ้าจอแบนแบรนด์ผลไม้ขึ้นมาจิ้มรับ

"เฮ้..  ทำไมต้องโทรมาล่ะ  ไหนๆก็คุยผ่านทางเมื่อกี้ได้"  ทักทายกับปลายสายอย่างไม่ต้องดูว่าใครโทรมา ก็คนเดียวกับที่ส่งกระแสจิตมาเรียกแหละ

'เปลืองพลังงาน  รู้ไหม..  ฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว' 

ฟลอเรนหัวเราะในลำคอ  ดวงตามองเด็กเลือดผสมที่ตอนนี้หันมามองเธอบ้าง  ขยิบตาให้เด็กมันไปบอกว่าไม่มีอะไร  คาริน่าหันกลับไปตั้งใจเรียนพร้อมกับที่เธอที่เดินถอยหลังมาห่างจากห้องเรียนห้องนั้น  แต่ก็แค่มายืนพิงหลังกับรั้วระเบียงเท่านั้น  ยังไม่ไว้ใจจะจากไปตอนนี้

"โอเคว่าไงที่รัก.?"  ยังมีแก่ใจถามเสียงขี้เล่น  แต่มันก็พอทำให้คนโทรมาอารมณ์ดีขึ้นบ้างดูจากน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป

'ยังไม่เข้าใกล้บ้านยัยแอชเลยล่ะ  แต่ฉันคิดว่าต้องโทรหาเธอก่อน  เผื่อไปไกลกว่านี้จะไม่มีสัญญาณ'

"กลัวฉันห่วงหรือไง  น่ารักมาก"  ริมฝีปากอิ่มยิ้มกว้างกับเสียงหัวเราะที่ดังตามมา  "โอเค..  แล้วเจออะไรบ้างเมแกน.?"

'ของพื้นๆน่ะ  ไม่ต้องห่วง  แอชแข็งแรงกว่าขนาดตัว'

"ฉันก็ว่างั้น.."  ฟลอเรนพึมพำ ปลายสายเงียบไปเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร  ก็ใช่  ดอพเพลแกงเกอร์ไม่ได้พูดเก่งเหมือนเธอนี่นา  "ถึงอย่างนั้นก็อย่าลืมนะ  เราเป็นคนเดียวกัน" 

'ไม่มีทาง'  ปลายสายว่าอย่างนั้นกลับมา  เสียงเมแกนอาจจะเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยินเพราะเสียงเด็กๆที่เริ่มเม้าท์มอยกันหลังจากอาจารย์สั่งงานแล้วเดินออกไป  แต่ยังไงเธอก็ได้ยินมันชัด  โดยเฉพาะคำสุดท้ายก่อนลา

'ฉันจะไม่ทิ้งเธอไป  ตัวฉัน..' 

ฮันเตอร์ยิ้มรับฮัมกลับไป  ชอบใจที่ถูกเรียกว่า 'ตัวฉัน' จากอีกคน  คงเพราะเธอก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน  มือขาวจัดเก็บเจ้าจอบางลงเข้าที่ในกระเป๋ากางเกง  กางวงแขนโอบบ่าเด็กตัวสูงไม่ถึงไหล่ที่จ้ำเข้ามาหาอย่างรู้งาน  ก้มลงหอมหัวเค้าไปหนึ่งทีอย่างที่ชอบทำ  แค่ได้เห็นรอยยิ้มเขินๆปนดีใจก็รู้สึกดีแล้ว  ไม่รู้สิ  อาจเพราะอยากจะทดแทนที่ไล่แม่ที่แท้จริงของเค้าไปก็ได้

"ไปหาเจ็นกันเถอะ"  เธอชวน  เด็กมันยิ้มแป้นเหมือนถูกใจสุดๆ  เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไรคาริน่าถึงได้ชอบอยู่กับเจ็นนี่นัก  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมยิ่งโตขึ้นพวกเขายิ่งหน้าตาคล้ายกันไปทุกที  ส่วนหนึ่งในใจเธออยากรู้  แต่อีกส่วนกลับไม่อยากเสียอย่างนั้น 

เรื่องบางเรื่องรีบรู้ไปก็ใช่ว่าจะดี..

อืม..  หรือบางทีไม่รู้เลยอาจจะดีกว่าหรือเปล่า.. 


............................................................



หายไปนานมากกว่าจะมาลงครึ่งที่สอง ฮ่าๆๆ  แก้ตัวไม่ได้เลยค่ะ  เพราะสมองมันไม่ไปเลยมาไม่ได้  ขออภัยจริงๆ  :42:

มาถึงครึ่งหลังนี้คงจะทำให้ใครๆ พอจะเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคที่แล้วๆมาได้บ้างแล้วนะคะ  แต่ถ้าอยากรู้เรื่องให้มากกว่านี้  อ่านต่อไปค่ะ มันจะค่อยๆเฉลยออกมาเรื่อยๆเอง   :21:

หรือถ้าใครอยากได้สามภาคก่อนหน้านี้ (ภาคอดีตด้วย) ก็ดูตามนี้ค่ะ



หรือจะโหลดตัวอย่างไปอ่านก่อนก็นี่เลย

ตัวอย่างนิยายค่ะ

  Season1

     www.yuriread.com/Downloads/Vampire%20Hunter%20Season%201%20exam.pdf


  Season2


    www.yuriread.com/Downloads/VampireHunterSeaso2Exam.pdf


  Vampire Hunter the beginning


    www.yuriread.com/Downloads/VampireHunterTheBeginingExam.pdf

ไปล่ะค่ะ  แต่ก่อนไป  ฝากนิยายที่กำลังเปิดจองอยู่ด้วยนะคะ



Beautiful Stranger  สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงก์นี้ค่ะ http://www.yuriread.com/index.php?topic=1320.msg1875#msg1875


แล้วเจอกันค่ะ   :44:






Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น