web stats

ข่าว

 


Beautiful Stranger - Chapter 6 : You know, I'm so Sick.

โพสต์โดย: anhann วันที่: 08 มิถุนายน 2014 เวลา 19:21:40 อ่าน: 671



Chapter 6 :   You  know, I'm  so  Sick.   



เราจับพลัดจับผลูมาอยู่ในห้องพักห้องเดียวกัน  ตำรวจยังไม่อนุญาตให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดกลับบ้านตัวเอง  พวกเขาขอเวลาเราถึงตอนเช้าแล้วจะแจ้งข่าวอีกที  คงหวังล่ะสิว่าน่าจะได้อะไรเป็นเบาะแสบ้าง  พวกเขาคงจะได้แหละ  เพราะบัดดี้เธอจัดการเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว  จีน่ากับทีมเจ๋งสุดๆ

มีแต่เธอนี่แหละที่ดูจะเป็นง่อยไปแล้ว  กับแค่ผู้หญิงคนเดียว..

ฟรานเชสก้านั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นของห้องพักในรีสอร์ทสุดหรู  ห้องเดียวกับที่เธอใช้นอนพักเมื่อกลางวัน  ต่างกันตรงที่ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่คนเดียว  แต่ดันอยู่กับคนที่ไม่ควรอยู่ด้วยเลยสักนิด  โดยเฉพาะเวลาที่จิตใจหวั่นไหวมากมายขนาดนี้   เรื่องนี้ต้องโทษคุณหมอตัวดีนั่นคนเดียว  ไม่ใช่สิ  ต้องเพื่อนสนิทผู้แสนดีของทาร์เกตผู้น่าเลิฟของเธอด้วย

คนสวยเลยเครียดเลยสิคะ  คืนนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นล่ะเนี่ย..

บ้าๆ เราเป็นผู้หญิงเหมือนกัน  จะเกิดอะไรขึ้นได้ยังไง  เธอก็แค่เห็นว่าเค้าหน้าตาดีมากๆ ใจดีมาก  น่ารักมากเท่านั้นล่ะ  ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย.. 

เหม่อๆใจลอยทะเลาะกับตัวเองเงียบๆได้ไม่เท่าไหร่  เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นขัด  ดวงตาสีน้ำข้าวเหลือบขึ้นพร้อมหัวใจที่เต้นตึกตัก ภาพที่เจอมันเกินที่จะต้านทานได้จริงๆ  บางคนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ  ร่างสูงเพรียวสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงน้ำเงินเข้มสั้นกุด  เค้าทำเหมือนอยู่คนเดียวที่นี่  เดินไปเดินมาหยิบนู่นนี่พลางเช็ดผมยาวๆสีเข้มที่เปียกชื้นและเต็มไปด้วยกลิ่นแชมพู

โอย..  ทำไมไม่รู้ถึงได้เห็นเค้าเซ็กซี่ขึ้นมาได้  หน้าก็ไม่มีเครื่องสำอาง  แถมดูแต่งตัวเข้า  ยังกับเด็กมัธยม  พอกันเลยกับเจ้าลายสติ๊ทที่เคยให้เธอยืม   

เฮ้..คุณหนู.. วิคตอเรียซีเคร็ทน่ะ  หามาใส่บ้างนะ 

เอิ่ม.. แต่แน่ใจนะว่า  วิคตอเรียซีเคร็ทเป็นทางเลือกที่ดี.?

"อือฮึ.."  เสียงความคิดที่ดูจะดังมากไป  ช่วยดึงความสนใจคนที่เดินเช็ดผมอยู่ให้หันมามองกัน  ชั่ววูบใบหน้าคมนั่นดูตกใจอยู่ไม่น้อย  ไม่นานมันก็ถูกกลบด้วยรอยยิ้ม  ยิ้มที่เธอคิดว่า  เค้าเขินนะ

"ขอโทษค่ะ  ลืมไปว่าคุณอยู่ด้วย"  สาวตัวสูงก้มตัวลงพร้อมขอโทษขอโพยราวกับมันเป็นเรื่องใหญ่  คนฟังคำขอโทษมองกลับไปด้วยสายตาเหมือนเห็นของประหลาดนอกโลก  คงเพราะอาการนอบน้อมที่ไม่น่าจะมีในกิริยาของคนฝากตะวันตกนี้

"ทำไมคุณต้องก้มหัวแบบนั้นด้วย"

นั่นไงล่ะ ซื้อหวยทำไมไม่ถูกนะ  เคยซื้อหรือไงได้ข่าวว่าเล่นเป็นแต่หุ้น

เกว็นยิ้มบางๆ เดินเข้ามานั่งตรงที่เท้าแขนโซฟาฝั่งที่ฝรั่งร่างเล็กนั่งอยู่  ผ้าขนหนูชื้นๆถูกวางลงกับตัก  เกรงใจว่าถ้าเช็ดผมต่อละอองน้ำจะกระเด็นใส่คนที่อาบน้ำแล้ว   ว่าแต่เมื่อกี้ลืมไปได้ไงนะว่านั่งหน้าตาน่ารักอยู่ตรงนี้

เฮ้..เดี๋ยวนี้..  เมื่อกี้ฉันว่าเค้าน่ารักเหรอ.?

สั่นหัวเบาๆไล่ความคิดประหลาดออกไปแล้วยิ้มให้คู่สนทนา "ฉันเกิดที่นี่ก็จริง  แต่คุณปู่คุณย่า  ครอบครัวฉันเป็นญี่ปุ่นนะคะ  พวกท่านไม่ยอมให้ฉันลืมเชื้อชาติตัวเองหรอก" 

คำว่า "อ๋อ.. เข้าใจแล้ว.."  ปรากฏอยู่บนใบหน้าคนฟัง  คนเล่าเรื่องจึงนั่งยิ้มพอใจ  แล้วชวนคุยเรื่องอื่นบ้าง  มีหลายอย่างที่อยากพูดอยู่นะ

"ทำแผลใหม่แล้วใช่ไหมคะ.?"  เลือกพูดเรื่องนี้เพราะไม่ต้องการให้บรรยากาศระหว่างเสียไป  ถึงจะอยากถามเรื่องอื่นมากกว่าก็ตาม  แต่ดูคล้ายคู่สนทนาจะฉลาดพอ  พอพยักหน้ารับแล้ว  หล่อนกลับเป็นคนย้อนถามมาเอง

"จะไม่ถามเหรอว่า  ฉันไปไหนมา.?"  ฟรานเชสก้ามองหน้าอีกฝ่ายด้วยใจหวั่นทั้งที่เริ่มถามก่อน  เค้ามองเธอนิ่งๆเพียงชั่ววินาทีแล้วส่ายหน้า

"ถ้าคุณอยากบอก  คุณก็คงจะบอกเอง.."  เกว็นยิ้มน้อยๆแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็น  หยิบกล่องนมออกมาเทใส่แก้วสองใบ  เดินถือมันกลับมาส่งให้คนที่นั่งทื่ออยู่กับพี่ใบหนึ่ง   เอียงคอนิดๆยิ้มอย่างมีความหมาย  คนที่เข้าใจมันก็รับแก้วนมไปถือไว้ก่อน  ที่หางตาเห็นดวงตาสีสวยมองเธอกระดกแก้วนม  สาบานเลยว่า  ถ้าหล่อนเป็นผู้ชายเธอคงจะต่อยตาเขียวไปแล้ว  มองกันด้วยสายตาแบบนี้ได้ยังไง  ยังกับจะถอดเสื้อผ้าเธองั้นล่ะ

เธอยิ้มให้กับความคิดนั้นก่อนเอ่ยหยอก  "ไม่ชอบนมเหรอคะ"

ฟรานเชสก้าหลุดจากภวังค์ทันทีเพราะเสียงคำถาม  ไม่เข้าใจตัวเองนักว่าทำไมต้องหน้าร้อนขนาดนี้แค่ได้ยินคำว่า 'นม'

Oh my god!  ฉันคงจะฟั่นเฟือนไปแล้วแน่ๆ.. 

ต่อว่าตัวเองไปแบบนั้น  แต่สายตาเจ้ากรรมกลับมองไปยังคนที่นั่งบนที่วางแขนโซฟา  และคงต้องโทษเค้าด้วยแหละที่ตัวสูงแล้วยังนั่งสูงกว่าอีกระดับสายตาเธอตอนนี้จึงไปตกอยู่ที่อะไรที่เสื้อยืดสีขาวก็ไม่ได้ช่วยปิดบังมันไว้ 

โอ้ย! นี่ฉันเป็นคนลามก  ชอบมองหน้าอกคนอื่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!

"ว่าไงคะ.? ไม่ชอบเหรอ.. แต่ดื่มนมก่อนนอนทำให้หลับสบายนะ"  เกว็นบอกอย่างหวังดี  ไม่เข้าใจเลยว่า  ทำไมอีกคนถึงได้หน้าแดงหูแดงไปหมด   

หญิงสาวเลิกคิ้วมองสาวแปลกหน้าตรงหน้าอย่างแปลกใจระหว่างที่หล่อนยกแก้วนมในมือขึ้นดื่ม  เธอสงสัยในท่าทางที่เห็น  ใบหน้าที่แดงก่ำราวคนเป็นไข้พาให้มือเธอยกขึ้นสัมผัสหน้าผากหล่อน  ฝรั่งตัวบางสะดุ้งหนีสัมผัส  อาจเพราะความผิดของเธอ

"ขอโทษค่ะ  ฉันไม่ได้ตั้งใจ.."

"ไม่..  ไม่ใช่ค่ะ  คือมือคุณเย็น.."   ฟรานเชสก้าละล่ำละลักแก้ตัวเมื่อตั้งสติได้  ไม่อยากให้คนสวยตรงหน้าเข้าใจกันผิด 

ใครจะไปกล้าบอกล่ะว่า  กำลังมองหน้าอกคุณอยู่ไงล่ะ  บ้าๆฉันต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ  เธอฟุ้งซ่านใกล้สติแตกไปทุกที  หากรอยยิ้มเข้าใจที่อีกฝ่ายมอบให้ก็ทำให้โล่งอก

"โอเคค่ะ  แต่ขอโทษอีกอย่างนะ"

เธองงไม่รู้ว่าเค้าบอกขอโทษเธอทำไม  และความชิดใกล้ที่ได้ก็ทำให้สมองเบลอไปหมด  นิ้วโป้งเย็นๆกำลังไล้ไปบนผิวเหนือเรียวปาก  สายตาเธอก็ไม่สามารถจะหลบหลีกไปจากใบหน้าคมคายนี้ได้เลย  กระทั่งเสียงคุ้นหูพูดขึ้น

"คุณมีหนวดนมน่ะค่ะ" 

มนตร์สะกดสลายในพริบตา  เหลือเพียงความอายเมื่อสายตาจับได้กับรอยยิ้มขำขันของสาวตรงหน้า  ฟรานเชสก้าอยากจะฟาดมือใส่คนที่เอาแต่ยิ้มเอ็นดูเธอเหมือนเด็กๆ แต่ที่ทำก็แค่นั่งมองร่างสูงเพรียวเดินเอาแก้วสองใบไปล้างในอ่างเท่านั้น 

หญิงสาวถอนหายใจแรง  พยายามดึงความสนใจออกจากขาเรียวขาวเนียนของคนที่ง่วนกับการทำความสะอาดแก้วนม  ทิ้งศีรษะลงกับพนักพิงอย่างอ่อนใจ  ดวงตาสีน้ำข้าวมองเพดานห้องอย่างครุ่นคิด  เธอไม่รู้จริงๆว่า  จะปฏิเสธได้ยังไงถ้าคนมีน้ำใจคนนี้จะลากเธอไปนอนบนเตียงด้วยกัน 

ทำไมถึงไม่อยู่บ้านหลังที่มีห้องนอนหลายๆห้องนะ  โธ่เว้ย!

.........................................

"ทำไมพี่ถึงเชียร์ให้พวกเค้าอยู่บ้านพักเดียวกัน.?" 

หญิงสาวละสายตาออกจากหนังสือในมือที่นั่งพิงหัวเตียงอ่านอยู่  สบตากับคนถามที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องนอน   ยิ้มอ่อนโยนให้หล่อน  ทิ้งหนังสือลงกับโต๊ะข้างเตียง  ตบที่นอนสองสามทีเรียกคนที่ยืนอยู่ให้เข้ามาหา

"โอเค..  ว่าไงคะ.?"  ควินท์ถามย้ำหลังพาตัวเองเข้ามาอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับคนที่นอนอยู่ก่อน  หากเธอก็เกือบจะอดฟังคำตอบเพราะมือที่มาลูบหัวเหมือนจะกล่อมให้หลับ  ขอบคุณที่พี่หมอใจดีตอบให้เสียก่อน

"เพราะเกว็นต้องการ.." 

คนฟังเงยหน้ามองคนตอบอย่างต้องการคำอธิบาย  มันไม่ช่วยอะไรเธอเลยกับคำเฉลยแค่นี้  หากอีกฝ่ายก็เพียงยิ้มบางๆราวไม่สนใจความจำเป็นหรืออารมณ์อยากรู้อยากเห็นของเธอ  ซ้ำยังเบี่ยงเบนความสนใจเธอไปจากมันด้วยการหยิบซองสีน้ำตาลขนาดเอสี่มาให้  คนช่างสงสัยรีบรับมันมาแกะดูทันทีแต่สองหูก็ไม่พลาดที่จะเงี่ยฟังเสียงพูดไปด้วย

"พี่คิดว่า  เกว็นควรจะรีแลกซ์บ้าง  และดูเหมือนเด็กคนนั้นจะทำได้ดี"

อีกครั้งที่สิ่งที่ฟังเรียกเธอให้เงยหน้าขึ้นหาคนพูด  คุณหมอไหวไหล่  ไม่สนใจจะต่อความเรื่องที่พูดต่อ  กลับมาดึงซองไปจากมือเธอแทน  ยังไม่ทันที่จะได้แย่งกลับมา  บางอย่างตรงหน้าก็ทำให้ต้องร้องอุทาน

"เฮ้.. ตั๋วเครื่องบินไปบาหลี!"

สเตลล่ายิ้มมองคนที่กำลังตื่นเต้นสุดๆหยิบของในซองออกมาดูจนเกือบหมด  ทั้งโบรชัวร์  ตั๋วเครื่องบินหลายใบ  บุ๊คไกด์  เอกสารสำหรับการเดินทางถูกวางกระจายเกลื่อนบนที่นอน  เห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า  ท่าทางจะลืมเรื่องที่ถามไปแล้วล่ะ

"นี่..  จะตื่นเต้นไปทำไม   แค่บาหลี  ไปที่อื่นมาก็ตั้งเยอะแล้ว.."

"โหยพี่หมอ..  นั่นมันตั้งแต่สมัยไหนแล้วคะที่บอกว่าตั้งเยอะน่ะ  พี่ไม่รู้หรือไงว่า  นั่นมันงานทั้งนั้น"  คนเด็กกว่าบ่นหงุดหงิด  ขมวดคิ้วให้กับจำนวนตั๋วที่เจอ  "ทำไมมีหลายใบ  พี่จะชวนคนอื่นไปด้วยเหรอ.?"

"ก็ทำนองนั้น.."

คุณหมอตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก  คนฟังเองก็ไม่สนใจจะหาคำตอบเพิ่ม  หันไปบ่นเรื่องเดิมต่อ  "รู้ไหมสเตลล่า  เพราะยัยเกว็นของพี่เลยเหอะที่ทำให้ฉันต้องติดแหง็กอยู่แต่งานกับงาน  ถ้าฉันขึ้นคานนะ  ฉันจะให้ยัยนั่นรับผิดชอบ!" 

"จะให้รับผิดชอบยังไง  ป่านนั้นเค้าคงมีคนอื่นให้ต้องรับผิดชอบแล้ว"

คนอายุน้อยกว่าหันขวับไปจ้องหน้าคนพูด  เธอต้องการคำอธิบาย  หากอีกฝ่ายก็ทำเพียงยิ้มขี้เล่นหันไปคว้าหนังสือมาอ่านหน้าตาเฉย 

"ตกลงจะไม่บอก.?"  ควินท์พยายามอีกครั้ง  คุณหมอก็แค่ชำเลืองสายตาพร้อมส่งยิ้มไม่รู้ไม่ชี้มาให้ก่อนหันไปหาหนังสือต่อ  หญิงสาวถอนหายใจ  บ่นงึมงำในลำคอเงียบๆ  เพราะรู้ดีว่าไม่มีทางได้อะไรจากอีกคนแน่นอน  หน้ามึนซะขนาดนั้น 

เพราะฉะนั้น..

มาวางแพลนเที่ยวดีกว่า..

.....................................

แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านหน้าต่างเข้ามาปะทะใบหน้าของคนที่กำลังหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม  หญิงสาวครางฮือเบาๆอย่างเอาแต่ใจ  ทำไมเมื่อคืนไม่ปิดหน้าต่างนะ  กำลังหลับฝันดีเชียว

นอนหงุดหงิดได้ไม่กี่นาที  ก็งัวเงียเปิดตาขึ้น  ดวงตาสีน้ำข้าวยิบหยี  มันยังสู้แสงพระอาทิตย์ไม่ได้  แต่อะไรก็ไม่หนักกว่าความรู้สึกที่คล้ายมีใครมาหายใจรดต้นคอแบบนี้หรอก  และนั่นแหละที่ทำให้เธอตื่นเต็มตาทันที

หญิงสาวมองตาเหลือกที่หัวสีเข้มกับใบหน้าขาวเนียนที่ใสจนเห็นเส้นเลือดของคนที่เห็นอกเธอเป็นหมอน  จำได้ว่าเมื่อคืนพวกเธอเถียงกันว่าใครจะนอนเตียงใครจะนอนพื้น  เธอเถียงเพราะอีกคนเป็นเจ้าของห้อง  ส่วนตัวเจ้าของห้องเองก็กลับบอกว่าเธอเป็นแขก  แถมยังอ้างว่าเจ็บเท้าอยู่จะให้นอนพื้นได้ไง  เธอก็เถียงกลับว่ามันไม่เกี่ยวกันสักนิด  แต่มีหรือที่คนหน้ามึนซื่อๆแต่เอาแต่ใจสุดๆนั่นจะยอม  ศึกปะทะเหตุผลและคารมจึงถือกำเนิด  พวกเธอเถียงกันไปเถียงกันมาตั้งแต่สามทุ่ม  สองชั่วโมงต่อมาต่างคนก็ต่างยกธงขาว  ยอมถอยคนละก้าวให้กัน  ด้วยข้อสรุปที่ได้ว่า  นอนบนเตียงด้วยกันแต่มีหมอนคั่นกลางแบ่งเขต  และใช่มันเป็นข้อเสนอของเธอเอง  ข้อเสนอที่ทำให้คนฟังส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ  หล่อนบอกว่า  หล่อนไม่ถือสา  ถ้าเธอจะเห็นหล่อนเป็นหมอนข้างเหมือนที่เพื่อนสนิทหล่อนทำ 

เหอะ  ถ้ารู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ในหัว  ชัวร์เลยว่า  หล่อนจะต้องขอบคุณที่เธอเสนอข้อนี้ไป  เพราะอะไรน่ะเหรอ  ก็ดูนี่สิว่า  ขนาดมีหมอนข้างกั้นแล้ว  ผลที่ออกมาก็ยังน่าตกใจอยู่ดี   

ใครใช้ให้มากอดเธอเป็นหมอนข้าง เอาหน่มน๊มเธอเป็นหมอนหนุนเนี่ย!

พระเจ้า!  ถ้ามันแบนหมดจะทำยังไง!  เฮ้..นี่มันใช่เวลามาห่วงเรื่องนมแบนงั้นเหรอ!

ฟรานเชสก้ากัดปากตัวเองพยายามข่มใจไม่ให้รู้สึกอะไรกับลมหายใจร้อนๆที่เป่าคอไม่หยุด  อยากจะดันหน้าอีกคนออกไปเต็มที  หากใบหน้ายามหลับใหลไร้เดียงสาตามวัยก็ตรึงสายตาให้เธอมองมันอย่างชื่นชม  โดยไม่รู้ตัว  มือบางก็สัมผัสลงกับผิวขาวเนียนจนได้  เรียวปากสวยเผยยิ้มพอใจและเริ่มต้นลูบไล้ผิวตรงนั้น  และเธอคงจะไม่หยุดถ้าไม่เห็นว่าเจ้าของแก้มเริ่มขยับตัว 

พระเจ้า!  เธอชักมือกลับทันที  ดวงตาเบิกโพลงกลัวเหลือเกินว่าจะถูกจับได้  อยากจะทำอะไรสักอย่างให้พ้นจากตรงนี้  หนีไปให้ไกล  หากสมองเจ้ากรรมก็กลับคิดอะไรได้เชื่องช้าไปหมด  ต้องโทษคนขี้เซาขยี้ตาตัวเองที่ครางงึมงำเหมือนเด็กไม่อยากตื่นตรงนี้นี่แหละ 

โอ้..ขอบคุณจีน่าที่รีบเตะส่งฉันกลับมา  ดูสิ  น่ารักชะมัดเลย!

"ไฮ..  มอร์นิ่ง.."

ดวงตาสีน้ำข้าวกระพริบตั้งสติได้ก็ยิ้มกลับ  หากคำขานรับยังเหมือนคนเพ้อๆ "มะ  มอร์นิ่ง.." 

ฟรานเชสก้ายิ้มเลื่อนลอย  ปล่อยให้อีกคนที่ดูท่ายังไม่ตื่นเต็มตากลับไปซุกอกอีกครั้งไม่แคร์ว่าตัวเองกำลังเขินจนตัวจะระเบิดตายอยู่ตรงนี้   แถมในใจยังคิดไปไกลอีกว่า  อยากให้เค้าทำมากกว่าซุก

โอ๊ะ  เดี๋ยวนะ  ที่พูดถึงอยู่น่ะ  ผู้หญิงนะหล่อน!

Oh my god! I'm horny because of the girl!  This  girl!

What's gotten into  me!?     

Am I sick?

"Sorry.." 

กระพริบตาอีกครั้งเพราะเสียงคุ้นหู  ความอบอุ่นที่อยู่กับเธอเมื่อครู่หายไปเพราะเจ้าของมันลุกขึ้นนั่งแล้ว  สาวผมยาวยิ้มเขินๆเกาแก้มที่ขึ้นสีเล็กน้อยนั่นเหมือนไม่รู้จะทำอะไรได้ดีกว่า 

โอ้ย! น่ารักได้อีก  เดี๋ยวก็จับมาจูบซะเลย!

เฮ้.. นี่มันทาร์เกตนะ  แล้วก็ผู้หญิงด้วย  ผู้หญิงที่หุ่นดีมาก  สวยมาก  เก่งมาก  น่าหลงใหล  โอ้พระเจ้า! อย่าทำตัวเหมือนอนาสตาเซียตอนเจอมิสเตอร์เกรย์เป็นครั้งแรกได้ไหมเล่า!

"คุณควรสะกิดฉันให้รู้สึกตัวนะ  ถ้าคุณอึดอัด.." 

เสียงกระซิบเบาๆราวเกรงใจพาให้เธอลุกขึ้นนั่งบ้าง   ยิ้มบางๆกลับไปพลางส่ายหัว  สาวผมยาวนั่นหรี่ตามองเธอกลับมาอย่างไม่เชื่อนัก  เค้างึมงำบางอย่างทำนองว่าคนปากไม่ตรงกับใจ  ขี้เกรงใจอะไรประมาณนี้  แต่อะไรก็ไม่สะกิดหูเท่าประโยคหลัง

"ตัวคุณหอมแล้วก็อุ่นมาก  ฉันไม่เคยหลับสบายเท่านี้มาก่อนเลย.." 

พูดแล้วก็ยิ้มน่ารักมาให้   สาบานเลยว่า  ตอนนี้เธอลืมไปแล้วว่าเค้าเป็นสาวอัจฉริยะ  เป็นซีอีโอเคกรุ๊ป  เป็นโปรแกรมเมอร์เพี้ยนๆ ที่มีคนให้ค่าหัวมหาศาล  เป็นทาร์เก็ตที่เธอต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตเค้าเอาไว้ก่อนจะถึงเวลาอันสมควร  ในสายตาเธอตอนนี้   'เกว็น  คิซากิ'  ก็แค่เด็กสาวคนหนึ่งที่มีเสน่ห์หาตัวจับยาก    ที่เธอต้องการ...

Kiss?.

"แต่หัวใจคุณเต้นแรงมากเลยค่ะ  มันทำให้ฉันตื่น"  พูดแค่นั้นแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  ดูเหมือนไม่สนใจสายตาเพ้อฝันที่มองตามไป ซ้ำยังมีแก่ใจหันมาถามเรื่องอาหารเช้าต่ออีกแน่ะ

"ทานมื้อเช้าด้วยกันนะคะ  ห้ามปฏิเสธ  มันเป็นค่าตอบแทนตัวอุ่นๆของคุณเมื่อคืน"

อืม..แต่ดูเหมือนไม่ใช่คำถามนะ  เค้าหายออกไปจากห้องแล้วด้วยสิ!

พร้อมรอยยิ้มแบบนั้น!

ขยิบตาให้ด้วย!

"พระเจ้า!"  ฟรานเชสก้าร้องออกมาในที่สุดเมื่ออยู่คนเดียว  ร่างบางทิ้งตัวลงนอนแผ่หลากับที่นอนอย่างอ่อนใจ  มือบางยกขึ้นมาทาบอกตัวเอง   นิ่วหน้าอย่างหงุดหงิด  หัวใจเธอเต้นช้าลงเพราะไม่มีเค้าอยู่ใกล้ๆ

ไม่จริงใช่ไหม..

อันตรายที่สุด...

แล้วความคิดเพ้อเจ้อของเธอก็หยุดลงแค่นั้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากด้านนอกห้องที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร  เธอถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืน  สูดลมเข้าปอดลึกๆแล้วผ่อนมันออกพร้อมเปิดประตู

ก้าวเดิน..

โอเค...  ใจเย็นฟรานเชสก้า   เธอทำได้  เธอทำได้...



.....................................................................


หายไปสองวัน  โอ้เอ้ดูนั่นดูนี่อยู่ค่ะ  จะไม่แก้ตัวแล้วว่า ไม่ว่าง  อิอิ   :57:

แต่ยังไงวันนี้ก็มาแล้วนะคะ   เรื่องคืบหน้าไปบ้างหรือเปล่าไม่รู้  แล้วแต่คุณจะเห็น  มันอาจจะไม่เด่นชัด  แต่ที่เห็นชัด  คือหนูฟรานหลงทาร์เก็ตเข้าเต็มเปา  และมันเป็นเรื่องน่ากลัวค่ะ  สำหรับคนที่ทำงานแบบนี้  ก็ต้องดูกันต่อไปค่ะว่า  นางจะทำยังไงกับหัวใจตัวเอง  และทาร์เก็ตหน้าใสๆสะเทือนใจ 7.0 ริกเตอร์   :01:

แล้วเจอกันใหม่นะคะ  เร็วๆนี้

ขอบคุณค่ะ   :44:


ฝากร้านหนังสือด้วยแล้วกันค่ะ  เผื่อใครสนใจเรื่องอื่นๆด้วย  http://leslybooks.lnwshop.com/

ส่วนนี่ก็ลิงก์อีบุ๊คค่ะ http://www.mebmarket.com/index.php?action=Publisher&id=51468&name=Anh



Rating: ***** โดย 1 สมาชิก
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น