web stats

ข่าว

 


Evil Angel - Chapter 19: In the midst of massacre

โพสต์โดย: nuffy วันที่: 04 มิถุนายน 2014 เวลา 16:03:04 อ่าน: 306

Chapter 19: In the midst of massacre

วันนี้เป็นวันที่ฮิคารุต้องไปดูเรน วาเลนไทน์ เด็กสาวที่เป็นพี่เลี้ยงของอากิระทำงานที่ท่าเรือดาเตะ ในใจของเธอรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงและมีอาการเครียด เธอกลัว กลัวเด็กสาวที่เป็นพี่เลี้ยงของอากิระ นางฟ้าของเธอ ในช่วงคาบว่างฮิคารุเดินเข้าไปในห้องสมุดเพื่อหาหนังสือ

"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ามีหนังสือเกี่ยวกับทางด้านกายวิภาคหรือการแพทย์มั้ยคะ?" เด็กสาวลูกครึ่งถามนักเรียนคนหนึ่งที่เป็นเจ้าหน้าที่ห้องสมุด

"สักครู่นะคะ... เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายคะ ทางซ้ายมือจะเป็นหนังสือด้านวิทยาศาสตร์" เจ้าหน้าที่ห้องสมุดตอบ

"ขอบคุณค่ะ"

ฮิคารุเดินไปที่หมวดวิทยาศาสตร์ เธอหยิบหนังสือที่มีสันปกเขียนว่ากายวิภาคศาสตร์และสรีระวิทยา รวมถึงหนังสือเกี่ยวกับการผ่าตัดมาหลายเล่ม นอกจากนั้นก็ยังมีหนังสือที่รวบรวมภาพอุบัติเหตุหรืออาชญากรรมมาหลายเล่ม เด็กสาวลูกครึ่งเดินหามุมที่ลับตาคนที่สุดแล้วลงมืออ่านหนังเกือบ 10 เล่มที่หยิบออกมาจากชั้น

เธอเลือกที่จะดูภาพที่อยู่ในหนังสือกายวิภาคศาสตร์ก่อน แล้วค่อยๆ เลือกดูภาพจากหนังสือเล่มอื่น ภาพที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเหล่านั้นคือภาพของศพ การผ่าศพ และอวัยวะภายนอกและภายในต่างๆ ของมนุษย์ที่มีลักษณะที่แตกต่างกันในหลายๆ รูปแบบ ภาพของคนตายจากอุบัติเหตุและการฆาตกรรม เธอทำใจและพยายามมองภาพพวกนั้นให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้จิตใจคุ้นชินกับภาพเหล่านั้น ภาพที่เหมือนกับเหยื่อผู้ที่ถูกอากิระสังหารและกำลังจะถูกนักฆ่าอีกคนสังหารในคืนนี้

'เราจะต้องเข้มแข็ง เราจะต้องไม่กลัว' ฮิคารุบอกกับตัวเองระหว่างที่พลิกหน้ากระดาษดูภาพที่น่ากลัวและน่าขยะแขยงเหล่านั้นอย่างช้าๆ

-------------------------------------------

เมื่อถึงเวลาเย็น ฮิคารุไปนั่งดูยูกิซ้อมที่ชมรมคาราเต้กับฮารุกะ เด็กสาวแก้มป่องที่กำลังสอนรุ่นพี่และรุ่นน้องเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการแข่งขัน หลังจากนั้นทีมคาราเต้ก็เริ่มการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวแข็งขันซึ่งจะมีขึ้นก่อนวันหยุดปีใหม่ ฮารุกะและฮิคารุอยู่ดูเพื่อนสนิทของพวกเธอซ้อมจนกระทั่งถึงเวลาเลิก ซึ่งก็คือเวลา 18.00 น. เมื่อยูกิเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 3 คนจึงเดินกลับบ้านด้วยกัน

"นี่ฮิคารุ วันนี้เธอไม่รีบกลับบ้านเหรอ" เด็กสาวผมสั้นถามเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเดินอย่างอ้อยอิ่งไปตามถนนลาดยางมะตอย

"อ๋อ วันนี้นัดเพื่อนเอาไว้ เราบอกกับคุณตาไว้แล้วว่าจะกลับดึกหน่อย ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานัดเลยกะว่าจะหาอะไรทำสักหน่อย"

"งั้นเหรอ แล้วเธอจะทำอะไรล่ะ" ยูกิถาม

"คงเข้าไปที่ร้านหนังสือละมั้ง ไม่ก็ร้านขายซีดี"

"ฉันอยากไปด้วยจังเลย แต่ตอนนี้เหนื่อยแล้วคงไปกับเธอไม่ไหว เธอจะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะขอตัวกลับก่อน" เด็กสาวแก้มป่องถามด้วยสีหน้าอันเหน็ดเหนื่อย

"ไม่เป็นไรหรอก เธอไปนอนพักดีกว่านะ ฮารุกะ เราว่าเธอไปส่งยูกิที่บ้านดีกว่า ดูท่าทางจะกลับเองไม่ไหวแล้ว" เด็กสาวลูกครึ่งบอกกับเพื่อนสนิท

"แล้วเธอล่ะ" ฮารุกะถาม

"ไม่เป็นไร เราอยู่คนเดียวได้" ฮิคารุยิ้มตอบเพื่อน

"ถ้าอย่างนั้นก็... พวกเราไปก่อนนะ แล้วเจอกันจ้า" ยูกิและฮารุกะโบกมือให้เด็กสาวลูกครึ่งแล้วก็เดินจากไป

ฮิคารุเดินตรงไปที่ร้านขายซีดี เธอเดินตรงไปที่ส่วนที่จัดไว้สำหรับทดลองฟังเพลง เธอเลือกไปที่เพลงร็อคของวงต่างประเทศวงหนึ่ง สวมหูฟังแล้วเปิดเพลงและแล้วเสียงเพลงร็อคแบบนูเมธัลดังขึ้นทันที เด็กสาวหลับตาลงมือทั้งสองของเธอทำท่าเหมือนจะตีกลองบนอากาศ ศีรษะของเธอขยับขึ้นลงตามจังหวะเพลง ท่าทางของเธอนั้นดูมีความสุขและผ่อนคลาย ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาหยุดมองครู่หนึ่ง พวกเขาอมยิ้มน้อยๆ ให้กับเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังมีความสุขอยู่กับการฟังเพลงแล้วเดินผ่านไป เธอยืนฟังเพลงจนนาฬิกาบอกเวลาไปที่ 19.30 น. ฮิคารุหยิบซีดีเพลงที่เธอฟังเมื่อครู่ออกจากชั้นไปที่เคาท์เตอร์ชำระเงิน แล้วเดินออกจากร้านตรงขึ้นรถประจำทางไปที่ท่าเรือดาเตะ

20 นาทีผ่านไป ฮิคารุก็มาถึงท่าเรือดาเตะ ท่าเรือขนาดใหญ่ที่มีโกดังเก็บของขนาดใหญ่เรียงรางกันอยู่เต็มไปหมด รวมถึงตู้คอนเทนเนอร์มากมาย เด็กสาวมองหันซ้ายหันขวาก็ไม่พบใคร อากาศอันเหน็บหนาวทำเธอต้องกลัดกระดุมเสื้อโค้ตและห่อตัวลง เธอเดินกอดอกตรงมาที่สุดขอบถนนในส่วนที่ติดกับทะเล เธอเหม่อมองดูทะเลอันมืดมิดด้วยหัวใจที่เต้นสั่นระรัว

"มืดดีใช่มั้ยล่ะ" เสียงๆ หนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลัง เด็กสาวสะดุ้งเฮือกเพราะความตกใจ เธอรีบหันไปทันทีก็พบกับเด็กสาวที่อยู่ในชุดดำ เรน วาเลนไทน์นั่นเอง

"ความมืดนี้แหละที่ฉันจะให้มันกัดกินใจของเธอ จำเอาไว้ ฉันจะให้ความมืดนี้อยู่ติดตัวเธอ เธอจะไม่มีวันได้เป็นแสงสว่างของอากิระ เพราะว่าเธอไม่คู่ควรกับว่าทีจ้าวสำนักบูโด ไทจัสสึ"

ฮิคารุจ้องไปที่ตาของเด็กสาว "เพราะอะไรเธอถึงคิดอย่างนั้น"

"เธอมันอ่อนแอ คนอ่อนแอไม่สมควรที่จะอยู่บนโลกนี้ หรือจะเป็นแสงสว่างให้ใคร"

"ทำไมเธอถึงได้ตัดสินคนแบบนั้น เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรแบบนั้นออกมา ใช่... เรามันอ่อนแอ แต่เราจะแสดงให้เธอเห็นเองว่าคนอ่อนแออย่างเราสามารถเข้มแข็งได้"

"หึ งั้นก็ลองดู" เรนยิ้มเยาะและโยนหน้ากากรูปกระต่ายให้ "ตามมา"

เด็กสาวเดินนำฮิคารุไปตรงส่วนที่มีตู้คอนเทนเนอร์เรียงรายอยู่ ทางเดินนั้นคดเคี้ยวรวมกับเขาวงกต ทั้งคู่เดินฝ่าอากาศหนาวไปหยุดอยู่ตรงที่รถแทร็กเตอร์ที่ใช้สำหรับขนของคันหนึ่งที่อยู่ตรงสุดทางซึ่งมีตู้คอนเทนเนอร์ตั้งไว้เป็นแนวขวาง

"ขึ้นไปสิ" เรนสั่ง ฮิคารุปีนบันไดขึ้นไปยืนบนหลังคาของรถแทร็กเตอร์คันนั้น

"สวมหน้ากากไว้ แล้วยืนรอฉันอยู่ตรงนี้" นักฆ่าสาวสั่งอีกครั้งก่อนที่เธอจะเดินจากไป เด็กสาวลูกครึ่งสวมหน้ากากรูปกระต่ายแล้วยืนกอดกระเป๋าหนังสือไว้แนบอกท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งฮิคารุก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งที่วิ่งตรงเข้ามายังจุดที่รถแทร็กเตอร์จอดอยู่ เด็กหญิงหันไปมองยังต้นเสียงที่อยู่ทางด้านซ้ายมือก็พบชายหนุ่ม 4 คนกำลังวิ่งตรงเข้ามา

"เฮ้ย! ทางตัน" ชายคนหนึ่งที่ไว้หนวดเฟ้มตะโกนร้องบอกขึ้น ตามตัวของเขามีบาดแผล ส่วนอีก 3 คนที่เหลือก็มีบาดแผลเต็มตัวไม่แพ้กัน

"เราจะทำยังไงกันดี" ชายหนุ่มอีกคนที่มีรูปร่างผอมสูงพูดขึ้นมาอย่างร้อนรน

"เราต้องโดนมันฆ่าแน่ๆ" ชายร่างกำยำอีกคนพูด

ชายรูปร่างท้วมหันหน้ามาที่รถแทร็กเตอร์ "อ้ะ!" เขาร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นฮิคารุยืนอยู่บนหลังคารถ

"มีพวกมันคนนึงอยู่ที่นี่!" ชายร่างท้วมตะโกนขึ้นมาทำให้ชายอีก 3 คนเงยหน้าขึ้นมามองที่ฮิคารุทันที

"แก..." ชายมีหนวดร้องคำรามแล้ววิ่งตรงมาที่รถแทร็กเตอร์ เด็กสาวลูกครึ่งตกใจเมื่อเห็นชายคนนั้นกำลังปีนบันไดรถขึ้นมาหาเธอ

"เอามันเลยลูกพี่ ลากตัวมันลงมาเลย!" ชายอีก 3 คน ส่งเสียงร้องแล้วก็วิ่งเข้ามาที่รถเช่นเดียวกัน ชายทั้งสี่ที่เต็มไปด้วยโทสะจนลืมความกลัวต่างๆ ไปจนหมดสิ้น เมื่อพวกเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมหน้ากากรูปกระต่ายที่ดูแล้วน่าขันแถมท่าทางตื่นกลัวยืนอยู่บนหลังคารถแทร็กเตอร์จึงจะเข้ามาทำร้าย

ฮิคารุหันรีหันขวาง ใบหน้าของชายมีหนวดโผล่พ้นหลังคารถที่เธอยืนอยู่แล้ว เขาดูท่าทางโกรธแค้นมาก เชื่อได้เลยว่าเขาต้องประสงค์ร้ายกับเธอเป็นแน่ เธอจึงตัดสินใจใช้เท้าเตะไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นทันที ทำให้เขากระเด็นตกลงไปกระแทกกับพื้นซีเมนต์เบื้องล่าง

เมื่อชายอีก 3 คนเห็นเป็นเช่นนั้นก็รีบปีนขึ้นมาบนรถทันที ฮิคารุโต้ตอบด้วยการเตะและใช้กระเป๋านักเรียนฟาดไปบนใบหน้าของชายทั้ง 3 คน จนลงไปกระแทกกับพื้น

"อย่าคิดนะว่าแกจะรอดไปได้" ชายมีหนวดกลับขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้เขายืนประจันหน้ากับฮิคารุและพยายามทำร้ายเธอด้วยการชก เด็กสาวหลบหมัดของชายหนุ่มแล้วถีบเข้าที่หน้าท้องของชายคนนั้นจนทรุดตัวลงไปกับพื้นหลังคารถ

"ร้ายนักนะ... แก... ตายซะ" ชายมีหนวดร้องคำราม เข้าพยุงตัวเองขึ้นอย่างโงนเงน ย่างสามขุมและยื่นมือเข้ามาจับที่ตัวของเธอ แต่แล้ว...



"อ้ากกกกกกกกกกก"

บูเมอร์แรงติดใบมีดอันหนึ่งร่อนผ่านอากาศที่หนาวเย็นตัดเข้าที่แขนขวาของชายคนนั้นขาดลงไปกองอยู่บนหลังคารถแทร็กเตอร์ทันที เลือดพุ่งกระฉูดออกจากแขนของชายคนนั้นกระเซ็นเลอะหน้ากากรูปกระต่ายของเธอ ฮิคารุหันไปที่ทิศทางของบูเมอร์แรงที่กลับไปสู่ผู้ขว้าง เธอเห็นเรนที่อยู่บนตู้คอนเทนเนอร์กำลังวิ่งตรงมาที่เธอ

"ตุ้บ"

เด็กสาวร่างบอบบางที่มีหมวกสีดำเก็บเส้นผมกับผ้าสีดำปิดบนใบหน้ากระโดดลงมายืนอยู่บนหลังคารถแทร็กเตอร์ เธอโยนบูเมอร์แรงลงบนพื้นหลังคารถแล้วก็ควงกระบองทอนฟา (กระบองทอนฟาเป็นกระบองที่มีแท่งจับยื่นออกมาจากตัวกระบองโดยด้ามจับจะทำมุม 90 องศากับตัวกระบองเป็นกระบองถือมือเดียว จัดเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธ) ตัวกระบองแทนที่จะเป็นไม้แต่กลับเป็นใบมีดคมปลาบสีดำมะเมื่อมไปรอบๆ ซึ่งเป็นการข่มขวัญคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี

เมื่อควงทอนฟาทั้ง 2 มือเสร็จแล้วนักฆ่าสาวก็จัดการแทงใบมีดที่อยู่บนกระบองเข้าไปที่หน้าอกของชายมีหนวดด้วยความเร็วที่แทบจะมองตามไม่ทัน

"อ้ากกกกกกกกกกกกก"

ชายคนนั้นร้องออกมาอีกครั้ง เมื่อมัจจุราชชุดดำกระชากกระบองออกจากหน้าอก เลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากบาดแผลราวกับน้ำพุ ร่างของชายคนนั้นกระตุกและก็ลงไปกองลงกับพื้นหลังคารถแทร็กเตอร์ทันที เด็กสาวจิกเส้นผมของชายคนนั้นขึ้นมาแล้วใช้ใบมีดที่ติดกับกระบองเสียบไปที่คอหอย เมื่อกระชากใบมีดออกมา เลือดสาดกระเซ็นพุ่งออกมาเป็นสายจากลำคอ ชายมีหนวดเสียชีวิตทันที

"เหวออออออออออออออ"

ชายอีก 3 คนที่กำลังปีนขึ้นมาบนรถนั้นร้องเสียงหลงแล้วรีบกระโดดลงไปสู่พื้นเบื้องล่างทันที เรนไม่รอช้ากระโดดตีลังกาลงไปขวางหน้าชายร่างท้วมที่อยู่ใกล้กับทางออกมากที่สุด เธอควงทอนฟาติดใบมีดแล้วลงมือฟันไปตามร่างกายของชายร่างท้วมจนเกิดแผลเหวอะหวะตามใบหน้าและร่างกายเลือดไหลพุ่งออกมาจากรอยแผลที่เพิ่งจะถูกเฉือนสดๆ ร้อนๆ หลังจากนั้นมัจจุราชชุดดำก็ไขว้ตัวกระบองเป็นรูปกากบาทไปที่ลำคอของชายคนนั้นแล้วก็ออกแรง

"ฉับ"

ศีรษะของชายคนนั้นหลุดลงมากองลงกับพื้น มัจจุราชชุดดำสะบัดคราบเลือดออกจากใบมีดแล้วพุ่งไปหาเหยื่อรายต่อไปที่กำลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต เด็กสาวลูกครึ่งมองอย่างตกตะลึง ใบหน้าที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากรูปกระต่ายอ้าปากค้าง น้ำตาเอ่ออยู่ในดวงตาสีน้ำตาลเข้ม เธอทนดูภาพการฆ่าเหล่านี้ด้วยใจที่ปวดร้าว

'นึกถึงภาพที่เราดูในวันนี้สิไอ้โย นึกสิ... นึก แกจะต้องเข้มแข็ง แกจะต้องทนได้ แก... จะต้องทน...ได้' เด็กสาวตะโกนบอกกับตัวเองในใจ

หลังจากนั้นเรน วาเลนไทน์ ก็ควงทอนฟาไล่ฟันและสังหารชายอีก 2 คนที่เหลือด้วยความรวดเร็วและไร้ความปรานี เมื่อชายซึ่งเป็นคนสุดท้ายลงไปกองกับพื้นพร้อมด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากร่างกายหลังจากโดนมัจจุราชสาวแทงใบมีดไปที่หน้าท้องของเขาอย่างนับไม่ถ้วน เด็กสาวก็ปีนขึ้นมาบนหลังคารถแทร็กเตอร์อีกครั้ง

"ท่าทางเธอ ดูดีกว่าคราวที่แล้วนี่ ไม่เลวนี่แค่เวลาผ่านไปไม่นานเธอทนดูเรื่องแบบนี้ได้ แถมตอนแรกยังเล่นงานพวกนั้นได้ด้วย รู้อย่างนี้ฉันน่าจะปล่อยให้เธอสู้กับพวกนั้นอีกสักพักดีกว่า"

"................."  ไม่มีเสียงตอบจากเด็กสาวลูกครึ่ง

'นี่ผู้หญิงคนนี้แกล้งให้เราสู้กับพวกนั้นโดยยืนดูอยู่เฉยๆ เหรอนี่!'

"ไปกันเถอะ"

นักฆ่าสาวก้มลงเก็บบูเมอร์แรงที่เปื้อนเลือด เธอเช็ดคราบเลือดออกจากใบมีดของบูเมอร์แรงด้วยเสื้อของชายมีหนวดที่ร่างของเขากำลังแข็งตัวเพราะความหนาวเย็น แล้วกระโดดลงจากหลังคารถแทร็กเตอร์ ฮิคารุก้าวขาอันสั่นเทาผ่านร่างและแขนขวาของชายมีหนวดที่นอนตายอยู่บนหลังคารถลงไปยังเบื้องล่างท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดอันคละคลุ้ง ขณะที่เด็กสาวชุดดำกำลังทำอะไรบางอย่างบนข้อมือของเธอ

ฮิคารุถอดหน้ากากรูปกระต่ายออกซึ่งมีรอยเลือดเปื้อนอยู่บนหน้ากากอันนั้น มือของเธอสั่นอย่างเห็นได้ชัด เธอเดินตามเรนจนมาถึงทางออกแล้วก็อ้าปากค้างอีกครั้ง เมื่อเห็นศพของชายและหญิงรวมกันแล้วประมาณ 10 คน นอนจมกองเลือดอยู่ เด็กสาวลูกครึ่งถึงกับเข่าอ่อนทันที เธอทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าลงบนพื้น

"ลุกขึ้นมา! เธอต้องรีบกลับบ้านไม่ใช่เหรอ?" เรนที่ยังสวมผ้าปิดหน้าอยู่ร้องสั่ง เธอชี้ไปที่ถนนเส้นหนึ่ง

"เดินไปทางนั้น แล้วเธอจะเจอรถคันนึง คนขับรถจะขับไปส่งเธอที่บ้าน"

"................."

ฮิคารุไม่ตอบ ลำคอของเธอแห้งผาก เธอก็รู้สึกคลื่นไส้ เธอลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งไปที่มุมๆ หนึ่งของตู้คอนเทนเนอร์แล้วอาเจียนออกมา

"ชิ! ให้มันได้อย่างนี้สิ" นักฆ่าสาวบ่นขึ้นอย่างขัดใจ

"เอ้า! เสร็จรึยัง ถ้าเสร็จแล้วจะได้รีบๆ ไป" เธอเดินเข้ามาหา แล้วก็ลากแขนของเด็กสาวลูกครึ่งเดินไปที่ถนนที่เธอชี้ให้ดูเมื่อครู่นี้

"ไปซะ แล้วคราวหน้าฉันจะติดต่อไปอีกที" เรนผลักเด็กสาวอีกคนให้เดินไปตามทาง

ฮิคารุเดินโซซัดโซเซไปตามถนนอันมืดมิดจนไปพบกับรถยนต์ยุโรปสีดำคันหนึ่ง ผู้ชายที่อยู่บนรถเปิดประตูด้านคนขับออกมาแล้วโค้งให้กับเธอ แล้วเปิดประตูด้านหลังให้ เธอก้าวขึ้นไปบนรถ หลังจากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกจากท่าเรือดาเตะ อันเป็นเวลา 20.40 น.

'เรน วาเลนไทน์ สังหารคน 14 คน โดยใช้เวลาแค่ 40 นาที' ฮิคารุตัวสั่นเมื่อได้รู้ เด็กสาวลูกครึ่งนั่งกอดอกและพยายามบังคับให้ตัวของเธอกลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุดก่อนที่รถยนต์คันนี้จะไปถึงที่บ้านคุณตาของเธอ

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น