Gourmet Vol.1 (เชพจานร้อน อาหารจานรัก) Chapter 11 : Bad Girl
โพสต์โดย:
anhann
วันที่: 04 มิถุนายน 2014 เวลา 00:23:19
อ่าน: 421
|
Chapter 11 : Bad Girl
เอลลี่รู้สึกว่ามีคนมองเธออยู่ตลอดเวลาระหว่างที่เธอจับลาซานญ่าเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ลาซานญ่าที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือใคร ใช่..พี่สาวเธอเอง.. ซิลเวียถูกขอร้องให้เข้ามาช่วยกู้สถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นในห้องครัวกลางจากวีรกรรมของเธอ ที่เปลี่ยนการร่อนแป้งทำลาซานญ่าให้กลายเป็นมหกรรมการเล่นแป้งได้อย่างน่าอัศจรรย์ มันเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไร เธอก็แค่ทำตามอย่างที่คนอื่นๆทำกัน แต่แน่ใจนะ..เอลลี่.. "ซิลเวีย.. ลูกเลี้ยงพี่ ดูท่าทางมีปัญหากับฉันล่ะ จ้องมานานแล้ว" เอลลี่หันไปกระซิบกระซาบเสียงเบากับพี่สาวที่นั่งข้างๆกันบนโต๊ะอาหารในโรงอาหารใหญ่ที่พวกเธอได้สิทธิพิเศษมานั่งร่วมรับประทานอาหารกับผู้อำนวยการโรงเรียนและอาจารย์พิเศษ เม็ทธานีส์และคิมเบอร์ลี่นั่นเอง เพราะซิลเวียที่ทำให้พวกเธอได้สิทธินี้ เนื่องจากวันนี้พี่สาวคนเก่งของเธอทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนให้กับเพื่อนร่วมชั้นของเธอร่วมกับท่านผู้อำนวยการที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับหล่อน เก๊กเหมือนเดิม น่าหมั่นไส้ชะมัด ซิลเวียหันหน้ามาหาคนบ่นแต่ดวงตาชำเลืองไปหาความจริงที่เอเวอร์ลี่ที่นั่งอยู่เยื้องๆกันบนโต๊ะอาหารที่นั่งกันอยู่ห้าคน คนเป็นพี่สาวนั่งอมยิ้มเมื่อเห็นสิ่งที่น้องบอก เธอกระซิบกลับไป "เอฟคงสงสัยว่า ทำไมเธอใส่เสื้อผ้าเด็ก เค้าคงงงว่าเธออายุเท่าไหร่แน่" เอลลี่มองค้อนพี่สาวทันที "เชอะ ยังกับฉันอยากใส่อย่างนั้นแหละ แฝดน้องของแฟนพี่น่ะตัวดี หามาให้ บอกว่าถ้าไม่ใส่จะให้ใส่ของเด็กนั่นแทน" "อย่าเรียกเอฟว่า "เด็กนั่น" แบบนี้สิ มันไม่สุภาพรู้มั้ย.. ถ้าใครได้ยินจะว่าพี่หรือคุณพ่อไม่สอนเธอ" คนถูกบ่นมองค้อนพี่สาวตัวเองอีกรอบอย่างไม่พอใจ เอลลี่กระแทกช้อนส้อมลงกับจานจนชิ้นลาซานญ่าที่หั่นเอาไว้เตรียมทานเกือบจะกระเด็นออกไป ถ้าซิลเวียไม่ไวพอใช้ส้อมในมือจิ้มมันไว้ได้ก่อน "เอลลี่.. อย่าเล่นเหมือนเด็กสิ ดูซิ เอฟมองเธอใหญ่แล้ว!" สาวผมแดงส่งเสียงดุเบาๆเพราะตอนนี้คนทั้งโต๊ะอาหารนี้รวมถึงโต๊ะใกล้เคียงก็หันมามองทางเธอกับน้องสาวเป็นตาเดียวแล้ว และเธอรู้สึกขายหน้า หากแต่ดูท่าว่าเอลลี่จะไม่คิดแบบนั้น หล่อนมองค้อนเธออีกครั้งและลุกพรวดขึ้น "สนใจคนอื่นมากนัก พี่ก็อยู่กับพวกเค้าละกัน..ซิลเวีย!" ร่างบางของเอลลี่เดินสะบัดก้นจากไปดื้อๆ พาความตกใจมาให้ทุกคน ซิลเวียคิดจะลุกขึ้นตามหลังน้องสาวไป หากแต่ก็มีคนหนึ่งรั้งเอาไว้ก่อน "ซิลเวียไม่ต้อง.. คิมไปดูลูกศิษย์เธอไป!" เม็ทธานีส์สั่งเด็ดขาด ดวงตาคมกริบสีเขียวแสดงอำนาจเต็มที่ คนที่คิดจะแย้งจึงเงียบไปกันหมด แม้แต่เอเวอร์ลี่ยังได้แต่นั่งมองปะป๊าตาโต คงไม่เคยเห็นเวลาเขาดุแบบนี้ "ไม่เป็นไรค่ะซิลค์ ปล่อยเป็นหน้าที่ฉัน" คิมเบอร์ลี่พูดเสียงนุ่ม พยักหน้าย้ำคำตัวเอง ซิลเวียจึงต้องจำยอมน้อมรับ "ขอบคุณค่ะ..คิม ฝากด้วยนะคะ" อาจารย์สาวตัวสูงพยักหน้าอีกครั้งและก้าวออกไปจากโรงอาหารอย่างรวดเร็ว ซิลเวียมองตามไปอย่างเป็นห่วง แต่หันกลับมาเพราะน้ำเสียงใสๆที่ได้ยิน "พี่เอลลี่ ทำเหมือนเพื่อนเอฟที่โรงเรียน" ผู้ใหญ่สองคนหันมองหน้าเด็กน้อยพร้อมๆกัน และคนหนึ่งก็ถามขึ้น "เพื่อนเอฟเหรอ.. เพื่อนลูกทำอะไรคะ" เม็ทธานีส์หันไปสนใจลูกสาวและชำเลืองตามองหน้าแฟนสาวตัวเองไปด้วย พยายามแบ่งความสนใจให้เท่าๆกัน แต่ก็ต้องกลับมามองลูกตัวเองอย่างประหลาดใจเมื่อเขาตอบคำถาม "มันขี้งอนมาก เอฟเบื่อ น่ารำคาญ วันนี้เอฟเลยไม่ไปโรงเรียน เบื่อมัน" ผู้ใหญ่สองคนหันมองหน้ากันทันที สุดท้ายก็พากันยิ้มและก็เป็นเม็ทธานีส์อีกครั้งที่เข้าไปรวบตัวลูกสาวตัวน้อยมากอด อุ้มเขามานั่งตัก มือสวยลูบศีรษะน้อยๆของเด็กที่แหงนขึ้นมองหน้า "เอฟรู้มั้ยลูก.. คนขี้งอน ทำไมเค้าถึงเป็นแบบนั้น แล้วทำไมเค้าต้องมางอนเรา.." ถามลูกสาวพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น เอเวอร์ลี่ก็ได้แต่ส่ายหน้า เธอหันไปมองแฟนสาวที่นั่งมองอยู่เงียบๆ แต่อยู่ๆก็เห็นซิลเวียหน้าแดงขึ้นมา เหมือนว่าเธอจะพูดอะไรไปโดนใจ "เพราะเค้าอยากให้เราสนใจแต่เค้าคนเดียวไงคะ เค้าเลยไม่พอใจเวลาที่เราสนใจคนอื่นด้วย" คราวนี้เด็กน้อยบนตักก็ทำท่าเหมือนจะเข้าใจ แต่ความไร้เดียงสาก็พาให้ผู้ใหญ่บางคนที่นี่หน้าแดงกว่าเดิมเสียแล้ว เมื่อเขาพูดขึ้น "อ้อ.. เอฟรู้แล้ว.. เอฟเคยเห็นพี่ซิลเวียแอบมองค้อนปะป๊าบ่อยๆ ตอนปะป๊าหันไปสอนหนังสือคนอื่น นั่นเค้าเรียกงอนด้วยหรือเปล่า" ฟังคำของลูกสาวแล้วก็แอบชำเลืองสายตาไปมองคนที่เขาพูดถึง ตอนนี้ก็ได้เห็นซิลเวียเอาแต่นั่งก้มหน้าและรีบทานลาซานญ่าในจานของหล่อนไม่สนใจใคร หรือแกล้งไม่สนใจก็ไม่รู้.. เม็ทธานีส์หัวเราะเบาๆ หันกลับมาคุยกับลูกสาวต่อ "ป๊าว่า.. เรื่องนี้เอฟต้องถามพี่เค้าเอาเองนะคะ" พูดไปแล้วเอเวอร์ลี่ก็หันไปหาซิลเวียทันที เขาทำท่าจะเอ่ยปากถามตามประสาเด็ก แต่รายนั้นกลับรีบพูดขึ้นมาขัดจังหวะ "แบบนั้นไม่ได้เรียกว่างอนค่ะเอฟ พี่แค่----" "หวง" ซิลเวียเกิดอาการตกใจสุดขีดกับคำที่แทรกคำเธอกะทันหัน เธอรีบหันไปหาคนพูด และเอเวอร์ลี่ก็พูดต่อ "เอฟว่า.. เอฟก็เป็นงั้น.. ไม่ชอบให้ปะป๊าอยู่กับใคร นอกจากเอฟคนเดียว" กับประโยคหลังนี้คนฟังทั้งสองคนเสียววูบในอกโดยเฉพาะซิลเวียที่มองหน้าคู่หมั้นอย่างกังวล และเม็ทธานีส์เองก็เหมือนจะพูดอะไรไม่ออกได้แต่ขอร้องเธอทางสายตาทำนองว่า อย่าเพิ่งโกรธหรือใส่ใจคำของลูกของเขา แต่เธอควรจะทำตามอย่างนั้นหรือ... "แต่เอฟคิดว่า..ตอนนี้เอฟอนุญาตให้พี่ซิลเวียหนึ่งคนที่อยู่ใกล้ปะป๊าของเอฟได้ เพราะพี่ทำลาซานญ่าอร่อย" ถ้อยคำไร้เดียงสาของเอเวอร์ลี่เรียกทั้งเสียงหัวเราะและความดีใจให้กับผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งลุ้นอยู่ แต่เขาก็เหมือนไม่ได้รู้ตัวว่าทำแบบนั้น นั่นล่ะ..เด็ก "โอ้..ขอบคุณค่ะลูก" "ปะป๊าขอบคุณเอฟทำไม.. เอฟยังไม่ได้ทำอะไรเลย" ลูกสาวของเธอถามงงๆ แต่เธอนั่งหัวเราะน้อยๆมองหน้าซิลเวียที่มองมาหาพร้อมรอยยิ้มที่เข้าใจกัน
"ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ปะป๊าแค่เห็นว่าลูกน่ารักเท่านั้น..เอเวอร์ลี่"
เม็ทธานีส์กอดลูกสาวไว้กับอกตัวเอง เขาซบหน้าอยู่ตรงนั้นเมื่อกอดเธอกลับมา เธอจูบศีรษะเขาเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นหาอีกคน จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อซิลเวียเข้ามาจูบหน้าผากเธอต่อหน้านักเรียนมากมายภายในโรงอาหารแห่งนี้ หล่อนเหมือนไม่กลัวอีกแล้วที่จะเป็นข่าวกับเธอสำหรับปากของคนทั้งโรงเรียนอย่างที่เคยเป็นมาเมื่อก่อน
ดูเหมือนว่า ตอนนี้ทุกๆอย่างที่นี่จะลงตัวได้อย่างดีแล้วใช่ไหม..? ผู้อำนวยการสาวนั่งถามตัวเองขณะนั่งทานอาหารร่วมกับครอบครัวใหม่ของเธอ ที่เธอหวังว่ามันจะเป็น หากแต่เม็ทธานีส์คงลืมไปว่า ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่รอจะเข้ามาแทรกเวลาของความสุขเหล่านี้ของเธอ เพราะหล่อนจะกลับมา..สักวัน.. ........................................................
"คุณเคิร์ก.. จะรีบไปไหน.." คิมเบอร์ลี่คว้าแขนสาวร่างบางที่วิ่งนำหน้าได้ทันเวลาก่อนที่หล่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำและล็อกตัวเองอยู่ในนั้น และเป็นไปตามที่คาดไว้ เอลลี่สะบัดมือเธอและวิ่งเข้าไปจนได้ หล่อนตวาดเสียงดัง "ไม่ต้องมายุ่งกับฉันนะ พวกคุณก็เหมือนกันทั้งนั้น!" และแม้เธอจะไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับสาวน้อยลูกศิษย์ของตัวเอง อาจารย์สาวคนเก่งก็วิ่งตามเข้าไปทันที "เอลลี่! เธออย่าทำตัวเหมือนเด็กได้มั้ย.. ใครที่ไหนทำอะไรเธอ ไหนบอกฉัน!" คิมเบอร์ลี่อาศัยความยาวของแขนตัวเองรวบตัวอีกคนเข้ามาหาและใช้ตัวหล่อนดันประตูห้องน้ำเอาไว้ไม่ให้หล่อนได้มีโอกาสหนีอีก เอลลี่ดูตกใจและหวาดกลัวแต่หล่อนยังปากเก่งเหมือนเดิม "พวกคุณแย่งพี่สาวฉันไป พวกคารอนทั้งบ้านเอาซิลเวียไปจากฉัน ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือไง.. พวกคุณเหมือนโจร..เซนเซย์!" อาจารย์สาวกระพริบตาตกใจ เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน และความทรงจำในคืนนั้นก็กลับมา คืนที่เธอออกไปขอดูดาวกับสาวน้อยคนนี้ที่บ้านตระกูลเคิร์ก คืนที่เธอต้องการกำจัดอาการเฮิร์ทออกไปจากใจ และคืนเดียวกับที่เธอได้รู้ว่า อะไรที่ทำให้เอลลี่ดูไม่พอใจมากวันนี้ ใช่แล้ว..เอลลี่เคยพูดว่า ถ้าพี่สาวหล่อนแต่งงานกับพี่สาวของเธอ หล่อนก็คงจะต้องเหงาอยู่ตามลำพัง ซิลเวียเป็นทุกอย่างของหล่อน นับตั้งแต่ที่มารดาของหล่อนเสียชีวิต และเธอเองใช่ไหมที่เคยสัญญาว่า จะพยายามทำให้หล่อนไม่เหงาด้วยการหาอะไรให้หล่อนทำ เธอบอกว่าจะสอนหล่อนทำอาหารเพื่อให้หล่อนไม่ว่างที่จะเหงา จำได้ไหมล่ะ..คิม.. "ปล่อยฉันนะ ฉันจะกลับบ้าน ฉันจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว มีแต่พวกโรคจิต!" คิมเบอร์ลี่ได้สติกลับมาและรู้สึกแล้วว่าเธอกำลังกอดร่างของลูกศิษย์เอาไว้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะนัก เอลลี่ยืนขาสองข้างไม่ถึงพื้นเพราะขาทั้งสองของหล่อนคล้องอยู่ที่เอวของเธอ สองมือหล่อนถูกล็อคเอาไว้กับมือเธอที่กดลงกับประตู ร่างกายของพวกเธอแนบติดกันจนเธอรู้สึกได้เลยว่า หัวใจของหล่อนเต้นแรงแค่ไหน นี่อาจจะเพราะความกลัว.. "เอลลี่.. ใจเย็นๆ ฟังครูหน่อย.." อาจารย์สาวพยายามปลอบแต่ลูกศิษย์กลับดิ้นที่จะหนี ความคิดที่เธอจะปล่อยหล่อนออกไปจากตำแหน่งอันตรายเหล่านี้จึงต้องเก็บเอาไว้ "ไม่ ! ฉันไม่ฟัง ฉันไม่สนใจใครทั้งนั้น ไม่มีใครรักฉัน แม้แต่ซิลเวีย!" "ใครบอกเธอ.?" สาวน้อยค่อยๆลืมตาขึ้นมามองหน้าอีกคนที่ใบหน้าใกล้กันแค่ลมหายใจเป่ารด และเธอก็ได้เห็นดวงตาสีฟ้างดงามกว่าที่เคยเห็นมา ใบหน้าของคิมเบอร์ลี่ดูจริงจัง เมื่อเขาพูดต่อ "ถ้าซิลเวียไม่รักเธอจริง วันนี้เธอจะถูกทำโทษเท่าไหร่ เธอเคยคิดบ้างไหม เธอคิดว่าเม็ทใจดีมากอย่างนั้นเหรอ ถ้าไม่ได้พี่สาวเธอขอเขาเอาไว้และเสนอตัวทำงานแทน เธอจะต้องล้างห้องน้ำนี้ทั้งอาทิตย์ เธออยากทำไหมล่ะ" เอลลี่ทำตาโต "ฉันไม่ทำแน่ ที่บ้านฉันยังไม่เคยทำเลย ฝันไปเถอะ!" "เธอไม่ฝันหรอก เม็ทมีวิธีให้เธอต้องทำตามที่เขาอยากให้เธอทำ ถ้าเธออยากรู้ ก็ลองดูสิ แต่ฉันไม่รับประกันความปลอดภัยให้เธอหรอกนะ บอกไว้ก่อน" รอยยิ้มสะใจเกิดขึ้นที่ริมฝีปากของคิมเบอร์ลี่เมื่อเธอเห็นสาวน้อยตรงหน้าดูท่าทางกลัวมากขึ้น เอลลี่เหมือนไม่รู้สักนิดว่าเธอแค่แกล้งหล่อนเล่นเท่านั้น เพราะความจริงแล้ว พี่สาวฝาแฝดของเธอเป็นผู้อำนวยการแสนดี ใจดีและมีเสน่ห์ที่สุด ใครๆก็รู้เรื่องนี้ ยกเว้นสาวน้อยคนนี้นี่แหละ "ว่าไง.. เธอจะเชื่อฉันหรือยังว่าซิลเวียรักเธอ.. เค้าเสี่ยงเพื่อเธอนะ..เอลลี่" เสียงกระซิบนี้พาให้เอลลี่กลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว ตอนนี้เธอแทบไม่รู้สึกแล้วว่าเธอกำลังโกรธอะไรซิลเวียอยู่ หรือลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเมื่อครู่ทำอะไร เพราะเธอกำลังสนใจอยู่กับใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าและความอบอุ่นของร่างกายหล่อนที่ความจริงก็อยู่ภายในหว่างขาของเธอเมื่อสองขาของเธออยู่รอบเอวหล่อนและตัวเธอไม่ได้ติดพื้น เกิดอะไรขึ้นตรงนี้กันแน่นะ ชักไม่แน่ใจแล้ว และความรู้สึกร้อนไปทั้งตัวนี้มันหมายความว่ายังไง.. "ว่าไง.. คุณเคิร์ก.." และแล้วคำเรียกนี้ที่เขาใช้เรียกเธอเป็นประจำก็ช่วยดึงสติของเธอให้กลับคืนมา แล้วเธอก็รู้แล้วว่า เธอจะออกไปจากที่ตรงนี้ได้อย่างไร รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากของสาวน้อยเมื่อเธอคิดบางอย่างขึ้นมาได้และใช้มันทันที "คุณมันโรคจิต..เซนเซย์!" เอลลี่ใช้หน้าผากตัวเองกระแทกไปกับหน้าผากของอีกคนที่เขาทั้งเจ็บและตกใจจึงปล่อยเธอหลุดออกมา สาวน้อยรีบเปิดประตูและวิ่งออกไป วิ่งทั้งที่รู้ว่าขาสั้นกว่าแบบนี้แหละ "เอลลี่.. เธอทำไม--" คิมเบอร์ลี่จับหน้าผากเพราะความเจ็บกะทันหันจากความชะล่าใจที่เห็นลูกศิษย์ไร้เดียงสา ไม่คิดว่าหล่อนจะมีพิษสงขนาดนี้ แต่กระนั้นเธอยังจำได้ว่าต้องทำอะไร มือจึงเอื้อมไปคว้าจับตัวหล่อนที่ตอนนี้วิ่งตามมาทันแล้ว แต่แล้วก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บอีกครั้งเมื่อเอลลี่กัดมือเธอ "โอ้ย..เด็กบ้า อะไรเนี่ย!" อาจารย์สาวร้องตามหลังเด็กสาวที่วิ่งหนีเธอไปอีกครั้ง และคราวนี้เธอก็เห็นเอลลี่หันกลับมายิ้มเยาะ หล่อนยกมือขึ้นมาชูนิ้วกลางให้เธอและขยับปากขมุบขมิบที่เธออ่านมันได้ว่า -Fuck you!- แล้วก็รีบวิ่งหนีไปจากสายตาเธอ นั่นเพราะเธอเหนื่อยที่จะตามหล่อนไปเหมือนกัน
"บ้าเอ๊ย!" คิมเบอร์ลี่สบถและยกขาขึ้นเตะใบไม้ที่ปลิวมาเกะกะทางเดินด้านหน้าตัวเองราวกับคนบ้า ดีที่ว่าตรงนี้ไม่มีนักเรียนที่ไหนผ่านมา ไม่เช่นนั้นเธอคงจะเสียภาพพจน์ เธอก็ไม่ได้อยากทำ แต่มันห้ามตัวเองไม่ไหว จริงๆ
แน่นอน เธอโมโหเอลลี่ เด็กแสบที่ทำเธอแสบตั้งแต่ในห้องเรียนด้วยกันและยังจะมาเหตุการณ์เมื่อครู่อีก หล่อนทำได้ยังไงโดยไม่โดนอะไรกลับไปจากเธอ ซ้ำยังทำให้เธอเจ็บไปเกือบทั้งตัว อาจารย์ผมบลอนด์หยุดเตะลมเล่น มือสวยยกขึ้นจับหน้าผากตัวเองที่เจ็บและดวงตาสีฟ้าก็มองลงที่มือที่เป็นรอยแดงช้ำเพราะถูกกัด เธอกัดปากตัวเองอย่างข่มใจ ไม่ให้นึกอยากตามไปบีบคอเด็กสาวที่วิ่งหนีไป
"เธอเจอกับฉันแน่..เอลลี่ เคิร์ก" คิมเบอร์ลี่พูดด้วยความแค้นใจ หากแต่ความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นมากะทันหันก็ทำให้กระพริบตา ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากร่างกายของสาวร่างเล็กที่เธอได้สัมผัส กลิ่นหอมที่ได้รับเวลาที่ชิดใกล้ เนื้อตัวนุ่มนิ่ม เสียงหัวใจที่เต้นรัวจากอกหล่อนที่แนบชิดกับเธอ โอ้....
อาจารย์สาวสะบัดหน้าตัวเองแรงๆหลายครั้ง เธอเริ่มรู้สึกอาการไม่ค่อยจะสู้ดีจากความคิดในหัว คิมเบอร์ลี่ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองหนึ่งครั้งและรีบออกวิ่งไปยังทางข้างหน้าที่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน รู้แต่ว่าเธอต้องการหาที่ระบายอารมณ์ ไม่เช่นนั้นคงจะมีใครสักคนในโรงเรียนนี้ ถูกเธอลากไปปล้ำแน่นอน...
นี่มันเพราะเธอเลย.. เอลลี่ เคิร์ก...
TBC.
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|