web stats

ข่าว

 


Queen's tales Season2 -บทที่ 9 : Love Scent

โพสต์โดย: anhann วันที่: 04 ตุลาคม 2015 เวลา 20:10:44 อ่าน: 338







บทที่ 9 : Love Scent         



ความอยากรู้อยากเห็นพาสองขาของเธอเดินมาจนถึงปราสาทหลังสุดท้ายที่ไม่มีใครอยู่นอกจากผู้ที่ต้องห้ามออกไปพบเจอใครโดยไม่ได้รับอนุญาต  หากกระนั้นเธอก็แน่ใจว่า  ถ้าไม่ยินยอมจะถูกกักขัง  ปีกอันงดงามก็สามารถจะแหวกอากาศพาหญิงสาวผู้นั้นออกไปพบกับอิสระเสรีได้อย่างไม่ลำบาก

แต่นางเลือกที่จะอยู่  คล้ายกำลังรออะไรสักอย่าง...

อิสซาเบลล่าหรี่ตามองหญิงสาวสองคนเดินออกมาด้วยกัน  แม้จะอยู่ไกลห่างอยู่หลายหลา  เธอยังระลึกได้ว่า  ทั้งสองเป็นใคร  สาวเจ้าของเรือนผมดำสนิท  ผิวขาวดุจหิมะแรกฤดู  ผู้ที่เดินออกจากประตูมาก่อน  เธอจำได้ทันทีว่าใคร  อีกคนก็เช่นเดียวกัน  ไม่มีผู้ใดในดินแดนแห่งนี้ที่มีดวงตาสีทับทิมดุจปีศาจ  หากใบหน้างดงามราวเทพธิดามาจุติ

ชาร์ล็อต..  ไอซิส..

อยากจะร้องเรียกทั้งสองออกมาดังๆ หากคำพูดของเธอก็หล่นหาย  เมื่อเจ้าของดวงตาสีเลือดโน้มใบหน้าลงและกดริมฝีปากแดงสดลงกับริมฝีปากสีชมพู  จุมพิตไม่ได้แสดงถึงความร้อนแรงของไฟราคะ  หากบอกถึงความห่วงใย  ความผูกพันอย่างเปี่ยมล้น  คนจุมพิตอาจจะไม่รู้ตัวว่า  มันเป็นเช่นนั้น  แต่เธอที่มองอยู่ไกลๆ สัมผัสมันได้  คงไม่ยากอีกต่อไปแล้ว  ถ้าไอซิสจะรักคู่หมั้นคนนี้จริงๆ

แต่มันคงจะดีกว่า  หากดวงตาสีเลือดไม่ได้เหลือบมาจ้องเธออย่างนี้!

"มาทำไม  ใครเชิญเจ้า" 

ร่างบางสะดุ้งเฮือก  เธอเกือบจะวิ่งหนีไปแล้ว  หากไม่อยากให้ใครคิดว่า ขี้ขลาดตาขาว  และก็เพราะว่า  สาวผมดำที่พยักหน้าชักชวนเธอให้เข้าไปหาด้วย  ชาร์ล็อตยังคงทำตัวเป็นพี่สาวใจดีเช่นเคย  ทั้งสวยทั้งโอบอ้อมอารีเช่นนี้  ไม่นึกเลยว่า  จะสามารถควบคุมดูแลดินแดนแห่งความมืดได้ด้วยตัวคนเดียว

"ข้า..  ข้ามาเยี่ยม"  แค่นเสียงพูดออกไปจนได้  รอยยิ้มใจดีของชาร์ล็อตยังคงอยู่  แต่ความหงุดหงิดในดวงตาและสีหน้าของอีกคนยิ่งปรากฏชัดเจน

"ข้าไม่ได้ป่วย  ไม่จำเป็นต้องมาเยี่ยม"

"ไอซิส..  อย่าพูดกับน้องอย่างนั้นสิ" ชาร์ล็อตห้าม  ไอซิสพยายามจะคัดค้าน  หากก็ดูจะนิ่งค้างไปแค่ถูกมือขาวจัดแตะแก้มเบาๆ  ความขึงโกรธในดวงตาสีแดงลดลงอย่างเหลือเชื่อ  ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตา  ก็คงจะไม่เชื่อแน่ๆ

แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างชัดเจน..

"เบลล่า.. สบายดีไหม"

น้ำเสียงแหบน้อยๆ หากนุ่มหู  กระตุกดวงตาเธอให้มองหน้าคนถาม  พยายามจะตอบหล่อนเป็นคำพูดให้ได้  แต่ก็ทำได้แค่พยักหน้าราวคนไร้มารยาท  เหลือบเห็นสายตาไม่พอใจจากอีกคนระหว่างที่มือนุ่มๆ ขาวนวลมาจับมือเธอ

"เอ่อ..  ชาร์ล็อต?"

"ยินดีที่ได้เจอเจ้าอีก  แต่ต้องขอโทษด้วยที่ข้าต้องขอตัว"

"ท..  ทำไมถึงรีบกลับ"

"มีงานต้องทำจ้ะ"

"แล้วจะมาอีกไหม"

"ก็..  ก็ต้องดูก่อน...."

"นี่จะถามอะไรนักหนา" ไอซิสขัดจังหวะอย่างเกินจะทน  คว้าเอวบางของคู่หมั้นลากร่างชาร์ล็อตเข้าไปหาตัวเองอย่างหวงแหน  "เยี่ยมเสร็จแล้วใช่ไหม  ไปให้พ้นสักที  รำคาญ"

"ไอซิส..  ทำไมพูดจาใจร้ายเช่นนั้น"

"เจ้าก็เหมือนกันนั่นแหละ  ข้าบอกให้อยู่ก่อนก็บอกว่าต้องไป  พอเด็กนี่มาหา  ก็ลืมไปเลยใช่ไหมว่า  กำลังรีบ  เบื่อที่จะอยู่กับข้าแล้วก็บอกมาตรงๆ สิ"

"ไอซิส  หยุดนะ  ถ้ายังเป็นแบบนี้  ข้าจะไม่มาหาเจ้าอีกแล้ว" ชาร์ล็อตดุเสียงเข้ม  อิสซาเบลล่าไม่อยากเชื่อเลยว่า  เจ้าของดวงตาสีแดงอันเดือดดาลจะยอมทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่โต้เถียง  ไอซิสเพียงแต่สะบัดหน้าอย่างขุ่นเคืองและผละออกไปยืนกอดอกอยู่ตรงบานประตู

"ท่าน..  ท่านทำได้ยังไง"  เด็กสาวถามเสียงเบา  อีกสาวยิ้มละไมและกระซิบบอกแต่เพียงว่า  มันเป็นความลับ  เธอยังอยากรู้แต่ไม่กล้าจ้ำจี้จ้ำไชถาม  กลัวใจคนที่ยืนจ้องอยู่จะอาละวาดขึ้นมาอีก  ในชีวิตนี้เธอไม่เคยกลัวใครมากเท่าไอซิสมาก่อน  ประสบการณ์การถูกไล่ล่านั่นยังจำฝังใจ  มันยังสดใหม่อยู่เสมอ

"เจ้าไม่เป็นไรนะ"

อิสซาเบลล่างงกับคำถาม  สายตาห่วงใยผิดปกติจากอีกฝ่ายทำให้เธอนึกสงสัย  และระลึกขึ้นได้ว่า  ชาร์ล็อตอาจจะหมายถึง...  เรื่องนั้น...

"ไม่..  ไม่ค่ะ  แค่มันร้อนวาบขึ้นมาเวลาที่....."

"โอ..  ถ้าแบบนั้น  ก็ไม่ต้องกังวลอะไร"  ชาร์ล็อตพูดขึ้นทั้งที่ยังฟังคำเล่าไม่จบสิ้น  คล้ายรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร 

"ม.. หมายความว่า..."

"ก็อาจจะหมายความว่า  ชะตาของพวกเจ้าทั้งสองต้องกันละมั้ง"

สาวน้อยต้องการจะถามอีก  เธอยังไม่เข้าใจและต้องการความกระจ่าง  หากหญิงสาวที่จะให้คำตอบกับเธอได้กลับพูดขึ้นขัดอย่างรู้ทันเสียก่อน

"บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา  บางครั้งก็ถูกเลือกมาแล้วจากผู้อื่น  หากเจ้าจะฝืน  มันก็อาจเป็นไปได้  แต่เจ้าอาจจะเจ็บตัว... นิดหน่อย" ชาร์ล็อตขยิบตาตรงคำสุดท้าย  คล้ายไม่ได้จริงจังกับคำพูดนั้น  ซ้ำยังไม่ยอมขยายความเพิ่มเติมให้อีก  แบบนี้ใครกันแน่ที่ใจร้ายกว่า  มาทำให้อยากรู้แล้วก็จากไป...

"ข้าต้องไปแล้วล่ะ  อย่าคิดอะไรมาก  ปล่อยมันไปตามสัญชาตญาณ"

"ด..  เดี๋ยวสิชาร์ล็อต" อิสซาเบลล่าเรียกรั้ง  หากเจ้าของเรือนผมสีราตรีกลับแค่ส่งยิ้มละมุนมาให้และหมุนตัวเดินกลับไปหาคนที่ประตู  จุมพิตบอกลาคนรักของนาง  และไอซิสก็ดูจะชื่นชอบมันยิ่งนัก  เธอยืนอยู่ตรงนี้  ห่างจากทั้งคู่มากพอสมควร  ยังสามารถรับรู้ได้ถึงกรุ่นกลิ่นของความรักที่ชาร์ล็อตตั้งใจจะมอบให้คู่หมั้นคู่หมาย 

ความรักของเจ้าหญิงแห่งความมืดช่างมากมายมหาศาลยิ่งนัก..

ดวงตาสีมรกตยังคงเบิกค้างระหว่างมองเรือนร่างในชุดสีดำสนิทค่อยๆ เลือนหายไป  ความจริงเธอน่าจะรู้อยู่แล้วว่า  ชาร์ล็อตไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา

คนธรรมดาที่ไหนจะหายตัวไปหายตัวมาได้อย่างนี้?

"หมดธุระของเจ้าแล้ว  เหตุใดยังไม่ไป" ไอซิสถามเสียงเย็น  ยืนกอดอกอยู่ที่ประตูตามเดิม  ดูน่ากลัวและน่าเข้าใกล้ในเวลาเดียวกัน

"ข้า..  ข้าอยากคุยกับเจ้า"

"ถ้าเป็นเรื่องคาร่าละก็  ไม่จำเป็น  เอาเป็นว่า  ข้ายินดีกับเจ้าด้วยที่สมใจสักที"

อิสซาเบลล่าตาโต  ปรี่เข้ามาจับแขนคนที่กำลังจะเดินเข้าประตู  ไอซิสหยุดยืนนิ่ง  จ้องกลับมาด้วยดวงตาสีเลือดอันแสนเย็นชา "เจ้ากำลังเข้าใจข้าผิด"

เจ้าของร่างสูงกว่าหัวเราะ  น้ำเสียงแสดงความเหยียดหยันอย่างไม่ปิดบัง  "อย่าปฏิเสธเลยจะดีกว่า  เจ้าหลงรักคาร่าตั้งแต่แรกแล้ว  ข้าอ่านเจ้าออกหรอกนะ"

"ม..  ไม่จริง  ข้า..."

"ช่างเถอะ  จะจริงหรือไม่จริง  ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าอีกต่อไปแล้ว  ดูแลความรักของเจ้าไปเถอะ  ส่วนเรื่องของข้า  ก็เป็นเรื่องของข้า" ไอซิสพูดง่ายๆ แล้วเดินหายเข้าไปในปราสาท  ปิดประตูแน่นหนา  คนที่ถูกทิ้งไว้ภายนอกได้แต่มองบานประตูไม้หนาหนักด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ

"ถ้านางไม่พูด  ก็คือไม่พูด  ไม่มีประโยชน์ที่เจ้าจะดื้อดึง"

เสียงคุ้นหูดึงสายตาเธอออกจากบานประตูอันว่างเปล่า  สาวผมสีเทา  มองเธออยู่ด้วยดวงตาสีฟ้ากระจ่างอย่างเห็นใจ  อยากวิ่งเข้าไปกอดร่างสูงนั้น  ขอความอบอุ่นจากเขา  แต่ทำได้แค่ค่อยๆ เดินไปหาอย่างรู้สึกผิด

"ไคล่า?"

"กลับเถอะ  คาร่าให้มาตาม" 

น้ำเสียงที่ใช้พูดอาจดูไม่ต่างจากเดิมนัก  หากท่าทางเหินห่างชัดเจนแก่ใจเธอ  ร่างสูงผายมือเชิญเธอให้เดินนำออกไปก่อน  สาวน้อยถอนหายใจ จำต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

"หากไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย  อย่ามาที่นี่อีก"

ร่างบางชะงัก  เบิกดวงตากว้างมองกลับมายังเจ้าของคำพูดที่เหมือนคำสั่งมากกว่าคำแนะนำ  "ทำไมข้าจะมาไม่ได้  ที่นี่ไม่ใช่เขตหวงห้าม"

"ถูก..  แต่ถ้าเจ้าของเขาไม่ต้อนรับ  เจ้าจะมาเพื่ออะไร  ไอซิสอาจฆ่าเจ้าก็ได้  หากชาร์ล็อตไม่อยู่"

"ทำไม..  ทำไมเค้าจะต้องเกลียดชังข้าขนาดนั้น  หรือเพราะข้า...."

"หลายเรื่อง  หลายเรื่องเหลือเกิน  ไม่ใช่แค่เพราะเจ้ากับคาร่าหลับนอนกันหรอก"

"ท.. ท่านรู้?"

"ไม่มีเรื่องไหนในวังนี้ที่ข้าไม่รู้  ถ้าข้าต้องการจะรู้" ไคล่าตอบเรียบง่าย  สายตาเยือกเย็นจนคนถูกมองใจเต้นไม่เป็นส่ำ  "รีบไปเถอะ  หากเจ้าไม่อยากให้ข้าถูกบ่น  จงรีบไปเสีย  คาร่าเรียกหาเจ้าตั้งแต่เช้าแล้ว"

"แต่..  แต่ว่า...."

"ต่อไปนี้  เจ้ามีหน้าที่ทำให้เขามีความสุข  เจ้าเลือกสิ่งนั้นเอง"

อิสซาเบลล่าผวาเมื่อได้ฟังประโยคนี้  ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกเหมือนก้อนน้ำแข็งในช่วงหนาวจัดของฤดูเหมันต์  เหมือนครั้งนั้นที่เธอได้เจอเขาครั้งแรก 

ในฐานะหัวหน้ากองโจร...

"หมายความว่า  ตอนนี้ข้ากลายเป็นทาสของเขา  ไม่ใช่น้องสาว?"

"เจ้าควรถามคาร่าเอง  ข้าตอบแทนให้ไม่ได้" 

ร่างสูงหันหลังให้เธอ  เขากำลังจะเดินจากไป  "ทำไมทุกคนถึงทำเหมือนข้าผิดนักหนา  ถามหน่อยเถอะว่า  ข้าเคยต้องการสิ่งที่พวกท่านให้ข้าหรือ  ข้าไม่เคยต้องการอะไรเลย  ข้าขอแค่อิสรภาพ  ขอกลับไปในที่ที่เป็นของข้า  แต่พวกท่านก็ไม่ให้ข้าไป  ทุกวันนี้  ไม่ตายก็เหมือนตาย!"

ไคล่ายืนนิ่งงัน  มองตามหลังร่างบางที่วิ่งหายไปอีกทาง  ภาวนาว่า  สาวน้อยคงไม่ได้วิ่งหนีไปไกลนัก  เพราะเธอไม่คิดที่จะตามไป  ไม่ต้องการให้ลำบากใจกันทั้งคู่มากไปกว่านี้

"ทำคนรักคนล่าสุดขององค์ราชินีร้องไห้  ระวังตัวหน่อยนะท่าน"

นัยน์ตาสีฟ้ามองกลับมายังต้นกำเนิดเสียง  เห็นเพียงรอยยิ้มเย้ยหยัน  กับดวงตาดูแคลนสีแดงของเจ้าของปราสาทที่เปิดออกมาดูความเป็นไปภายนอกและกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง  ไอซิสดูใจร้ายมากกว่าที่เธอเคยเห็นมา  แต่เธอจะไปว่าอะไรน้องได้กันเล่า  ในเมื่อเธอก็ไม่สามารถจะปกป้องอะไรเขาได้เลย

"ข้ายังรักเจ้านะไอซิส  เจ้ายังคงเป็นที่หนึ่งสำหรับพี่คนนี้เสมอ" ไคล่าพูดกับประตูบานหนา  และหมุนตัวเดินจากไปโดยไม่ใส่ใจว่า  คนด้านในปราสาทจะรับรู้สิ่งที่เธอพูดหรือไม่  เธอก็แค่ต้องการจะพูดมันเท่านั้นเอง

........................................

"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" 

คำถามไม่ได้แสดงถึงอาการมุ่งร้าย  หากคนฟังยังฉงนใจจนฉายแววออกมาในดวงตาที่มองกลับไปยังคนถาม  เจ้าของเรือนผมสีขาวเหลือบเงินวางแก้วน้ำลงข้างจานอาหารของเขา  สอดสองมือประสานไว้ใต้คางระหว่างรอคำตอบจากเธอ

"ดี.. อาหารที่นี่อร่อยมาก  ไว้ข้าจะมากินอีกนะ"  เธอตอบ  ใช้ส้อมจิ้มชิ้นเนื้อสเต๊กชุ่มฉ่ำเข้าปากด้วยท่าทางยินดี  "น่าเสียดายที่เรานั่งกินกันแค่สองคน  ทำไมเจ้าไม่ชวน...."

"ชาร์ล็อต..  ข้าไม่ได้พูดถึงอาหาร"

ปากที่กำลังเคี้ยวเนื้ออยู่หยุดชะงัก  มองหน้าสหายเก่าแก่แล้วสั่นศีรษะ  รีบเคี้ยวต่อก่อนจะกลืนอาหารลงคอ  ไม่ชอบให้มีอาหารอยู่ในปากเวลาพูด  "ถ้าเจ้าจะพูดเรื่องอื่น  เอาไว้รอข้าอิ่มก่อนคาร่า  รู้ไหมว่า  ข้าไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน  หิวเป็นบ้าเลย"

"เจ้าไม่จำเป็นต้องกินสักหน่อย  เจ้ากินเพราะอยากต่างหาก" คาร่าชี้  อีกคนทำเหมือนโกรธแต่กลับตั้งหน้าตั้งตากินต่อไป  "ถามจริงเถอะชาร์ล็อต  เจ้าเป็นยังไงบ้าง  ยังรู้สึกว่า  มีคนมารบกวนเจ้าอยู่อีกไหม"

ชาร์ล็อตระบายลมหายใจยาวเหยียด  มองคนเคร่งเครียดกับคำถามอย่างเบื่อหน่าย  สองมือขาวจัดวางส้อมกับมีดลงอย่างหมดอารมณ์จะกิน

"รู้แบบนี้  ข้าอยู่กับไอซิสดีกว่า  อย่างน้อยข้าก็ไม่ต้องปวดหัว"

"และเจ้าก็จะได้กินอย่างอื่น  มากกว่าสเต๊กด้วยสินะ"

ดวงตาสีม่วงเป็นประกายวาววับอย่างเคืองขุ่น  แต่ก็แค่วูบเดียวเท่านั้น  มันก็กลับมาเป็นปกติ  "ดี... ข้ารู้สึกดีขึ้นมาก  แต่มันยังไม่ถาวร  นอกจากว่า..."

"เจ้าจะต้องแต่งงาน?"

ชาร์ล็อตส่ายหน้า  สีหน้าเซื่องซึมไปเล็กน้อย  "ไอซิสต้องรักข้า  และข้าทำไม่ได้  หากจะบังคับเค้า  เจ้าก็รู้อยู่แล้ว"

"แต่งไป  เดี๋ยวก็รัก" คาร่าโพล่ง  หยิบแก้วไวน์ที่สาวรับใช้นำมาเสิรฟ์ขึ้นจิบอย่างใจเย็น  "เจ้าไม่เห็นด้วยหรือไร  เหตุใดจึงมองข้าเช่นนั้น"

"ข้าไม่ต้องการความผูกพัน  ข้าต้องการความรัก  ไม่เช่นนั้นพิธีกรรมมันจะสำเร็จไม่ได้"  เจ้าของเรือนผมสีดำแถลงหนักแน่น  สีหน้าเป็นกังวล  นิ้วเรียวถูขมับอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรได้ดีกว่านี้  และเสียงคำพูดจากอีกฝ่ายก็มาสะกิดให้ดวงตาชำเลืองกลับไปมองเขา

"ตัวเจ้าเรืองแสงขนาดนี้  ยังจะกลัวอะไรอีก" ตาสีม่วงมองกลับไปยังเนื้อตัวของตนเองราวจะพิสูจน์ความจริง 

"ไอซิสคงจะตั้งใจทำให้เจ้ามีความสุขมากๆ เชียวล่ะ  ไม่เช่นนั้นเจ้าก็คงจะ... เหี่ยวเฉากว่านี้"  คาร่ายิ้มกับคำสุดท้ายของตน  นั่นเพราะคู่สนทนามีร่องรอยความเขินอายปรากฏบนใบหน้าให้เห็น 

"เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัวไปหรอก  อย่างน้อยไอซิสก็คงจะทำให้เจ้าอิ่มเอมได้ทุกเมื่อเชื่อวัน  หากเจ้าไม่เล่นตัวมากจนเกินไป" 

"พูดได้ดีนะคาร่า  พูดได้อย่างนี้แสดงว่า  เจ้าไม่รัก  ไม่หวงไอซิสแล้วสิ"  ชาร์ล็อตยิงคำถามเด็ด  ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลหม่นไปเล็กน้อยก่อนมันจะแข็งกร้าวขึ้นเมื่อมองประสานสายตากัน

"ความรู้สึกของข้าไม่สำคัญเท่ากับความเป็นอยู่ของเจ้า"

คนฟังเลิกคิ้วมองคำตอบอย่างขบขัน  "สมกับเป็นเจ้าจริงๆ เลยนะ  ทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งเชือดเฉือนหัวใจตัวเอง  เพื่อหน้าที่"

"เจ้าเองก็เช่นกัน  Black Princess"  คาร่ายกแก้วไวน์ขึ้น  ส่งสายตาให้อีกฝ่ายทำตาม  ชาร์ล็อตสั่นศีรษะ  คว้าแก้วของตนมาบ้าง  ยกมันขึ้นในอากาศเล็กน้อยตามธรรมเนียม  ดื่มกินไวน์สีเหมือนเลือดนั่นจนเกลี้ยงแก้ว  และวางมันลงกับโต๊ะพอเกิดเสียงดัง

"ข้ายินดีที่ดินแดนแห่งความมืดอยู่ในมือเจ้ามากกว่าผู้อื่น"

"เพราะเจ้าไม่ต้องการจะปวดหัว  หากพวกตัวประหลาดล้ำเส้นเข้ามาในดินแดนอันเริงร่าของเจ้าน่ะสิ"

"นั่นก็ถูก..  แต่ที่ถูกที่สุดคือ...  เจ้าไม่คิดจะรุกรานดินแดนของข้า" คาร่าตอบเสียงเคร่งครัด  แววตาปรากฏอาการข่มขู่  หากผู้ที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกลับยิ้มกลับมาอย่างไม่แยแส

"แค่นี้ใช่ไหม.. งั้นข้าขอตัว ไอซิสรออยู่ ขอบคุณสำหรับอาหาร" ร่างโปร่งผุดลุกขึ้นยืน  วางผ้าเช็ดปากลงกับโต๊ะ  ปลายตามองอีกคนเล็กน้อยก่อนหมุนตัวพร้อมจะจากไป

"ดูแลน้องสาวข้าให้ดีชาร์ล็อต"

"เจ้าไม่จำเป็นต้องย้ำในสิ่งที่ข้าทำอยู่เป็นประจำ"

เสียงตอบกลับอาจไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรเป็นพิเศษ  หากคนฟังก็เจ็บปวดแค่เพียงได้ยิน  แต่เธอก็มีสิทธิ์เพียงเท่านั้น

"ฝ่าบาทเพคะ  คือว่า...."

"มีอะไรก็พูดมา  อย่าอ้ำอึ้ง  เราไม่ชอบ"  คาร่าตอบโต้อารมณ์เสีย  ทั้งที่คนก่อกวนอารมณ์ไม่อยู่ให้เห็นตัวแล้ว  ท่าทางที่เหมือนรู้อะไรไปหมดทุกอย่างของชาร์ล็อตมันกวนใจเธอ  แต่เธอทำอะไรหล่อนไม่ได้  นอกจากปล่อยให้เดินตัวปลิวออกไปแบบเมื่อครู่  เพราะการดำรงอยู่ของผู้หญิงคนนั้นมีความหมายมากกว่าแค่ลอยไปลอยมากวนอารมณ์ใคร

"ยังไม่พูดออกมาอีก  มีอะไรกันแน่"  หันไปตวาดเสียงดังจนนางกำนัลหัวหดลีบ  ขาสั่นพั่บๆ ปากสั่นจนพูดจาไม่ได้ศัพท์  พาลให้อารมณ์ขุ่นมัวมากขึ้นไปใหญ่  หากก่อนจะเผลอทำอะไรตามอารมณ์  บางคนก็โผล่เข้ามาอย่างได้จังหวะ

"อิสซาเบลล่ามีปากเสียงกับขุนนางคนหนึ่งของท่าน"  ไคล่ารายงาน  น้ำเสียงราบเรียบ  พยักพเยิดหน้าอนุญาตให้นางกำนัลตัวสั่นเทาก้าวออกไปจากห้องอาหาร  และคว้าแก้วไวน์ของพี่สาวฝาแฝดขึ้นมาดื่มแทนระหว่างที่เขากำลังนั่งงง  "นางสงสัยเรื่องคอรัปชั่น"

คาร่าเลิกคิ้ว  แววตาส่อความสนใจ  "นาง...  อะไรนะ?"

"ข้ารู้มาอยู่บ้างว่า  นางสืบเรื่องนี้ลับๆ อยู่  ตั้งแต่แรกที่เข้ามาอยู่ที่นี่  แต่ไม่คิดว่า  จะยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ"

"หมายความว่า?"

"นางคงรู้มาจากพ่อของนาง  พ่อบุญธรรมน่ะ ว่าขุนนางของท่านบางคน  เล่นไม่ซื่อกับประชาชน"

"แล้วทำไมถึงไม่เคยพูดให้ข้าฟัง  ทำไมทำอะไรตามแต่ใจอย่างนั้น"

"หากไม่ทำเช่นนั้น  จะใช่นางหรือ"  ไคล่าย้อน  หยิบแครอทในจานพี่มากัดกินอย่างไม่สนใจ  "นี่ถ้านางมาเห็นท่านกินอาหารไม่หมดอีกนะ  ต้องบ่นแน่ๆ"

คาร่าขมวดคิ้ว  "ทำไม?  เสียดายของงั้นสิ"

"ถูกแล้ว..  นางก็จะบอกว่า  อาหารที่ท่านกินเหลือ  สามารถเก็บไปให้คนยากจนกินได้เป็นอาทิตย์  อย่างเช่นขนมปังพวกนี้" 

ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลมองน้องแฝดยกขนมปังแท่งยาวขึ้นมาโชว์  มองดูเขาบิมันกินทีละน้อย  สมองก็คิดอะไรไปด้วย  "เรียกนางมาหาข้าทีไคล่า  บอกว่า  ข้าต้องการเจอในห้องหนังสือ"

"หืมม์..  แล้วท่านไม่ลงไปจัดการนางตอนนี้หรือไง" ไคล่าแย้ง  แฝดพี่สั่นศีรษะเบาๆ  และชี้นิ้วมาที่ตัวเธอ  "โอ.. ข้าขอลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยท่านได้หรือไม่"

"ไม่ได้.. นี่คือคำสั่ง" คาร่าประกาศเด็ดขาด  ฝาแฝดลุกขึ้นยืนและโค้งตัวให้อย่างไม่เต็มใจ  เธอมองดูเขาหายไปด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก 

ไม่รู้ตัวว่า หายอารมณ์เสียตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...     



...........................................................


วันนี้ไม่มีเลิฟซีน  อิอิ  :01:

ให้พักหายใจหายคอกันบ้างค่ะ ชาร์ล็อตก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆๆ

แต่ก็นั่นแหละ  เดี๋ยวจะคิดว่า นิยายเรื่องนี้นี่มันยังไง  มีแต่นอนกันทั้งเรื่อง  ต้องมีอะไรมากกว่านั้นหน่อยสิ  เนอะ

จริงๆ มันมีประเด็นให้เล่นเยอะอยู่ค่ะ  แล้วเราจะเล่นให้ดู  เผื่อคุณจะสนใจ ฮา

ขอบคุณมากค่ะ

ป.ล. ไอซิสยังน่ากลัวเหมือนเดิม  อิอิ

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น