web stats

ข่าว

 


สายรุ้ง & หนึ่งฤทัย ตอนที่ ๓

โพสต์โดย: n-ew วันที่: 03 กันยายน 2015 เวลา 20:31:24 อ่าน: 1490

ตอนที่ ๓

        การทํางานในวันแรกของหนึ่งฤทัยเช้าวันนี้ เธอถูก ทดสอบอย่างรุนแรง จากการลาออกอย่างกะทันหันของเชฟเหลือง หัวหน้าพ่อครัวที่ควบคุมการทําอาหารท้ังหมดของรีสอร์ท รวมทั้ง อาหารที่สายรุ้งต้องรับประทานทุกม้ือ ถ้าเธออยู่ท่ี รีสอร์ทด้วย

        สาเหตุของการลาออกครั้งน้ี มาจากแม่เลขาตัวดี ที่เข้าไป ควบคุมทุกอย่างในห้องครัว จนเชฟเหลืองหมดโอกาสท่ีจะได้แสดง ฝีมือ ในการปรุงอาหารอย่างเต็มที่ ความไม่พอใจสะสมมาเน่ิน นาน จนมาสิ้นสุดลงวันน้ี วันแรกในการทํางานของหน่ึงฤทัย

        ผมเป็นเชฟมือหน่ึง ที่คุณสายรุ้งคัดตัวมาเอง แต่ผมกลับ ไม่ได้โชว์ฝีมือท่ีฝึกฝนมาเลยแม้แต่น้อย แค่จะคิดรายการอาหาร เองยังทําไม่ได้ ต้องมาทําตามคําสั่งของคนที่ไม่มีความรู้เรื่อง อาหารเลย มันแย่มากๆ พอกันทีกับการทํางานท่ีอึดอัดหน่ึงปี เต็มๆ" เขาสาธยายยืดยาวอย่างเก็บกด และถึงคราวระเบิดมันออกมาในวันนี้ หน่ึงฤทัยก็ไม่เข้าใจว่าความอดทนของเขา ทําไมไม่หมดลงต้ังแต่เมื่อวานน้ี

        "แต่ทุกอย่างมันต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต่อไปนี้คุณจะได้ แสดงฝีมือเต็มที่ ฉันสัญญา หน่ึงฤทัยพยายามเอานํ้าเย็นเข้าลูบ

         "มันสายไปแล้ว เพราะทางโรงแรมที่กรุงเทพฯ เพิ่งตอบรับ ผมเข้าเป็นเชฟประจําแล้ว เสียใจด้วยนะ ที่คุณต้องมาเจอเร่ือง แย่ๆ ในวันแรกของการทํางาน ผมเสียใจจริงๆ" เชฟเหลืองบอกกับ เธออย่างเสียใจ และเห็นใจอยู่ในที

         "ยังไงคุณก็น่าจะรอคุยกับคุณสายรุ้งดูก่อน หนึ่งฤทัยยัง พยายามต่อรอง จนวินาทีสุดท้าย

         "ไม่มีประโยชน์หรอก คุณสายรุ้งไม่เคยมีเวลาให้กับพวกเรา ทุกอย่างผ่านเลขาหมด ผมจะไม่ยอมเสียเวลาอีกแม้แต่นาที เดียว หน่ึงฤทัยไม่อาจจะร้ังตัวเขาไว้ได้  เพราะปัญหาท่ีเขาเจอมันสะสมมานาน และมากเกินไป เกินกว่าที่เขาจะยอมให้อภัย และเสียสละโอกาสอันดีนี้เพื่อเธอ คนท่ีเพิ่งรู้จักกันวันนี้

         "เป็นไงล่ะ คุยกับเชฟคนสําคัญไม่สําเร็จเหรอ คุณเจ้านายกลับมา คงไม่พอใจแน่ๆ" เสียงเย้ยหยันของแม่เลขาเจ้าปัญหา ท่ี แอบซุ่มดูเธออยู่ ทําเอาหนึ่งฤทัยต้องเดินหนี เธอยังไม่พร้อมจะมี ปัญหาในตอนน้ี


         หน่ึงฤทัยเพิ่งจะเข้าใจตอนนี้เอง ว่าทําไมเธอถึงรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าแม่เลขาคนน้ี ต้ังแต่ครั้งแรกท่ีเจอ เพราะโดยเน้ือแท้แล้ว หล่อนมีนิสัยท่ีไม่น่าคบแบบน้ีนี่เอง แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพในการทํางาน เธอคงต้องจําใจทํางานกับคนแบบน้ีให้ได้ จึงเลือกท่ีจะนิ่งเฉยเสีย เพราะงานท่ีเร่งด่วนท่ีสุดของเธอในตอนนี้ ก็คือการรับสมัครคนทําอาหารคนใหม่ให้ได้โดยเร็วท่ีสุด เธอรีบแจ้งไปยังบริษัทจัดหางาน เผื่อจะมีคนท่ีต้องการงานประเภทน้ี ไปลงสมัครไว้บ้าง เพราะนี่น่าจะเป็นทางเดียวท่ีเร็วที่สุด ในตอนนี้

         โชคของเธอยังดี ที่แจ้งเรื่องไปไม่ถึงชั่วโมง ก็ได้รับการติดต่อกลับมา แต่มีข้อแม้ว่าเธอจะต้องไปสัมภาษณ์ และดูตัวเชฟคนใหม่ถึงในตัวเมืองเชียงใหม่ ถ้าพอใจทั้งสองฝ่ายก็สามารถรับเขากลับมาทํางานได้เลย

         เชฟคนน้ีเพิ่งจะออกจากงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ต้องการกลับมาทํางานท่ีเชียงใหม่ และบังเอิญว่ามีคนต้องการตัวเขาไปทํางานด้วยหลายเจ้า ทางบริษัทเลยต้องนัดให้ไปดูตัว และสัมภาษณ์พร้อมๆ กัน แล้วให้เขาเป็นคนตัดสินใจเลือกเองว่าต้องการจะไปทํางานอยู่กับใคร


         "รู้แบบน้ีไปเรียนทําอาหารก็ดี ถ้าจะมีคนแย่งตัวกันมากขนาดนี้" หนึ่งฤทัยรําพึงกับตัวเองด้วยอาการขําขันปนเศร้า ขณะนั่งรถมุ่งหน้าเข้าไปในตัวเมืองเชียงใหม่ โชคดีท่ีสายรุ้งมีคนขับรถไว้คอยบริการ เธอเลยไม่ต้องขับรถเอง

         ชราธรเป็นเชฟท่ีดูท่าทางสําอาง สูงราวร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร อายุสามสิบสี่ปี ยิ้มให้หน่ึงฤทัยอย่างเป็นมิตร เมื่อได้พูดคุยกัน หนึ่งฤทัยรับรู้ว่าชราธรไม่ใช่ผู้ชายแท้เธอกับเขาคุยกันอย่างถูกคอ ด้วยวัยท่ีใกล้กัน และยังมีชีวิตท่ีคล้ายกันด้วย ทําให้หน่ึงฤทัยได้ตัวชราธรกลับมาเป็นเชฟให้เธอสมใจ

         "หนึ่งต้องขอบคุณพี่มากเลยนะคะ ที่ไว้วางใจยอมมาทํางานกับหนึ่ง หน่ึงฤทัยเอ่ยปากบอกอย่างดีใจ ขณะพาชราธรกลับไปที่รีสอร์ท

         "อย่าเรียกพี่เลย เราห่างกันแค่สองปีไม่ใช่เหรอ เรียกว่าแซมมี่ดีกว่า ช่ือในวงการน่ะ" ชราธรจีบปากจีบคอบอกหนึ่งฤทัยอย่างเปิดเผย ไม่จําเป็นต้องเก๊กแมนอีกต่อไป

         "ชื่อน่ารักเชียวนะคะ หนึ่งฤทัยบอกย้ิมๆ

         "ฝรั่งตั้งให้จ๊ะ เรียกง่ายดี แซมม่ีสิที่ต้องขอบคุณ ท่ีคุณหน่ึงยอมมาดูตัวแซมม่ีถึงที่นี่ ไม่อย่างนั้นคงอดได้มาทํางาน ใกล้บ้านแบบน้ี" ชราธรเล่าว่าไปทํางานเป็นเชฟอยู่ในโรงแรมหรูที่กรุงเทพฯ นานกว่าสิบปี จนปีน้ีพ่อของเขาล้มป่วย เลยอยากจะ กลับมาทํางานใกล้ๆ บ้าน ซึ่งบ้านของเขาก็อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ท มากนัก

         เขายังเล่าว่าเมื่อหลายวันก่อน เคยลองเข้าไปสมัครงานท่ีรีสอร์ทของสายรุ้งมาแล้ว แต่ไม่มีตําแหน่งว่าง วันน้ีพอเห็นว่าหน่ึงฤทัยมาจากท่ีนั่น เขาจึงไม่ลังเลใจท่ีจะเลือกมาทํางานด้วย ช่างเป็นความบังเอิญที่ดีอย่างเดียว ในวันแย่ๆ ของหน่ึงฤทัย

         "งั้นแซมมี่ก็อย่าเรียกคุณเลยค่ะ เรียกหน่ึงก็พอ ถือว่าเราเป็นเพื่อนกัน มาทํางาน ท่ีนี่พร้อมกัน ชีวิตของเราเหมือนกันเลยนะคะ หน่ึงก็ไปทํางานอยู่กรุงเทพฯ มาต้ังหลายปี แต่เพิ่งจะได้กลับมาทํางานท่ีบ้าน เพราะอยากกลับมาดูแลคุณย่าที่ป่วย" หนึ่งฤทัยเล่าเรื่องของเธออย่างไม่คิดจะปิดบัง

         "มันคงเป็นชะตากรรมของเราแน่ๆ ท่ีจะต้องมาเจอกัน ชราธรบอกอย่างท่ีรู้สึก เขารู้สึกถูกชะตากับหน่ึงฤทัยตั้งแต่คร้ังแรกท่ีได้เจอ โชคชะตาคงจะนําพาให้ได้มาเป็นเพื่อนกัน

         

         หน่ึงมีเรื่องท่ีอยากบอกแซมม่ีไว้ หน่ึงเป็นคนรับแซมม่ีมาทํางานท่ีนี่ ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น หนึ่งขอให้มาคุยกับหน่ึงก่อน นอกจากหน่ึงกับคุณสายรุ้งแล้ว แซมม่ีไม่ต้องไปสนใจใครท่ีอาจจะเข้ามาพูดจาไม่ดีด้วย หรือบงการอะไรก็ตาม อย่าไปสนใจนะคะ" หน่ึงฤทัยตัดสินใจบอกชราธรไว้ก่อน เธอเช่ือแน่ว่าแม่เลขานั่น ต้องพยายามหาเรื่องให้เธออยู่ยากมากยิ่งข้ึน รวมทั้งคนท่ีเธอเลือกหามาด้วย

         ใครท่ีต้องระวังเป็นพิเศษล่ะ ชราธรหันมาถามอย่างคนท่ีเข้าใจอะไรๆ ดี ตามประสาคนที่ทํางานมานาน

          เธอช่ือมีนา เป็นเลขาของคุณสายรุ้ง เชฟคนเก่าลาออกก็เพราะเธอ หนึ่งฤทัยเลือกท่ีจะบอกไปตามความจริง ชราธรพยักหน้าอย่างเข้าใจ ในที่ทํางานทุกที่มักจะต้องมีเรื่องพวกน้ี เขารับรู้ข้อน้ีดีอยู่แล้ว

          "แล้วทําไมหน่ึงถึงคิดว่าแม่เลขานั่นจะมายุ่งกับแซมม่ีล่ะ ในเมื่อทํางานกันคนละหน้าที่อยู่แล้ว" ถามอย่างสงสัย

          "เชฟคนเก่าบอกไว้ก่อนจะออก เหตุผลที่เขาต้องลาออก ก็เพราะเขาไม่มีอิสระในการคิดทําอาหาร ทุกสิ่งทุกอย่างต้องผ่านมีนาทั้งหมด ทั้งเรื่องการคิดเมนูในแต่ละวันด้วย"

          "โอ้ย... ! แบบนี้ใครมันจะไปทน เขาอยู่ทําให้มาต้ังนานก็เป็นบุญของเจ้านายแล้วล่ะ ถ้าเป็นช้ันนะไม่เกินสามวันหรอก" ชราธรถึงกับร้องออกมาอย่างขุ่นเคืองแทนเชฟคนเก่า เพื่อนร่วมอาชีพ

           "การเป็นเชฟ มันไม่ใช่ใครก็จะเป็นได้นะเธอ ทําอาหารมันต้องมีอิสระทางความคิด ถ้าอารมณ์มันไม่บรรเจิดก็ปรุงอาหาร ออกมาไม่อร่อยนะเธอ" บ่นออกมาเป็นชุดอย่างหงุดหงิด กับวีรกรรมของมีนาที่เพิ่งได้ยิน


          "คนนี้เหรอเชฟคนใหม่ ท่าทางกระตุ้งกระต้ิงแบบนี้จะไหวไหม แล้วจะทําอาหารให้แขกต่างประเทศของคุณเจ้านายรับประทานได้หรือเปล่า แขกส่วนตัวของท่าน ล้วนแล้วแต่ไฮโซทั้งนั้นนะ" มีนาตรงรี่เข้ามาถึงในห้องครัว ขณะที่หนึ่งฤทัยพา ชราธร เข้าไปแนะนําให้รู้จักกับพนักงานท่ีทํางานอยู่ในห้องครัว ซึ่งจะต้องเป็นผู้ช่วยของเขาโดยตรง

          ช้ันทําอาหารได้ทุกแบบและทุกประเทศ ทําไมเหรอคะ เป็นตุ๊ดเข้าครัวทําอาหารไม่ได้หรือไง ไม่รู้จักอาจารย์ยิ่งศักดิ์เหรอจ๊ะ เปิดหูเปิดตาบ้างก็ดีนะ" ชราธรตอบคําถามมีนาเสียเอง ด้วยอาการหมั่นไส้ ขุ่นเคืองใจ ตั้งแต่ท่ีได้ยินเรื่องราวของหล่อนแล้ว เมื่อได้เจอกับตัวแบบน้ี จึงไม่ปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ

         "อย่าดีแต่พูดก็แล้วกัน รายการอาหารท่ีจะทํา เธอต้องมาเอาท่ีฉันตอนเย็นทุกวันนะ เช้ามาจะได้ทําทัน แล้วก็... มีนาถือโอกาสออกคําส่ังกับชราธร หวังจะกําราบไว้เสียตั้งแต่ต้น หากแต่หน่ึงฤทัยขัดขึ้นเสียก่อน

         "ไม่ต้อง  ต่อไปน้ีรายการอาหาร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเชฟคิดเอง"

          "หา...เธอว่าอะไรนะ ที่นี่ฉันต้องคิดรายการอาหารเองเท่าน้ัน เชฟเพิ่งมาใหม่ จะมารู้ใจเจ้านายได้ยังไง แม้แต่เธอก็เถอะ ข้ึนเสียงอย่างไม่พอใจ ทําสีหน้าเย้ยหยันใส่หนึ่งฤทัยในตอนท้าย


          "ตอนน้ีไม่รู้ แต่ไม่นานก็ต้องรู้ เด็กๆ พวกนี้ก็อยู่มานานแล้ว ต้องรู้บ้างสิว่าเจ้านายของพวกเธอ ชอบหรือไม่ชอบอะไร จริงไหมคําหล้า หน่ึงฤทัยบอกเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปถามคนท่ีอยู่ ใกล้ๆ ซึ่งเธอเพิ่งจะรู้จักเมื่อเช้านี้ และนับเป็นความโชคดีของเธอ ท่ีคําหล้าก็เป็นอีกคน ท่ีไม่ได้เกรงกลัวมีนาจนหงอ

          ฮู้เจ้าคุณหน่ึง คําหล้าตอบหน่ึงฤทัยเสียงหวาน ตามแบบฉบับของคนเชียงใหม่

          แต่นี่มันเป็นหน้าท่ีของฉัน ซึ่งฉันทํามาต้ังนานแล้ว เจ้านายเป็นคนอนุญาตให้ฉันทําเป็นประจําทุกวัน" มีนายังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อ้างถึงสายรุ้งขึ้นมา หวังว่าจะทําให้หน่ึงฤทัยยอมแพ้

          "กฎมันเปลี่ยนกันได้ แล้วมันก็เปลี่ยนไปแล้วตั้งแต่เชฟคนเก่าลาออกแล้วล่ะ ฉันเช่ือว่าจะอธิบายให้เจ้านายเข้าใจได้ หน่ึงฤทัยบอกเสียงแข็ง หนําซํ้าชราธรยังยักคิ้วหลิ่วตาล้อเลียนให้อีก มีนากระทืบเท้าอย่างขัดใจ ก่อนจะชี้หน้าชราธรกับหนึ่งฤทัย แบบอาฆาต

          "รอเจ้านายกลับมาก่อนเถอะ จะได้เห็นดีกัน พวกเธอเพิ่งมาทํางานวันแรก กับฉันท่ีอยู่มาสามปี คอยดูละกันว่าเจ้านายจะเชื่อใคร" ก่อนจะหันหลังกระทืบเท้าออกจากห้องครัวไปอย่างขัดเคืองใจ ท่ามกลางเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอก ของพวกพนักงาน ที่รู้ฤทธ์ิของมีนาเป็นอย่างดี

          "คุณหนึ่งต้องระวังตั๋วดีๆ เน้อเจ้า คุณมีนาเปิ้นฮ้ายนัก เอาคนออกจากงานไปแล้วจ๊าดหลายคน คําหล้าเดินเข้ามาบอกหน่ึงฤทัยอย่างเป็นห่วง

           เอาเข้าจริง คนงานท่ีรีสอร์ทก็ไม่ค่อยชอบมีนามากนัก เพราะความท่ีเธอชอบใช้อํานาจข่มเหงพวกเขาอยู่เสมอ สายรุ้งมักจะเดินทางไปติดต่อลูกค้าอยู่บ่อยๆ เลยไม่ค่อยได้รู้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในรีสอร์ทมากนัก และคงไม่มีใครกล้าพอที่จะบอกให้เธอรับรู้ หรือเธออาจจะรู้ก็เป็นได้ ถึงได้หาคนมาดูแลทุกอย่างแทนเธอ และยังให้อํานาจมากพอที่จะงัดข้อกับมีนาได้เสียด้วย


          หน่ึงฤทัยใช้เวลาช่วงบ่าย เดินสํารวจ และแนะนําตัวเองกับพนักงานในรีสอร์ททุกคน ตลอดจนถึงคนดูแลสนามกอล์ฟด้วย โดยอาศัยคําหล้า ซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของที่นี่คอยนําทาง เพราะเธอรู้ ดีว่าคงไม่สามารถพึ่งพามีนาได้ ถึงแม้สายรุ้งจะได้บอกไว้ว่ามีนาจะดูแลแนะนําทุกอย่างแก่เธอก็ตาม

          จากการได้ไปสํารวจทุกซอกมุมของที่ทํางานใหม่ ทําให้หนึ่งฤทัยได้รู้เพิ่มอีกว่า นอกจากธุรกิจรีสอร์ท แพกลางนํ้าและเรือสําราญ ตลอดจนถึงสนามกอล์ฟแล้ว สายรุ้งยังให้บริการในเรื่องการจัดสวนอีกด้วย แต่เธอมักจะให้บริการกับคนบางกลุ่มเท่านั้น เพราะงานของเธอมันมากเกินเวลาท่ีเธอมี


           "เป็นยังไงล่ะ เที่ยวชมกิจการของเจ้านาย ดูยิ่งใหญ่ดีไหมละ เธอรู้ไหมว่าทําไมหล่อนถึงได้มาซื้อที่แถวน้ีไว้ต้ังมากมาย" มีนาเข้า มาถามอย่างหยามหยันแปลกๆ แต่หน่ึงฤทัยไม่สนใจจะคุยด้วย ย่ิงได้ยินสรรพนามท่ีใช้เรียกคนเป็นเจ้านายแบบน้ันด้วยแล้ว เธอยิ่งไม่อยากจะเสวนาด้วย

          "เธอพยายามจะยกระดับตัวเองไงล่ะ" ถือวิสาสะนั่งลงตรงหน้าโต๊ะทํางาน ท้ังๆ ที่สีหน้าของหน่ึงฤทัยไม่ได้สนใจอยากจะคุยด้วยก็ตาม

         พวกเศรษฐีใหม่ก็แบบน้ีแหล่ะ แรกๆ ก็หาซื้อที่ทางในชนบท สร้างช่ือเสียงแล้วก็ค่อยๆ ถีบตัวเองเข้าสู่สังคมช้ันสูง โดยการคบกับพวกไฮโซ ทั้งท่ีจริงแล้วไม่ได้รับการยอมรับจากคนพวกน้ันสักเท่าไหร่หรอก ถ้าไม่มีผลประโยชน์ให้ นี่ก็รับจัดสวนให้แต่พวกไฮโซเท่าน้ันด้วยนะ แล้วยังจะ... มีนาแสดงอาการดูแคลนสายรุ้งออกมาทางน้ําเสียง และคงจะพล่ามไม่หยุด ถ้าหน่ึงฤทัยไม่ตัดบทเธอเสียก่อน

          "ความคิดแบบนั้น มันออกจะล้าสมัยไปหน่อยนะ เดี๋ยวน้ีใครมีความสามารถเค้าก็รํ่ารวยกันได้ และเมื่อรํ่ารวยแล้ว เค้าก็มีสิทธิ์เลือกท่ีจะคบกับคนที่มีฐานะเท่าเทียมกัน ไม่เห็นจะผิดตรงไหน"

          "เธอเพิ่งจะเข้ามาจะรู้เรื่องอะไร ฉันเห็นการกระทําของหล่อนมานานแล้ว ทําไมฉันจะไม่เข้าใจ ฉันมองคนไม่เคยผิดหรอก" มีนาพูดถึงคนที่เป็นเจ้านายราวกับเกลียดชัง หน่ึงฤทัยจับได้ถึงความอิจฉาท่ีมีนามีต่อสายรุ้ง

          "ในเมื่อคุณเกลียดเธอขนาดนั้น ทําไมยังทนทํางานกับเธออยู่อีก ฉันละแปลกใจจริงๆ หน่ึงฤทัยเริ่มโกรธแทนสายรุ้งขึ้นมา อย่างบอกไม่ถูก

          "ก็ฉันไม่มีทางเลือกนี่ พ่อแม่ฉันไม่ได้รํ่ารวย แล้วเธอเคยรู้อดีตของสายรุ้งหรือเปล่าล่ะ ก่อนท่ีจะรํ่ารวยแบบนี้ หล่อนก็เคยเป็นแค่คนงานรายวัน ลูกกรรมกรดี ๆ นี่เอง"

          "ไม่เห็นจะมีอะไรผิดนี่ ฉันหรือเธอเองก็สามารถรวยได้เหมือนกัน หน่ึงฤทัยตอบโต้อย่างดุเดือดข้ึน

         ไม่รู้กว่าท่ีจะรวยแบบนี้ หล่อนต้องแลกกับอะไรมาบ้าง ฉันทําอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก" มีนายังส่ง นํ้าเสียงเหยียดหยามสายรุ้งเต็มที่

          "ความคิดอคติของคุณที่มีต่อเจ้านาย ไม่เก่ียวกับฉัน ถ้า ไม่มีอะไรท่ีเป็นสาระเก่ียวกับเรื่องงาน ฉันขอตัวไปทํางานก่อนนะ" หนึ่งฤทัยต้องเดินหนีออกมา เธอทนเห็นกิริยาแบบน้ันของมีนาต่อไปไม่ได้อีก แม้วินาทีเดียว ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าสายรุ้งท่ีดูออกจะ เฉลียวฉลาด รับแม่นี่เข้ามาทํางานด้วยได้อย่างไรกัน แต่ก็นั่นแหล่ะ มีนาคงจะเป็นประเภทหน้าไหว้หลังหลอก จนสายรุ้งจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเสียมากกว่า นึกๆ แล้วก็ให้สงสารสายรุ้ง ที่มีลูกน้องคอยคิดอคติกับเธอได้ขนาดนั้น

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

18 กันยายน 2015 เวลา 14:38:33
ไร้ทไม่สบายรึปล่าวคะ
หายไปนานเลยค่ะ

ส่งข่าวนิดนนึงนะคะ
รอฟังข่าวค่ะ

17 กันยายน 2015 เวลา 21:00:24
เค้ารออ่านนิยายคุนนะ
รอมานานเลย
ยังงัยมาอัพให้อ่านด้วยนะ
คิดถึงมากๆเลย

09 กันยายน 2015 เวลา 17:16:41
 :42:เรารออ่านนิยายเรื่องนี้ทุกวันเลยล่ะรุ้ป่าว
รีบมานิดนึงนะเรารออยู่ :65:

03 กันยายน 2015 เวลา 21:29:19
รอนานม้ากกกกก
ไม่มีบทของสายรุ้งเลยอ่ะจ้า
เค้าไม่ยอมๆๆๆๆ :17: :23: :23:
แสดงความคิดเห็น