web stats

ข่าว

 


My Wife Is The Boss- Chapter 18.5 : The Truth Is...

โพสต์โดย: anhann วันที่: 18 สิงหาคม 2015 เวลา 21:39:46 อ่าน: 516



นิยายเรื่องนี้เปิดให้จองแล้ว ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ  http://www.yuriread.com/index.php?topic=1371.0





Chapter 18.5 : The Truth Is...



เจย์นั่งบนโซฟาเดี่ยว  อยู่คนเดียวในห้องนอนอันกว้างใหญ่  เธอนั่งใกล้ริมหน้าต่าง  ปล่อยให้แสงสว่างจากภายนอกของตัวบ้านส่องผ่านผ้าม่านที่เปิดทิ้งไว้  กับโคมไฟเล็กๆ บนโต๊ะข้างเตียงเพียงดวงเดียวในห้องช่วยให้มองเห็นอะไรๆ  ช่วยให้เธอมองเห็นรูปโพลารอยด์ที่พลิกไปพลิกมาเล่นในมือ

'เจย์ควรจะบอกความจริงกับแดนนะ' เสียงเทย์เลอร์ดังขึ้นมาในหัว  แม้ตัวน้องจะถอดใจเดินกลับไปยังห้องตัวเองแล้ว  น้องคงเบื่อจะตอแยกับเธอที่ดื้อด้านสิ้นดี  ทั้งที่เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเธอ  รวมถึงทะเลาะกับคนรักของตัวเอง  เทย์เลอร์รักเธอมากแค่ไหน  ทำไมเธอจะไม่รู้  รู้สิ  เพราะรู้ถึงได้รู้สึกผิดที่ไม่ยอมฟังเขา  เพราะเธอเชื่อในความคิดของตัวเองมากกว่า

'ช่วงนี้  อารมณ์ของคุณจะสวิงไปสวิงมานะคะ  หมอแนะนำให้คุณบอกคนใกล้ชิดให้รู้ไว้  ป้องกันการผิดใจกัน' 

เจย์หัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึงคำที่หมอบอก  และสีหน้าเธอก็เจื่อนลง  เพราะสิ่งที่หมอเตือนไว้  มันเกิดขึ้นแล้ว  แดเนียลยังไม่กลับเข้ามาในห้องทั้งที่ท่าทางหล่อนเหมือนจะหลับเมื่อไหร่ก็ได้ตอนอยู่ในกองถ่าย  หล่อนควรจะกลับมาอาบน้ำ  ทานมื้อค่ำ  ดื่มนมอุ่นๆ และนอนพักผ่อนได้แล้ว  แต่เพราะเธอ  เธอที่ทำตัวน่าเบื่อหน่าย  ผลักดัน  ไล่หล่อนออกไปไกลจากตัว

ใครจะไปทนอยู่กับคนที่หาเรื่องกันตลอด  พาความไม่สบายใจมาให้ตลอดได้แบบนั้น  เหนื่อยๆ งานมา  ก็อยากจะมีคนเอาอกเอาใจกันบ้าง  ไม่ใช่  คอยแต่จะเหวี่ยงใส่  โยนเรื่องไม่สบายใจไปใส่หน้า  ถ้าหล่อนจะไม่กลับเข้ามาคืนนี้  ก็คงจะไม่แปลกนักหรอก

เจย์มองรูปโพลารอยด์ในมืออีกทีอย่างตั้งใจ  มันเป็นรูปทดลองถ่ายที่แซมถ่ายเธอกับแดเนียลก่อนที่จะใช้กล้องตัวจริงถ่ายซ้ำ  ถามว่า  เธอเอามันมาได้ยังไง  ง่ายๆ เลย  เทย์เลอร์จิกมาจากกระเป๋าแม่ตากล้องสาวนั่นมาฝากเธอ  เหมือนน้องอยากจะเตือนเธอเป็นนัยๆ ว่า  เธอควรจะจริงจังกับการพยายามจะรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคนรักให้มากเหมือนที่เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะมีทายาทสืบสกุล  เธออยากจะมีลูกแต่กลับเมินที่จะสนใจคนที่จะช่วยเธอเลี้ยงดูอุ้มชูเขาด้วยกัน  เธอไม่ได้เมินหล่อนนะ  เธอแค่หงุดหงิด  และนึกชังหน้าหล่อนเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้นเอง

นิ้วเรียวเล็กดีดลงกับใบหน้าใครคนหนึ่งในรูปถ่ายอย่างหมั่นไส้  ยิ้มกว้างขนาดนี้  มีความสุขมากสิท่า  เธอคิดพร้อมบิดปากราวมันเขี้ยวเจ้าของใบหน้ายิ้มแย้มกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนใสๆ นั่นเหลือใจ  ถ้าอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้  เธออาจจะบิดแขนหล่อนไปแล้วก็ได้  อารมณ์หล่อนในภาพนี้แตกต่างกับเธอลิบลับ  ขณะที่หล่อนยิ้มอย่างเต็มใจและมีความสุข  เธอกลับดูอึดอัด  เสแสร้ง  ไม่เต็มใจอย่างเห็นได้ชัด  ถ้ายัยบริทนีย์จะบอกว่า รูปนี้ไม่ผ่าน  เธอคงจะโทษเพื่อนไม่ได้  ไม่ใช่ความผิดของแซมหรือของแดเนียลด้วย  เธอผิดเต็มๆ

อารมณ์เธอชักจะสวิงมากเกินไปแล้ว  มากจนตัวเองยังรับมันไม่ค่อยจะไหว  หญิงสาวระบายลมหายใจออกมายาวเหยียด  พยายามผ่อนคลายความตึงเครียดในอารมณ์  ป่านนี้แดเนียลยังไม่กลับเข้ามา  หล่อนทำอะไรอยู่ 

'เจย์ไม่ต้องห่วงนะ  ฉันจะให้แซมเฝ้าไว้ให้  แดนไม่มีทางไปไหนได้แน่  นอกจากจะเมาหลับอยู่ตรงนั้น'  เสียงเทย์เลอร์ดังขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง  น้องบอกไว้ก่อนที่จะปล่อยให้เธอนั่งคุยกับตัวเองตามลำพัง  แล้วแบบนี้เธอควรจะออกไปตามหล่อนหรือเปล่า  มีคนอื่นมานั่งดื่มกับหล่อนด้วยไหมนอกจากแซม  คิดแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาอีก  ที่หางตาเห็นเจ้าหมีหน้านิ่งตัวโตนั่งพิงหมอนอยู่บนเตียง 

ดูเอาเถอะ  แดเนียลคนบ้า  หอบหมีหน้าตากวนประสาทมาจากบ้านที่นิวยอร์กมาถึงที่นี่ด้วย  ไม่รู้ชอบอะไรมันนักหนา  สองปีจะสามปีแล้ว  ไส้ในมันเน่าไปแล้วมั้ง 

'ทิ้งไปได้แล้ว  ตัวนี้น่ะ  ซื้อเอาใหม่'

'ไม่เอาค่ะ  มันมีคุณค่าทางจิตใจ  ถึงเปื้อนน้ำลายบ้าง  ฉันก็ซักจนสะอาด  ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม  หอม  กอดได้เหมือนเดิม'

'เธอมันเพี้ยนแดเนียล  ทำตัวเป็นเด็กติดหมีเน่าไปได้'

'ก็ฉันรักคนที่ให้มันมานี่คะ'

เจย์หลุดยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องนี้  เธอลุกขึ้นไปหยิบหมีสีน้ำตาลตากลมๆ หน้าตาเฉยเมยขนาดตัวเท่าเด็กห้าขวบตัวโตๆ คนหนึ่งขึ้นมาด้วยการดึงหูข้างหนึ่งของมัน  จ้องหน้ามันอย่างเคืองๆ เหมือนอยากจะส่งอารมณ์นี้ไปถึงคนที่ชอบเอามันมากอดตอนนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์  เคยถามหล่อนเหมือนกันว่าทำไมถึงชอบมันขนาดนั้น  หล่อนตอบกลับอย่างหน้าตายว่า  เพราะเจ้านี่มันหน้าเหมือนเธอ  เออ.. ลอกข้อสอบไอ้น้องเทย์มาอีกแล้ว  ตอนที่เธอยิงเป้าในร้านนั่น  เทย์เลอร์เชียร์ให้เธอยิงเพื่อชิงมันมาให้ได้  มาเป็นตัวแทนตัวเอง

"ไม่เห็นจะเหมือนสักหน่อย  พวกบ้า"  เธอว่า  และตีหัวเจ้าริลัคคุมะอย่างหมั่นไส้  แต่กลับจับมันขึ้นมากอด  เอาจมูกซุกไปบนหัวกลมๆ สีน้ำตาลอย่างที่เคยเห็นแดเนียลชอบทำเวลาที่หล่อนนั่งคิดงานเพลินๆ

หอม...

กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่จางลงไปแล้ว  ไม่ฉุนเหมือนตอนที่แดเนียลซักมันและตากจนแห้งใหม่ๆ  ซ้ำมันยังมีกลิ่นอายของตัวหล่อนปนมาด้วย  ความอุ่นและนุ่มจากตัวตุ๊กตายัดนุ่นช่วยให้เธอผ่อนคลายลงได้อย่างน่าประหลาด  มันอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่แดเนียลชอบกอดมันเวลาทำงาน  แต่ถึงอย่างนั้น  เธอก็ยังไม่ชอบขี้หน้ามันอยู่ดี

'เจย์อิจฉาตุ๊กตาเหรอ!'  เสียงเทย์เลอร์ตามมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง  ครั้งนี้มาพร้อมสีหน้าล้อเลียนที่เธออยากจะบิดพุงให้ขาด  แค่เธอเล่าถึงพฤติกรรมของแดเนียลที่เธอเห็นว่าแปลกให้น้องฟัง  เจ้าน้องทรยศกลับพูดจาแบบนี้ใส่เธอ  ทำไมเธอจะต้องอิจฉาเจ้าหมีบ้าหน้าตางี่เง่านี่ด้วย  เธอสวยและรวยมาก  อย่างที่สาวๆ หลายคนต้องอิจฉาต่างหากล่ะ

"งี่เง่า  รู้ไหม.. หน้าตาแกงี่เง่าเหมือนเจ้าของแกเลย"  เจย์จิ้มหน้าผากกว้างๆ ของเจ้าหมีสีน้ำตาลแรงๆ อย่างไม่กลัวว่าเนื้อผ้าที่เริ่มเก่าแล้วตามอายุการใช้งานจะขาดคามือ  แต่แล้วเธอกลับอุ้มมันไว้อย่างอ่อนโยนราวกับเป็นลูก  เหลือบตามองรูปโพลารอยด์ที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะใกล้โคมไฟอีกทีเหมือนจะให้มันช่วยในการตัดสินใจครั้งสุดท้าย  และแทบไม่ต้องเดาว่าเธอตัดสินใจยังไง  ตอนนี้เธอเดินอยู่นอกบ้านบนพื้นแข็งๆ ของหินแกรนิตผสมปูนที่ปูเป็นพื้นและทางเดินทอดยาวไปจนถึงสระน้ำ 

พยายามไม่สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นที่รู้สึกว่ามองมายังตัวเองตลอดทางจากทีมงานบางคนที่ยังไม่หลับไม่นอน  นั่งดื่มกิน  เฮฮากันอยู่ที่สนามหญ้าประหนึ่งนักท่องเที่ยว  เพราะรู้ว่าพวกเขาทำได้แค่มอง  ไม่กล้าจะมาวุ่นวายกับเธอแน่ๆ  เธอจึงทำเฉยเสีย  เชิดหน้าเดินต่อไปแม้จะมีเจ้าหมีหน้าตาน่าโมโหเกาะติดไปด้วย

ระหว่างทาง  เธอได้ยินเสียงบริททานีย์เรียกแว่วๆ  แต่แล้วเพื่อนสาวดีกรีดีไซน์เนอร์ดังก็หาได้มาขัดขวางการเดินทางของเธอ  เหมือนหล่อนจะรู้ว่า  เธอไม่ต้องการ  หรือไม่หล่อนก็มีอะไรที่น่าสนใจกว่าให้ทำ 

เจย์สาวเท้าก้าวเดินต่อไป  หากในท่าทีมั่นอกมั่นใจนั่น  แท้จริงแล้ว  เธอกำลังหวั่นใจว่า  จะเจออะไรในที่ที่คนรักนั่งอยู่กับเพื่อน  เด็กคนนั้นจะอยู่ด้วยหรือเปล่า  ถ้าอยู่จริงๆ แล้วเธอจะทำยังไง  เธอไม่ไว้ใจตัวเองว่า จะไม่ปรี๊ดแตก  กระชากใครมาแหกอกถ้ามีเรื่องแบบนั้นจริงๆ  แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์เข้าใจ  หรือน้องสาวเธอต่างหากที่เข้าใจ  ที่ปลายตา  เธอเห็นเทย์เลอร์นั่งเล่นกับโคลอี้โดยมีอาเรียคั่นตรงกลาง  อาเรียกำลังเม้าท์อะไรสักอย่างท่าทางออกรสออกชาติมากๆ เดาว่าคงสนุกจนสามารถทำให้สองแสบอย่างเทย์เลอร์กับโคลอี้นั่งติดที่อย่างนั้นได้  หรือพวกเขาจะเมาเพราะของในแก้วพลาสติกสีแดงที่ถืออยู่  นี่ถ้าไม่ติดว่ามีอาเรียนั่งอยู่ด้วยในนั้น  เธอคงจะคิดว่าน้องเทย์กางเล็บที่ซ่อนไว้ออกมาเตรียมจิกโคลอี้เข้าฮาเร็มอีกคน 

แต่คงไม่  เทย์มันไม่ใช่คนเดิมแล้ว  เธอก็เหมือนกัน...

เสียงกีต้าร์ดังแว่วมาเข้าหู  ดวงตาเธอกะพริบอย่างแปลกใจ  ไม่คิดว่า มาทำงานอย่างนี้จะมีใครอารมณ์สุนทรีพอที่จะหอบกีต้าร์โปร่งสักตัวมาด้วย  แต่ถ้าไม่มีใครเอามาจริงๆ  แล้วเธอจะได้ยินเสียงมันได้ยังไง  คงมีใครสักคนที่เผลอคิดว่า  นี่เป็นทริปทัวร์แอลเอมากกว่าการมาสุมหัวทำงานโปรเจ็คใหม่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์  หรือว่า  เขาจะเอามาไว้เล่นระหว่างนั่งเฮฮากับเพื่อนๆ อย่างตอนนี้  ความคิดนี้ทำให้นึกถึงแดเนียลตอนไม่รีบร้อนปิดงาน  ระเบียงหน้าบ้านหลังเล็กหรือสตูดิโอของหล่อนกับแซม  มักจะกลายเป็นผับย่อมๆ ที่สองเพื่อนซี้จะมานั่งดื่มด้วยกัน  พูดเรื่องงานศิลปะที่เธอไม่เข้าใจ  และแดเนียลก็จะนั่งเล่นกีต้าร์ไปพลางๆ เป็นเพลงที่เธอรู้จักบ้าง  ไม่รู้จักบ้าง 

จะว่าไป  เสียงกีต้าร์แบบนี้  ก็คล้ายกันมากกับที่เธอเคยได้ยิน...

หรือว่า...

ใช่จริงๆ..  แดเนียลนั่งเล่นมันอยู่บนขอบสระน้ำ  มีแซมที่นั่งฮัมเพลงไปพลางกระดกขวดเบียร์ขวดเล็กเข้าปากไปพลาง  ตรงพื้นรอบข้างพวกหล่อนมีขวดเบียร์เปล่าวางระเกะระกะหลายขวด  นับได้เกือบครบลัง  นี่กะจะกินกันให้ตายเลยหรือไง  แล้วไปเอากีต้าร์ใครมาเล่นเนี่ย!

เจย์ขมวดคิ้วแน่น  จิกตัวเจ้าหมีที่อุ้มมาด้วยอย่างโมโห  อยากจะเอามันปาใส่หน้าเจ้าของมันเหลือใจ  แต่นั่นก็เท่ากับว่า  เธอมาหาเรื่องสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหล่อนเพิ่ม  และนอกจากจะกินเบียร์แล้ว  หล่อนก็ไม่ได้ทำอะไรที่เธอไม่ชอบเลย  เธอไม่ได้กลิ่นบุหรี่ตรงนี้เหมือนกับที่เคยได้กลิ่นเวลาไปบ้านเล็ก  แดเนียลกับแซมไม่ได้ติดบุหรี่แต่ชอบสูบเวลาต้องใช้ความคิดหนักๆ  อ้างว่า  ระบายความเครียด  อีกทีก็ตอนที่ดื่ม  เหมือนเทย์เลอร์เวลาไปเจอเพื่อนๆ หรือลูกค้าบางคน  พวกเขาบอกว่า  มันเป็นการเข้าสังคมอย่างหนึ่ง  ซึ่งเธอไม่ค่อยเข้าใจนัก  ถ้าไม่สูบบุหรี่  ไม่กินเหล้า  จะคุยกันไม่รู้เรื่องหรือไง  แต่เธอเองก็ติดดื่มไวน์รสชาติดีๆ  ตอนคุยธุรกิจเหมือนกัน  แต่ช่วงนี้เธอคงต้องงดของที่มีแอลกอฮอล์ทุกอย่างอย่างเด็ดขาด  ถ้าไม่อยากให้มีความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นอีก  ครั้งนี้เธอคงต้องร้องไห้เป็นปีแน่ๆ

"เฮ้แดน..  หวานใจมา"  เสียงแซมที่แหบกว่าปกติดังขึ้นเมื่อตาสีฟ้ากระจ่างหันมาเจอเธอ  ท่าทางสาวบลอนด์ดูขำๆ หรือเพราะเจ้าริลัคคุมะที่เธออุ้มมาด้วย  แดเนียลเลิกเกากีต้าร์  เลิกคิ้วมองเธอสลับกับหมีสีน้ำตาลในอ้อมอกเธออย่างแปลกใจ  แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอะไรเท่าไหร่  ถ้าหล่อนไม่ยิ้ม

รอยยิ้มพออกพอใจนั่นเหมือนจะอวดกับคนทั้งโลกว่าหล่อนชนะเธออีกครั้ง  เธอเดินกลับมาง้อหล่อนเองโดยที่หล่อนไม่ต้องไปไล่ตามให้เสียเหงื่อสักเม็ด  แต่เพราะเธอรู้ว่า  เธอผิดเองต่างหากนะ  ไม่ใช่จะง้อส่งเดชสักหน่อย!

"นั่งด้วยกันสิคะ  ถ้าไม่รังเกียจ"  เสียงที่แหบทุ้มอยู่แล้วยิ่งแหบขึ้นอีกเมื่อหล่อนดื่ม  เจย์ฟังแล้วรู้สึกสะท้านแปลกๆ  หรือเพราะเธอหนาว  เธอรีบออกมาจนลืมสวมเสื้อคลุมมาด้วย  ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่เดรสสายสปาเก็ตตี้สีดำที่ใส่มาตั้งแต่เช้า

และก็เหมือนรู้ใจหรือเธอแสดงออกชัดไป  มือกีต้าร์สมัครเล่นจึงถอดเสื้อแจ็คเก็ตส่งมาให้ด้วยรอยยิ้มใจดีที่ทำให้เธอปฏิเสธมันไม่ลง  แต่แทนที่จะให้เธอใส่เอง  หล่อนกลับพยักหน้าเรียกให้เธอเข้าไปนั่งใกล้ๆ และเอาเสื้อคลุมไหล่ให้อย่างอ่อนโยน  แถมยังชะโงกหน้ามาจูบหน้าผากเจ้าหมีบ้าที่เธอกอดไว้ซะอีก  หล่อนดูคิดถึงมันมากกว่าเธออีกแน่ะ

"นี่ห้ามอ้วกใส่สระน้ำของฉันนะ"  เจย์หันไปตวาดแซมที่ทำหน้าผะอืดผะอมแบบแกล้งๆ อยู่อีกด้านของแดเนียล  น้องสะใภ้ตัวดีของเธอฉีกยิ้มกวนๆ กลับมา  ดูเหมือนว่า  ความกลัวในตัวเธอของบลอนดี้จะลดลงตามระยะเวลาที่เราอยู่ร่วมกัน  หลายครั้งที่เธอแอบได้ยินหล่อนเม้าท์กับเทย์เลอร์ว่า  เธอเหมือนชิวาว่า  ตัวเล็ก  เห่าเก่ง  แต่ไม่ได้กัดอย่างจริงจัง 

เออ.. ดูเด็กพวกนี้สิ  มันไม่เคยคิดเลยว่า  เธออายุมากกว่า  กระทั่งเป็นเจ้านายพวกมัน  แต่เธอไม่ควรจะคาดหวังอะไรเรื่องนี้กับพวกฝรั่งจ๋าทั้งหน้าตาและนิสัยอย่างนี้สินะ  นิสัยเจ้ายศเจ้าอย่างตามมาดามคาร์เตอร์ใช้ไม่ได้กับเด็กพวกนี้หรอก  แต่ละคน  กวนประสาททั้งนั้น!

"โทษทีค่ะบอส  มันรู้สึกเหมือนได้กลิ่นหวานเลี่ยนลอยมาน่ะค่ะ" แซมพูดพร้อมทำจมูกฟุดฟิด  ทำหน้ายี้เสริมราวกับเหม็นอะไรจริงๆ  เจย์ถลึงตามองน้องสะใภ้  แต่ใกล้ตัวเธอกลับเอามือมาลูบหลัง เหมือนจะปลอบให้เธอใจเย็นๆ  ไม่ให้ลุกขึ้นไปตะบปหน้ายัยตัวแสบหัวทอง

"แดน..  ไม่ได้กลิ่นหรือไง  ฉันว่ามันฉุนขึ้นทุกทีแล้วนะ"  บลอนดี้ยังไม่เลิกแหย่  แม้คุณพี่ภรรยาจะจ้องตาแทบถลนออกจากเบ้า  และมือเล็กๆ ก็ขยำเจ้าหมีหน้าอึนนั่นจนมันแทบจะไส้ทะลัก

"ไม่แซม.. ฉันได้กลิ่นแต่อะไรหอมๆ"  แดเนียลบอก  งอตัวลงจนคางแทบจะเกยบ่าเธอ  จมูกโด่งๆ เฉียดพวงแก้มเธอไปนิดเดียว  ตาสีน้ำตาลอ่อนใสปิ๊งปั๊ง  แววของมันดูเจ้าเล่ห์มากกว่าไร้เดียงสา  ลมหายใจหล่อนมีกลิ่นเบียร์รุนแรง  แต่ไม่ถึงขั้นที่เธอจะต้องอุดจมูกหรือเบนหน้าหนี

"โห.. ถ้าทำขนาดนั้น  พาเข้าห้องไปเถอะ  ประเจิดประเจ้อ"

"เวลาเธอกับเทย์แทบจะอะไรกันตรงหน้าฉันเมื่อกี้  ฉันยังไม่ว่าเลย"

"เออ.. ไม่ว่าก็ได้  พอเมียมา  ลืมเพื่อน" บลอนดี้ว่า  เอื้อมมาผลักหัวแดเนียลจนแทบล้มมาทับเธอที่นั่งข้างๆ  จากนั้นแม่ตากล้องขี้เมาก็จากไปพร้อมเบียร์สองขวดอย่างไม่มีการเดินสะโหลสะเหลให้เห็น  คอทองแดงเป็นบ้า

"หนาวไหมคะ  เข้าไปข้างในไหม"  เสียงแหบแห้งกระซิบถามข้างหู  เจย์รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองมีความร้อนกระจายไปทั่ว  หรือเพราะลมหายใจร้อนๆ จากหล่อนที่แขนยาวโอบไหล่เธอดึงเข้าไปหาตัวเสียแล้ว 

แดเนียลใส่เสื้อยืดผ้านุ่มหนาแขนยาว  ตัวหล่อนจึงอุ่นกว่าเธอที่ไหล่เปลือยรับลมเต็มๆ แต่แจ็คเก็ตหนังอย่างดีของหล่อนก็พอจะช่วยกันอากาศเย็นๆ ยามค่ำอย่างนี้ได้บ้างอยู่แล้ว  ตอนนี้ตัวเธอเลยร้อนขึ้นหรือเปล่า

"อุ่นแล้วล่ะ"  เธอตอบเสียงเบาเหมือนกลัวเสียงตัวเองจะสั่น  แต่ความใกล้แค่กระดาษกั้นจึงไม่เป็นอุปสรรคในการได้ยิน  ริมฝีปากหยักจึงคลี่ยิ้มในแบบที่ทำให้หัวใจเธอเต้นสะดุดจังหวะ

"งั้นนั่งตรงนี้สักพักนะคะ"  หล่อนว่า  พร้อมเลื่อนกีต้าร์ไปไกลตัวด้วยมือข้างเดียวที่ว่างจากการกอดเธอ  จากนั้นก็หันกลับมาสนใจเธอแค่คนเดียว  ไม่ใช่สิ  สนใจเจ้าหมีบ้านี่ด้วยต่างหาก!

"เอาออกมาด้วยทำไมคะ จะเอาไปโยนทิ้งเหรอ"

"ก็ว่างั้นแหละ  แต่มันจ้องหน้าฉันขนาดนี้  ก็เลยต้องเก็บเอาไว้  เอามาคืนเธอ"  เจ้าหมีหน้ามึนกระแทกใส่พุงแบนๆ ของแดเนียลอย่างแรงด้วยมือเธอ  หล่อนทำหน้าจุกๆ แต่กลับยิ้มขี้เล่นระคนเอ็นดูกลับมา  สายตาหล่อนเหมือนมองเห็นเธอเป็นเด็ก  เป็นเด็กผู้หญิงเอาแต่ใจ  ขี้วีน  อารมณ์แปรปรวนง่ายกว่าอากาศในลอนดอน

"ฉันชอบมองมัน  เพราะมันหน้าเหมือนคุณ"

"ฉันไม่ได้หน้าตาปัญญานิ่มแบบนี้สักหน่อย  มั่ว"  มือเล็กตบหัวกลมๆ สีน้ำตาลอย่างคนขี้พาล  หากรอยยิ้มก็ยังคงไม่จางไปจากใบหน้าของคนที่อุ้มมันแทนเธออยู่

"คุณชอบทำหน้านิ่งๆ เหมือนมัน  เวลาที่คุณไม่อยากแสดงอารมณ์" แดเนียลว่า  พลางก้มลงหอมหัวนุ่มๆ ของเจ้าหมีที่กระตุ้นต่อมขี้อิจฉาของเธอให้ตื่นขึ้นได้อย่างทุกครั้งเวลาที่หล่อนอยู่ใกล้มัน

"แต่ฉันไม่ได้มีอารมณ์เดียวเหมือนมันสักหน่อย"  เจย์เถียงเสียงสะบัด  มองค้อนทั้งหมีทั้งคนที่อุ้มมันอยู่  แต่ริมฝีปากเล็กที่เม้มอย่างหงุดหงิดใจก็ต้องคลายออกเพราะถูกอีกริมฝีปากที่เข้ามาทาบกะทันหันบดเบียดมัน  ทำให้เธอต้องเผยอปากตอบรับจูบหวานฉ่ำเจือรสขมของเบียร์

"คุณไม่ได้มีอารมณ์เดียวหรอกค่ะเจย์  คุณมีหลายอารมณ์จนฉันตามไม่ทันต่างหาก"  โจรขโมยจูบกระซิบขณะผละออกไปนิดปล่อยให้เธอได้สูดลมหายใจเล็กน้อยแล้วกดริมฝีปากเข้ามาอีกครั้ง  หล่อนจูบเธอหนักจนเธอต้องทุบบ่าหล่อนให้ผ่อนแรงลง  เกรงจะขาดใจตายเสียก่อน  ความร้อนที่แผ่ขยายจากใบหน้าลามไปจนทั่วตัวเธอแล้ว

"ดะ.. แดนอย่าสิ  เราอยู่ข้างนอกกัน"

"งั้นกลับไปข้างในกันนะคะที่รัก"  เธออยากจะแย้ง  อยากจะบอกว่าไม่ไป  หากสายตาอ้อนวอนที่มองมาก็พาให้ใจอ่อนยวบ  พยักหน้าให้หล่อนก่อนจะซุกหน้าเข้าซอกคออย่างอับอาย  จนได้สิ  เธอไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้านหล่อนสักนิดเลย  หรือเพราะเธอกำลัง....

"เดี๋ยวแวะเอากีต้าร์คืนโจอี้ก่อนนะคะ  เผื่อเขาจะใช้  คุณจะเข้าไปในบ้านก่อนไหม"

"ฉันรอเธอตรงนี้ก็ได้" เจย์บอก  กอดเจ้าริลัคคุมะแน่นไว้กับอกเหมือนเหงาขึ้นมากะทันหันเมื่ออีกฝ่ายปล่อยมือจากเธอ 

พยายามไม่มองตามหล่อนไป  เพราะกลัวคนที่นั่งอยู่ในกลุ่มนั้นจะเห็นแววตาอาลัยอาวรณ์ที่สะท้อนอยู่ในดวงตาเธอ  แต่หางตาก็ยังเห็นพวกเด็กสาวเด็กหนุ่มตรงนั้นทำท่าล้อเลียนแดเนียล  และได้ยินแว่วๆ ว่าพวกเขาแซวหล่อนเรื่องเธอ  นั่นแหละที่ทำให้เธอต้องหันไปขึงตาใส่พวกเขาจนเงียบกริบกันเหมือนผีเดินผ่าน  ท่าทางทะลึ่งทะเล้นหายวับ  แทบจะกระเจิงกันไปคนละทาง

"ทำอะไรพวกเขาคะตัวเล็ก"  แดเนียลถามเสียงขำเมื่อกลับมาหา  มือจับเอวเธอรั้งให้เดินไปด้วยกันกึ่งบังคับ  เธอเดินตามแต่ไม่วายหันไปตาขวางใส่พวกเด็กแสบที่ส่งเสียงแว่วมาให้ได้ยินอีก

"ดุจริงๆ เล้ย"

"ไม่ต้องพูดเลย  เดินไปเร็วๆ" เจย์สั่งเสียงแข็ง  แต่แดเนียลกลับยิ้มชอบใจเหมือนคนสติไม่ดี  หล่อนหันมากระซิบว่า  ถ้าเธอไม่ใส่กระโปรงอยู่  จะให้ขึ้นหลังแบกเข้าบ้านไปแล้ว  เธอตีหลังหล่อนไปหนึ่งทีกลบความอาย  หล่อนหันมาก้มจูบปากเธอดังจ๊วบ  ฉกเจ้าหมีขี้เกียจจากมือเธอไปและวิ่งนำเข้าบ้านไปก่อน  ตอนถึงประตูบ้านก็ยังจะหันกลับมากวักมือเรียกเธอพร้อมสีหน้าล้อเลียน  ส่งเสียงหัวเราะคิกคักแล้วจึงผลุบหายเข้าไปในบ้าน  ทำตัวไม่ต่างกับลิงหลอกเจ้าเลย  แต่เธอกลับยิ้มรับพฤติกรรมนี้ราวกับเห็นว่ามันน่ารักดี

"เจย์..  รีบๆ เข้ามาสิคะ  ฉันรอนานแล้วนะ"

"ขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  แปรงฟันก่อนเลยย่ะ  ไม่ต้องมาพูดดี"

"ก็ได้ค่ะ  ตัวจะได้หอมๆ  ปากจะได้หอมๆ เวลาเรา.... กัน"

"ทะลึ่ง!  ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"  คนตัวเล็กกว่าส่งเสียงไล่  เจ้าตัวใหญ่ที่แวบมาโผล่หน้ากวักมือเรียก  เสียงฝีเท้าของแดเนียลค่อยๆ จางไปเพราะหล่อนคงจะวิ่งขึ้นบันไดบ้านไปแล้วราวเด็กซนๆ ไฮเปอร์คนหนึ่ง 

วูบหนึ่งเธอคิดจะวิ่งตามหล่อนไปบ้าง  หากก็ชะงักเท้าเอาไว้  มือแตะหน้าท้องตัวเอง  ก้มมองมันคิ้วขมวดน้อยๆ แล้วจึงค่อยเดินเข้าบ้านไปด้วยความเร็วที่ไม่ต่างจากการเดินปกติมากนัก   



...........................................................


แต่นแต๊น!!!

อันนี้คือตอนพิเศษที่สัญญากันไว้ค่ะ  จริงๆ ลงไปตอนนึงแล้วนะคะ ตอนที่ 11.5 น่ะค่ะ  ถ้าเป็นตอนพิเศษ เราจะใส่ .5 แบบนี้ลงไปที่ท้ายเลขตอนค่ะ เหมือนในมังงะ  5555  คนเขียนติดมังงะก็แบบนี้แหละ อิอิ

อ่านตอนนี้ไปแล้ว  เป็นยังไงบ้างคะ  เจย์มีเรื่องอะไรที่ไม่ได้บอกแดนหรือใครๆ หรือเปล่านะ  นางดูพิกลอยู่นะ  ว่าไหม?  อิอิ  :28:

เดากันไปก่อนค่ะ  เดี๋ยวเจย์ก็มาเฉลยให้เองแหละ

อ้อ.. ลืมบอกไป  เจ้าริลัคคุมะเนี่ย  เป็นขวัญใจของคนเขียนเองแหละ  มันหน้าตาเหมือนบอสดีนะคะ  เหมือนที่แดนบอก 5555

ขอบคุณมากค่ะ  แล้วเจอกัน  อีกสองวันนะคะ  ใครยังไม่ได้จอง  เร่เข้ามาเลยค่ะ  ใครจองแล้ว ขอบคุณมากๆจ้า  ใครรออีบุ๊คอยู่  น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนคงได้วางแผงให้สอยกันค่ะ  ใจเย็นๆ หน่อยนะคะ

ไปแล้วค่ะ บาย  :45:

ป.ล. ผ่านเรื่องราวและเหตุการณ์ร้ายๆ ไปแล้ว  แต่ยังไงก็ขอให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองนะคะ  กลับบ้านเร็วๆ หน่อยค่ะ ช่วงนี้  มาอ่านนิยายกันเถอะ  ขอทุกคนจงปลอดภัยค่ะ รักนะ  :02:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น