web stats

ข่าว

 


Queen's tales Season2- บทที่ 6 : My Shining Star

โพสต์โดย: anhann วันที่: 31 กรกฎาคม 2015 เวลา 16:16:36 อ่าน: 411






บทที่ 6 : My Shining Star         





ดวงตาสีเลือดมองสีผิวที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากขาวซีดเป็นชมพูระเรื่ออย่างสนใจ  ใช่ว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเธอเวลาที่ร่างกายถูกความปรารถนาครอบงำ  หากความรู้สึกที่เป็นมันต่างกันเมื่อเธอเห็นผู้หญิงตรงหน้าเป็นเช่นนี้

ไอซิสรู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่อาจจำแนกได้ว่า  เพราะความสวยของหล่อนหรือเพราะเธอไม่เคยเห็นความเปลี่ยนแปลงอันนี้  บางทีเธออาจไม่เคยคิดว่า  หล่อนซึ่งปกติมีร่างกายประหนึ่งสิ่งมีชีวิตไร้เลือดเนื้อจะกลับกลายมาดูยิ่งกว่ามีชีวิตชีวาเพราะถูกเธอปรนเปรอเอาอกเอาใจ  ในทุกครั้งที่หล่อนสมปรารถนากับรสรัก  เรือนร่างหล่อนจะคล้ายมีแสงเรืองรองโอบล้อม  เธอไม่รู้หรอกว่า  ปรากฏการณ์นี้มันเกิดเฉพาะเวลาหล่อนร่วมเตียงกับเธอหรือกับคนอื่นก็เป็น  หากกระนั้น  เธอก็ยอมรับว่า  หัวใจเธอมันฉ่ำชื่นที่ได้รู้ว่า  ตนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น

"ไอซิส.."  ชาร์ล็อตส่งเสียงแตกพร่าเรียกชื่อเธอขณะที่ปลายนิ้วเกือบครบสิบจิกกดแผ่นหลังเธอรุนแรง  สีหน้าหล่อนแสดงอาการทรมานเหลือแสน  หากร่างกายท่อนล่างกระตุกรับเรียวนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปเติมเต็มอย่างไม่ขัดขืน  โอบรัดและกลืนกินเธออย่างกระหายคล้ายว่า  ต้องการมันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

"ต้องการให้ข้าจูบเจ้าไหม" ไอซิสกระซิบหยอกเย้า  รู้สึกสนุกกับการเห็นอีกคนทุกข์ทรมานด้วยอารมณ์พิศสวาทที่แผดเผาร่าง  เพราะชาร์ล็อตชอบที่จะปฏิเสธว่าไม่ต้องการเธอ  หากร่างกายหล่อนกลับโป้ปดไม่เก่งเท่า  มันตอบสนองสิ่งที่เธอให้ทุกครั้ง  กี่ครั้งแล้วก็อาจจะจำได้ไม่ครบที่หล่อนถูกเธอทรมานด้วยความหอมหวานแห่งกิเลสตัณหา

ไม่รู้เพราะเหตุใดเธอจึงทำราวชื่นชอบโอบกอดหล่อนปรนเปรอหล่อนให้สุขสมด้วยวิธีนี้  หรือเพราะสุ้มเสียงร้องเรียกชื่อเธอที่ออกมาราวจะขาดใจตายเสียให้ได้มันกระตุ้นความต้องการของเธอ  มันทำให้เธอรู้สึกกระตือรือร้น  ปรารถนาที่จะเห็นหล่อนทุรนทุรายในอ้อมกอดของเธอ

บางทีเธออาจจะถูกมนตราของซาตานที่สวยที่สุดครอบงำจิตใจไปแล้ว..

ชาร์ล็อตไม่ตอบคำถามด้วยการพูด  หากริมฝีปากฉ่ำหวานเข้ามาครอบครองปากเธออย่างบังคับ  เรียวลิ้นแข็งแรงแทรกเข้ามาสำรวจในโพรงปาก  เธอครางรับการกระทำห้าวหาญอย่างหมดทางเลือก  เหมือนกับที่ยินยอมให้หล่อนพลิกตัวขึ้นด้านบน  ปรนเปรอตัวเองด้วยการหยิบยืมมือเธอซึ่งคงจะเคลื่อนไหวเชื่องช้าไม่ทันใจ  หากเธอจะว่าอะไรได้เมื่อหล่อนก็ช่วยให้เธอสุขสมไปพร้อมๆ กันด้วยเรียวนิ้วที่หยอกเอินช่องทางร้อนก่อนจะสอดเข้าไปเติมเต็มให้กัน

และในความหม่นเบลอจากม่านแห่งตัณหาราคะ  ดวงตาสีเลือดยังอุตส่าห์มองเห็นแสงเรืองรองเปล่งประกายออกมาจากเรือนร่างของหญิงสาวที่คร่อมร่างเธอเอาไว้  ชาร์ล็อตคล้ายปีศาจแห่งความฝันที่คอยเก็บเกี่ยวพลังงานทางเพศจากคู่ขาไปเป็นของตัวเอง  หากความจริงแล้ว  ร่างกายหล่อนเต็มไปด้วยเวทย์มนต์  หล่อนซึมซับพลังเวทย์ที่ถ่ายทอดจากร่างกายเธอไปคล้ายกับตอนที่คาร่าเองก็เคยได้จากเธอ  และจากการคาดเดาหรือที่ปรากฏในหนังสือตำนาน  มันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนที่หล่อนร่วมหลับนอนด้วย  เพราะเหตุนั้น  ผิวของหล่อนจึงเพิ่งจะเปลี่ยนสีแบบนี้ใช่หรือไม่

ไอซิสปรือตาอันอ่อนล้าขึ้นเมื่อรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวจากสิ่งใกล้ตัว  แขนยาวรั้งตัวคนที่ขยับลุกขึ้นนั่งอย่างไม่จำเป็นต้องสั่งมัน  ชาร์ล็อตหันมาเลิกคิ้วมองประหลาดใจ  "เจ้าจะไปไหน  จะทิ้งข้าให้นอนหนาวคนเดียวหรือ"

"ข้าห่มผ้าให้เจ้าก็ได้เจ้าหญิง"  ชาร์ล็อตยิ้มบางๆ ดวงตาสีม่วงเป็นประกายสะท้อนกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลอดผ้าม่านที่หน้าต่างเข้ามา  หล่อนโน้มตัวลงจับผ้าห่มอุ่นตั้งใจจะคลุมร่างให้เธอโดยไม่สนใจว่าเรือนร่างตัวเองกำลังนั่งประกาศความขาวเปล่งปลั่งล่อตาล่อใจใครอยู่

ไอซิสเผลอกัดปากระหว่างนอนมองทรวงอกที่กระเพื่อมไหวตามแรงขยับตัวของอีกฝ่าย  ใช่ว่าไม่เคยเห็น  ใช่ว่าคาร่าไม่มีแบบนี้ให้เธอดู  หากตอนนี้ผู้หญิงคนนี้เท่านั้นที่เธอสามารถมองและจับต้องได้โดยไม่รู้สึกว่าทำผิดต่อใคร  ชาร์ล็อตเป็นคู่หมั้นของเธอ  จะรักกันหรือไม่  สักวันเราก็ต้องแต่งงานกัน  ซ้ำเธอก็รู้สึกว่า  เธอสามารถอยู่ได้แล้วแค่มีหล่อนคอยตะคองกอดไว้  เธอชอบร่างกายของชาร์ล็อต  มันคล้ายกับทุกอณูในตัวหล่อนร่ำเรียกหาเพียงเธออยู่ตลอดเวลา  ขณะที่คาร่าสามารถอยู่กับใครก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเธอ

"ไอซิส..  ข้าต้องกลับแล้ว"  ชาร์ล็อตกระซิบเสียงสั่น  มือขยำเส้นผมเธออย่างเผลอไผล  เพราะเธอที่กำลังหยอกเย้าก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นอย่างสนุกสนาน  ร่างบางทิ้งแผ่นหลังลงกับหัวเตียงเมื่อเรี่ยวแรงเหือดหายกะทันหันจากริมฝีปากที่ดูดดึง  มือที่บีบเคล้นล้อเล่นกันไม่เลิกรา

"ไอซิส.. เจ้าทำเหมือนทารก"

"เจ้าทำให้ข้ากระหายตลอดเวลา  ร่ายมนต์ดำอะไรใส่ข้าหรือเจ้าหญิงแห่งความมืด"  ไอซิสถามขี้เล่น  เล็มเลียปลายถันสีชมพูก่อนจะดูดมันราวจะเค้นเอาน้ำนมออกมาให้ได้  ชาร์ล็อตสูดลมหายใจเข้าลึก  มือจิกหัวเธอแรงขึ้น

"ข้า..  ข้าจะทำ  ทำไม..  โอ.. ข้าต้องกลับแล้วไอซิส"  เจ้าหญิงจากดินแดนอันมืดมิดร้องห้าม  หากอีกฝ่ายก็ดื้อดึงเกินกว่าจะทัดทานเอาไว้ได้ 

เรือนกายเธอสั่นสะท้านตามสัมผัสแห่งริมฝีปากฉ่ำที่เลื่อนผ่านร่องอก  หน้าท้องจนไปถึงจุดสำคัญ  เรียวลิ้นมากประสบการณ์เปลี่ยนเสียงร้องห้ามเป็นร้องหา  ถ้าเธอจะตายตอนนี้ก็เพราะไอซิสที่ไม่หยุดทำให้เธอคลุ้มคลั่ง  ไอซิสเหมือนเด็กที่กำลังตื่นเต้นกับของเล่นชิ้นใหม่  สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำๆ มาหลายคืนกับหลายวันนี้  เพราะเขากำลังสนุก

ไม่อยากจะคิดเรื่องนี้ให้ทำร้ายตัวเอง  แต่มันก็คือความจริง.. 

เธอก็แค่ตัวสำรอง..


"เจ้าไม่มีความสุขหรือไร"  ไอซิสกระซิบถามเมื่อรู้สึกว่ามือที่กอดรอบคอเธอแน่นเมื่อครู่หลุดหล่นลงไป  หรือสมใจแล้วก็ไม่อยากจะกอดเธอต่อ

"โอ.. ก็เจ้าเสร็จสมใจแล้วนี่นะ"

"เจ้าทำแบบนี้ทำไม  เจ้าเห็นข้าเป็นใครไอซิส"

เจ้าของดวงตาสีเลือดขมวดคิ้วจ้องหน้าอีกฝ่ายที่มองเธอด้วยแววตาขุ่นเคืองเหมือนเธอทำความผิดอะไรสักอย่าง  "เจ้าก็เป็นเจ้าสิชาร์ล็อต  ถามอะไรแบบนี้กันเล่า"

"เจ้าไม่ได้รักข้า  เจ้าจะมาทำเหมือนเราเป็นคนรักกันอย่างนี้ไม่ได้"

"แต่เจ้าเป็นคู่หมั้นข้า  ทำไมข้าจะแตะต้องเจ้าไม่ได้ชาร์ล็อต  และตัวเจ้าก็ไม่เคยปฏิเสธข้าเลยสักครั้ง  เจ้าต้องการข้า  เจ้าต้องการถูกข้าปรนนิบัติจะตายไป  เลิกปฏิเสธมันทีเถอะ  เจ้าชอบเวลานิ้วของข้าเคลื่อนไหวในตัวเจ้า  เจ้า--"

"พอทีไอซิส  หยุดพูดจาเหมือนข้าเป็นโสเภณีสักที!"  มือแข็งแรงยกขึ้นบีบปลายคางอีกฝ่ายบังคับให้หยุดพูดเสียดแทงหัวใจกัน  มันเป็นความจริงที่เกินจะยอมรับได้  เธอชอบทุกสัมผัสของไอซิสที่กระทำกับร่างกายเธอ  สัมผัสที่เธอโหยหามาตลอดกาล

"แค่เจ้าไม่รักข้า  ข้าก็เวทนาตัวเองเกินพอแล้ว  พอที.."

ไอซิสดึงมือที่บีบคางตัวเองออกและบีบข้อมือบางนั่นเอาไว้ไม่ให้หวนกลับมาทำร้ายกันได้อีก  บางทีคงจะดีกว่าถ้าเธอจะพูดอะไรให้ชัดเจน

"สำหรับข้า  ความรักไม่สำคัญเท่าหน้าที่ที่ข้ามีต่อเจ้า  และหากเจ้าจะยอมเชื่อใจข้าสักครั้ง  ข้าขอสัญญากับเจ้าว่า  ข้าจะอยู่กับเจ้า  แต่งงานกับเจ้า  ข้าจะคิดถึงเจ้าเพียงคนเดียว"

"ทั้งที่หัวใจเจ้าเต็มไปด้วยคาร่าเนี่ยนะ  ล้อข้าเล่นหรือเปล่าไอซิส  อย่าทำให้ข้าน่าสงสารไปกว่านี้เลย  หรือแค่นี้ข้ายังน่าสมเพชในสายตาเจ้าไม่พอ"

"เจ้าเป็นผู้หญิงจริงๆ เลยชาร์ล็อต"  ไอซิสเอ่ยอย่างขำขันขณะที่อีกคนขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดใจ  แววตาเต็มไปด้วยความฉงนฉงายในตัวเธอ 

"เมื่อก่อนข้าเคยคิดว่าเจ้านิสัยเหมือนผู้ชาย  ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะ..."

สายตาประเมินจากคนอายุน้อยกว่าพาให้คนถูกจ้องนั่งไม่ติดที่  "ข้าไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชาย  ข้าแค่ทำงานกับผู้ชาย  ทั้งเสนาทั้งอำมาตย์ที่วังข้ามีแต่ผู้ชาย  แล้วเจ้าจะให้ข้าเป็นยังไง  ถ้าข้าเอาแต่ปั้นหน้าสวยไปวันๆ ใครกันจะไว้ใจให้ข้าปกครองเขา  ท่านพ่อข้าไม่เคยสอนข้าแบบนั้น  และข้าก็ไม่ใช่น้องเล็กที่วันๆ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเหมือนเจ้านี่  ข้าไม่มีเวลามาวิ่งเล่นในสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้เหมือนเจ้าหรอกนะ"

"ข้าไม่เคยวิ่งเล่นในสวนดอกไม้สักหน่อย  เจ้าเอาอะไรมาพูด!" 

"ข้าเห็นกับตา  เจ้าหญิงแสนซนใส่กระโปรงงดงามวิ่งเล่นกับมหาดเล็กตัวจิ๋ว  วิ่งมาเกาะขาข้าชวนข้าไปเล่นด้วย"  ชาร์ล็อตเล่าตามจริง  ลืมสนใจรอยยิ้มพอใจจากอีกฝ่ายที่เห็นร่องรอยความสดใสที่เกิดขึ้นจากความทรงจำนั้นจากใบหน้าตนเอง  เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังยิ้มอยู่จนกระทั่งถูกล้อเลียน

"ที่แท้เจ้าก็ชอบอะไรที่ตรงข้ามกับตัวเอง  หรือว่าจริงๆ แล้ว  เจ้าก็อยากจะใส่กระโปรงสวยๆ นั่งร้อยดอกไม้อยู่ในสวนกันล่ะ"  ไอซิสหัวเราะแม้จะถูกมองตาขวาง  มือขาวจัดกระชากผ้าห่มจากตัวเธอไปห่มตัวเองก่อนที่เรือนร่างสะโอดสะองสมสัดส่วนจะลุกขึ้นยืน  เดินไปเก็บเสื้อผ้าที่เกลื่อนพื้นพรมขึ้นมา

"ข้าจะกลับแล้ว  ไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า"

"ข้าอยากไปกับเจ้า"  ชาร์ล็อตเหลียวกลับมามองหน้าเธอด้วยสายตาไม่เชื่อถือ  "ข้าอยากเห็นเจ้าทำงานบ้าง"

"พ่อเจ้าไม่ให้เจ้าออกจากปราสาทนี้  จำไม่ได้หรือไร"

"เจ้าก็ขอท่านพ่อให้ข้าสิ  ถ้าไปกับเจ้า  ท่านพ่อไม่ว่าหรอก"

"คิดจะใช้ข้าเป็นเครื่องมือหนีเที่ยวล่ะสิ"

"ไม่ใช่สักหน่อย  ข้าแค่...."  ไอซิสคิดคำพูดมาแก้ตัวไม่ออก  ชาร์ล็อตส่ายหน้าระหว่างสวมเสื้อผ้าบดบังทัศนียภาพดีๆ จากสายตาเธอ 

"แต่งตัวสิ  หรือจะต้องให้ข้าใส่ให้  หรือจะไม่ไป"

"ไปๆ  ข้าชอบเจ้าที่สุดเลยชาร์ล็อต!"  เจ้าหญิงน้อยผุดขึ้นจากที่นอน  พุ่งมากอดอีกคนอย่างดีใจ  ชาร์ล็อตตัวแข็งทื่อเมื่อถูกจุมพิตที่ปากอย่างไม่ตั้งตัว

ดวงตาสีม่วงมองคนเป็นน้องอย่างฉงนใจระหว่างที่เขาสวมเสื้อผ้าอย่างรีบร้อนราวกลัวเธอจะหนีไปก่อน  สักพักมือเธอก็ยกขึ้นทาบอกตัวเอง  หัวใจเธอเต้นด้วยจังหวะที่แปลกไป  จำได้ว่ามันเคยช้ากว่านี้มาก  และยังจะสีผิวเธออีก  เธอไม่ได้ดูเหมือนผีดิบไร้วิญญาณอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว  ไม่อยากจะเหมาคิดว่า  มันเกิดจากการที่เธอร่วมหลับนอนกับไอซิส  แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนเช่นกัน 

ถูกแล้ว  เธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ไม่เคยต้องมือใครมาก่อนหรอก  ไอซิสไม่ใช่คนแรกที่เธอมีสัมพันธ์เช่นนี้ด้วย  เธอเคยลองมาแล้ว  ลองพิสูจน์สิ่งที่ขัดแย้งกับตำนานมาก่อน  ไม่ว่าจะกับผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่มีใครสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เธอได้เลย  หรือมันจะต้องเป็นไอซิสคนเดียว

"เป็นอะไรไป"

ชาร์ล็อตกะพริบตา  เสียงคำถามอย่างกังวลดึงเธอกลับมาสู่ปัจจุบัน  สัมผัสจากริมฝีปากอุ่นที่จูบหลังมือเธอซึ่งถูกดึงไปจากอกด้วย  เธอตื่นเต้นจนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย  ดวงตาสดใสสีเลือดที่มองมาคล้ายมาช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจอันเหี่ยวเฉานานนับศตวรรษของเธอ

"บอกว่า  อย่าทำเหมือนว่า  รักข้าแบบนี้ทั้งที่เจ้าไม่ได้---"

"ชาร์ล็อต..  เจ้าจะทำท่าพอใจกับมันหน่อยไม่ได้หรือไร  หยุดปฏิเสธข้าสักที  ช่วยทำให้ข้ารู้สึกว่าข้ากำลังทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่หน่อยได้หรือไม่  ทำให้ข้าเชื่อทีว่า  เราเป็นของกันและกัน  ว่าเจ้าจะไม่ทิ้งข้าให้เคว้งคว้างอยู่คนเดียว"

น้ำเสียงดุจคนจะร้องไห้ให้ได้ในนาทีนี้กระตุกมือเธอให้ไปรั้งตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดอย่างถนอม  เพราะความขี้เล่นทำให้เธอลืมไปว่าไอซิสยังเจ็บอยู่  เพราะเขากลบเกลื่อนมันได้อย่างแนบเนียนเกินไป  จนเธอลืมใส่ใจว่า ก่อนหน้านี้  ไอซิสร้องไห้ซุกอกเธอมาเป็นเดือน  จะว่าไป  เราก็เหมือนคนหัวอกเดียวกัน  ไม่มีใครสมหวังในความรักสักคน

"ข้าขอโทษที่ใช้ความรักของเจ้าทำให้ข้าลืมความเจ็บ  แต่ข้าไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ ชาร์ล็อต  ยกโทษให้ข้าได้ไหม"

"ไม่ได้.."  ไอซิสตะลึงกับคำตอบ  หากคำต่อมาจากปากของซาตานที่สวยที่สุดในสามโลกก็กระตุกรอยยิ้มของเธอกลับมา  "เพราะข้าไม่เคยโกรธเจ้าเลยสักครั้ง  จะเอาอะไรมายกโทษให้ล่ะ"

"ชาร์ล็อต.."  น้ำใสๆ รินออกมาจากดวงตาสีทับทิม  เรียวนิ้วงดงามเข้ามาไล้ปาดหยาดน้ำให้ที่แก้มนวล  ไอซิสสะอื้นอย่างเจ็บใจ  "ข้าเกลียดตัวเองที่เป็นอย่างนี้ที่สุด  ข้าควรจะรักเจ้า  เจ้าที่รอข้ามาเกือบทั้งชีวิต"

"ชู่ววว...  นิ่งซะเถอะ  ช่างมัน  ข้าเข้าใจ  ข้าจะเลิกว่าเจ้าแล้ว"

"จริงนะ?"

ชาร์ล็อตพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเอ็นดู  มือลูบแก้มคนเด็กกว่าที่ถามตาใสคล้ายเด็กเล็กๆ "พร้อมหรือยัง  ข้าต้องไปทำงานสักที  ป่านนี้ตาเฒ่าดักลาสคงทำห้องทำงานข้าท่วมไปด้วยงานแล้วล่ะ" 

ไอซิสพยักหน้าหงึกหงักตอบรับเป็นเด็กดี  ดีอกดีใจที่ถูกเธอสอดนิ้วเข้าไปประสานมือกัน  ชาร์ล็อตระบายลมหายใจออกมาเบาๆ กระชับมือตนกับมือที่จับอยู่แม้จะรู้ว่า  อาจมีสักวันข้างหน้าที่ต้องปล่อยมันไป  กระนั้น  ตอนนี้เธอก็จะขอจับมันให้แน่นสุดหัวใจและดูแลเจ้าของมันให้ดีที่สุดเท่าความสามารถของเธอ

.............................................................

ดวงตาสีฟ้ามองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างระหว่างที่สองหูเงี่ยฟังเสียงปลายปากกาขีดเขียนลงบนกระดาษไปพลางๆ  ไคล่ายืนกอดอกพิงผนังหันเข้าหาคนที่โต๊ะทำงานแต่ใบหน้ากับเบนไปอีกทาง

"ไอซิสออกไปกับชาร์ล็อต"  เสียงขีดเขียนหยุดชะงักลง  ตาสีฟ้าเบนกลับมามองคนหน้าเหมือนกัน  "ท่านจะไม่ทำอะไรจริงๆ หรือคาร่า"

ดวงตาเขียวน้ำทะเลสบตาเธอวูบหนึ่งก่อนที่เจ้าของมันจะส่ายหน้าเบาๆ และก้มลงขีดเขียนอะไรลงในเอกสารต่อ  แฝดผู้น้องถอนหายใจแผ่ว  อยากจะคิดว่า  มันดีแล้วที่เป็นแบบนี้  แต่มันก็ขัดข้องใจอยู่

"ใกล้จะถึงกำหนดงานแต่งงานของพวกเขาแล้วนะ"

"เจ้าต้องการจะพูดอะไรไคล่า" คาร่าถามอย่างเหลือทน  กระแทกปากกาขนนกลงกับสมุดงาน  จ้องตากับน้องฝาแฝดอย่างเดือดดาล  "เจ้าจะให้ข้าทำลายพวกเขาอีกหรือไง  ข้ายังเลวไม่พออีกหรือ  เจ้าคิดว่าข้าเป็นใครกัน"

"หามิได้ฝ่าบาท  หม่อมฉันก็แค่เป็นห่วง"  ไคล่าโค้งศีรษะให้พี่สาวที่มองกลับมาอย่างรู้ดีว่ากำลังถูกประชด 

องค์ราชินีส่ายหน้า  ถอนหายใจยาวเหยียด  "ข้าไม่อยู่ในฐานะที่จะไปห้ามการแต่งงานของพวกเขาได้  ยิ่งตอนนี้ไอซิสสมัครใจที่จะแต่งแล้ว  ข้าจะเอาเหตุผลอะไรไปคัดค้าน  เจ้าจะต้องคิดถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วยนะไคล่า  ข้าไม่ใช่เด็กเล่นขายของ"

"เช่นนั้นก็แสดงว่า  ถ้าข้าหรือเบลล่าเป็นคนทำ  ก็ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่"

คาร่าหรี่ตามองฝาแฝดอย่างประเมิน  "ตามกฎแล้ว  เจ้าก็มีความผิด  เจ้าเป็นเจ้าหญิงรัชทายาท  ส่วนเบลล่า..  นางเป็นเด็ก  อย่าเอานางมายุ่ง"

"เด็กงั้นหรือ..  เด็กที่ทำให้ท่านมีความสุขจนลืมไปเลยว่าอกหักเป็นยังไงใช่หรือเปล่า" ไคล่าล้อเลียน  เรียกค้อนวงโตจากดวงตาสีเขียวมาให้ทันใด

"ข้าคิดแล้วเชียว  ท่านชอบนาง"

"บ้าน่า..  นางเป็นน้องสาวข้า  น้องสาวเราสองคนนะ"

"ไอซิสก็เป็นน้องท่านเหมือนกัน"

"นี่เจ้าเป็นอะไรไป  ขยันยัดเยียดข้าให้ใครๆ ซะเรื่อย  ไม่ต้องมาทำเป็นสงสารข้าหรอก  ข้าไม่เป็นอะไร"

"ก็ขอให้ท่านไม่เป็นอะไรจริงอย่างว่าเถอะคาร่า"  ตาสีฟ้าเปล่งประกายท้าทายพี่สาว  คาร่ากลอกตาเบื่อหน่าย  หมดสมาธิจะทำงานต่อ

"เจ้าจะแต่งงานไหม"

ไคล่ากะพริบตาปริบ  ประหลาดใจกับคำถามกะทันหัน  "แต่งงาน?  จะให้ข้าแต่งกับใคร"

"จะใครได้นอกจากคนที่นอนให้เจ้ากอดทุกคืน  หรือเจ้ามีคนอื่นอีก"

"ไม่มี  นอกจากสนมพวกนั้นที่ข้าช่วยท่านรับผิดชอบ  ข้าก็มีคนเดียว"

"งั้นเจ้าจะถามข้าทำไม"

"แต่โรซาลี..."  แฝดน้องพูดไม่ออก  อยู่ๆ ใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ  หรืออาจเพราะใบหน้าของผู้หญิงเจ้าของชื่อที่หลุดปากเธอออกมา

"ข้าไม่คิดว่า  ข้าจะรักนางมากพอ"

"ไม่รัก?  ไม่รักแต่เจ้าไม่ยอมให้ข้าแตะต้องนางหรือกระทั่งตัวเจ้าเลยเนี่ยนะ  อย่าตลกไปเลยน่าไคล่า"  คาร่าหัวเราะ  ใบหน้าแดงก่ำของแฝดน้องทำให้เธอนึกขำ 

ไคล่าไม่ใช่คนขี้อาย  เขาสามารถถอดเสื้อผ้าและร่วมรักกับใครๆ โดยที่มีเธอเป็นพยานนั่งหัวโด่อยู่บนเตียงด้วยได้ด้วยซ้ำ  ทั้งยังเคยเป็นเพื่อนร่วมเตียงกับเธอในยามอารมณ์เปลี่ยวพร้อมๆ กันมาหลายปีก่อนที่จะมีผู้หญิงคนนั้นก้าวเข้ามาในชีวิต  โรซาลีทำให้น้องแฝดของเธอเปลี่ยนไปโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว  จิตใจของไคล่ามั่นคงขึ้นมาก  สามารถทนต่อแรงยั่วยุต่างๆ ได้ดีกว่าเธอ  เขาไม่ได้มองเห็นการสนองอารมณ์ให้นางสนมในวังเป็นเรื่องสนุกอีกต่อไป  ที่ทำก็เพราะหน้าที่เท่านั้น  ทั้งยังสามารถปฏิเสธการร่วมเรียงเคียงหมอนกับเธอได้ด้วย  ทุกสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องใหม่ที่เธอคงทำไม่ได้แน่

"ไม่..  ไม่รู้..  ข้าไม่รู้..  ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว" แฝดน้องสะบัดเสียง  เดินเลี่ยงไปที่ประตูห้อง  คาร่าส่งเสียงหัวเราะตาม

"นี่..  ถ้าออกไปแล้วเจอเบลล่า  บอกว่าให้ไปเจอข้าที่สวนน้ำด้วยนะ"

"ไม่  ข้าไม่ใช่ทหารของท่าน  ใช้คนอื่นสิ"  ไคล่าหันมาแยกเขี้ยวใส่พี่สาวราวลืมไปแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้านายเหนือหัวตัวเอง  นั่นเพราะรอยยิ้มสดใสของพี่ฝาแฝดที่ทำให้ตนรู้สึกว่า  เขาเริ่มมีอาการดีขึ้นเธอจึงวางใจที่จะปล่อยเขาให้อยู่ตามลำพังได้  จริงอยู่ที่คาร่าอาจจะเกลื่อนอาการเก่ง  แต่สำหรับเธอที่เป็นฝาแฝด  เธอรู้ดีกว่าใคร  หรือว่าบางทีอะไรๆ อาจจะลงตัวของมันแล้ว

แฝดน้องหันมองท้องฟ้าระหว่างเดินอยู่บนทางเดินของปราสาทใหญ่โต  สายรุ้งบนเส้นขอบฟ้าสะดุดตาเธอให้ต้องหยุดขาเพื่อมองมันให้ชัดแจ้ง  ไม่แน่ใจในสายตาตัวเอง  สายรุ้งไม่เคยเกิดขึ้นที่นี่มาตั้งแต่เธอจำความได้

"เกิดอะไรขึ้นกันแน่"  ไคล่าพึมพำ  จากนั้นเสียงโวกเวกจากด้านล่างของปราสาทก็เรียกความสนใจของเธอไป  ดวงตาสีฟ้าหรี่ลงเพื่อจะมองร่างของผู้คนตรงพื้นดินให้รู้ว่าเป็นผู้ใด  และรอยยิ้มของเธอก็ปรากฏขึ้นมา

"อิสซาเบลล่า  เลิกเล่นและขึ้นมาที่นี่เดี๋ยวนี้!"  เจ้าหญิงรัชทายาทตะโกนเสียงดัง  เจ้าของชื่อที่กำลังจะเงื้อดาบฟันบางคนอยู่จึงกลายเป็นถูกจ่อคอด้วยปลายดาบของอีกฝ่าย  ได้ยินเสียงหล่อนสบถลั่นด้วยภาษาของสาวชาวป่าก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาชี้หน้าเธอ

"ท่านทำให้ข้าแพ้  ท่านนิสัยแย่มากไคล่า!"

"หุบปาก  แล้วขึ้นมาที่นี่  อย่าให้ข้าต้องลงไปตีก้นเจ้าเอง"

อิสซาเบลล่าสะบัดหน้าพรืดอย่างไม่พอใจ  ยื่นดาบคืนให้กับทหารที่เล่นด้วยกันอยู่เมื่อครู่  จากนั้นใบหน้าเล็กๆ ก็เงยขึ้นหาเธออีกครั้ง  เขาแลบลิ้นให้เธอแล้ววิ่งหายไปจากสายตา  ไคล่ายืนอึ้งอยู่หลายอึดใจก่อนจะระเบิดหัวเราะอย่างขบขัน  คงไม่แปลกหรอกใช่ไหม  ถ้าเธอจะรู้สึกว่า  การมีน้องเล็กคนนี้เข้ามาเพิ่มในครอบครัวของเธอ  มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ดี         




.........................................


ในที่สุดก็มาได้สักที  ฮ่าๆๆ

ตอนใหม่นี้อาจไม่ถูกใจคนอ่านบางคน  แต่ถูกใจคนเขียน  ฮ่าๆๆ  เปล่าหรอกค่ะ  เรื่องมันมาทางนี้นี่นา  แต่จะเฉพาะตอนนี้หรือไม่  ลุ้นกันต่อไปค่ะ  :42:

มีความสุขวันหยุดนะคะ ขอบคุณค่ะ   :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น