web stats

ข่าว

 


My Wife Is The Boss- Chapter 10 : Cold Shoulder

โพสต์โดย: anhann วันที่: 29 กรกฎาคม 2015 เวลา 19:15:35 อ่าน: 588


นิยายเรื่องนี้เปิดให้จองแล้ว ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ  http://www.yuriread.com/index.php?topic=1371.0



Chapter 10 : Cold Shoulder




เจย์ระบายลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนออกมาในที่สุดหลังที่เอ่ยปากอนุญาตให้ผู้ร่วมเข้าประชุมออกไปจากห้องได้เมื่อการประชุมสิ้นสุดลงโดยได้ข้อสรุปตามที่เธอคาดการณ์เอาไว้  มันเป็นแค่การประชุมรายสัปดาห์ตามปกติในฐานะที่เธอเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ  ซึ่งแน่นอนว่า  ความตึงเครียดน้อยกว่าการประชุมผู้ถือหุ้นที่เธอต้องนั่งหลังขดหลังแข็งเป็นชั่วโมงๆ ทนฟังรายงานถึงผลกำไรหรือขาดทุน  การเติบโตหรือหดตัวของยอดขายหนังสือในฐานะของประธานฝ่ายบริหาร ฯลฯ  และยังต้องคอยเตะขาเทย์เลอร์ใต้โต๊ะให้น้องสนใจฟังอะไรๆ ที่คนอื่นๆ ในฝ่ายบริหารออกมาพูดเหมือนเล่าเรื่องหน้าชั้นเรียนด้วย  ถึงตัวเธอเองก็แทบอยากจะเดินออกจากห้องตั้งแต่สิบนาทีแรกที่หัวหน้าฝ่ายบัญชีลุกขึ้นรายงานตัวเลขต่างๆ เป็นพรืดจากเครื่องฉายภาพโปรเจ๊กเตอร์  แต่หัวโขนที่เธอใส่อยู่มันหนักเกินกว่าจะถอดวางได้น่ะสิ

"อาเรีย.. เตรียมเรื่องตั๋วเครื่องบินให้ด้วยนะ" บอสสาวหันไปบอกคุณผู้ช่วยที่กำลังจัดเรียงเอกสารในแฟ้มอยู่  อาเรียหันมาสบตาเธอในทันที

"กี่ที่คะ" คำถามนี้เหมือนจะตอบได้ไม่ยาก  แต่กลับทำให้เธอนิ่งคิดนานกว่าปกติ  ชายตามองหาใครบางคนก็พบว่า ไม่อยู่เสียแล้ว  แดเนียลออกไปทำงานต่อกับเพื่อนร่วมงานแล้ว

"งั้นเผื่อไว้ก่อนสัก..  ห้าก็แล้วกัน  ของเธอด้วย"

"ค่ะ  แต่คุณเจย์คะ  มันต้องใช้ชื่อตอนจองเลยนี่คะ" ผู้ช่วยสาวเตือน  เจ้านายก็ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกได้ว่ามันจริง

"งั้นรอก่อน  พรุ่งนี้ก็ยังทันใช่ไหม"

"ทันค่ะ  ไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่น  ไม่น่าจะมีปัญหา"

"งั้นฉันจะให้คำตอบเร็วที่สุดก็แล้วกัน  ฉันไม่อยากเสี่ยงตกเครื่อง"  เจย์บอกน้ำเสียงเคร่งครัด  อาเรียก้มหน้าจดบันทึกในสมุดโน้ตอย่างว่องไว ทั้งยังสามารถหอบแฟ้มเอกสารเดินตามหลังเจ้านายสาวที่อยู่ๆ ก็ลุกพรวดออกมาจากเก้าอี้ประธานได้อีก

"ต่อสายเทย์ให้ฉันด้วยนะ"  ผู้ช่วยสาวผงกหัวให้เจ้านายที่สั่งไปเดินไปตามสไตล์คนชอบคิดและทำอะไรๆ ในทันที

"อีเมลบอกคุณบริททานีย์ด้วยว่า  เราตอบรับคำเชิญและจะไปให้ทัน  จองที่พักด้วย  สองวันพอ  รู้นะว่า  ฉันต้องการห้องแบบไหน"  อาเรียพยักหน้าพร้อมจดบันทึกคำสั่งอย่างมืออาชีพ  ซ้ำยังจะรีบแจ้นไปประตูห้องทำงานให้เจ้านายอีกถ้าเจย์ไม่ยกมือห้ามไว้เสียก่อน

ผู้ช่วยสาวมองเจ้านายผลักประตูกระจกห้องทำงานเข้าไป  จากนั้นก็เริ่มนับหนึ่งสองสามในใจ  และยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะเมื่อเจย์ผลักประตูโผล่หน้าออกมาอีกครั้ง

"ยิ้มอะไรอาเรีย"  อาเรียส่ายหน้าปฏิเสธ  เจย์ขมวดคิ้วแต่ก็หาได้สนใจจะถามความต่อ  "ตามแดเนียลให้ด้วย  ถ้าเค้าว่างก็ให้มา"

"ค่ะ" 

ได้ฟังเสียงขานรับอย่างหนักแน่นก็จะหวนกลับเข้าห้องตัวเอง  หากเจย์ยังสังเกตได้ถึงอาการกลั้นยิ้มไว้อย่างสุดจะทนของคนตัวเล็กกว่าจึงหันกลับมาใหม่  "ฉันจะส่งเธอไปอยู่กับเจ้าเทย์สักวันอาเรีย"

ผู้ช่วยสาวแสร้งทำท่าสยองกับคำขู่  เพราะรู้อยู่ว่าคุณเจ้านายก็พูดไปอย่างนั้น  เอาเข้าจริงก็ไม่ยอมให้เธอไปไหนหรอก  เจย์หนีบเธอไปด้วยทุกครั้งที่ต้องไปทำงานนอกสถานที่ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศ  และเธอก็เคยได้ยินว่าเจ้านายปฏิเสธเทย์เลอร์ที่แกล้งฟอร์มมาขอแลกคนของเขากับเธอ  แต่ที่ยังเอาเรื่องนี้มาขู่เธอตลอดเพราะรู้ว่าเธอกลัวคาร์เตอร์คนน้องมาก  กลัวมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน  เทย์เลอร์คนเจ้าชู้  ฟาดผู้หญิงไม่เลือกหน้า  ใครบ้างจะไม่กลัว  ถึงตัวเธอจะไม่เล่นด้วยแน่นอนแต่กันไว้คงดีกว่าแก้  แต่งงานแล้วก็ใช่ว่าจะน่าไว้ใจ  ข่าววงในยังเม้าท์กันให้สนุกปากว่า  แม่เลขาคนปัจจุบันก็เสร็จเขาแล้วเรียบร้อย  ซ้ำยังเม้าท์ต่ออีกว่า  แซมนั่นแหละที่สนับสนุนให้เขามีได้  เพราะพอกันทั้งคู่ดังผีเน่ากับโลงผุ  อย่างหลังนี่เธอว่า  เม้าท์กันแรงเกินไปหน่อยนะ  แซมที่เธอรู้จักอาจจะเคยเจ้าชู้มาก่อน  แต่ตอนนี้เธอว่าสาวบลอนด์เปลี่ยนไปแล้วล่ะ  ส่วนเทย์เลอร์หรือ...  ก็ช่างเขาเถอะ

"เฮ้.. คนสวย..  เหม่อแบบนี้  ถ้ามีใครมาขโมยจูบจะรู้เรื่องไหมเนี่ย"

ร่างบางสะดุ้ง  หัวใจเต้นตึกตักอยู่ในอกเมื่อกะพริบตาและพบว่าคนที่ตนแอบนินทาอยู่ในใจโผล่มาอยู่ตรงหน้าแล้ว  "คุณเทย์..  มา..  มาเมื่อไหร่คะ"

เทย์เลอร์อมยิ้ม  ชอบใจนักที่ทำให้สาวน่ารักตกใจได้  "มาทันเห็นเธอยืนเหม่อน้ำลายยืดน่ะสิ  ถามได้"

"ฉันไม่ได้น้ำลายยืดนะ"  อาเรียเถียงใจขาดหากเผลอยกหลังมือขึ้นปาดปากตัวเองจนคนขี้แกล้งยืนหัวเราะ  "ไม่มีสักหน่อย  คุณโกหก"

"ใช่  ฉันโกหก" เทย์เลอร์บอกอย่างไม่สะทกสะท้าน  ยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนตัวเล็กกว่า  อาเรียจะถอยหนีแต่แผ่นหลังบางก็ติดกับผนังเสียแล้ว  "แต่ตอนนี้ลิปสติกเธอเปื้อนหมดแล้ว  ให้ฉันเช็ดให้เอาไหม"

"ไม่!" สาวตัวเล็กเผลอเสียงดัง  แต่เสียงที่เหมือนลูกแมวร้องขู่ของเธอก็แค่ทำให้อีกคนเลิกคิ้วมองอย่างขบขันเท่านั้น  "เอ่อคือ..  ฉันเช็ดเองได้ค่ะ"

"โอเคๆ ตามใจ  แล้วเจย์อยู่ไหม"  เทย์เลอร์เปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นบางสายตาของคนแถวนี้เริ่มมองพวกเธอ  ขืนคาบข่าวไปเม้าท์กันจนไปกระทบหูภรรยาเธอมีหวังโดนเตะออกจากห้องนอนอีกรอบแน่

อาเรียงงเล็กน้อยที่อยู่ๆ อีกคนก็ถอยหลังออกไปเองทั้งที่ปกติชอบเหลือเกินเรื่องแกล้งเธอ  แต่ก็ดีแล้ว "อยู่ค่ะ  เมื่อกี้บอกว่าจะให้โทรหาคุณพอดี"

"โอเค  งั้นฉันเข้าไปเลยแล้วกัน" สาวตัวสูงพูดและเดินไปเคาะประตูกระจกโดยไม่รอฟังคำใครอนุญาต  เทย์เลอร์บอกชื่อตัวเองจากนั้นเสียงคนด้านในก็ดังแว่วออกมาบอกว่าให้เข้าไปได้  มือสวยกำลังจะผลักประตูเข้าไป  แต่เจ้าของมือยังไม่วายหันมายิ้มล้อเลียนคนที่ยืนตัวลีบอยู่ข้างประตู

"ไว้เจอกันนะจ๊ะอาเรีย"  อาเรียกลั้นใจแทบตายไม่ให้เบะปากใส่หน้าคนเจ้าชู้  มองดูเขาเดินเข้าห้องเจ้านายไปเรียบร้อยแล้วค่อยแลบลิ้นตามหลัง  สักวันเถอะ  เธอจะฟ้องภรรยาเขาให้จัดการ  แต่ตอนนี้ทำงานก่อนดีกว่า  คนในห้องด้านหลังนี่น่ากลัวกว่าเยอะเลย

...................................

"เคลียร์งานให้เรียบร้อย  อีกสองวันเราจะไปลอนดอน  เคลียร์ไว้สักสามวันก็พอ  เราจะพักกันที่นั่นสองวัน"  เจย์พูดโดยไม่มองหน้าคนที่โผล่มารับคำสั่งที่นี่โดยบังเอิญ  เทย์เลอร์เลิกคิ้วแปลกใจก่อนจะหมุนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานพี่สาวมาทิ้งตัวนั่ง

"ลอนดอน?  ไปทำไม  มีงานอะไรที่นั่น"

"ก็เหมือนเดิม"  พี่สาวตอบอย่างไม่ใส่ใจราวว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่  หากคนเป็นน้องยังไม่วายสงสัย

"ไม่เหมือนเดิมมั้ง  ไม่งั้นเจย์คงไม่ต้องไปเองให้เรนนะฝ่ายเสื้อผ้าไปเก็บข้อมูลมาให้ก็พอ"

ฟังคำน้องพูดแล้วความหงุดหงิดใจก็บังเกิดขึ้นในทันที  เพราะมันจริงอย่างที่น้องว่า  เธอขี้เกียจเดินทางจะตายไป  "ยัยบริททานีย์ขู่น่ะสิว่า  ถ้าฉันไม่ไป  หล่อนจะเลิกเขียนคอลัมน์ London  weekly ให้เรา  น่ารำคาญชะมัด"

เทย์เลอร์ทำหน้าแปลกใจปนขำขณะที่พี่สาวดูอารมณ์เสียน่าดู  "ไปแค่สองวัน  งานที่นี่ไม่เป็นไรหรอกน่า  เจย์จะอารมณ์เสียทำไม  เจย์จะเอาแดนไปด้วยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"

"ฉันนัดหมอไว้เทย์เลอร์"

คนฟังอ้าปากค้างตกใจ  ไม่วายจะกังวลไปด้วย  "แล้วเอาไงดีล่ะ  ก็ต้องเลื่อนนัดสิ  เจย์ไปฉีดก่อนแล้วค่อยไปไม่ได้เหรอ"

"บ้า  แบบนั้นฉันก็เจ็บตัวเปล่าอีกสิ  ฉีดแล้วไปนั่งเครื่องเนี่ยนะ แค่คิดก็ลูกหลุดแล้ว" เจย์พูดและเอาแฟ้มใกล้มือตีหน้าผากน้องที่ยังมีหน้ามาหัวเราะ

"ไม่เป็นไร  ไว้เดือนหน้าก็ได้"

"แล้วบอกแดนยัง"

"เค้าไม่สนใจหรอกมั้ง" 

เทย์เลอร์เลิกคิ้วมองพี่สาวอย่างแปลกใจ  "ทะเลาะอะไรกันอีกป่ะเนี่ย  ไหนวันนั้นบอกเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง"

"ไม่ได้ทะเลาะ  ทะเลาะอะไรบ่อยๆ ล่ะ  ขี้เกียจง้อ"

"อย่าๆ เจย์  พูดอะไรอย่างนั้น  เห็นทะเลาะกันทีไร  เช้ามาเจย์งี้เปล่งปรั่งตลอด  ชอบก็บอกมาเถอะ  ไม่ต้องอาย  ของธรรมชาติ   อีกอย่าง..ฟาดเมียตัวเองไม่บาปหรอก  ฟาดทุกวันก็ได้  ไม่ต้องแกล้งหาเรื่องเถียงกัน" 

"นั่นปากเหรอ  ไอ้ทะลึ่ง"  แฟ้มเล่มเดิมเคาะหัวน้องอีกที  เจย์เผลอยิ้มเมื่อนึกถึงความสุขที่ได้อยู่กับคนรักสองคนในเวลาส่วนตัว  แต่ท่าทางล้อเลียนของเจ้าน้องตัวแสบก็ทำให้ต้องเก๊กขรึมแกล้งทำเป็นยุ่งกับงาน

"แล้วที่บอกว่า  แดนไม่สนใจน่ะ  ทำไม..  หรือว่าเค้าไม่อยากมีลูก"

คำถามนี้กระตุกใจให้คนนั่งเคลียร์เอกสารอยู่หยุดมือลง  เจย์แค่นยิ้มให้น้องที่มองมาอย่างเป็นกังวล  "เค้าก็ไม่ได้พูดอย่างนั้น  แค่...  ไม่รู้สิ  มันเหมือนฉันตื่นเต้นกับเรื่องนี้อยู่คนเดียวมั้ง"

"เจย์..  ชอบคิดอยู่คนเดียวอีกแล้วนะ"  เทย์เลอร์เตือนพี่สาว  แต่เจย์ยังคงไหวไหล่ราวว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่  "เจย์ก็รู้ว่า  แดนเป็นยังไงไม่ใช่เหรอ"

"รู้สิ  รู้ว่าถ้าฉันอยากจะได้อะไร  เค้าก็ตามใจตลอดไง"

น้องสาวส่ายหน้าระอา  ไม่รู้จริงๆ ว่า  ระหว่างตัวเธอเองกับเจย์  ใครที่หัวรั้นมากกว่ากัน  "ฉันละเชื่อเจย์เลยจริงๆ"  เทย์เลอร์พึมพำ  เท้าคางกับโต๊ะ  มองหน้าพี่อย่างปลงๆ  เจย์ทำท่าจะพูดอะไร  แต่เสียงเคาะประตูก็ดังขัด

เจ้าของห้องบอกอนุญาตให้คนเคาะเข้ามาได้  ไม่ทันไรคนที่อยู่ในบทสนทนาของพวกเธอมานานก็ปรากฏตัวมาราวมีคนคาบข่าวไปบอกว่าให้รีบมาแก้ข่าวด่วน

"เฮ้.. มาพอดีเลย  เรากำลังนินทาเธอมันส์เลยล่ะ"

แดเนียลมองคนนู้นทีคนนี้ทีอย่างไม่เข้าใจ  เพราะขณะที่เทย์เลอร์ยิ้มกวนๆ ตามประสาเขา  เจย์กลับทำท่าอยากจะทุบหัวน้องให้สลบ  เดาได้เลยว่า  สองคนนี้ต้องเถียงกันเรื่องเธออีกแน่ๆ

"ไปไหนก็ไปเลยเทย์เลอร์  ค่อยเจอกันตอนกินข้าวเที่ยง"

"อะไรกัน  พอภรรยาตัวมา  รีบไล่น้องเลยนะ" เทย์เลอร์ยังไม่เลิกล้อพี่  แม้จะโดนแฟ้มในมือพี่สาวไล่ตีทันทีที่ตนเปิดปาก  "แดนดูเจย์ดิ  เขินแล้วชอบใช้กำลังตลอด" 

"ออกไปเลยไอ้เทย์  ก่อนที่ฉันจะเอานี่ปาหัวเธอ!" เจย์ลุกขึ้นขู่คนที่วิ่งไปแอบด้านหลังสาวตัวสูงที่เพิ่งมาใหม่  เทย์เลอร์มองที่ทับกระดาษในมือเธอแล้วก็เหงื่อตก  หากเขายังทำท่ากวนๆ ทิ้งท้ายไว้ก่อนจะแจ้นออกไปจากห้อง 

เจ้าของห้องขบฟันหงุดหงิดที่เจ้าน้องสาวตัวดีหนีไปจนได้  แถมคนแถวนี้ยังจะหัวเราะผสมโรงไปด้วยอีกต่างหาก  มันน่านัก

"หัวเราะอยู่นั่นล่ะ  ว่างแล้วหรือไง"  เจย์ถามพลางนั่งลงตามเดิม

"แบ่งหน้าที่กับสองสาวและโจอี้เรียบร้อยแล้วค่ะบอส" แดเนียลตอบน้ำเสียงหยอกเย้า  เรียกสายตาเคืองๆ จากคนอารมณ์กรุ่นๆ ได้เป็นอย่างดี

"โธ่.. ไม่อารมณ์เสียง่ายสิคะคนดี  แล้วนิสัยปาข้าวของเวลาโกรธเนี่ย  ถ้าเลิกได้จะดีมากเลยนะ  คุณจะน่ารักขึ้นเยอะเลย" 

เจย์ปรายตามองที่คนโผมาหา  มายืนโน้มตัวลูบไหล่ปลอบให้หวังจะให้เธอคลายความหงุดหงิดลง  "ไม่ต้องมาพูดดี  เธอไม่รู้หรอกว่าไอ้เทย์มันกวนประสาทกันยังไง  ชอบเข้าข้างมันอยู่เรื่อย"

"เค้าก็แค่หยอกเจย์เล่น  เพราะคุณน่ารักน่ะค่ะ  ฉันยังชอบเลยเวลาคุณกับเทย์เล่นกันอย่างเมื่อกี้"

คนฟังเลิกคิ้วมองอีกคนอย่างไม่เชื่อ  แต่ก็เปลี่ยนเรื่องเสียอย่างนั้น  "อีกสองวัน  ฉันต้องไปลอนดอน  เธอจะไปด้วยไหม"

"อีกสองวันเหรอคะ" แดเนียลทวนคำพลางทำท่านึกถึงตารางงานตัวเอง  "แล้วไปกี่วันละคะ  แต่จริงๆ ก็ไม่มีปัญหานะ  ฉันหอบแล๊ปท็อปไปทำด้วยก็ได้"

"สองวัน  โทษทีนะที่ทำให้ลำบาก  แต่ถ้างานเธอยุ่งก็ไม่เป็นไร  เทย์กับแซม  อาเรียก็ไปอยู่แล้ว"

"โอ.. ไม่ได้เลยค่ะ  ฉันไม่ปล่อยให้คุณไปเที่ยวโดยไม่มีฉันหรอก"

เจย์หรี่ตา  ใช้ปลายปากกาเคาะหน้าผากคนที่เอาคางมาเกยบ่าเธอ  ทำหน้าอ้อนกันเป็นเด็ก  "ไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวย่ะ  แล้วถ้าทางนั้นไม่บังคับ  ฉันก็ไม่ไปหรอก  เบื่อนั่งเครื่องบินจะแย่"

"ฉันก็ว่างั้น"  แดเนียลพึมพำยิ้มใสๆ ให้เจ้าของดวงตาสีเข้มที่มองสบกันอย่างจงใจ  หากสีหน้าตนก็เปลี่ยนไปเมื่อหางตาบังเอิญเห็นไฮไลท์สีแดงๆ กากบาทบนตัวเลขหนึ่งบนปฏิทินตั้งโต๊ะ

"เจย์..  นั่นมันตรงกับวันที่หมอนัดนี่คะ!"

รอยยิ้มบนใบหน้าเจย์หายวับราวกับมีใครเอามีดมาปาดมันออก  คนที่มองเห็นมันรีบย่อตัวลงนั่งข้างๆ เงยหน้ามองพลางแตะต้นขาอีกฝ่ายให้หันมามองหน้ากัน  แดเนียลรู้ดีว่าวันนั้นมันสำคัญกับภรรยาตนมากแค่ไหน  เจย์นับวันรอมันมาตลอด  หล่อนซ่อนความทุกข์ทรมานกับการรอไว้ภายใต้การทำตัวให้ยุ่งกับงานและหาเรื่องงอนเธอบางเวลา  ใช่ว่าเธอไม่รู้...

"เจย์..  ปฏิเสธคำเชิญเขาไปไม่ได้เหรอคะ  หรือให้คนอื่นไปแทน"

"ไม่ได้  มันเป็นงานสำคัญ  เขาใส่ชื่อฉันคนเดียวด้วยซ้ำ"

"ใครกัน  ทำไมงี่เง่าจริงๆ"  แดเนียลเผลอตำหนิบุคคลที่ทำให้ชีวิตตนและภรรยายุ่งยากโดยไม่จำเป็น  แปลกใจที่หันไปเห็นเจย์ระบายยิ้มอ่อนๆ มองมา  เธอเลิกคิ้วเป็นคำถามกลับไปอย่างสงสัย

"ฉันกำลังสงสัยว่า..  ฉันควรถามเธอดีหรือเปล่า"  เจย์ค่อยๆ เริ่มต้นอย่างระวัง  เธอใส่ใจคำแนะนำของเทย์เลอร์เสมอเพราะรู้ว่าน้องหวังดี  และน้องยังรู้จักเธอกับแดเนียลดีด้วย  บางทีคนที่มองมาจากภายนอกก็เห็นอะไรๆ ได้ชัดเจนกว่าคนภายในอย่างพวกเธอ

"ถามอะไรคะ"

"ก็แค่คำถามที่ฉันไม่ได้ถามเธอสักทีทั้งๆ ที่น่าจะถามตั้งนานแล้วน่ะ"

แดเนียลนั่งรอฟังอย่างตั้งใจ  แปลกใจกับท่าทางลังเลของผู้หญิงที่ปกติมักจะมั่นใจในตัวเองเสมอ  น้อยครั้งนักที่เธอจะเห็น  เจย์  คาร์เตอร์  ต้องใช้เวลาคิดอะไรนานๆ  แม้แต่งานใหญ่ๆ หล่อนยังสามารถตัดสินใจได้เร็วและเฉียบขาดเลยทีเดียว

"อะไรคะ  คุณรู้นี่ว่า  คุณถามฉันได้ทุกอย่าง"  นิ้วเรียวไล้เกี่ยวเส้นผมยาวสีคาราเมลไปทัดหูให้คนตัวเล็กกว่าแต่นั่งอยู่สูงกว่า  ดวงตาสีอ่อนพยายามถ่ายทอดความรู้สึกห่วงใยไปให้ดวงตาอีกคู่ที่ยังดูเป็นกังวลด้วยบางเรื่องที่เธอไม่รู้  ไม่รู้หรือใส่ใจกันน้อยเกินไปนะ

"โอ้..  หรือว่า.. คุณกำลังคิดไปเองว่า  ฉันไม่อยากมีลูก!" 

เสียงคำถามตกอกตกใจกับท่าทีตื่นตระหนกเรียกรอยยิ้มฝืนๆ จากคนคิดมากออกมาโชว์แก่คำถาม  แดเนียลรู้สึกผิดหวังที่ถูกคนรักมองในแง่นั้น  แต่เธอก็พยายามเข้าใจ  มืออุ่นลูบแก้มนิ่มของภรรยาอย่างถนอมรักใคร่ระหว่างที่สายตาพยายามบอกรักไปด้วย

"เจย์..  คุณรู้ไหม..  ใครๆ ก็อยากจะมีลูกกับคนที่ตัวเองรักทั้งนั้น" 

เจย์กะพริบตา  แววตาที่มองอีกฝ่ายยังเจือไปด้วยความไม่เชื่อถือ  เพราะชอบคิดเสมอว่า  ที่แดเนียลไม่เคยขัดความต้องการของเธอเพราะแค่อยากจะตามใจกัน  มันไม่ใช่ความต้องการจริงๆ ของหล่อนสักเรื่องเลย

"เจย์..  คุณไม่เชื่อฉันเหรอ.." แดเนียลถาม  น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล  แม้อีกคนจะไม่ได้ตอบมาตรงๆ หากสายตาก็บอกเธอมาจนหมด  หญิงสาวถอนหายใจ  ก้มหน้าลงนิดนึงพยายามตั้งหลักใหม่แล้วเงยหน้าขึ้นมองภรรยาแม้ว่าหล่อนจะเบนหน้าไปทางอื่นแล้ว

"ถ้าคุณคิดอย่างนั้นละก็..  ฉันขอบอกคุณเลยนะคะว่า  ฉันรู้สึกผิดมากแค่ไหนที่ทำให้คุณได้ในสิ่งที่คุณอยากได้นั่นไม่ได้  ถ้าไม่ใช่เพราะฉันที่เป็นผู้หญิงแบบนี้  คุณก็คงจะมีลูกได้ตามธรรมชาติไปนานแล้ว  คุณคงไม่ต้องรอนานขนาดนี้  ขอโทษจริงๆ นะคะ  คุณรู้ไหม.. บางครั้งฉันยังเคยคิดเพ้อเจ้อว่า  วันนึงฉันจะตื่นมาแล้วเป็นผู้ชาย  เพื่อจะได้ทำให้คุณสมหวังสักที  แต่มันก็เป็นได้แค่ความคิดเพ้อๆ จริงๆ นั่นแหละ  น่าสมเพชจังเลยนะคะ"

เจย์ฟังคำคนรักแล้วขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ  ในความเข้าใจของเธอ  สิ่งที่แดเนียลพูดมาทั้งหมดเหมือนได้ประเมินเธอไปแล้วว่า  เธอเห็นแก่ความต้องการของตัวเองคนเดียวโดยไม่สนใจความรู้สึกหล่อน  ทั้งที่ความตั้งใจจริงของเธอ  ที่เธออยากจะมีลูก  ก็เพราะเธออยากให้เขาเป็นเสมือนตัวแทนของความรักที่เธอมีให้หล่อน  อยากให้หล่อนเห็นเขาแล้วระลึกถึงความรักของเรา  เขาที่เกิดมาจากเลือดเนื้อของเธอสองคน  ไม่ใช่กับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้

"สุดท้าย  เธอก็แค่อยากจะเอาใจฉัน  เธอไม่ได้อยากมีลูกจริงๆ  และเธอก็ไม่เข้าใจฉันเลยสักนิดเดียว" 

น้ำเสียงที่ประกาศถึงความไม่พอใจอย่างมากกับแววตาโกรธขึงของผู้หญิงอีกคนทำให้คนฟังนั่งนิ่งไปนาน  แดเนียลคิดอะไรไม่ออก  จำเป็นต้องยอมให้เจย์ปัดมือเธอออกและปล่อยให้หล่อนหวนกลับไปยุ่งกับงานแทนที่จะมองหน้ากัน  ร่างของเธอยังคงนั่งยองๆ อยู่ใกล้เก้าอี้หล่อน  มองอย่างว่างเปล่าไปที่พื้นไม้ขัดมันเลื่อมของห้องทำงานอันใหญ่โตที่เริ่มหนาวขึ้นทุกขณะ 

ความไม่เข้าใจกันมันเหมือนปีศาจร้ายที่คอยลอบทำร้ายชีวิตรักของพวกเธออย่างเงียบๆ ซ่อนเร้นตัวอยู่ในเงามืดในซอกหลืบของม่านแห่งความสุข  รอจังหวะลงมืออยู่เสมอ  และมันก็ทำได้ทุกครั้งเสียด้วย  มันย่องเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ไม่เคยให้พวกเธอได้รู้ตัว  ไม่ให้เวลาได้ตั้งตัวรับ

"เอาเป็นว่า  ฉันจะเลื่อนนัดหมอไปก่อนก็แล้วกัน  ส่วนเธอถ้าจะไปด้วย  ก็เคลียร์งานของเธอให้เรียบร้อยอย่าให้มีปัญหา"

แดเนียลกะพริบตาเรียกสติกลับคืนมา  เงยหน้ามองเจ้าของน้ำเสียงเฉยเมยที่ก้มหน้าทำงานอยู่อย่างไม่คิดจะเสียเวลาสักชั่ววิหันมามองกัน  ใบหน้าสวยและอ่อนวัยกว่าอายุไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ ให้เธอสามารถคาดเดาได้ว่า  หล่อนกำลังคิดอะไรอยู่  ดูเหมือนหล่อนจะเข้าสู่โหมดเจ้าหญิงน้ำแข็งไปเสียแล้ว  แล้วเธอจะทำอะไรได้  คล้ายกับว่า  คราวนี้เป็นความผิดของเธอ

ร่างสูงโปร่งยืดตัวลุกขึ้นยืน  ปรายตามองคนนั่งก้มหน้าตรงโต๊ะทำงานอีกครั้งและพยักหน้ารับคำสั่งแม้หล่อนจะไม่สนใจมอง  หล่อนส่ง the Cold Shoulder ให้เธออีกแล้ว ("to give someone the cold shoulder" แปลตรงตัวว่า ให้ไหล่เย็นใครคนหนึ่ง  ความหมายที่แท้จริงคือ to ignore someone ซึ่งหมายถึงว่า เพิกเฉย เมินเฉย ทำเป็นไม่สนใจ)  เธอเดินเหมือนซอมบี้ไปที่ประตูแต่ก่อนจะผลักมันเปิด  ยังทำใจกล้าหันมาอีกที  เพราะถ้าไม่พูดตอนนี้  อาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้วก็ได้

"ฉันอยากมีลูกกับคุณจริงๆ นะเจย์  ฉันถึงเสียดายที่ฉันไม่ใช่ผู้ชาย  ไม่งั้นเราคงมีลูกด้วยกันไปตั้งแต่สองปีที่แล้วแล้วละค่ะ  และฉันก็ดีใจนะที่คุณเข้มแข็ง  ไม่เคยยอมแพ้  ไม่ว่าจะเรื่องลูก  หรือเรื่องของเรา"

สองสายตามองประสานกันเมื่อคนหลังโต๊ะทำงานยอมยกใบหน้าขึ้นมา   แดเนียลยิ้มบางๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ  ผงกหัวให้เจ้าของห้องเล็กน้อยและผลักประตูเดินออกไป  เจย์มองแผ่นหลังบางที่ให้ความอบอุ่นกับเธอได้เสมอทุกครั้งที่ขออาศัยพักพิงมัน  ดวงตาเธอมีน้ำมาเอ่อคลอเมื่อพบว่า สิ่งที่มองอยู่ค่อยๆ หายไปแล้วอย่างช้าๆ 

หญิงสาวหลับตาลง  ไม่สนใจสายน้ำที่รินออกมาเพราะมันมีมากกว่าที่เปลือกตาจะสามารถซ่อนเอาไว้ได้  มือเล็กทิ้งปากกาคู่ใจลง  ยกมือขึ้นยันหน้าผากตัวเองไว้พยุงไม่ให้ศีรษะที่เคยเชิดตั้งตรงเสมอไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรต้องเสียศูนย์  เธอไม่รู้เลยว่า  ทำไมจะต้องคอยหาเรื่องมีปากเสียงกันกับคนรักอยู่ตลอดเวลา  ทั้งที่บางเรื่องก็ไร้สาระจนไม่น่าให้อภัย  ทั้งที่ก็คุยกันอยู่ดีๆ แท้ๆ  ทั้งที่เธอเคยสัญญาว่าจะพยายามซื่อสัตย์กับตัวเอง  ทั้งที่เรารักกันมากจนแทบจะอยู่ไม่ได้  แค่คิดว่าต้องห่างกัน  แล้วทำไม...

ทำไมเราจะต้องผิดใจกันอยู่เรื่อยๆ  เถียงกันด้วยเรื่องไม่ท่า ไม่ชอบใจกันแค่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ  ต้องขอโทษกัน  ต้องให้อภัยกัน  วนไปวนมาอยู่แบบนี้ตลอดเวลา..

รักที่ปราศจากความเข้าใจนั้นร้ายกาจกว่าการไม่รัก...

เจย์สูดลมหายใจสะท้าน  ปาดน้ำตาด้วยปลายนิ้ว  พยายามตั้งสติและคิดทบทวนปัญหา  ปรายตามองหาโทรศัพท์มือถือเครื่องบางที่อยู่ไม่ห่างจากมือนัก  ใช้เวลามองมันอยู่สองนาทีก่อนจะเอื้อมหยิบมันขึ้นมาสไลด์นิ้วหาเบอร์โทรที่ต้องการ  บางเวลาที่เส้นทางของเธอมืดเกินไปอย่างนี้  ถ้าได้ใครที่มีแสงสว่างอยู่ในมือมาช่วยส่องทางให้บ้างก็คงดีเหมือนกัน   



.................................................


อา..  ดราม่าเล็กๆ

ปลายเดือนแล้ว  กินมาม่ากันไปนะคะ  ฮ่าๆๆ 

รู้สึกเหมือนพี่เจย์จะหาเรื่องให้ตัวเองไหมเนี่ย  เหอะๆ  อย่าไปว่าเธอเลยนะคะ  เธอเป็นพวกความคิดซับซ้อนไม่เหมือนชาวบ้านเค้าน่ะ  ให้เวลาเธอหน่อย  เธอเพิ่งเคยมีแฟนคนเดียว  แฟนคนเดียวที่กระโดดมาเป็นสามี เอ้ย ภรรยาเลยด้วยสิ  ไม่เคยอยู่กับใครนอกจากน้องก็แบบนี้แหละค่ะ   :20:

เรียนรู้ไปก่อนนะเจย์  ถึงจะอายุไม่ใช่น้อยแล้วก็เถอะ  (ของบางอย่างมันไม่เกี่ยวกับอายุอะเนอะ  ฮ่าๆๆ)   :42:

ยังไงก็  ช่วยให้กำลังใจสองสาวนี่ด้วยนะคะ  คราวหน้าจะไปสวีตกันที่ลอนดอนป่าวน้า  อิอิ   :02:

แล้วเจอกันค่ะ  ขอบคุณนะคะ

ป.ล. อย่าลืมนะคะ  คุณสามารถจับจองเป็นเจ้าของบอสภาคนี้ได้แล้วตั้งแต่วันนี้-20 สิงหาคมนี้ค่ะ  ขอบคุณคนที่สั่งจองมาแล้วด้วยนะคะ  :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น