web stats

ข่าว

 


My Wife Is The Boss- Chapter 9 : Unmask (2)

โพสต์โดย: anhann วันที่: 26 กรกฎาคม 2015 เวลา 14:37:18 อ่าน: 516


นิยายเรื่องนี้เปิดให้จองแล้ว ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ  http://www.yuriread.com/index.php?topic=1371.0




Chapter 9 :  Unmask (2)









บ้านเทย์เลอร์ที่เธอมองเห็นได้จากหน้าต่างห้องนอนปิดไฟหมดแล้ว  เหลือแค่ดวงที่อยู่หน้าประตูบ้าน  ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเจ้าตัวแสบนั่นคงกำลังกล่อมเมียให้หลับอยู่ด้วยวิธีที่เธอไม่อยากรู้เท่าไหร่  ถ้าอย่างนั้น  เธอกำลังมองอะไร

ตามหาความมั่นใจที่จะง้อใครบางคนละมั้ง...

เสียงประตูห้องน้ำในห้องนอนถูกเปิด  ดวงตาเธอวูบไหวตามมัน  เสียงฝีเท้าเบาๆ ที่เดินออกมาและเสียงประตูถูกปิดพาให้หัวใจเธอเต้นตึกตัก  เธอไม่ควรจะตื่นเต้นขนาดนี้เลย  ในเมื่อรู้ดีว่าคนที่ทำเสียงนั้นเป็นใคร  บ้านทั้งบ้านมีแค่เธอกับหล่อนนอกเสียจากเวลาที่เทย์เลอร์หรือแซมจะหนีตายมาแอบอยู่ที่นี่

"คุณควรจะสวมเสื้อผ้าหนากว่านั้นหน่อยนะ  ถ้ารู้ตัวว่าแพ้อากาศ"

เจย์ตากระตุก  ในที่สุดคนที่เริ่มพูดก่อนก็เป็นอีกคนเหมือนเดิม  หันไปมองก็เห็นหล่อนในเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มขายาวสีเทาอย่างที่หล่อนชอบใส่ประจำตอนนอน  และหล่อนกำลังจัดที่นอนอยู่

"แต่ถ้าคุณชอบอย่างนั้น  ใส่แล้วสบายตัวกว่า  ก็ตามใจคุณนะ" 

ตาสีน้ำตาลเข้มกะพริบ  สบตากับอีกคนที่พูดต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย  ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร  หล่อนก็ปีนขึ้นเตียงและเอื้อมมือหยิบหนังสือบนโต๊ะข้างเตียงมานั่งพิงหมอนตรงหัวเตียงอ่าน  ตาสีน้ำตาลอ่อนไม่สนใจเธอแล้ว  ไม่ว่าตอนนี้ตัวเธอจะมีแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งติดกระดุมแค่สามเม็ดล่างและบางเฉียบจนแทบจะมองเห็นทุกอย่างด้านใน   

ไม่ชอบ.. เธอไม่ชอบการถูกเมินอย่างนี้เลย..

"เจย์.. คุณมีอะไรจะพูดไหม  ถ้าไม่ก็มานอนเถอะ พรุ่งนี้มีประชุมเช้า"

เอาเถอะ..  อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ถูกเมินเสียทีเดียว  แดเนียลยังใส่ใจ  ถึงจะไม่ได้พูดเสียงอ่อนหวานเอาใจอย่างเคย  และแปลกที่เธอดันชอบแบบนี้..

ร่างบางปีนขึ้นเตียงแต่ไม่ได้ขึ้นมานอน  เธอมานั่งพับขาจ้องหน้าคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ได้ทั้งที่ดึกป่านนี้แล้ว  "ไม่ง่วงเหรอ"

คำถามนี้ดูจะงี่เง่ามากถ้าเป็นเวลาปกติ  แต่ตอนนี้เธอไม่สน  แค่อยากพูดอะไรให้อีกคนสนใจเท่านั้น  จ้องอย่างเดียวดูจะไม่พอ  หล่อนไม่เงยหน้ามองเธอเลย  ทั้งที่ไม่เคยพลาดจะแอบมองดูร่องอกเธอเวลาที่นั่งใกล้กันอย่างนี้  หรือโชว์นี้จะเก่าเกินไปแล้ว  เธอไม่น่ามองแล้วหรือไง

"แดน..."

"ยังค่ะ  แปรงฟันแล้วมันตาสว่างน่ะ  คุณนอนก่อนก็ได้  หรือไฟแยงตาคุณ"  แดเนียลตอบและถามด้วยน้ำเสียงโทนเดียวกัน  แต่นั่นไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจเท่าที่มือแข็งแรงทั้งสองข้างวางหนังสือลงกับตักและเอื้อมมาติดกระดุมเสื้อให้  ชนิดที่ว่าถ้ามีกระดุมถึงคอก็คงจะติดมันจนหมด

เธอควรจะโกรธดีไหมเนี่ย  ทำแผนอ่อยของเธอเสียหมดเลย..

"ทำตัวให้อบอุ่นเข้าไว้ค่ะ  ถ้าคุณไม่ชอบให้ฉันจ้ำจี้จ้ำไช" 

เจย์ยิ้มเจื่อน  พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ให้คนที่มองตากัน  และไม่วายจะนึกถึงสัมผัสของปลายนิ้วที่แตะอกเธอเมื่อกี้หลังจากที่มันถอนออกไปแล้ว  แดเนียลเวลาโกรธจริงๆ น่ากลัว  หล่อนไม่ใช่พวกที่จะอาละวาดทำเสียงดัง  หรือเถียงกันเอาให้ชนะ  แต่บางทีแบบนั้นมันอาจจะดีกว่าก็ได้  เพราะความเฉยเมยในดวงตาภายใต้การเอาใจใส่ที่เหมือนเดิม  มันเหมือนการเชือดเธออย่างค่อยเป็นค่อยไป  คล้ายนักฆ่าที่ต้องการทรมานเหยื่อจนกว่าจะถึงวาระสุดท้าย  นักฆ่าโรคจิตที่ชอบจะมองเห็นเหยื่อทนทุกข์จนกว่าจะสิ้นลม  เป็นแบบนี้ให้ลงมีดมาที่คอเธอ  หรือยิงหัวเธอเลยจะดีกว่า

"ฉัน..  ชอบไออุ่นจากตัวเธอ"  เธอพูดมันออกไปจนได้  ในที่สุด ความอึดอัดใจก็ทะลักล้นออกมา  คนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ยังคงนิ่งเงียบ  คล้ายกำลังจะฟังอะไรต่อหรือรอให้เธอทำอะไรๆ และตอนนี้คำพูดเทย์เลอร์ก็ดังขึ้นในหัวเธอ  อย่าฟอร์มเยอะ  น้องมันว่าอย่างนั้น  แต่เธอไม่ได้ฟอร์มนะ 

เธอแค่อาย...

"ฉันอุ่นกว่าเวลาอยู่ใกล้เธอ"  เจย์กระซิบ  ขยับตัวเข้าไปจนชิดอีกคนและเอนหัวพิงไหล่  มองหน้าหล่อนที่ยังคงก้มนิ่ง  จากนั้นเธอก็ไม่รู้จริงๆ ว่าควรทำยังไงต่อ  นอกจากกัดปากตัวเองครุ่นคิด

"คุณนี่จริงๆ เลยเจย์" ดวงตาสีเข้มกะพริบปริบ  สบตากับเจ้าของเสียงอย่างแปลกใจ  แดเนียลทำท่าเหมือนอยากจะบีบคอเธอให้ตาย  แต่หล่อนก็แค่ปิดหนังสือที่เดาได้ว่าคงอ่านไม่รู้เรื่องแล้ว  และมาจ้องตาเธอแทน

"คุณรู้ไหม..  นาทีหนึ่งฉันคิดว่า  ฉันจะปล่อยให้คุณกลับบ้านกับเทย์  และฉันจะนั่งแท๊กซี่ไปบ้านพ่อแม่  ไปอยู่บ้านหลังเดิมของฉัน  เผื่อคุณจะได้สบายใจมากกว่า  แต่ฉันก็คิดอีกว่า  ฉันปล่อยคุณไปแบบนั้นไม่ได้  เพราะฉันคงหายใจไม่ออก  ขอโทษที่เห็นแก่ตัวนะคะ" 

แดเนียลพูดทั้งน้ำตาคลอ  ปลายจมูกโด่งๆ แดงระเรื่อเหมือนสองแก้ม  เห็นแล้วก็น่าเอ็นดูและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน  พาลให้นึกโกรธตัวเองที่สนใจแค่ความรู้สึกตัวเองฝ่ายเดียว  เธอสอนน้องอยู่เสมอให้เขาใส่ใจคนรักให้มากๆ  แต่ดูที่เธอทำสิ 

"ถ้าคุณอึดอัดที่มีฉันอยู่ใกล้ๆ  แค่เพียงคุณบอกมา..."

"ฉันบอกว่า  ฉันอยากอยู่ใกล้เธอไง" เจย์เผลอเสียงดัง  กัดริมฝีปากล่างอย่างหงุดหงิดระหว่างที่สองแขนกอดแขนอีกคนแน่น  ตาจ้องกันด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง 

"อย่ากัดปากค่ะ" 

ปลายนิ้วแข็งแรงบีบมุมปากเธอเล็กน้อย  บังคับให้ฟันบนปล่อยออกจากริมฝีปากล่างขณะที่ดวงตาสีอ่อนมองทอดมาอย่างอ่อนโยน

"คุณดื้อเหมือนเด็ก"

"เธอต่างหากที่เด็ก  เธออายุแค่ 24 แดเนียล  ฉัน 28 แล้ว!"

"แต่คุณเกเร  เกเรมากๆ"

"เพราะเธอ..  เพราะเธอที่ทำให้ฉันเป็นอย่างนี้"  เจย์เถียงเสียงแข็งอย่างไม่ยอมแพ้  และอีกคนก็เลิกคิ้วราวว่ารอฟังอยู่  "เธอทำให้ฉันประหม่า  ทำให้ฉันกลัว  ฉันไม่เป็นตัวเองเวลาอยู่กับเธอ  แล้วเธอจะให้ฉันทำเหมือนตอนอยู่กับคนอื่นได้ยังไง  แล้วเธอก็ไม่ใช่คนอื่นด้วย  เธอเป็นสามี..  เอ่อ..ภรรยาฉัน  เออ..นั่นแหละ  เธอไม่ใช่เพื่อนฉัน  เข้าใจไหมเล่า  เธอจะให้ฉันทำกับเธอเหมือนคาร่าได้ยังไง  ทำไมเธอต้องให้ฉันอธิบายด้วยเนี่ย  ฉันเหนื่อยนะ"

ร่างบางหอบเบาๆ เมื่อพูดจบ  มือเล็กตบไหล่อีกฝ่ายที่ส่งเสียงหัวเราะตามหลังคำพูดยาวยืดของเธอ  "ไม่ขำนะ  หุบปากเดี๋ยวนี้!"

"เจย์..  คุณนี่นะ  มันน่าจริงๆ"  แดเนียลอมยิ้มให้คนคิ้วขมวด  และนิ้วเธอก็นวดมันให้ผ่อนคลาย  เจย์เกือบเคลิ้มแต่ก็ปัดมือนั้นออกก่อน  ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนี่

"ฉันน่าอะไร  พูดมาให้รู้เรื่องนะ"  เพราะตัวเล็กกว่าเลยทำให้เวลาเธอขู่ฟ่อๆ เหมือนลูกแมวที่กำลังพองขนใส่สิงโต  และเธอคงโชคดีที่สิงโตแดเนียลเอ็นดูลูกแมวน่ารักอย่างเธอเสมอ  หล่อนจึงหอมแก้มเธอเบาๆ ก่อนจะขย้ำ

แต่ก็ด้วยริมฝีปากที่จูบย้ำๆ หนักแน่น  ไม่ใช่กรงเล็บหรือเขี้ยวที่ทำให้เจ็บช้ำ  ตรงกันข้าม  มันกระตุ้นความอยากของลูกแมวที่ชอบการคลอเคลียใกล้ชิด  และชอบที่จะทิ้งรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้

ไม่รู้ตอนไหนที่เธอปีนขึ้นมานั่งทับตัวหล่อน  สองมือประคองหัว  และปากขบเม้มไปตามลำคอขาวๆ สร้างรอยแดงจางๆ เอาไว้ให้แดเนียลไปอวดใครในวันพรุ่งนี้ 

"เจย์..  มีคนเคยบอกนะคะว่า  ง้อกันด้วยเซ็กซ์มันไม่ดีเท่าไหร่"

"ไม่ดียังไง.." เจย์ถามกลับเสียงแหบ  แอ่นอกเบียดตัวแนบชิดเจ้าของติ่งหูที่เธอกำลังงับมันเล่น  แดเนียลเริ่มเกร็งหากเอียงคอและรวบเส้นผมออกเปิดทางให้เธอได้ใจที่จะเล่นต่อ  "ว่าไง..  ทำไมไม่ดี  หรือไม่ชอบ"

"เพราะชอบไงคะ  ถึงไม่ดี  เพราะชอบก็จะงอนให้ง้อกันบ่อยๆ"

อ้าปากจะต่อล้อต่อเถียงกันอีก  แต่สองมือที่ดึงสะโพกพาให้ร่างเธอขยับมาชิดอีกร่างก็ทำให้ไขว่เขว  เจย์เผลอโยกเอวไปมาด้วยความเคยชิน  แต่มันก็เป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่เธอห้ามไม่ได้เวลาถูกมือของอีกฝ่ายลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและบีบบั้นท้าย  ซ้ำยังจูบเธอเสียจนแทบหายใจไม่ออก  แต่ต่อให้ต้องขาดอากาศหายใจเพราะจูบจากหล่อน  เธอก็ยอมอย่างเต็มใจ  หัวใจเธอมันเต้นอย่างคลุ้มคลั่งอยู่ในอก  มันบอกว่าคนนี้แหละ  ใช่แล้ว..

"อย่างอนบ่อย  ฉันไม่ชอบง้อ  เธอก็รู้"  กระซิบพลางสูดหายใจเข้าให้ออกซิเจนไปเลี้ยงปอดบ้าง  ดวงตาฉ่ำปรือมองอีกคนปลดกระดุมเสื้อเธอเชื่องช้า  มันช้าเสียจนเธออยากจะช่วยปลดมันด้วยมือตัวเอง  แทบรอไม่ไหวที่จะให้หล่อนแสดงความรักใคร่ที่มีต่อร่างกายตน 

"ค่ะฉันรู้..  แต่เวลาคุณง้อ  มันน่ารักจนฉันโกรธต่อไม่ไหวเลยค่ะ"

"เธอก็เป็นแบบนี้  อย่าตามใจฉันนักสิ  เคยตัวหมดแล้ว" 

"มันห้ามยากค่ะ  ฉันรักคุณมากนี่นา"

เจย์พยายามกลั้นยิ้ม  แต่มันไม่สำเร็จ  สุดท้ายเธอก็แอบยิ้มระหว่างมอบจูบกลับไปให้อีกริมฝีปากที่เข้ามาหา  เราผละออกจากกันอีกครั้ง  เมื่อพยายามถอดเสื้อกันและกันออก  จากนั้นเธอก็จำไม่ได้แล้วว่าทำอะไรไปบ้าง  รู้แค่ว่า  เธอเป็นแมวเหมียวที่ชื่นชอบการถูกสิงโตกินเหลือเกิน 

ถึงสิงโตแดเนียลจะค่อยๆ ละเลียดกินเธออย่างช้าๆ ทรมานเธอจนดิ้นพล่านอยู่บนเตียง  ร้องครวญครางจนแทบสิ้นเสียงก่อนจะพาเธอไปมีความสุขในดินแดนแห่งสวรรค์  และโอบกอดร่างเธอไว้อย่างปกป้องอีกครั้งเมื่อเธอร่วงลงมาสู่พื้นดิน  สัมผัสนุ่มละมุนของจูบที่เปลือกตาพาให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ  เธอรับรู้ได้ถึงความรักอันมากมายที่ส่งผ่านมาจากการกระทำ

แต่เหตุใดเธอยังชอบทำเหมือนไม่รู้...

"ฉันจะพยายามนะ"  เจย์กระซิบเสียงเบาให้คนที่นอนตะแคงเข้าหาสบตากันภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน  แดเนียลยิ้มราวรู้ว่าเธอพูดถึงอะไร  แขนยาวคล้องเอวเธอเข้าไปหา  ให้ร่างเปลือยเปล่าของเราแบ่งปันไออุ่นให้แก่กัน

"นี่.. เชื่อฉันไหม"  นิ้วเรียวเล็กแตะคางบุ๋มของคนตัวโตกว่าเรียกหาความสนใจ  เธอไม่รู้ว่าแววตาอยากรู้อยากเห็นภายใต้ท่าทางเหนื่อยอ่อน  มันน่าเอ็นดูขนาดไหนสำหรับคนมอง  หล่อนถึงได้จ้องเธอด้วยดวงตาฉ่ำหวานราวกับกำลังมองของหวานอยู่อย่างนั้น

"เฮ้..."

"แค่คุณพูดว่า 'จะพยายาม' มันก็ทำให้ฉันมีความสุขแล้วค่ะ"

เจย์ยิ้ม  แดเนียลอาจจะปากหวาน  แต่เธอเชื่อว่าคราวนี้หล่อนคงไม่ใช่แค่จะพูดเอาใจเธอ  ความหวังในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนบอกเธอแบบนั้น

"ฉันนอนดีกว่า  พูดกับเธอแล้วเหนื่อย"

"แน่ใจเหรอคะว่า  เหนื่อยเพราะพูด"

นิ้วเล็กบีบจมูกคนพูดมากอย่างหมั่นไส้แต่กลับขยับไปใกล้ร่างกายที่เธออาศัยไออุ่นจากมันมาร่วมสองปี  รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเมื่อรู้สึกว่าศีรษะตนถูกจูบ  เธออุ่นซ่านไปถึงหัวใจ  เธอชอบสัมผัสแบบนี้  เธอรักมันเลยล่ะ

แสงไฟจากโคมไฟบนโต๊ะถูกดับลงแล้วด้วยมือของคนที่เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมกอด  อากาศมันเย็นขึ้นจริงอย่างว่า  แต่มันไม่กระเทือนเธอนักเพราะตัวหล่อนอุ่นเพียงพอ  เจย์ระบายลมหายใจแผ่ว  ความง่วงกำลังจะพรากสติของเธอไป  แต่ช่างมันเถอะ  พรุ่งนี้เธอก็จะได้เจอมันใหม่พร้อมคนคนนี้

และอีกไม่นาน  หวังว่าคงไม่นาน...

เธอจะถอดหน้ากากทั้งหมดที่มีออกให้หล่อนได้เห็นตัวจริง



......................................................


มาต่อให้อีกครึ่งค่ะ  ครึ่งนี้มีน้องแดนกับพี่เจย์ล้วนๆ เลย  อิอิ

แดนเข้มเหรอ  จะได้นานแค่ไหนกันเชียว ฮ่าๆๆ  โดนคิ้วตกๆ กับสายตาอ้อนๆ ก็ไปหมดแล้ว อิอิ  พี่เจย์เค้ามีดีของเค้านะ  ถึงจะซับซ้อนซ่อนเงื่อน  ชอบทำให้เรางงก็เถอะ  ว่าไหมล่ะ  ไม่งั้นคุณคงไม่หลงรักนางกันหรอก อิอิ

ส่วนเรื่องที่จะให้มีเบบี๋นั่นน่ะ  พี่เจย์เค้าอยากมีเร็วๆ นะ  เพราะเค้าคิดว่าตัวเองแก่ขึ้นทุกวัน  กังวลกลัวลูกโง่อ่ะนะ  แต่จะกลัวทำไมเนอะ  แดนยังเด็กอยู่เลย  ฮ่าๆๆ (เกี่ยวกันไหม อิอิ)  :36:

เอาเถอะค่ะ เรื่องลูกอะไรนี่ ปล่อยพวกเขาเคลียร์กันเองเถอะเนอะ

พวกคุณน่ะมีหน้าที่  ติดตามดูชีวิตของพวกนางเท่านั้นล่ะ  ฮ่าๆๆ  จงดูต่อไป   :28:

แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณที่รักพวกนางค่ะ  รักแล้วอย่าลืมให้กำลังใจกันด้วยนะคะ   :35:

แล้วเจอกันใหม่ค่ะ  หวังว่าคงไม่นาน  :45:

ป.ล. จะจองตั๋วเจอตัวสาวๆ เชิญดูรายละเอียดที่ลิงก์ด้านบนนะคะ  :60:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น