web stats

ข่าว

 


Love Seeds vol.3- Chapter 3 : How to Train Your Dragon

โพสต์โดย: anhann วันที่: 04 กรกฎาคม 2015 เวลา 18:08:39 อ่าน: 397






Chapter 3 : How to Train Your Dragon





"ฉันเคยส่งฝาแฝดไปอยู่ฟาร์มกับคนสนิทของพ่อนิกกี้ที่รัสเซียมาช่วงนึง  เธอจำได้หรือเปล่าล่ะ"  ดาเรนเตือนความจำให้ราเชลที่คงจะลืมไปแล้วว่า  กว่าที่ฝาแฝดจะผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจากเด็กหญิงมาเป็นเด็กสาวได้  พวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง  แต่ถึงจะกลับมาเป็นเด็กดีแล้ว  ความแสบจากวันนั้นก็ไม่ได้ลดลง  แค่ไม่กระโดดออกนอกกรอบไปก็ยังโอเค

"พอจำได้หน่อยๆ แต่เพราะเรื่องอะไรนะ" 

"ตื่นสายโด่งทุกวัน  ไม่ทำอะไร  ไม่ช่วยงานบ้าน  ห้องนอนรก  โดนเรียกผู้ปกครองแทบทุกอาทิตย์เพราะโดดเรียน  มีเรื่องวิวาทกับเพื่อนร่วมชั้น  และอื่นๆ อีกมากมาย"

"โอ้.. เลวร้ายจริงๆ แฮะ"  ราเชลยิ้มแหย  คิดไปว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่อิซซาเบลยังไม่ถึงขั้นนั้น  แค่มีช่วงหนึ่งที่ชอบแอบหนีออกจากบ้านไปเที่ยวดึกๆ  นึกไปนึกมาคงจะเป็นช่วงที่ลูกมีแฟนคนแรกแล้วไม่บอกเธอ

ดาเรนยิ้ม  รู้สึกโชคดีที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้  โดยไม่มีใครเจ็บตัว  และสองแฝดก็ดีขึ้นจนสามารถเข้ามหาวิทยาลัยในกลุ่มไอวี่ลีคอย่างนี้ 

"โชคดีหน่อยที่พวกเขาทำเกรดได้ดีกันทั้งคู่  ไม่งั้นนิกกี้คงไม่ทำแค่นั้น"

คนฟังรู้สึกขนลุกแปลกๆ พอจะเดาออกถึงความสามารถของผู้หญิงคนนั้นได้  นิโคลคนสวย  เปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟัน  นิโคลคนโหด  เธอเคยโดนหล่อนเอาน้ำสาดใส่หน้ามาแล้วกลางแมคโดนัลด์ที่กรุงเบิร์น  แขนก็แทบหักเพราะเจ้าหล่อนบิดมันซะแค่เธอแตะตัวนิดเดียว  ความทรงจำนั่นยังฝังหัวอยู่ทุกวันนี้

ความประทับใจครั้งแรกที่ได้เจอหล่อนล่ะ!

"แต่นั่นลูกรักนะ  เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่านิกกี้รักลูกมาก  โคตรรัก"

"ยิ่งรักก็ยังโหด  เคยได้ยินไหมล่ะ  ยิ่งรักก็ยิ่งดุ"

"เหมือนจะรู้สึกดีนะ  ถ้าไม่กลัวจนหลอนไปซะก่อน"

ดาเรนหัวเราะกับท่าทางสยองของเพื่อนที่มีต่อภรรยาตัวเอง  "ถ้านิกกี้ไม่ดุแบบนั้น  เธอคิดหรือว่าจะเอาเจ้าแฝดอยู่"

"เหอะ  เจ้าลิตเติ้ลเดม่อน  ทั้งซนทั้งแก่นยิ่งกว่าเด็กผู้ชาย  พลอยให้อิซซี่ผู้น่ารักของฉันเป็นไปด้วย"

"เฮ้.. อย่าโทษคนอื่นเลยน่า..  อิซซี่คือตัวเธอย่อส่วนมาต่างหาก"

ราเชลกลอกตา  จนปัญญาจะโต้เถียงคนที่รู้ทันกัน  เพื่อไม่ให้เข้าตัวมากกว่านี้  จึงวกกลับมาคุยเรื่องลูกต่อ  "แล้วเธอคิดว่าฉันควรทำยังไงกับอิซซี่  เค้าไม่ได้เกเรแบบนั้น  แต่ก็ยัง...."

"ถ้าเธอกับเบลล์ใจแข็งได้  ฉันแนะนำคุณอลิซ"

"อลิซ?  แม่เลี้ยงของลิทซ์  พี่สาวยัยรุจน่ะเหรอ?" ดาเรนพยักหน้าจริงจัง  แต่ราเชลยังสงสัย  "ทำไม.. ได้ข่าวว่าหล่อนยังโหดกับลูกตัวเอง"

เพราะเกรงใจหลายๆ คน  รวมถึงเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกสาว  เธอจึงไม่ได้พูดว่า  ถ้าให้อิซซาเบลอยู่ที่นี่ตลอดช่วงวันหยุดซัมเมอร์ก็เหมือนเธอส่งลูกมาให้อยู่ใกล้ลิทซ์ที่เป็นแฟนเก่า  แม้ว่าลิทซ์จะพักอยู่บ้านแมคคอลลี่ไม่ใช่พาเวลส์แต่มันก็ไม่ได้ห่างกัน  ไม่ได้ยากที่จะไปมาหาสู่  เธอไม่แน่ใจว่าดาเรนรู้เรื่องของเด็กๆ มากแค่ไหน

"เพราะโหดก็เลยแนะนำไง..  อีกอย่างอลิซมีธุรกิจหลายอย่าง  แต่มีอย่างหนึ่งหรือสองที่ฉันว่าน่าจะเหมาะกับอิซซี่  ถ้าเธอปล่อยให้เค้าทำ  เค้าจะได้เรียนรู้อะไรอีกมาก  บางทีอาจจะได้เจอสิ่งที่เค้าชอบจริงๆ"

"อะไร?"

"มีสองอย่างให้เลือก..  เลี้ยงม้า  กับไลฟ์การ์ด"

ราเชลมองหน้าเพื่อนอย่างช็อก  ทั้งสองอย่างที่ดาเรนแนะนำมาไม่เคยอยู่ในหัวเธอเลยสักนิด  เธอจะปล่อยให้ลูกสาวอายุเพิ่งจะ 15 หมาดๆ ไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง  โดยเฉพาะอันหลัง

ไลฟ์การ์ด  ผู้ทำงานเกี่ยวกับชีวิตผู้คน  ความรับผิดชอบสูงลิ่ว  ซ้ำยังต้องว่ายน้ำเก่ง  ขับเรือเร็วได้  สายตาว่องไว  อิซซาเบลเด็กเกินไปที่จะทำ  และเขายังเป็นแค่เด็กผู้หญิง 

เด็กผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างลูกคุณหนูแท้ๆ  แทบจะทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง  ทอดไข่ดาวยังต้องลุ้นเลยว่าจะกินได้ไหม...

"ไม่..  ไลฟ์การ์ดไม่ได้เด็ดขาด  อิซซี่อาจจะว่ายน้ำเก่ง  แต่ในทะเล  ฉันไม่ไว้ใจ"

"อมีเลียเป็นไลฟ์การ์ดพาร์ทไทม์ที่ซานตา  โมนิก้า  เค้าเริ่มงานมาได้สองวันแล้ว  ส่วนแอนเดรียก็ทำพาร์ทไทม์ที่ร้านขายอุปกรณ์เล่นน้ำ ชุดว่ายน้ำ  ให้เช่าเรือเร็ว  เจ็ทสกี  ที่เดียวกัน  เค้าอยากอยู่ใกล้พี่สาว  ที่นั่นมีอาชญากรรมน้อยมาก  ฉันกับนิกกี้เลยไม่ห่วงพวกเขาเท่าไหร่  แถมพวกพาเวลส์ก็คุมที่นั่นอยู่ด้วย  ไม่มีอะไรต้องกลัว"  ดาเรนเล่าอย่างภูมิใจ  และความตกใจของราเชลก็กลายเป็นความทึ่งและอึ้ง  บ้านแมคคอลลี่นี่คนละชั้นกับบ้านเธอเลยจริงๆ สำหรับเรื่องการเลี้ยงลูก ฝาแฝดแม้จะแสบแค่ไหน  พวกเขาก็แสบอย่างมีสาระ

ช่างเป็นเด็กที่มีความคิดและกล้าหาญ.. สายเลือดมาเฟียรัสเซียจากนิโคลคงเข้มข้นไม่แพ้สายเลือดผู้ดีอังกฤษของดาเรนแน่ๆ

"ถ้างั้นก็...."

"แต่ถ้าเธอกลัวเรื่องทะเล  คอกม้าของบ้านรุจก็ต้อนรับอยู่นะ อยู่ใกล้กับโรงถ่ายของพาราเมาท์แต่ออกไปนอกเมืองอีกหน่อย  หลายครั้งที่ม้าที่นั่นได้เข้าฉากในหนัง  บางทีพวกลูกคุณหนูก็มาหัดขี่กัน  มาเล่นโปโล"

"โอ้..เธอมีข้อมูลพวกนี้ได้ยังไง  รู้จักกับพวกพาเวลส์มาตั้งแต่เมื่อไหร่"

"คุณอลิซเป็นลูกค้าเก่าแก่ของฉัน  ไม่ใช่สิ  ตั้งแต่สมัยคุณพ่อฉันและพ่อเค้าแล้วล่ะ  ฉันได้รายชื่อลูกค้าต่อมาจากพ่อไง"  ดาเรนอธิบาย

"แต่จริงๆ ฉันอยากให้อิซซี่ไปอยู่ที่คอกม้านะ  เขามีที่พักให้  และอิซซี่ก็จะได้เรียนรู้อะไรด้วยตัวเองโดยไม่ต้องอาศัยพี่ๆ คอยช่วยเหลือ  แถมยังได้อยู่กับสัตว์ด้วย  เค้ายังไม่เคยดูแลตัวอะไรเลยสิ  ไม่มีสัตว์เลี้ยง"

"ไม่มี  ตั้งแต่ล้วงปลาทองมาหักคอ  เบลล์ก็ไม่ให้เลี้ยงอะไรอีกเลย"

สองคนมองหน้ากันอย่างรู้ความหมายโดยไม่จำเป็นต้องพูด  ราเชลมุ่นคิ้วอย่างใช้ความคิด  "ฉันคงต้องคุยกับลูกก่อน"

"ไม่..  เธอต้องคุยกับเบลล์  เพราะอิซซี่..  ยังไงก็ต้องไป  ถ้าเธอสั่ง"

โหด..  คำๆ นี้ผุดขึ้นในหัวของราเชลทันทีที่ได้ยินเสียงเข้มๆ และเห็นดวงตาสีช็อกโกแลตเปล่งประกายวาว  ใครบอกว่าบ้านนี้โหดแค่นิกกี้   คนตรงหน้าเธอก็โหดเหมือนกัน  โหดซ่อนเร้น  เชือดกันนิ่มๆ

"ไม่คิดว่า  จะเผด็จการไปหน่อยเหรอ  เค้าก็ไม่ได้ผิดอะไรขนาดนั้น"  นึกสยองแทนลูกสาว  เพราะเธอเองก็ไม่เคยโดนทำแบบนั้น  แค่ทำเกรดได้ดี  ช่วยทำงานบริษัทได้  เธอก็มีอิสระที่จะทำได้ทุกอย่าง  แต่จะว่าไป  เกรดอิซซี่ก็ใช่ว่าจะน่าพอใจ  ลูกเหมือนไม่จริงจังกับอะไรสักอย่างเลย

และนั่นแหละคือประเด็น...

"ถ้างั้น.. ทำไมเธอคิดว่าลูกมีปัญหาล่ะ  ทำไมถึงอยากจะฝึกเค้าใหม่  เธอเห็นลิทซ์กับเอฟไหม..  ลิทซ์อาจจะไม่ใช่เด็กดีมาก  โอเค.. เค้าเกเร  ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่  แต่เก่งทุกอย่าง  เรียนเก่ง  ทำงานได้  นั่นแหละ อลิซถึงยอมปล่อยให้เค้าอยู่นิวยอร์กคนเดียวได้  และให้อิสระกับเค้า  ยอมให้เค้าเลือก  แบบมีข้อแลกเปลี่ยนกัน  เธอรู้ไหม.. ฉันเห็นลิทซ์แล้ว  รู้สึกเหมือนฉันเห็นเธอคนที่สอง  จากที่เบลล์เคยแอบเม้าท์ให้ฟัง"  ดาเรนยิ้มขณะที่ราเชลกลอกตา  รู้สึกเหมือนถูกด่ายังไงไม่รู้ 

"แต่สำหรับเอฟ..  เอฟถูกเลี้ยงมาอย่างมีระบบ  มีความรับผิดชอบสูง  เพราะเม็ทสอนมาแบบนั้น  แล้วยังมาเจอซิลค์ผู้บ้างานอีก  เลยไปกันใหญ่  เค้าอาจดูเคร่งเครียดไปสักหน่อย  แต่ก็น่ารัก  ฉันรู้ว่าเธอกับเบลล์ชอบแบบนี้  แล้วอิซซี่ล่ะ  อิซซี่ไม่ดียังไง  เท่าที่ฉันเห็น  อิซซี่ก็ไม่ได้แย่อะไร  ไม่ได้เกเร  ไม่ได้ติดยา  ดูเป็นผู้เป็นคนกว่าเธอตอนเด็กๆ ด้วยซ้ำไม่ใช่หรือไง"  ดาเรนชะงักเมื่อรู้สึกว่าถูกมองจ้องอย่างไม่สบอารมณ์  สงสัยจะพูดตรงไป  "เอ่อ.. อันนี้ยัยซอนแอบเม้าท์นะ  ไม่ใช่เบลล์  อย่าไปหาเรื่องผิดคนล่ะ"

ราเชลโบกมือว่าไม่เป็นไร  ตอนนี้เธอสนใจเรื่องลูกมากกว่าเรื่องตัวเอง  ไม่เคยคิดเลยว่า  มีลูกกับเขาแค่คนเดียวจะต้องเครียดขนาดนี้  หรือเพราะมีชื่อเสียงตระกูลค้ำคออยู่กันนะ

"ก็เหมือนจะไม่ได้แย่อะไร  แต่เค้าไม่จริงจังกับอะไรสักอย่าง  หรือเค้ายังไม่โตพอที่จะคิดเรื่องความฝัน  เรื่องอนาคตว่าอยากจะทำอะไร"

"เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกราเชล  ถ้าเธอเอาพวกเขามาเปรียบเทียบกัน  มันดูไม่แฟร์เท่าไหร่  บางทีตอนนี้เค้าอาจจะแค่อยากสนุกไปวันๆ  ใช้เวลาของวัยเด็กให้คุ้ม"

"ก็จริง  แต่บางทีฉันก็คิดว่า  ที่เค้ายังไม่คิดจริงจังกับอะไรเลย  เพราะคิดว่ายังไงตัวเองก็มีคนช่วยเหลืออยู่ตลอด  อยากได้อะไรก็ต้องได้  คงผิดที่ฉัน  ฉันตามใจลูกมากไป"

"ถ้างั้นก็ใจแข็งหน่อยแล้วกัน  ฉันจะช่วยคุยกับรุจให้  แต่ถ้าอลิซว่างพอจะมาสอนเองนะ  เยี่ยมแน่นอน"

ราเชลพยักหน้ารับทั้งยังหวั่นๆ แต่อีกใจก็หวังว่ามันจะช่วยอิซซาเบลได้บ้าง  หวังว่าลูกคงเข้าใจเธอนะ

.........................................................

อิซซาเบลแทบไม่อยากเชื่อว่า  เธอจะถูกแม่ๆ ส่งมาอยู่ในที่แบบนี้ในช่วงวันหยุดซัมเมอร์ที่รอคอยมาแสนนาน  แผนการที่วางไว้สำหรับการเที่ยวเล่นที่บ้านเอเวอร์ลี่ที่ซานฟรานซิสโกพร้อมกับพวกพี่ๆ น้องๆ พังทลายหมดแล้ว  แต่ก็เพราะไม่มีใครว่างเลย  ฝาแฝดทำงานพาร์ทไทม์  เอเวอร์ลี่ไม่ต้องถาม  ทำงานตลอดกาล  เจอร์ซี่กับเจสซี่ไม่แน่ใจว่ามีเรียนพิเศษไหม  ที่เหลือก็แค่เจ้าโย่งแคลร์คนเดียว  ส่วนลิทซ์..  คงไม่จำเป็นต้องไปพูดถึง  หล่อนไม่เคยว่าง  แต่ถึงว่าง  ก็อยู่ห่างๆ กันจะดีกว่า

"แคลร์..  แบกกระเป๋าให้พี่เค้าสิ  ตัวใหญ่กว่าทำตัวให้เป็นประโยชน์หน่อย"  เสียงรุจิกานต์ที่อุตส่าห์เคลียร์งานเพื่อมาดูแลพวกเธอในช่วงแรกของการอยู่ที่นี่  ออกคำสั่งกับคุณหลานตัวโต

เจ้าโย่งมองเธออย่างไม่สบอารมณ์  เดาว่าน้องมันคงอยากจะไปอยู่ซานตาโมนิก้ามากกว่า  เพราะที่นั่นมีไลฟ์การ์ดคนหนึ่งซึ่งมันทั้งรักทั้งหลง

เชอะ อย่างกับเธออยากอยู่กับมันงั้นล่ะ  เอาพี่สาวมันมาแทนได้ไหม?

"เอามาสิ  อยากให้ฉันโดนด่าอีกหรือไง" แคลร์ว่า  พลางกระชากกระเป๋าเป้ใบโตไปจากมืออีกคน  อิซซาเบลอยากจะไล่ตามไปเตะก้นน้อง  แต่ก็เกรงใจสายตาของผู้ใหญ่ตาคมที่ยืนคุมอยู่  ไม่รู้ทำไม  เธอกลัวอารุจจริงๆ หรือเพราะยังไม่สนิทกันเท่าไหร่  แต่เจ้าแคลร์ก็ยังกลัวเลยไม่ใช่เหรอ

"อิซซี่..  เอฟบอกจะแวะมาตอนเย็นนะ จะค้างด้วยหรือเปล่า  ก็ลองถามกันเอง  รู้สึกจะมีไฟลท์กลับนิวยอร์กตอนสายๆ" รุจิกานต์แวะมาบอกก่อนจะเดินเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ดูแลคอกม้า  อิซซาเบลรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย  อย่างน้อยเอเวอร์ลี่ก็ไม่ทิ้งเธอไปเสียทีเดียว  แต่ตอนนี้เธอคิดถึงแม่

ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้กับเธอ  ไม่เข้าใจเลย..

เด็กสาวมองเหม่อไปอย่างไม่รู้ทิศทาง  ยังไม่อยากเข้าไปดูที่พักด้านในของฟาร์มม้าอันใหญ่โตนี้  แทบไม่อยากจะคิดว่าต้องอยู่ที่นี่เป็นเดือนด้วย  มันเหมือนความฝัน  หยิกตัวเองให้ตื่นได้ไหม..

"เฮ้.. เข้าไปข้างในได้แล้วน่า  อาลัยอาวรณ์อะไรอยู่ได้" 

อิซซาเบลสะดุ้ง  ยังไม่ทันจะได้ตกใจฮู้ดจากเสื้อคลุมที่ใส่อยู่ก็โดนดึงให้เดินตามคนดึงมาแล้ว  เจ้าแคลร์มันไม่เคยคิดอยากจะถนอมเธอสักนิด  ไม่รู้เห็นเธอเป็นตัวอะไร  เอเวอร์ลี่ไม่เคยโหดกับเธอแบบนี้เลย

"อยู่ที่นี่  ไม่มีคนคอยโอ๋เธอหรอกนะ  จะบอกให้" 

ดูเอาเถอะ  มันเป็นคนแบบไหนกันล่ะ  ซ้ำเติมตลอด!

"ทำกับฉันดีๆ หน่อยได้ไหม  ฉันเป็นคนนะ!"  อิซซาเบลสะบัดตัวออกจากมืออีกฝ่าย  แคลร์มองมาด้วยสายตาเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าทำกับเธอรุนแรงเกินไป  แต่มีหรือที่จะยอมขอโทษเธอ  ไม่เคย..  ไม่เคยเลย..

"ก็เข้าไปสักทีสิ  รุจให้มาตาม  จะพาไปดูห้อง"

"หวังว่าฉันคงไม่ต้องนอนร่วมห้องกับเธอหรอกนะ"

"ไม่นอนก็นอนในคอกม้าละกัน" 

ฟังแล้วอยากจะร้องกรี๊ดหรือวิ่งหนีขึ้นรถใครสักคนออกไปจากที่นี่ซะ  แต่เธอก็ทำได้แค่กระฟัดกระเฟียดกระแทกไหล่ใส่เจ้ายักษ์ที่ยืนทำท่ากวนประสาทอยู่ตรงนี้  "เธอสิ  ไปนอนคอกม้า  ท่าทางเหมือนมันจะตาย"

แคลร์แลบลิ้นไล่หลังผู้ร่วมชะตาที่โดนส่งมาดัดนิสัยด้วยกัน  ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด  แต่แม่ซิลค์ก็ยังจะส่งเธอมาที่นี่อีก  ก็แค่ลืมหยิบมือถือมาจากห้องนั่งเล่น  แล้วหนึ่งในสาวที่แลกเบอร์กันในผับโทรมาคุยด้วยและเจอแม่เท่านั้นแหละ  เป็นเรื่องเลย  มะม๊ากับพี่เอฟก็ยังจะสนับสนุนอีก

หึ  แต่จริงๆ พี่เธอคงอยากจะให้มาอยู่เป็นเพื่อนอิซซี่ละสิ  รู้ทันหรอก!

"เราสองคนพักห้องเดียวกันได้ใช่ไหม?"  รุจิกานต์ถามหลานระหว่างพาเข้ามาบ้านพักที่ไม่ได้ใหญ่นัก  และห้องพักส่วนใหญ่ที่นี่ก็มีไว้สำหรับแขกที่พาม้าของพวกเขามาฝึก  มันแยกตัวจากส่วนของคนงานมา  ที่เหลือก็มีห้องพักสำหรับผู้จัดการกับห้องเธอซึ่งใช้ร่วมกับอลิซเวลาที่พี่มาตรวจงานและนึกอยากจะพักที่นี่

"มีห้องเดียวเหรอคะ  หนูเห็นมีห้องตั้งเยอะ"

"อย่าเรื่องมากน่า  ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก  ยัยบื้อ"

"เอ๊ะ!"

"เฮ้ๆ" อาสาวเข้ามาจับสองหลานแยกกันก่อนที่ใครจะฆ่ากันตาย  ดวงตาคมมองทั้งสองฝ่ายอย่างตำหนิ  "นี่ถ้าทะเลาะกัน  จะไล่ให้ไปเลี้ยงวัวกลางทุ่งนะ  แล้วถ้านอนห้องเดียวกันไม่ได้  คนหนึ่งก็ไปนอนกับม้าในคอก  อาบอกพวกเราแล้วตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม"

"ก็แคลร์---"

"อิซซี่..  เราเป็นพี่เขานะคะ"  อิซซาเบลหน้าสลดทันใด  ไม่คิดว่าคุณอาคนสวยจะดุขนาดนี้  ไม่เห็นเหมือนตอนที่อยู่ที่โรงแรมเลย

"โอเค..  เอากระเป๋าตามอาเข้ามา  ห้องมันไม่เล็กเหมือนที่เห็นข้างนอกหรอก  มีสองเตียง  เลือกเอาว่าใครจะนอนไหน"

สองสาวน้อยมองหน้ากันเหมือนจะเกี่ยงกันในตอนแรกว่าใครจะเข้าไปก่อนใคร  แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็พุ่งเข้าประตูไปพร้อมกัน  และนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กกว่ากระเด็นออกมาเพราะสู้แรงยักษ์ไม่ได้ 

อิซซาเบลสบถในใจ  ลุกขึ้นจากพื้น  ตามเก็บกระเป๋าตัวเองที่กระเด็นไปอีกทางกลับมาและเดินตามเจ้ายักษ์โหดเข้าไปอย่างพยายามจะไม่หงุดหงิด  เธอยังไม่คิดอยากจะไปเลี้ยงวัวตอนนี้

แต่ดูสิ  ไอ้เด็กบ้านั่นมันเลือกเตียงก่อนเธอเฉยเลย  อย่าให้ถึงทีเธอบ้างละกัน!   มันได้นอนฝั่งที่ติดกับหน้าต่างด้วย  เธอชอบมุมแบบนั้น..

"อาให้เวลาเราพักสิบนาที  จะเก็บข้าวของหรือนอนเล่นก็ได้  แล้วไปหาอาที่ห้องนั่งเล่น  อาจะพาไปดูม้า  และบอกว่าเราต้องทำอะไรกันบ้าง"

คุณอาคนสวยแต่สุดจะดุพูดแค่นั้นแล้วเดินออกไป  อิซซาเบลถอนใจ  ล้วงหามือถือในเสื้อคลุม  อยากจะโทรหาแม่  ขอร้องให้มารับเธอกลับบ้านที  เธอไม่อยากอยู่ที่นี่  แต่มือถือในมือก็ถูกพลิกไปพลิกมาอยู่อย่างนั้น  ถ้าทำอย่างนั้น  เธอก็คงจะกลายเป็นไอ้ขี้แพ้  เจ้าแคลร์ก็คงจะล้อเธอไปอีกนาน

"แรกๆ ก็เหมือนจะน่าเบื่อแหละ  อยู่ไปเดี๋ยวก็ชิน  สนุกดีด้วยซ้ำ" เสียงคนร่วมห้องดังขึ้นมาขัดจังหวะความคิด  ตาสีฟ้าชำเลืองมองก็เห็นแคลร์รื้อของออกจากกระเป๋าและจัดมันให้เข้าที่เข้าทาง  เด็กนั่นทำเหมือนว่านี่เป็นแค่การมาทัศนศึกษา  หรือมาเที่ยวและพักแรมอยู่โฮมสเตย์

"พูดอย่างกับเคยมา"

ตาสีน้ำตาลแดงหันมาสบตาเธอ  เจ้ายักษ์ยักไหล่  ไม่ตอบอะไร  เก็บของเสร็จก็นอนเหยียดยาวบนที่นอนนั่น  น้องมันไม่คิดจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใคร  แค่นอนหลับตา

นั่นสินะ  ไม่มีใครว่างมาคุยด้วยหรอก  อมีเลียทำงาน  แอนเดรียก็ทำ  เอฟก็ทำ  เจอร์ซี่กับเจสซี่เรียนพิเศษ  ลิทซ์...  ยัยนั่นก็ทำงาน..

"อมีเลียเคยเล่าให้ฟัง  ฝาแฝดเคยถูกส่งไปดัดนิสัยที่รัสเซีย  ทำฟาร์ม  ทำไร่  ขุดดิน  เลี้ยงแกะ  แอนเดรียไม่เคยเล่าให้เธอฟังหรอกเหรอ"

อิซซาเบลอึ้ง  ใช่.. เธอลืมเรื่องนี้ไปแล้ว  ใช่สินะ คนอย่างเธอคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น  ช่างเป็นคนที่ไม่เอาไหนเลยจริงๆ สมควรแล้วที่โดนส่งมาที่นี่  สรุปว่าเธอถูกแม่ส่งให้มาดัดนิสัยเหมือนกันสินะ  ว่าแล้วเชียว..

"ไปเถอะ  เธอคงไม่อยากเจอรุจภาคมารหรอกใช่ไหม?"  แคลร์ลุกพรวดขึ้นมาที่นอน  ลากแขนเธอติดมือไปด้วยอย่างไม่รอถามความสมัครใจ 

ช่างเถอะ  อย่างน้อย  น้องมันก็ไม่ทิ้งเธอไว้คนเดียว...

.....................................................

"เฮ้..  มันเป็นม้า  ไม่ใช่สัตว์ประหลาด" 

อิซซาเบลหันขวับไปตามเสียงคุ้นหูที่รอจะได้ยินมาทั้งวัน  พอเห็นแล้วก็เลิกสนใจเจ้าม้าตัวโตที่พยายามจะแตะตัวมันมาตั้งแต่ช่วงกลางวัน  ที่อารุจคนสวยแนะนำให้ลองทำดู 

สบตากับดวงตาสีม่วงที่มองมา  อยากจะงอนเจ้าของมันสักหน่อย  แต่ขอบตาเธอกลับร้อนผ่าว  พี่สาวคนดีก็เหมือนจะรู้ใจจึงเดินเข้ามาดึงเธอไปกอดปลอบ  ลูบหัวลูบหลังราวเธอเป็นเด็กสองสามขวบ

"เฮ้..  งอแงซะแล้ว  แล้วจะอยู่ครบเดือนได้ไหมเนี่ย"

"เอฟก็มาอยู่ด้วยกันสิ  อยู่ปีนึงก็ได้"

"เอางั้นเลย"  เอเวอร์ลี่หัวเราะ  มือขยี้หัวทุยๆ เบาๆ ก่อนจะดันตัวออกมามองหน้ากันให้ชัดๆ ปาดน้ำตาเด็กขี้แยให้ด้วยปลายนิ้ว "ไม่เป็นไรหรอก  ถึงจะดูกันดารไปหน่อย  แต่ที่นี่มีอินเตอร์เนตนะในบ้านพัก  สไกป์ไปหาพี่ก็ได้  ถ้าเธอเหงา"

"ถ้าเอฟว่างคุย"  อิซซาเบลต่อให้แต่เหมือนตัดพ้อกันมากกว่า  อีกคนจึงหยิกแก้มให้สักที  "เจ็บนะ!  มาจูบให้หายเลยด้วย"

คนอายุมากกว่าสั่นหัว  แต่กลับยอมทำตามคนงอแง  คิดซะว่าเป็นการเอาใจเขาส่งท้ายที่จะไม่ได้เจอกันอีกเป็นเดือน  และจูบที่แก้มก็เลื่อนมาถึงที่ปาก  ใครว่าเธอไม่คิดถึงเด็กคนนี้กัน  ต่อให้เกเร  ไม่เอาไหนยังไงก็รัก  เจ้าชู้หรือโลเลก็รัก  ก็มันรักไปแล้ว  ทำไงได้...

"ถ้าฝาแฝดว่าง  ก็คงมาเยี่ยมบ้าง" 

อิซซาเบลมองหน้าคนที่กำลังลูบคอม้าสีน้ำตาลเข้มในคอกตรงหน้าอย่างไม่กลัว  เธอสั่นหัวปฏิเสธสายตาที่บอกให้ลองทำดูบ้าง  "ไม่อ่ะเอฟ  เดี๋ยวมันเตะฉัน"

"ไม่เห็นมันเตะพี่เลย  มันน่ารักออก  ลองจับสิ"

เจ้าของตาสีฟ้าสั่นหัวรัวๆ พยายามขืนมือที่มาดึงมือเธอให้ไปสัมผัสผิวหนาๆ ของเจ้าสัตว์ตัวใหญ่กล้ามเป็นมัดๆ  แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้แววตาขอร้องของคุณแฟน  อิซซาเบลหลับตาปี๋  ไม่กล้ามองว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่มือเธอสัมผัสมัน  แต่แล้วสัมผัสที่รู้สึกได้ก็ทำให้ต้องลืมตาขึ้นมา

ขนของเจ้าม้าไม่ได้หยาบกร้านเป็นแปรงขัดพื้นเหมือนอย่างที่เธอคิด  ซ้ำแววตาของมันที่มองเธอก็ไม่ได้น่ากลัวสักนิดเลย  มันไม่ได้ตาสีแดง  ก็ไม่ใช่ม้าผีในเรื่อง Sleepy Hollow สักหน่อย

"อยากลองขี่ไหม..  แค่จูงก็ได้"  เอเวอร์ลี่ถาม  แต่ไม่ได้รอเอาคำตอบ  ไม่สนใจคำปฏิเสธ 

อิซซาเบลยืนอึ้ง  มองดูเจ้าสัตว์สี่ขาตัวใหญ่ก้าวออกมาจากคอกเพราะแรงจูงของอีกคน  ขณะที่เธอหลอนไม่เลิก  เอเวอร์ลี่กลับลูบหน้าลูบคอเจ้าม้าราวกับรักใคร่มันเสียมากมาย  แต่มันใช่เวลาหรือที่เธอควรจะมาอิจฉา

"เอฟขี่ม้าเป็นเมื่อไหร่  ทำไม..."

"นานแล้ว  เมื่อก่อนพี่มาที่นี่ทุกวันหยุด  มากับรุจประจำ" เอเวอร์ลี่อธิบายยิ้มแย้ม  แต่อีกฝ่ายกลับมองอย่างเหลือเชื่อ  "เธอยังไม่รู้จักพี่ดีพออิซซี่"

อิซซาเบลอยากจะถาม  แต่เธอก็ช้าเกินไปแล้ว  พี่สาวตัวบางกระโดดขึ้นบนหลังม้าที่เขาพามันออกมาเดินเล่นเมื่อกี้และควบมันออกไปจากคอก  เธอวิ่งตามออกมาด้วยความเป็นห่วง  สุดท้ายก็ยืนอึ้งอีกที 

เอเวอร์ลี่เท่มากบนหลังม้า  แม้ว่าจะเห็นแค่เพียงไกลๆ ที่พี่เค้าควบมันอยู่บนลู่ฝึกวิ่งสำหรับม้า  พระเจ้า! แล้วเธอจะยอมแพ้ได้ยังไง..       



......................................


สวัสดี  นี่ไม่ใช่นิยายแฟนตาซีนะคะ  อย่าเบลอไปกับชื่อตอน  อิอิ

อ่านจบตอนแล้วคงจะเข้าใจว่าทำไมมันชื่ออย่างนี้ 

ว่าแต่..  คงจะแอบว่าเราละสิว่า  ใจร้ายอีกแล้ว  จับอิซซี่แยกกับพี่เอฟทำไม  เพื่อเทรนค่ะ  เทรน  กว่าเราจะได้คนเก่งขึ้นมาสักคน  มันต้องเทรนกันหน่อย  ไม่ส่งไปอยู่รัสเซียก็ดีเท่าไหร่แล้ว ฮ่าๆๆ  :28:

โอ้..  เรามีคำถาม  คุณว่า บ้านไหนเลี้ยงลูกโหดสุดคะ  ในบรรดาสาวๆ ของเรา  ออกความเห็นมาได้เลย   :42:

แล้วตอนหน้ามาดูกันต่อนะว่า  อิซซี่กับแคลร์จะเลี้ยงม้ากันได้เรื่องไหม  จะโดนอารุจเตะแทนม้าหรือเปล่าเนี่ย  ฮ่าๆๆๆ  :27:

ขอบคุณค่ะ  แล้วเจอกันใหม่นะ  :44:

ป.ล.  ไอเดียเด็กโดนดัดนิสัยให้มาเลี้ยงม้า  มาจากเรื่อง Of girls  and horses  หนังเลสของเยอรมันค่ะ  อยากดูบ้าง  ไปถามได้นะคะ  :21:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น