เพื่อนกัน ฉันรักเธอ ตอนที่ 5 เพื่อนไม่ทิ้งกัน
โพสต์โดย:
serratia
วันที่: 03 มิถุนายน 2015 เวลา 20:46:54
อ่าน: 317
|
ตอนที่ 5 เพื่อนไม่ทิ้งกัน
"เพื่อนๆคะ ขอหนูแดงเล่นน้ำด้วยคนสิ" หนูแดงที่เปลี่ยนเป็นชุดเต้นแอโรบิคสีดำกางเกงรัดรูปสามส่วนเดินมาสมทบ แต่พี่ชลยังใส่ชุดเดิมเดินตามมา ทำท่าเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง
"พี่ชลมาเล่นน้ำด้วยกันสิ"นังจินต์กวักมือเรียก
"ไม่ล่ะ พี่ชลเคยเล่นแต่น้ำในสระว่ายน้ำ แบบนี้คงไม่ไหว ตามสบายเลยน้องๆ"พี่ชลตะโกนบอก แล้วนั่งลงตรงศาลาริมน้ำ หยิบหนังสือพ็อกเกตบุ้คขึ้นมาอ่านโดยไม่ได้สนใจพวกเราอีก
"พี่ชลเขาชอบอ่านหนังสือค่ะ ปล่อยให้นั่งอ่านไปเถอะ เรามาเล่นน้ำกันให้สนุกดีกว่า" หนูแดงบอกพวกเรา แล้วคว้าห่วงยางบนตลิ่งลงมาเล่นด้วย
"ทำไมพี่ชลทำหน้างออย่างนั้นล่ะหนูแดง ไม่พอใจอะไรหรือเปล่า"ยัยเอมมี่อดถามไม่ได้
"พี่ชลไม่อยากให้หนูแดงลงเล่นน้ำค่ะ บอกว่าน้ำแบบนี้สกปรกเชื้อโรคเยอะ แต่หนูแดงอยากเล่นน้ำกับเพื่อนๆเลยดื้อกับพี่ชลนิดหน่อย"หนูแดงหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจนัก
แม้ว่าเป็นลำธารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติแต่ทางรีสอร์ตได้ทำฝายกั้นน้ำไว้เป็นระยะๆ จึงมีน้ำตกจำลองเล็กๆให้เล่นอยู่หลายแห่ง
ฉันนอนอย่างสบายบนห่วงยางขนาดใหญ่ ปล่อยให้มันไหลเอื่อยๆไปตามกระแสน้ำ ไกลออกมาจากกลุ่มเพื่อนผ่านร่มเงาของต้นไม้ใหญ่สองฝั่ง เสียงนกที่จับบนกิ่งไม้ร้องจิ๊บๆ พาให้เพลิดเพลินเจริญใจ
"วู้ๆ นุ่นจังรอด้วยสิ" เสียงหนูแดงร้องเรียก ฉันผงกศีรษะขึ้นมองแล้วโบกมือให้กับหนูแดงบนห่วงยางที่ตามหลังมา
"เพื่อนคนอื่นล่ะหนูแดง"ฉันตะโกนถามเมื่อเห็นหนูแดงตามมาเพียงคนเดียว
"หนูแดงเห็นนุ่นจังลอยมาทางนี้ก็เลยตามมาบ้าง ไม่ได้ชวนคนอื่นค่ะ แถวนี้เงียบจังเลยนะคะ เหมือนอยู่ในป่าเลย ดีว่าเป็นเขตรีสอร์ตไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามา ไม่งั้นคงน่ากลัวเหมือนกัน"
ฉันมองไปรอบๆ บริเวณนี้เริ่มมีแต่ต้นไม้และหญ้ารกๆ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆสงสัยเราจะมาไกลเกินไปซะแล้ว
"แต่เราว่าตอนนี้เราคงจะออกนอกเขตรีสอร์ตแล้วล่ะหนูแดง จะขึ้นฝั่งหรือยัง อย่าลืมนะว่าเราต้องแบกห่วงยางเดินกลับนะ"ฉันเริ่มเป็นกังวล บรรยากาศก็มืดครึ้มเหมือนฝนจะตก
ฉันกระโดดลงจากห่วงยาง ลำธารสายนี้น้ำไม่ลึก แค่ระดับเอวของฉันเท่านั้นเอง ยืนรอจนห่วงยางของหนูแดงลอยมาถึง
"แล้วจะกลับยังไงเนี่ยไม่มีทางเดินเลย"ฉันเริ่มงง มองขึ้นไปบนฝั่งก็รกเป็นป่า แต่ถ้าลากห่วงยางเดินทวนน้ำคงไม่ไหวแน่ๆ เดินบนบกน่าจะไวกว่า
"หนูแดงกำลังสนุกไม่อยากกลับเลยค่ะ ลอยไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็คงเจอทางออกขึ้นฝั่งเอง"หนูแดงทำท่าอิดออดไม่อยากลงจากห่วงยาง
"แต่ถ้าไม่มีล่ะ ดูเหมือนเราจะเข้าป่า มากกว่าออกจากป่านะหนูแดง และเราต้องเดินย้อนกลับไปอีกไกล ไม่เหมือนตอนลอยบนห่วงยางไหลตามน้ำมา คนอื่นจะเป็นห่วงเพราะเราไม่ได้บอกใครไว้"ฉันเตือนให้หนูแดงยอมขึ้นฝั่ง
"เดินระวังหน่อยนะหนูแดง หินแถวนี้ลื่นมาก" ฉันจูงมือหนูแดง เดินลัดเลาะไปตามโขดหินแถวริมน้ำย้อนกลับไปทางเดิม ฉันใส่รองเท้าแตะรัดส้น จึงเดินอย่างไม่ยากลำบากเท่าไรนัก แต่หนูแดงซึ่งไม่ได้สวมรองเท้านี่สิคงเจ็บเท้าแย่ เพราะต้องเดินบนก้อนหินที่แข็งและขรุขระ ยิ่งเห็นชีเดินเขย่งเก็งกอยแล้วก็ยิ่งสงสาร ไหนอีกมือจะต้องแบกห่วงยางอีก
"ได้ผจญภัยกับนุ่นจัง น่าตื่นเต้นจัง หนูแดงไม่เคยได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้มาก่อนเลย ดูปลาพวกนี้สิไม่กลัวคนเลย"อีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอันใด ชี้ชวนให้ฉันดูปลาเล็กปลาน้อยที่ว่ายน้ำอยู่กันเป็นฝูงอย่างตื่นเต้น แม้จะเดินไม่ค่อยถนัดนัก
"ว้าย!งู"หนูแดงตกใจกระโดดหนีแล้วล้มลง
ฉันเห็นบางสิ่งว่ายน้ำผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว แหวกน้ำเป็นทางยาว น่าจะเป็นงูน้ำซึ่งมันก็คงตกใจที่มีคนเดินมาใกล้ๆเหมือนกัน
ฉันวางห่วงยางแล้วก้มลงประคองหนูแดงให้ลุกขึ้น แต่ดูเหมือนเธอทรงตัวยืนไม่ไหว น่าจะข้อเท้าพลิกเสียแล้ว
"เราคงต้องยอมจ่ายค่าปรับ ทิ้งห่วงยางไว้แถวนี้แล้วล่ะ หนูแดงขี่หลังเราดีกว่า"ฉันตัดสินใจเอาหนูแดงขี่หลัง
"นุ่นจะไหวหรือคะ"หนูแดงยังลังเล
"ไหวสิตัวเล็กๆอย่างหนูแดง เราแบกได้สบายมาก"ฉันนั่งลงให้หนูแดงขึ้นขี่หลัง
"ลำบากนุ่นจังแย่เลย ขอโทษนะคะ"เธอพึมพำอยู่ข้างหู ขณะที่ฉันแบกเธอเดินลัดเลาะไปตามลำธารอย่างทุลักทุเล
"ไม่ลำบากหรอก เพื่อนกันไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว"
"ต่อไปวันข้างหน้าก็ไม่ทิ้งกันนะคะ สัญญากับหนูแดงสิ"มือที่โอบฉันอยู่กระชับแน่นขึ้น ใบหน้าของหนูแดงคลอเคลียซบอยู่ที่ไหล่ จนฉันขนลุกซู่ โดยไม่ทราบสาเหตุ
"เราไม่ทิ้งหนูแดงแน่นอน"ฉันตอบเธอด้วยเสียงอันหนักแน่น
"น่ารักจังค่ะนุ่นจัง" หนูแดงหอมแก้มฉันฟอดใหญ่ ฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันใด นับเป็นครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่แตกเนื้อสาวที่ถูกหอมแก้มเลยทีเดียว อะดรีนาลินฉันพุ่งกระฉูดจนแทบไม่รู้สึกว่ามีคนอีกหนึ่งคนอยู่บนหลัง แบกหนูแดงเดินฉับๆอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ออกมาเจอกับทางเดินเรียบๆของรีสอร์ต
เพื่อนๆต่างกรูกันมาหาทันทีที่เห็นเราสองคน หนึ่งในนั้นก็มีนังอ้อที่หายหัวไปตั้งแต่แรกรวมอยู่ด้วย
"ว้าย!หนูแดงเป็นอะไรไปคะ"ยัยเอมมี่ส่งเสียงตกใจ ที่เห็นฉันแบกหนูแดงกลับมา
"ไม่เป็นอะไรมากแค่ลื่นล้มข้อเท้าแพลงน่ะ ไปเอาน้ำแข็งมาประคบที" ฉันค่อยๆประคองหนูแดงนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วยกเท้าข้างที่เจ็บของหนูแดงวางพาดขาของฉันไว้ แม้จะบวมไม่มากนักแต่คงเจ็บน่าดู เพราะหนูแดงร้องโอ้ยๆตอนที่ฉันลองขยับข้อเท้าของเธอ
"เจ็บมากมั้ยหนูแดง พี่บอกแล้วว่าไม่ให้เล่นน้ำก็ไม่เชื่อพี่ เห็นมั้ยเจ็บตัวจนได้ น้ำก็ไม่สะอาด มีทั้งก้อนหินมีทั้งโคลน ดูสิมอมแมมไปทั้งตัว"พี่ชลต่อว่าแล้วเดินเข้ามาทำท่าจะกอดรับขวัญหนูแดง แต่แล้วต้องเก้อเมื่อหนูแดงเบี่ยงตัวหลบ
"หนูแดงสกปรกค่ะ ระวังความสกปรกจะติดเสื้อผ้าพี่ชลเอานะคะ"หนูแดงเอ่ยน้ำเสียงงอนๆ จนพี่ชลหน้าเจื่อน
"น้ำแข็งมาแล้ว ฉันโปะให้เอง"นังอ้อหยิบผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งโปะตรงข้อเท้าที่เจ็บของหนูแดงไว้
"เจ็บมากมั้ยหนูแดง"นังอ้อเงยหน้าขึ้นถาม หนูแดงส่ายหน้าแทนคำตอบ
"ไปสนุกกันต่อเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วง"เธอบอกกับเพื่อนๆ
"เล่นน้ำนานแล้วหนาว ก็ขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่เห็นนุ่นกับหนูแดงเลยเดินหากัน หนูแดงเปลี่ยนเสื้อผ้าไหวมั้ยตัวเปียกนานๆระวังไม่สบายนะ"เอมมี่เป็นห่วงคนเจ็บ
"ประคบน้ำแข็งก่อนสักพัก เดี๋ยวค่อยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับนุ่นก็ได้ค่ะ"หนูแดงบอกยิ้มๆ
"พี่พาไปดีกว่า นุ่นเขาแบกน้องมาคงเหนื่อยแย่ ให้นุ่นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ"พี่ชลรีบบอก หน้าตายังบอกบุญไม่รับ คงไม่พอใจที่เห็นหนูแดงขี่หลังฉัน หรือไม่พอใจที่โดนหนูแดงแขวะต่อหน้าเพื่อนๆอะไรสักอย่างเป็นแน่
"งั้นนุ่นไปอาบน้ำก่อนนะหนูแดง"ฉันลุกขึ้นยืน รู้ตัวว่าแย่งซีนพี่ชลมามากพอแล้วให้พระเอกตัวจริงมารับช่วงต่อน่าจะดีกว่า
ระหว่างเดินไปห้องน้ำก็อดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ไม่ได้ สัมผัสที่ใกล้ชิดทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นอยู่ในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปฉันคิดว่าหนูแดงให้ความไว้วางใจและเชื่อใจฉันมาก มากกว่านังอ้อ หรือแม้กระทั่งพี่ชลเสียอีก คงเป็นเพราะเธอเห็นฉันเป็นเพื่อนนั่นเอง อดคิดเล่นๆไม่ได้ว่าถ้าฉันจีบเธอเป็นแฟน หนูแดงจะยังให้ความไว้วางใจฉันเหมือนเดิมหรือเปล่านะ ไม่เอาน่าศศิโศภิน อย่าคิดฟุ้งซ่าน ฉันสลัดศีรษะก่อนจะคว้าเป้เดินเข้าห้องน้ำไป
สุดท้ายคนที่เข้าไปช่วยหนูแดงเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำก็คือคุณป้าแม่บ้านของหนูแดงนั่นเอง ค่อยยังชั่วหน่อยที่ไม่ใช่พี่ชล เอ!หรือฉันจะเริ่มหึงหนูแดงเข้าแล้ว ฉันเริ่มเข้าใจความรู้สึกของนังอ้อมารางๆแล้วล่ะ และรู้สึกผิดนิดๆที่ว่าให้นังอ้อมันเยอะจัด มาก่อนหน้านี้
แต่ก็อดขวางหูขวางตากับท่าทางของพี่ชลที่ประคองหนูแดงไปขึ้นรถไม่ได้ ถ้าอุ้มไหวชีก็คงจะอุ้มไปแล้ว นึกเสียดายที่ไม่ได้เอาแว่นกันแดดมาใส่ปิดบังสายตาอย่างนังอ้อมันบ้างจะได้แอบมองโดยสะดวกกว่านี้
"ตอนพวกเราเล่นน้ำแกไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋อยู่ที่ไหนวะ"ฉันกระซิบถามนังอ้อ
"ไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจว่ะ เลยเดินไปดูลิงค่าง บ่าง ชะนีที่สวนสัตว์ของรีสอร์ต พอเดินกลับมาก็เจอยัยจินต์ถามหาแกกับหนูแดง เลยช่วยกันออกตามหา แล้วก็เห็นแกเป็นฮีโร่แบกหนูแดงกลับมานี่แหละ รู้งี้ลงเล่นน้ำกับพวกแกดีกว่า อาจมีโอกาสช่วยหนูแดงทำคะแนนตีตื้นพี่ชลขึ้นมาบ้าง"มันบ่นด้วยความเสียดาย
"ก็แกมัวแต่งอนไม่เข้าท่านี่นา ฉันบอกแกแล้วว่าทำเฉยๆแล้วจะดีเองก็ไม่ฟัง"
"เออๆๆพลาดไปแล้วว่ะ เอาไว้แก้ตัวงานหน้าก็แล้วกัน ยังไงชั้นก็ขอบใจแกนะที่ช่วยหนูแดงเอาไว้"นังอ้อตบไหล่ฉันดังปั้ก
"ไม่เป็นไร เพื่อนกันต้องช่วยกันอยู่แล้ว"ฉันพูดออกไป แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าตกลงงานนี้ฉันช่วยใครกันแน่ ระหว่างหนูแดงกับนังอ้อ เฮ้อ! คิดมากอีกแล้วนะศศิโสภิณ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|