โพสต์โดย:
mirin
วันที่: 01 พฤษภาคม 2015 เวลา 15:30:09
อ่าน: 708
|
ความเย็นชุ่มฉ่ำของสายน้ำ ที่ถูกสาดใส่ร่างบางที่นอนหลับไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของยานอนหลับ ปลุกให้หล่อนรู้สึกตัวตื่น ชุดเจ้าสาวสีขาวปักเลื่อมเพชรทั้งตัวที่สั่งตรงมาจากปารีสเปียกชุ่มไปหมด หญิงสาวตั้งท่าจะกรี๊ดสุดเสียง แต่ก็ถูกปิดปากไว้ด้วยมือหนาใหญ่ของใครบางคนซึ่งเธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
"อย่าแหกปากเชียว ไม่งั้นได้ตายก่อนเวลาอันควรแน่!" เสียงห้วนห้าวลอดผ่านไรฟันออกมาเบาๆ "แกเป็นใคร ต้องการอะไร จับชั้นมาทำไม ใครเป็นคนจ้างแกมา บอกมาเดี๋ยวนี้นะ!"
พัดชาส่งเสียงหวีดแหลมร้องถามคนที่จับตัวเธอมาเป็นชุด ทันทีที่อุ้งมือสากหนานั้นคลายออกจากปากของเธอ "เงียบ!!!" นนทกานต์ไม่เคยรู้สึกรำคาญอะไรเท่านี้มาก่อน เธอตวาดกลับเสียงดังจนอีกฝ่ายสะดุ้งตกใจกลัว
พัดชาขยับตัวถอยร่นไปจนหลังติดฝา ทั้งเจ็บใจทั้งหวาดกลัว "ไอ้บ้า" เธอตะโกนด่าร่างสูงที่ปกปิดอำพรางใบหน้าไว้ด้วยหมวกคลุมไหมพรมสีดำ "แกจับชั้นมาทำไม ต้องการอะไรก็บอกมาสิ มาจับชั้นมัดไว้แบบนี้ทำไม" เธอเพิ่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่ถูกจับตัวมาเป็นเชลย มือทั้งสองข้างถูกมัดไขว้หลังเอาไว้ ที่ขาก็ยังถูกล่ามติดไว้ด้วยเชือกเส้นใหญ่ ทำให้เธอจนปัญญาที่หาจะทางหนี
"เงียบๆ เถอะ เดี๋ยวถึงเวลาก็รู้เอง" นนทกานต์ไม่อยากตอบคำถามอะไรทั้งสิ้นในตอนนี้ เธอเพียงแต่รอ...รอให้เวลานั้นมาถึง ผู้หญิงจอมโวยวายตรงหน้าก็จะได้รู้เองว่าหล่อนถูกจับตัวมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์อะไร
ใบหน้าคมภายใต้หมวกคลุมไหมพรมสีดำเข้มขบฟันแน่น เมื่อคิดถึงภาระกิจแรกที่ได้รับมอบหมายมาให้ทำ แม้นนทกานต์จะถูกเลี้ยงมาให้เป็นคนเย็นชาไร้หัวใจ แต่การลงมือฆ่าใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ส่วนลึกๆ ในใจก็อดสงสารหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ หากรู้ว่าเหลือเวลาที่จะได้แหกปากตะโกนอีกไม่มากแล้ว แม่เจ้าประคุณรุนช่องคงได้ส่งเสียงร้องดังลั่นป่าแน่
"นี่! ปล่อยชั้นไปเถอะนะ แกอยากได้อะไรชั้นจะให้แกหมดทุกอย่างเลย อยากได้เงินเท่าไหร่บอกมา ที่บ้านชั้นน่ะ รวยมากๆ เลยนะ แกไม่ต้องกลัวว่าชั้นจะเบี้ยวไม่ยอมจ่ายหรอก!" พัดชาพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนที่จับตัวมายอมปล่อยเธอไป แต่มันก็ไม่เป็นผล
เมื่อร่างสูงตรงหน้ายังคงเอาแต่กอดอกนิ่งไม่มีทีท่าสนใจต่อของรางวัลที่เธอยกเอามาล่อ "นี่!แก!" หญิงสาวยังไม่ละความพยายาม
"หุบปากได้แล้ว!" นนทกานต์สวนกลับ ยิ่งอยู่ด้วยนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกว่าแม่ผู้ดีนี่น่าเบื่อ น่ารำคาญเป็นที่สุด คงคิดว่าตัวเองมีเงินรวยล้นฟ้าแล้วจะใช้ซื้อทุกอย่างที่ต้องการได้สินะ
กับคนอื่นน่ะอาจใช่ แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ ต่อให้แม่นี่เอาเงินมากองท่วมหัว คนอย่างนนทกานต์ก็ไม่มีวันสนใจ เพราะงานที่ได้รับมอบหมายมาให้ทำเปรียบเสมือนกับการตอบแทนบุญคุณของคนที่เก็บเอาเธอมาชุบเลี้ยงไว้จนมีวันนี้ แม้ลำบากใจที่จะต้องทำแต่มันก็ยากเย็นเกินกว่าที่เธอจะปฎิเสธได้
"ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารวยแค่ไหน" ร่างสูงย่อตัวลงนั่งเผชิญหน้ากับคนที่ถูกจับตัวมา "อย่าเสียเวลาพูดมากให้เหนื่อยเปล่าเลย ยังไงซะเธอก็ไม่มีทางหนีรอดไปจากที่นี่ได้ สู้อยู่เฉยๆ เก็บแรงเอาไว้ดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน"
ดวงตาคู่คมที่จ้องมองหน้าพัดชานั้นดูเยือกเย็น ไร้ความรู้สึก จนทำให้หญิงสาวโมโหจนขึ้นสมอง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้ใส่เธอมาก่อน
"ไอ้คนบ้า คนเลว ไอ้คน...!" พัดชาตะโกนด่าสารพัด "หยุดแหกปากได้แล้ว!!!" อีกฝ่ายตะคอกกลับมา พร้อมจ่อปลายกระบอกปืนเข้ากับหน้าผากมนสวยของคนเสียงดี "ขืนยังกล้าแหกปากอีก เธอเจอไอ้นี่แน่" มือหนาเหนี่ยวไกขู่ ใบหน้าหวานซีดเผือดลงถนัดใจ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ตี่นตระหนกตกใจสุดขีด เมื่ออีกฝ่ายเล่นถึงขั้นเอาปืนมาจ่อหัวกัน
สถานการณ์ในกระท่อมไม้หลังน้อยกลางป่าจึงกลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกครา เมื่อพัดชายอมสงบปากสงบคำตามคำสั่งแกมขู่ของคนที่จับตัวเธอมา
"นี่!" ริมฝีปากคู่บางรีบเม้มสนิทหากัน เมื่อดวงตาอันคมกริบของอีกฝ่ายมองจ้องหน้าเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น ถึงเวลาเธอก็รู้เองแหล่ะ"
หยิบเศษผ้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ต แล้วสะบัดออกสองสามที พัดชาเบิกตากว้าง พยายามดิ้นขัดขืน พร้อมหันหน้าหนี "ไม่นะ แกจะทำอะไรชั้น หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไอ้บ้า!!!" มือหนาจับใบหน้าเรียวเล็กที่พยายามต่อสู้ขัดขืนสุดชีวิต ให้หันกลับมาตามที่เธอต้องการ "เงียบ! แล้วก็อยู่เฉยๆ เถอะน่า ถ้าไม่อยากให้หน้าสวยๆ ช้ำไปมากกว่านี้ แม่ตัวดี"
นนทกานต์คลี่เศษผ้าออกแล้วใช้มันปิดปากยัยผู้ดีที่แสนเย่อหยิ่งตรงหน้า แม้จะถูกมัดมือมัดเท้า มัดปากไว้อย่างแน่นหนา แต่พัดชายังไม่ยอมหมดฤทธิ์ง่ายๆ หญิงสาวส่งเสียงร้องกรี๊ดๆ แทบฟังไม่เป็นภาษาใส่ร่างสูงที่เดินผละไปนั่งเฝ้าจับตาดูเธออยู่ห่างๆ ตรงมุมห้อง เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า พัดชาพยายามดิ้นไปมา เพื่อให้เชือกที่มัดมือมัดเท้าเธออยู่คลายออก
แต่ดูเหมือนความพยายามนานนับชั่วโมงของเธอนั้นไม่เป็นผลเอาเสียเลย นนทกานต์ลอบชำเลืองดูอากัปกิริยาที่พยายามจะหลบหนีของเหยื่อสาวชาวกรุงแล้วได้แต่ถอนใจ เธอไม่เคยเจอใครดื้อรั้นเท่านี้มาก่อนเลย พูดไปก็เปลืองแรงเปล่า แม่เจ้าประคุณฟังซะที่ไหนล่ะ ปล่อยให้ดิ้นไปแบบนั้นแหล่ะดีแล้ว เดี๋ยวเหนื่อยหมดแรงก็เลิกไปเอง
พัดชาคอยมองท่าทีของคนร้ายอยู่เป็นระยะๆ แต่ดูเหมือนสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นั้นไม่ได้เรียกร้องความสนใจจากโจรใจร้ายได้เลย ซึ่งสุดท้ายหญิงสาวก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้เลิกดิ้นไปเสียเอง
ร่างบางยอมนั่งนิ่งๆ มาร่วมสองชั่วโมง หลังจากพยายามดิ้นให้เชือกที่พันธการเธอไว้หลุดไปจากตัว แต่แล้วจู่ๆ ความเงียบสงัดในยามค่ำก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงร้องโครกครากจากท้องไส้ของใครบางคน สายตาอันคมกริบจับจ้องมายังร่างบางชั่วครู่ก่อนจะลุกเดินหายออกไปนอกห้องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ปล่อยทิ้งให้หญิงสาวที่ถูกจับมัดไว้นั่งอยู่กับความสงสัย
แต่ยังไม่ทันที่พัดชาจะคลายสงสัยว่าโจรใจร้ายรีบร้อนลุกออกไปทำไมกัน คำเฉลยก็มาวางอยู่ตรงหน้า "เอ้า! กินซะ" มือหนาวางกล่องข้าวลงก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ตามเดิม หญิงสาวมองกล่องข้าวด้วยสายตาละห้อย เธอจะกินเข้าไปยังไงกันล่ะในเมื่อ
ทั้งปาก ทั้งมือและก็เท้าถูกมัดไว้แน่นหนาขนาดนี้ เธอจึงออกแรงดิ้นอีกครั้ง พร้อมๆ กับส่งเสียงตะโกนอู้อี้ฟังไม่เป็นศัพท์ให้อีกฝ่ายช่วยแก้มัดให้
ในที่สุดร่างบางก็เป็นอิสระจากเชือกที่มัดไว้อย่างแน่นหนา พัดชายิ้มออกมาอย่างดีใจแต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มลงฉับพลันเมื่อเธอถูกควบคุมให้อยู่ในความสงบไว้ด้วยกระบอกปืนแทน "รีบๆ กินเข้า อย่าตุกติกคิดหนี ไม่งั้นฉันยิงเธอไส้แตกแน่" นนทกานต์ขู่เสียงเข้ม
ด้วยความกลัวพัดชาจึงรีบตักข้าวใส่ปากกินเอากินเอาจนแทบลืมหายใจ เธอทั้งหิว ทั้งเหนื่อยล้าแถมยังตื่นตระหนกตกใจต่อชะตากรรมที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ด้วยความที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตัวเองยังต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง แล้วที่สำคัญคนที่จับตัวเธอมานั้น มันต้องการอะไรจากเธอกันแน่!
ด้วยความหิวบวกกับอาการรีบร้อนกินจนแทบจะหยุดหายใจทำเอาหญิงสาว ถึงกับสำลักข้าวติดคอจนร้องขอน้ำดื่มจากอีกฝ่ายแทบไม่ทัน "ไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่ใจร้ายถึงขนาดยิงเธอทิ้งทั้งที่ยังกินข้าวไม่อิ่มหรอกน่า"
เมื่อได้ยินโจรร้ายพูดไม่เข้าหูแบบนั้น พัดชาถึงกับจุกจนกินต่อไม่ลงทันที เธอกระแทกช้อนลงในกล่องข้าว พลางเช็ดหยดน้ำที่ไหลเลอะตรงมุมปากกับหลังมืออย่างรวกๆ "ไม่บอกก็คงไม่รู้หรอก เห็นเอะอะก็ชักปืนออกมาจะยิงให้ตายอยู่ท่าเดียวนี่" หล่อนตอกกลับแกมประชด
มือหนากระชากท่อนแขนบางดึงร่างคนปากดีเข้าหาตัว "อย่ามาทำอวดเก่งปากดีที่นี่ ไม่งั้นฉันไม่เลี้ยงเธอไว้นานแน่จำไว้!" ดวงตาคู่สวยมองจ้องตอบโต้กับสายตาคู่คมของนนทกานต์อย่างแข็งกร้าวไม่มีเกรงกลัว"ก็เอาซี่!
จะฆ่าจะแกงหรือทำอะไรก็เชิญเลย ชั้นหมดความอดทนที่จะรอแล้วเหมือนกัน บอกให้นะ ชั้นไม่สนใจแล้วว่าแกจับชั้นมาทำไม ต้องการอะไร หรือใครจ้างแกมา ชั้นเบื่อ! เบื่อ! เบื่อ! เซ็งโว้ย!!!" พัดชาพ่นไฟใส่คนร้ายเป็นชุด เมื่อความกลัวพุ่งทยานขึ้นถึงขีดสุด
นนทกานต์ตกตะลึง อึ้งไปชั่วขณะ เมื่อจู่ๆ คนตัวเล็กตรงหน้ากลับมีฤทธิ์เดชมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้หลายเท่า "พูดพอหรือยัง" ถามอีกฝ่ายเสียงเรียบราวกับไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น
"หา!!!" พัดชางงเป็นไก่ตาแตก เธอคิดว่าอีกฝ่ายจะโมโหจนชักปืนขึ้นมายิงใส่กันให้ตายไปแล้ว เรื่องมันจะได้จบๆ ไปเสียที
มือหนาผละร่างบางออกห่างตัว ก่อนจะลุกขึ้นยืนหันหลังให้ "อยู่เงียบๆ เฉยๆ อย่าแผลงฤทธิ์อีก จะได้ไม่ต้องเปลืองแรงเหนื่อย อ้อ! ถ้าไม่อยากถูกจับล่ามโซ่เหมือนอย่างเมื่อกี้ก็อย่าคิดหนี จำใส่สมองกลวงๆ ของเธอด้วย"
นนทกานต์สั่งทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป แม้เป็นเรื่องยากที่จะทำใจให้เชื่อว่าตัวประกันจะไม่คิดหนี แต่อย่างน้อยๆ เธอก็เชื่อว่าในป่ารกชัฏ ดึกสงัดขนาดนี้ ต่อให้พัดชามีปีกบินได้ หล่อนก็คงหนีไปไหนได้ไม่ไกล
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|