web stats

ข่าว

 


Vampire Hunter season3- Chapter 7 : Buddy Hell 60%

โพสต์โดย: anhann วันที่: 27 เมษายน 2015 เวลา 21:16:57 อ่าน: 267





Chapter 7 :   Buddy Hell 






เมแกนรู้สึกเหมือนเธอเป็นตัวประหลาดกว่าที่เคยเป็นเมื่อเห็นสายตาของคนที่นี่จ้องมอง  'ไม่ใช่พวกเดียวกัน'  คำๆ นี้ผุดขึ้นมาในหัวเธอทันใด

จะเป็นพวกเดียวกันได้ยังไงล่ะในเมื่อเธอไม่ได้กลายร่างในคืนพระจันทร์เต็มดวง  ไม่เคยสักครั้งเดียว...

"เมื่อคืนดุเดือดมาก  เธอคงไม่ได้ยิน"  เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ แต่ไม่ใช่เสียงของแอชลีย์ที่ยืนข้างเธอ  มันเป็นเสียงของชายหนุ่มร่างกำยำที่เธอจำได้ว่า  เขาเป็นคู่หมั้นของแฟนสาวเธอ

เฮ้อ.. ความสัมพันธ์มันช่างซับซ้อน...

"เกิดอะไรขึ้น..  อย่าบอกนะว่ามีใครเข้าไปทำเรื่องบ้าๆ ในหมู่บ้าน"  เสียงแอชลีย์กระซิบถามกลับ  เธอเงี่ยหูฟังอย่างสนใจ  ที่หางตาเห็นนายเจคเหลือบตามามองเธอ  เขายิ้มมุมปากอย่างที่เธอไม่ชอบ  แต่แน่นอน  ตอนนี้เธอคงทำอะไรไม่ได้เมื่อรอบด้านมีแต่พวกเดียวกันกับเขาเต็มไปหมด

เธอกับแอชลีย์พากันออกมาจากโบสถ์ที่ไปซ่อนตัวอยู่ตอนที่แสงแรกส่องผ่านกระจกหลากสีของโบสถ์เข้ามา  ออกมาได้ก้าวเดียวก็เจอกับนายคู่หมั้นยืนจังก้าอยู่พร้อมพรรคพวกสองสามคน  มาชวนไปกินอาหารเช้าด้วยกัน

อาหารเช้า.?  เนื้อวัวดิบๆ ชุ่มเลือดอย่างที่คาริน่ากินหรือเปล่า.?

เราอยู่กันที่ลานกว้างหน้าตึกอะไรสักอย่างที่เธอคาดว่ามันน่าจะเป็นแหล่งชุมนุมหรือไว้ใช้ประชุมของคนพวกนี้  มีคนมากมายเดินขวักไขว่  พวกเขาเข้ามาทักทายนายเจคกับแอชลีย์กันบ้าง  แต่มองเธอเหมือนตัวประหลาดเวลาที่แอชลีย์เอ่ยแนะนำ  ซึ่งเธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเท่ากับที่เห็นพวกเขาจัดโต๊ะและเก้าอี้ที่ลานกว้างๆ นี้  ท่าทางมือเช้าที่ว่าคงจะอยู่ที่นี่แหละ

"ก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่  แค่ครั้งนี้ชาวบ้านมีการส่งผู้หญิงมาเป็นเครื่องบรรณาการด้วยน่ะ"

ประโยคนี้พาให้คนแอบฟังหูผึ่ง  ตาสีม่วงครามเริ่มมองรอบด้านอย่างระแวง  กลัวสิ่งที่คิดไว้จะเป็นจริง

"ผู้หญิงเหรอ.?  เหมือนเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว.?"  แอชลีย์ถามตกใจ  เจคพยักหน้าเคร่งขรึม  หมาป่าสาวจึงหันมาหาเธอ  "เมแกน..   คือว่า---"

"พวกเธอกินมนุษย์ด้วยเหรอ.?"  เมแกนถามโพล่ง  แอชลีย์อึ้ง  ส่วนนายเจคยิ้มขบขันให้เธอขมวดคิ้วหงุดหงิด  แอชลีย์เห็นท่าไม่ดีจึงเข้ามากระซิบใกล้หูเหมือนกลัวใครจะแอบฟัง

"ตามความคิดของชาวบ้าน  มันก็แบบที่เธอคิด  แต่จริงๆ เราไม่ได้กินมนุษย์  เราจับพวกเขามารับใช้  ถ้าเป็นมนุษย์ผู้ชายก็ใช้แรงงาน  แต่ถ้าเป็นมนุษย์ผู้หญิง  เราก็เอามาเพื่อ..."

เมแกนจ้องหน้าคนที่ไม่ยอมพูดให้จบคล้ายกลัวอะไร  ชายหนุ่มข้างๆ จึงตอบคำถามนั้นให้เธอแทน

"สืบเผ่าพันธุ์ของเราน่ะ"

คนฟังอ้าปากค้าง  ชำเลืองตามองเจ้าหญิงหมาป่าที่ส่งยิ้มแห้งๆ มาให้  แอชลีย์ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง  แต่คงเพราะเธอไม่เคยถาม  ความจริงเพราะไม่เคยคิดว่าต้องมาคลุกคลีกับคนพวกนี้มากกว่า  ไม่จำเป็นต้องรู้จัก

แต่ไม่ใช่ตอนนี้...

"หมายความว่า.. ก็ไม่ได้จำเป็นที่พวกนายต้องแต่งงานกับพวกเดียวกันเพื่อให้ได้ลูกหมาป่าแบบนายสักตัว"

"เฮ้.. เมแกน..  ทำไมถึงพูดอย่างนั้น" แอชลีย์แทรกอย่างตกใจ

"ฉันพูดผิดตรงไหน  ฉันแค่ถามประดับความรู้  เพราะเธอไม่เคยเล่าอะไรให้ฉันฟังเลย"  เมแกนชี้แจง  แต่น้ำเสียงขุ่นมัวก็ทำให้เจ้าหญิงหมาป่าหน้าสลด  เจคส่ายหัว  เขาไม่เคยเห็นแอชลีย์กลัวใครมาก่อน  ท่าทางคนนี้จะรักจริงหวังแต่ง

"ก็ไม่เชิงว่าจำเป็น  แต่ส่วนใหญ่ชั้นราชวงศ์ที่เคร่งครัดมักจะอยากได้ทายาทที่สืบเชื้อสายบริสุทธิ์น่ะ"

"อ๋อ..  พวกคลั่งไคล้สายเลือดบริสุทธิ์.." เมแกนพึมพำอย่างเข้าใจ  และแปลกใจกับคำพูดที่ชายหนุ่มพูดต่อ

"รองจากลินเซย์กับแอชลีย์  ก็ยังมีลำดับต่อไปอยู่  บอกไว้เผื่อเธออยากจะรู้.."  พูดจบนายเจคก็จากไปพร้อมรอยยิ้มขี้เก๊กน่าหมั่นไส้  แต่ตอนนี้เธอรู้สึกหงุดหงิดกับเขาน้อยลงหน่อย  เพราะเขาดูไม่ตอแยแอชลีย์นัก  ท่าทางเหมือนเขาทำตามหน้าที่มากกว่า  หรือว่าทำแบบนี้เพื่อตบตาเธอ

"เธอเคยลองคบกับเขาไหมแอช.?  แบบลองมีอะไรกันน่ะ" 

แอชลีย์อ้าปากค้างกับคำถามไม่อ้อมค้อม  เธอรีบส่ายหน้ารัวๆ "โอ้.. หยุดคิดแบบนั้นกับฉันเลยเมแกน  เจคก็อาจจะหล่อดี  แต่ฉันไม่เคยอยากเห็นอะไรที่ต่ำกว่าสะดือลงไปของเขาสักครั้ง  อีกอย่างสำหรับฉัน  เขาเหมือนพี่ชาย"

เมแกนเลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อนัก  เหลือบตามองหาชายหนุ่มที่เข้าไปเจ้ากี้เจ้าการช่วยจัดแจงสถานที่ที่จะรับประทานมื้อเช้าด้วยกัน  ซึ่งเขาบอกว่ามันถูกจัดขึ้นเพื่อต้อนรับแขกอย่างเธอ 

"ท่าทางเขาคล่องดีนะ"

"ตำแหน่งของเขาคือผู้พิทักษ์ของพวกราชวงศ์น่ะ"  แอชลีย์อธิบาย

"หนุ่มหล่ออนาคตไกล.."

"ทำไม.. เธอสนใจเขาเหรอ.?"  แอชลีย์ชักฉุน  เพราะดูเหมือนคนรักจะสนใจคนอื่นมากกว่าเธอ  แน่ะ.!  แล้วยังจะมามองยิ้มๆ แบบนี้อีก.!

"เมแกน.!"

เมแกนอมยิ้มขบขันท่าทางขี้หึงจริงจังของแฟนสาว  และก่อนที่หล่อนจะอาละวาดมากไปกว่านี้  เธอก็แอบบีบบั้นท้ายแน่นๆ โดยใช้ตัวเองยืนซ้อนหลังบังมันไว้  แอชลีย์สะดุ้งตกใจ  หันมาตีไหล่เธอทั้งหน้าแดง

"ยัยบ้า.!  เดี๋ยวใครเห็น.!"

"ไม่เป็นไรหรอก  เราผู้หญิงเหมือนกัน  ไม่มีใครคิดมาก"

"ใครบอกล่ะ  อย่างน้อยก็ฉันคนนึงล่ะ"  แอชลีย์มองคนรักตาเยิ้ม  นัยน์ตาสีครามเป็นประกายวาบขณะมองเรียวปากสีชมพูจัดตรงหน้า  โหยหาสัมผัสจากมันขึ้นมากะทันหัน  "ฉันยอมตายแค่ได้จูบเธอ"

เมแกนหัวเราะแก้เขิน  เมินหน้าไปทางอื่นเหมือนไม่กล้าสบตา  กลัวจะห้ามใจไม่ได้แล้วดึงคอคนปากหวานมาจูบเข้าจริงๆ และตอนนี้เองที่เธอได้เห็นชายผู้น่าเกรงขามสองคนเดินเข้ามาโดยมีนายเจคเจ้าเก่าเข้าไปต้อนรับ

"ดูเหมือนพ่อกับลุงเธอจะมาแล้วล่ะ" 

แอชลีย์ชักสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันใด  คว้ามือเมแกนมาจับไว้มั่นก่อนจะยกมันขึ้นจูบที่หลังมือ  สบตากันด้วยดวงตาแน่วแน่  ราวกับจะใช้มันแทนคำสัญญาว่า  จะปกป้องเธอด้วยชีวิตตัวเอง

.......................................

เจ็นนี่ไม่แน่ใจว่าเธอคิดถูกที่ยอมทำตามคำขอร้องของเด็กเลือดผสมที่เดินอยู่ข้างๆ   เธอกับคาริน่าย่องออกจากบ้านเรฟแลนด์มาระหว่างที่ไม่ใครอยู่  แม้แต่แอลที่คอยเฝ้าพวกเธออยู่ประจำ 

"นี่..  ไม่หิวนะ.?"  เด็กสาวถามสาวน้อยที่เดินมาด้วยกันอย่างระวัง  เพราะในป่าแถบนี้ไม่เคยมีประวัติว่ามีใครเจอสัตว์ร้ายมาก่อน  และถ้าจะมีก็คงจะเป็นไฮบริดข้างตัวเธอนี่แหละ 

"ทำไม..  เจ็นจะบริจาคเลือดให้ฉันเหรอ.?"  คาริน่าแกล้งถาม  ยิ้มขำที่เห็นคนอายุมากกว่าชะงัก  "เฮ้.. ไม่ต้องกลัวหรอก  ฉันอิ่มมาแล้ว" 

เจ็นนี่ถอนใจเฮือก  อย่างน้อยเธอคงไม่โดนดูดเลือดตายตรงนี้  แต่จริงๆ เธอไม่ควรห่วงเรื่องตาย  แหวนที่มือเธอเป็นเครื่องรับประกัน  จะว่าไป  เธอตายแล้วฟื้นกี่ครั้งแล้วเนี่ย  จำไม่ได้ซะแล้ว..

"แล้วเธอแน่ใจนะว่า  มันเป็นทางนี้" 

"ฉันว่าใช่..  ฉันจำกลิ่นได้.."  คาริน่าตอบ  มือแหวกต้นหญ้าสูงเกือบท่วมหัวและเดินลุยเข้าไป  เจ็นนี่ส่ายหน้า  ไม่อยากทำตามแต่ไม่มีทางเลือก เธอต้องเอาเท้าเขี่ยอย่างระแวง  กลัวจะไปเหยียบงูหรือตัวอะไรเข้า  ถึงไม่ตายก็เจ็บอยู่ล่ะน่า..

"คาริน่า..  มันไม่มีทางอื่นที่รกน้อยกว่านี้เหรอ.?" 

"เจ็น.. ขี้บ่นจังเลย.." 

เจ็นนี่กลอกตากลางอากาศ  โดนเด็กอายุสิบสามมาว่าแบบนี้มันน่าไหม..  "ว่าฉันขี้บ่นแล้วชวนมาทำไมล่ะ"

"เพราะฉันไว้ใจเจ็น.."

ประโยคเดียวที่ออกมาพร้อมน้ำเสียงและแววตาจริงใจพาให้คนขี้บ่นหุบปากสนิท  เจ็นนี่ช่วยน้องปัดป่ายหญ้ารกๆ ออก  ให้น้องได้เดินสะดวกขึ้น  พอเค้าหันมายิ้มขอบคุณ  มันรู้สึกปลื้มใจแปลกๆ แต่ความรู้สึกนี้ก็ถูกกลบไปเมื่อสาวน้อยข้างๆ เรียกให้ดูบางอย่างตรงหน้า

"อะไรน่ะ  มันก็แค่กระท่อมเก่าๆ.."

"มันอยู่ชั้นใต้ดินเจ็น"

เจ็นนี่คิ้วขมวด  มองหน้าคนข้างๆ อย่างไม่แน่ใจ  "เธอจะบอกว่า  มันมีห้องแล็บที่ชั้นใต้ดินเหมือนเรื่องผีชีวะที่เราดูกันวันนั้นเหรอ.?"

"แล้วทำไมมันจะมีจริงๆ ไม่ได้ล่ะ"  คาริน่าพูดเรียบๆ และลุกพรวดเดินออกไปจากที่ซ่อนทันทีโดยไม่เอ่ยชวนคนมาด้วยกัน  เจ็นนี่ต้องเป็นฝ่ายสาวเท้ายาวๆ ตามน้องมาให้ทัน  ลำพังเดินธรรมดาน้องก็เดินไวกว่าอยู่แล้ว

คนที่ไหนกันเล่า.!

"คาริน่าเดี๋ยว.!"  เจ็นนี่พูดยังไม่ทันจบดี  ก็โดนเด็กแรงดีกระชากตัวปลิวไปแอบที่หลังต้นไม้ใหญ่ไกลจากกระท่อมเก่าๆ นั่น  เหมือนกลับมาเท่าระยะทางเท่าเดิมก่อนจะเริ่มเดิน

"ทำไม..  มีอะไร.?"  หันไปถามน้องอย่างร้อนใจ  น้องมันคิ้วขมวดอยู่สักพักก็คลี่ยิ้มให้สงสัย  "อะไรเนี่ยคาริน่า.!"

"พี่สาวเจ็นน่ะ  เค้ามาที่นี่"

เจ็นนี่กะพริบตาอย่างตกใจ  "ฟลอเรน.?  ฟลอเรนมาที่นี่เหรอ.?"

"ใช่..  ไม่ได้มาคนเดียวด้วย" 

"ไม่ได้มาคนเดียว.?" เจ็นนี่พึมพำงงๆ "เดี๋ยว.!  แล้วเธอรู้ได้ยังไงคาริน่า  ได้กลิ่นพวกเขาเหรอ.?"  สาวน้อยพยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไปอีกครั้ง  แต่ถูกมือเธอรั้งแขนไว้ก่อน  "งั้นเราควรจะกลับนะ  ฟลอเรนคงไม่ชอบถ้าเห็นพวกเราที่นี่"

"แล้วถ้าพี่สาวเจ็นเดือดร้อนล่ะ  เจ็นจะรู้ได้ยังไง  จะหนีกลับไปอยู่สบายๆ คนเดียวเหรอ.?"

"เฮ้..  เธอพูดซะจนฉันรู้สึกว่าตัวเองยอดแย่เลยนะ.!"

คาริน่าไม่ตอบอะไร  แค่ยักคิ้วให้แล้วขอแขนตัวเองกลับไป  ร่างเล็กๆ เดินย่องไปในท่าเดียวกันกับพวกลูกเสือที่โรงเรียนเวลาออกฝึกในป่า  เจ็นนี่เลียนแบบน้อง  ถึงจะทำได้อย่างเก้ๆ กังๆ เพราะความสูงที่เพิ่มขึ้นทำให้เธอรู้สึกเก้งก้างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว 

"เจ็น.. อย่าเดินไปทางอื่นนะ  เดินตามเรามาอย่าให้คลาดกัน" คาริน่าหันไปสั่ง  เจ็นนี่พยักหน้าแข็งขัน  ไม่ใช่เพราะกลัวน้องหรืออะไร  กลัวพี่สาวที่อยู่แถวนี้ต่างหาก  ฟลอเรนจะว่ายังไงถ้ารู้ว่าเธอปล่อยให้คาริน่ามาในที่แบบนี้  แต่ตอนนี้คงไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ให้ปวดหัว

แค่ทำตัวไม่ให้ภาระน้องมันได้ก็คงพอแล้วล่ะมั้ง..

..........................................

ฟลอเรนเพิ่งใช้สันมือสับคอยามเฝ้ากระท่อมไปเป็นคนที่สามตั้งแต่มาถึง  ซ้ำเธอต้องพยายามดึงแคทเทอรีนเอาไว้ไม่ให้หล่อนกัดคอพวกเขาด้วย  ไม่รู้จะหิวโหยอะไรนักหนายัยแวมไพร์บ้านี่  อัลร์ยังไม่เห็นต้องอยากกินตลอดเวลาแบบนี้เลย

"แคท.!  อย่าสิ  เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อพาเธอมากินบุฟเฟ่ต์นะ.!"  ฮันเตอร์สาวกระชากยามหนุ่มออกจากมือแวมไพร์ที่กำลังจะงับคอเขาด้วยเขี้ยวคมๆ 

แคทเทอรีนหันมาคำรามแยกเขี้ยวขู่เธอเหมือนหงุดหงิดที่ถูกขัดขวางการกินเหยื่ออันโอชะ  แต่หล่อนก็ชะงักแค่เธอขึงตาใส่

"โธ่.. ฟลอเรน..  เธอต้องเข้าใจธรรมชาติของฉันหน่อยสิ"  แวมไพร์บ่น  และหันไประบายความหงุดหงิดด้วยการเตะขายามที่สลบอยู่กับพื้นให้คนข้างๆ ส่ายหัวเอือมระอา  ฟลอเรนคว้าไหล่หล่อนมาแล้วดันไปเดินไปด้วยกัน

"ฉันไม่อยากเปรียบเทียบใครนะ  แต่เธอหิวบ่อยเกินไปแล้ว" 

"ถ้าฉันได้กินเลือดเธอเหมือนแฟนเธอประจำ  ฉันก็ไม่หิวขนาดนี้หรอก"คนฟังเลิกคิ้วราวจะถามว่านั่นจริงหรือ  แวมไพร์สาวพยักหน้าจริงจัง

"เลือดฮันเตอร์ไม่เหมือนคนธรรมดา  เลือดแม่มดก็เหมือนกัน"

ฟลอเรนย่นคิ้ว  "ฉันก็เคยฟังเรื่องนี้มา.."  แคทเทอรีนยักไหล่  เดินนำไปต่อจนถึงเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งซึ่งดูเป็นเก้าอี้ไม้ธรรมดาๆ แต่พอแวมไพร์สาวจับมันหมุน  พื้นตรงกลางห้องของกระท่อมก็ยุบลงไป  สร้างความตื่นตะลึงให้คนมอง

"เหมือนหนังไซไฟ.." 

"ใช่.. แต่ไม่ถึงขนาดเป็นเมืองใต้ดินอย่างในผีชีวะหรอกนะ" 

"เธอเคยดูด้วยเหรอ.?"  ฮันเตอร์ถามแปลกใจ  แวมไพร์ยิ้มเจ้าเล่ห์

"ถามว่าดูกี่รอบดีกว่า..  มนุษย์นี่ช่างขยันหาความบันเทิงให้ตัวเองได้เก่งเหลือเชื่อ" 

"คงไม่เก่งเท่าเธอหรอก"  ฟลอเรนแขวะ  พออีกคนจะแขวะคืนเธอก็พยักหน้าให้หล่อนเป็นคนก้าวลงไปในหลุมตรงหน้านั้นก่อน  แคทเทอรีนรีรออยู่สักพักก็กระโดดลงไปไวจนเธออ้าปากถามไม่ทัน 

"เฮ้อ.. ยังไม่รู้เลยว่าข้างล่างหน้าตาเป็นยังไง"  ฮันเตอร์พึมพำ  ยังไม่ทันจะก้าวขาลงไปข้างล่าง  ยัยแวมไพร์ก็พุ่งตัวขึ้นมาจากหลุมนั้นทำซะเธอตกใจ

"เฮ้ย.!"

"ฮันเตอร์..  เธอชักช้าเกินไปแล้ว  รีบหน่อยสิ"  แคทเทอรีนว่า  และไม่รอฟังอะไร  กระชากแขนฟลอเรนให้กระโดดลงหลุมมาด้วยกันก่อนหน้าที่สองสาวน้อยจะพุ่งเข้ามาในกระท่อมแค่เสี้ยวนาที

"เจ็น..  ฟลอเรนลงไปแล้ว!" คาริน่าร้องบอก เจ็นนี่ที่มัวแต่มองยามที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่รีบเข้ามาชะโงกมองในหลุมบ้าง

"นี่เหรอที่เธอว่ามันลงไปใต้ดินได้.?"

"ใช่เจ็น..  เราลงไปกันเถอะ" 

เจ็นนี่ได้ยินเสียงคาริน่าพูดแค่นั้น  จากนั้นสองหูเธอก็อื้ออึงไปหมด  ร่างกายของเธอร่วงลงไปในหลุมตามแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างรวดเร็ว  และเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย...

........................................         


วันนี้เอาไปก่อน 60% นะคะ  พรุ่งนี้ต่ออีกค่า 

แก้เหงากันไปก่อนเนอะ

ขอบคุณค่ะ  :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น
anhann
นักเขียน
ขาประจำ
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174



ดูรายละเอียด เว็บไซต์ อีเมล์
28 เมษายน 2015 เวลา 07:51:42
ควรเลย ฮ่าๆๆๆ  :28:

28 เมษายน 2015 เวลา 07:12:04
ควรย้อนไปอ่านใหม่ตั้งแต่แรกไม๊... :19:
แสดงความคิดเห็น