web stats

ข่าว

 


Queen's tales Season2 - บทที่ 3 : I will be your light

โพสต์โดย: anhann วันที่: 04 เมษายน 2015 เวลา 18:40:09 อ่าน: 479






บทที่ 3 : I will be your light     




ปราสาทแห่งความมืดยิ่งมืดมิดในเวลากลางคืน  ถึงแม้มันจะดูไม่แตกต่างจากตอนกลางวันเลยก็ตาม  ดินแดนแห่งความมืดมีแค่นาฬิกาช่วยบอกเวลาให้เท่านั้นว่ามันคือเวลาใด  ไม่ใช่สิ..

เวลากลางคืนที่นี่ยังมีแสงจันทร์  ทั้งที่ไม่น่าจะมีได้..

"มันทำให้เจ้านึกอยากจะมาอยู่ที่นี่บ้างไหม.?"

ดวงตาสีโลหิตเริ่มเคลื่อนไหว  บ่งบอกว่าเธอได้ยินเสียงคนที่เดินเบาเสียยิ่งกว่าแมว  เบาจนเธอไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามา

"เจ้ายังไม่เลิกล้มความคิดนั้นอีกหรือชาร์ล็อต.?"

เจ้าของชื่อหัวเราะเบาๆ ถือวิสาสะเกี่ยวเส้นผมยาวสีน้ำตาลทองเล่น  เห็นเจ้าของมันไม่ว่าอะไร  เธอก็ยิ่งได้ใจ เล่นไม่เลิก "เจ้ายังเป็นคู่หมั้นข้าอยู่นี่นา  ทำไมข้าจะคิดไม่ได้  เผื่อเจ้าจะเปลี่ยนใจ"

"ข้าขอโทษชาร์ล็อต"  ไอซิสกระซิบ  เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายได้รับรู้ถึงความรู้สึกจริงๆ ในใจเธอ  มือที่เล่นผมเธอหยุดชะงัก  หล่อนพยักหน้าเบาๆ ไม่โต้เถียง  ไม่เกรี้ยวกราด  น่าประหลาดใจนัก  "ข้าไม่รู้ว่าทำไม  แต่ข้า...."

"วาลคีรีมีหัวใจเดียว  รักคนคนเดียวตลอดชีวิตอันยาวนาน"

คนฟังอึ้ง  มองคนพูดอย่างตะลึง  "เหตุใดเจ้าจึงรู้...  ทำไมเจ้าจึง.."

"ข้าศึกษามานานเรื่องของเจ้า  และนี่เป็นสิ่งที่ข้ากลัว"  ชาร์ล็อตบอกอย่างคนหัวใจสลาย  หากรอยยิ้มยังปรากฏ  ไม่อยากให้ตัวเองดูน่าสมเพช

"ชาร์ล็อต..  ข้า..."

"อย่าไอซิส.."  เจ้าหญิงแห่งแดนมืดห้าม  "ข้าฝืนมันไม่ได้  เจ้าเองก็เช่นกัน  เจ้าไม่ใช่คนของที่นี่  พลังของเจ้าไม่ใช่ของที่นี่  ข้าไม่สามารถควบคุมหรือช่วยเกื้อหนุนเจ้าได้  เราแตกต่างกันมากเกินไป  ไม่ใช่แค่เพียงหัวใจของเจ้าไม่ใช่ของข้าเท่านั้น"

"เจ้าหมายถึงอะไร  ข้างง"  ไอซิสคิ้วขมวด  เธอยังไม่รู้จักตัวตนของตัวเองมากเท่าที่ควรรู้  "ชาร์ล็อต..  ถ้าเจ้ารู้อะไร  ทำไมถึงไม่พูด  หรือว่าเหตุผลที่ข้าต้องมาเป็นเจ้าสาวของเจ้า  ไม่ใช่แค่เพียงคำสัญญาของท่านพ่อ  ไม่ใช่แค่เพียง  กฎเกณฑ์การถ่วงความสมดุลของโลก"

"เพื่อกักขังพลังของเจ้าเอาไว้"  ชาร์ล็อตโพล่งอย่างเหลืออด  เวลานี้เธอคงไม่มีอะไรต้องเสียอีก  ไอซิสนิ่งชะงัก  เป็นไปได้ว่าคงคาดไม่ถึงว่าตัวตนของเค้าจะน่ากลัวถึงเพียงนั้น

"ข้าเป็นปีศาจ.."

"ผิดแล้ว..  เจ้าเป็นเทพธิดานักรบ  เจ้าหญิงรูปงามผู้สวมเกราะ  มือถืออาวุธไล่ล่าศัตรูอยู่บนหลังม้า  ผู้มีปีกอันงดงามดุจพญาหงส์  มีพละกำลังมหาศาลและรักเดียวใจเดียว"

เสียงคำอธิบายอย่างระมัดระวังพาให้คนฟังคลี่ยิ้มออกมาได้ในที่สุด  บรรยากาศอันน่าหดหู่ระหว่างกันลดน้อยลงอย่างเหลือเชื่อ และที่ไม่น่าเชื่อก็คือ..

ไอซิสยิ้ม..

สวยงามเหลือเกิน..

นานเท่าใดแล้วที่เธอไม่ได้เห็นรอยยิ้มเช่นนี้บนใบหน้าเจ้าหญิงผู้งดงาม

"สวย..."  ชาร์ล็อตพึมพำอย่างเผลอไผล  พอรู้สึกตัวก็รีบแก้ไขมัน  "นานเท่าไหร่แล้ว  ที่ข้าไม่เห็นเจ้ายิ้มแบบนี้"

"งั้นหรือ.?  แต่มันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย"  ไอซิสกระซิบเบาๆ  เข้ามาจูบแก้มคนที่ตาโตตกใจจนทำอะไรไม่ถูก  "ราตรีสวัสดิ์ชาร์ล็อต"

เสียงใสๆ ทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นั้น  ร่างสะโอดสะองในชุดนอนผ้าพริ้วเดินตัวปลิวจากไปแล้ว  เจ้าหญิงแห่งแดนมืดยกมือลูบแก้มตนแผ่วเบา  เดาได้เลยว่าคืนนี้เธอคงฝันดีที่สุดในรอบหลายร้อยปี

..........................................

อิสซาเบลล่ารู้สึกตัวตื่นขึ้นเพราะที่นอนข้างตัวเธอยุบลง  จริงอยู่ที่เธอเพลียจากการวิ่งหนีใครบางคนหัวซุกหัวซุนอยู่ในป่านั้น  หากร่างกายที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็ฟื้นตัวได้เร็ว  และการเติบโตมาในป่าก็ทำให้เธอแข็งแรง  ประสาทสัมผัสไว  ถึงอย่างนั้นคนที่มาก็ทำให้เธอกลัวไม่น้อยเลยทีเดียว  เพราะ..

"ไอซิส.?"

"เงียบๆ  ข้าจะนอน" 

แขกยามวิกาลพูดแค่นั้นและหลับตาลงอย่างไม่สนใจว่าเธอจะนอนตัวเกร็งแข็งเป็นท่อนไม้อย่างนี้  แล้วนี่ไม่ให้พูดอะไรเลยทั้งที่สงสัยแทบตาย  มันจะเป็นไปได้ยังไง

"นี่..  เจ้านอนที่นี่ไม่ได้นะ  ห้องนอนเจ้ามี"

"ข้าอยากนอนที่นี่"  ไอซิสพูดง่ายๆ แต่ไม่ง่ายสำหรับอีกฝ่ายที่ถูกคว้าเข้ามากอดเป็นหมอนข้าง  อิสซาเบลล่าพยายามจะดิ้นออกจากอ้อมแขนนั้น  แต่มันไม่ได้ง่ายเลย  แม้จะดูบอบบางไม่ต่างกัน  หากเจ้าหญิงตาสีเลือดกลับแข็งแรงจนน่ากลัว  ทั้งยังมีเสน่ห์ที่หาตัวจับยาก

"ข้าแค่อยากรู้สึกถึงการได้กอดน้องเล็กๆ"

"แต่ข้าไม่ได้ตัวเล็กสักหน่อย"  คนอายุน้อยกว่าอ้อมแอ้มอย่างไม่เห็นด้วย  หากแรงที่จะดื้อดึงกลับน้อยลงไปมาก หรือเธอเองก็โหยหาอ้อมกอดอย่างนี้มาแสนนาน    อบอุ่น  อ่อนโยน  และปลอดภัย..

"เจ้าควรจะดีใจที่ถูกข้ากอดสิ  เจ้าเด็กโง่"  เจ้าหญิงนัยน์ตาสีแดงพูดอย่างรำคาญ  บังคับกดหัวคนตัวเล็กกว่าไว้กับอกตัวเอง  จากนั้นก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลียโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร

ดวงตาสีเขียวส่องสว่างอยู่ในความมืด  มองใบหน้าที่หลับใหลของผู้ร่วมเตียงอย่างพิเคราะห์  และก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป  ริมฝีปากบางก็ทาบลงกับริมฝีปากอิ่มที่เผยอเหมือนรอคอยจุมพิตจากใครสักคนอยู่ 

อิสซาเบลล่าสะดุ้งเฮือก  รีบผละหนีออกจากสัมผัสที่ทำให้ในอกเธอร้อนระอุ  กลับมานอนอยู่ในตำแหน่งเดิม  ซบอกคนหลับอีกครั้ง  หากเพราะเธอหลับตา  จึงไม่เห็นปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

แสงสีทองสว่างแวบขึ้นมากลางอกเธอวูบหนึ่ง  หากเพียงวูบเดียวนั้น  ทั้งปราสาทก็สว่างไสวดุจเวลากลางวันในดินแดนคาดีทส์  และทุกชีวิตในปราสาทแห่งนี้ก็รับรู้ถึงมันด้วยความรู้สึกที่ต่างกันออกไป

.........................................

"วาลคีรีไม่มีหน้าที่รัก  มีแต่หน้าที่รบ"  ไอซิสยืนอ่านหนังสือในมือ  และเหลือบตามองคนที่อยู่ในห้องเดียวกันเพื่อดูปฏิกิริยา  คาร่ามองกลับมาด้วยท่าทางเรียบเฉยราวไม่มีความรู้สึกร่วม

"ไม่คิดว่า  มันแปลกเลยหรือเสด็จพี่.?" 

"ตำนานถูกเขียนขึ้นจากประสบการณ์และความรู้ของผู้เขียน  หาใช่เรื่องที่จะเชื่อถือได้ทั้งหมด"  องค์ราชินีตอบอย่างมีชั้นเชิง  คนฟังเลิกคิ้วสงสัย  หากเลือกกลับไปอ่านหนังสือต่ออย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนักขณะที่อีกคนแปลกใจ

"นึกอย่างไรถึงอยากรู้.?  ตั้งแต่กลับมาเจ้าก็เอาแต่ขลุกอยู่ที่นี่"

"ท่านคิดถึงข้าหรือ.?"

"เจ้าไม่น่าถาม.." 

ไอซิสกลั้นยิ้มแทบไม่ไหวเมื่อเหลือบตาไปเห็นสายตาออดอ้อนน่าสงสารที่คนอื่นไม่มีวันได้เจอจากผู้หญิงคนนี้  ผู้หญิงสูงศักดิ์ที่ใครๆ ก็ยำเกรง  ไม่มีใครกล้าเอ่ยปฏิเสธนางได้  แต่เธอกล้า...

"ข้าไม่อยากกวนท่านที่กำลังเห่อน้องคนใหม่"

คาร่าหัวเราะ ลุกขึ้นเดินมากอดอกก้มมองสาวน้อยที่แกล้งทำเป็นยุ่งอ่านหนังสือ  "เจ้างอนพี่.?"

"หม่อมฉันมีสิทธิ์งอนเจ้าเหนือหัวด้วยหรือเพคะ.?"  ไอซิสว่า  หมุนตัวเอาหนังสือในมือไปเก็บในชั้น  ไล่นิ้วไปตามสันหนังสือเล่มอื่นเพื่อหาเล่มที่สะดุดตาเธอมากพอ  หากพอเจอแล้วมันกลับอยู่สูงเกินเอื้อมจนต้องเขย่งตัวขึ้น  และมือขาวจัดก็มาคว้ามันไปก่อน  ซ้ำยังชูมันไว้สูงๆ จนเธอไม่สามารถจะหยิบมันได้

"คาร่า.?"

"จูบพี่หน่อยสิคะคนดี.."

ความขุ่นเคืองในดวงตาสีเลือดค่อยจางลง  หากริมฝีปากอิ่มยังบิดเม้มอย่างไม่พอใจ  "ท่านพ่อสั่งให้ข้าอยู่ห่างๆ ท่าน  จำไม่ได้หรือ.?  ข้าเป็นตัวทำลายชื่อเสียงของท่าน"

"อย่าบอกว่า เจ้าจะยอมกลับไปแต่งงานกับชาร์ล็อต"  คาร่าถามตาวาว  น้องสาวที่ควบตำแหน่งคนรักชักจะใจสั่นอย่างหวั่นเกรงด้วยรู้ถึงฤทธิ์โทสะขององค์ราชินีผู้เยือกเย็น

ถึงกระนั้น...

"หม่อมฉันผู้แปดเปื้อนไปด้วยราคี  ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเจ้าสาวของผู้ใดได้หรอกเพคะ"

"หยุดพูดเช่นนี้เสียทีไอซิส"

ไอซิสอ้าปากจะเถียง  หากเสียงของเธอก็หยุดอยู่แค่ในลำคอเพราะร่างถูกรวบเข้าไปกอดจนแน่น  สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้แรงต่อต้านของเธอลดน้อยลง

"เจ้าเป็นของพี่..  เป็นอัญมณีล้ำค่าของพี่  เจ้าไม่รู้หรือไร.?"

นัยน์ตาสีโลหิตปิดลงช้าๆ ยกแขนขึ้นโอบกอดตอบเจ้าของเสียงที่เธอรักสุดหัวใจ  รักต้องห้ามที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น  หากเราทั้งคู่ก็ถลำลึกเกินกว่าที่จะปีนขึ้นมาได้โดยง่าย   

ไม่ใช่สิ  เธอถูกมันดูดลงไปจนไม่สามารถขึ้นมาได้แล้วต่างหาก..

"คาร่า..  ข้าไม่คู่ควรกับท่าน  ข้ามีหน้าที่ปกป้องท่านกับบัลลังก์เท่านั้น"

"ไม่ใช่.!  หัวใจของข้า..  หัวใจของข้าในกำมือเจ้า  เจ้ากำลังบีบมันอยู่  ข้ากำลังจะตาย  ตายทั้งเป็น"

"อย่าล้อข้าเล่นเลย..  ท่านมีนางสนมเป็นร้อยที่รอคอยท่านเสมอ"

"ก็ใช่..  เจ้าพูดถูก..  แต่น่าเสียดายที่พวกนางไม่เคยได้ในสิ่งที่ข้าให้เจ้า"

ไอซิสเม้มปากแน่น  ความเสียใจที่พยายามลืมเลือนมันไปตีตื้นกลับมา  ตั้งแต่วันที่กลับมาบ้าน  เธอก็ถูกบิดาเรียกพบ  รับฟังคำสั่งสอนที่ทำร้ายจิตใจ  ถูกจับแยกไปอยู่ในปราสาทที่ห่างไกลจากท้องพระโรงเป็นการลงโทษสถานเบา  ที่หนีการแต่งงาน  ทำร้ายน้อง  มีสัมพันธ์ต้องห้ามกับคนในครอบครัว  เรื่องนี้ร้ายแรงที่สุดเพราะเธอมีคู่หมั้นแล้ว   เธอต้องอยู่ในปราสาทอันว่างเปล่าไร้บริวารมาคอยรองมือรองเท้าเหมือนเก่า  มีเพียงเลมมี่มหาดเล็กคนสนิทที่อยู่เคียงข้าง  และหนังสือในห้องนี้  เวลาผ่านไปนานนับเดือน  สองเดือนแล้วเห็นจะได้  คาร่าจึงมาปรากฏตัว  ไม่ใช่ไคล่าที่หมั่นมาเยี่ยมเยียนเธอทุกครั้งที่มีเวลาว่าง

ราวกับว่า  เค้าไม่รับรู้ความทุกข์ยากของเธอเลย..

แล้ววันนี้เพิ่งจะนึกขึ้นได้หรือ.?

"ท่านพูดเหมือนไม่รู้ว่าทำไมข้าถึงต้องอยู่ที่นี่"  เอ่ยถามเสียงขุ่นเคือง  ร่างที่โอบกอดกันก็ยิ่งกระชับวงแขนเข้ามาให้อึดอัดจนอยากจะดันออกไปให้ห่าง  "นึกว่าข้าชอบอยู่ที่นี่หรือไร.?"

"แล้วเหตุใดเจ้าไม่หนีไปเสียล่ะ  เจ้าผู้มีปีกงดงามยิ่งกว่าหงส์"

เพราะข้ารอท่านอยู่... อยากจะพูดออกไปอย่างนั้น  หากเธอกลับแค่เพียงสบตา  คาร่ายิ้มอ่อนโยน  ปลายนิ้วเย็นยะเยียบไล้แก้มเธออย่างถนอม

"ข้ายุ่งมากจน....."

"ท่านไม่เคยไม่ยุ่งหรอกค่ะ"  ไอซิสกระซิบแทรก  อีกฝ่ายย่นคิ้วมองเธอด้วยสายตาเจ็บปวด  เธอเองก็ใช่ว่าจะสบายดี

"ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร  แล้วท่านพ่อ.."

"ไคล่ากับเบลล่าขอให้พาไปล่าสัตว์"

"ไปล่าสัตว์.?"  ย้อนถามอย่างไม่เชื่อหู  เห็นคนตรงหน้ายิ้มขำๆ ก็เริ่มจะเข้าใจ  "ท่าทางท่านพ่อจะหลงลูกสาวคนนี้มากสินะคะ"

"นั่นมันเรื่องของท่านพ่อ  ไม่เกี่ยวกับพี่.."  คาร่าพูดเอาแต่ใจ  อีกฝ่ายส่ายหน้าให้และหมุนตัวจากไปพร้อมหนังสือที่ฉกไปจากมือเธอ 

ไอซิสยืนพิงผนังข้างหน้าต่าง  กางหนังสือออกอ่านอย่างไม่สนใจเธอเลยสักนิด  นี่หรือที่เธออุตส่าห์วางแผนให้ได้มาเจอหน้ากัน

"ไอซิส..."

"เด็กคนนั้นเป็นใครกันแน่.?" ดวงตาสีแดงเหลือบขึ้นจากหนังสือมาสบตากัน  คาร่าชะงักกับสายตาจริงจังนั้น  ที่ขยันอ่านหนังสือเพราะแบบนี้สินะ

"เจ้าเจออะไรมาหรือ.?"

"ปานรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ส่องสว่างในเวลาที่เจ้าตัวเกิดภัยมากล้ำกราย  หรือตื่นเต้นสุดขีด  มันต้องเหตุผลสิคะ"

"เบลล่าเป็นคนของดินแดนแห่งความมืด  แสงเล็กๆ ที่เปล่งประกายในความมืดมิด  แต่ว่า..."

"แต่ว่า...  พระจันทร์จะส่องสว่างได้ก็ต่อเมื่ออาศัยแสงจากดวงอาทิตย์"

"ใช่.."

"แล้วดินแดนแห่งความมืดจะมีดวงอาทิตย์ได้อย่างไร  ไม่มีทางเลยที่พระจันทร์จะได้รับพลังงาน  ไม่มีประโยชน์อันใดเลยที่ชาร์ล็อตจะได้จากเด็กนั่น"

คาร่ายังคงเงียบกริบราวไม่กล้าจะปริปากเอ่ยวาจา  ไอซิสหรี่ตามองพี่สาวอย่างสงสัย  เชื่อว่าเค้าย่อมมีอะไรปิดบังเธอเหมือนคนอื่นๆ ทั้งที่ปากพร่ำพูดเสมอว่ารัก

"ข้าสินะที่ดินแดนนั้นต้องการ  ข้าสินะที่จะทำให้ชาร์ล็อตสมบูรณ์ได้  ส่วนท่าน...  ท่านต้องการพระจันทร์เพื่อลดความร้อนระอุที่กำลังแผดเผาตัวท่านอยู่ทุกวันนี้คาร่า.!"

"เจ้าเอาอะไรมาพูดไอซิส.!  จากหนังสือบ้าๆ พวกนี้หรือ.?  เจ้าเชื่อมันมากกว่าข้าหรือไร.?"  คาร่ากระชากหนังสือจากมืออีกฝ่ายไปขว้างทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี  หากไอซิสกลับมองมาอย่างเยือกเย็นเหลือเชื่อและพึมพำเบาๆ

"ท่านกำลังร้อนอยู่จริงๆ..  ทั้งที่ท่านเคยเยือกเย็นเป็นน้ำแข็ง.."

"เพราะเจ้าต่างหาก.!  เพราะเจ้าทำให้ข้าร้อนใจ  ทำให้ข้าไม่เป็นตัวเอง  ทำให้ข้าใกล้จะคลุ้มคลั่งเต็มที..  ข้ากำลังจะบ้าแล้วไอซิส.!"  คาร่าจับร่างน้องไปเขย่าแรงๆ ก่อนจะชะงักด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบา

"ลองนอนกับนางสิ  เผื่อท่านจะหายท่านพี่ที่รัก"  น้ำตาเธอร่วงหล่นอย่างไม่ได้สั่ง  มือขาวจัดปล่อยตัวอีกคนอย่างหมดแรงและหมุนตัวจากไปโดยไม่เอ่ยลา  และไม่รู้ว่าคนที่ถูกทิ้งไว้ด้านหลัง  ทรุดตัวลงกับพื้นน้ำตานอง

....................................................

"เลิกมองข้าด้วยสายตาแบบนั้นสักที  ถ้าทำไม่ได้ก็กลับไป" 

ชาร์ล็อตสั่นหัวให้เจ้าหญิงปากร้ายที่ไม่เคยไยดีเธอสักครั้งทั้งที่เป็นฝ่ายบอกเองว่า  อยากจะลองคบกันดูอีกครั้ง  เก็บเป็นข้อมูลไว้พิจารณาเรื่องที่อาจจะรื้อฟื้นเรื่องการหมั้นหมายกันขึ้นมาใหม่อีกที  หากทว่าหลายเดือนผ่านมาก็ยังไม่มีทีท่าว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราจะดีขึ้น  มีแต่ย่ำอยู่กับที่กับแย่ลงไป  และตอนนี้มันก็ใกล้จะหมดเวลาที่เธอยื้อกับทางเมืองตัวเองแล้ว

"ไอซิส..  เลิกเถอะ  ข้ายอมแพ้"

ตาสีแดงเหลือบขึ้นจากหมากบนกระดานที่รออีกคนเดินอยู่  มองหล่อนอย่างไม่เข้าใจ  "เจ้ากำลังจะชนะข้าแล้วนะชาร์ล็อต"

"หมากบนกระดาน  ข้าอาจจะชนะเจ้า  แต่หัวใจข้าแพ้แล้วไอซิส  ข้าเหนื่อยเต็มที"

"เจ้าเบื่อที่จะรอข้า.?"  ไอซิสเอียงคอถามอย่างไร้เดียงสา  คนมองได้แต่กัดปากอย่างข่มใจ  แม้แต่จะได้สัมผัสริมฝีปากอิ่มเต็มนั่นสักครั้ง  เธอยังไม่เคย

คู่หมั้นแบบไหนกัน.?

"ข้าเคยรอเก่ง  และข้ารอได้  หากสามารถมองเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนว่า  รอเพื่ออะไร  แต่นี่...  ดูตัวเจ้าเอาเถอะ"

"เจ้าอยากร่วมรักกับข้าหรือ..  ทำไมไม่พูดตรงๆ ล่ะ  ข้านึกว่าเจ้าชอบเดินหมากมากกว่า  เห็นมาทีไรก็ชวน"

"เจ้ากวนข้าหรือไอซิส..  เจ้าย่อมรู้ว่าข้าพูดถึงอะไร  เจ้าในตอนนี้..   ข้านอนกับท่อนไม้ยังจะมีความสุขมากกว่า"

"หยาบคายเกินไปแล้วนะชาร์ล็อต" 

ชาร์ล็อตหัวเราะขม  เอื้อมมือไปเชยคางอีกคนขึ้นมามองหน้าให้ชัดๆ จากนั้นก็ส่ายหัวปลง "สภาพเจ้าตอนนี้  ผีที่เมืองข้ายังน่าจับมานอนด้วยมากกว่าเลยล่ะไอซิสที่รัก"

ไอซิสเม้มปากแน่นอย่างเคืองใจกับคำวิจารณ์แทงใจดำ  เธอปัดมือที่ปลายคางออกเหมือนรำคาญมาก  "ปากเสีย..  อย่างเจ้าก็ใช่จะทำให้ข้ามีอารมณ์ได้  ซีดเซียวไร้เรี่ยวแรง  นอนกับเจ้าคงเหมือนนอนกับศพ"

"โอ้..เจ้าหญิง..  เพราะปากร้ายแบบนี้นี่เล่า.. เจ้าถึงต้องอยู่คนเดียว  ถ้าข้าไม่มาหา  เจ้าคงเหี่ยวตายคาปราสาทไปนานแล้ว"

"ข้าไม่ได้ขอร้องให้เจ้ามา  และเจ้าก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาหาข้า  อย่านึกว่าข้าโง่นะชาร์ล็อต"

ตาสีม่วงมองคนอายุน้อยกว่าที่หวนไปเริ่มต้นเรียงหมากบนกระดานต่ออย่างทึ่ง  ลูบคางครุ่นคิด  "ไอซิส.."

"อะไร.?"

"พูดเพราะๆ หน่อยสิคะ"

ไอซิสเหลือบตาขึ้นมองคนอ้อนอย่างสงสัย  "จะมาไม้ไหนอีกชาร์ล็อต  หรืออยากจะ...."

"เจ้าเชื่อในตำนานจริงหรือ.?"

เจ้าหญิงตาสีแดงนิ่งงันก่อนจะก้มหน้าลงอย่างไม่กล้าสู้สายตาที่มองมาอย่างต้องการคำตอบ  มือเย็นๆ เอื้อมมาแตะหลังมือเธอเบาๆ ขอบตาเธอร้อน...

ไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว.. 

แต่มัน...

"ไอซิส..."  ชาร์ล็อตเรียกย้ำ  ตาสีแดงปรายมามองเธอในที่สุด  หากเธอกลับไม่แน่ใจว่า  ดีใจที่ได้ยินคำพูดนี้  ในเวลาแบบนี้...

"ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ  เจ้าก็อยู่และพิสูจน์มันเสียสิชาร์ล็อต"

......................................

"เบลล่า..  ทำไมข้าต้องเจอเจ้าตรงนี้ทุกที"  ไคล่าดึงร่างที่จะเดินผ่านหน้าเธอไปให้หันกลับมามองกัน  อิสซาเบลล่าตกใจจนแทบจะเอาหมัดเล็กๆ ต่อยหน้าเธอถ้าเธอไม่จับมันไว้ได้ก่อน

"โอ้ย.. ขอโทษที..  ข้านึกว่าคนร้าย"  เด็กสาวบอกอย่างรู้สึกผิดและขอมือตัวเองกลับมา  อีกคนส่ายหน้า  เคาะหน้าผากเธอเบาๆ

"เจ้าน่ะสิคนร้าย..  นางโจรห้าร้อย  จะย่องไปขโมยอะไรที่ไหน"

"อะไร..  ทำไมจะต้องหาเรื่องข้าตลอดด้วย  เจ้าก็รู้นี่ว่าข้า...."

"เจ้าเป็นเจ้าหญิงแล้ว..  เจ้าไม่ต้องขโมย  เจ้าก็มีเงินส่งไปให้ที่บ้านเก่าของเจ้าสินะ"  ไคล่าตอบแทนให้เป็นฉากๆ อีกฝ่ายเกาแก้มเก้อเขิน  เออ.. มันก็น่ารักดี..  เอ๊ะ.!  ไม่ใช่สิ  น่าเตะมากกว่า..

"บอกข้ามา.. เจ้ามาเดินทำอะไรมืดๆ ไม่ใช่สิ  เจ้ามาเดินที่นี่ได้ยังไงในเขตพระราชฐานอย่างนี้  ทหารไปไหนหมด  หรือพวกมันหลับยาม"

"ไม่ใช่..  พวกเขาไม่ได้หลับ  แต่ข้าย่องเข้ามาเอง"  อิสซาเบลล่าโพล่ง  หน้าซีดที่อีกคนตาวาวใส่  "แต่ข้าไม่ได้มาขโมยของนะ  ข้าแค่มาหาคาร่า"

"มาหาคาร่า.?  มาทำไม..  หรือว่าเจ้า..."  ไคล่าชี้หน้าเด็กสาวตาโต  สมองนึกไปถึงเรื่องร้ายๆ ทันที  ร้ายหรือ.?  "เจ้าไปทำอะไรกับคาร่ามา  บอกข้ามาเดี๋ยวนี้นะ  บอกข้ามา.!" 

ร่างบางแทบจะขย้อนอาหารเย็นออกมาเพราะแรงเขย่า  สาวน้อยพยายามร้องห้ามอีกคนอย่างหนักใจ  "ข้าไม่ได้ทำ  เค้าน่ะทำ.!"

"อะไรนะ  คาร่าทำเจ้าเหรอ..  แล้วเจ้าเป็นยังไงบ้าง  เจ็บตรงไหนไหม..  ไม่น่าเป็นไปได้ที่เค้าจะปล่อยให้เจ้าเดินออกมาแบบนี้  หรือเจ้ามันแย่  หรือเจ้า.."

"หยุดพูดบ้าๆ ได้แล้วไคล่า.. นอกจากเจ้ากับคาร่าและข้าแล้ว  ที่นี่มีผู้หญิงกี่คนกัน  อย่าให้ข้าต้องพูดให้อายปากเลย"  อิสซาเบลล่าทำหน้าสยอง  ภาพพวกนั้นยังติดตาอยู่จนอยากจะอยากไปล้างตาเสียเดี๋ยวนี้  คนอะไรไม่รู้  บัดสีบัดเถลิงที่สุด  ขนาดไม่ใช่ผู้ชาย...

"หมายความว่า.. เจ้าเข้าไปเจอคาร่ากับพวกนางสนมสินะ"  ไคล่าถามตาเป็นประกายวิบวับอย่างตื่นเต้น  "หน๊อยแน่ะ  พี่ข้า.. แอบทำเรื่องสนุกคนเดียวอีกแล้ว  ไม่ชวนกันเลย"

"นี่พวกเจ้าไม่เคยคิดจะรักเดียวใจเดียวกันบ้างหรือไง  ทำไมถึงได้..."

"มันไม่ได้เกี่ยวกับความรักสักหน่อยนะคะน้องหนู  มันเกี่ยวกับความสนุกที่เจ้าไม่มีทางรู้หรอก  ถ้าเจ้าไม่ได้ลอง.."  แฝดคนน้องยักคิ้วให้น้องเล็กที่เบะปากใส่อย่างขยะแขยง  "เจ้านี่ไม่เข้าใจอะไรเลย..  ผู้หญิงพวกนั้นจะต้องเหี่ยวเฉาตายกันหมด ถ้าพวกข้าไม่สนใจ  พวกนางมีไว้เพื่อการนั้น  เฝ้ารอที่จะถูกเรียกใช้"

"ไม่จริงหรอก..  ต้องมีสักคนสิที่อยากจะออกไปจากที่นี่..  ไม่ใช่สิ  ผู้หญิงทุกคนนั่นแหละ  พวกนางต้องการความรัก  ต้องการครอบครัว  ไม่ใช่..." 

สาวน้อยผะอืดผะอมอยากจะอาเจียนขึ้นมาจนพูดไม่ออกเมื่อภาพคาร่าที่กำลังร่วมรักกับนางสนมปรากฏขึ้นมาในสมอง  เสียงครวญครางของหญิงสาวซึ่งถูกทรมานด้วยความต้องการโหยหาความใคร่  กลิ่นคาวของโลกีย์คละคลุ้งไปทั้งห้องห้องนั้น  คนแล้วคนเล่าที่ขึ้นคร่อมบนร่างคาร่าและโยกย้ายส่ายสะโพกตอบรับเรียวนิ้วที่ล้ำค่าประดุจแท่งทองคำ  พวกนางพออกพอใจกับสิ่งนั้นจนไม่ใส่ใจว่า  ผู้กระทำไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรไปด้วยสักนิด

คาร่าเหมือนตุ๊กตาที่เคลื่อนไหวได้เท่านั้น...

"และคาร่าเองก็ไม่ได้ดูมีความสุขเลย.."

"นี่เจ้าอยู่ดูนานขนาดนั้นเลยหรือนี่..  เจ้าลามกกว่าที่ข้าคิดไว้นะเบลล่า"

"เอ๊ะ  นี่ข้ากำลังจริงจังอยู่นะ.!"

"จริงจังอะไร..  เจ้าห้ามเรื่องแบบนี้ไม่ได้หรอก  ถึงจะเป็นลูกคนโปรดของเสด็จพ่อ  เรื่องนี้มันอยู่ในการตัดสินใจของคาร่าคนเดียว"

"ข้ารู้..  เพราะฉะนั้น..  ท่านนั่นแหละที่ต้องช่วยข้า"

"อะไรนะ ข้าน่ะหรือ..  ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร  ข้าก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น"

"และเป็นหนึ่งที่หลุดพ้น" 

ไคล่าส่ายหน้าให้เด็กสาวอย่างรู้ทัน  หากพอน้องมาเกาะแขนมองกันอย่างอ้อนๆ เธอก็ต้องถอนหายใจยาว  แพ้ความน่ารักของน้องเล็กไปเสียแล้ว

"ข้าเบื่อเจ้า..เด็กบ้า.!"

อิสซาเบลล่ายิ้ม  เพราะรู้ดีว่า ไคล่าใจดีกว่าที่ปากพูดมากมาย..


...................................


จำตอนที่แล้วไม่ได้สินะ  กลับไปอ่านใหม่เลยค่ะ อิอิ  หรือถ้าให้ดี อ่านตั้งแต่ภาคหนึ่งกันเลยนะ ฮ่าๆๆ  :28:

ภาคหนึ่งตามลิงก์นี้ไป http://www.yuri-read.net/queens-tale-12265.page (แต่ถ้าจะอ่านทั้งเล่ม  ต้องซื้อนะเคอะ เหอะๆ)   :21:

ค่ะ  เพราะบางคนอยากให้ไหดองเราแตก  วันนี้แตกแล้วหนึ่งเรื่องนะคะ  คุณไม่ได้บอกว่าอยากอ่านเรื่องไหน  เราจึงเลือกให้ เพราะคิดถึงแฟนตาซีขึ้นมา   :42:

พรุ่งนี้อาจจะแตกอีกเรื่อง  ต้องรอดูกันไปค่ะ

วันนี้ไปก่อนแล้ว  หมดพลัง   :15:

ขอบคุณค่ะ แล้วเจอกันนะ  :45:


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น