web stats

ข่าว

 


Beautiful Stranger - Chapter 1 : อาจจะเพราะ..คอฟฟี่เอฟเฟค

โพสต์โดย: anhann วันที่: 25 พฤษภาคม 2014 เวลา 18:42:09 อ่าน: 787



Beautiful Stranger - Chapter 1 :   อาจจะเพราะ..คอฟฟี่เอฟเฟค


"วนิลามิลค์เชคค่ะ"  เสียงใสสั่งรายการโดยไม่มองหน้าคนด้านหลังเคาท์เตอร์  เธอมัวแต่มองไอแพดในมือแต่อยู่ๆก็เงยหน้าขึ้นและโพล่งออกมา

"ขอโทษค่ะ ทำไปหรือยังคะ  ฉันขอเปลี่ยนออร์ดอร์ได้ไหม.?" 

พนักงานหนุ่มน้อยที่คงอ่อนกว่าเธอไม่กี่ปีเลิกคิ้วให้  เขานิ่งไปนิดก่อนจะยิ้มละมุน  "เชิญครับ  เรายังไม่ทันเริ่มเลย"

ใบหน้าน่ารักเผยยิ้มละลายใจคนมองไม่รู้ตัว  หญิงสาวกดคิ้วใช้ความคิดหนึ่งวิก่อนพูดเสียงเบาเหมือนอายใคร  "ฉันไม่ค่อยชอบดื่มกาแฟค่ะ  บอกตามตรง  ไม่ทราบว่า  คาราเมลมัคคิเอโต้มันเป็นยังไงคะ แรงมากไหม.?"

บาริสต้าหน้ามนยิ้มอย่างเป็นมิตร  เขายินดีชี้แจงให้ลูกค้าอย่างไม่ปิดบัง  "สำหรับคนเริ่มต้นอย่างคุณ  ผมว่าเมนูนี้ค่อนข้างดื่มง่ายนะครับ  รสชาติขมๆหวานๆ แต่ต้องทานอย่างมีศิลปะนิดนึง"

ลูกค้าคนสวยกระพริบตา  เธอไม่เคยคิดว่า  การดื่มกาแฟจำเป็นต้องมีศิลปะ  ก็แค่ดูดๆมันเข้าปากเหมือนวนิลามิลค์เชคของเธอไม่ได้หรือไง..

"ทำไมล่ะคะ.?"

หนุ่มหน้าอ่อนยังยิ้มอยู่  เขาคิดว่ามีเวลามากพอที่จะสอนคนกินกาแฟไม่เป็น  ช่วงนี้ลูกค้าซาแล้ว  หากเป็นช่วงเช้ากว่านี้คงต้องจำใจไล่ลูกค้าคนสวยนี้ออกไปแน่นอน 

"ผมว่า..  เราคงใช้ทฤษฏีอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ  เอาเป็นว่าปฏิบัติเลยดีกว่า"  เขาไม่พูดเปล่าแต่เข้าไปจัดการอะไรก๊อกแก๊กอยู่หลังเครื่องชงกาแฟขนาดเกือบเท่าเคาท์เตอร์  ไม่นานนักกาแฟแบ่งชั้นสวยงามก็มาปรากฏต่อหน้าคนที่คงจะสวยกว่ามัน  หล่อนมองมันด้วยท่าทางสนใจเหมือนเด็ก

"ลองเลยดีกว่าครับคุณผู้หญิง" 

คุณผู้หญิงที่ว่ายื่นมือมารับแก้วกาแฟพลาสติกมาถือ  มองมันอึ้งๆเหมือนกำลังดูของประหลาดจากต่างดาว  และท่าทางเงอะงะของเธอก็ทำให้คนที่เดินเข้ามาใหม่ต้องสนใจมอง  ถึงขนาดถอดแว่นกันแดดออกทีเดียว

"คุณดื่มไม่เป็น  แล้วจะสั่งทำไมล่ะ  ขายต่อให้ฉันดีกว่า"

ใบหน้าคมคายแต่น่ารักเงยขึ้นตามเสียงที่มาเลียบเคียงใกล้ๆ จากนั้นก็ยิ้มกว้าง  เธอจำใบหน้านิ่งๆกับสายตาน่าค้นหาแบบนี้ได้ดี

"คุณอีกแล้ว.."

"นั่นต้องเป็นคำพูดของฉันไม่ใช่หรือไง.."  คนที่มาใหม่พูดเสียงนิ่งก่อนหันไปหาบาริสต้าหนุ่ม  "วนิลามิลค์เชคค่ะ" 

ออร์ดอร์ที่สั่งไปได้มาเร็วแทบไม่ต้องรอ  อาจเพราะคนทำมืออาชีพ  ถึงอย่างนั้นคนจ่ายเงินก็เห็นว่ามันช้าเกินไปกว่าที่คิด  น้ำแข็งในแก้วมัคคิเอโต้เริ่มละลายแล้วไงล่ะ

"นี่ของคุณ.. เอาแก้วนั้นมาให้ฉันแล้วเอาเงินส่วนต่างไปด้วย" คนสวยหน้าคมพูดเอาแต่ใจ  แต่ยังมีมารยาทพอที่จะไม่แย่งของจากมืออีกคน 

คนที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตกเลยทีเดียว..

คนแบบนี้มีอยู่ในโลกด้วยหรือนี่.? 

หรือพวกอัจฉริยะจะประสาทไม่ดีกันหมด..

"นี่คุณคะ  อย่าอึ้งนานได้ไหม..  น้ำแข็งละลายหมดแล้ว  และฉันต้องเข้าประชุมแต่เช้าด้วย  หรือคุณฟังคำพูดง่ายๆของฉันไม่ออก..  ไมเคิลช่วยแปลให้เค้าฟังได้ไหม.?"  น้ำเสียงอ่อนใจส่งมาจากปากสวยของสาวนักบริหารที่งานยุ่งมากๆ แต่ยังว่างมาต่อล้อต่อเถียงกับใครไม่รู้เรื่องกาแฟ
แค่กาแฟจริงๆ..

บาริสต้าหนุ่มที่จับพลัดจับผลูถูกดึงมาร่วมด้วยกำลังจะเปิดปากช่วยอธิบายเรื่องที่ลูกค้ารายใหญ่ของเขาต้องการ  หากสาวร่างบางตัวไม่สูงมากแต่น่ารักชะมัด  ก็โพล่งออกมาเสียก่อน

"แล้วฉันบอกคุณไหมว่า  ฉันจะแลกมันกับคุณ..คนรวยเอาแต่ใจ" 

ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่อึ้ง  ลูกค้ารายใหญ่ของเขาเช่นกัน  สาวสวยหน้านิ่งที่เป็นเจ้าของอาณาจักรตึกสำนักงานตรงนี้และพื้นที่ที่ตั้งร้านนี้กำลังกระพริบตาปริบๆมองตามหลังร่างบางกับแก้วกาแฟนั้นไปก่อนที่เธอจะหันกลับมาจ้องหน้าเขาด้วยสายตาน่ากลัว

"เอ่อคือว่า..  มะ  มิสครับ--"

"เค้ามาบ่อยไหม..  ผู้หญิงคนนั้น"

อีกครั้งที่เขาอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก  นึกว่าจะโดนเฉดหัวออกไปจากร้านตามคำร่ำลือว่าอย่าได้คิดมีปัญหากับผู้หญิงคนนี้  แต่คำถามนี้ทำให้เขาเปลี่ยนความคิดใหม่  บางทีข่าวลืออาจเป็นแค่ข่าวลือ..

"ก็..  ก็.."  ไมเคิลพยายามจะตอบคำถามให้ได้  สาบานได้เลยว่าเขาไม่เคยเป็นโรคติดอ่างมาก่อน  เพิ่งมารู้จักมันก็คราวนี้ล่ะ

"คุณควรไปหาหมอนะไมเคิล  ติดอ่างเป็นบุคลิกภาพที่ไม่ดีนัก"

คำพูดเนิบๆหน้าตายแต่ทำให้อึ้งไปจนกระทั่งแก้ววนิลามิลค์เชคถูกยื่นมาใส่ตา  เขาเลิกลั่กมองหน้าคนยื่นที่ป่านนี้ก็ยังนิ่งอยู่

"แต่ก่อนหน้านั้น  ช่วยเอานี่ไปหน่อย  จะดื่มมันหรืออะไรก็แล้วแต่คุณ    แล้วทำกาแฟแก้วใหม่ให้ฉัน  ด่วนนะ  ฉันให้เวลาคุณสองนาที"

บาริสต้าหนุ่มรับของมาทั้งมือสั่น  เขาพยายามไม่มองคนที่ก้มลงเช็คอะไรบางอย่างในไอแพดตรงหน้า  รีบๆทำกาแฟรสชาติประจำให้ก่อนจะเกินเวลาเส้นตาย 

สาวหน้าคมสวยมากแต่เย็นยะเยือกยิ่งกว่าจุดเยือกแข็งเดินออกจากร้านไปแล้วพร้อมคาราเมลมัคคิเอโต้เย็นแก้วใหม่  ไมเคิลถอนหายใจเฮือกเมื่อไม่เห็นคนสวยน่ากลัวคนนั้นแล้ว  ลูกค้ารายใหม่เข้ามาแล้ว  และเขากำลังจะไปทำงานต่อ  แต่กระดาษแผ่นเล็กที่วางอยู่บนกล่องทิปก็สะดุดตา  และมันก็พาความหนาวจัดมาให้อีกครั้งแม้แหล่งพลังงานความเย็นจะจากไป

เพราะมันก็คือจดหมายสั้นๆจากเจ้าหญิงหิมะคนเมื่อกี้เอง!

'คราวหน้าฉันหวังว่าจะได้รู้จักชื่อผู้หญิงที่กินมัคคิเอโต้ไม่เป็นนั่นนะ  อ้อ..แล้วอย่าลืมไปหาหมอด้วยล่ะ  ติดอ่างแล้วความหล่อคุณจะลดลง  และคุณไม่ต้องขอบคุณฉันก็ได้นะ  แค่ทำกาแฟให้อร่อยแบบนี้ก็พอ- เกว็น  คิซากิ'

...........................................

"1.วางปลายหลอดไว้ที่ก้นของแก้ว พอดีกับคาราเมล  2. ดูดกาแฟขึ้นมาช้าๆ 3. เลื่อนหลอดที่อยู่ปลายแก้วให้ขึ้นมาทีละนิดๆ 4. กลับไปขั้นตอน 2 และ 3 ทำอย่างนี้ขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นบนสุด  แล้วเราก็จะได้ลิ้มรสหวานของคาราเมล จากนั้นก็ความมันของนม แล้วตบท้ายด้วยความขมของกาแฟ"

เสียงอธิบายดังเข้ามาในบลูทูธที่หู  เจ้าของหูพยักหน้าหงึกหงักราวกับคนอธิบายนั่นนั่งอยู่ตรงหน้า  เธอพยายามทำตามคำบอกนั้นแต่ผลที่ได้กลับทำให้ใบหน้าเหยเกแทบอยากจะพ่นน้ำกาแฟบ้าๆนี้ออกไป

"จีน่า..  รสชาติมันห่วยบรม!  ขมยังกับกินดินปืน!" 

"อะฮ้า! เคยกินดินปืนด้วยเหรอฟราน  งั้นเธอก็เป็นระเบิดเวลาน่ะสิ"

ฟรานเชสก้าหงุดหงิดจนแทบจะด่าอีกฝ่ายเป็นภาษารัสเซียแต่ก็กลัวเพื่อนจะฟังไม่ออก  เธอจึงแค่กลอกตาและมองแก้วกาแฟในมืออย่างแค้นเคือง  ที่จริงก็เคืองผู้หญิงเพี้ยนๆนั่นต่างหาก  หน้าตาก็ดีแต่กลับพูดอะไรฟังไม่รู้เรื่องทุกที  นี่หรือเปล่าที่เค้าบอกกันว่า  อัจฉริยะมักจะเพี้ยน.?

แต่หล่อนเหมือนมาจากดาวอื่นมากกว่านะ  คนบ้าอะไร!

"ฟราน..  ยัยฟราน..  เธอยังฟังฉันอยู่ไหม.?  เฮ้.."

เสียงจากปลายสายเล่นเสียสะดุ้งโหยงแก้วกาแฟแทบหลุดจากมือ  หญิงสาวตัดใจวางมันใส่ช่องวางแก้วใกล้คอนโซนหน้าเพื่อความปลอดภัยแต่ตาก็ยังมองมันอย่างอาวรณ์  เธอยอมเสียเงินตั้งหลายดอลล่าร์เพื่อของที่กินไม่ได้ได้ยังไง

ก็แค่อยากลองดู..

"ฉันฟังอยู่น่า..  ว่ามาสิ"  ตอบเสียงเซ็งๆ มือเอื้อมไปจับหลอดกาแฟคนน้ำในแก้วอย่างเผลอตัว  ดวงตาสีน้ำข้าวมองน้ำที่กำลังเปลี่ยนสีอย่างสนใจ  สมองเธอหวนคิดไปถึงคนที่ชอบสั่งมันบ่อยๆนั่นและคนที่จะแย่งมันไปจากมือเธอด้วย  นึกว่าตัวเป็นใครกันยะ!

"เธอนึกยังไงซื้อมัคคิเอโต้มากิน.?"

ดวงตากลมๆกระพริบ  นิ่งคิดหาเหตุผลให้กับคำถามแล้วก็ส่ายหัว  "ไม่รู้สิ  มันสวยดีมั้ง.."  ตอบอย่างไม่คิด  ลืมสนิทว่าที่กินเพราะเห็นใครบางคนกินแล้วก็อยากลองบ้าง  และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม  หรือสนใจคนกิน

ผู้หญิงประหลาดๆนั่นน่ะเหรอ..  ไม่หรอกน่า..

อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในฐานะอื่นนอกจาก......

"ยัยบ้า!"  จีน่าว่ามาตามสาย  เสียงดังจนคนเผลอเหม่อสะดุ้งอีกรอบ  ยังไม่ทันจะคิดคำสวนกลับ  รายนั้นก็เปลี่ยนเรื่องไปทันทีเหมือนนกรู้

"ข้อมูลทาร์เก็ต  ฉันส่งไปในโทรศัพท์ของเธอแล้ว  เปิดดูแล้วกัน"

"โอเค.. งั้นแค่นี้นะ"  ฟรานเชสก้าตัดสายอย่างไม่รอฟังอะไรอีก  หยิบมือถืออีกเครื่องขึ้นมาเปิดดูไฟล์งานระดับท็อปซีเคร็ต  เธอเม้มปากไปอ่านไปอย่างไม่รู้ตัว  มันเริ่มตั้งแต่ที่เห็นรูปโปรไฟล์

"อย่างที่คิดไว้จริงๆ"  หญิงสาวพึมพำก่อนจะลบไฟล์นั้นทิ้งไปจนเกลี้ยงไม่เหลือไว้ให้กู้ขึ้นมาได้อีก  เธอไม่จำเป็นต้องใช้  เพราะมันได้ถูกบันทึกใส่สมองเธอไปหมดแล้ว  และเพื่อความปลอดภัย  มันจึงไม่จำเป็นต้องคงอยู่  เธอทำแบบนี้ประจำ  ก็เหมือนงานประจำที่ไม่เคยยากมาก่อนนี่แหละ

ใช่.. มันไม่เคยยากเลย..

งานสุดท้ายแล้ว..ฟรานเชสก้า..  อิสระกำลังรอเธออยู่นะ..

แต่ว่า..  ฉัน---

RRRRRRR!!!

ร่างบางสะดุ้งเฮือก  เสียงเรียกเข้าจากมือถือเรียกสติเธอกลับคืนมา  มือบางกดบลูทูธพลางจุดสตาร์ทเครื่องยนต์ไปด้วย  เธอหมุนพวงมาลัยเลื่อนคาดิลแลคเอ็กซ์ทีเอสสีแดงเข้มออกจากที่จอด  ตามองทางข้างหน้า ปากก็ขยับ

"ฉันเข้าใจแล้วจีน่า  มีอะไรอีก"  ถามเสียงติดรำคาญ  เธอไม่ชอบให้ใครมาย้ำซ้ำแซะอะไรบ่อยๆแม้จะเป็นเพื่อนตัวเอง  จีน่าเองก็คงจะรู้  หล่อนจึงพูดเพียงสั้นๆก่อนจะวางสายไปอย่างไม่บอกลา 

"ก็แค่อยากจะเตือนว่า  ระวังตัวด้วยเท่านั้นเจ้าหญิง"

หญิงสาวนิ่งไปหลายวิก่อนจะปลดบลูทูธออกจากหู  ยัดมันใส่เสื้อแจ็คเก็ตหนังอย่างไม่ใส่ใจ  คิ้วเรียวกดลงแทบจะติดตา  มือคว้าเรย์แบนสีชามาสวม  พลางถอนหายใจยาว
ให้ตาย..  เธอไม่อยากให้จีน่าเรียกว่า 'เจ้าหญิง' เลยจริงๆ  เพราะความหมายที่มีในตัวของมันเอง  โดยเฉพาะพวกเธอ..

........................................

"ใช่ควินท์..  ฉันต้องไปงานนั้น  และเธอก็ต้องไปด้วย"  สาวสวยกรอกเสียงลงไปมือถือที่หนีบอยู่กับคอ  สองมือไม่ว่าง เอกสารมากมายกำลังถูกจัดเก็บให้เป็นระเบียบก่อนเจ้าของโต๊ะจะจากไป  แล้วมันก็ไปอยู่ในเซฟอย่างดีเหมือนทุกวัน  มันอาจจะน่าอึดอัดที่ต้องเก็บทุกอย่างให้เป็นความลับแบบนี้  แต่อึดอัดก็ยังดีกว่าต้องมานั่งแก้ไขปัญหาภายหลังใช่ไหมล่ะ  นั่นแหละเธอ..

"โธ่.. ฉันไม่ได้สั่งนะ  แค่บอกว่า  เธอต้องไป"  เสียงเถียงกับคนในสายยังดังอย่างต่อเนื่องถึงเธอจะเดินสะพายกระเป๋าออกมาจากห้องแล้ว  ซ้ำยังพยักหน้าให้กับพนักงานที่ทำเคารพตามรายทาง 

ก็เพื่อนคนเดียวของเธอมันช่างพูดยากพูดเย็นเสียจริง  แค่ให้ไปเป็นเพื่อนในงานเลี้ยงพบปะผู้ถือหุ้นเท่านั้นเอง  เท่านั้นเองของเธอน่ะสิ!

"ควินท์..."

'เกว็น..  ฉันได้ยินแล้ว..  ฉันไปแน่  แต่เธอรู้ไว้นะ  ฉันไม่ชอบใจเอาเสียเลยที่ต้องไปเจอพวกแก่ๆพุงโย้อายุรุ่นพ่อพวกนั้น  ทีหลังหัดมีหุ้นส่วนหนุ่มๆหล่อๆบ้างสิ  ฉันจะได้รีบๆโทรไปขอร้องเธอให้ชวนฉันไปเลย'

เจ้าของชื่อเผลอหัวเราะ  มองรอบด้านแล้วก็โล่งใจ  เธออยู่ในลานจอดรถคนเดียว  ถึงอย่างนั้นร่างเพรียวก็รีบสอดตัวเข้าไปในปอร์เช่คันเก่งทันที  ไม่ต้องการให้ใครเห็นรอยยิ้มของเธอนัก  มันไม่ได้มีไว้ให้กับทุกคน

เธอมีเกราะป้องกันตัวพิเศษ..

"โอเค..  แล้วฉันจะลองหาดูนะอย่างที่เธอว่าน่ะ" 

'ทำได้อย่างที่พูดทีเถอะเกว็น  ฉันรออยู่'

พูดจบแม่เพื่อนคนเก่งก็ตัดสายฉับไปอย่างไม่บอกลา  สาวหน้าคมส่ายหน้าวางโทรศัพท์ไว้ที่เบาะข้างๆ รถยนต์คันหรูแล่นไปตามถนนสายเดิม  และมันก็เริ่มชะลอความเร็วลง  เธออยากจะจอดรถเทียบข้างฟุตบาท  เดินเข้าไปในร้านกาแฟประจำ  แต่ที่ทำก็ได้แค่ส่ายหน้าเมื่อเหลือบเห็นนาฬิกาข้อมือ

ไม่ทัน..  ไม่ทันแล้ว..

หญิงสาวพึมพำในใจอย่างหมดหวัง  เธอไม่สามารถแวะที่ไหนได้อีก เพราะคนมีมารยาทดีไม่ควรจะไปงานใครสาย  เกว็นถอนหายใจยาว  เท้ากดเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว  ปอร์เช่สีแดงแล่นผ่านร้านกาแฟสุดโปรดไปภายในชั่ววินาที  แต่ที่กระจกมองหลัง ดวงตาคมยังมองเห็นมันกับคนบางคนที่คุ้นตาเหลือเกิน  หล่อนกำลังเดินเข้าไปร้าน  พลันรอยยิ้มของเธอก็เผยออกมาไม่รู้ตัว
แค่เพียงคิดไปว่า  พรุ่งนี้นายไมเคิลรูปหล่อจะมีอะไรให้เธอมากกว่าคาราเมลมัคคิเอโต้รสเลิศของเขาเท่านั้นเอง..

หรือเธอมีเซ้นส์ดีที่รู้ว่าจะมีอะไรดีๆรออยู่ในงานเลี้ยงกันนะ..

..............................................

ฉันไม่อยากรับงานนี้...

ไม่ได้.!  เธอต้องทำ!

หญิงสาวร่างบอบบางในเดรสสีขาวยืนเหม่อเกาะราวระเบียงเรือสำราญที่คนมาไม่ได้รู้สึกสำราญไปด้วยสักนิด  เธอจึงมาอยู่ที่นี่ไม่ใช่งานเลี้ยงที่มีแต่ความวุ่นวาย  แต่ก็รู้อยู่ว่า  อีกไม่นานก็ต้องกลับเข้าไป
ถ้าหากว่า....

"ฉันรู้ว่าโลกมันกลมนะ  แต่น่าจะกว้างพอที่จะไม่เจอใครบางคนซ้ำๆ"

ประโยคแปลกๆกับน้ำเสียงคุ้นหูดึงสายตาที่เหม่อลอยกลับคืน  มือที่เกาะราวระเบียงอยู่ผละออกมากอดตัวเอง  หนาวขึ้นมาอย่างน่าประหลาด  หรือเพราะหล่อน..

"โอ้..  ฉันก็ว่ามันกลมจนน่าเกลียดไปนะ  แต่คุณเชื่อไหม..  ฉันไม่ได้คิดว่ามันเลวร้ายไปนักหรอก  ถ้าความกลมของมันจะทำให้เจอคนที่อยากเจอ"

เผลอพูดอย่างใจคิด  ผู้หญิงในเดรสสีดำตัดกันกับผิวขาวจัดก็เลิกคิ้วมองมาด้วยแววตาสนใจผิดกับใบหน้าที่ยังเรียบเฉย  เธอไม่รู้เลยว่าหล่อนคิดอะไรอยู่  แต่คงไม่เลวร้ายนักเมื่อขยับมายืนใกล้กันอีกนิดจนเห็นชัดเลยว่า...

จะเซ็กซี่ไปไหนเนี่ย!

เดี๋ยวนะ  ฉันกำลังชมผู้หญิงด้วยกันงั้นเหรอ!

"ขอโทษด้วยนะเรื่องเมื่อเช้า  ฉันค่อนข้างรีบเลยเอาแต่ใจไปหน่อย"  คนตัวสูงกว่าค่อยๆพูดอย่างนุ่มนวล  ถึงเสียงหัวใจตัวเองจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือก็ตาม   เฮ้อ..มันจะเต้นแรงไปไหนกัน  เธอไม่เข้าใจ  ก็เหมือนที่ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้แทนที่จะอยู่ในงานนั่นแหละ 

"คุณตามมาหาฉัน  เพราะแค่เรื่องนี้งั้นหรือ..  ลงทุนไปหรือเปล่า"

"โอ้เปล่าเลย..  ฉันแค่อึดอัดกับอากาศข้างใน  และเห็นคุณอยู่ตรงนี้พอดี  เท่านั้นเอง" 

คำตอบไม่ผิดจากที่คิดไว้สักนิด  หากคนฟังยังบิดปากไม่พอใจอย่างไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็น  ท่าทางคาราเมลมัคคิเอโต้จะมีผลต่อระบบความคิดเธอ

คงเพราะเธอแพ้กาแฟ.. ล่ะมั้ง..

"แต่เจอคุณก็ดีแล้วนะ  เพราะบางทีพรุ่งนี้ฉันอาจจะซื้อกาแฟไม่ทัน เพราะพอเรือกลับเข้าฝั่งพรุ่งนี้  ฉันก็มีงานต่ออีก"

หญิงสาวไม่เข้าใจว่า  อีกฝ่ายจะบอกเธอเรื่องนี้ทำไม  จนกระทั่งหล่อนพูดต่อ  สีหน้าไร้อารมณ์จนไม่คิดว่าพูดจริงจัง

"ฉันฝากไมเคิลถามคุณว่า  ชื่ออะไรน่ะ  ตอนนี้คงไม่รบกวนเขาแล้ว  เพราะคุณคงจะบอกฉันเอง"

คนตัวเล็กกว่ามองหน้านิ่งๆสวยๆอย่างไม่เข้าใจ  และเธอตกใจกับคำพูดแบบเออออไปเองของหล่อนมากกว่าที่จะตอบกลับไปในทันที  ทั้งที่ทุกทีการแนะนำตัวเองของเธอไม่เคยเป็นปัญหามาก่อน  ไม่ว่านั่นจะเป็นชื่อจริงหรือไม่ใช่ก็ตาม  ให้ตาย..  อัจฉริยะมันประหลาดแบบนี้ทุกคนหรือไงกัน..

"เอ.. หรือว่า..  คุณอยากให้ฉันเรียกคุณว่า ?วนิลามิลค์เชค? มากกว่า"

"ฟรานเชสก้า  โฮป"  ในที่สุดก็ต้องโพล่งออกไปอย่างอดใจไม่อยู่  เธอทนไม่ได้หรอกที่จะให้ไม่รู้มาเรียกตัวเองในชื่อประหลาดๆอย่างของกิน  ถึงชื่อมันจะน่ารักดีก็เถอะ

"โอ้..  ชื่อเพราะดีนะ..ฟรานเชสก้า" 

เจ้าของชื่อยังหน้าตึงอยู่  เธอหงุดหงิดกับผู้หญิงหน้านิ่งตรงนี้มากแต่ขยับขาไม่ไหนไม่ได้  ใช่ว่าหล่อนยืนเกะกะขวางทางอะไร  แค่รู้สึกว่าเหมือนจะเป็นตะคริวไปทั้งตัว  ก็ดวงตาคมกริบที่จ้องมามันทำให้รู้สึกแปลกๆ  แถมเสียงหล่อนตอนขานชื่อเธอ   มันก็ช่าง.... 

เฮ้อ..  ช่างเถอะ  อย่ารู้เลยน่า!

"แล้วคุณล่ะ  ชื่ออะไร  ให้ฉันบอกคนเดียว  แบบนี้ก็ไม่แฟร์สิ"  ถามเสียงหงุดหงิดตามสไตล์  และมันก็ทำอะไรคนเฉยชาตรงหน้าไม่ได้เช่นเคย  หล่อนดูมึนมากจนเธออยากจะกระชากหน้ากากเย็นๆนี้ออกไปสักที

ก็ดวงตาไหวระริกมันไม่ได้บอกเลยนี่ว่า  เจ้าตัวเย็นชาจริงๆ..

ทำไมจะต้องทำแบบนี้ด้วยนะ  แล้วมันเกี่ยวกับเธอหรือไง.?

ไม่อ่ะ  ไม่เกี่ยว  แต่ไม่ชอบ  ไม่ชอบเลย!

"โอ้ขอโทษนะ  คือฉันชื่อ----"

"เกว็น!  กรุณากลับเข้างานด้วย เพื่อนสาวสวยคนนี้จะแย่แล้วนะคะ!"

ฟรานเชสก้าตกใจแต่ไม่ใช่เพราะสาวสวยเดรสน้ำเงินที่โผล่จากประตูพุ่งมาตามตัวผู้หญิงตรงหน้าเธอไปหรอก  เพราะอย่างน้อยหล่อนก็ได้ขอโทษขอโพยแล้วก่อนจะพากันหายตัวไป  มันเป็นเรื่องอื่น..
เรื่องที่เธออยากลืมแต่ทำไม่ได้... 

หญิงสาวถอนหายใจเหยียดยาว ก่อนสะบัดหน้าให้กับดาวบนท้องฟ้าที่เห็นชัดมากกว่าปกติเมื่ออยู่บนเรืออย่างขัดเคืองใจ  แล้วตัดใจเดินกลับเข้าไปในงานที่แทบไม่รู้จักใครเลย  แต่อันที่จริง  เธอรู้จักคนแค่คนเดียวในนั้นก็พอ..

และเธอรู้จักแล้วล่ะ! 

.....................................................

มาแล้วตอนที่หนึ่ง  ไม่รู้ว่าทำให้งงกันมากไหมนะ  หรือคนอ่านจะจับทางออก ฮ่าๆๆ

งงตรงไหนก็ถามได้นะคะ  ไม่กัดค่ะ ไม่กัด  อิอิ

ขอบคุณนะคะที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีกับนิยายใหม่แกะกล่องของเรา

อย่างไรก็ตาม  สำหรับคนที่ทวงเรื่องอื่นมา  ก็คงต้องเป็นไปตามคิวนะคะ เพราะการเขียนนิยาย ไม่ได้ง่ายเหมือนต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลย  ถ้าจะเขียนให้ดี (ดีหรือยัง.?)

ขอบคุณมากค่ะ   :44:

Rating: ***** โดย 2 สมาชิก
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น