web stats

ข่าว

 


ตอนที่ 4 อุบัติ

โพสต์โดย: ธนกร วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 09:28:19 อ่าน: 262

   เพราะการสอนงานที่ใจเย็นและการใส่ใจดูแลอยู่ข้างๆ ทำให้ลินรดารู้สึกมีแรงใจในการทำงาน และเปิดรับกับงานที่ตนเองเคยปฏิเสธมาโดยตลอดได้ วันนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวันดีๆ ที่ลินรดาตื่นเช้ามาที่
โรงงานพร้อมรุชาอย่างกระฉับกระเฉงตั้งแต่ยังไม่ 8 โมง เพื่อมาตรวจเรื่องความเรียบร้อยบริเวณโรงสีข้าว

   สายตาคมสวยกวาดไปทั่วบริเวณสังเกตเครื่องทำงานที่หยุดชั่วขณะของเครื่องสีข้าวเปลือก การแพ็คซีนใส่ถุงบรรจุภัณฑ์ และเครื่องคัดแยกเมล็ดข้าวพันธ์ที่ตั้งวางเรียงรายกัน...

   สาวสวยวัยสะพรั่งคลี่ยิ้มบางกับความใหญ่โตของโรงงานแห่งนี้ โรงงานที่เธอเคยคุ้นชินมาตั้งแต่เล็ก เคยวิ่งเล่น เคยเห็นพี่พนักงานคนเก่าแก่ที่มาทำงานจนเกษียณอายุออกไปเสียเอง บ้างก็เก็บเงิน
เก็บทองไปตั้งตัวมีอะไรเป็นของตนเอง ความทรงจำมากมายไหลย้อนวนเข้ามาในหัว ให้ลินรดาในมาดหญิงสาวเต็มบริบูรณ์ด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิฉีกยิ้มอย่างภาคภูมิใจในความสามารถของพ่อและ
พี่สาวของเธอ...

   สองเท้าก้าวเป็นจังหวะของรองเท้าส้นสูง เดินมองบรรยากาศโดยรอบเงียบๆ คนเดียว ก่อนจะหยุดชะงักกับน้ำที่ตนเองเหยียบยืน

   ...น้ำ...มาจากไหน?...

ลินรดารีบสาวเท้าก้าวเข้าไปให้พ้นจากโกดังเก็บข้าว เพื่อจะหาต้นตอของน้ำเอ่อนองเข้ามาในบริเวณการเก็บตุนข้าว โดยเดินทะลุบานประตูออกไปด้านขวามือ และพบว่าห้องน้ำสำหรับพนักงาน
โรงงานที่ไม่ได้ยกพื้นสูงมากนัก และเป็นห้องเปลือยด้วยกำแพงปูนมีเพียงบานสังกระสีปิดเป็นประตู มีน้ำล้นเอ่อออกมาจากห้อง และกำลังไหลเป็นทางยาวตามพื้นระนาบเข้าไปในส่วนโกดังเก็บ
ข้าว!

   ...ตายจริง...ใครสะเพร่าได้ถึงขนาดลืมปิดน้ำให้สนิทนะ... ลินรดารีบตรงไปปิดก่อนจะเดินเข้าไปในโกดังอีกครั้งและเห็นว่าน้ำกำลังไหลเข้ามาเรื่อยๆ ใกล้กระสอบข้าวใหม่ที่ยังไม่ได้ซีน

   สองมือออกแรงเย่อ ดึง ทึ้ง กระสอบข้าวที่เก็บตุนไว้เป็นกิโล ก่อนจะหาตัวทุ่นแรงเป็นรถยก แต่นั่นกลับอยู่ในที่เสี่ยงโดนน้ำมากเกินไป ลินรดาจึงตัดสินใจนั่งลงยองแล้วแบกขึ้นใส่หลัง สำหรับ
กระสอบที่จวนจะโดนน้ำก่อน...

   ฮึบ...เธอต้องแบกได้สิลินรดา...แค่นี้เอง...

สาวน้อยบอกกับตนเองในใจแม้ยามนี้เลือดสูบฉีกขึ้นหน้าด้วยการออกแรงจะสู้กับน้ำหนักกระสอบข้าวที่ตนแบกขึ้นหลัง แต่แล้วก็...

   ?โอ๊ย...? ร่างผอมเพรียวกลับทรุดตัวลงไปนั่งขาพลิกล้มไม่เป็นท่า กระสอบข้าวเลื่อนไปอีกทางให้ลินรดากัดฟันด้วยความเจ็บปวดในอุบัติเหตุครั้งนี้ และพยายามใหม่อีกครั้ง

   ...น้ำจะเข้ามา หากข้าวได้รับความชื้นก็จะเน่า...เธอจะทำอย่างไร...


ลินรดาพยายามลุกขึ้นยืนอย่างปัดเป๋ หันรีหันขวางเพื่อจะหาผ้าซับน้ำ ก่อนจะเห็นเศษผ้าเก่าๆ ผืนหนึ่งวางอยู่บนพื้นไม่ไกลนัก...

เสียงรถบัสสำหรับไว้รับส่งพนักงานแล่นมาจอดหน้าประตูโรงงานในเวลา 8 โมงเช้าพร้อมกับ รปภ.เดินมาทำท่าตะเบ๊ะให้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนเปิดประตูเลื่อนออกต้อนรับพนักงานเข้าไปทำงานใน
โรงงาน ระหว่างนั้นรถเก๋งโตโยต้ายาริสของนันตชาก็แล่นเข้าจอดหน้าโรงงานบริเวณลานจอดรถอย่างเหมาะเหม็ง

เท้าสวยในรองเท้าส้นสูงสีดำมันก้าวลงจากรถมายืนตัวตรงอย่างคนที่รักษาบุคลิกเป็นอย่างดี นันตชาสวมกางเกงแสลคสีเทากับเสื้อโปโลสีครีมสดใส พร้อมกับถือกระเป๋าสัมภาระงานอย่างเตรียม
พร้อม ก่อนจะถอดแว่นกันแดดสีดำทันสมัยออกแล้วยิ้มบางให้กับ รปภ.ที่มาเปิดประตูรถให้

?คุณรุช กับคุณลินลี่มาแล้วนะ??

?มาตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่งได้แล้วครับ ผมเป็นคนเปิดประตูให้? รปภ.หนุ่มกล่าวรายงาน ให้นันตชาพยักหน้า

?ว้าย!!!! ตายแล้ว!!!?

   เสียงกรีดร้องของเหล่าพนักงานในส่วนโกดังสีข้าวดังขึ้น ให้นันตชาหันไปตามต้นเสียงอย่างผงะตกใจ ก่อนจะปรี่เข้าไปในโรงสีข้าวโดยพลัน

   ?เกิดอะไรขึ้น!? ทันทีที่ก้าวเข้าไปเพื่อจะดูเหตุการณ์ นันตชากลับรู้สึกว่าขาเธอกลับไม่มีเรี่ยวแรง ใจร่วงไปถึงตาตุ่ม เมื่อเห็นพนักงานชายวัยฉกรรจ์เป็นคนช้อนร่างลินรดาไว้ในวงแขนกำยำนั้น และ

เห็นว่าบริเวณข้อเท้าขวาของลินรดาที่ขาวสวยดั่งหยวกกล้วย บัดนี้กลับห่อเลือดจนม่วงช้ำ

   ยามนี้ลินรดาหน้าซีดขาว ใบหน้าไร้เม็ดสี ให้นันตชามองตามด้วยความตื่นตกใจ

   ?เกิดอะไรขึ้น ภูธร?? นันตชารีบดึงแขนชายหนุ่มไว้ทันที ให้ภูธรหันมาตอบเสียงเครียดไม่แพ้กัน

   ?คุณลินลี่ข้อเท้าพลิกแพลง ลุกขึ้นไม่ได้ ผมไม่แน่ใจว่าข้อเท้าจะอักเสบหรือเปล่าน่ะครับ?

ทำไม?...นันตชาอยากจะถามถึงต้นเหตุว่า ทำไมลินรดาถึงเป็นเช่นนั้น หากแต่ดูสีหน้าของลินรดาที่เห็นทีจะไม่ได้การ เธอจึงรีบหยิบโทรศัพท์เพื่อจะเรียกรถพยาบาลโดยไว...

   การรอคอยรถพยาบาลเนิ่นนานจนทำให้นันตชาเป็นกังวล แต่ไม่นานนักรถโรงพยาบาลที่เธอเรียกก็มุ่งตรงมารับร่างคนเจ็บให้ขึ้นไปนอนบนแคร่นอนทันที ก่อนที่นันตชาจะอาสาตามประกบติดไป
ท่ามกลางสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นกังวลและเป็นห่วงของเหล่าพนักงาน...

   ?เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ทำงาน มัวแต่ยืนมุงทำอะไรกัน?? รุชาเดินลงมาจากส่วนห้องออฟฟิศส่วนบริหาร ทำเอาทุกคนที่ยืนอออยู่หน้าปากประตูโรงงานถึงกับสะดุ้งกับสายตาเฉียบขาดของผู้เป็น
นาย...


   ?ฉันถาม ทำไมไม่มีใครตอบ!? รุชากอดอกวางมาดนิ่ง ความขุ่นเคืองแสดงออกชัดเจนบนใบหน้าให้เหล่าพนักงานเก่าและพนักงานใหม่ต่างหลบสายตากันวุ่น

   ?เอ่อ รุช...? เสียงใสหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง ให้รุชาหันไปมองก่อนจะพบว่าเป็นปิยธิดาที่ก้าวตรงมาใกล้เธอ และเมื่อเธอหันไปมอง คำรายงานก็คลายความสงสัยให้รุชานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

   ?เมื่อกี้คุณลินลี่ข้อเท้าพลิกหรืออะไรก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เธอลุกไม่ได้ เลยเรียกรถพยาบาลมารับตัวไปเรียบร้อยแล้ว?

   ขาเรียวเล็กสวยถึงปลายเท้าที่สะอาดตา บัดนี้โดนห่อหุ้มด้วยเฝือกอย่างดี ใหญ่หนายิ่งกว่าเท้าช้าง แถมยังผูกสายห้อยโยงให้ยกลอยอยู่ในท่าเดียว ขณะที่เจ้าตัวมีสีหน้าเหยเกด้วยความรู้สึกที่เจ็บ
ปวดก็อย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งก็ด้วยความรู้สึกที่รู้สึกว่ากลืนน้ำลายหนืดคอเต็มประดา เมื่อเห็นว่าคนเป็นพี่สาวที่กำลังจะก้าวสู่ช่วงวัยทองอยู่รอมร่อ กำลังกอดอกจ้องมองมาตาเขม็ง ในขณะที่อีกด้าน
หนึ่งของเตียงเป็นนันตชาที่มองมาด้วยสายตาเป็นห่วง

   ?จะตอบได้หรือยังว่า เข้าไปทำอะไรวุ่นวายที่โกดัง? น้ำเสียงขุ่นเคืองตามมาด้วยสายตาตำหนิอยู่กรายๆ ชวนให้ลินรดายิ้มแหย ก่อนว่า

   ?มันเป็นอุบัติเหตุน่ะพี่รุช ลินรีบหาวิธีย้ายกระสอบข้าว...?

   ?เพื่อ?? รุชารับซักความ ทั้งที่ลินรดายังอธิบายไม่จบ และน้ำเสียงที่ขู่เข็ญผู้เป็นน้อง ทำเอาลินรดาถึงกับเม้มปากสนิท ไม่รู้จะบอกอย่างไร


   ?รุช พี่ว่าใจเย็นก่อน ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากับน้องสิ? นันตชารีบพูดขัดขึ้นมาเมื่อเห็นบรรยากาศเริ่มพาเครียด

   ?โธ่พี่นันก็ดูสิ รุชทำงานด้านบนประสาทจะกินอยู่แล้ว ยังต้องมารับมือกับเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรไม่รู้เนี่ย ทำไมอยู่เป็นหัวหน้าแค่คุมยอดปิดเปิดบิลด้านล่างไม่ทำ อยากเป็นกรรมกรเองรึไง?

   เพราะด้วยความโกรธและเป็นห่วงผสมผสานอยู่ในใจทำให้รุชาไม่หยุดพุ่งวาจาดั่งหอกแหลมๆ ที่ปามาโดนกลางใจให้คนฟังสะอึก น้ำตาเอ่อคลอ ด้วยเพราะไม่คิดว่าสิ่งที่เธอทำจะทำให้พี่สาวของ
เธอมองในด้านลบไปเสียหมดจนไม่ฟังเหตุผลให้ดี

   ?รุช...ไปนั่งด้านนู้นไป พี่ถามเอง? นันตชาท้วงขึ้นทันที เมื่อเห็นสองพี่น้องจะปะทะคารมกันให้เกิดบรรยากาศดราม่าในโรงพยาบาลขึ้นมาอีก

   รุชาทำเพียงถอนใจฮึดฮัดอย่างอึดอัด แล้วเดินเลี่ยงออกไปนั่งมุมโซฟาห่างๆ แต่ก็ยังไม่หยุดบ่น

   ?นี่ยังไม่บอกให้พ่อกับแม่รู้ ถ้ามารู้เข้ารุชนี่ล่ะจะตาย?

นันตชาปรายตามองอย่างห้ามปรามให้รุชาเงียบลงในฐานะของการเป็นพี่นอกบทบาทการทำงาน แล้วหันมามองลินรดาที่เอาแต่ก้มหน้างุด ซ่อนนัยน์ตาเศร้า หากแต่ก็ไม่อาจปิดบังคนที่สนิทคลุกคลี

มาตั้งแต่เด็กอย่างนันตชาได้

?ไหนเล่าให้ฟังซิว่าเรื่องเป็นไงมาไงแน่ ลินลี่?

?จะเล่าทำไมล่ะคะ ในเมื่อสิ่งที่ลินลี่ทำ มันก็ดูเกะกะน่ารำคาญอยู่แล้วนี่? เจ้าคนน้องยังไม่หยุดเถียงกลับด้วยน้ำเสียงประชดประชัดขึ้นจมูก ให้คนที่ใจเย็นสุดอย่างนันตชากอดอก มองหน้านิ่ง...

และนั่นก็ทำให้ลินรดาเริ่มเล่าความจริงให้ฟัง...

?ในโกดัง ลินลี่ก็ดูความเรียบร้อยอยู่นั่นแหละค่ะ แต่พอเห็นว่ามีน้ำเข้ามาจากไหนไม่รู้ เลยตกใจพยายามรีบย้ายกระสอบข้าวที่ใกล้น้ำมากที่สุดให้ออกห่าง แต่พอตั้งใจจะแบกขึ้น เลยรู้ว่ามันหนัก
เลยเสียหลักล้มไม่เป็นท่า ยังดีที่มีเศษผ้าอยู่ในนั้นอ่ะค่ะ เลยพอมาซับได้แล้วช่วงนั้นพนักงานก็มาพอดี?


การเล่าที่มาที่ไปของลินรดาทำให้รุชานิ่ง ก่อนหันมามองน้องสาวแล้วกะพริบตาปริบๆ

?ยามข้างนอกก็มี ตะโกนให้มาช่วยก็สิ้นเรื่อง?

?น้ำตั้งมากขนาดนั้นพี่รุช กว่าเขาจะเข้ามา ข้าวคงเสียหายไปหลายแล้ว? ลินรดาเถียงกลับทันทีอย่างไม่ยอม ก่อนหันไปจดจ้องใบหน้าของพี่สาวเขม็ง ?ทำอะไรเคยเข้าหูเข้าตาพี่บ้างป่ะ ถามจริง??

โดนตอกกลับเข้าไปรุชาถึงกับทำหน้าเจื่อน แม้รู้ว่าตนเองผิดกับการวู่วามโทษความผิดน้องสาวครั้งนี้ แต่มาดของผู้จัดการที่ปลูกฝังมาตลอด 20 กว่าปีทำให้รุชาเคยชินกับการหยิ่งในศักดิ์ศรีและไม่
ยอมก้มหัวให้ใครไปเสียแล้ว


เธอจึงได้แต่เบือนสายตาออกห่างใบหน้านวลงามวัยละอ่อนของน้องสาวอย่างรู้สึกผิด ก่อนเอ่ย

?อยู่กับพี่นันไปก่อนแล้วกัน พี่จะไปเคลียร์เรื่องน้ำที่โรงงานเอง? พูดจบรุชาก็เดินดุ่มออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดังให้ลินรดาเบ้ปาก

?ร่ำร้องว่างานที่ตัวเองทำเหนื่อยนักหนา แต่พอยื่นมือเข้าไปช่วย ทำความดีให้เห็นไม่เคยจะชมเลยจริงๆ?

?อย่าไปว่าพี่อย่างนั้นเลยค่ะ น้องลินลี่? นันตชาหันมายิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนบอก ?เท่าที่พี่รู้จักคุณรุช ก็รักษาฟอร์มไปอย่างนั้นเอง แต่คุณรุชรักคุณลินลี่นะ ป่านนี้คงไปรีบจัดการตัวต้นเหตุที่
โรงงานแล้วล่ะ...?

?แต่ขาลินลี่...จะทำอะไรได้เนี่ยช่วงนี้? ลินรดาถอนใจแล้วหันมามองนันตชาอย่างผิดหวัง

?หมอบอกว่าเส้นเอ็นอักเสบ ต้องพักอย่างนี้อย่างน้อยอาทิตย์นึงนะคะ ไว้ว่างๆ พี่จะหมั่นมาเยี่ยม?


แค่คำพูดเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยกำลังใจและคำปลอบโยน ก็ทำให้ลินรดายิ้มออกอย่างสดใสร่าเริงเฉกเช่นก่อนเก่า พร้อมพยักหน้าให้อย่างขอบคุณ...

   รถเก๋งสีดำคันโก้แล่นทะยานไปด้วยความเร็ว จากคนขับที่กำลังมีโทสะติดค้างอยู่ในใจหลังจากได้ฟังความจริงที่ลินรดาเล่า รุชาขบกรามแน่นเป็นสันนูน หูกำลังอื้อไปด้วยความโมโหกับความ
สะเพร่าของพนักงานที่ไม่ยอมตรวจสอบเรื่องความรอบคอบในเรื่องของการใช้น้ำ

ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ได้มีห้องน้ำในตัวอาคารของโกดัง หากต้องการจะใช้ต้องเดินไกลไปคนละฝั่งของการจัดเก็บข้าวถึงนอกอาคาร ทำให้หลายคนออกปากบ่นร้องประท้วงในปีต่อๆ มาเพราะเสียเวลาใน
การเข้ากะทำงาน และยังมีผลกระทบสำหรับคนที่อายุมากที่มีปัญหาเรื่องการเดิน ข้อเข่าไม่ดี และคนท้องที่ต้องเดินอุ้ยอ้ายในแผนกคัดสรรแยกเมล็ดพันธ์ข้าว

รุชาจึงต้องจำยอมเปิดห้องน้ำในอาคารโรงสีข้าว แต่มีกฎและข้อห้ามให้ทุกคนตรวจสอบการปิดเปิดน้ำให้ดี รอบคอบ ซึ่งตลอด 10 กว่าปีที่เปิดมา นับว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ทำไมวันนี้...ถึงพลาด

ได้...



เธอเหยียบคันเร่งออกตัวแรงพุ่งทะยานไปตามเส้นถนน ก่อนจะจอดเทียบที่จอดรถหน้าโรงงานอย่างรวดเร็วเหมาะเหม็ง และรีบเดินปรี่เข้าไป โดยที่ใบหน้ายังฟ้องชัดว่ามีอารมณ์โกรธกรุ่นอยู่มากโข

?เปิดประตู? น้ำเสียงดุดันหันไปสั่งรปภ.ด้านหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในบรรยากาศด้านล่างของอาคารอุตสาหกรรมที่เธอไม่เคยเดินตรวจมานานมากแล้ว

รุชาเดินเข้าไปตามจังหวะการก้าวเดิน ก่อนจะมาหยุดหน้าโกดัง ก้มหน้ามองพื้นที่ยังมีรอยชื้นและความด่างดวง ที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว สาวเท่ในชุดสูทสีดำสนิทจึงนั่งลงยองๆ และจับพื้นที่ชื้นนั้นเพื่อ
ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ก่อนจะเดินไปดูความเรียบร้อยของข้าวที่ใกล้บริเวณน้ำชื้นที่สุด เห็นว่ามันยังอยู่ในสภาพดี...

แต่อย่างไรก็ดี การวางข้าวแบบนี้ทำให้มีโอกาสเสี่ยงโดนความชื้นได้เหมือนกัน เธอจึงหันไปสั่งพนักงานขนส่งลำเลียงข้าวให้ช่วยกันแบกหาม ให้ข้าวไปอยู่ในอีกมุมหนึ่งให้เรียบร้อย...

รุชาลอบถอนใจ สองมือไพล่หลังอย่างมีมาด ขณะที่หัวคิ้วยังกดลงอย่างขมวดมุ่นอย่างคิดไม่ตกว่าจะใช้บทลงโทษกับความสะเพร่านี้กับพนักงานอย่างไร

...เพราะที่ผ่านมา เธอไว้ใจมาตลอดในส่วนของการทำงานจุดนี้ จนละเลยว่าควรที่จะติดกล้องวงจรอีกสักตัว...


   รุชาก้าวเท้าเดินผ่านแผนกบัญชีและการตลาดที่เป็นห้องกระจกใสมุมหนึ่งของโรงงาน มองเห็นเด็กสาวสะพรั่งวัยไล่เลี่ยกับลินรดา กำลังหรุบตาวูบซุบซิบกันให้สงสัยอยู่เล็กน้อย แต่แล้วเธอก็ส่ายหัว

   ?อ้าวรุช...กลับมาแล้วเหรอ หน้าเครียดเชียว? เสียงของปิยธิดาเอ่ยทัก เมื่อเดินออกมาจากห้องคัดสรรและแยกพันธ์เมล็ดข้าว ?ลินลี่เป็นไงบ้างล่ะ?

   ?เข้าเฝือกน่ะ...? รุชาตอบเสียงเรียบ

   ?โถ แสดงว่าเจ็บหนักน่ะนั่น? ปิยธิดาออกความเห็นอย่างรู้สึกหดหู่ใจกับอุบัติเหตุไปด้วยอีกคน


   ?เดี๋ยวรบกวนปิ่น บอกให้พนักงานประชุมตอนพักด้วยนะ รุชจะไปเคลียร์งานด้านบนต่อ? พูดจบรุชาก็เดินปลีกตัวออกไป ทิ้งให้ปิยธิดามองตามแล้วลอบถอนใจกับความเครียดนั้น...

   ลินรดากรอกตามองพื้นเพดานขาวของโรงพยาบาลอย่างเบื่อหน่าย เมื่อท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนของเธอถูกบล็อคไว้ราวกับโดนสตาฟมากว่าสามชั่วโมงแล้ว และยามนี้การปวดปัสสาวะกำลังเป็นปัญหาให้
เธอขยับร่างกายอย่างลำบากนัก

   เมื่อหันหน้าไปหาตัวช่วยอย่างนันตชา ก็เห็นว่าอีกคนกำลังอ่านหนังสือพิมพ์เกี่ยวข้องกับการตลาด ด้วยสีหน้าจริงจังโดยที่ไม่มองมาทางลินรดาเลยแม้แต่นิด ทำให้สาวบาดเจ็บต้องลอบถอนใจ
ก่อนพยายามขยับเขยื้อนกายเอง...

   ?จะไปไหนคะ คุณลินลี่? เสียงทักนั่นเอ่ยขึ้นพร้อมกับพับหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะโดยพลัน ก่อนรีบปรี่มาหาลินรดาพยายามบังคับให้สาวน้อยนอนลง


   ?พี่นัน...ลินลี่จะเข้าห้องน้ำ?

การบอกจุดประสงค์ตรงๆ พร้อมกับสีหน้าที่บ่งบอกว่าอดทนมานานแล้ว ทำเอานันตชารู้สึกหน้าร้อนฉ่าไปนิดกับเหตุผล

?อ่อ...ปวดปัสสาวะเหรอคะ ถนัดมั้ย พี่ตามพยาบาลให้มั้ย?

นันตชาพยายามขยับแข้งขาให้ลินรดาลงมายืน ก่อนวุ่นหาอุปกรณ์ช่วยค้ำยันให้คนบาดเจ็บ ในขณะที่เธอก็ยังช่วยประคองอยู่ใกล้ๆ

   ?ไม่เอาค่ะ พี่นันช่วยประคองลินลี่เข้าไปในห้องน้ำก็พอ ลินลี่เขินพยาบาลน่ะ?

เหตุผลของลินรดามาอีกระลอกสอง ด้วยเพราะไว้ใจและสนิทใจกับนันตชามากกว่า หากแต่นันตชากลับกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างลำบากนัก เมื่อเสียงหัวใจเต้นรัวกระหน่ำไปกับลินรดาที่หัน
มาหาที่พึ่งอย่างเธอ...


   เขินพยาบาล...แต่ไม่ห่วงว่าสายตาคนมองอย่างพี่จะรู้สึกอะไรบ้างรึไง...ไม่ใช่ลินลี่เด็กตัวน้อยๆ แล้วนะ...

นันตชาหลับตาเพียงครู่ พยายามควบคุมวางสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ ช่วยประคองให้ลินรดาเดินเข้าไปในห้องน้ำ อย่างทุลักทุเล แม้ว่าลินรดาจะมีตัวช่วยค้ำยันอยู่ แต่ก็เหมือนกับการลงน้ำ
หนักเพียงขาเดียวทำให้นันตชาต้องประคองโอบรัดคนตัวสูงไว้ทั้งตัว...

   ?โอเคแล้ว...คุณลินลี่ปลดกางเกงออกเองนะคะ พี่นันจะอยู่ข้างนอก มีอะไรให้ช่วยก็บอก? นันตชาพยายามที่จะควบคุมสีหน้าแววตาและอาการใจสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมากว่า 20 ปียามที่อยู่ใกล้ชิด
กับนายน้อย ผู้ที่ยังอยู่ในวัยสาวสะพรั่งให้เธอใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวเพียงนี้

   แม้จะรู้จักคุ้นชินมาตั้งแต่เล็ก...แต่ความเปลี่ยนแปลงทางด้านทรวดทรงองเอว รวมไปถึงจิตใจเนื้อแท้อย่างนันตชาที่อ่อนไหวกับผู้หญิง มันทำให้เธอวางตัวลำบากนัก...


   นันตชาเผลอทำท่าปาดเหงื่อเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวจะออกไปข้างนอก หากแต่

หมับ

   มือเย็นนุ่มนิ่มของลินรดากลับคว้าแขนไว้เสียก่อน และออกปากขอความช่วยเหลืออย่างที่นันตชาไม่อยากจะได้ยิน

   ?มือข้างนึงของลินลี่จับไม้ค้ำยันอยู่ มันไม่ถนัดนะคะที่จะแก้สายปมแค่มือเดียว พี่นันช่วยลินลี่หน่อยนะ?

   

   


   

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น