web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 183
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 175
Total: 175

ผู้เขียน หัวข้อ: ผิดเพราะ...รัก ตอนที่ ๔  (อ่าน 1470 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ n-ew

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 93
ผิดเพราะ...รัก ตอนที่ ๔
« เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 13:34:34 »
ตอนที่ ๔

      ปลายฝันนอนไม่หลับกระสับกระส่ายจนต้องลุกขึ้นมาดูนาฬิกา ตีสองกว่าแล้วป่านนี้แพรตะวันทำไมยังไม่กลับ ปลายฝันรู้ดีว่าแพรตะวันออกไปเพราะน้อยใจกับคำพูดของเธอ ซึ่งจริงๆ แล้วเธอก็รู้สึกผิดไม่น้อย
      ปลายฝันนั่งมองมือถืออย่างชั่งใจว่าจะโทรหาแพรตะวันดีหรือเปล่า ก็พอดีได้ยินเสียงเปิดประตูด้านนอก ปลายฝันรีบเดินออกจากห้องนอนไปดูทันที เห็นแพรตะวันกำลังเปิดประตูเข้ามา
      “ไปไหนมาแพร หือ...เมามาเหรอกลิ่นหึ่งเลยเชียว เหลวไหลใหญ่แล้วนะ” ทั้งๆ ที่รู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองที่ทำให้แพรตะวัน ต้องออกไปแบบนั้น แต่พอเจอหน้ากันคำพูดที่ออกมามันกลับตรงกันข้ามกับความรู้สึกของตัวเอง ยิ่งทำให้แพรตะวันยิ่งรู้สึกแย่มากกว่าเดิม
      “เออ...แพรมันคนไม่ดี ไม่ต้องมาสนใจหรอก แล้วลุกมาทำไมขอโทษนะที่ทำให้ตื่น” แพรตะวันพูดอย่างมีอารมณ์ไม่แพ้กัน ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
      แพรตะวันยืนนิ่งอยู่ใต้ฝักบัว ปล่อยให้น้ำไหลลงมาใส่ตัว น้ำตาแห่งความเสียใจ น้อยใจมันไหลออกมาปนกับสายน้ำอย่างไม่รู้ตัว
      เมื่อแพรตะวันเดินเข้าห้องน้ำไป ปลายฝันนึกอยากตบปากตัวเองนัก ที่ปากไวซะจนทำให้ทุกอย่างมันยิ่งเลวร้ายลงไปอีก และเมื่อแพรตะวันออกจากห้องน้ำมาด้วยสภาพตาแดงๆ เหมือนผ่านการร้องไห้มา ทำให้หัวใจปลายฝันวูบไหวอย่างรู้สึกผิด
      “อ่ะ...น้ำขิงร้อนๆ เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น” ปลายฝันยื่นแก้วน้ำขิงไปตรงหน้าแพรตะวัน แพรตะวันรับมาอย่างงงๆ กับท่าทีของปลายฝันก่อนจะพึมพำเบาๆ
      “ขอบคุณ” แพรตะวันยกดื่มอย่างช้าๆ พลางมองหน้าปลายฝันอย่างแปลกใจ
      “ไปไหนมาเหรอ กลับดึกจัง” ปลายฝันพูดขึ้นมาลอยๆ โดยไม่ได้มองหน้าแพรตะวัน
      “ไปเรื่อยๆ ทำไม! สนใจด้วยเหรอ” แพรตะวันอดที่จะกวนไม่ได้
      “ก็ไม่อยากจะสนใจนักหรอก ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน” ปลายฝันก็แรงตอบอย่างยั้งไม่อยู่ก่อนจะล้มตัวลงนอนหันหลังให้แพรตะวัน
      
      แพรตะวันนั่งมองด้านหลังปลายฝันนิ่งๆ อยากจะเข้าไปโอบกอดแล้วบอกขอโทษอย่างรู้สึกผิดที่เป็นคนกวนน้ำให้ขุ่น ทั้งๆที่กำลังคุยกันดีๆ แต่ด้วยทิฐิที่มันพุ่งขึ้นมากลับทำให้แพรตะวันล้มตัวลงนอน หันหลังให้ปลายฝันเช่นกัน
      เสียงโทรศัพท์ดังลั่น ปลุกให้แพรตะวันงัวเงียตื่นอย่างงงๆ ก่อนจะควานหามือถือที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหัวนอนขึ้นมากดดู ชื่อของมิรินปรากฏอยู่หน้าจอมือถือ แพรตะวันมองดูอย่างแปลกใจ หายไปร่วมเดือนตั้งแต่วันนั้น จู่ๆ โทรมาทำไมกันนะ แพรตะวันคิดแล้วก็กดปิดเสียงก่อนจะวางไว้ที่เดิม ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องนอนชะเง้อดู เห็นปลายฝันนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะตรงระเบียงที่ประจำของเธอ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง แพรตะวันเดินไปหยิบดูเป็นมิรินที่โทรมาอีก แพรตะวันกดปิดเสียงอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
      มิรินฟังเสียงรอสายจากโทรศัพท์จนเพลงจบไปเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็ยังไร้วี่แววของคนรับสาย เธอรู้ว่าแพรตะวันคงยังไม่หายโกธรและคงไม่มีวันให้อภัยเธอง่ายๆ ในสิ่งที่เธอทำ
      และที่เธอปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานขนาดนี้ เพราะเธอคิดว่าเธอจะตัดใจและลืมแพรตะวันได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ เวลาแต่ละนาทีที่ผ่านไปแต่ละวันมันช่างทรมานเหลือเกิน
      วันแล้ววันเล่าที่เธอต้องพยายามอยู่ให้ได้ แสร้งทำตัวให้ร่าเริงเวลาอยู่กับเพื่อนๆ และสุเมธชายสูงวัยที่มาติดพันเธอ
      เธอพยายามบอกกับตัวเองว่าเธอมีความสุขกับสิ่งที่เธอเลือก เธอมีเงินใช้ไม่ขาดมือ เธออยากได้อะไรเธอก็ได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ แค่เพียงเธอบอกเขาเท่านั้น เธอมีเงินให้แม่ให้น้องตามที่พวกเขาร้องขอ
      แต่พอนานวันเข้าเธอเริ่มรู้แล้วว่าความสุขที่เธอคิดว่าใช่ หากแต่มันหาใช่ความสุขที่แท้จริงไม่ ทุกครั้งที่เธออยู่กับผู้ชายคนนั้นเธอรู้สึกรังเกียจและสมเพชตัวเองทุกที
      เธอเริ่มรำคาญกับความขี้บ่นของเขาที่ช่างบ่นว่าเธอได้ทุกเรื่องเพราะความหึงหวงของเขา ขนาดไปนั่งเฝ้าเธอที่ทำงาน เธอรู้สึกอายเพื่อนและลูกค้าที่รู้จักเธอ เวลาที่เขาเห็นเธอพูดคุยกับลูกค้าที่เป็นผู้ชาย เขาจะต้องเดินมายืนใกล้ๆ ตลอดเวลาซึ่งเธอรู้สึกอึดอัด และเบื่อหน่ายมากๆ จนวันนี้เธอเกินที่จะทนต่อไป
      “พี่จะมาเฝ้าหนูทำไมทุกวันทุกวัน หนูอายเค้านะมีแต่คนนินทาว่าหนู แล้วเจ้านายหนูเค้าก็ไม่ชอบที่พี่ทำแบบนี้ด้วยนะ” เมื่อความอดทนมันหมดลงเธอก็ต่อว่าเค้ายังไม่ไว้หน้า
      “พี่รักรินนี่นา พี่ก็หวงซิ”
      “หนูไม่ชอบให้พี่ทำแบบนี้มันเหมือนไม่ให้เกียรติหนู แล้วหนูก็คุยกับลูกค้าหนูทั้งนั้น หัดดูซะบ้างซิ” มิรินต่อว่าสุเมธอย่างรุนแรงด้วยความอัดอั้นกับสิ่งที่เป็นอยู่
      “พี่อย่าคิดนะว่าพี่ให้เงินหนู แล้วพี่จะมาเป็นเจ้าชีวิตของหนู แล้วหนูก็เคยบอกพี่แล้วว่าหนูไม่ได้รักพี่ แล้วมันก็ไม่มีวันที่หนูจะรักพี่ด้วย หนูให้ในสิ่งที่พี่ต้องการไม่ได้ อายุหนูกับพี่ห่างกันตั้ง30กว่าปี มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว หนูให้พี่ได้แค่เป็นเพื่อนกินข้าวเวลาที่หนูอยากไปเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้เราคุยกันตั้งแต่แรกแล้ว แล้วพี่ก็บอกว่าพี่ต้องการแค่นั้น แล้วนี่อะไรพี่ทำอะไรกับหนู ต่อไปถ้าพี่ยังก้าวก่ายชีวิตหนู ก็ไม่ต้องมาให้หนูเห็นหน้าอีก” มิรินต่อว่าสุเมธเหมือนคนขาดสติ
      “พี่ขอโทษ” สุเมธผู้ชายที่อายุมากกว่าพ่อมิรินเอ่ยเสียงแผ่วเบาอย่างนึกไม่ถึงกับท่าทีของมิรินที่เขาเห็นในวันนี้ เขาไม่คิดว่ามิรินจะใจแข็งกับเขาถึงเพียงนี้
      สุเมธหย่ากับเมียนานหลายปีแล้ว เขาใช้ชีวิตหลังเกษียนอย่างไม่เดือดร้อนอะไร ด้วยฐานะทางการเงินที่มีเหลือเฟือ มีผู้หญิงมากมายที่พร้อมจะยอมให้เขาเพื่อแลกกับเงิน แต่เขากลับไม่สนใจใครมากเท่ามิรินคนนี้ เขาทุ่มเทเงินทองไปตั้งเยอะกับผู้หญิงคนนี้ แต่เขาก็ยังไม่เคยได้เป็นเจ้าของผู้หญิงคนนี้สักที
      “ต่อไปพี่จะไม่ทำแบบนี้อีก ให้โอกาสพี่นะ” สุเมธอ้อนวอนมิรินอย่างไม่อาย
      “ต่อไปพี่อยู่ในส่วนของพี่ หนูอยู่ในส่วนของหนู หนูจะเจอกับพี่ต่อเมื่อหนูว่างและพร้อม ถ้าขืนพี่ยังทำแบบนี้อีกเราขาดกัน” มิรินเสียงแข็งอย่างเด็ดขาด
      “ได้...ได้ พี่ตามใจหนูทุกอย่าง ขอแค่พี่ได้เจอหนูบ้างนะจ๊ะ” สุเมธบอกมิรินอย่างดีใจที่มิรินยอมให้โอกาสเขาอีกครั้ง เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้รักและยอมผู้หญิงคนนี้
      มิรินเดินออกจากสุเมธมาอย่างไม่สนใจ ในเวลานี้เธอรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกินกับสิ่งที่เป็นอยู่ ถ้าตอนนี้เธอมีพี่แพรคงจะดีอย่างน้อยแพรตะวันก็ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมากขนาดนี้ ช่วงเวลาที่เธออยู่กับแพรตะวันเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุดแล้ว
      “ป่านนี้จะเป็นอย่างไงบ้างนะ รินคิดถึงพี่เหลือเกิน” มิรินได้แต่คิดรำพึงรำพันกับตัวเอง
      
      แพรตะวันยืนเหม่อมองท้องฟ้าที่มืดสนิท ในคืนที่ไม่มีดาวแบบนี้ช่างเงียบเหงาเหลือเกิน ปลายฝันกลับบ้านที่ระยองเพราะตอนนี้พ่อเธอไม่ค่อยสบาย เธอเลยต้องกลับบ้านทุกอาทิตย์ แพรตะวันยิ่งรู้สึกเดียวดายมากยิ่งขึ้น จะตามปลายฝันไปก็ไม่ได้เพราะงานที่ทำก็กำลังเร่งให้เสร็จ
      เสียงโทรศัพท์ดังทำลายความเงียบขึ้นมา จนแพรตะวันสะดุ้งเฮือก พอหยิบขึ้นมาดูเป็นเบอร์ใครที่ไม่คุ้น แต่แพรตะวันก็กดรับอย่างสงสัย
      “แพรพูดสายค่ะ”
      “คุณแพรคะ ป่านเองค่ะ” เสียงสายป่านลอยมาตามสาย
      “อ๋อ ค่ะคุณป่านแพรนึกว่าเบอร์ใคร”
      “ป่านก็ลองโทรดูค่ะ โชคดีที่คุณแพรยังใช้เบอร์เดิม” สายป่านเสียงหวานกว่าเดิม
      “เปลี่ยนไม่ได้หรอกค่ะ เผื่อลูกค้าติดต่อกลับมา ว่าแต่ว่าคุณป่านมีอะไรให้แพรรับใช้ค่ะ”
      “ใช้ให้มานั่งดื่มเป็นเพื่อนได้ไหมคะ” สายป่านหยอกเย้าทีเล่นทีจริง
      “คุณป่านอยู่แถวไหนคะ”
      “อยู่ร้านเดิมที่เราเจอกันวันนั้นแหล่ะค่ะ พอดีวันนี้รู้สึกเบื่อๆ แววเค้าก็ไม่ว่างนึกถึงคุณแพรก็เลยลองโทรมาค่ะ ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะคะ”สายป่านเสียงอ่อยๆ
      “ว่างค่ะ กำลังเบื่อๆ เหมือนกัน รอครึ่งชั่วโมงค่ะ เดี๋ยวเจอกัน”แพรตะวันบอกออกไปอย่างกระตือรือร้น อย่างน้อยๆ เธอก็จะได้ไม่ต้องนั่งถอนใจเบื่อหน่ายอยู่คนเดียว

      ระหว่างทางที่ขับรถไปที่ร้าน แพรตะวันคิดถึงตอนที่เธอไปทำงานที่โรงแรมที่มีสายป่านเป็นผู้จัดการครั้งนั้น สายป่านเป็นผู้หญิงที่จัดว่ารูปร่างดีคนหนึ่ง ผอมเพรียวผมซอยสั้นกับใบหน้าเล็กๆ ช่างเข้ากัน และทำให้ดูเป็นผู้หญิงที่กระฉับกระเฉงสมกับอาชีพที่เธอทำ ตอนนั้นจำได้ว่าเมื่อไหร่ที่เธอหันมองไปด้านหลัง เธอจะเห็นผู้หญิงคนนี้ยืนมองมาและยิ้มให้เสมอ
      ตอนนั้นเธอยังแอบคิดในใจว่าคงมาจ้องจับผิดเรื่องงาน พอตอนหลังลูกน้องมากระซิบบอกว่า ผู้จัดการคงจะชอบพี่เห็นชอบถามถึงแต่เรื่องของพี่ ไม่เห็นเคยถามเรื่องงานเลย ครั้งนั้นเธอก็แค่รับรู้เฉยๆ
      “ป่านนี้เธอคงไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นแล้วล่ะ” เธอบอกกับตัวเองอย่างขำๆ ที่เธอคิดถึงเรื่องคราวนั้นได้อย่างแจ่มแจ้ง ทั้งๆ ที่มันผ่านมาตั้ง2 ปีแล้ว
      แพรตะวันจอดรถหน้าร้าน เดินเข้าไปก็เจอสายป่านนั่งอยู่โต๊ะเดิม พอๆกับที่สายป่านหันมองมา พร้อมกับยกมือให้แพร
      “สวัสดีค่ะ คุณแพร” สายป่านทักเสียงใสอย่างดีใจ
      “สวัสดีค่ะ” แพรตะวันทักตอบเสียงใสไม่แพ้กัน
      “วันนี้ดื่มอะไรดีคะ เหมือนเดิมหรือเปล่า”
      “ขอเหมือนคุณป่านดีกว่าค่ะ ขอบคุณนะคะ” วันนี้แพรตะวัน รู้สึกอยากดื่มเหล้ามากกว่าเบียร์
      “วันนี้ป่านขอเลี้ยงตอบแทนที่วันนั้น คุณแพรเลี้ยงป่านกับแววนะคะ” สายป่านรีบบอกแพรตะวัน
      “แหม..ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” แพรตะวันบอกยิ้มๆ
      “ไม่ได้สิคะ ตกลงว่าวันนี้ป่านเป็นเจ้ามือเอง คุณแพร ป่านขออะไรอย่างสิ” สายป่านทำเสียงออดอ้อน
      “อะไรเหรอคะ” แพรตะวันรู้สึกงงๆ กับท่าทีของสายป่าน
      “ป่านจะขอคุณแพรไม่ให้เรียกป่านว่าคุณจะได้ไหม มันดูเป็นทางการจังเลยค่ะ” สายป่านยิ้มประจบ
      “งั้นคุณป่านก็อย่าเรียกแพรว่าคุณเหมือนกันนะคะ” แพรตะวันยิ้มหวานไม่แพ้กัน
      “ได้ค่ะ งั้นป่านเรียกแพรเฉยๆ ได้หรือเปล่า เพราะว่าแพรเกิดก่อนป่านแค่ 3 เดือนเอง”
      “รู้ได้ไงคะ” แพรตะวันดูตกใจที่สายป่านรู้วันเกิดของเธอ
      “ลูกน้องแพรบอกค่ะ”
      “หา...จริงเหรอคะ มันบอกขนาดนั้นเลยเหรอคะ คนไหนนะจะตัดเงินเดือนซะเลย” แพรตะวันแกล้งทำเสียงแข็ง
      “อย่าโกธรเลยนะคะ ป่านก็แกล้งถามเค้าไปเรื่อยๆ ค่ะเค้าคงไม่ทันคิด ถ้าแพรจะโกธรก็โกธรป่านนะคะ แต่ถ้าจะไม่โกธรจะดีที่สุดนะคะ”สายป่านทำเสียงออดอ้อน
      “ไม่โกธรหรอกคะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ร้ายนักนะเราเนี่ย แล้วทำไมต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยคะ ไม่ได้เกี่ยวกับงานซะหน่อย” แพรตะวันถามอย่างสงสัย
      “อ้าว..เราก็อยากรู้เรื่องของคนที่เราชอบสิคะ” สายป่านเผลอพูดความในใจให้แพรตะวันได้รู้
      “หา...อะไรนะคะ” แพรตะวันถามอย่างไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน
      “ป่านชอบแพรตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอค่ะ แล้วป่านก็รู้ว่าแพรรู้ เพราะลูกน้องแพรต้องเล่าให้แพรฟังแล้วล่ะ ที่ป่านแอบถามเค้าเกี่ยวกับเรื่องของแพร แต่แพรคงไม่ได้สนใจมากกว่าใช่ไหมล่ะค่ะ” สายป่านบอกเสียงแผ่วเบาเศร้าๆ กับสิ่งที่เธอบอกแพร
      “มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกป่าน อย่าคิดแบบนั้นสิค่ะ นั่นมันเป็นเรื่องของอดีตอย่าไปใส่ใจเลยนะคะ วันนี้แพรก็อยู่ที่นี่แล้วนี่นา แพรจะเป็นเพื่อนที่ดีของป่านนะคะ” แพรตะวันตกใจกับท่าทีของป่านไม่น้อย
      “ป่านไม่ได้อยากเป็นเพื่อนแพรนี่นา” ป่านบอกแพรตะวันอย่างจริงจัง
      “แพรมีคนรักแล้วนะคะป่าน” แพรตะวันตัดสินใจบอกสายป่านออกไปเพื่อให้เธอตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆ
      “ป่านรู้ค่ะ” สายป่านบอกเบาๆ
      “ป่านรู้มาตลอดว่าแพรมีคนรักแล้ว ป่านถึงไม่เคยทำอะไรเลยไงค่ะ แต่พอวันนั้นที่ป่านเจอแพรอีกครั้ง ป่านก็บอกกับตัวเองว่าป่านจะหาโอกาสบอกแพรให้ได้ แพรรู้ไหมตลอดเวลาที่ผ่านมา แพรไม่เคยลบออกไปจากใจป่านเลย ป่านคิดถึงแพรตลอด” สายป่านสารภาพความในใจอย่างหมดเปลือก อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ของเหล้าที่สายป่านดื่มเข้าไปด้วยที่ทำให้สายป่านกล้าพูด
      “ป่าน” แพรตะวันไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้เลย ในเวลานี้เธอควรจะดีใจหรือเสียใจกันดีนะ
      “บางทีทั้งๆ ที่รู้แต่เราไม่สามารถห้ามใจเราได้เลย” สายป่านเริ่มดื่มหนักขึ้น เมื่อได้ระบายความรู้สึกที่มันอัดอั้นอยู่ในใจเธอมานาน
      “ป่านดื่มมากไปหรือเปล่า พอก่อนดีกว่านะคะ” แพรตะวันทักท้วงสายป่านเมื่อเห็นเธอเรียกพนักงานเติมเหล้าให้บ่อยขึ้น
      “ไม่เมาหรอกคะ สบายมาก มาค่ะแพรมาชนกันหน่อยเพื่อมิตรภาพ เพื่อความรักของเรา” สายป่านเริ่มเสียงดังอ้อแอ้มากขึ้นอาจเป็นเพราะมีเรื่องราวในใจ เลยทำให้เมามากกว่าเดิม หนำซ้ำยังบังคับให้แพรตะวันดื่มด้วยอีก แพรตะวันเลยต้องตามใจแต่ก็พยายามไม่ดื่มมากเกินไป
      “แพรรู้ตัวไหม แพรนี่โคตรน่ารักเลยอ่ะ ป่านเจอแพรครั้งแรกนะ หัวใจป่านแทบจะหลุดออกมากองข้างนอกเลย” สายป่านหัวเราะชอบใจกับสิ่งที่เธอพูด
      แพรตะวันได้แต่นั่งยิ้มฟังสายป่านพูด อันที่จริงสายป่านก็น่ารักช่างพูดช่างคุยคล้ายกันกับมิริน ทำให้แพรตะวันหายเบื่อหายเซ็งกับวันที่น่าเบื่อ แต่กับเรื่องที่สายป่านบอกและเป็นอยู่ แพรตะวันคิดว่าสายป่านคงเมามากไปหน่อย เดี๋ยวพอสร่างเมาก็คงลืมไปเอง แพรตะวันเลยไม่ได้คิดอะไรมาก
      “ป่านกลับกันดีกว่านะคะ ดึกมากแล้วด้วย แพรเมาแล้ว ไม่ไหวแล้วด้วยคะ ปวดหัวมากเลย” แพรตะวันแกล้งเมาให้สายป่านเห็นซึ่งจริงๆ แล้วเธอก็รู้สึกมึนมากเหมือนกัน เพราะถ้าเธอไม่ทำแบบนี้        สายป่านก็ไม่ยอมกลับซักที เธอจะทิ้งให้สายป่านอยู่คนเดียวได้อย่างไง
      “อ้าวแพรเมาแล้วเหรอ ไป ไปกลับก็ได้ค่ะ น้องเก็บเงินด้วย”    สายป่านซึ่งเมามากแต่ก็เป็นห่วงแพรตะวัน พอแพรตะวันบอกแบบนั้นเลยยอมกลับโดยดี
      แต่พอสายป่านลุกจากเก้าอี้เท่านั้นแหล่ะ เซแซดๆแทบจะล้ม ดีที่แพรตะวันมือไวคว้าเอวไว้ได้ เลยทำให้สายป่านอยู่ในอ้อมกอดของแพรตะวันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่แพรตะวันไม่ได้คิดอะไรรีบประคองสายป่านเดินออกไปจากร้านทันที
      “ป่านรถจอดอยู่ตรงไหนคะ แล้วสภาพแบบนี้จะขับกลับไหวไหมนี่” แพรตะวันเอ่ยถามอย่างหนักใจ
      “ป่านไม่ได้ขับรถมาค่ะ รถป่านซ่อมอยู่” สายป่านตอบอู้อี้เพราะใบหน้าที่ซบอยู่ที่อกของแพรตะวัน เธออยากอยู่แบบนี้ไปนานๆจัง ในที่สุดเธอก็ได้อยู่ใกล้ๆคนที่เธอรัก ใกล้จนได้รู้สึกถึงลมหายใจของแพรตะวัน ที่สัมผัสกับใบหน้าเธอ ยามที่แพรตะวันก้มลงมาคุยกับเธอ
      จริงๆ แล้วสายป่านรู้ทุกอย่าง ถึงแม้ว่าเธอจะเมามากไปหน่อยแต่ไม่ได้ขาดสติ เพียงแต่นี่เป็นโอกาสที่เธอจะได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เธอรัก เธอก็เลยแกล้งเมามากจนไม่รู้เรื่อง
      “งั้น เดี๋ยวแพรไปส่งล่ะกันนะคะ” แพรตะวันประคองให้สายป่าน ขึ้นไปนั่งบนรถของเธออย่างทุลักทุเล เพราะการแกล้งเมาหนักของสายป่าน
      “เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้หนักเอาการเหมือนกันนะเนี่ย” แพรตะวันบ่นอย่างขำๆ ก่อนจะหันไปมองสายป่านที่นั่งหลับตาคอพับคออ่อนอยู่เบาะหน้ารถเธอ
      “อ้าว...ป่านอย่าเพิ่งหลับสิ ตื่นมาบอกทางแพรก่อน บ้านป่านอยู่แถวไหนคะ” แพรตะวันต้องประคองหัวสายป่านขึ้นมาเขย่าๆ แล้วร้องถามดังๆข้างหู ก่อนที่สายป่านจะหลับไปซะก่อน
      “ขับตรงไป 3 ซอย เลี้ยวซ้ายสุดซอย บ้านชั้นเดียวสีขาวนั่นแหล่ะค่ะ บ้านป่าน” สายป่านแกล้งงัวเงีย ตื่นมาบอกทางแพรตะวัน เสร็จแล้วก็นอนหลับตาต่อ จริงๆ แล้วเธอก็รู้สึกเมามากเหมือนกัน
      “1 ซอย.....2 ซอย.......3 ซอย...เลี้ยวซ้ายสุดซอย บ้านชั้นเดียวหลังสีขาว นั่นไงเจอแล้วบ้านน่ารักเชียว” แพรตะวันขับรถไปท่องไปตามที่สายป่านบอก จนเห็นบ้านหลังที่สายป่านบอกอยู่ข้างหน้าอย่างดีใจ
      “ถึงแล้วค่ะ ป่านลงได้แล้วจ้า บ้านมืดจังไม่มีใครอยู่เหรอคะ”แพรถามอย่างสงสัย
      “ป่านอยู่คนเดียว” สายป่านบอกก่อนจะก้าวลงจากรถแล้วเซจะล้ม แพรตะวันเลยต้องรีบเข้าไปประคองพาเดินไปเปิดประตูบ้าน พอเข้าบ้านได้สายป่านก็เดินไปนอนลงบนโซฟาทันที
      “อ้าว...ป่าน นอนเลยประตงประตูก็ไม่ปิด” แพรตะวันบ่น ก่อนจะเดินไปปิดประตูบ้านให้สายป่าน
      “แพรจ๋าอย่าเพิ่งกลับนะ อยู่เป็นเพื่อนป่านก่อน” สายป่านส่งเสียงอ้อแอ้บอกแพรตะวัน
      “โห...ป่าน เป็นการต้อนรับของเจ้าของบ้านที่ดีเหลือเกิน” แพรตะวันมองสายป่าน แล้วส่ายหน้าอย่างขำๆ ก่อนจะเดินสำรวจบ้านหลังเล็กน่ารักของคนที่เมาหลับคาโซฟา แพรตะวันเดินเลยเข้าไปด้านหลัง จนถึงห้องครัว เธอเห็นมีผ้าผืนเล็กตากอยู่ที่ราวด้านนอกเลยเปิดประตูออกไปหยิบมาชุบน้ำ เดินออกมาเช็ดหน้าตาให้คนเมา
      “คนเก่ง..ดูซิเนี่ย ไม่เหลือคราบสาวเปรี้ยวเลย” แพรตะวันพูดขำๆ ก่อนจะซับผ้าไปบนใบหน้า และลำคอของสายป่าน เบาๆ
      “จะว่าไปก็น่ารักดีนะ” แพรตะวันรำพึงเบาๆ ยิ้มๆ เมื่อเช็ดทั่วใบหน้าสายป่าน เลยทำให้มองเห็นสายป่านในระยะใกล้กว่าที่เคยเห็น
      ขณะที่แพรตะวันกำลังมองอย่างชื่นชมสายป่านนั้น สายป่านซึ่งแกล้งนอนหลับไม่ได้สติ ได้ยินที่แพรตะวันพูดและทำให้ทั้งหมด นอนใจเต้นแรงกับสิ่งที่ได้ยิน
      ด้วยความเมาและความรักที่มีให้แพรตะวันอย่างล้นอก ทำให้สายป่านสอดมือไปที่ต้นคอแพรตะวันอย่างรวดเร็ว โดยที่แพรตะวันไม่ทันระวังและตั้งหลัก ทำให้ใบหน้าของแพรตะวันโน้มลงตามแรงดึงของสายป่าน สายป่านไม่รอช้าใช้ปากประกบปากจูบแพรตะวันอย่างที่แพรตะวันไม่ทันได้ตั้งตัว




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.