Yuri-Read

รายชื่อนักเขียน ก - ฮ => อาพัทธ์ อันธการ => คืนนั้น...ของฉันและเธอ => ข้อความที่เริ่มโดย: อาพัทธ์ อันธการ ที่ 26 ธันวาคม 2013 เวลา 23:38:27

หัวข้อ: คืนนั้น...ของฉันและเธอ บทที่ 7
เริ่มหัวข้อโดย: อาพัทธ์ อันธการ ที่ 26 ธันวาคม 2013 เวลา 23:38:27
บทที่ 7

ชุดราตรีสีแดงค่อนข้างจะรัดรูปเป็นอุปสรรคในการเดินของเธอ ถ้าเป็นไปได้คงจับฉีกไปแล้ว แต่ในเมื่อไม่ได้กิตติญาก็พยายามจะเดินให้เร็วที่สุดตามสภาพจะเอื้ออำนวย

เมื่อเดินมาถึงชั้นบน ประตูห้องต่างๆ เรียงรายนับสิบ หล่อนกัดฟันอย่างหงุดหงิด ไม่มีวันรู้ได้เลยว่าห้องไหนกันแน่ที่สาวคนนั้นพาคนที่รักเข้าไป จะไปเคาะที่ละห้องก็คงไม่ได้

เธอเดินกลับลงมาที่ชั้นหนึ่ง สายตาสอดส่องคนรับใช้ที่ดูว่างพอจะช่วยเหลือได้ และแล้วก็เจอกับผู้หญิงมีอายุยืนสั่งนู่นสั่งนี่คนรับใช้คนอื่นๆ อยู่ หญิงสาวปราดเข้าไปหาในทันที

"ป้าคะ" เสียงนุ่มเครียดเรียกคนตรงหน้า

"คะคุณ" อีกฝ่ายตอบเสียงนอบน้อม เนื้อสีขาวมีกระย้อยห้อยบริเวณคางขยับตามการพูด

"คือว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดกี่เพ้าสีแดง ตัวสูงประมาณเท่านี้" หญิงยกมือขึ้นแสดงความสูงของคนที่หล่อนไม่ไว้ใจ

"เธอพาเพื่อนของฉันหายขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้านน่ะค่ะ ฉันเป็นห่วงเพื่อนมาก" เธอเล่าน้ำเสียงค่อนข้างร้อนลน รู้สึกได้ถึงเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ขมับและแผ่นหลัง

"อืม สักครู่นะคะ" หญิงสูงวัยคนนั้นบอก พลางสั่งงานอีกสองสามอย่างและเดินหายออกไปที่หน้าบ้าน



"อือ" สาวร่างบางครางเบาๆ อย่างไม่มีสติ

หล่อนยิ้มกริ่ม มือขาวเล็กหยิบกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงออกมาจากลิ้นชัก แบตเตอรี่เต็ม ความจุ32GB เหลือเฟือสำหรับงานนี้ เธอวางกล้องลงบนโต๊ะเมื่อตรวจสอบเสร็จ

จากนั้นเดินไปยังคนหน้ารูปหัวใจที่นอนหลับใหลไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ดวงฤทัยหอมแก้มขาวซึ่งตอนนี้แดงอย่างแผ่วเบา มัดจำก่อนจะได้อดใจไหว

ชุดราตรีสีชมพูดูเกะกะขึ้นมาทันที หล่อนค่อยๆ ลูบต้นขาเล็กเรียวไปพร้อมกับเลิกชายชุดให้ขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าตัวเองจะไม่เคยเห็นเนื้อหนังมังสาของผู้หญิงเสียเมื่อไหร่ จริงๆ แล้วเห็นจนเบื่อเสียด้วยซ้ำ แต่ภาพตรงหน้าเหมือนมีแรงดึงดูดให้เคลิ้มอย่างประหลาด มันทำให้หัวใจเธอกระตุก มือที่จับชายผ้าสั่น

เอวคอดสะโพกผาย ชั้นในตัวจิ๋วปิดเนินเนื้อไว้ชวนให้กระตุกออกเสียจริง นิ้วเรียวเล็กวนรอบสะดือบุ๋มเล่น คนไม่ได้สติครางเหมือนแมว ขาขาวๆ บิดนิดๆ

แค่นี้ยังตอบสนองเลย ถ้ามากกว่านี้คงสนุกแน่ๆ พี่พิมคนสวย ฝนรับรองว่าถึงพี่ไม่รู้ แต่ร่างกายสวยๆ ของพี่ต้องรู้สึกดีแน่นอน

แล้วชุดราตรีพริ้วก็หลุดจากตัวของจิณณพัต คนถอดรู้สึกไม่อยากถ่ายรูปด้วยกล้องแต่อยากถ่ายด้วยตา ลิ้น และนิ้วเสียมากกว่า แต่ยังไงก็ต้องอดใจให้ไหว ไม่งั้นเธออาจจะได้แค่คืนนี้เพียงคืนเดียว



ครู่เดียวสาวมีอายุก็เดินกลับมาพร้อมกับคุณกนก ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มอยู่เป็นนิจตอนนี้กลับเรียบเฉยแฝงด้วยความเครียดอยู่ลึกๆ

"คุงกิตติญาขึ้นปายข้างบงด้วยกัง" นักธุรกิจใหญ่บอกหล่อน แล้วเดินนำหน้า คนรับใช้หญิงยืนค้อมตัวนิ่งไม่สบสายตา

เธอไม่รู้ว่าทำไมคนข้างหน้าที่เดินขึ้นบันไดอย่างเป็นจังหวะถึงได้เคร่งเครียดนัก แค่เพื่อนของเธอหายเข้าไปในห้องกับใครก็ไม่รู้ ไม่น่าจะทำให้เป็นแบบนี้ บางทีคนที่พาขึ้นไปอาจจะเป็นคนที่มีความสำคัญกับเสี่ยก็เป็นได้

เจ้าสัวเดินไปทางซ้ายของตัวบ้าน แล้วไปหยุดที่ห้องริมสุดซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นห้องที่ใหญ่กว่าห้องอื่นๆ เขามองอยู่ครู่หนึ่ง เธอเห็นไหล่อวบๆ นั้นขยับเล็กน้อย

'ก๊อก ก๊อก' มือที่อวบอิ่มเคาะประตูไม้สีน้ำตาล เสียงของมันดังก้อง

"อาหมวยน้อยย ลื้อออกมาคุยกับป๊าสิ" กิตติญาหันขวับในทันทีที่ได้ยิน ลูกสาวของคุณกนกนี่เอง มิน่าถึงได้เป็นแบบนี้

"อาหมวยน้อยยย ป๊ารู้น้าว่าลื้ออยู่ข้างนาย" เสี่ยพูดย้ำเสียงหนัก

"ไม่ว่างน่ะป๊า ไว้คุยกันพรุ่งนี้ได้ไหม" เสียงใสสูงดังลอดประตูออกมา

"ม่ายล่าย ออกมาเดี๋ยวเน้ อย่าห้ายยต้องพังเข้าปายนะหมวยน้อย" เสียงทรงอำนาจดุ

หล่อนใจร้อนใจแย่อยู่แล้ว ดูเหมือนคุณกนกก็เข้าใจดีถึงความสำคัญของสถานการณ์ ใบหน้าอวบอูมเริ่มแสดงความเครียดออกมาโดยไม่รู้ตัว

ประตูถูกเปิดออก แค่พอเด็กสาวคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาเท่านั้น

"มีไรอ่ะป๊า" เสียงใสถามติดหงุดหงิด

"หมวยน้อยย ลื้อเปิดประตู้ห้ายมานกว้างๆ สิ" เขาไม่ตอบคำถามของลูกสาว แต่กลับสั่งแทน

"ไมอ่ะป๊า เปิดแค่นี้ก็คุยได้" เด็กสาวเชิดหน้าเล็กน้อย ตาแวบมองมาที่เธออย่างประเมิน

"อั๊วบอกห้ายเปิด" เขาย้ำเสียงดุกว่าเดิมจนเกือบเป็นตะคอก

"เปิดก็ได้" สาวหน้าใสทำตามอย่างไม่เต็มใจ

ภายในห้องตกแต่งอย่างหรูตามประสาคนมีเงิน หล่อนมองหาจิณณพัตแต่ไม่เห็น เสี่ยใหญ่ก็ดูเหมือนจะกวาดสายตาช่วยหาเช่นเดียวกัน

"ลื้ออาวเพื่อนคุงกิตติญาปายไว้หนาย" ชายมีอายุถามตรง เชื่อมั่นว่าลูกสาวของเขาต้องเป็นคนเอาไป ซึ่งเธอยืนยันได้ว่าใช่แน่ๆ เด็กสาวคนนี้เป็นคนพาพิมขึ้นมา

"แล้วเพื่อนคุณกิตติญาจะมาอยู่นี่ได้ไงล่ะป๊า" สาวน้อยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หญิงสาวอ่านแววตาอีกฝ่ายขาดว่าพูดโกหก เด็กคนนี้ยังไม่เก่งพอที่จะหลอกเธอได้

"ลื้ออย่ามาโกหกป๊าน้า ป๊ารู้" สีหน้าของสาวในชุดกี่เพ้าชัดเจนเหมือนหน้ากระดาษ มีแววลังเล สับสน และหาทางออกไม่ได้ฉายชัด

"อย่าห้ายป๊าต้องลงมือหาเอง" เสี่ยใหญ่ย้ำ

"อยู่ในห้องน้ำ" สาวน้อยกัดฟันกรอดพูดเสียงเบา แสดงให้เห็นชัดว่าไม่เต็มใจที่จะบอกอย่างยิ่ง ตาที่ส่งมาหาเธอบอกให้รู้ว่าโกรธ ถ้าไม่เป็นเพราะหล่อนบอก เจ้าสัวไม่มีวันรู้และตามมาได้อย่างแน่นอน

"คุงกิตติญาเข้าปายพาออกมาดีกว่า"

"ค่ะ" เธอรับคำเบาๆ เดินเฉียดผ่านอาหมวยน้อยอย่างจงใจ ไม่ใช่แค่เด็กสาวหรอกที่โกรธ หล่อนก็แทบจะฆ่าคนได้อยู่เหมือนกัน ถ้าไม่ติดว่าต้องทำธุรกิจกับเสี่ยไปอีกนานล่ะก็ เธอคงซัดคนตรงหน้าให้หมอบไปกับพื้นแล้ว เด็กก็เด็กเถอะ ทำแบบนี้หล่อนไม่อาจให้อภัยได้

หญิงสาวเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป บนชักโครกที่ปิดฝาแล้วมีร่างที่เกือบเปลือยเปล่านั่งอยู่ เปลือกตาปิดสนิท เสื้อผ้ากองอยู่บนตัก เธอกัดฟันระงับอารมณ์

เธอโมโห อยากจะวิ่งออกไปทำร้ายร่างกายเด็กคนนั้นเสียจริง จิณณพัตเป็นแบบนี้ไม่บอกก็รู้ว่าจะโดนทำอะไร แถมไม่ได้สติ ต้องเพราะโดนยาบางอย่างแน่นอน พิมเป็นคนที่เมาแล้วจะพูดเยอะ ไม่ใช่นิ่งแบบนี้ หล่อนรู้ดีเพราะเคยดื่มด้วยกันหลายครั้ง

คนตัวสูงหยิบชุดราตรีสีชมพูขึ้นมา พยายามมองผิวขาวๆ นั่นให้น้อยที่สุด หล่อนเองก็กลัวใจตัวเองไม่น้อยเหมือนกัน เธอสวมใส่ให้คนหน้าสวยอย่างลำบาก มือไม้อีกฝ่ายอ่อนปวกเปียกไปหมด

เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงเอาแขนเล็กเรียวข้างหนึ่งพาดไหล่ มือใหญ่โอบเอวบางไว้ แล้วพาเดินออกมาจากห้องน้ำ

"ขอโทษแทนอาหมวยน้อยยด้วยน้าคุงกิตติญา" แววตาอ่อนโยนคู่นั้นมีความจริงใจอย่างเต็มเปี่ยม

"ค่ะ ไม่เป็นไร" หล่อนตอบเสียงเรียบเฉย ควบคุมตัวเองอย่างเต็มที่



"หมวยน้อย มาคุยกับป๊าที่ห้องทำงานสิ" เขาพูดเสียงเรียบ

"ทามมายลื้อทำแบบเน้" คนสูงวัยกว่าถาม มองหน้าลูกสาวอย่างต้องการคำตอบ

"ก็...ฝนอยากได้เขานี่ป๊า" เด็กสาวตอบอ้อมแอ้ม

"ลื้อชอบปู่หญิงด้วยกานแค่เน้ญาติที่เมืองจีนของเราก็ว่าป๊าจะแย่อยู่แล้วน้า แต่ป๊าทนด้าย ที่ทนไม่ด้ายคือลื้อทำตัวม่ายรักดี" เขาบอกออกไปด้วยความเสียใจ

"แต่อั๊วตั้งใจเอาเขามาเป็นเมียจริงๆ นะป๊า คนนี้อั๊วรักจริง ไม่ได้จะทิ้งจะขว้างเลยนะป๊า" หน้าใสๆ บอกอย่างดื้อรั้น

"แล้วทามแบบเน้เขาจะรักลื้อไหม ด้ายแต่ตัวม่ายล่ายหัวจาย จะมีประโยชน์อาราย" เสี่ยใหญ่ถามกลับไปให้ลูกสาวได้คิด

"อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเองแหละป๊า" เสียงใสพูดอย่างคนไม่ยอมจนมุม

"อั๊วเหงแหวนที่นิ้วนาง อีแต่งงานแล้ว จามาอยู่กิงกับลื้อด้ายงาย" เขานั่งนิ่งๆ มองลูกสาวอย่างคาดคั้น

"ก็...อั๊วจะทำให้เขาเลิกกันไงป๊า" ดวงตาใสๆ นั้นมีแววเลิกลั่ก

"ทามงาย" สั้นๆ แต่ตรงประเด็น เด็กสาวนิ่งไป

"ก็...ป๊าอย่ารู้เลย" เหมือนจะพูด แต่ดวงฤทัยก็บ่ายเบี่ยงไป

"ม่ายอยากให้อั๊วรู้เพราะมันม่ายดีช่ายไหม" คนตรงหน้าเงียบ ก้มหน้าหลบสายตาของบิดา

"อั๊วเคยสอนลื้อช่ายไหม ว่าห้ายเปงคนดี อย่าปายทำม่ายดีกับครายเขา ซื่อกิงม่ายหมด คดกิงม่ายนานนะอาหมวยน้อย ปู้หญิงคนนั้นถ้าลื้อปายทำเลว เขาม่ายมีวันรักลื้อหรอก เขาจะเกลียดลื้อ ถ้าลื้อแน่จริงก็ทามห้ายเขาเป็นของลื้อด้วยความเต็มจายสิ" เขาสั่งสอน หวังว่าลูกสาวจะเข้าใจ ลูกคนนี้ถึงจะดูเอาการเอางาน แต่เรื่องนิสัยยังเทียบไม่ได้กับลูกชายคนโต

"ก็ได้ป๊า" สาวหมวยรับคำ



หล่อนไขกุญแจห้องอย่างลำบาก เพราะแบกคนหน้าสวยไปด้วย ในห้องมืดสนิท เกือบเที่ยงคืนแล้ว กวางคงหลับ เธอเปิดไฟห้องรับแขก ก่อนจะพาคนตัวอ่อนไปนั่งก่อน

"เฮ้อ" หญิงสาวถอนหายใจ ตัวก็บางนิดเดียวทำไมถึงหนักก็ไม่รู้

หล่อนนั่งลงข้างๆ เขย่าไหล่บางเบาๆ อีกฝ่ายคราง เธอจึงเปลี่ยนมาเรียกด้วยเสียงแทน

"พิม ตื่นเถอะ" เสียงนุ่มเอ่ย

"อื้อ" แขนเรียวยกขึ้นมากอดคอเธอหลวมๆ

"พิม" หล่อนต้องกระซิบข้างหูแทน

"อื้อ" เสียงเดียวกับก่อนหน้านี้ แต่น้ำเสียงกลับแฝงด้วยความต้องการเล็กน้อย

กิตติญาจับแขนกลับไปวางข้างลำตัวอีกฝ่ายเหมือนเดิม แล้วเดินไปหยิบน้ำเย็นๆ มาหนึ่งขวด จากนั้นนำมาแนบหน้าขาวๆ

"อื้อ" เสียงหวานไม่พอใจ หล่อนหัวเราะขำๆ

เปลือกตาสวยลืมขึ้นอย่างไม่เต็มใจ คิ้วเรียวสวยขมวด ดูๆ แล้วถึงตื่นก็ไม่น่าจะมีสติพอจะพูดคุยอะไรเท่าไหร่ หญิงสาวคาดคะเนในใจ

"หญิง" เสียงหวานเอ่ย ตาลืมแค่ครึ่งเดียว ถึงอย่างนั้นคนตัวสูงก็มองว่าช่างสวยเหลือเกิน

"หือ" เธอขานรับ มองใบหน้าคนข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม

"พิมรักหญิงนะ" สาวหน้ารูปหัวใจเอ่ยยานคางเล็กน้อย

"หญิงก็รักพิม" หล่อนพูดเสียงนุ่ม จับมือขาวๆ นั้นมาจูบ

"หญิง จูบพิมหน่อยนะ" เสียงหวานฟังดูล่องลอย

"ไม่ได้หรอกพิม" ใจลึกๆ แล้วทำไมเธอจะไม่อยากทำ แต่รู้ว่าจิณณพัตมีสามีแล้ว การจะทำอะไรลงไปมันไม่สมควรเลยแม้แต่น้อย

"นะ" คนจมูกรั้นอ้อนคล้ายลูกแมว

"อย่าเลยพิม พิมก็รู้ว่าทำไม"

"พิมไม่รู้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น พิมต้องการหญิง แค่หญิงคนเดียว" น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากตากลมโตคู่งาม

หล่อนรู้สึกไม่อาจต้านทานได้เมื่อคนที่ตัวเองรักพูดออกมาอย่างนี้ แต่ศีลธรรมฉุดเธอไว้ไม่ให้ตอบสนองต่อคำพูดในทันที

"พิมไปนอนเถอะ เดี๋ยวหญิงพาไป" กิตติญาเฉไปพูดเรื่องอื่น พลางพยุงร่างบางอีกครั้งตรงไปยังห้องนอน



"ไม่ให้ไป" มือบางจับแขนหล่อนไว้ หลังจากที่เธอวางอีกฝ่ายลงบนเตียงนอนหนานุ่มเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะออกไปเพื่อนอนที่โซฟาแทน

"หญิงจะไปนอนไงคะ" คนหน้านิ่งบอก

"นอนนี่แหละนะ" เสียงอีกฝ่ายอ้อนต่อ

"ไม่ได้หรอกค่ะ" เธอจับมือออก พลางก้มลงไปใกล้ๆ เพื่อจะกระซิบข้างหู

"ฝันดีนะ" เมื่อพูดเสร็จ อีกฝ่ายกลับเบี่ยงหน้ามา แล้วจูบเธออย่างเผ็ดร้อน รุนแรง