web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 384
Most Online Ever: 384
(วันนี้ เวลา 17:48:43)
Users Online
Members: 0
Guests: 377
Total: 377

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ ๑๐ : เธอคือใคร !  (อ่าน 1088 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทอถักอักษรา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 73
บทที่ ๑๐ : เธอคือใคร !
« เมื่อ: 06 มกราคม 2014 เวลา 22:55:27 »



รักลวง
         บทที่ ๑๐  :  เธอคือใคร !

หลังรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว วีรากานต์ มีนา และป๋องแป้งมายืนชมท้องฟ้ายามค่ำตรงริมชานเหมือนเช่นเคย ค่ำคืนนี้ท้องฟ้าสลัว แสงดาวพร่างพรายอยู่เต็มท้องฟ้าพยับเมฆเพียงบางๆไม่ได้เข้ามาบดบังแสงสกาวเหล่านั้น กลิ่นดอกบัวระรวยความหอมมาตามสายลมเอื่อยเป็นครั้งคราว
“มีนา วันพรุ่งนี้ฉันคงต้องกลับบ้านแล้วล่ะ รบกวนเธอกับน้าเพลงมานานแล้ว” ป๋องแป้งพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่สีหน้าและแววตาเปี่ยมไปด้วยความเกรงใจ
“รบกวนอะไรล่ะป๋องแป้ง เธออยู่ทึ่นี่จนถึงวันเปิดเทอมก็ยังได้ฉันกับน้าเพลงยินดีต้อนรับเธอเสมอ” มีนาพูดพร้อมบีบมือของป่องแป้งเบาๆเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง
“แต่ฉันอยู่ที่นี่ทำให้ทุกคนลำบากแย่เลย ต้องคอยเปลี่ยนหอนอนใหม่ให้เรื่อยเลย”
“มิได้ลำบากอะไรหรอกค่ะหนูป๋องแป้ง หอนอนของเรือนหลังนี้ทำความสะอาดบ่อยๆอยู่แล้วเพียงแค่ปัดกวาดนิดหน่อยก็อยู่ได้แล้ว หนูไม่ต้องเกรงใจไปหรอกจ๊ะ” วีรากานต์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คือหนูอยากกลับบ้านด้วยส่วนหนึ่งค่ะน้าเพลง ไม่ได้กลับไปหลายอาทิตย์แล้ว” ป๋องแป้งตอบด้วยความเกรงใจ ความคิดถึงบ้าน เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเหตุผลหลักๆ คือ เธอกลัว กลัวดวงวิญญาณในเรือนไทยหลังนี้ซึ่งเธอไม่อาจคาดเดาได้ว่าแต่ละค่ำคืนจะต้องพบเจอวิญญาณดวงไหน
“ถ้าอย่างนั้นประเดี๋ยวหลังทานข้าวเช้าเสร็จ น้าจะพาไปทำบุญที่วัดก่อนแล้วน้าจะไปส่งหนูที่บ้านก็แล้วกันนะจ๊ะ”
“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องไปส่งหนูที่บ้านก็ได้ค่ะ บ้านของหนูอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ไปส่งหนูแค่หอพักในมหาวิทยาลัยก็พอค่ะ เดี๋ยวหนูจะขับรถจักยานยนต์กลับบ้านเองค่ะ”
“จะปล่อยให้กลับคนเดียวได้อย่างไรอันตรายออก ให้ฉันกับน้าเพลงไปส่งที่บ้านเธอดีแล้ว ถ้าเป็นห่วงรถจักรยานก็เอาใส่ท้ายรถยนต์ไปก็ได้”
“ใช่ยายมีนาพูดถูก ถนนใหญ่รถบรรทุกรถพ่วงเต็มไปหมด อันตรายเกินไปน้าเป็นห่วง ให้น้ากับยายมีนาไปส่งดีแล้วจ๊ะหนูป๋องแป้ง”
“ขอบคุณนะคะน้าเพลง ขอบใจนะมีนา” ป๋องแป้งพูดด้วยรอยยิ้ม เธอซึ้งในน้ำใจของสองน้าหลานยิ่งนัก
“ไม่เป็นไรหรอกป่องแป้ง ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นาจริงไหม” มีนาพูดด้วยรอยยิ้มมิต่างกันนะ
“เธอช่างเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันเหลือเกินมีนา”
“เธอสบายใจเรื่องที่ไม่ได้แข่งกีฬาแล้วใช่ไหม อย่าไปคิดมากเลยเดี๋ยวรอแข่งปีหน้าก็ได้เนอะ”
“จ๊ะ”
“ไปนอนได้แล้วนะเด็กๆ พรุ่งนี้จะได้ตื่นไปทำบุญกันแต่เช้า”
“ค่ะ” รับคำผู้สูงวัยกว่าก่อนที่หญิงสาวทั้งสองจะเดินไปยังฝั่งหอนอน
ลับร่างของผู้อ่อนวัยกว่าทั้งสองคน วีรากานต์ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม สายตาของเขาทอดมองฝ่าความมืดออกไปไกล
เมื่อแยกจากมีนา  ป่องแป้งก็เปิดประตูเข้าไปในหอนอนใหม่ของตนเอง  หอนอนนั้นทั้งพื้น เพดาน ฝาผนัง ล้วนเป็นไม้ขัดมันเกลี้ยง มีเตียงหลังใหญ่ตั้งกลางห้อง ม่านผ้าแพรบางสีชมพูอ่อนโบกพลิ้วเบาๆ  ป๋องแป้งปิดประตูเอาไว้แต่ไม่กล้าลั่นดานเพราะเธอไม่แน่ใจว่าคืนนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ก่อนที่จะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าเช็ดตัวที่ถูกพับเรียบร้อยออกมาแล้วถอดเสื้อผ้าออกไว้ในตะกร้าผ้าสีชมพู พันเรือนร่างด้วยผ้าขนหนูสีขาวเดินเข้าห้องน้ำไป
ละอองน้ำอุ่นๆ เป็นฝอยๆ จากฝักบัวพรั่งพรูลงมาตามเรือนร่างขาวเนียนได้สัดส่วนอย่างไม่ขาดสาย หญิงสาวทำความสะอาดร่างกายของตนเองไปเรื่อยๆ ตามปกติ  จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงกระแสเย็นๆ ที่มากระทบกาย อันเป็นเหตุให้เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั่วสันหลังป่องแป้ง รับรู้ได้ทันทีว่าตนเองกำลังถูกสายตาคู่หนึ่งจับจ้องจากทางหน้าต่างระบายอากาศของห้องน้ำ  เธอหันขวับไปมอง ณ ตำแหน่งดังกล่าว และสิ่งที่ปรากฏในคลองจักษุของหญิงสาวก็คือ ดวงตาแดงก่ำคู่หนึ่ง กำลังจ้องมองเธออยู่...
   “กรี๊ดดดดดดด !” หญิงสาวตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่ดวงตาคู่ดังกล่าวจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ป๋องแป้งได้แต่ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นเป็นนาน ก่อนที่จะได้สติพันร่างกายด้วยผ้าขนหนูแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความหวาดหวั่น มือบางค่อยๆหยิบชุดนอนสีโปรดในตู้เสื้อผ้ามาสวมด้วยมือที่สั่นระริก
ดวงเดือนทอแสงนวลสาดส่องลอดผ่านผ้าม่านสีหวานเข้ามาในหอนอน ป๋องแป้งเดินตรงไปยังเตียงนอน ก่อนจะดึงผ้าห่มสีเดียวกับผ้าม่านขึ้นมาห่มและล้มตัวลงเตรียมก้าวสู้ห้วงนิทรา พอเคลิ้มๆกำลังจะหลับ หญิงสาวกลับได้กลิ่นแป้งที่มีกลิ่นหอมแรงพร้อมๆกับเสียงเดินไปเดินมาในห้อง แต่ด้วยความเพลียจึงนอนหลับไป เธอนอนฝันว่าผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดนักศึกษาใบหน้าเดียวกับคนในรูปบนโต๊ะข้างๆเตียงของวีรากานต์ กำลังนั่งหวีผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
เสียงสิ่งของตกกระทบพื้นทำให้ป๋องแป้งตกใจตื่นขึ้นมา หญิงสาวค่อยๆหันสายตาไปมองที่โต๊ะเครื่องแป้งแต่ไม่พบสิ่งผิดปรกติ ไม่มีใครนั่งอยู่ตรงนั้น ป๋องแป้งจึงลุกขึ้นนั่งและไปยืนกลางห้องเพื่อหาสิ่งของที่ตกเมื่อสักครู่ กรอบรูปสีหวานกองอยู่ที่พื้นห้อง หญิงสาวจึงนั่งบนพื้นติดกับเตียงและหันหน้าไปทางเตียง บนเตียงนั้นมีช่องว่างใต้เตียงอยู่ เธอหยิบรูปใบนั้นขึ้นมาดู รูปถ่ายของผู้หญิงสองคนในชุดนักศึกษา คนหนึ่งเป็นคนๆเดียวกับคนในรูปบนโต๊ะข้างๆเตียงของวีรากานต์ แต่อีกคนหนึ่งทำให้หญิงสาวตกใจยิ่งนัก เพราะใบหน้าของคนในรูปเหมือนกับใบหน้าของตัวเธอเองราวกับแกะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน จะต่างกันก็เพียงแต่เส้นผมของผู้หญิงคนนั้นเหยียดตรงและยาวสลวยถึงกลางหลัง แต่เส้นผมของเธอหยิกฟูฟ่องเท่านั้น
ในขณะที่เธอกำลังพิจารณารูปถ่ายใบนั้นอยู่ จู่ๆก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้คร่ำครวญดังขึ้น เสียงนั้นดังใกล้ๆมาเรื่อยๆ เสียงนั้นดังลอดออกมาจากใต้เตียง จึงจ้องมองไปที่ใต้เตียงนั้น สิ่งที่เห็น คือ ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งผมยาวปรกหน้ากำลังค่อยๆคลานออกมาจากเตียง และเอื้อมมือออกมาหาเธอ...
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด !” ร้องออกมาได้เท่านั้นก่อนที่สติสัมปชัญญะของหญิงสาวจะดับวูบไป...อีกครั้ง!
เสียงกรีดร้องของป๋องแป้ง ทำให้วีรากานต์ซึ่งกำลังนั่งรับลมเย็นๆที่ชานเรือนตกใจนิ่งนัก ก่อนจะรีบวิ่งไปยังหอนอนของหญิงสาว
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” วีรากานต์เคาะประตูเรียกหญิงสาวก่อนตัดสินใจเปิดเข้าไปภายใน ทันทีที่เห็นร่างของป๋องแป้งหมดสติกองอยู่ที่พื้นห้องทำให้วีรากานต์รีบไปประคองขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
“หนูป๋องแป้ง เป็นอะไร หนูป๋องแป้ง” วีรากานต์เขย่าตัวหญิงสาวเบาๆแต่ไม่มีทีท่าว่าเธอจะฟื้นขึ้นมา เขาจึงอุ้มเธอไปนอนบนเตียงนอน ก่อนจะนำผ้าขนหนูผืนเล็กไปชุบน้ำพอหมาดๆมาเช็ดที่ใบหน้าของหญิงสาว ในใจนึกห่วงหญิงสาวคนนี้ยิ่งนัก
วีรากานต์เดินไปที่ตู้ยาสามัญประจำบ้านหยิบสำลีมาชุบแอมโมเนียก่อนจะนำมาจ่อที่ปลายจมูกของป๋องแป้ง มือเรียวค่อยๆลูบไล้ไปที่ใบหน้าของหญิงสาวอย่างห่วงใยยิ่งนัก ห่วงใยอย่างบอกไม่ถูกว่าห่วงใยฉันคนรักหรือห่วงตามประสาผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กกันแน่
“น้าเพลงช่วยแป้งด้วยค่ะ ช่วยด้วย” ป๋องแป้งตกใจตื่นขึ้นมาร่างบางผวากอดวีรากานต์แน่น
“หนูจะให้น้าช่วยอะไรจ๊ะ” วีรากานต์ค่อยๆดันร่างของหญิงสาวออกจากอ้อมกอดของตนเอง สองสายตาประสานกันนิ่งก่อให้เกิดความรู้สึกหวามไหวในหัวใจของคนทั้งคู่
“แป้งเจอผีค่ะ ผีอยู่ใต้เตียงค่ะน้าเพลง” ป๋องแป้งละล่ำละลั่กบอกก่อนชี้มือไปที่ใต้เตียง
“ไม่เห็นมีอะไรสักหน่อยนี่คะ แต่ถ้าหนูไม่สบายใจประเดี๋ยวคืนนี้น้านอนเป็นเพื่อนก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณนะคะ”
“หลับซะนะเด็กน้อย น้าจะนั่งเฝ้าจนกว่าหนูจะหลับก็แล้วกันนะคะ” วีรากานต์พูดพร้อมทั้งเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียง มือเรียวดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้อย่างอ่อนโยน
“ค่ะ” ป๋องแป้งพูดพร้อมหลับตาลง สำนึกสุดท้ายก่อนจะหลับ ในสมองของหญิงสาวมีแต่ถามเต็มไปหมดว่า ‘หญิงสาวที่มีใบหน้าเหมือนเธอนั้นเป็นใครกันหนอ’
เมื่อแน่ใจว่าป่องแป้งนอนหลับสนิทแล้ว วีรากานต์ก็เลื่อนเก้าอี้ไปไว้ที่เดิม ก่อนจะนำที่นอนสำรองที่พับเก็บในตู้เสื้อผ้ามาปูนอนข้างเตียงของป๋องแป้ง ก่อนจะหลับตาพริ้มด้วยหัวใจที่เป็นสุข โดยไม่รู้มีร่างโปร่งแสงของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโอบกอดเขาจากทางด้านหลังอย่างแสนรัก...
................................................................................................













 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.