web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 384
Most Online Ever: 384
(วันนี้ เวลา 17:48:43)
Users Online
Members: 0
Guests: 397
Total: 397

ผู้เขียน หัวข้อ: บทที่ ๘ : รองเท้าสีดำในห้องน้ำที่ปิดตาย  (อ่าน 1097 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทอถักอักษรา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 73
บทที่ ๘ : รองเท้าสีดำในห้องน้ำที่ปิดตาย
« เมื่อ: 06 มกราคม 2014 เวลา 22:45:27 »



รักลวง
บทที่ ๘ : รองเท้าสีดำในห้องน้ำที่ปิดตาย

สุริยาสีชาดโผล่พ้นขอบนภาส่องแสงสีทองทั่วสวนงามยามรุ่งอรุณ วีรากานต์เดินไปนั่งรับลมเย็นๆที่ม้านั่งสีขาวข้างๆสระบัว  ท้องฟ้าสีครามสดใสมีเมฆสีขาวดังใยสำลี ลอยสลับซับซ้อนอยู่ที่ขอบฟ้า สมพัดเย็นสบาย ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มข้างทางเอนลู่ตามลมดูสวยงามยิ่งนักในความรู้สึกของหญิงสาว  น้ำค้างเกาะที่ยอดหญ้าพราวระยับไปทั้งสวยราวกับมีใครเอาเกล็ดเพชรไปโปรยปรายเอาไว้ หมู่มวลดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ต่างๆแข่งกันเบ่งบานหลากหลายสีสัน ส่งกลิ่นหอมตรลบอบอวล ผีเสื้อ แมลงปอ หมู่ภมร หลากหลายชนิดต่างบินว่อนเชยชมดอกไม้งาม  หญิงสาวทอดสายตาออกไปรอบๆสวนงามแต่ภายในใจกลับครุ่นคิดถึงหญิงสาวผู้หนึ่ง...
‘ท้องฟ้ามีเมฆขาวพราวระยับ   น้ำค้างจับยอดหญ้าคราหน้าฝน
ดอกไม้แย้มกลีบงามยามได้ยล      ดูสุขล้นเบิกบานในบ้านเรา
แต่บางสิ่งค้างอยู่ในความรู้สึก      ให้คอยนึกหวั่นไหวใจหมองเศร้า
ภาพทรงจำยังคงตามเป็นเงา      บางสิ่งคอยดึงเร้าให้เศร้าใจ
เรื่องราวที่พ้นผ่านนานหนักหนา      คิดถึง...ขึ้นมา น้ำตาไหล
บ้านแสนสุขมีบางสิ่ง...ที่หายไป      เธอผู้เป็นดวงใจไม่กลับมา
คิดถึงกันบ้างไหมดวงใจเอ๋ย      หรือไม่เคยอาลัยไม่ห่วงหา
ภาพวันเก่ายังย้ำเตือนตลอดมา      เธอคนเดิม.....ไปลับตาไม่มาแล้ว’
น้ำตาของวีรากานต์ค่อยๆไหลอาบแก้มเนียนใสนั้นเมื่อความคิดถึงรุมเร้า คิดถึงเธอคนนั้นขึ้นมาจับหัวใจ
“น้าเพลงคะ ป๋องแป้งกับยายมีนาเตรียมตัวเสร็จแล้ว เราไปกันหรือยังคะ”
ป๋องแป้งในชุดกีฬา ผมหยิกฟูฟ่องที่เคยปล่อยให้คลอเคลียบ่าและไหล่กลมกลึงบัดนี้ถูกถักเป็นเปียเรียบร้อย มือของหญิงสาวถือไม้แร็กเกตในถุงผ้าสำหรับแข่งขันกีฬาแบดมินตันมายืนอยู่ตรงหน้าของวีรากานต์พร้อมส่งเสียงใสๆมาทักทายแต่เจ้าตัวหาได้รู้สึกไม่ สายตาของเขาเหม่อมองออกไปไกล ไกลเสียจนคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้อยู่ในสายตาแม้เพียงสักนิด ดวงตาแดงช้ำ ใบหน้านองไปด้วยน้ำตาทำให้หญิงสาวตกใจยิ่งนัก
“น้าเพลงเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” พูดพร้อมแตะที่หัวไหล่ของเขาเบาๆซึ่งได้ผล วีรากานต์รีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าทันที สายตาจ้องมองหล่อนนิ่ง ความน่ารักสดใสของป๋องแป้งทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว แต่มิอาจให้เขาลืมเธอคนนั้น...คนที่เขารัก
“เมื่อกี้หนูป๋องแป้งว่าอะไรนะ น้าไม่ได้ยิน”
“แป้งบอกว่าเราสองคนเตรียมตัวพร้อมแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะสาย หนูป๋องแป้งกับยายมีนาจะไปไม่ทันเปิดงาน” พูดจบวีรากานต์ก็ลุกออกจากม้านั่งเพื่อออกเดินนำหน้าไปยังโรงจอดรถยนต์ ป๋องแป้งเดินตามอย่างสงสัย ‘น้าเพลงเป็นอะไร ทำไมถึงต้องร้องไห้ด้วยนะ’
“ยายป๋องแป้งถึงแล้วนะ แกจะลงไหม หรือจะตามน้าเพลงไปทำงาน” มีนาพูดเมื่อรถยนต์ของผู้เป็นน้าขับมาถึงสนามกีฬาที่ใช้ในการทำพิธีเปิดกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ ตัวเธอเองลงจากรถแล้วเรียบร้อยในขณะที่ป๋องแป้งยังคงนั่งเหม่ออยู่บนรถยนต์คันงาม
“ลงสิจ๊ะแหม...” ป๋องแป้งได้สติรีบลนลานลงไปจากรถยนต์คันดังกล่าว
“หนูป๋องแป้งเดี๋ยวก่อน เป็นนักกีฬาลืมไม้แร็กเกตได้อย่างไรจ๊ะ” วีรากานต์พูดพร้อมเปิดกระจกแล้วยื่นถุงผ้าใส่ไม้ตีลูกขนไก่ให้หญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ” พนมมือไหว้พร้อมยื่นมือออกไปรับถุงผ้ามาถือไว้
“เดี๋ยวเลิกงานแล้วน้ามารับ ขอให้ได้เหรียญทองทั้งสองคนเลยนะ” พูดจบวีรากานต์ก็ขับรถยนต์ออกไปจากสนามกีฬา หญิงสาวขับรถกระบะสี่ประตูสีควันบุหรี่คันเก่งของตนเองไปตามถนนลาดยางราบเรียบ
ป๋องแป้งกับมีนาเดินเข้าสนามกีฬาพร้อมทัพนักกีฬาของมหาวิทยาลัย ที่ร่วมการแข่งขันกีฬานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “คชาธารเกมส์” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏที่ป๋องแป้งกับมีนาศึกษาอยู่ ในพิธีเปิดอันยิ่งใหญ่นั้นโดยมี ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกและที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน และอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งนั้นเป็นประธานในการจัดการแข่งขันกีฬา เริ่มพิธีเปิดโดยนักกีฬาวิ่งและจุดคบเพลิงโดยนักกีฬามวยไทยสมัครเล่นรุ่นไลท์เวลเตอร์เวทและเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลกที่ประเทศเกาหลี ในส่วนของนักกีฬาอาวุโสผู้ทำหน้าที่นำนักกีฬากล่าวคำปฏิญาณโดยอดีตนักกรีฑาดาวรุ่งมุ่งโอลิมปิกของสมาคมกรีฑา และเยาวชนดีเด่นด้านกีฬาและการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งทั้งสองคนล้วนเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ป๋องแป้งเรียนอยู่ทั้งสิ้น
    สำหรับตัวนำโชค (Mascot) ที่ใช้ในการแข่งขันครั้งนี้เป็นรูปช้างแต่งกายด้วย ชุดผ้าไหมและประดับเครื่องเงินแบบพื้นบ้านของชาวจังหวัดแห่งนี้ หลังจากเสร็จจากพิธีการแล้วผู้ร่วมพิธีเปิดได้ชมการแสดงมหากาพย์อารยธรรมอีสานใต้ที่ยิ่งใหญ่ตระการตาด้วยจำนวนนักแสดงกว่า ๑,๕๐๐ คน สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก
   การแสดงที่ทำให้ป๋องแป้งประทับใจที่สุด เป็นการร่ายรำที่งดงามที่สุดในอีสานใต้ ‘รำอัปสรา’
‘รำอัปสรา’ เป็นการแสดงของชาวอีสานใต้ โดยเฉพาะจังหวัดที่เธอเรียนอยู่ ซึ่งการแต่งกายเลียนแบบการแต่งกายของภาพจำหลักของนางอัปสรทั้งหลายที่ปรากฏบนปราสาทหิน  นางรำแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดโบราณ ผ้าแถบสีทอง มีกรองคอสีทองงดงามยิ่งนัก  นุ่งผ้าถุงไหมยกพื้นปักดิ้นทองมีขอบผ้าย้อยห้อยออกมา มีชายหางปลายาวถึงชายผ้าถุง ประดับเศียรด้วยศิราภรณ์ทรงกระบอกมีกระบังหน้าลายวิจิตร  การแสดงชุดนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงการร่ายรำของบรรดาหญิงสาวที่มีความงดงามราวกับนางฟ้า เพื่อประกอบพิธีกรรมบูชาพระศิวะที่เทวสถานปราสาทขอม ซึ่งเป็นเทวสถานในปราสาท โดยมีการยับถือพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุด
วงดนตรีที่ใช้บรรเลงคือวงมโหรีวงมโหรีอีสานใต้ ประกอบไปด้วยเครื่องดนตรี ซอ  โทน ปี่อ้อ จะเปย(กระจับปี่) กระเปอ(จะเข้) และเครื่องประกอบจังหวะ
ในขณะที่ป่องแป้งกำลังดื่มด่ำกับการร่ายรำอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดแห่งนี้ จู่ๆสิ่งต่างๆก็คล้ายๆจะหยุดนิ่ง ชั่วอึดใจภาพนางอัปสราที่กำลังร่ายรำอยู่จางหายไป กลายเป็นภาพห้องแต่งตัวของเหล่านางอัปสราแทน
“มีอะไร ทำไมยังไปไม่ออกไปรอทำการแสดง” เสียงอาจารย์ผู้ฝึกสอนดังขึ้น เมื่อนางรำนางหนึ่งยังไม่ออกไปจากห้องแต่งตัว
“อาจารย์แน่ใจแล้วเหรอคะ ว่าจะให้ยายอ่อนหัดนั่นรำนำหน้า เขาไม่ใช่นักศึกษาสาขานาฏศิลป์สักหน่อย อาจจะทำได้ไม่ดีนะคะ”
“อาจารย์ตัดสินว่าใครควรรำตำแหน่งไหนที่ความสามารถ ยายอ่อนหัดที่เธอว่า เขาเป็นสมาชิกชมรมนาฏศิลป์ที่รำสวยและอ่อนช้อยที่สุดในชมรมซึ่งแม้แต่นักศึกษาสาขานาฏศิลป์อย่างตัวเธอเองไม่มีวันจะทาบติด” พูดจบอาจารย์ผู้ฝึกสอนการรำก็เดินออกไปจากห้องแต่งตัว
“กรี๊ด ยายอ่อนหัด!! ฉันจะกำจัดแกออกจากชมรมให้ได้” นางรำคนนั้นพูดอย่างเข่นเขี้ยวพร้อมหันหน้ามา เมื่อป๋องแป้งเห็นใบหน้าของนางรำชัดๆก็ได้แต่ตกใจยิ่งนัก เพราะนางรำนางนั้น คือ อินทุภา สาวใช้หน้าตางามในบ้านของมีนานั่นเอง!!!!
“ป๋องแป้งมานั่งเหม่ออะไรตรงนี้ การแสดงจบไปตั้งนานแล้ว ไปเตรียมตัวแข่งกีฬากันเถอะ” เสียงเรียกของมีนาทำให้ป๋องแป้งหลุดออกจากภวังค์ หญิงสาวเดินตามมีนาเข้าไปในห้องพักนักกีฬา
“พี่จะให้น้องๆ ซ้อมกีฬาและวอร์มร่างกายที่หน้าคณะก่อน กว่าจะถึงเวลาแข่งขันจริงก็ราวสิบโมง แยกย้ายกันได้” เสียงพี่น้ำปั่นดังขึ้นหลังจากนักกีฬาตัวแทนของมหาวิทยาลัยมาพร้อมกันที่ห้องพักนักกีฬา
ป๋องแป้งกับมีนาซ้อมแบดมินตันคู่กันบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ แรงลมทำให้ลูกขนไก่ที่ป่องแป้งตีส่งไปให้มีนาปลิวไปตกที่บริเวณหน้าห้องหญิงบนชั้นสอง
“เดี๋ยวฉันไปเก็บเอง” ป๋องแป้งเดินไปขึ้นไปยังอาคารเรียน แม้จะฟังตำนานห้องน้ำมาจากพี่น้ำปั่น แต่ป๋องแป้งก็คิดเข้าข้างตนเอง ‘นี่มันกลางวันแสกๆ ผีที่ไหนจะโผล่มาตอนนี้’ ซึ่งบางทีความคิดนี้อาจจะผิดก็ได้
จนมาหยุดหน้าห้องน้ำเธอเดินหาลูกขนไก่ลุกนั้นแต่ไม่พบ หญิงสาวจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องน้ำหญิง ในห้องน้ำยามนี้เงียบเชียบและสลัว มีเพียงหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์หน้ากระจกที่ส่องแสง ประตูห้องน้ำทั้งสองห้องเปิดไว้ไม่มีคนเข้า
หญิงสาวเดินไปหยุดที่หน้าห้องน้ำห้องที่สอง แล้วเธอก็พบสิ่งที่เธอตามหา ลูกขนไก่นอนแอ้งแม้งอยู่ในห้องน้ำที่ปิดตายและโปกปูนทับไว้ ป๋องแป้งเดินเข้าไปห้องน้ำห้องที่สอง เธอนั่งลงกับพื้น ก้มหน้ามองลอดไปบริเวณช่องว่างระหว่างห้องน้ำ พยายามเอื้อมมือออกไปหยิบลูกขนไก่ออกมา แต่สิ่งที่เธอคว้าออกมาได้ ไม่ใช่ลูกขนไก่แต่เป็นรองเท้าคัตชูสีดำ หลอดไฟกระพริบถี่คล้ายจะดับแล้วกลับสว่าง หญิงสาวรู้สึกคล้ายหัวใจกำลังจะหยุดเต้น ของเหลวหยดแหมะมาตรงหน้าเธอ หญิงสาวจึงทิ้งรองเท้าลงพื้น แล้วตัดสินใจเงยหน้าขึ้นไปมอง 
เมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นไปมองข้างบนฝ้าตกใจสุดขีดเมื่อเห็นศีรษะของใครคนหนึ่งห้อยมาจากเพดาน ใบหน้านั้นยิ้มกว้างจนกรามฉีกถึงติ่งหู เลือดไหลหยดลงมาตรงหน้าหล่อน ป่องแป้งก้าวขาไม่ออกได้แต่หยุดอยู่ตรงนั้น เป็นนานกว่าหญิงสาวตั้งสติได้  เธอรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำและลงมาจากอาคารเรียนด้วยความตกตะลึง
“ป๋องแป้งเป็นอะไร” มีนารีบดึงร่างของป๋องแป้งเอาไว้ ป๋องแป้งหยุดวิ่งก่อนที่สติสัมปชัญญะของหญิงสาวจะดับวูบไปในอ้อมแขนของมีนานั่นเอง...
   ...............................................................................................
   





 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.