web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 164
Most Online Ever: 440
(28 เมษายน 2024 เวลา 03:05:22 )
Users Online
Members: 0
Guests: 138
Total: 138

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 7  (อ่าน 1009 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
เรื่องเล่าของความรัก ตอนที่ 7
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:05:17 »
ตอนที่ 7

หลังจากกลับจากบ้านของบุษบาและปทุมมาศ น้าสาวที่น่ารักทั้งสองของจีรธร รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฎอยู่บนใบหน้าของปานวาดมาตลอดทาง รวมถึงท่าทางกระเง้ากระงอดของจีรธรก็เช่นกัน นึกทีไรก็หัวเราะได้ทุกทีในความคิดของปานวาด

“ทำไมถึงไม่ค่อยชอบขี้หน้าเรานักนะ แบบนี้ก็ดีได้แหย่ก็สนุกดีเหมือนกัน” ปานวาดบอกกับตัวเอง เธอขับรถกลับไปที่อำเภอเพื่อเซ็นเอกสารที่มีเจ้าหน้าที่มาจัดวางไว้ให้ที่โต๊ะทำงาน ก่อนที่จะไปรับรสาที่โรงพยาบาล

คุณหมอออกมารออยู่ที่ด้านหน้าของโรงพยาบาล ซึ่งแปลกกว่าทุกๆ วันที่ปานวาดจะต้องเป็นคนมานั่งรออย่างน้อยก็ประมาณครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้น

“วันนี้ไม่มีคนไข้หรือคะ คุณหมอ” ปานวาดทักทายรสาที่กำลังนั่งมองออก ไปที่ทิวเขาสีเขียวสด ซึ่งพระอาทิตย์ดวงใหญ่กำลังจะลาลับขอบฟ้าเพื่อที่จะให้ความมืดมิดเข้ามาเยี่ยมเยือนในยามค่ำคืน

“ปานนั่งก่อนซิคะ” รสาชวนปานวาดให้นั่งลงข้างๆ เธอ เพื่อดูพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าไปในอีกไม่กี่นาทีนี้

“อารมณ์ไหนกันคะ คุณหมอคนสวยถึงได้มานั่งดูพระอาทิตย์ตกแบบนี้”

“สา จำไม่ได้ว่าได้ดูพระอาทิตย์ตกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ซิคะ คุณปลัด” รสาหันมายิ้มสวยๆ ให้ปานวาด แต่สายตาเศร้าๆ ก็ไม่ได้รอดพ้นจากความเอาใจใส่ที่ปานวาดมีต่อรสา

ปานวาดวางมือของตัวเองไว้ข้างๆ รสา ใช้ในนิ้วก้อยเกี่ยวนิ้วก้อยของรสาไว้เล็กน้อย อยากให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ รู้สึกความห่วงใยที่เธอมีให้ ซึ่งอีกฝ่ายก็รับรู้ได้หันมายิ้มสวยๆ ให้อีกครั้ง

“ดีจังที่ได้มานั่งดูพระอาทิตย์ตกข้างๆ สา เราสองคนทำงานกันเสียจนลืมมองความสวยงามที่อยู่รอบๆ ตัวกันเลยนะคะ” ปานวาดรู้สึกห่วงใยเมื่อได้เห็นสายตาเศร้าๆ ของรสา

“สายังจำครั้งแรกได้เลยนะคะ ปานจับมือสาครั้งแรกและนั่งดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน มือปานสั่นมากแต่ก็อบอุ่น มือสั่นจนสาต้องเอามืออีกข้างของสาเกาะกุมมือของปานไว้” รสาอมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่พูดไป

“น่าอายเนอะ” ปานวาดหัวเราะเล็กๆ

“น่ารักมากกว่า รู้ตัวไหมว่าวันนั้นนั่นแหละที่ทำให้สารู้ตัวว่ารักปานมาก”

“ถ้าอย่างนั้น ปานก็รักสาก่อนละซิ เพราะรักก่อนวันนั้นตั้งนานเลยนะคะ คุณหมอ” ปานวาดบอกกับรักษา

“ขอบคุณมากค่ะ ได้ยินแบบนี้ก็ชักอยากกอดแล้วค่ะ ไปค่ะ กลับบ้านกันดีกว่า หมั่นเขี้ยวคุณปลัดจะแย่” รสายิ้มทะเล้นเธอไม่อยากให้คนที่เธอรักรู้สึกไม่สบายใจไปกับเธอด้วย

“บ้านสา หรือบ้านปานดีคะ” ปานวาดถาม

“บ้านปานดีกว่า จะได้ไปดูว่าเอาสาวอื่นมาแอบซ่อนไว้หรือเปล่า” รสาพูด ปานวาดหัวเราะเล็กๆ

“หัวใจก็ได้ไปแล้ว ยังคิดว่าปานจะแอบมีใครอีกหรือคะ” ปานวาดถาม และแอบหอมแก้มรสาในขณะที่ขึ้นมานั่งด้วยกันภายในตัวรถเรียบร้อยแล้ว

“ฉวยโอกาสเลยนะคะ คุณปลัด หรือมีใครแอบไว้จริงๆ ถึงได้มาทำเป็นหอมแก้มกลบเกลื่อน” รสายิ้มทะเล้น

“ไปค่ะ ไปดูกัน แต่ถ้าไม่มีใคร สาต้องให้รางวัลนะ” ปานวาดยิ้มและขับรถออกไปจากโรงพยาบาลทันที

จีรธรนั่งมองน้าสาวทั้งสองของเธอ จนกระทั่งทั้งสองท่านนึกขำกับการจ้อง มองนั้น มองเหมือนจะจับผิดหรือมีคำถามอะไรแน่ๆ ตามประสาของสาวช่างซักช่างถามของหลานสาว

“มีอะไรก็ว่ามายายจี๊ด จะมานั่งจ้องน้าอยู่ทำไม” บุษบาพูดกับหลานสาวของเธอ ปทุมมาศอมยิ้มเมื่อเห็นรอยยิ้มเล็กๆ ของจีรธร

“ถ้าจี๊ดถามน้าบุษจะตอบจี๊ดหรือเปล่าล่ะคะ” จีรธรยิ้มทะเล้นกับน้าสาวของเธอที่ก็ยิ้มๆ กับความน่ารักกวนๆ ของหลานสาวเช่นกัน

“ก็ลองถามมาซิ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบได้หรือเปล่า”

“น้าบุษรักน้าบัวมากแค่ไหนคะ” คำถามของจีรธรสร้างรอยยิ้มให้กับน้าสาวทั้งสองของเธอซึ่งหันไปมองสบตากัน

“ถามอะไร ยายจี๊ด” บุษบาทำเสียงเหมือนเอ็ดหลาน

“จี๊ดอยากรู้จริงๆ นะคะ”

“ถ้าให้ตอบ น้าบอกไม่ได้ว่ามันมากขนาดไหน ถ้าบอกว่าเท่าชีวิตมากพอไหม แม่คนช่างสงสัย” บุษบายิ้มกับปทุมมาศที่ยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้ยินสิ่งที่บุษบาบอกกับหลานสาว

“หวานเหลือเกิน น้าบัวรักตายเลยซิแบบนี้ ใช่ไหมคะ น้าบัว” จีรธรอมยิ้ม หันไปถามปทุมมาศซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เธอ

“เอาเป็นว่า น้าจะดูแลน้าบุษของจี๊ดจนลมหายใจสุดท้ายเลยค่ะ” ปทุมมาศยิ้มให้บุษบาที่กำลังพูดบางอย่างกับเธอโดยไม่มีเสียงเล็ด
ลอดออกมาว่า รักบัวนะ

“ดังๆ ก็ได้ค่ะ จี๊ดเห็นนะ คิดหรือว่าไม่มีเสียงแล้วจะเล็ดลอดสายตาจี๊ดไปได้” จีรธรหัวเราะ

“เดี๋ยวจะโดนหยิกนะ ยายจี๊ด” บุษบาหัวเราะกับสิ่งที่จีรธรพูด

“บอกจนน้าบัวอายจนแก้มแดงแล้วค่ะ” จีรธรยิ้มกับปทุมมาศที่กำลังยิ้มแก้มแดงเหมือนที่จีรธรบอกจริงๆ

“น้าบัวหวงน้าบุษไหมคะ เพราะคราวก่อนน้าบุษบอกว่า หวงน้าบัวมากๆ” จีรธรเริ่มคำถามของเธอ

“ไม่ค่อยนะคะ” ปทุมมาศตอบ

“จริงหรือคะ น้าบุษ” จีรธรถาม

“จริงเหรอบัว ที่ไม่ได้หวง” บุษบาอมยิ้มถามปทุมมาศ

“จริงซิคะ”

“น้าบุษต้องมีอะไรเล่าให้จี๊ดฟังเรื่องน้าบัวเวลาหวง เอหรือว่าหึงคะ” จีรธรย้ายที่นั่งมานั่งลงข้างๆ บุษบา

“สองอย่างรวมกัน” บุษบาพูดขึ้น

“เมื่อไหร่กันคะ” ปทุมมาศพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก


“ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย มีน้องปีหนึ่งมาชื่นชอบน้าจนออกนอกหน้านอกตา ท่าทางน้องขวัญจะชอบผู้หญิงเหมือนกัน ก็จะติดน้าแจเลย” บุษบาอมยิ้มเมื่อปทุมมาศขยับมานั่งลงใกล้ๆ แล้วหยิกเข้าที่แขน

“บุษ เดี๋ยวเถอะนะ” ปทุมมาศทำเสียงดุบุษบา

“ไม่ทันแล้วค่ะ น้าบุษ เพราะจี๊ดต้องรู้ให้ได้ เล่าต่อเลยค่ะ จี๊ดชักตื่นเต้น นึกภาพน้าบัวไม่ออกเวลาโกรธเป็นอย่างไร” จีรธรยิ้มสวยๆ ให้ปทุมมาศ

“ก็ยืนคุยอยู่กับน้องขวัญ น่าจะหัวเราะเรื่องอะไรกันอยู่สักอย่าง น้าบัวเดินมาหยิกแล้วดึงน้าออกไปคุยกัน กลับไปคุยกันที่หอโดนหยิกเขียวไปทั้งตัวเลย อ้อแต่ก็หายเจ็บเลยนะ เมื่อ” บุษบาอมยิ้ม เมื่อเห็นปทุมมาศยิ้มอายๆ เพราะบุษบาคิดว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คงจำเหตุการณ์เมื่อวันนั้นได้แล้ว

“ห้ามข้ามตอนนะคะ น้าบุษ” จีรธรพูดดักคอเพราะกลัวว่าน้าสาวของเธอจะเล่าข้ามเหตุการณ์สำคัญๆ ไป

“น้าบัวดึงน้าไปจูบ จนหายเจ็บเลยที่โดนหยิก แล้วก็บอกว่าน้าบัวหวงน้ามากและก็รักมากด้วย ไม่ให้ไปยืนคุยกันน้องแบบนี้อีกนะ” บุษบากระซิบบอกจีรธรซึ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อนึกถึงความน่ารักของน้าบัวของเธอ

“โห ไม่อยากจะเชื่อเลย” จีรธรพูดยิ้มๆ ก่อนที่จะกระซิบอะไรบางอย่างกับบุษบา

“แล้วจูบวันนั้นเป็นอย่างไรบ้างคะ”

“ไม่บอกเก็บไว้เป็นความลับ ถามเยอะนะ เรื่องส่วนตัว” จีรธรหัวเราะเสียงดังเพราะจริงๆ แล้ว เธอก็แกล้งถามไปอย่างนั้น เพราะรู้ว่าน้าบุษของเธอคงไม่เล่าให้ ฟังแน่ๆ จริงอย่างที่น้าบุษบอกมันเป็นเรื่องส่วนตัว

“จี๊ดไปอาบน้ำนอนแต่หัวค่ำดีกว่า เพราะน้ามองกันตาหวานเชื่อมขนาดนี้ อยู่ไปก็จะเป็นก้างขวางคอเปล่าๆ ฝันดีนะคะ น้าบุษ น้าบัว” จีรธรเดินไปหอมแก้มน้าสาวทั้งสองของเธอและเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป

บุษบาขยับมานั่งใกล้ๆ กับปทุมมาศ จีรธรดูเหมือนรู้ใจว่าเธออยากกอดปทุมมาศ หรือสายตามันฟ้องจนหลานรับรู้ได้ก็อาจจะเป็นได้ เพราะหลานสาวของเธอเป็นสาวสวยที่ฉลาดเป็นกรด

“ไปเล่าเรื่องน่าอายของบัวให้หลานฟังหรือเปล่าคะ” ปทุมมาศถาม

“เปล่าค่ะ เล่าความน่ารักของบัวให้หลานฟังต่างหาก” บุษบาบอก

“จริงเหรอ บุษจำจูบที่โดนบัวจูบวันนั้นได้หรือคะ”

“จำได้ค่ะ จำได้ถึงขนาดอยากยั่วให้หวงบ่อยๆ” บุษบายิ้มทะเล้น ปทุมมาศอยากแกล้งจึงขยับเข้าไปใกล้ๆ ค่อยๆ จูบบุษบาอย่างแผ่วเบา

“ไม่เห็นเหมือนเลยค่ะ” บุษบาบอกแล้วอมยิ้ม

“เข้าไปในห้องเดี๋ยวนี้เลย ทะเล้นนักนะคะ คุณน้าบุษ”

บุษบากับปทุมมาศเข้ามาในห้องของเธอทั้งสอง บุษบาอมยิ้มนึกขำกับท่า ทางอายๆ ของปทุมมาศ

“ทีนี้ยายจี๊ดไม่เห็นแล้วนะ”

“บุษไม่ต้องมายั่วเลยนะ” ปทุมมาศอมยิ้มเดินเข้าไปใกล้ๆ ปลดกระดุมเสื้อ ของบุษบาอย่างช้าๆ มืออุ่นๆ ค่อยๆ ทาบลงบนหน้าอกของ
บุษบาและลูบไล้อย่างแผ่วเบา มืออุ่นๆ ของปทุมมาศค่อยๆ เคลื่อนไปจนทั่วบริเวณหน้าอกของบุษบาซึ่งตอนนี้กำลังช่วยปทุมมาศปลดเปลื้องอาภรณ์บนเรือนร่างของกันและกัน ปทุมมาศเริ่มพรมจูบที่ปากเรียวบางของบุษบา ในขณะที่อีกฝ่ายก็ลูบไล้ไปจนทั่วเรือนร่าง ของปทุมมาศซึ่งกำลังสั่นสะท้านไปกับสัมผัสอันอ่อนโยน จากมืออั่นเร่าร้อนของบุษบา แล้วจูบที่บุษบาบอกว่าจำได้ไม่รู้ลืมเมื่อครั้งนั้น กำลังกลับมาอีกครั้งและเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ครั้งนี้ร้อนแรงเสียจนบุษบาแทบขาดใจ ความซุกซนของสองสาวกำลังแทรกลึกเข้าในร่างกายของกันและกัน จุดสัมผัสอันอ่อนโยนที่สุดของหญิงสาวกำลังได้รับการส่งผ่านความสุขจากหัวใจหนึ่งสู่อีกหัวใจหนึ่ง สองสาวกระชับอ้อมกอดของกันและกันอย่างแนบแน่นเหมือนอยากจะบอกให้อีกฝ่ายได้รู้ถึงความสุขที่เกิดขึ้นในหัวใจ สองร่างเปลือยเปล่ายังคงตระกองกอดกันอยู่เนิ่นนานด้วยหัวใจที่อบอุ่น

“ยายจี๊ดจะรู้ไหมนะ ว่าน่าบัวจะร้อนแรง และน่ารักมากมายขนาดนี้” บุษบากระซิบบอกปทุมมาศที่นอนอมยิ้มใบหน้าแนบอยู่ที่หน้าอกเปลือยเปล่าของบุษบา

“ก็ชอบยั่วเหลือเกิน” ปทุมมาศพูดขึ้น

“บุษชอบนะ เซ็กซี่ดี บัวน่ารักมาก” บุษบาพูดกับคนที่นอนอยู่บนตัวของเธอและกำลังมองสบตาเธออยู่

“แก่แล้วนะ เราสองคนน่ะ” ปทุมมาศยิ้มอายๆ

“ไม่ละมั้ง” บุษบายิ้มทะเล้นให้ปทุมมาศที่แกล้งหยิกที่จมูกบุษบาด้วยความเขินอาย แล้วสองสาวก็หลับอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.