web stats

ข่าว

 


Immortals (Sparkle 4) - บทที่ 7 Count On Me

โพสต์โดย: anhann วันที่: 18 พฤษภาคม 2018 เวลา 22:15:17 อ่าน: 226



บทที่ 7 Count On Me





สเตฟานี่ขนลุกแปลกๆ กับสายตาของเด็กแฝดคนโตที่เพิ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในบ้าน  ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่แคลร์เหมือนคริสตัลมากขนาดนี้  เธอจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจอสองแฝด  แคลร์กับครูซยังตัวเล็กกว่านี้มาก

"น้าเตฟใช่ไหมฮะ" 

เจ้าของชื่อกะพริบตา  สเตฟานี่ผลิยิ้มทักทายเด็กชายที่เข้ามาหา  แม้หน้าตาครูซบอกยี่ห้อความแสบสันไม่แพ้คุณพ่อเขา  แต่อย่างน้อยครูซก็ยังรู้จักทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม  แตกต่างจากฝาแฝดที่เดินตามมาด้วย  แคลร์ทำเพียงผงกศีรษะให้เธออย่างนอบน้อมเท่านั้น

นี่มันยุนอา  ฟอร์ดชัดๆ!

"ไง  ผิวคล้ำขึ้นหน่อยนะ"

สเตฟานี่เหลือบตาขึ้นจากใบหน้าครูซไปหาเจ้าของเสียงแหบทุ้มที่ทักเธออย่างขี้เล่น  คริสตัลดูคล้ายคนเดิมที่เธอเคยรู้จักด้วยเส้นผมสีดำยาวถึงกลางหลังกับใบหน้าสะสวย  แค่เขาตัวสูงชะลูด  แขนขายาวมากและอกแบนแต๊ดแต๋  อย่างหลังนี้เธอรับไม่ค่อยได้เท่าไหร่

"ฉันว่าเธอขาวๆ แบบเดิมเหมาะกว่า"

"ปากมากนะ  ยุนอาล่ะ"

"ใจเย็นหน่อยสิ  ฉันไม่ได้มีธุระกับเธอคนเดียวนะ"  ยุนอาเดินมาถึงทีหลัง  เธอพยักพเยิดหน้าให้ลูกฝาแฝดเข้าห้องไปก่อน  แคลร์ก็ชวนครูซไป

"คุณสร้างทายาทสำเร็จจนได้นะ  ยุนอา"  สเตฟานี่วิจารณ์ระหว่างเดินตามการพยักหน้าชวนของยุนอามา  คริสตัลเดินอยู่อีกด้านข้างภรรยาของเขา  ตัวสูงกว่าพวกเราเป็นฟุต 

"ฉันหมายถึง  แคลร์"  เธอรีบชี้แจงเมื่อตาวาวสีฟ้าตวัดมาจ้องหน้า  "มันคงแปลกดี  ถ้าเขาโตขึ้นหน้าตาเหมือนนายแต่นิสัยเหมือนยุนอา"

"ฉันคงชอบที่เป็นแบบนั้น"  คริสตัลพูด  เบนสายตาจากสเตฟานี่มาเป็นภรรยาตัวเอง  ยุนอาค้อนเขาหน่อยๆ  แต่ไม่ได้ทำให้ยิ้มของเขาหายไป

"เธอรู้ข่าวแล้วใช่ไหม  ฉันจะได้ไม่ต้องพูดอีก"  ยุนอาพูดขณะรูดบัตรปลดล็อกประตูห้องประชุมเล็กและเดินนำเข้าไปด้านในก่อน  สเตฟานี่เดินตามหลัง  ตามด้วยคริสตัล

"ก็ไม่มากนัก  น่าจะดีกว่า  ถ้าคุณจะบอกรายละเอียดฉันเอง"

"ฉันต้องการให้เธอจับมันให้ได้"

"ฉันจะจับมันได้ยังไง  ถ้าฉันไม่รู้ข้อมูลของมันเลยแบบนี้"  สเตฟานี่แย้ง  แต่ยุนอาก็เปิดจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ฉายภาพบางอย่างออกมาให้เธอเห็นแล้ว  มันเป็นภาพการทำงานในห้องแล็บของยุนอาที่เธอไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง  เพราะไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าไปเดินเที่ยว  หากสำหรับเธอภาพพวกนี้ทำให้เบื่อหน่ายมากกว่าจะตื่นเต้น  จนกระทั่งใครคนหนึ่งเข้ามาในเฟรม  แม้ว่าจะสวมชุดแทบไม่ต่างจากคนอื่น  เสื้อกาวน์สีขาว  ผ้าปิดจมูก  หมวกคลุมผม  ถุงมือ  แว่นครอบตากันสารเคมี  กำลังง่วนทำอะไรบางอย่างกับหลอดทดลอง  เธอก็จำตาสีฟ้าแกมน้ำเงินนั้นได้แม่น

"คุณดูตลกดีเนอะ"  เธอพูดเสียงขำ  แต่ยุนอาไม่ขำไปด้วย  ตาเสือจ้องเขม็งมายังเธออย่างเอาเรื่อง  เธอจึงกลับมามองวิดีโอต่อ  ตอนนี้วิดีโอหยุดอยู่ตรงหลอดแก้วอันใหญ่กว่ายาดมโป๊ยเซียนของเมืองไทยแค่นิดเดียว 

"นั่นคือตัวอ่อนที่กำลังโด่งดังอยู่ตอนนี้"  ยุนอาบอก  สบตากับแขกคุ้นหน้าคุ้นตากันดี  "ฉันคิดว่า  เธอกับลูกสมุนตัวแสบของเธอน่าจะลองไปท่องตลาดมืดดูสักหน่อย"

"คุณคิดว่า  จะมีคนบ้ามากและอยากตายมาก  เอาเจ้านี่ไปเร่ขายในตลาดเฮงซวยนั่นเหรอ  ยุนอา" 

"ไม่รู้สิ  นั่นเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องไปส่องดู  ไม่ใช่ฉัน"

"เฮ้  นี่ฉันเป็นลูกน้องคุณตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ"

"ตั้งแต่เธอรับเงินฉันไป  เพราะอยากจะมีหุ้นกับพวกโมเลซ"

สเตฟานี่กัดกระพุ้งแก้ม  เถียงไม่ออก  เธอทำแบบนั้นจริง  ตอนนี้เธอกลายเป็นมือปืนรับจ้างไปแล้ว  แม้จะไม่ค่อยได้ฆ่าใคร  จริงๆ เธอควรจะเรียกตัวเองว่าเป็น  "สายลับของสมิธ" มากกว่า  แต่นั่นก็เท่ากับว่าเธอเป็นลูกน้องยุนอาจริงๆ น่ะสิ  แค่พวกรับจ้างฟรีแลนซ์ยังจะน่าฟังกว่าหรือเปล่า

"ก็ได้  ฉันจะลองดู  แต่ไม่รับประกันนะ  เพราะถ้ามันมีจริง  มันคงไม่เอามาประกาศขายกันโต้งๆ หรอก  แล้วมันก็ยังไม่ของสักหน่อย"

"แค่ทำให้จริงจังก็พอ"  ยุนอาบอก  ปิดการฉายภาพลงเพียงแค่นั้น 

"งั้นฉันกลับได้แล้วใช่ไหม"

"ฉันอยากได้รายชื่อเซียนคอมหรือแฮกเกอร์ที่ไม่ได้สังกัดใครด้วย  พวกที่ชอบทำงานสกปรกๆ ยิ่งดี"  คริสตัลพูดขึ้นขณะที่สเตฟานี่ลุกจากเก้าอี้  ตาสีเขียวจัดมองเขาอย่างฉงนใจ  "โอเค  เธอไม่รู้ก็ได้  ฉันเชื่อ  แต่ฉันคิดว่าเธอควรจะรู้นะ  เพราะไซม่อนชอบเล่นกับแคลร์มาก  และฉันไม่ชอบเลย"

"นายไม่มีสิทธิทำร้ายใคร  แค่เพราะเขาชอบเล่นกับลูกสาวนาย"

"ทำไมล่ะ  ฉันคิดว่าฉันมีสิทธินะ"

สเตฟานี่ขบฟันกรอด  เกลียดรอยยิ้มกวนใจของเขาเสียจริงๆ

"อ้อ  อีกอย่าง  มันมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้  แฮกข้อมูลของบริษัทเธอด้วย  ทิฟฟานี่มาบอกฉันเมื่อเช้า  ฉันก็เพิ่งไปจัดการมา  ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรอีก  บางทีมันอาจมันมือลามไปบริษัทซาบีนก็ได้นะ"

"นายนี่มัน --"

"โอ้  ไม่ต้องพูดหรอก  ฉันรู้จักตัวฉันดีว่าสารเลวขนาดไหน  แต่เธออาจยังไม่รู้ก็ได้"  คริสตัลแทรกอย่างอารมณ์ดี  มือสวยๆ ใหญ่ๆ วางลงบนบ่าของสเตฟานี่ที่ทำตาขวางใส่เธออย่างมีอารมณ์  "ฉันมีบัตรของขวัญร้านนวดสปาที่หนึ่งอยู่  มีสาวๆ น่ารักทั้งนั้นเลย  ฉันยกให้เธอใบหนึ่งดีไหม  หรือเธอไม่ชอบแล้ว  มีซาบีนแล้วนี่นา"

สเตฟานี่ฉกบัตรของขวัญร้านสปาที่ว่ามาจากมือคริสตัลก่อนที่เขาจะเก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อสูท  เธอเห็นเขายิ้มกวนๆ ขณะชูบัตรที่เหลือในมืออีกจำนวนหนึ่งและเก็บมัน

"ยุน  ฉันไปดูแฝดก่อนนะ"  คริสตัลหันไปพูดกับยุนอาที่พยักหน้าให้พร้อมกับจูบตอบเขา  เขาขยิบตาให้สเตฟานี่อย่างกวนๆ แล้วหายออกไปจากห้อง  พอเขาไม่อยู่แล้ว  ห้องประชุมก็ดูใหญ่โตขึ้นมาอย่างน่าประหลาด  มันให้ความรู้สึกน่าขนลุกขนพองแปลกๆ กับสเตฟานี่เมื่ออยู่กับยุนอาลำพัง

"คุณมีอะไรจะสั่งฉันอีก  ยุนอา"

ยุนอาพยักหน้าเรียกให้สเตฟานี่มาใกล้ๆ  แล้วจึงยื่นแฟลชไดร์ฟให้  สเตฟานี่รับมันไปโดยไม่ถาม  เพราะรู้อยู่แล้วว่าเธอจะบอกเอง  "ฉันคัดชื่อของพวกที่เข้าข่ายหัวขโมยไซเบอร์มา..."

"ทำไมคุณถึงเรียกพวกมันแบบนั้น"

"เพราะมันใช้เทคโนโลยี"

สเตฟานี่ทำหน้าตาเข้าใจ  "มิน่าเจ้าหนูนั่นถึงอยากรู้จักเกรียนคอม"

"เขาตัวโตเกินกว่าจะเป็นเจ้าหนูแล้วนะ  ฉันว่า"

"ไม่  จนกว่าฉันได้เห็นเขาเปลือยอีกครั้ง"  เธอแกล้งสะดุ้งเมื่อยุนอาถลึงตาใส่อย่างน่ากลัว  "แหม  ไม่ค่อยหวงเลยนะคะ  คุณที่ปรึกษา"

"ฉันมีสิทธิ"  ยุนอาพูดเสียงดุ  ดึงสองมือขึ้นมากอดอก  "ฉันอยากได้งานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้"

"คุณเป็นเจ้านายจอมโหดเหมือนเดิม"

"แล้วก็เงินหนาด้วย  เธอต้องเติมตรงนี้เข้าไปอีกอย่าง"

สเตฟานี่กลอกตา  เคาะแฟลชไดร์ฟกับฝ่ามืออีกข้างก่อนเก็บมันเข้ากระเป๋าเมื่อยุนอาจ้องเธอ  "ฉันกลับได้แล้วใช่ไหม  เมื่อยตัวยังไงก็ไม่รู้"

"อย่าก่อเรื่องล่ะ  ฉันไม่ไปประกันตัวเธอแน่"

"แหม  ฉันก็มีเพื่อนอยู่บ้างนะ  และยังมีพี่สาวด้วย"

"ฉันขอให้เธอโชคดี  ไม่โดนเม็บฆ่าหมกท่อที่ไหนสักที่นะ"  ยุนอาพูดตามหลังสเตฟานี่ที่หันมาทำตาขุ่นใส่เธออย่างไม่จริงจัง  เพราะถ้าจริงคงจะไม่เอาบัตรของขวัญร้านนวดสปาที่คริสตัลให้ไปมาโบกเล่นใส่เธอแบบนี้

เธอถอนหายใจยาวหลังจากประตูห้องประชุมปิดลง  มือผอมสวยยกขึ้นปัดปอยผมที่หล่นมาปรกดวงตา  กดปลายนิ้วไปบนเปลือกตาของตนแผ่วเบา  นวดคลึงให้พอบรรเทาอาการปวด  เห็นทีเธอต้องชวนฝาแฝดไปหาอะไรเล่นด้วยกันแล้ว  ตีแบด  เบสบอล  กีฬาอะไรสักอย่างให้พอได้เหงื่อบ้าง  สมองที่ปลอดโปร่งจะช่วยให้คิดอะไรได้ง่ายขึ้น  มีไอเดียใหม่ๆ  หรือเธอควรไปนวดแบบสเตฟานี่บ้างล่ะ  แต่แบบนั้นหาเอาที่บ้านก็ได้ละมัง

........................................

คริสตัลต้องง้อไอรีนตั้งนานใช้กลยุทธตั้งหลายอย่างกว่าลูกจะยอมให้เขาอุ้มไปเดินเล่นด้วยกัน  แต่เขาก็ต้องวางเธอไว้ริมสนามเมื่อครูซขอให้เขาไปช่วยเป็นคนรับบอลลูกเบสบอลให้  ที่จริงเขาอยากกลับเข้าห้องไปทำงานต่อ  หากยุนอาไม่พยักหน้าชวนเขาด้วยคน  ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะเห็นยุนอาเล่นเบสบอลแบบนี้  ถ้าไม่ได้อยู่บ้านเรา  และไม่ได้เล่นกับลูกๆ

"ป๊า  ไม่ต้องรับแม่นนักสิฮะ"  ครูซส่งเสียงประท้วงเมื่อคุณพ่อตัวสูงรับบอลที่เขาตีไปได้ทุกลูก  และยังมีอีกหลายลูกที่เขาตีไม่ได้ด้วย

"ทำไมล่ะครับ  ป๊าต้องแกล้งทำเป็นรับไม่ได้เหรอ"  คริสตัลถาม  ครูซกำลังจะพยักหน้า  แต่แคลร์ส่งเสียงขึ้นมาก่อน

"ถ้าแบบนั้นนายจะเก่งได้ยังไงล่ะ  ครูซ"

"ฉันไม่ได้ฝึกไปเก่งที่ไหน  ฉันแค่อยากเล่นเฉยๆ"  ครูซแย้งเสียงดังแข่งกับพี่สาว  แคลร์ถอดหมวกออกพร้อมกับลุกขึ้นจากจุดที่จำลองกันว่าเป็น Batter's Box   ยุนอาเห็นท่าทางไม่ดีจึงโยนลูกให้คริสตัลรับเอาไว้ก่อน  และเข้ามาพาตัวแคลร์ไปคุยกันตรงที่ไอรีนยืนดูอยู่กับซันนี่ริมสนาม

"แด๊ดจะเข้าข้างเขาอีกแล้วเหรอคะ"  แคลร์พูดขึ้นอย่างไม่ชอบใจ  ยุนอาส่ายหน้าให้ลูกสาว  และนั่งยองๆ ลงตรงหน้า  มือหนึ่งจับแขนแคลร์  อีกข้างจับไอรีนมายืนใกล้ตัวเอง  เพราะแคลร์จะไม่ค่อยแผลงฤทธิ์เวลาน้องคอยมองอยู่

"นี่แคลร์  ฟังนะคะ  ลูกไม่ต้องจริงจังมากขนาดนี้ก็ได้ค่ะ  เราเล่นกันในบ้านแค่นั้นเอง  เราเล่นกันแค่สนุกๆ นะคะ"  ยุนอาพยายามพูดให้ลูกสาวเข้าใจ  เธอรู้สึกผิดที่ชอบใส่ความเคร่งเครียดไปให้แคลร์อยู่บ่อยๆ  ในคำสอนของเธอแต่ละอย่าง  "ครูซก็แค่อยากเล่นกับลูก  กับป๊ากับแด๊ดแค่นั้นเองค่ะ  เอาไว้ถ้าเขาต้องฝึกไปเล่นกับคนอื่น  เราค่อยมาเคี่ยวเขาดีกว่าไหม"

แคลร์ทำท่าคิดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะยอมพยักหน้า  ยุนอายิ้ม  ขณะที่ไอรีนขยับไปจุ๊บปากแคลร์ให้พี่สาวหน้าแดง  และดันน้องออกห่างอย่างเขินๆ 

"สาวๆ ครับ  เราจะเล่นต่อกันไหม"  คริสตัลร้องถามมาจากสนาม  ครูซขี่คอเขาอยู่  เด็กชายยิ้มกว้าง  เสียงหัวเราะคิกคักยังไม่จางจากลำคอ 

"เล่นสิ  แคลร์  มาเล่นกันเหอะ  คราวนี้ฉันจะให้เธอเป็นคนตีบ้างนะ  ตีให้ถูกด้วย"  ครูซร้องบอกพี่สาว  เสียงของเขาขี้เล่นพอกับคุณพ่อคริส  และยังทำหน้าตาเหมือนกันอีกด้วย  --  อ้อนเป็นลูกหมาเลยเชียว

"ก็ได้  แต่ฉันไม่ให้ป๊าเป็นพิชเชอร์นะ  ให้แด๊ดยุนดีกว่า"

"อ้าว  ทำไมล่ะครับ  ลูก"

"ป๊าชอบโยนแรงๆ  หนูตีไม่ถูกแน่นอน"  แคลร์ตอบหน้าตาเฉย  ครูซก้มมองคุณพ่อที่ยังเป็นม้าให้เขาขี่เล่นอยู่  ทั้งสองทำหน้างงไม่ต่างกัน  "นายลงมาเลย  ครูซ  ไม่งั้นฉันจะให้น้องไอเล่นแทน"

"โอ๊ย  น้องไอยังวิ่งขาพันกันอยู่เลย  จะเล่นได้ไง"  ครูซพูดกึ่งหัวเราะ  พอไอรีนค้อนเขา  เขาก็ขอให้พ่อคริสเอาเขาลงจากคอและวิ่งไปย่อเข่าง้อคุยกับน้อง  ให้ไอรีนตีฝ่ามือเขาทีหนึ่ง  น้องก็หายโกรธ  มาเชียร์เขาอยู่ข้างสนามกับซันนี่ตามเดิม  พวกเราเล่นกันได้ครึ่งชั่วโมง  แม่แทก็ออกมาตามให้เข้าบ้านไปกินอาหารเย็นด้วยกัน

"อาบน้ำกันก่อนเลยนะ  เด็กๆ"  แทยอนพูดตามหลังลูกๆ  ฝาแฝดหันมาตะเบ๊ะให้เธออย่างขี้เล่น  เธอพยายามเก๊กหน้าขรึมเอาไว้  แต่มันก็อยู่ไม่ได้นาน  เมื่อคริสตัลยกตัวไอรีนมาใส่เธอ  ทำเหมือนลูกเป็นตุ๊กตา 

"คริส  เดี๋ยวเถอะ  เอาลูกไปอาบน้ำด้วยเลยนะ  เหม็นเหงื่อมาก"

"คุณดมแล้วเหรอคะ"  คริสตัลย้อน  แกล้งดึงแทยอนมาใส่อกตัวเอง  แล้วเธอก็บิดหัวนมเขาจนร้องซี้ด  "โอ๊ย  ขาดแล้วมั้งเนี่ย!"

"สมควร  ทะลึ่งดีนัก!"  แทยอนดุ  ไล่กวดเตะก้นเขาที่วิ่งหนีไปพร้อมกับไอรีน  แต่แน่นอนว่าไม่โดนสักครั้ง  เขาสูงเสียขนาดนั้นนี่

"คุณไม่ไปอาบด้วยเหรอ"  เธอหันมาถามยุนอาที่เดินมายืนข้างๆ  หน้าขาวใสไม่มีเหงื่อสักหยดให้เห็น  "ตกลงคุณได้เล่นกับพวกเขาหรือเปล่า"

"เล่นสิ  ทำไมล่ะ"  ยุนอาตอบ  แบมือให้แทยอนดูว่ามือเธอเปื้อนฝุ่นเหมือนพวกเด็กๆ กับคริสตัล  "อยากอาบน้ำให้ฉันไหมล่ะคะ  คุณแม่"

แทยอนขมวดคิ้ว  แต่หน้าแดงเรื่อ  ดันหน้าผากยุนอาที่ยื่นหน้ามาใกล้เธอเกินไป  "อย่ามาแกล้งฉันสิ  จะไปอาบน้ำก็ไป  จะได้มากินข้าวกับลูก  คุณมีงานอีกเยอะต้องทำไม่ใช่หรือไง"

ยุนอาทำหน้าเซ็งทันทีที่ถูกเตือนเรื่องที่พยายามจะลืม  เธอยืดตัวขึ้นยืนหลังตรง  เกือบจะเสยผมด้วยมือเลอะๆ นั้นแล้วถ้าไม่นึกได้ก่อน  "แล้วเธอได้อะไรมาบ้าง  ฝั่งเธอน่ะ"

"ฉันยังติดใจเรื่องกล้องวงจรปิดอยู่  คุณให้ฉันดูอีกครั้งได้ไหม"

"ได้สิ"

"ฉันยังไม่อยากตัดเรื่องชิฟเตอร์แบบนั้นไป"  แทยอนพูด  ยุนอามองเธออย่างต้องการคำอธิบาย  "ก็คุณบอกว่า  ภาพมันชัดมากว่าเป็นซอฮยอน  ที่ฉันเห็นมันก็เป็นแบบนั้น  แต่เจ้าตัวเขาไม่รู้เรื่องเลย  และฉันก็เชื่อด้วยว่าไม่ใช่เขา  ซอฮยอนไม่เคยไปห้องแล็บของคุณ  แทบไม่รู้จักด้วยซ้ำ"

"ฉันเชื่อสัญชาตญาณของเธอนะ  ว่านั่นไม่ใช่ซอฮยอนหรอก  แต่ว่า  แทยอน  เธอบอกเองนี่ว่าชิฟเตอร์แบบนั้นจะเอาความสามารถของคนที่มันชิฟเป็นมามาด้วย  ถ้างั้นมันทำไมต้องแฮกระบบรักษาความปลอดภัยของแล็บล่ะ  ใช้เวลาถึงห้าวันด้วยนะ  ซึ่งซอฮยอนตัวจริงทำได้แค่วินาทีเดียว  แต่นี่ก็ทำให้ฉันเชื่อด้วยว่า  ไม่ใช่ซอฮยอนแน่ๆ  แต่ก็มีคำถามอื่นมาอีกว่า  ทำไมจะต้องแปลงเป็นซอฮยอนด้วยล่ะ  ทำไมไม่ใช้คนอื่น  สเตฟานี่  ทิฟฟานี่  ยูริ  คนอื่นๆ ในแลนดอน  ถ้ามันอยากใส่ความแลนดอนอะนะ"

"นั่นแหละ  ที่ฉันคิดเหมือนคุณ  ทำไมต้องใส่ความแลนดอนด้วย  อยากให้เราทะเลาะกันงั้นเหรอ"  แทยอนสันนิษฐาน  เธอเดินตามยุนอามาจนถึงห้องน้ำก่อนจะนึกขึ้นได้  เสียงคริสตัลกับเด็กๆ ดังออกมาเตือนเธอ  เธอจึงบุ้ยใบ้ให้คนตัวสูงเข้าไปคนเดียว

"ไม่เข้าไปด้วยกันจริงๆ เหรอ  สนุกนะ"  ยุนอาหันมาถามขณะมือจับประตูแล้ว  แทยอนสั่นศีรษะเร็วๆ  สะบัดหน้าหนีไปทันทีที่อีกฝ่ายปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดแรก

"นี่แทยอน  คริสมีบัตรร้านนวดสปาฟรีด้วย  เธอจะเอาสักใบไหม"

แทยอนตากระตุกเมื่อได้ยินเสียงหยอกเย้าขี้แกล้งนั้น  เธอหันไปจ้องหน้ายุนอาที่ยิ้มร่าอยู่  และยกนิ้วกลางให้ก่อนจะสะบัดหน้าอีกทีแล้วเดินตึงๆ จากไป  พยายามไม่สนใจเสียงหัวเราะคิกคักที่ดังตามหลังมา

ไอ้พวกบ้านี่!

.................................................

มีอยู่หลายครั้งที่คริสตัลชวนเธอมาทดสอบเกมใหม่ของเขาในห้องนี้ด้วยกัน  เขาจะทดสอบเกมก่อนจะวางขายเสมอ  เพื่อให้แน่ใจว่าเกมของเราสนุกจริงๆ  และมีคนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อมันไปเล่น  ส่วนใหญ่แล้วเขาจะให้เธอเล่นเป็นผู้เล่นที่สอง  ขณะที่เขาเป็นผู้เล่นที่หนึ่งในเกมเดียวกัน  แต่บางทีเขาก็ให้เธอลองเล่นคนเดียว  แต่ก็เฉพาะเวลาเธอว่างจากงานของตัวเองหรืออยากผ่อนคลายเท่านั้น  หากวันนี้ไม่ใช่  เธอไม่ได้ว่างและไม่ได้อยากเล่น  เธอแค่จะมาถามเขาเรื่องงานว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว  แล้วก็โดนจับมาใส่แว่นวีอาร์แบบนี้  เขาให้เธอทดสอบเกมอีกแล้ว

"คริส  ฉันรำมวยแบบนี้ไม่เป็น"  เจสสิก้าโวยหลังจากใส่แว่นวีอาร์ได้แค่สองนาที  เธอรู้สึกเหมือนเป็นคนเซ่อๆ ที่ไปยืนทื่อเป็นเป้านิ่งให้เขาเตะ

"รำๆ ไปเหอะน่า  เจ  เดี๋ยวก็เป็นเองแหละ"  คริสตัลพูด  กลั้นยิ้มไว้หลังคลิปบอร์ดสำหรับจดบันทึกผลการทดสอบเกม  "อย่าถอดสิ  เจ  ไหนเจบอกจะช่วยฉันไงล่ะ  เกมนี้มันต้องให้คนรำไม่เป็นลองเล่นดูนะ"

"มันเรียกว่ารำอะไร  ไทเก๊กเหรอ"

"คาราเต้"

เจสสิก้าอ้าปากค้าง  เธอถอดแว่นวีอาร์ออกทันทีเพื่อจะมองหน้าน้องชายให้ชัดๆ  "เธอจะบ้าเหรอ  ฉันเคยฝึกที่ไหน  ฉันไม่ได้เป็นนางเอก Kill Bill นะยะ"

"The Bride นั่น  ใช้ดาบซามูไรต่างหากล่ะ  เจ"  คริสตัลพูดกึ่งขำ  จับแว่นวีอาร์มาสวมให้พี่สาวอีกรอบ  "ลองดูหน่อย  ฉันจะจดบันทึก"

"แล้วทำไมเธอไม่เล่นเองเนี่ย  ให้ยุนอา  แทยอนหรือใครก็ได้  ทำไมต้องเป็นฉัน"

"ยุนกับคุณแททำงานกันอยู่ไง  เหลือแค่เจคนเดียว"

"ฉันขอเล่นด้วยคนได้ไหมคะ"

เจสสิก้าถอดแว่นวีอาร์ออกทันทีที่ได้ยินเสียงนี้  เธอกับคริสตัลมองผู้มาใหม่เป็นตาเดียว  เม็บยิ้มหวานให้พวกเธอขณะเดินเข้ามาใกล้

"ขอโทษที่เข้ามาโดยไม่ขออนุญาต  พอดีเห็นประตูเปิดอยู่น่ะค่ะ"

"โอ้  ไม่เป็นไรฮะ  มันไม่ใช่ความลับอะไร"  คริสตัลบอก  "แต่จริงๆ ก็ลับอยู่หน่อยๆ นะฮะ  มันเป็นเกมที่ยังไม่วางตลาดน่ะ  เราไม่ควรให้ใครรู้"

"ฉันเก็บความลับเก่งค่ะ"

"ไม่สงสัยเลยสักนิด"  เจสสิก้าพึมพำ  ยิ้มแหยๆ เมื่อเม็บหันมามองเธอด้วยตาสีทองน่ากลัว  เธอหลบมันไปหาคริสตัล  "ให้เขาลองดูไหม  ฉันว่าน่าจะโอเคกว่าฉันนะ  ฉันไม่เคยฝึกการต่อสู้อะไรพวกนี้เลย  บอกตามตรง"

"แล้วคุณเคยฝึกไหมฮะ"  คริสตัลถามเม็บ

"เคยนิดหน่อยค่ะ  แต่อาจลืมๆ ไปบ้างแล้วก็ได้  ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ซ้อมเลยด้วย  จริงๆ ก็ตั้งแต่มีลูกน่ะค่ะ"  เม็บบอก  มองเจสสิก้าที่หน้าแดงขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล 

"งั้นเริ่มกันเลยไหมฮะ"  เขาถาม  อยากเห็นกับตาตัวเองเหมือนกัน  ว่าอดีตสายลับของสมิธจะมีฝีมือในการต่อสู้ขนาดไหน  เจสสิก้าฝึกมาแต่การใช้อาวุธปืนกับฟันดาบแบบตะวันตก  เขาในตอนเด็กก็เช่นกัน  แต่เขาต้องฝึกเพิ่มเติมเมื่อต้องมาหาความรู้ใส่เข้าไปในเกม  และถูกพ่อบังคับ

เม็บพยักหน้าขึงขัง  ท่าทางกระตือรือร้น  แต่หงุดหงิดนิดหน่อยเมื่อเจสสิก้าถามหาลูกชายเราขึ้นมา  "เขาอยู่กับแฝดกับไอรีนค่ะ  คุณแทยอนอยู่ด้วย  สนใจแค่นี้ใช่ไหมคะ"

"โอ้โห  อยากเล่นเกมจนต้องดุกันเลยเหรอ"

"คุณทำให้ฉันเสียอารมณ์นี่นา  ออกไปดูห่างๆ เลย" 

เจสสิก้าหันไปพยักพเยิดหน้ากับคริสตัลขณะที่เขารับแว่นวีอาร์จากมือเธอไปสวมให้เม็บแทน  และอธิบายถึงเกมที่จะเล่นอย่างคร่าวๆ ให้ฟัง

"ถ้าคุณชอบละก็  ไว้ผมจะชวนมาเล่นกันอีกนะฮะ"

"ฉันอยากเล่นมานานแล้วค่ะ  แต่ไม่มีเงินซื้อเกมน่ะ"  เม็บพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนเด็กๆ  คริสตัลขยิบตาให้เธอก่อนจะกดปุ่มเปิดการทำงานเกม  และเฝ้ามองเธอเล่นแบบผู้สังเกตการณ์ที่ดี

"คล่องมาก"  เจสสิก้าอดชมไม่ได้  แต่เม็บเคลื่อนไหวได้อย่างน่าทึ่ง  ซึ่งเธอเชื่อว่าตัวเองทำไม่ได้แน่นอน  "ควบคุมร่างกายได้ดีมาก"

"อันนั้นเจก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"  คริสตัลแซวพี่สาว  เจสสิก้าใช้ศอกกระแทกสีข้างเขาจนจุก  ต้องลูบมันป้อยๆ  "เขาเล่าให้เจฟังบ้างไหม..."

เจสสิก้ารู้ว่าน้องพูดถึงเรื่องอะไรจึงฮัมรับ  "ฉันว่า  เขาฝึกมาไม่ต่างจากสายลับรัสเซียเท่าไหร่หรอกมั้ง"

"โอ้  นาตาชา  โรมานอฟฟ์"

"มั้ง  แต่อย่าให้ร้ายเท่าเลย"

"นั่นสิ  เพราะฉันคงเสียดายแย่  ถ้าต้องทำอะไรคนสวยๆ  และเก่งแบบนี้"  คริสตัลพูด  เจสสิก้าเงยหน้ามองน้องชาย  นึกหวั่นใจความหมายจากนัยน์ตาสองสีของเขา  "ไม่ต้องกลัวหรอก  เจ  ตอนนี้นาตาชามาอยู่ฝ่ายธรรมะแล้ว"

"คงงั้นละมั้ง"  เธอพูด  ไม่มั่นใจนัก  ปกติเธอก็ไม่ค่อยไว้ใจสายลับอยู่แล้ว  แต่ทำไมกับคนนี้เธอถึงยอมก็ไม่รู้เหมือนกัน

"ความรักทำให้คนเปลี่ยนแปลงได้นะ  เจ"

"เหรอ  แล้วทำไมเธอไม่เห็นค่อยเปลี่ยนเลยล่ะ"  เจสสิก้าแขวะน้อง  แต่ก็อดยกมือขึ้นลูบหัวเขาไม่ได้เมื่อเขาก้มลงเอาคางมาเกยบ่าเธอ  และยิ้มให้ด้วยท่าทางเหมือนลูกหมาตัวโตๆ


........................

จะว่าไป  นักรบไซเบอร์ก็เท่ดีเหมือนกันนะคะ  อิอิ   :61: :27: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

18 พฤษภาคม 2018 เวลา 22:40:41
นักรบไซเบอร์ที่ขยับได้แค่นิ้วน่ะเหรอเท่ นั่งจนจะเป็นง่อยกันหมดแล้ว
แสดงความคิดเห็น